ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    C3 Cube x Cursed x Curious (พยายาม) แปลไทย

    ลำดับตอนที่ #4 : Cube x Cursed x Curious:Chapter1 part2

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ค. 57


    Part2

    “สวัสดีจ้ะ ฮารุอากิคุง”

    ฮารุอากิพบรอยยิ้มทักทายที่ดูสนิทสนมทันทีที่เปิดประตูออกมา เด็กสาวที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าสวมแว่นตาทรงกลมอันใหญ่ และคาดผ้ากันเปื้อนที่คลุมหน้าอกอันอวบอิ่มของเธอไว้ เกิดเป็นภาพที่ยั่วสายตาคนมอง หม้อที่เธอถืออยู่ยิ่งเสริมบรรยากาศเป็นกันเองของเธอให้มากยิ่งขึ้น

    “เฮ้ โคโนฮะ นั่นอะไรเหรอ?”

    “ฉันทำนิคุจากะ(เนื้อต้มมันฝรั่ง)ไว้เยอะเกินกว่าจะกินคนเดียวน่ะ ฉันเลยเอามาแบ่งให้เธอ แต่ตอนนี้ก็ดึกแล้ว เธอจะเก็บไว้กินพรุ่งนี้เช้าก็ได้นะ”

    “ขอบใจนะ ฉันเพิ่งกินข้าวเย็นเสร็จพอดีเลย...โอ้ จริงด้วย ดีแล้วที่เธอมา ฉันมีอะไรจะถามเธอซักหน่อย”

    โคโนฮะเอียงคออย่างสงสัย ในตอนนั้นเอง ฮารุอากิก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลังของเขา

    “เฮ้ ฮารุอากิ กับข้าวมันน้อยไปนะ ไม่มีอะไรเหลืออีกรึไง ฉันอยากได้ข้าวเกรียบ ยังมีเหลืออยู่มั้ย?”

    “กินล้างกินผลาญจริงๆ!”                                                                                                                         

    แน่นอนว่าผู้ที่เดินมาจากด้านหลังของฮารุอากิก็คือเฟียร์นั่นเอง

    “เอ่อ ฮารุอากิคุง เด็กคนนั้นเป็นใครน่ะ?”

     

    “เออใช่ ที่ชั้นกำลังจะถามเธอก็คือ---”

    แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบเฟียร์ก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงก้าวร้าว

    “เฮ้ เธอน่ะ! เราเพิ่งเจอกันครั้งแรก แล้วเธอก็เรียกฉันว่าเด็ก กล้าดียังไงถึงเรียกฉันแบบนั้นห๊ะ? ยัยคนไม่น่ามอง!

     

    “ไม่น่ามอง...?!

    โคโนฮะยังคงยิ้มอยู่ แต่ฮารุอากิสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกจากตัวเธอ เฟียร์ที่อยู่ด้านหลังของเขายืนกอดอกและจ้องมองโคโนฮะอย่างมุ่งร้าย มีภาพสายฟ้าแลบแปลบปลาบระหว่างทั้งสองคนเกิดขึ้นในจินตนาการของฮารุอากิ

    “พวกเธอทั้งสองคน ทำไมต้องมาปลดปล่อยบรรยากาศมาคุที่หน้าบ้านฉันด้วย?”

    “ฉันว่าเธอคิดไปเองน้า ฮารุอากิคุง ฉันไม่ได้โกรธซักหน่อย มันก็แค่คำพูดของเด็กแค่นั้นเอง”

     

    จู่ๆฮารุอากิก็สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ก่อตัวอยู่ด้านหลัง เขาจึงพยายามเปลี่ยนหัวข้อสนทนาโดยเร็ว

    “เอ่อ...เออใช่! โคโนฮะ เธอได้ทำอย่างอื่นไว้รึเปล่า? ฉันหมายถึง เธอกินข้าวเย็นรึยัง? ทำไมไม่ลองเปลี่ยนบรรยากาศมากินข้าวที่นี่บ้างล่ะ? เธอไม่ได้มากินข้าวที่นี่นานแล้วนะ แล้วยังไงฉันก็ต้องทำกับข้าวเพิ่มอยู่ดีด้วย”

