คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Cube x Cursed x Curious:Chapter1 part5
ภายในช่วงเวลาไม่กี่วันที่เฟียร์ได้อยู่กับโฮนัตสึ เขาได้สอนวิธีการอ่านเขียนภาษาญี่ปุ่นพื้นฐาน และความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ให้แก่เธอ เฟียร์จึงสามารถอ่านโน้ตที่ฮารุอากิเขียนทิ้งไว้ให้เธอได้
เฟียร์รู้สึกว่าการทิ้งเธอให้อยู่คนเดียวนั้นช่างเสียมารยาท แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี นอกจากกินอาหารมื้อก้ำกึ่งระหว่างเช้ากับกลางวันที่ฮารุอากิทำไว้ให้เธอ หลังจากกินเสร็จ เธอก็พึมพำกับตัวเอง
“....เฮ้อ น่าเบื่อชะมัด”
เธอออกมานั่งที่นอกระเบียงและกำลังเหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อเธอรู้สึกถึง”แรงกระตุ้น”อะไรบางอย่างในตัวเธอ มันเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่เพราะนี่นับเป็นครั้งแรกสำหรับเธอ แต่มันช่างน่าอายเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น ------เรื่องธรรมชาติของมนุษย์
“เป็นมนุษย์ก็ไม่ได้สบายอย่างที่คิดแฮะ”
เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วทำหน้าเบ้ หลังจากใช้เวลาไปสักพัก เธอก็ทำภารกิจของเธอเสร็จสิ้น
“คราวนี้ก็ง่ายละ ฮารุอากิบอกว่าไอ้เจ้านี่เรียกว่า”ก๊อกน้ำ” น่าทึ่งจริงๆนะเนี่ย”
เฟียร์ยืนอยู่หน้าอ่างล้างมือ รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงของโลกรอบๆตัวเธอ เธอเรียนรู้วิธีใช้ก๊อกน้ำและเริ่มล้างมือ เทคโนโลยีต่างๆยังคงทำให้เธอประหลาดใจอยู่บ้างในบางครั้ง
แต่นั่นยังทำให้ฉันกลัวไม่ได้หรอก เธอคิดในใจขณะสะบัดมือให้แห้ง
แล้วสายตาของเธอก็สะดุดเข้ากับของบางอย่างภายในห้อง
“อืม ฉันรู้ว่าเจ้าเครื่องจักรนี่คืออะไร มันเรียกว่า”เครื่องซักผ้า” ใส่น้ำและผงซักฟอกเข้าไป แล้วมันจะซักเสื้อผ้าให้เอง”
เฟียร์จำสิ่งที่ฮารุอากิพูดเมื่อคืนได้ เธอต้องกระทำสิ่งที่จะทำให้ผู้คนจะรู้สึกขอบคุณในตัวเธอเพื่อปลดเปลื้องคำสาปออก
บางทีเธอน่าจะเริ่มทำอะไรที่เป็นประโยชน์ให้คนอื่นบ้าง ฮารุอากิบอกว่ามันต้องใช้เวลานาน เพราะฉะนั้นเธอก็ควรจะเริ่มทำซะตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อให้เธอหลุดพ้นจากคำสาปได้โดยเร็ว
“...ฮี่ฮี่ฮี่ ขอบคุณในสิ่งที่ฉันกำลังจะทำ และตกตะลึงกับความสามารถที่แท้จริงของฉันซะเถอะ...!”
ก่อนอื่น หยิบเสื้อผ้าจากตะกร้ามาใส่ในเครื่องซักผ้า ต่อมาก็หากล่องผงซักฟอก ในที่สุดเธอก็พบมันวางไว้อยู่ข้างๆเครื่องซักผ้า เธอลองดมมันดู กลิ่นมันเหมือนกับสบู่ เธอมั่นใจว่ามันคือผงซักฟอกแน่ๆ ขั้นสุดท้าย ใส่ผงซักฟอกลงไปในเครื่องซักผ้า----หนึ่งกล่องเต็มๆ หลังจากเสร็จตามขั้นตอนแล้ว เธอก็ลองกดปุ่มต่างๆและยืนดูเครื่องซักผ้าเริ่มทำงาน
“ฉันทำสำเร็จ...แหะๆๆ ฉันทึ่งกับความสามารถในการปรับตัวของตัวเองจริงๆ ดีละ ฉันน่าจะไปทำความสะอาดบ้านต่อ!”
