คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [SEVEN REDDY] CHAPTER {3} 100%
CHAPTER {3}
เฮียบลูเบล
‘เอล....คิดถึงนะ’
คำพูดนี้นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้ยิน อยากจะฟังอีกครั้ง จากปากคนเดิมมันเป็นไปได้หรือเปล่า???
ตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ก่อนหลังที่เรากลับมาจากงานถ่ายแบบ ฉันก็ไม่ได้เจอเจ็ดอีกเลย เขาหายหน้าหายตาไปเลย ถามแปดเธอก็บอกว่าเฮียไม่ได้กลับบ้านเลยตั้งแต่งานถ่ายแบบจบ
เข้าเป็นอะไรรึเปล่านะ?
“เอล!!!”
“คะ....ค่ะ?” ฉันมองหน้าเจ้าของเสียงแบบงงๆ ใบหน้าหล่อๆบวกกับรอยยิ้มขี้เล่นๆ มองฉันอย่างหงุดหงิด เขาเขกหัวทีหนึ่งก่อนกอดอกมองอย่างดุๆ
“เรียกตั้งนานทำไมไม่ฟัง”
“ขอโทษค่ะ” เจ้าของรอยยิ้มมองฉันอย่างเอือมๆ ก่อนจะยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน เขาน่ารักใช่มั้ยละ
เฮีย ‘เบล’ หรือชื่อเต็มๆคือ ‘บลูเบล’ ชื่อแปลกเนอะ =_=;;; เฮียเบลเป็นรุ่นพี่ที่คณะของฉันเองละ เราสนิทกันเหมือนพี่น้องจริงๆ เขาเป็นพี่เทคน้องเทคกับฉันเอง แถมบ้านเราอยู่ข้างๆกัน เลยทำให้เราทั้งคู่สนิทกันมาขึ้น
“เฮียเบลเรียกฉันทำไม” ฉันมองหน้าอย่างงงๆ เฮียเบลเห็นดังนั้นเลยยิ้มนิดๆ คงเพราะความน่ารักของฉันเป็นแน่ (หลงตัวเอง)
“เฮียจะถามว่า วันนี้เอลว่างมั้ย?”
“ทำไม” ฉันเอ่ยถาม ร่างสูงไม่ตอบแต่เอื้อมมือมาจับฉันไว้ตอนที่เรากำลังจะเดินข้ามถนน “เฮ้ย! เฮียจับมือฉันทำไมเนี่ย โตแล้วข้ามเองได้”
“เฮียเป็นห่วง”
“-///- ขอบคุณค่ะ!” ฉันเน้นคำแก้เขิน ก่อนจะรีบจ้ำเท้านำเฮียไปให้ไว อายๆๆ เฮียพูดอะไรออกมานะรู้มั้ย!!! ฮือออ ฉันอาย -///-
<Jet Talk>
เวรฉิบ!
ผมแม่งโครตหงุดหงิดเลยว่ะไม่รู้ว่าเพราะอะไร เมื่อกี้ผมจอดรถรอสัญญาไฟมีชายหญิงคู่หนึ่งเดินจับมือกันผ่านหน้ารถผมไป พวกเขาดูเหมือนมีความสุข แถมใบหน้าผู้หญิงยังแดงก่ำอย่างกับลูกมะเขือเทศ ผมก็จะไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้าไอ้ผู้หญิงคนนั้นมันไม่ใช่
เอลา…
ผมบ้าไปแล้วแน่ๆเลยว่ะ ตอนนี้ผมเหยียบคันเร่งให้เร็วที่สุดเท่าที่เคยเหยียบมา อยากจะเอารถราคาหลายล้านลูกรักไปชนคู่นั้นให้รู้แล้วรู้รอด
ยัยนั้นก็เหมือนกัน จำรถผมไม่ได้หรือยังไงว่ะ แม่งเอ๊ย!!! ว่าแล้วผมก็กดโทรศัพท์หาใครสักคน คนที่ผมคิดว่ามันพึ่งได้ที่สุดแล้วในตอนนี้ ใช้เวลาสักครู่ปลายสายก็กดรับ
“ฮัลโหลเฮีย”
[ว่าไง.....]
