ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (แปลแบบดำน้ำ) โอตาคุวันสิ้นโลก [ BL / Yaoi ]

    ลำดับตอนที่ #16 : คลังกระสุนและหัวหน้าครอบครัว

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 60


     เห็นหลัวซวินโผงผางเอาแก้วมาอุดปากเขาโดยตรง  ไม่สนใจสักนิดว่าคนเจ็บควรปฏิบัติอย่างอ่อนโยนและเอาใจใส่  เอี๋ยนเฟยสงสัยว่าสองวันนี้เขาดูแลตนเช่นนี้?  ปฏิบัติอย่างรุนแรงกับคนเจ็บอาการโคม่า  ไม่กลัวว่าเขาจะสำลักตายหรือไง?


     ความจริงแล้วเพื่อนร่วมชั้นหลัวซวินถ้าไม่ต้องเผชิญหน้าเอี๋ยนเฟยที่มีสติ  พฤติกรรมจะปกติมาก  คือเอาใจใส่  กระนั้นเมื่อเอี๋ยนเฟยตื่นขึ้นมา  เผชิญกับใบหน้านำพาภัยพิบัตินี้  หลัวซวินจะเตือนใจตนเองให้ถอยห่างจากเขา  เกรงว่าถ้าประมาทจะตกลงในกับดัก  พฤติกรรมจึงผิดปกติไปบ้าง


     ไม่มีทาง  ใครให้เขามีชีวิตยากลำบากจนกลายเป็นเกย์เวอร์จิ้นไร้เดียงสาเล่า?  ใบหน้าของเอี๋ยนเฟยนั้นงดงามในระดับที่ผู้คนสามารถสงบใจได้สิถึงจะแปลก


     - รอเขาเคลื่อนไหวได้จะโยนกลับไปห้องข้างๆ!


     "คุณให้ผมทานยาอะไร?" หลังดื่มน้ำตามแคปซูล  เอี๋ยนเฟยไม่ลืมคำถามนี้


     "ยาต้านการอักเสบ  ยุนนานไป๋เย้า" หลัวซวินเริ่มเก็บกล่อง แก้ว "ก่อนหน้านี้เห็นคุณอาเจียนเป็นเลือดเดาว่าอวัยวะภายในน่าจะได้รับบาดเจ็บ  แต่ไม่รู้ว่าเจ็บที่ไหน  อย่างไรก็ตาม  ยุนนานไป๋เย้ากับยาต้านการติดเชื้อน่าจะมีประสิทธิภาพเล็กน้อย  เมื่อก่อนหมาที่บ้านผมถูกรถชนจนลุกไม่ขึ้น  เอาไป๋เย้าให้กินก็ดีขึ้น"


     เอี๋ยนเฟย: "... ..."  ตอนนี้ยังไม่ตาย  ช่างโชคดีจริงๆ


     บางทีไป๋เย้าอาจทำให้อาการดีขึ้นจริงๆ?  แต่บางทีเดิมเอี๋ยนเฟยแม้อวัยวะภายในบาดเจ็บ  กระดูกซี่โครงหัก  แต่ไม่โชคร้ายกระดูกซี่โครงแทงอวัยวะภายใน?  และบางทีมนุษย์หลังมีพลังพิเศษ  คุณภาพร่างกายยังเปลี่ยนตามจนดีขึ้นมาก?


     อย่างไรก็ตาม  ตั้งแต่หลัวซวินนำเขากลับมากรอกยาที่บ้านครั้งแรก  สองวันต่อมาก็ไม่มีไข้อีก  เพียงแค่ไม่ตื่นขึ้นเลยจนกระทั่งตอนนี้


     "ดื่มโจ๊ก" ผู้คนมีสติสมบูรณ์แล้ว  หลัวซวินบอกตนเองว่าเพื่อกระสุนในอนาคตยังไม่สามารถรีบโยนคนออกนอกบ้าน  เขาฝืนใจมากที่ต้องเอาข้าวทรงกรวยอย่างดีของตนมาทำโจ๊ก - ข้าวเป็นของมีค่า  ถ้าสามารถเก็บได้สองถุงหลังวันสิ้นโลกอีกสองปี  ราคาจะสูงพอแลกเปลี่ยนอาหารกลายพันธุ์สำหรับหกเดือนกลับมา!


