ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (แปลแบบดำน้ำ) โอตาคุวันสิ้นโลก [ BL / Yaoi ]

    ลำดับตอนที่ #15 : ผู้ป่วยและผู้ช่วยชีวิต

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 60


     หลังเอี๋ยนเฟยดื่มน้ำสมองก็เริ่มตื่น  ความคิดชัดเจนขึ้นเล็กน้อย  คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหลับ  รู้สึกข้างใต้ร่างกายเป็นเตียงนุ่ม  มึนงงมองตู้เสื้อผ้าและเฟอร์นิเจอร์ในห้อง  ก่อนหลับเป็นพื้นแข็งเย็นของคอนกรีต  ขณะนี้ก็พอเดาได้ว่าเขาอาจจะอยู่ในบ้านของชายหนุ่มคนนี้


     "นี่คือบ้านของคุณ?"


     ได้ยินเสียงต่ำ แหบ  ดึงความคิดที่วิ่งไปไกลของหลัวซวินกลับมา "หา? ใช่"


     เอี๋ยนเฟยหลับตา  ในสมองรู้สึกเพียงวิงเวียนราวจะเป็นลมได้ตลอดเวลา "ผม... ...เวียนหัว"


     หลัวซวินเก็บอารมณ์  ถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ถูก "คุณมีไข้  ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อโรงพยาบาลได้  ผมเพิ่งให้ยาบางอย่างกับคุณ... ...แล้วก็  เมื่อกี้มีบางคนขึ้นมาชั้นบนเหมือนจะมาหาคุณ?"  เขาช่วยคน  แม้เป็นการลงทุนสำหรับอนาคต  และ "จำเป็นต้อง" วางความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีพลังชนิดพิเศษ  แต่เขาไม่อยากเดือดร้อน  มันจะดีกว่าถ้าถามล่วงหน้าให้ชัดเจน


     เอี๋ยนเฟยยังคงหลับตา  มุมปากยกขึ้นเย้ยหยัน "มันมาเอาชีวิตฉันใช่ไหม?" พูดจบก็ฝืนลืมตามองหลัวซวิน "พวกมันสร้างปัญหาให้คุณไหม?" จากคืนแห่งการเริ่มต้นนั่น  ผู้คนที่หนีตั้งแต่เริ่มแรกต่างหลบหนีอย่างฉุกละหุก  แย่งกันออกจากตัวเมือง  เพราะต้องฉวยข้าวของเลยขัดแย่งกับคนอื่น  ต่อมาก็พัฒนาเป็นเพียงเห็นแล้วขัดตาก็ต่อสู้กันแล้ว  ความเร็วในการเปลี่ยนแปลงสั้นจนน่าแปลกใจ


     เอี๋ยนเฟยไม่เชื่อว่าพวกที่ขึ้นมาชั้นบนจะไม่ถือโอกาสบุกเข้าบ้านคนอื่นกรรโชกเอาสิ่งของไป


     "พวกมันจะสร้างปัญหาให้บ้านผมจริงๆ  แต่บ้านผมมีหมา  พวกมันตกใจกลัวเลยรีบหนีไป" หลัวซวินลืมตาโกหก  กระทั่งเปลือกตาก็ไม่กระพริบ


     ชั้นล่างเจ้าตัวเล็กกอดรองเท้าแตะข้างซ้ายของหลัวซวินกัดฟัดอยู่สร้างผลงานโดยไม่รู้ตัว  ยังคงเคี้ยวฟันอย่างกระตือรือร้น - กลิ่นเท้านี้จะจำให้ได้เลย  อื้อ อื้อ  จำเอาได้


     เอี๋ยนเฟยยกยิ้ม  บ้านมีสุนัขที่ไม่คลั่งดูค่อนข้างมีประโยชน์  ในโลกที่มีปัญหาขณะนี้  สุนัขยังเชื่อถือได้มากกว่าคนอีก


     อย่างเช่นกลุ่มคนที่เขาพบก่อนหน้านี้  พวกนั้นหยาบคายเกินไป  ให้ตามน้ำเพื่อรักษามิตรภาพ?  พบว่าเขามีอาวุธและพลัง  หลังจากนั้นก็เข้าหาเขา  และเพราะผู้หญิงในกลุ่มหลายคนประจบเอาใจเขา  เคาะไหน้ำส้มของผู้ชายหลายคน  หลังเข้ามาในชุมชนนี้แม้ระส่ำระสายก็ยังแอบลอบกัดเขา... ...