สิ่งที่เธอต้องการนั้นเรียกว่า”เครื่องดูดฝุ่น” จากที่ฮารุอากิพูด มันเป็นกล่องที่มีอะไรคล้ายๆที่ดูดยื่นยาวออกมา
เธอเจอมันวางอยู่ในตู้เก็บของ
“ฉันรู้ด้วยว่าเจ้าเครื่องนี่มันต้องการไฟฟ้า มันน่าจะมีรูหน้าตาเหมือนรูจมูกอยู่ที่ฝาผนัง หืม? นี่น่าจะใช่ มันหน้าตาเหมือนรูจมูกจริงๆ อืม... แต่แท่งๆด้านหลังเครื่องดูดฝุ่นมันไปไม่ถึงรูนั้นน่ะสิ...หวา?!”
สายไฟยืดยาวออกมาทันทีเมื่อเธอลองดึงปลั๊กไฟ เธอสะดุ้งเฮือกเพราะมันเคลื่อนไหวโดยที่เธอไม่คาดคิด เธอกระแอม และเงยหน้าขึ้นมองซ้ายมองขวาอย่างอายๆ
“...ฉันแกล้งตกใจไปงั้นๆแหละ จริงๆแล้วฉันรู้หรอกน่า”
เธอเสียบปลั๊กและลองกดปุ่มทุกปุ่มบนตัวเครื่อง มีเสียงดังขึ้นแล้วมันก็เริ่มดูดฝุ่นเข้าไป เยี่ยมมาก เฟียร์ค่อยๆขยับเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดทั่วห้อง เธอเริ่มจะสนุกกับมันและใช้มันดูดในทุกที่ที่เธออยาก ในที่สุดเธอก็คุ้นเคยกับมันและทำความสะอาดเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆขึ้นด้านหลังของเธอ จู่ๆสายไฟก็ตึงรั้งและมีเสียงกระแทกดังขึ้น
เฟียร์หันไปมองและเจอกับบางสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า มันคือสิ่งมีชีวิตแปดขาสีดำกำลังคืบคลานอยู่บนเสื่อทาทามิ
“มะ-แมงมุม?!”
ขนบนตัวเธอลุกชัน เฟียร์ถามกับตัวเองอย่างสิ้นหวังว่าทำไมแมงมุมถึงต้องมาอยู่ตรงหน้าเธอด้วย เธอได้แต่โทษโชคชะตาของตัวเองและพยายามจะวิ่งหนี แต่แล้วเธอก็เปลี่ยนใจอย่างรวดเร็ว หลังจากลองคิดดูว่าเธอไม่สามารถยืนหยัดต่อต้านได้แม้แต่กับแมงมุมธรรมดา
เฟียร์จับเครื่องดูดฝุ่นไว้มั่น แล้วพุงเข้าใส่แมงมุม สิ่งที่อยู่ในมือเธอไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่นอีกต่อไป แต่มันเป็นอาวุธอันซับซ้อนที่สามารถส่งเจ้าแมงมุมชั่วร้ายไปยังมิติอื่นได้
“กลายเป็นเศษฝุ่นผงด้วยพลังไฟฟ้าซะเถอะ!”
แมงมุมเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วและสามารถหลบการจู่โจมของเธอได้ มันไต่เข้าไปในตู้เก็บของที่เปิดอ้าจากตอนที่เธอเอาเครื่องดูดฝุ่นออกมา แต่เฟียร์ไม่สามารถล้มเลิกกลางคันได้ เธอแหย่เครื่องดูดฝุ่นเข้าไปในตู้และพยายามดูดแมงมุมให้เข้าไปในเครื่อง
เครื่องดูดฝุ่นกระแทกข้าวของในตู้ปลิวออกมาขณะที่เฟียร์โจมตีแมงมุม ในที่สุดมันก็ดูดเข้ากับอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญ่และหยุดทำงานลงหลังจากส่งเสียงประหลาดออกมา
“อะไรกัน?!”
หลังจากที่เธอโจมตีแมงมุมไปอย่างรุนแรง โต๊ะในห้องได้พลิกล้มมาทางเธอ เธอถอยหลังหลบไปสองสามก้าวแล้วปิดประตูตู้เก็บของ
เฟียร์นั่งลงกับพื้นแล้วถอนหายใจ คิดถึงเรื่องความวุ่นวายที่เธอก่อ ฉันควรจะทำยังไง? โจมตีมันอีกครั้งเหรอ? ไม่ ไม่จำเป็น มันออกมาไม่ได้ถ้าประตูตู้ปิดอยู่ ใช่แล้ว แค่ปิดมันไว้ แล้วค่อยให้ฮารุอากิจัดการเมื่อเขากลับมา
“ใช่แล้ว เอาตามนั้นแหละ...ฉันไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”
เฟียร์เห็นวัตถุที่ลักษณะคล้ายคลึงกับรูปร่างดั้งเดิมของเธอกลิ้งอยู่ที่เท้า มันน่าจะออกมาจากตู้เก็บของ มันคือลูกบาศก์สี่เหลี่ยมขนาดพอดีมือ แต่ละด้านเป็นแผ่นตารางขนาด3x3ที่มีสีแตกต่างกัน เธอเอียงหัวในขณะที่ลองขยับหมุนมันดู สีในแต่ละด้านเปลี่ยนไป เธอคิดว่าถ้าหมุนมันอย่างถูกต้อง สีในแต่ละด้านจะเป็นสีเดียวกันได้
“... ... ... โอ๊ะ! ฉันลืมไปว่าฉันยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกนี่นา”
เฟียร์วางรูบิคกลับไปที่พื้นเหมือนเดิม ในตอนนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงหึ่งๆดังออกมาจากเครื่องซักผ้า เธอเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเธอเปิดมันทิ้งเอาไว้อยู่
“...อืม มันก็น่าทึ่งดีนะ ว่าแต่มันจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”
ฟองจำนวนมากล้นทะลักออกมาจากเครื่องซักผ้ากองเป็นภูเขา แล้วยังมีน้ำไหลล้นออกมาท่วมพื้นห้องอีกด้วย
แต่ช่างเถอะ ถึงอย่างไรเสื้อผ้าที่ซักแล้วก็ต้องเอาไปตาก เฟียร์ช่วยเหลือเหล่าเสื้อผ้าออกมาจากเครื่องซักผ้าแล้วใส่ลงในตะกร้า ราวตากผ้าอยู่ในสวนที่ปกคลุมด้วยต้นหญ้าสีเขียวชอุ่มให้ความรู้สึกดีเมื่อเธอเดินด้วยเท้าเปล่า เฟียร์เริ่มนำเสื้อผ้าขึ้นตากบนราว แต่มันมีอะไรบางอย่างที่มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมแขวนอยู่ เธอไม่รู้ว่ามันเอาไว้ใช้ทำอะไรเธอจึงเลื่อนมันออกไป คงจะเป็นเครื่องรางอะไรสักอย่างละมั้ง