     "ขอบคุณ... ..." มองดูการยื่นช้อนอย่างแค้นใจเหลือแสน  เอี๋ยนเฟยฉลาดพอจะไม่ถามเขาว่าโกรธอะไร - รู้สึกว่าถ้าถามออกไปตนจะต้องกระอักเลือดต่อ  กินโจ๊กไปไม่กี่ช้อน  รู้สึกว่าหลัวซวินไม่คับแค้นอะไรแล้ว  เอี๋ยนเฟยก็ถามว่า "ก่อนหน้านี้คุณพูดว่าอยากให้ผมทำบางสิ่ง  มันคืออะไร?"


     หลัวซวินนิ่งงัน  คิดถึงสิ่งที่พูดกับเขาหลังเข้ามาในห้อง  ไม่พูดพร่ำทำเพลง  วางถ้วยโจ๊กบนโต๊ะข้างเตียง  หยิบบางสิ่งออกมา "สิ่งนี้  คุณทำออกมาได้ไหม?" หยิบลูกศรหน้าไม้ออกมาจากกระเป๋าใส่ลูกศร


     "นี่?!" เอี๋ยนเฟยเลิกคิ้วข้างหนึ่ง  ค่อนข้างแปลกใจที่เห็นหน้าไม้ในมืออีกข้างของเขา  จำได้ว่าครั้งแรกที่พบกันบนทางเดิน  ร่างกายของเขานอกจากเสื้อกันฝนแปลกๆ  สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือหน้าไม้บนไหล่


     ในช่วงเวลาอันวุ่นวายนี้ต้องยอมรับว่าความคิดของเขายอดเยี่ยมมาก  การกลายพันธุ์เพิ่งเกิดขึ้นจะเตรียมอาวุธจากที่ไหน?  สิ่งนี้เมื่อเทียบกับปืนแล้วอนุภาพแย่กว่านิดหน่อย  แต่ปลอดภัยกว่าอาวุธเย็นอื่นๆ


     ไม่แปลกใจที่เขาลำบากช่วยตน  เพราะแบบนี้นี่เอง


     "มีโลหะไหม?"


     หลัวซวินรีบเอาสกรูไม่กี่ชิ้นส่งให้เขา


     รับลูกศรหน้าไม้และสกรูที่หลัวซวินส่งมาให้  เอี๋ยนเฟยเอาสกรูวางบนมือ  สกรูไม่กี่ชิ้นลอยขึ้นบนอากาศเหนือมือของเขา!  หลังจากหมุนบิดหลายครั้งก็เกิดการเปลี่ยนแปลง  นอกจากสีภายนอก  รูปร่างเกือบตรงกับลูกศรหน้าไม้ในมือของเขา!


     "นี่ใช้ได้ไหม?"


     หลัวซวินสบตาเขาด้วยความแปลกใจ  ในชีวิตก่อนเพียงได้ยินว่ามีพลังควบคุมโลหะ  แต่ไม่เคยเห็นคนที่มีพลังประเภทนี้  ดูเหมือนว่าจะเป็นพลังพิเศษที่หายากมาก  ส่วนใหญ่เป็นพลังลม น้ำ ไฟ ดิน สายฟ้า พลังประเภทโจมตีนี้  และประเภทเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายทุกชนิด


     จะไม่พูดถึงช่วงแรกของวันสิ้นโลกที่ผู้มีพลังปะปนกับคนธรรมดา  รอจนถึงช่วงหลังของวันสิ้นโลกผู้มีพลังแต่ละคนเชิดจมูกสูง  นอกจากเวลาแลกเปลี่ยนซื้อขายของข้างนอกกับคนธรรมดาเช่นหลัวซวิน  ที่พวกเขาจะแสดงพลังให้ดูฟรีๆ!