     "เอี๋ยนเฟย" ตลอดชีวิตของเอี๋ยนเฟยไม่เคยเชื่อใจสิ่งที่เรียกว่าคน  เขาเชื่อในผลประโยชน์และความสัมพันธ์ในสังคมมากกว่า  แต่สถานการณ์ตอนนี้นอกจากชายหนุ่มตรงหน้าก็ไม่มีใครให้พึ่งพาอีก... ...พึ่งพา  ช่างเป็นคำที่อ่อนแอและไร้ความสามารถ  แต่ตัวเขาตอนนี้นอกจากหวังพึ่งคนๆนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่น  แค่ไร้ความสามารถครั้งหนึ่ง  ดีกว่าตายอย่างเข้มแข็ง


     มองเอี๋ยนเฟยยื่นมือออกมา  หลัวซวินตะลึงงัน  เพียงตอบสนองตามความต้องการของเขา  รีบยื่นมือออกไป "หลัวซวิน"


     เอี๋ยนเฟยหลับตา  หายใจลึกๆไม่กี่ครั้งก่อนฝืนลืมตาขึ้น "ช่วงนี้ต้องรบกวนคุณแล้ว  รอผมดีขึ้น  จะหาทางตอบแทนคุณ"


     จากนั้นหลัวซวินรู้สึกว่ามือที่จับมือของเขาไว้ - ไร้น้ำหนัก


     ตาย?!


     รีบยื่นมือไปตรวจลมหายใจอีกฝ่าย  โอเค  ยังหายใจ  แค่สลบไป


     เดี๋ยวก่อนนะ  ช่วงนี้รบกวนด้วย?  อยากโยนกลับห้องข้างๆจริงๆ!  ไอ้ท่าทางตอนนี้ขอฝากทุกสิ่งที่เขามันเป็นการรบกวนอยู่แล้วนี่?!


     หลัวซวินยืนอยู่ข้างเตียงหายใจเข้าออกลึกๆหลายครั้ง  ฝืนใจก้มตัวลง  เอามือเอี๋ยนเฟยวางกลับบนเตียงช่วยเขาห่มผ้า  หลัวซวินเข้าใจอย่างชัดเจนว่าถ้าเอี๋ยนเฟยสลบอยู่ตลอด  โยนเขากลับไปห้องข้างๆก่อนจะตื่นไม่ใช่ปัญหา  คุ้นเคยดีกับกฎของวันสิ้นโลก  หลัวซวินไม่มีความกดดันทางศีลธรรมอะไรทั้งนั้น


     แต่ปัญหาในตอนนี้คือ - เอี๋ยนเฟยตื่นขึ้นกลางคัน  และยังพบว่าที่นี่คือบ้านของเขา!


     ถ้าเขาไม่ได้ตื่นขึ้นมา  ทุกอย่างย่อมจัดการได้ง่าย  แต่เมื่อเขาตื่นขึ้นมาครั้งหนึ่ง  ถ้าตื่นขึ้นมาอีกครั้งและพบว่าตนเองถูกโยนกลับไปห้องข้างๆที่หยาบหลับนอนบนพื้นแย่ๆ... ...เหอะ เหอะ


     ธรรมชาติของมนุษย์เป็นเช่นนี้  หากตอนแรกให้ความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อย  หรือตอนแรกไม่ให้ความหวังอีกฝ่ายมากเกินไป  หลังจากนั้นจะจัดการอย่างไรก็ง่าย  แต่ถ้าช่วยครึ่งทางแล้วหยุดกะทันหัน  หรือในตอนแรกให้ความหวังอีกฝ่ายสูงเกินไป  มันก็เหมือนไม่ได้ช่วยตั้งแต่แรก!