    “อืม...ถ้าเธอพูดอย่างนั้นละก็ ขอฉันร่วมด้วยคนแล้วกัน มันก็นานแล้วจริงๆด้วย นับจากครั้งสุดท้ายที่เราได้กินข้าวด้วยกัน ฮารุอากิคุง”

    “ฝีมือฉันไม่ได้พัฒนาขึ้นเลยนะ”

    “มันดีอยู่แล้วละน่า อย่าห่วงเลย แค่คิดถึงอาหารที่เธอทำฉันก็หิวแล้วละ”

     

    โคโนฮะยิ้มกว้างแล้วเดินเข้าไปในบ้าน แต่จู่ๆก็มีเสียงพ่นลมหายใจอย่างดูถูกจากใครบางคนดังขึ้น

    “เข้าไปกินเลยสิ หึ ฉันว่าความสามารถในการส่งสารอาหารที่กินให้ไปเลี้ยงแค่ที่หน้าอกมันช่างสุดยอดจริงๆ แต่ดูท่าแล้วสมองเธอคงจะเล็กน่าดู”

    ฮารุอากิได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน ทันใดนั้นโคโนฮะก็คุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว คว้าหม้อที่หล่นลงมาไว้ได้ทัน 

    เมื่อเขามองไปที่พื้นก็เห็นด้ามจับของหม้อตกอยู่ มันถูกผ่าครึ่งออกอย่างเนียนเรียบและหมดจด

    “ฉันก็คิดว่ามันน่าเศร้านะ เวลาที่ใครบางคนกินข้าวแล้วสารอาหารมันไม่ได้ไปเลี้ยงหน้าอกเลย... โอ้ ฉันแค่พูดกับตัวเองน่ะนะ”

    “นะ-นี่แก...”

     

    “อะฮะฮะฮะ ฉันเข้าไปละ”

    โคโนฮะส่งเสียงหัวเราะอย่างเสแสร้ง ก่อนจะเดินเข้าห้องไป ทิ้งให้เฟียร์จ้องตามหลังของเธอและพึมพำอย่างโกรธแค้น

     

    “ยัยผู้หญิงคนนั้นมันอะไรกัน! มาคิดๆดูแล้ว ฉันว่าฉันน่าจะสาปเธอซะ!

    “ปกติแล้วโคโนฮะไม่ใช่คนแบบนั้นนะ แล้วอันที่จริง เธอเป็นคนเริ่มก่อนไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงทำตัวแบบนั้นล่ะ?”

    “มันไม่ใช่เรื่องของนาย! ฉันก็แค่ไม่ชอบท่าทางและคำพูดของยัยนั่นเวลาที่เธอมองฉัน เหตุผลแค่นี้ก็พอที่จะเกลียดแล้ว อีกอย่าง...”

    รอยยิ้มแปลกประหลาดผุดขึ้นมาจากสีหน้าโกรธเคืองของเธอ

    “ฉันพบว่าการได้ยั่วโมโหยัยวัวนมนั่นมันสนุกจริงๆ คอยดูเถอะ คราวหน้าฉันไม่แพ้แน่!

     

    เฟียร์พ่นลมหายใจออกมาอย่างชั่วร้าย และตามโคโนฮะเข้าไปในห้อง

    ฮารุอากิต้องออกมาทำอาหารให้ทั้งโคโนฮะและเด็กสาวผู้หิวโหย เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยให้พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกันในห้อง เขาเองก็สงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

     

    เขาผัดกับข้าวใส่จาน เพิ่มข้าวและซุปมิโซะให้โคโนฮะ แล้วยกอาหารเข้าไปในห้อง เขาพบว่าทั้งสองคนกำลังหัวเราะอย่างไร้อารมณ์ใส่กันอยู่ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ และไม่อยากรู้ด้วย

    “ฉันผัดกับข้าวที่มีเหลืออยู่ในตู้เย็น พอกินรึเปล่า?”