     น้ำหนักของลูกศรหน้าไม้ในมือทั้งสองข้างแทบไม่ต่างกัน  เพียงสีภายนอกเท่านั้นที่แตกต่าง  แต่สีอะไรไม่สำคัญ  แค่วัสดุบางส่วนแตกต่างกันเท่านั้น


     หลัวซวินบรรจุลูกศรใส่หน้าไม้อย่างรวดเร็ว  หมุนตัวไปทางผนังห้องนอนที่ติดตั้งเป้าพิเศษสำหรับลูกศรเอาไว้  ได้ยินเสียง "ดัวะ" ลูกศรหน้าไม้พุ่งสู่กลางเป้าอย่างรุนแรง!


     อนุภาพการทำลายสมบูรณ์แบบ!


     เจ้าตัวเล็กถอยก้นพลาด  นั่งลงบนพื้น  ตกใจกลัว!


     มองกลางเป้ายิงอย่างลึกล้ำ  ลูกศรหน้าไม้ยังคงสั่นเล็กน้อย  เอี๋ยนเฟยหลุบตาลงเล็กน้อย  ใส่ลูกศร  หมุนตัว  ยิง  ทั้งหมดนี้ราบรื่นมาก  เหมือนเขาชอบการละเล่นเช่นนี้ก่อนวันสิ้นโลก  และมักจะออกกำลังกาย?  ไม่เช่นนั้นไม่กี่วันหลังวันสิ้นโลกจะสามารถทำมันได้ดีขนาดนี้ได้อย่างไร?


     โชคดีที่หลัวซวินดูอายุน้อย  เหมือนคนที่ชอบเล่นเกมจำพวก CS  เพนท์บอล  เอี๋ยนเฟยเองปกติก็ลองเล่นสนุกหลายๆอย่างฆ่าเวลา  ไม่เช่นนั้นหลัวซวินคงถูกตั้งข้อสงสัย


     ครู่หนึ่งสายตาของหลัวซวินที่มองเอี๋ยนเฟยเปลี่ยนจากมองลูกสะใภ้ตัวเล็กๆเป็นร้อนแรงผิดปกติ - ผู้มีพลังชนิดพิเศษ  น่าทึ่งจริงๆ!


     เอี๋ยนเฟยรู้สึกเย็นหลังคออย่างอธิบายไม่ได้  ไอเบาๆ "คุณอยากให้ผมช่วยคุณทำสิ่งนี้?"


     เห็นเขาถาม  หลัวซวินรีบเก็บความคิดที่โลดแล่นไม่หยุด  นั่งลงข้างเตียง "รออาการของคุณทุเลาก่อน  ผมไม่ได้โชคดีมีพลังอะไร  แต่ผมใช้หน้าไม้  เพียงแต่ตอนนี้ไม่สะดวกทำลูกศร... ..."


     ใช่  เพียงแค่ไม่สะดวกที่จะทำ  หากไม่กลัวเสียงดังไปบ้านอื่นจนทำให้ผู้คนสนใจ  หลัวซวินสามารถทำของสำรองออกมาได้ - แต่มันเลวร้ายมากหากทำอย่างนั้นจริงๆ


     "ถ้าคุณต้องการ  ผมยินดีจะแลกกับอาหารและน้ำ" สิ่งเหล่านี้หลังวันสิ้นโลกราคาไม่น้อย  แต่ในขณะเดียวกัน  อาวุธ - โดยเฉพาะประเภทลูกศร ลูกกระสุนปืน ของประเภทใช้สิ้นเปลืองนี้ราคาก็ไม่น้อยเช่นกัน  ทั้งสองคนจะได้ไม่ต้องลำบาก


     เอี๋ยนเฟยดวงตาเปล่งประกาย  ยั้งคำถามว่า  ที่ช่วยเหลือดูแลเขาตอนนี้ไม่ได้จะแลกเปลี่ยนกับอาวุธและกระสุน  กลับคืนความคิด


     ชีวิตมนุษย์  โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิตของตนเอง  สำหรับแต่ละคนนั้นประเมิณค่าไม่ได้  แม้ว่าเขาเชื่อในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์มากกว่า  แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถพูดออกไปได้