พี่ชายที่ไม่ค่อยได้สนิทกันมากเท่าไหร่ทักทาย ปลายสายตอบกลับด้วยเสียงงัวเงียปนหอบ สงสัยพึ่ง ‘เสร็จ’ กับหญิงหน้าใหม่มาอีกแล้วละสิ
“พึ่งเสร็จรึไงเฮีย-_-”
[เสือกรู้ดีกับกูจริง] ปลายเสียงตอบมาด้วยความหงุดหงิด
“เดียวไอ้แปดก็ไม่เอาเฮียหรอก”
[เออ! กูรู้หน้าอย่างกูน้องมึงคงไม่เอา]
“มิน่าละถึงได้หาหญิงมานอนด้วยได้ สงสัยต้องบอก ‘เจ๊สี่’ แล้วมั้งว่าเฮียไม่จริงจังกับน้องแปด”
[เงียบปากแล้วบอกมาได้แล้วว่าโทรมาขัดเวลากูนอนทำไม] ฟังจากน้ำเสียงของปลายสายผมรู้เลยทันทีว่าหมอนี้หงุดหงิดแบบสุดๆแล้ว แต่จะให้ทำไงได้ก็คนมันน่าแกล้ง แถมยิ่งเป็นคนที่จีบได้แปด (เด็กประหลาด) แล้วยังเป็นเพื่อนกันเจ๊สี่อีกละก็
แม่งโครตน่าสนุก
“โอเคยอมแล้วครับ- -;;;” ผมเว้นช่วงเพื่อนึกถึงเรื่องที่จะพูด (ผมลืม) “จะเอาผู้หญิงที่ตัวเองบอกเลิกกลับมาหาตัวเองต้องทำยังไง”
[ควายเหมือนไอ้แปดเลย สมแล้วที่เป็นพี่น้องกัน]
อ้าวเวร ไอ้เฮี้ยนี้เดียวรอตากูก่อนเถอะ จะเอาให้แมร่งลงแดงตายเลย
[ง่ายๆมันก็แค่.....]
“แค่อะไรพูดให้ดิว่ะ” ผมเร่ง
[จับทำเมีย-.,-] ไอ้นี้แม่งวันๆคิดแต่เรื่องแบบนั้นรึไงว่ะ
แต่มันก็น่าสนนะ....
<Jet End Talk>
ไม่นานฉันก็มาถึงมหา’ลัย พร้อมกับเฮียเบล ตอนนี้เราแยกจากกันแล้วเพราะเฮียต้องมีไปประชุมคณะ ฉันเลยนั่งโดดเดียวที่โต๊ะหินหน้าตึก
เอี๊ยด!
ไม่ทันที่ฉันจะหันไปตามเสียงรถที่จอดตรงหน้า บางอย่างก็ฉุดให้ฉันเดินตามไป
“ลากฉันมามีอะไรว่ะคีธ์”
“ไอ้เบล....แฮ่ก แฮ่ก” คีธ์เทียร์หอบเล็กน้อย เธอคงวิ่งมาเหนื่อยๆแน่ๆ ดูจากผมที่ออกจะยุ่งกว่าปกตินิดๆ
“เฮียเบลเป็นอะไร” ฉันใจคอไม่ดีเลยที่ยัยคีธ์เทียร์พูดแบบนี้
“ไอ้เบลเข้าโรงพยาบาล”
“เฮียเบลเป็นอะไร” ฉันเขย่าแขนคีธ์เทียร์แรงๆ
“ช็อกที่ห้องประชุมคณะ” เธอเว้นช่วง “หมอบอกเพราะโรคเครียดและไม่ยอมกินข้าว”
“แล้วปลอดภัยมั้ย” ขอให้เขาปลอดภัยด้วยเถอะ ถ้าเฮียเบลไม่อยู่แล้วฉันจะพึ่งใครละ
“ปลอดภัยแล้วๆ” เพราะคำตอบนั้นมันทำให้ฉันยิ้มกว้าง
“อือ^ ^”
“โอเค ฉันไปก่อนจะเอลเจอกันเย็นๆ” คีธ์เทียร์โบกมือน้อยๆก่อนจะเดินไปที่ตึก ฉันเลยเดินกลับไปที่โต๊ะหินเพื่อจะเอาของที่เผลอวางทิ้งไว้ แต่แล้วก็มีบางอย่างดึงให้ฉันเข้าไปในซอกตึกแคบๆ
ใบหน้าของฉันและเขาอยู่ใกล้กันจนปลายจมูกของเราสองคนแตะชนกันอย่างแผ่วเบา กลิ่นของน้ำหอมราคาแพงอ่อนๆที่คุ้นเคย เขายังใช้กลิ่นเดิมอยู่สินะ ผมสีน้ำตาลอ่อนปลิวไหวตามสายลมที่พัดมาอย่างเบาๆ
เขาพึ่งจะโผล่มาหรอ ตั้งอาทิตย์กว่าๆเขาไปไหนมานะ.....