     

    “ไม่มีปัญหาหรอกจ้ะ ฉันทำนิคุจากะมาเยอะพอสมควร”

    โคโนฮะเปิดฝาหม้อออกพร้อมเสียงประกอบแท่นแท็นแท๊น ท่ามกลางไอน้ำที่ลอยอบอวล ในหม้อมีน้ำซุปร้อนๆสีน้ำตาลและเนื้อวัวอัดอยู่แน่น กลิ่นซอสถั่วเหลืองหอมอบอวลไปทั่ว อธิบายง่ายๆก็คือมันดูน่ากินมาก เนื้อวัวที่มีปริมาณเยอะกว่าส่วนประกอบอื่นๆกองสุมกันเหนือมันฝรั่ง

     

    ดูแล้วน่าจะเรียกว่า นิคุ-นิคุ-นิคุจากะ มากกว่านิคุจากะธรรมดา

    “มันดูเป็นยังไงบ้างล่ะ?”

    “น่ากินเหมือนทุกทีนั่นแหละ”

    ใบหน้าของปีศาจกินเนื้อโคโนฮะสว่างไสวด้วยรอยยิ้ม

     

    “นั่นสินะ มันดูน่ากินจริงๆแหละ ดูก็รู้ว่าคนที่ทำเป็นพวกตะกละอยากอาหาร” 

    หลังจากการแสดงความคิดเห็นของเฟียร์ จู่ๆฝาหม้อก็หลุดจากมือของโตโนฮะ มันกระทบกับโต๊ะและขาดครึ่งในทันที

     

    โคโนฮะหยิบมันโยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดี ก่อนจะกล่าวว่า”ทานแล้วนะคะ” แล้วเริ่มต้นกินด้วยท่าทางร่าเริงแปลกๆ(นั่นเป็นคำอธิบายสีหน้าของโคโนฮะที่ฮารุอากิตีความออกมาในตอนนั้น)

    “ฉันไม่รู้ว่าทำไม­ข้าวมื้อนี้ถึงมีบรรยากาศชวนปวดประสาทแบบนี้ไปได้ แต่ฉันว่าเรามาแนะนำตัวกันซักหน่อยดีกว่านะ

    โคโนฮะ, เธอคนนี้เป็นแขกของเรา ชื่อ เฟียร์ เธอน่าจะพอเดาได้ว่าพ่อของฉันเป็นคนส่งเธอมา”

     

    โคโนฮะมองไปที่เฟียร์ในขณะเธอที่กำลังตักเนื้อจากหม้อ ตรงข้ามกับเฟียร์ที่ไม่สนใจเธอเลยแม้แต่นิดเดียว 

    “เฟียร์, เธอชื่อโคโนฮะ เอ่อ จะเริ่มยังไงดี...เธอพักอยู่ที่เรือนนอกของบ้านหลังนี้ และเธอก็เรียนอยู่ชั้นเดียวกับฉันด้วย แต่อยู่คนละห้อง เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กของฉันและ--- ”

     

    “และเธอไม่ใช่มนุษย์”

    เฟียร์พูดโพล่งขึ้นมา หลังจากนั้นก็เกิดความเงียบงันไปหลายวินาที

     

    “...ใช่แล้ว ในที่แห่งนี้ โคโนฮะก็เป็นเหมือนรุ่นพี่ของเธอ” 

    “ฉันว่าแล้ว ไม่มีทางที่จู่ๆสิ่งของจะแยกเป็นเสี่ยงๆได้เองหรอก ถึงแม้เครื่องมือต้องสาปจะมีรูปลักษณ์แบบมนุษย์ แต่ก็ทิ้งลักษณะดั้งเดิมไปไม่ได้----ฉันเดาว่าเธอคงเป็นพวกมีดบางชนิดสินะ?”

    “ถ้าอย่างนั้นฉันขอถามบ้างได้ไหม ว่าเธอเคยเป็นอะไรมาก่อน?”     

    โคโนฮะถามกลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ส่วนเฟียร์เพียงแค่พ่นลมหายใจออกมาเป็นคำตอบ ความเงียบอันน่าอึดอัดดำเนินต่อไปตลอดมื้อเย็นที่เหลือ อาหารในจานของทุกคนใกล้หมดเมื่อเฟียร์พูดกับฮารุอากิ

    “งั้น ที่นายบอกให้ฉันเชื่อนายก่อนหน้านี้ก็เพราะมีเหตุการณ์ตัวอย่างสินะ?”