“ชิ้นสุดท้ายละ... เฮ้อ ยอดเยี่ยม”
เสื้อผ้าสะบัดพลิ้วไสวไปตามสายลม มาคิดดูแล้ว การที่เธอทำเรื่องพวกนี้มันให้ความรู้สึกเติมเต็มแปลกๆกับตัวเธอ
ขณะที่เธอกำลังดื่มด่ำกับความสำเร็จและกำลังจะหันหลังกลับ ลมก็พัดกรรโชกขึ้น
ไม่มีทางเลยที่เธอจะหยุดมันได้ทัน ผ้าเช็ดตัวที่เธอเพิ่งจะตากได้ปลิวขึ้นไปอยู่บนหลังคา เธอทำหน้าเหยเกและกระโดดสูงตามขึ้นไปบนหลังคา เธอได้ยินเสียงอะไรบางอย่างใต้ตัวเธอแตกร้าว แต่ในตอนนี้ผ้าเช็ดตัวสำคัญกว่า เธอคว้ามันไว้ได้และกระโดดกลับลงมาที่พื้น ในตอนนั้นเอง สายลมก็พัดมาอีกระลอกราวกับจะกลั่นแกล้งเธอ เสื้อผ้าที่ตากไว้บางส่วนปลิวขึ้นไปติดอยู่กับกิ่งของต้นไม้ใหญ่ เธอส่งเสียงแหลมออกมาด้วยความโมโหแล้วตากผ้าเช็ดตัวที่เก็บมาบนราวอีกครั้ง เมื่อเธอปล่อยมือจากมัน สายลมก็หอบมันลอยขึ้นไปติดบนต้นไม้อีกครั้ง บ้าจริง ไม่จบสักที
“...เอ่อ ผ้าจะแห้งเร็วขึ้นถ้ามีลมพัด นั่นหมายความว่าเสื้อผ้าที่ติดตามกิ่งไม้พวกนั้นจะแห้งเร็วกว่าเดิม ถ้ามองโลกในแง่ดีสักหน่อย มันอาจจะดีแล้วก็ได้ที่มันขึ้นไปติดบนต้นไม้แบบนั้น...ฉันก็คิดว่างั้นนะ”
เธอหลอกตัวเองอย่างเต็มที่แล้วหันหลังเดินกลับเข้าบ้านโดยพยายามไม่มองไปทางเสื้อผ้าที่ปลิวไสวอยู่บนต้นไม้
แต่แล้วสายตาเธอก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง...
ในตอนแรกก็เป็นที่ห้องนั่งเล่น ตู้เก็บของล้มคว่ำ โต๊ะที่อยู่กลางห้องพลิกเอียง ขาโต๊ะทิ่มทะลุประตูบานเลื่อน และมีสายไฟพันยุ่งเหยิงอยู่โดยรอบ เธอยังไม่ทันสังเกตเห็นรายละเอียดขนาดนั้นเพราะการปรากฏตัวของแมงมุมและลูกรูบิค แต่ถึงยังไงเธอก็พอจะรู้ว่ามีเหตุการณ์ประหลาดๆเกิดขึ้นจากการที่ข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดไปทั่วและเครื่องดูดฝุ่นที่พังแน่นิ่งอยู่บนพื้น
และในตอนนี้เฟียร์ก็เหลือบไปเห็นว่ามีอะไรบางอย่างร่วงลงมาจากหลังคาและพบว่ามันคือกระเบื้องสีเทา มันต้องแตกตอนที่เธอกระโดดขึ้นไปบนหลังคาแน่ๆ
เฟียร์เริ่มรู้สึกได้ว่าอะไรๆนั้นแปลกไป ดูเหมือนว่าบ้านจะมีสภาพยุ่งเหยิงยิ่งกว่าก่อนที่เธอจะเริ่มทำความสะอาดซะอีก อันที่จริงเธอรู้สึกว่าสภาพมันแย่ถึงขั้นเละเทะเลยทีเดียว เธอสงสัยว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร
“หรือว่าฉันจะทำเรื่องผิดพลาดลงไปซะแล้ว?”
เสียงฝีเท้าของคนสองคนดังขึ้นแทนคำตอบ เฟียร์ค่อยๆหลบออกไปที่ระเบียงแล้วนอนคว่ำหน้า เค้นสมองคิดว่าระหว่างผีโพลเตอร์ไกส์กับเอเลี่ยน อะไรดูน่าเชื่อถือกว่ากัน?
ความคิดเห็น