ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Number go รักให้ว่อง คล่องให้ลัก

    ลำดับตอนที่ #4 : [SEVEN REDDY] CHAPTER {3} 100%

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 58


     



















     

     

    CHAPTER {3}



    เฮียบลูเบล



     

                ‘เอล....คิดถึงนะ

                คำพูดนี้นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้ยิน อยากจะฟังอีกครั้ง จากปากคนเดิมมันเป็นไปได้หรือเปล่า???

                ตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ก่อนหลังที่เรากลับมาจากงานถ่ายแบบ ฉันก็ไม่ได้เจอเจ็ดอีกเลย เขาหายหน้าหายตาไปเลย ถามแปดเธอก็บอกว่าเฮียไม่ได้กลับบ้านเลยตั้งแต่งานถ่ายแบบจบ

                เข้าเป็นอะไรรึเปล่านะ?

                เอล!!!”

                คะ....ค่ะ?” ฉันมองหน้าเจ้าของเสียงแบบงงๆ ใบหน้าหล่อๆบวกกับรอยยิ้มขี้เล่นๆ มองฉันอย่างหงุดหงิด เขาเขกหัวทีหนึ่งก่อนกอดอกมองอย่างดุๆ

                เรียกตั้งนานทำไมไม่ฟัง

                ขอโทษค่ะเจ้าของรอยยิ้มมองฉันอย่างเอือมๆ ก่อนจะยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน เขาน่ารักใช่มั้ยละ

                เฮีย เบล หรือชื่อเต็มๆคือ บลูเบล ชื่อแปลกเนอะ =_=;;; เฮียเบลเป็นรุ่นพี่ที่คณะของฉันเองละ เราสนิทกันเหมือนพี่น้องจริงๆ เขาเป็นพี่เทคน้องเทคกับฉันเอง แถมบ้านเราอยู่ข้างๆกัน เลยทำให้เราทั้งคู่สนิทกันมาขึ้น

                เฮียเบลเรียกฉันทำไม ฉันมองหน้าอย่างงงๆ เฮียเบลเห็นดังนั้นเลยยิ้มนิดๆ คงเพราะความน่ารักของฉันเป็นแน่ (หลงตัวเอง)

                เฮียจะถามว่า วันนี้เอลว่างมั้ย?”

                ทำไม ฉันเอ่ยถาม ร่างสูงไม่ตอบแต่เอื้อมมือมาจับฉันไว้ตอนที่เรากำลังจะเดินข้ามถนน  เฮ้ย! เฮียจับมือฉันทำไมเนี่ย โตแล้วข้ามเองได้

                เฮียเป็นห่วง

                -///- ขอบคุณค่ะ!” ฉันเน้นคำแก้เขิน ก่อนจะรีบจ้ำเท้านำเฮียไปให้ไว อายๆๆ เฮียพูดอะไรออกมานะรู้มั้ย!!! ฮือออ ฉันอาย -///-


               

    <Jet Talk>

                เวรฉิบ!

                ผมแม่งโครตหงุดหงิดเลยว่ะไม่รู้ว่าเพราะอะไร เมื่อกี้ผมจอดรถรอสัญญาไฟมีชายหญิงคู่หนึ่งเดินจับมือกันผ่านหน้ารถผมไป พวกเขาดูเหมือนมีความสุข แถมใบหน้าผู้หญิงยังแดงก่ำอย่างกับลูกมะเขือเทศ ผมก็จะไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้าไอ้ผู้หญิงคนนั้นมันไม่ใช่ 

                เอลา

                ผมบ้าไปแล้วแน่ๆเลยว่ะ ตอนนี้ผมเหยียบคันเร่งให้เร็วที่สุดเท่าที่เคยเหยียบมา อยากจะเอารถราคาหลายล้านลูกรักไปชนคู่นั้นให้รู้แล้วรู้รอด

                ยัยนั้นก็เหมือนกัน จำรถผมไม่ได้หรือยังไงว่ะ แม่งเอ๊ย!!! ว่าแล้วผมก็กดโทรศัพท์หาใครสักคน คนที่ผมคิดว่ามันพึ่งได้ที่สุดแล้วในตอนนี้ ใช้เวลาสักครู่ปลายสายก็กดรับ

                ฮัลโหลเฮีย

                [ว่าไง.....]

