ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    C3 Cube x Cursed x Curious (พยายาม) แปลไทย

    ลำดับตอนที่ #2 : Cube x Cursed x Curious:Chapter1 part1.1

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 57


    Chapter1-The Unknown one who went to Bed/"Night of Rubik's Cube"

    Part1.1


    “...นี่มันอะไรเนี่ย? พุดดิ้งคัสตาร์ด?”

    เด็กสาวถามขณะจิ้มๆดูวัตถุสีขาวอมเหลืองที่วางอยู่ข้างหน้าเธอด้วยสีหน้าบึ้งตึง

    “ลองชิมดูก็รู้เอง”

    “อืมมม...หืม?! นี่มัน”

    เธอส่งช้อนเข้าไปในปากก่อนจะตัวแข็งค้าง

    “มันไม่หวาน! นี่มันของปลอม! ของกินอันชั่วร้าย! อะไรที่มันนุ่มนิ่มราดด้วยซอสสีดำมันต้องเป็นพุดดิ้งสิ!

    “อย่าว่าอาหารแบบนั้นสิ มันก็แค่เต้าหู้เท่านั้นเอง ได้จากนมถั่วเหลืองที่จับตัวกันไง ไม่ชอบเหรอ?”

    ฮารุอากิถอดผ้ากันเปื้อนออก ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามเธอ เด็กสาวยังคงแสดงอาการไม่พอใจอย่างออกนอกหน้าขณะที่กำลังเคี้ยวเต้าหู้แช่เย็น เธอกำลังใส่เสื้อเชิร์ตและกางเกงขาสั้นที่ยืมมาจากฮารุอากิ

    “ฮึ มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก แต่มันก็แย่กว่าเจ้าของกรอบๆที่ฉันกินก่อนหน้านี้อยู่ดี”

    “เจ้าเต้าหู้ที่น่าสงสาร ถูกเอาไปเทียบกับข้าวเกรียบ”

    “ไอ้นั่นเรียกว่าข้าวเกรียบซินะ มันมีผิวสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร ทั้งหวานทั้งเผ็ด แล้วความรู้สึกตอนที่เคี้ยวก็...หือ? นายมองฉันทำไม?”

    ฮารุอากิตอบปัดไปว่าไม่มีอะไร และหันหนีจากใบหน้าของเธอที่เพิ่งจะหลุดจากการทำหน้าตาไม่พอใจมาตลอดเวลา

    เขาเองก็เริ่มกินข้าวเช่นเดียวกัน ก็อย่างที่เขาว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง

    ส่วนเด็กสาวที่นั่งตรงข้ามเขากำลังตรวจสอบอาหารตรงหน้าอย่างตั้งใจเพื่ออะไรก็ไม่ทราบ มันคือปลาแม็คเคอเรลย่าง และเธอทำท่าเหมือนไม่เคยเห็นมันมาก่อน หลังจากเธอจ้องมันจนพอใจแล้ว เธอก็วางช้อนส้อมที่ถือลง ฮารุอากิรู้ว่าเธอจะทำอะไรและรีบห้ามก่อนที่เธอจะหยิบปลาด้วยมือเปล่า

    “เฮ้ หยุดเลย ฉันไม่มีวันยอมให้เธอใช้มือเปล่ากินอาหารต่อหน้าฉันแน่”

    ฮารุอากิหยิบจานปลาแม็คเคอเรลออกห่างจากเธอก่อนที่เธอจะใช้มือเปล่าคว้ามัน
    จู่ๆเธอก็ถอยห่างออกจากเขา และกลับไปนั่งตามเดิม

    “เฮ้ เดี๋ยวก่อนสิ ไอ้เรื่องก่อนหน้านี้ที่ฉันทำไปเพราะฉันไม่รู้ต่างหากล่ะ ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว แล้วฉันก็ให้เธอยืมเสื้อผ้าด้วยไม่ใช่รึไง?”

    “ฉะ-ฉันไม่รู้ ฉันหมายถึง...นายเพิ่งจะใช้นิ้วเล่นกับตรงนั้นของฉันตั้งแต่หน้าประตูบ้าน...”

    “แต่ฉันไม่รู้นี่นาว่าฉันกำลังแตะโดนตรงนั้นของเธออยู่ อ้า โธ่เว้ย ถึงยังไงฉันขอโทษก็แล้วกัน ยกโทษให้ฉันได้แล้ว ตกลงนะ?”

     

    ฮารุอากิขอโทษเธอไปตามระเบียบ ก่อนที่จะหยิบตะเกียบขึ้นมา

    “ดูนะ ฉันจะทำให้ดูว่าจะแกะปลายังไง ทำแบบนี้ก่อน แล้วก็กดหัวมันไว้ แล้วก็ดึงก้างออกไป ง่ายๆใช่มั้ย?”

     

    เด็กสาวจ้องดูด้วยความสนใจอยู่พักนึง ก่อนจะกลับมาทำสีหน้าไม่ไว้ใจอีกครั้ง ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็พ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดแล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม

    “ว่าแต่ เธอชื่ออะไรเหรอ?”

    “...ฉัน ถูกเรียกว่า เฟียร์” (Fear)

    เฟียร์หุบปากลงอย่างกะทันหัน เหมือนเธอกำลังตกใจที่ได้บอกชื่อตัวเองให้เขาไปง่ายๆ

    “เฟียร์ สินะ”                          

    “อืม ช่างเถอะ มันไม่ใช่ธุระของนายสักหน่อย จะเรียกฉันว่าอะไรก็ตามใจนาย”

     

    “โชคร้ายหน่อยนะ ตอนนี้เธอเป็นธุระของฉันแล้ว เธอเป็นธุระที่สำคัญที่สุด ถึงแม้ว่าตามจริงแล้ววิธีที่เธอได้เป็นธุระที่สำคัญที่สุดนี่ออกจะเป็นการเล่นสกปรกไปหน่อยก็เถอะ เพราะฉะนั้น บอกมาได้แล้ว ว่าเธอคืออะไร? เธอเป็นกล่องอะไร?”