     ตอนนี้หลัวซวินอยู่ในสถานการณ์นั้น  ดังนั้นตอนนี้... ...หลัวซวินลุกขึ้นเดินไปยังทิศทางประตูห้องนอน  แม้ในบ้านจะมีข้าวของมากมาย  แต่ดีที่เขาคาดการณ์และวางการป้องกันไว้ก่อนแล้ว  รอจนเอี๋ยนเฟยอาการดีขึ้นเขาก็มีข้อแก้ตัวที่ดีพอเพื่ออธิบาย


     หากข้าวดีหนึ่งลิตรกลายเป็นข้าวแค้นสิบลิตร...  ...ดวงตาวาววาบ  หลัวซวินไม่ผิดที่คิดลงทุนล่วงหน้าด้วยการช่วยผู้มีพลังโลหะในช่วงแรกของวันสิ้นโลก  แต่ถ้าอีกฝ่ายรู้สึกไม่ดีกับความคิดนี้  ประสบการณ์ชีวิตก่อนนับสิบปีหลังวันสิ้นโลกไม่ได้เสียเปล่า  ต้องการฆ่า  ไม่เพียงแต่ด้วยพลังพิเศษ  สาดกระสุนไปตรงๆก็ฆ่าได้ง่ายๆ


     บรรดาพวกที่ไม่ค่อยออกค่ายระหว่างที่อาศัยอยู่นานภายในเขตก็นองเลือดในความมืด  เกิดขึ้นตลอด  พวกที่อยู่ในความมืดนั้น "Holy Shit" ยิ่งกว่าซอมบี้นอกค่าย


     เมื่อเอี๋ยนเฟยลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง  ความอบอุ่นของร่างกาย  ความนุ่มสบายใต้ร่างกาย  ทำให้เขาคิดว่าตนเองได้กลับไปยังอพาร์ทเมนท์แสนสะดวกสบายภายในตัวเมืองของตน


     ค่อยๆหันศีรษะ  ความรู้สึกเจ็บที่หน้าอกทำให้เขาตื่นเต็มตา  มึนงงมองผ้าม่านหนาอยู่นาน  สมองที่เชื่องช้าไปบ้างก็กลับคืนสติ - ผ้าม่านไม่เหมือนที่บ้านของเขา... ...แม้ว่าการบังแสงจะดีพอกัน  แต่เขาไม่สามารถใช้ผ้าม่านสีแดงเข้มเป็นกิจวัตร  เขาชอบสีเขียวอ่อน


     ประตูห้องเปิดออก  การเก็บเสียงในห้องนอนนี้ดีมาก  เขาไม่ได้ยินเสียงคนเข้ามาใกล้ห้องนี้เลย


     หันศีรษะอย่างลำบากอยู่บ้าง  เสียง "พะชะ" แสงไฟด้านบนห้องนอนถูกเปิด  เอี๋ยนเฟยหรี่ตามองเห็นไม่ชัดว่าใครเข้ามา


     หลัวซวินมือข้างหนึ่งถือน้ำร้อน  อีกข้างถือโจ๊ก  ดูเหมือนไม่คิดว่าเขาจะตื่นขึ้นมาในตอนนี้  ฝีเท้าหยุดครู่หนึ่งก่อนเดินเข้ามาข้างใน


     "ตื่นแล้ว?  กำลังจะให้ยาพอดี" ดูแลคนป่วยอาการโคม่าเป็นงานใหญ่จริงๆ  หลัวซวินไม่เต็มใจมากที่จะสละชีวิตยี่สิบต้นๆของตนให้คนแปลกหน้า... ...แค่กๆ  เห็นเขาเติบโตอย่างนางมาร  ปกติชีวิตส่วนตัวจะต้อง "มหัศจรรย์" สุดๆอย่างแน่นอน  ถ้าหากมีโรคอะไรล่ะ?  รอเขาเดินได้เอง  จะให้เขาพาสเจอร์ไรส์ช้อนส้อมที่ใช้แล้วให้หมด!