     ใครช่วยใคร  ใครถูกใครช่วย  ห่างไกลจากประโยคเย็นชา "แลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม" จะสามารถแทนที่


     ในวันนี้ที่ต้องเผชิญการกลายพันธุ์  โลกผิดเพี้ยน  เอี๋ยนเฟยอยากเปลี่ยนกฎการใช้ชีวิต  การกลายพันธุ์ทั้งหมดนี้  ไม่ใช่ความเปลี่ยนแปลงที่เขาแอบตั้งตารอคอยหรอกหรือ?  แม้ว่าเขายังไม่เต็มใจเชื่อคนอื่นนอกจากตัวเองก็ตาม


     "ดี" เอี๋ยนเฟยพยักหน้าเล็กน้อย  หลับตาอีกครั้ง


     "กินก่อนแล้วค่อยพัก"


     ส่งโจ๊กหอมกลิ่นข้าวไปตรงหน้าอีกครั้ง  เอี๋ยนเฟยลืมตาพบการกระทำนี้ของเด็กหนุ่มตัวโตเป็นธรรมชาติขึ้น  และยังอ่อนโยนขึ้นด้วย  ไม่มีอาการเกร็งๆเหมือนก่อนหน้านี้  อย่างที่คิด  ระหว่างผู้คนจำเป็นต้องสื่อสารให้เข้าใจเพื่ออยู่ร่วมกัน


     เก็บสิ่งของ  ลุกขึ้น  หลัวซวินถือถ้วยและช้อนหันเดินออกไปที่ประตู  เห็นเจ้าตัวเล็กหมอบอยู่ที่หน้าต่างมองดูเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น  เขาไม่รู้ว่ามันแอบเข้ามาเมื่อไหร่


     "ไปชั้นล่าง" กระซิบทักทาย  เจ้าตัวเล็กรีบลุกขึ้นยืนส่ายหาง  ตามหลังหลัวซวินออกจากประตูห้องนอนด้วยกัน  ทั้งสองไม่สนใจมองเอี๋ยนเฟยที่ยังนอนอยู่บนเตียง


     ทางเดินบนชั้นสองเปิดไฟ  แต่ชั้นแรกไม่มีแม้แต่ครึ่งโคมไฟในห้องนั่งเล่น  มีเพียงแสงดาวจากด้านนอกสาดเข้ามาตั้งแต่พื้นถึงเพดาน


     มีเพียงกระดาษแก้วด้านเดียวเท่านั้นที่ขวางกั้นสายตาภายนอก  ถ้าภายในห้องเปิดไฟ  ไม่สามารถป้องกันแสงทั้งหมดไม่ให้ลอดออกไปข้างนอกได้


     ชุมชนไฟดับมาสามวันแล้ว  ชั้นสองห้องนอนใหญ่เพราะมีผ้าม่านหนามาก  ดังนั้นแม้จะเปิดไฟ  ด้านนอกก็ยังมองไม่ออก  แต่ชั้นล่างห้องนั่งเล่นไม่ใช่  เพราะบนชานบ้านมีพืชปลูกอยู่มากมาย  ดังนั้นหลัวซวินไม่มีทางมั่นใจว่าดึงผ้าม่านปิดแล้วแสงจะไม่ลอดออกไป  ถ้ามีคนเห็นเขาต้องมีปัญหาแน่


     ในเย็นวันที่ไฟดับ  หลังจากอุ้มเอี๋ยนเฟยเข้าห้องนอน  หลัวซวินก็ออกมาเปลี่ยน  ต่อแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรองแทน


     ตอนนี้ในห้องนั่งเล่นเปิดใช้งานตู้แช่แข็งหลายตู้  และทั้งหมดใช้แหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรอง  แผงโซลาร์เซลล์ยังอยู่ดีบนหิ้งนอกหน้าต่าง  ทุกวันเขาจะมาเก็บแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรองอันใหม่ที่ชาร์จจนเต็มแล้ว


     ถ้าตอนนี้ไม่ใช่วันสิ้นโลกช่วงแรก  หลัวซวินต้องติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่ผนังนอกห้องและบนหลังจนหมดอย่างแน่นอน  ด้วยสิ่งนี้เพียงอย่างเดียว  ต่อให้เก็บคนป่วย 5 คนกลับบ้าน  เขาก็ยังจ่ายไหว!


