คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Cube x Cursed x Curious:Chapter1 part1.2
Part1.2
“นายรู้อะไรบ้าง...? เกี่ยวกับคำสาป เกี่ยวกับเครื่องมืออย่างฉัน”
“อา นี่คือที่ฉันรู้ อย่างแรก เครื่องมือจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปในทางที่ไม่ดีถ้าได้รับความคิดด้านลบ
สอง เครื่องมือที่ได้รับความคิดด้านลบ จะส่งผลกระทบกับเจ้าของและผู้คนรอบตัว
และสาม เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับผลกระทบอันเลวร้ายกับผู้คนรอบตัวที่มันสร้างขึ้น มันอาจเริ่มทำงานและปลดปล่อยคำสาป”
“แค่นั้นเหรอ?”
เฟียร์พูดขึ้นมาทั้งๆที่กำลังก้มหน้า ฮารุอากิขมวดคิ้ว
“เพิ่มอีกข้อ ฉันรู้ ว่าการได้รับความคิดด้านลบและการสาปแช่งจากมนุษย์ เครื่องมืออาจกลายเป็นอะไรบางอย่าง อะไรบางอย่างที่กำลังนั่งอยู่หน้านายนี่ไง”
ใช่แล้ว เครื่องมือที่ได้รับความเคียดแค้นมหาศาลจากมนุษย์ นานวันเข้า มันก็จะมีรูปลักษณ์ของมนุษย์---
ฮารุอากิไม่รู้รายละเอียดแน่ชัด แต่เขารู้ว่าเครื่องมือที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งไม่เหมาะสมในฐานะเครื่องมือ จะได้รับความเคียดแค้นจากผู้คนซ้ำไปซ้ำมา ในท้ายที่สุด เครื่องมือจะสามารถยึดครองจิตใจของมันเอง ครอบครองวิญญาณของมันเอง และสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ตามที่มันต้องการ
“ใช่แล้ว มันเริ่มต้นด้วยความเคียดแค้นของคนคนเดียวเท่านั้น ฉันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำร้ายผู้คน และเพราะอย่างนั้น ฉันจึงได้รับความเกลียดชัง ความทุกข์โศก และเจตจำนงในการฆ่ามากขึ้นเรื่อยๆ จากความเคียดแค้นเหล่านั้น ฉันก็ได้ถูกตีตราด้วยคำสาปอันน่าชิงชัง
[ผลักไสผู้ครอบครองไปสู่ความวิปลาส]”
ฮารุอากิสังเกตเห็นว่าเด็กสาวกำมือตัวเองไว้แน่น คงไม่เป็นการดีถ้าจะถามเธอเกี่ยวกับรายละเอียดของเครื่องมือที่เธอเป็น และเรื่องที่เธอเล่า ว่าเธอเป็นต้นเหตุให้ผู้เป็นเจ้าของเสียสติ
“คำสาปของฉันยังไม่จบสิ้น ความเคียดแค้นชิงชังจากมนุษย์ได้มอบ[รูปลักษณ์ของมนุษย์]และ[ความปรารถนา]ให้กับฉัน ผู้ที่เป็นแค่เครื่องมือมาตั้งแต่แรก ถ้าจะพูดให้ถูกละก็ สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ถูกมอบให้แก่ฉัน แต่ฉันถูกบังคับให้มีสิ่งเหล่านั้นต่างหาก นายเคยคิดถึงความทรมานจากการขัดแย้งกันของความปรารถนาและคำสาปมั้ย? ฉันได้แต่อิจฉาเหล่าเครื่องมือที่มีคำสาปอยู่เพียงน้อยนิด พวกมันยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองมีคำสาปเป็นพันธะอยู่ พวกมันโชคดีแค่ไหนที่ได้มีความสุขจากความไม่รู้นั่น!”
เธอหยุดไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดหายใจ
“ฉันมาที่นี่เพราะเชื่อคำพูดของโฮนัตสุ ที่บอกว่าฉันจะหลุดพ้นจากคำสาปของตัวเองได้ ณ ที่แห่งนี้
แต่ฉันยังไม่รู้เลยว่าฉันต้องทำอย่างไร ตอบฉันมา ตอบมาตามตรง---ฉันจะ...ฉันจะสามารถปลดเปลื้องคำสาปโดยไม่ส่งผลกระทบอันเลวร้ายให้แก่ผู้คนรอบข้างได้จริงเหรอ? จำได้ไหม โฮนัตสุส่งฉันมาหานาย นั่นหมายความว่านายเป็นผู้ครอบครองตัวฉันแล้ว ถ้านายโกหกเรื่องที่ว่าสถานที่นี้สามารถปลดเปลื้องคำสาปได้ นายจะเป็นคนแรกที่ได้รับอันตรายร้ายแรงนะ”
นัยน์ตาของเธอที่จ้องตรงมาที่เขา สะท้อนทั้งความเคลือบแคลงใจและความหวาดกลัว และนั่นทำให้ฮารุอากิต้องให้คำมั่นแก่เธอ
“ได้ เธอทำได้แน่นอน”
“...หือ?”