                พี่ชายที่ไม่ค่อยได้สนิทกันมากเท่าไหร่ทักทาย  ปลายสายตอบกลับด้วยเสียงงัวเงียปนหอบ สงสัยพึ่ง เสร็จ กับหญิงหน้าใหม่มาอีกแล้วละสิ

                พึ่งเสร็จรึไงเฮีย-_-”

                [เสือกรู้ดีกับกูจริง] ปลายเสียงตอบมาด้วยความหงุดหงิด

                เดียวไอ้แปดก็ไม่เอาเฮียหรอก

                [เออ! กูรู้หน้าอย่างกูน้องมึงคงไม่เอา]

                มิน่าละถึงได้หาหญิงมานอนด้วยได้ สงสัยต้องบอก เจ๊สี่ แล้วมั้งว่าเฮียไม่จริงจังกับน้องแปด

                [เงียบปากแล้วบอกมาได้แล้วว่าโทรมาขัดเวลากูนอนทำไม] ฟังจากน้ำเสียงของปลายสายผมรู้เลยทันทีว่าหมอนี้หงุดหงิดแบบสุดๆแล้ว แต่จะให้ทำไงได้ก็คนมันน่าแกล้ง แถมยิ่งเป็นคนที่จีบได้แปด (เด็กประหลาด) แล้วยังเป็นเพื่อนกันเจ๊สี่อีกละก็

    แม่งโครตน่าสนุก

    โอเคยอมแล้วครับ- -;;;” ผมเว้นช่วงเพื่อนึกถึงเรื่องที่จะพูด (ผมลืม) จะเอาผู้หญิงที่ตัวเองบอกเลิกกลับมาหาตัวเองต้องทำยังไง

    [ควายเหมือนไอ้แปดเลย สมแล้วที่เป็นพี่น้องกัน]

    อ้าวเวร ไอ้เฮี้ยนี้เดียวรอตากูก่อนเถอะ จะเอาให้แมร่งลงแดงตายเลย

    [ง่ายๆมันก็แค่.....]

    แค่อะไรพูดให้ดิว่ะ ผมเร่ง

    [จับทำเมีย-.,-] ไอ้นี้แม่งวันๆคิดแต่เรื่องแบบนั้นรึไงว่ะ

    แต่มันก็น่าสนนะ....

    <Jet End Talk>


     
     

    ไม่นานฉันก็มาถึงมหาลัย พร้อมกับเฮียเบล ตอนนี้เราแยกจากกันแล้วเพราะเฮียต้องมีไปประชุมคณะ ฉันเลยนั่งโดดเดียวที่โต๊ะหินหน้าตึก

    เอี๊ยด!

    ไม่ทันที่ฉันจะหันไปตามเสียงรถที่จอดตรงหน้า บางอย่างก็ฉุดให้ฉันเดินตามไป

    ลากฉันมามีอะไรว่ะคีธ์

    ไอ้เบล....แฮ่ก แฮ่ก คีธ์เทียร์หอบเล็กน้อย เธอคงวิ่งมาเหนื่อยๆแน่ๆ ดูจากผมที่ออกจะยุ่งกว่าปกตินิดๆ

    เฮียเบลเป็นอะไร ฉันใจคอไม่ดีเลยที่ยัยคีธ์เทียร์พูดแบบนี้

    ไอ้เบลเข้าโรงพยาบาล

    เฮียเบลเป็นอะไร ฉันเขย่าแขนคีธ์เทียร์แรงๆ

    ช็อกที่ห้องประชุมคณะ เธอเว้นช่วง หมอบอกเพราะโรคเครียดและไม่ยอมกินข้าว

    แล้วปลอดภัยมั้ย ขอให้เขาปลอดภัยด้วยเถอะ ถ้าเฮียเบลไม่อยู่แล้วฉันจะพึ่งใครละ

    ปลอดภัยแล้วๆ เพราะคำตอบนั้นมันทำให้ฉันยิ้มกว้าง

    อือ^ ^”