     เสียงพูดนี้ค่อนข้างน่าประทับใจ  แต่เวลานี้เอี๋ยนเฟยต้องปรับตัวกับแสงภายในห้อง  เห็นเพียงสีหน้าค่อนข้าง "มากมาย" ของหลัวซวิน


     ประตูห้องนอนไม่ได้ปิด  เหมือนมีอะไรที่ประตูกระโดดวิ่งรอบๆพื้นอย่างดุเดือดร่าเริง  ทำเสียง "แฮ่ะๆๆ"  โอ้  ใช่  บ้านเขาเลี้ยงสุนัข


     "ข้างนอก... ...เป็นสุนัขของคุณ?" เสียงพูดแห้งมาก  เหมือนไม่ได้ดื่มน้ำเป็นเวลานาน  เอี๋ยนเฟยเพียงพูดไม่กี่คำก็รู้สึกเจ็บริมฝีปากที่แห้งบางส่วน


     "ใช่" หลัวซวินตอบรับ  เขาไม่ให้เจ้าตัวเล็กตามมาเกรงว่าจะเชื้อมีแบคทีเรียอะไร  เจ้าตัวเล็กฉลาดมาก  เล่นไล่กวดหางตัวเองเล่นเป็นวงกลมอยู่ที่ประตู  มึนงงสับสนทิศทางก็เอาก้นชนกำแพง  วางน้ำกับโจ๊กที่โต๊ะข้างเตียง  ดึงลิ้นชักโต๊ะเอากล่องยาต้านการอักเสบและชุดปฐมพยาบาลออกมา


     "ขอบคุณ"


     "ไม่เป็นไร  รอคุณหายดีแล้วผมมีบางอย่างอยากให้คุณช่วย" ได้รับการบอกกล่าวล่วงหน้าจะดีกว่า  และคนที่พูดว่าจะตอบแทนคือตัวเขาเอง  ไม่เช่นนั้นหลัวซวินคงไม่พยายามอย่างหนักรับเอาปัญหาใหญ่มาที่บ้าน


     เอี๋ยนเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย  ดวงตาเรียวยาวหรี่ลง  ริมฝีปากขยับโค้งขึ้นอย่างน่าดึงดูดใจ  แม้หลัวซวินพูดอะไรเช่นนี้  ก็ไม่ได้ทำให้เอี๋ยนเฟยรู้สึกอึดอัดตรงไหน  แต่เดิมเขาเป็นนักธุรกิจ  เชื่อเสมอว่าต้องจ่ายเมื่อได้รับ  หลัวซวินพูดออกมาเองเช่นนี้เขาก็สามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจ


     วางยาบนโต๊ะข้างเตียงยกศีรษะขึ้น  หลัวซวินมองเห็นรอยยิ้มจางบนใบหน้างดงามเช่นนั้น  เป็นครั้งแรกที่เห็นคนงามในระยะใกล้  ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มจ้องมองหลัวซวิน  ไม่ต้องแปลกใจเลย - เขิน


     น่าเศร้าที่แสงจากด้านบนไม่ใช่สีฟ้า  แสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ธรรมดาไม่สามารถช่วยหลัวซวินที่ดูเหมือนใบหน้าจะสุกจนแดงจัดได้  ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เขายังงี่เง่ามากพอจะรีบเบี่ยงสายตาหลบด้วยความตื่นเต้น  ตั้งแต่เล็กจนโตเอี๋ยนเฟยถูกสารภาพรักจนถูกบอกด้วยความเกลียดชังว่าถ้าไม่ปกปิดใบหน้าห้ามออกนอกบ้าน  นอกจากฤดูร้อนการออกไปข้างนอกต้องมีผ้าปิดปากในกระเป๋าตลอดเวลา  เอี๋ยนเฟยมองออกอย่างรวดเร็ว


     สำหรับคนอื่น - สวมผ้าปิดปากเพื่อป้องกันหมอกควัน  เขาสวมผ้าปิดปากเพื่อป้องกันพวกติดสัตว์  เอี๋ยนเฟยพูดได้ว่าการแสดงออกเช่นนี้พบบ่อยมาก  ธรรมดาเหมือนดื่มน้ำต้ม  แตกต่างเพียงก่อนหน้านี้คนที่แสดงออกเช่นนี้เป็นผู้หญิง  ถ้าเป็นผู้ชายที่สนใจใบหน้าของเขาทั้งหมดจะแสดงออกเพียงอย่างเดียว - อยากครอบครอง  แต่ตอนนี้ตรงหน้าตนที่แสดงท่าทางเขินอายอยู่เป็นเด็กหนุ่มตัวโต