     หลัวซวินตรวจสอบประตู หน้าต่าง นกกระทาตัวเล็กในกล่องแก้วในชานบ้านเป็นครั้งสุดท้าย  เดินไปกลางห้องนั่งเล่น  พูดกับเจ้าตัวเล็กที่เล่นรอบเท้าของเขาว่า "นี่กี่โมงแล้ว?  แกนอนกลางวันพอแล้ว?  กลับไปนอนดีๆซะ"


     เจ้าตัวเล็กส่ายหางไปพลางวิ่งเล่นรอบๆเท้าหลัวซวินไปพลาง


     สองวันมานี้หลัวซวินไม่ได้ออกไปข้างนอกนัก  แง่หนึ่งเพราะที่บ้านมีเอี๋ยนเฟยเพิ่มเข้ามา  อีกแง่หนึ่ง - การตอบสนองของกองกำลังทหารบริเวณใกล้เคียงที่รวดเร็วมาก  พวกเขาส่งกองกำลังบางส่วนเข้าไปในใจกลางเมือง  การช่วยเหลือจำเป็นต้องลำดับความสำคัญของผู้ได้รับการช่วยเหลือจากมากไปน้อย  ส่วนกองกำลังที่เหลือถูกส่งไปกวาดล้างซอมบี้รอบเมือง


     ชุมชนหงจิ้งเนื่องจากอยู่ใกล้กองกำลังทหาร  สองวันมานี้ไม่ต้องพูดถึงว่ามีทหารผ่าน  เมื่อวานนี้ทหารเข้ามาที่ชุมชนครั้งหนึ่ง  กวาดล้างซอมบี้ที่เตร่อยู่ด้านนอกจนหมด  ความเร็วนี้  ผ่านวันสิ้นโลกมาครั้งหนึ่ง  อพยพใหญ่สองครั้ง  หลัวซวินยังต้องทึ่ง


     กลับไปที่ห้องนอนอีกครั้ง  เห็นเอี๋ยนเฟยยังนอนอิงหมอนท่าเดิม  หลับตา  เมื่อเขาเข้ามาก็ลืมตาอีกครั้ง


     หลัวซวินชะงักเท้า  เขาไม่อยากยอมรับอีกครั้ง  แม้จะมองมาสามวันแล้ว  แต่ใบหน้าของชายคนนี้งดงามจริงๆ


     เดินไปหยิบหมอนด้านหลังออกและช่วยเขานอนลง  ถามว่า "คุณอยากไปห้องน้ำไหม?"


     "ตอนนี้ยังไม่... ..." เอี๋ยนเฟยคิดขึ้นมาได้ทันใด  ถามว่า "สองวันมานี้ผมเป็นอย่างไร... ...สะดวกไหม?"


     หลัวซวินชะงักมือ  ทันใดนั้น  ใบหน้าไร้สีหน้าปรากฏรอยยิ้มเหี้ยม "ผ้าอ้อม"


    ...

     

     เอี๋ยนเฟยรู้สึกชาหนังศีรษะ  ต้องบอกว่าเขาเองก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆในกางเกง?  แต่คิดว่าเป็นเพราะนอนนานเกินไป!


     อยากถามปัญหาอื่นๆอีก  แต่เห็นหลัวซวินยังยิ้มเหี้ยม  เพื่อชีวิตและสุขภาพจำต้องกลืนมันกลับไป  รู้สึกว่าถ้าถามอีกเขาจะได้กระอักเลือดจริงๆ!



    (TL:  หลังจากนี้จนจบ  เอี๋ยนเฟยก็ไม่เคยบาดเจ็บอีกเลย...)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×