“ดูท่าจะเป็นห่วงมันมากเลยสินะ ไอ้เบลไรนั้น” เจ้าของกลิ่นน้ำหอมราคาแพงเอ่ยเสียงต่ำนิ่ง
“พี่ยุ่งอะไรด้วย” ฉันตอบเสียงนิ่งเพื่อกลบความกลัวในใจ ฮือT^T เขาทำหน้าตาหน้ากลัวมาเลยอ่ะ
“ไม่ได้อยากจะยุ่งนักหรอกนะ”
เอ้า! ไม่อยากแล้วจะมายุ่งกับฉันทำไมหนักหนา
“งั้นพี่ก็ปล่อยฉันไปสิ ฉันจะไปเยี่ยมเฮียเบล” ฉันดิ้นให้พ้นจากพันธนาการของเขา แต่ด้วยความแคบของซอกตึกมันเลยทำให้อะไรต่อมิอะไรของเราทั้งคู่เสียดสีกัน
“อย่าดิ้น เห็นมั้ยว่าอะไรของเธอนะมันโดนอะไรของฉัน” ฮือออ ไอ้คนหน้าด้านจะพูดทำไม ฉันก้มหน้าเพื่อไม่มองตาสีเทาหม่นคู่นั้น เมื่อร่างสูงเห็นฉันเงียบเขาเลยพูดต่อ
“ถ้ามันตื่น....เธอต้องรับผิดชอบมันด้วย!”
พูดจบเขาก็จับให้ฉันเงยหน้าขึ้นก่อนจะประทับริมฝีปากลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว จากที่ดิ้นฉันก็เปลี่ยนเป็นโอบคอเขาแทน ร่างสูงแนบกายให้ชิดเขามาจนไม่มีช่องว่างให้อากาศหายใจ
ความนุ่มหยุ่นของเรียวปาก เขากำลังบอกฉันถึงความรู้สึกที่ทั้งโหยหา คิดถึง เจ็ดไม่ยอมหยุดเขาลุกล้ำเข้ามาอีกจนเขาเผลอกัดปากฉันเบาๆ กลิ่นคาวเลือดที่คลุ้งไปทั่ว ถูกกลบด้วยรสชาติของจูบลิ้นหนาควานเข้ามากวาดเกี่ยวเก็บความหวานจากปากของฉันจนหมด
“อือ~....จะเจ็ด” ไม่ทันที่จะพูดจบเขาก็ลงมือปิดปากฉันไว้เหมือนเดิม ไม่ปล่อยให้ฉันได้หายใจเก็บตวงอากาศเข้าในปอดให้หมด
เขาไม่หยุดเพียงแค่นั้น ซ้ำยังกดจูบลงที่คอเป็นรอยจ้ำๆ และไล้ลงไปเรื่อยๆ กระดุมเสื้อนิสิตถูกปลดออก2-3เม็ดจนเห็นเนินอกขาวๆของฉัน รวมทั้งบาร์เซียสีดำลูกไม้นั้นอีก -///-
“เจ็ด...พอแล้วนี้มันที่มหา’ลัยนะ” ทันทีที่สติกลับคืนมา ฉันก็ระดมทุบหลังเขาให้ได้สติซะที เขากล้าทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงกัน
“งั้นแสดงว่าที่บ้านฉันเธอก็ไม่ห้ามใช่ไหม?” เจ็ดถามยิ้มๆ ฉันเลยตีเขาไปด้วยความหมั่นไส้
“ไอ้บ้า! -///-”
นานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันไม่ได้คุยแบบนี้กับเขา
เฮ้ยๆ อย่าพึ่งเคลิ้มเชียวนะเอลา นี้มันมหา’ลัยนะ! เอ้ยไม่ใช่! ไม่ว่าที่ไหนก็ห้ามทั้งนั้นละ แถมอีกอย่างคือเราไม่ได้เป็นแฟนกัน ท่องเอาไว้ๆ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน
กรี๊ดดดด!
ทนไม่ไหวกับสายตาคู่นั้นที่มองมา เจ็ดมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นได้ยังไงกันน่ะ! บ้าๆๆๆๆๆๆ
บ้าไปแล้วแน่ๆ
“ถอยไปได้ยัง”
“ไม่”
“ถอย”
“ก็บอกว่าไม่ไง! คนเขาหายไปตั้งอาทิตย์หนึ่งเธอไม่คิดถึงฉันหน่อยหรอไงวะ!”
เราเถียงค้างๆคูๆกันไปมา จนสุดท้ายฉันก็ยอมแพ้เพราะคำว่า ‘คิดถึง’ จากปากของเขา ปากของเจ็ดเถียงส่วนมือเขาก็พยายามติดกระดุมเสื้อของฉันให้เข้าทีเหมือนเดิม
“นี้ถามจริงๆนะเจ็ด”
“…”
“กลับมาทำไม”
“...” เขาเงียบอีกเช่นกัน นี้ฉันรู้สึกว่าคุยกับตึกแล้วนะเนี่ย! เจ็ดถอนหายใจเบาๆ เขาส่ายหัวเหมือนเหนื่อยใจอะไรบ้างอย่าง
“…”
เขามองหน้าฉันก่อนจะเลี่ยงหันไปมองทางอื่น พลางยกมือเก้าหัวแก้เก้อ
“ก็แค่คิดถึงเรื่องของเรา”
“…”
“คิดถึงเธอด้วย แถมยังโครตชอบเธออีก”
“…”
“ถ้าฉันจะจีบเธออีกครั้งนี้ฉันผิดหรือไง!”
ความคิดเห็น