    “เอ่อ...”

    “เอ่อ?”

    ทันทีที่ฮารุอากิใส่เครื่องหมายคำถามลงในคำตอบของเฟียร์ จู่ๆเธอก็เลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างน่าประหลาดแล้วเริ่มเจาะรูบนตัวปลาแม็คเคอเรลย่างเหมือนโกรธแค้นมันมาจากไหน

    “หุบปาก! มันไม่ธุระกงการอะไรของนาย ไอ้งี่เง่า!

    “โว้ว! นั่นคำสาปเรอะ?! ฉันไม่ได้ยินมาพักนึงแล้วนะเนี่ย ว่าแต่ เธอเป็นเด็กรึไง ระเบิดอารมณ์ออกมาง่ายๆแบบนี้”

    “หนะ-นี่ แก...”

    “นั่นก็ไม่ได้ยินมานานแล้วเหมือนกัน... เฮ้ย! หยุดทำร้ายปลาแม็คเคอเรลแล้วก็เงียบได้แล้ว!

    “ขุดคุ้ยอดีตของผู้หญิงแบบนี้! นายน่าจะหัดมีมารยาทบ้างนะ เจ้าเด็กไร้ยางอาย!

    ฮารุอากิไม่อยากได้ยินคำพูดพวกนั้นจากเธอ แต่เขาเองก็เป็นคนมีเหตุผล เขาจึงเลิกล้มความพยายามที่จะสืบหาอดีตของเธอ

    “ว้า...เอาเถอะ ถ้าเธอไม่อยากบอกฉันก็จะไม่กดดัน ฉันพอจะรู้ว่ามันไม่ใช่ความทรงจำอันแสนสุขหรอก”

    ดูเหมือนว่าเธอจะใจเย็นลงจากคำพูดของฮารุอากิ เธอก้มหน้าลง ไม่มีคำพูดใดๆเล็ดรอดออกมาอยู่พักหนึ่ง

     

    “ฉัน..เกลียดรูปลักษณ์นั่น ฉันไม่อยากกลายเป็นแบบนั้นถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ใครคนหนึ่งบอกกับฉันว่าการมาที่นี่จะง่ายขึ้นถ้าฉันอยู่ในรูปแบบนั้น ฉันเลยไม่มีทางเลือก...”

    “ใครบอกเธอ? พ่อของฉันเหรอ?”

    “เขาชื่อโฮนัตสุ นายเป็นลูกของเขาสินะ?”

    “ช่าย ฉันชื่อฮารุอากิ พ่อของฉันเป็นยังไงบ้างล่ะ?”

    “ฉันก็ไม่รู้ เขาบอกว่าเขายังมีบางอย่างต้องทำที่นั่น”

     

    “ทำอะไรตามใจอยากเหมือนทุกทีสินะ หึ ฉันเหนื่อยที่จะบ่นเรื่องเขาแล้วละ ถ้าเขายังส่งเงินมาให้ฉันใช้ ฉันก็จะทนเล่นตามเกมของเขาต่อไป”

    “ฉันไม่เข้าใจพวกนายสองคนเลย ทั้งนายและพ่อของนาย ฉันคิดว่าคนปกติคงจะไม่พยายามทำความเข้าใจอะไรแบบตัวฉันหรอกนะ”

    “เราได้รับเครื่องมือต้องสาปแบบเธอตั้งแต่ฉันยังเล็ก ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้ว เครื่องมือที่เราได้มามักมีคำสาปอยู่แค่เพียงเล็กน้อย

    แต่ว่านานๆครั้ง ก็จะมีเครื่องมือที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์แบบเธอ มาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ”

     

    เกิดความเงียบอยู่ชั่วครู่หลังการอธิบาย เฟียร์ถอนหายใจและวางส้อมที่ถือลง เธอเงยหน้าขึ้นจ้องมองฮารุอากิด้วยสายตาทะลุทะลวง ผมสีเงินยาวสยายของเธอแก่วงไกวไปมา

    “จากนี้ไปเป็นเรื่องจริงจังนะ”

    “...ว่าไป”

    “ฉัน...ก่อนหน้านี้ ตัวฉันถูกเก็บไว้ในคุกที่มืดมิด ถูกทอดทิ้งจากเจ้าของคนสุดท้าย ในวันหนึ่ง ยาจิ โฮนัตสุก็ได้มาเจอฉัน

    เขาพยายามจะสื่อสารกับฉัน และฉันก็ได้บอกความปรารถนาของฉันให้แก่เขา”

    “ความปรารถนา?”

    ฮารุอากิพอจะรู้ว่าความปรารถนาของเธอคืออะไร แต่เครื่องมือต้องสาปที่มาที่นี่ด้วยความตั้งใจของตัวเองนั้น มักจะต้องการยืนยันความปรารถนาของตนเป็นคำพูด รู้เช่นนั้นแล้ว มันจะเป็นการดีกว่าที่ปล่อยให้เธอพูดมันออกมาด้วยตัวเอง

     

    เด็กสาว ที่หาใช่มนุษย์ไม่ กัดริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยเสียงกระซิบ

     

    “ฉันต้องการหลุดพ้นจากคำสาปของตัวเอง”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×