    “เอ่อ...ก็ใช่ โคโนฮะทำเรื่องที่เป็นประโยชน์มากมายตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่”

    “เขาพูดถูก ด้วยผลของการกระทำที่ผ่านมา ฉันใกล้จะเป็นอิสระจากคำสาปของฉันแล้ว”

    “ใกล้จะ, เธอพูดอย่างนั้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอหลุดพ้นจากคำสาปอย่างสมบูรณ์?”

    “เครื่องมือที่มีคำสาปเพียงเล็กน้อย จะกลับไปเป็นเครื่องมือธรรมดา แต่ว่าตามที่พ่อฉันบอก พลังงานด้านลบที่สะสมในเครื่องมือที่มีรูปลักษณ์ของมนุษย์มันมากเกินธรรมชาติของมันไปแล้ว เพราะฉะนั้นถึงแม้เธอจะลบล้างความคิดชั่วร้ายออกไปจนหมด รูปลักษณ์ของมนุษย์จะยังคงอยู่ หมายความว่าพวกเธอก็จะแค่เป็นอิสระจากคำสาปที่ผูกมัดอยู่ ”

    “อา...อย่างนี้นี่เอง ฉันไม่ต้องกลับไปมีรูปลักษณ์แบบเดิมสินะ...”

    “พูดตรงๆฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนักหรอก ไว้ถามพ่อฉันเมื่อเขากลับมาดีกว่า”

    เฟียร์ไม่ได้ฟังที่ฮารุอากิพูด เธอยังคงส่ายหัวและพึมพำคำซ้ำๆ

    “อย่างนี้นี่เอง...ฉันไม่ต้อง...อย่างนี้นี่เอง...”

     

    ดูเหมือนเธอกำลังพยายามเก็บซ่อนความโล่งใจเอาไว้ไม่ให้มันแสดงออกมา 

    เฟียร์กินอาหารที่เหลือในจานจนหมดก่อนที่จะถามโคโนฮะ

    “ฮารุอากิบอกก่อนหน้านี้ว่าพวกเธออยู่ด้วยกันมานานกว่าสิบปีแล้ว มันใช้เวลานานขนาดนั้นเลยเหรอ?”

     

    “ฉันคิดว่ามันขึ้นอยู่กับปริมาณคำสาปในตัวเธอนะ แต่ว่า...”

    จานเปล่าสองจานบนโต๊ะ ดวงตาสองคู่ที่สบประสานกัน คู่หนึ่งเงียบงัน และอีกคู่ฉายความไม่เป็นมิตรออกมา

     

    “ความเคียดแค้นที่สะสมในตัวของพวกเรานั้นมีจำนวนมหาศาล ไม่ว่าเราจะทำอย่างไร เราจะไม่อาจจะลืมเลือน ทิ้งมันไป หรือสำนึกผิดได้ง่ายๆ... เธอทำให้ฉันประสาทเสีย แต่อย่างน้อย ในบางแง่มุม พวกเราก็มีอะไรที่เหมือนๆกัน นี่เป็นเรื่องที่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ระหว่างเธอกับฉัน”

    เฟียร์ดูเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะเบือนหน้าหนีแล้วพูดขึ้นว่า

    “...ฉันก็ด้วย เธอรู้มั้ยว่าเธอก็กวนประสาทฉันเหมือนกัน”

    .”ช่วยไม่ได้นี่นา ทนเอาหน่อยแล้วกัน”

     

    โคโนฮะกล่าวอย่างใจเย็นสมกับที่เป็นรุ่นพี่ ส่วนเฟียร์นั้นก็พ่นลมหายใจแบบไม่สบอารมณ์เหมือนเคย

    หลังจากที่ทุกคนกินอาหารเสร็จ ฮารุอากิและโคโนฮะก็เก็บโต๊ะแล้วไปล้างจานชามที่ครัว เมื่อฮารุอากิกลับเข้ามาเขาก็พบว่าเฟียร์กำลังนั่งกอดเข่า จ้องมองเพดานด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เขาส่งชาหลังอาหารให้เฟียร์และเริ่มดื่มชาของตัวเอง

    “เออนี่ โคโนฮะ เธอช่วยเอาเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาให้หน่อยได้มั้ย? เฟียร์จะได้มีเสื้อผ้าใส่บ้าง ฉันว่าเสื้อผ้าปัจจุบันของเธอ เฟียร์คงใส่ไม่พอดีแน่ๆ ”

    “...โทษทีนะที่หน้าอกฉันเล็ก!