     เขาพูดว่ามีบางอย่างอยากให้ตนช่วย  ทั้งหมดนั่นคงไม่ใช่... ...หวังเซ็กซ์หรอกใช่ไหม?  แต่ด้วยปฏิกิริยานี้ของเขา  ใครจะเป็นฝ่ายเสียบใครยังบอกไม่ได้


     คิดถึงตรงนี้  เอี๋ยนเฟยอดไม่ได้หัวเราะเล็กน้อย  ไม่คิดว่าการหัวเราะนี้จะดึงอาการบาดเจ็บที่หน้าอก  ทำให้เขาไม่สามารถหยุดไอได้


     ที่ประตูทางเข้าเจ้าตัวเล็กหยุดวิ่งไปรอบๆ  ก้มหัวเล็กๆจากประตูมาสำรวจข้างใน  มองที่มาของเสียงอย่างสงสัย


     "ระวัง" หลัวซวินขมวดคิ้ว  มือข้างหนึ่งรีบช่วยหนุนแผ่นหลังของเขาด้วยสองหมอนสองใบ  เมื่อเขาไอน้อยลงก็พูดว่า "ผมไม่แน่ใจว่าคุณได้รับบาดเจ็บอวัยวะภายในอะไรรึเปล่า  ตอนนี้การแพทย์ข้างนอก  รถพยาบาลทั้งหมดเป็นอัมพาต  คุณต้องระวังให้มากขึ้น"


     โชคดีเขาไม่รู้สาเหตุการไอของเอี๋ยนเฟย  ไม่อย่างนั้นตอนนี้เขาคงตัดสินใจโยนเอี๋ยนเฟยกลับห้องข้างๆ


     เอี๋ยนเฟยหายใจสงบขึ้น  โยนจินตนาการแปลกๆเหล่านั้นทิ้ง  หลับตา  ลืมตาอีกครั้งแล้วถาม "ผมสลบไปนานเท่าไหร่?"


     "สามวัน"


     สามวัน ... ... ดวงตาเปล่งประกาย  สามวันสินะ?  ถ้าเขาไม่นำตนกลับมา  เกรงว่าเวลานี้คงไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีก... ...


     "ตอนนี้กินยาก่อน"


     เอี๋ยนเฟยยกมือขึ้น  คิดจะหยิบยาเอง  แต่พบว่าหากขยับแขนก็จะเจ็บบาดแผลตาม  ไม่มีทางเลือกได้แต่ยิ้ม "ขอโทษ  คงต้องรบกวนคุณช่วย... ..."


     วันแรกที่พบกัน  บนใบหน้าของเอี๋ยนเฟยเต็มไปด้วยเลือด โคลน  เมื่อย้ายเข้ามาไว้ข้างในก็เริ่มเช็ดทำความสะอาด  ผิวของเขาขาวละเอียด  ริมฝีปากบางเพราะได้รับบาดเจ็บจึงปรากฏบางส่วนซีดขาว  แต่รูปร่างยังคงดีมาก  เป็นครั้งแรกที่หลัวซวินเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาอย่างชัดเจน  เขารู้ว่ารูปลักษณ์อันสมบูรณ์ของชายคนนี้กับนางฟ้ารองหัวหน้ากลุ่มเพลิงนั้นแตกต่างกัน  แต่เวลานี้เมื่อเขายิ้มอีกครั้ง  ยังคงสั่นคลอนดวงตาผู้คน


     ปัจจุบันหลัวซวินสงบมากขึ้น  เพียงขมวดคิ้วเล็กน้อย  หลุบตา  ไม่สบตาเขา  ยื่นส่งยาไปที่ปากเขา "ยา"  เมื่อเขาอ้าปาก  หลัวซวินกลัวว่าจะแตะริมฝีปากของเขาจึงโยนยาเข้าไปข้างในโดยตรง  แต่เอี๋ยนเฟยไม่ตอบสนองชั่วขณะ  เกือบจะพ่นออกมา


     "ดื่มน้ำ"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×