“ฉันบอกว่าเธอสามารถปลดเปลื้องคำสาปได้จริงๆที่นี่ เห็นมั้ยล่ะ แม้ฉันจะไม่มีสัมผัสพิเศษหรือความสามารถแบบพ่อ แต่ดูเหมือนว่าร่างของฉันจะสามารถต้านทานคำสาปได้ ทำให้คำสาปไม่มีผลต่อฉัน ไม่ว่าคำสาปของเธอจะเป็นอะไรก็ตาม มันไม่มีผลกับฉันหรอก ฮ่าฮ่าฮ่า กลัวฉันรึยังล่ะ? ยัยเด็กรักความรุนแรง”
“อะ...อะไรเนี่ย?! เดี๋ยวก่อน นายบอกว่าฉันสามารถปลดเปลื้องคำสาปได้ที่นี่ แต่ว่าทำยังไงล่ะ?”
“ฉันเองก็ไม่รู้รายละเอียดหรอกนะ แต่ว่าสถานที่นี้เป็นสถานที่อันบริสุทธิ์มาเป็นเวลายาวนาน และบ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นที่ใจกลางของพลังบริสุทธิ์ที่ออกมาจากพื้นดิน ที่จะเติมเต็มเธอด้วยพลังงานด้านบวก นอกจากนี้สถานที่นี้ยังถูกป้องกันด้วยสนามพลังบางอย่าง อัตราการชำระล้างนั้นค่อนข้างช้าก็จริง แต่แค่ปล่อยเครื่องมือต้องสาปไว้ที่นี่ แล้วคำสาปก็จะหายไปเอง”
ฮารุอากินึกย้อนไปถึงหญิงสาวที่เป็นผู้อัญเชิญสนามพลังให้แก่บ้านหลังนี้ เธอสวมชุดอันแปลกประหลาดที่สะดุดสายตาผู้คน เธอบอกว่าสนามพลังจะคงอยู่ต่อไปอีก100ปี เขาคิดว่าคงไม่มีโอกาสเจอเธออีกถ้าสนามพลังคงอยู่ได้นานขนาดนั้น
“และมันก็ยังมีทางอื่นด้วยในการปลดเปลื้องคำสาป กลไกง่ายๆ ถ้าคำสาปมาจากความคิดด้านลบ เธอก็แค่รับเอาความคิดด้านบวกเข้ามาโดยการช่วยเหลือผู้คนรอบๆตัวเธอ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว คำสาปก็จะหายไปได้เร็วขึ้นอีก”
“หมายความว่าไง?”
“หมายความว่า เธอต้องกระทำสิ่งที่ทำให้ผู้คนจะรู้สึกขอบคุณตัวเธอไงล่ะ เธอแค่อาศัยอยู่ที่นี่ ระหว่างนั้นก็ไปทำพวก...งานสาธารณประโยชน์มั้ง...คงงั้นมั้ง?”
“ดะ-เดี๋ยว ทำไมต้องมีเครื่องหมายคำถามต่อท้ายด้วย?”
เฟียร์โน้มตัวมาข้างหน้า พร้อมกับส่งเศษปลาแม็คเคอเรลพุ่งเข้าใส่หน้าของฮารุอากิด้วย เขาสงสัยว่าเฟียร์ตั้งใจทำอย่างนั้นแต่แรกหรือเปล่า
“ก็...ฉันไม่ได้เป็นคนปลดเปลื้องคำสาปของตัวเองนี่นา ฉันก็แค่ได้ยินมาเท่านั้นเอง”
เฟียร์ชักสีหน้าบึ้งตึง แล้วทำแก้มป่องเหมือนเด็กๆ
“ฉันไม่อยากเชื่อเลย คือฉันไม่คิดว่าการทำเรื่องธรรมดาๆอย่างการนอนหรือทำงานที่นี่จะสามารถปลดคำสาปออกได้
นอกจากนั้นแล้ว ฉันนึกว่าคำสาปของฉันจะหายไปได้ช้ามากๆซะอีก...”
“เธอพูดถูกเรื่องที่มันขจัดได้ช้า การมีรูปลักษณ์ของมนุษย์หมายความว่าคำสาปปริมาณมหาศาลได้สะสมในตัวเธอ เพราะฉะนั้นมันอาจใช้เวลานานหลายปี และฉันก็ไม่รู้วิธีอื่นในการปลดเปลื้องคำสาปด้วย เพราะฉะนั้นเธอก็ต้องอดทนรอหน่อยแล้วกัน”
“อืมมมมมมมมม ฉันก็ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดี”
“อย่ากังวลกับมันมากนัก ถึงเธอจะไม่เชื่อ...”
กิ๊งก่อง เสียงกระดิ่งที่ประตูดังขึ้น เฟียร์ดูหวาดกลัวกับมันจนฮารุอากิต้องปลอบเธอว่ามันเป็นแค่เสียงกระดิ่งที่ดังเวลามีคนมาเท่านั้น ฮารุอากิลุกขึ้นยืนแล้วมองไปที่โต๊ะ
“อาหารจะเย็นชืดหมดแล้ว เพราะฉะนั้นรีบกินซะ ” ฮารุอากิเอ่ยก่อนจะเดินออกจากห้อง
ความคิดเห็น