    “ฉันยังไม่ได้พูดซักคำเลยนะว่าส่วนไหนที่จะไม่พอดี!

    ฮารุอากิเกือบจะรับถ้วยชาที่ลอยมาจากฝั่งตรงข้ามของโต๊ะไม่ทัน

    “ช่วยไม่ได้นะ...ตกลง เดี๋ยวฉันจะหามาให้เอง”

    “เธอนี่พึ่งพาได้ตลอดเลยนะ”

    “ว่าแต่ ฮารุอากิคุง ตกลงคืนนี้จะทำยังไง อย่างเช่นว่าเธอจะนอนที่ไหน?”

     

    “อา...เธอจะต้องนอนอยู่ที่นี่สินะ ฉันจะให้เธอใช้ห้องๆนึงไปก่อนแล้วกัน”

    “ธะ-เธอจะนอนอยู่ที่นี่?! นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยนะฉันว่า!

     

    “แต่เธอก็รู้นี่ว่าเรือนนอกเต็มหมดแล้ว...คุโรเอะก็ล๊อคห้องของเธอไว้ตอนที่เธอไม่อยู่”

    เรือนนอกของบ้านหลังนี้ถูกสร้างแบบอพาร์ตเมนท์ มีห้องสองห้องข้างใน โคโนฮะพักอยู่ในห้องหนึ่ง ส่วนอีกห้อง ถึงแม้จะมีคนพัก แต่เธอก็มักจะไม่อยู่ราวๆครึ่งเดือน โคโนฮะจึงไม่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองมีเพื่อนอยู่ในห้องติดกันสักเท่าไหร่

    “ยังไงก็เถอะ จัดห้องต้อนรับแขกคนนี้ให้หรูหราที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยล่ะ มันจะได้ชดเชยกับสิ่งที่นายเคยทำกับฉัน”

    “ชดเชย?”

     

    ฮารุอากิถามอย่างสงสัย และได้รับคำตอบด้วยท่าทีโกรธเกรี้ยว

    “อย่าบอกนะว่านายลืมไปแล้วว่านายทำอะไรกับตัวฉันก่อนหน้านี้! เล่นกับร่างกายของฉันแบบนั้น...ฉันไม่เคยโดนใครเอานิ้วแหย่เข้าไป
    [ตรงนั้น] มาก่อนเลย! ฉันอายเกือบตายแน่ะ นายรู้มั้ย?!

    ฮารุอากิกำลังจะบอกว่าเฟียร์ในตอนนั้นยังเป็นแค่กล่อง เมื่อเขาได้ยินเสียงถ้วยชาตกลงพื้นและกลิ้งหลุนๆไปตามเสื่อ

    เขาเห็นโคโนฮะยืนขึ้นด้วยร่างกายอันสั่นเทา รอยยิ้มที่แปลกประหลาดกระจายไปทั่วใบหน้าอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่เธอจะเริ่มร้องไห้

    “ฮืออออออ! ฉันไม่อยากเชื่อเลย! พวกเธอสองคนได้ทำเรื่องอย่างว่าด้วยกันแล้ว?!

    โคโนฮะเอามือปิดหน้าแล้ววิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาได้ยินเสียงประตูหน้าถูกปิดอย่างแรง เฟียร์พยักหน้าอย่างพึงพอใจและพูดว่า

     

    “ฉันไม่รู้ว่าเมื่อกี๊เกิดอะไรขึ้น แต่ฉันก็ชนะแล้ว รู้สึกดีชะมัดเลยแฮะ”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×