    โอเค ฉันไปก่อนจะเอลเจอกันเย็นๆ คีธ์เทียร์โบกมือน้อยๆก่อนจะเดินไปที่ตึก ฉันเลยเดินกลับไปที่โต๊ะหินเพื่อจะเอาของที่เผลอวางทิ้งไว้ แต่แล้วก็มีบางอย่างดึงให้ฉันเข้าไปในซอกตึกแคบๆ

    ใบหน้าของฉันและเขาอยู่ใกล้กันจนปลายจมูกของเราสองคนแตะชนกันอย่างแผ่วเบา กลิ่นของน้ำหอมราคาแพงอ่อนๆที่คุ้นเคย เขายังใช้กลิ่นเดิมอยู่สินะ ผมสีน้ำตาลอ่อนปลิวไหวตามสายลมที่พัดมาอย่างเบาๆ

    เขาพึ่งจะโผล่มาหรอ ตั้งอาทิตย์กว่าๆเขาไปไหนมานะ.....

    ดูท่าจะเป็นห่วงมันมากเลยสินะ ไอ้เบลไรนั้น เจ้าของกลิ่นน้ำหอมราคาแพงเอ่ยเสียงต่ำนิ่ง

    พี่ยุ่งอะไรด้วย ฉันตอบเสียงนิ่งเพื่อกลบความกลัวในใจ ฮือT^T เขาทำหน้าตาหน้ากลัวมาเลยอ่ะ

    ไม่ได้อยากจะยุ่งนักหรอกนะ

    เอ้า! ไม่อยากแล้วจะมายุ่งกับฉันทำไมหนักหนา

    งั้นพี่ก็ปล่อยฉันไปสิ ฉันจะไปเยี่ยมเฮียเบล ฉันดิ้นให้พ้นจากพันธนาการของเขา แต่ด้วยความแคบของซอกตึกมันเลยทำให้อะไรต่อมิอะไรของเราทั้งคู่เสียดสีกัน

    อย่าดิ้น เห็นมั้ยว่าอะไรของเธอนะมันโดนอะไรของฉัน ฮือออ ไอ้คนหน้าด้านจะพูดทำไม ฉันก้มหน้าเพื่อไม่มองตาสีเทาหม่นคู่นั้น เมื่อร่างสูงเห็นฉันเงียบเขาเลยพูดต่อ

    ถ้ามันตื่น....เธอต้องรับผิดชอบมันด้วย!”

    พูดจบเขาก็จับให้ฉันเงยหน้าขึ้นก่อนจะประทับริมฝีปากลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว จากที่ดิ้นฉันก็เปลี่ยนเป็นโอบคอเขาแทน ร่างสูงแนบกายให้ชิดเขามาจนไม่มีช่องว่างให้อากาศหายใจ

    ความนุ่มหยุ่นของเรียวปาก เขากำลังบอกฉันถึงความรู้สึกที่ทั้งโหยหา คิดถึง เจ็ดไม่ยอมหยุดเขาลุกล้ำเข้ามาอีกจนเขาเผลอกัดปากฉันเบาๆ กลิ่นคาวเลือดที่คลุ้งไปทั่ว  ถูกกลบด้วยรสชาติของจูบลิ้นหนาควานเข้ามากวาดเกี่ยวเก็บความหวานจากปากของฉันจนหมด

    อือ~....จะเจ็ด ไม่ทันที่จะพูดจบเขาก็ลงมือปิดปากฉันไว้เหมือนเดิม ไม่ปล่อยให้ฉันได้หายใจเก็บตวงอากาศเข้าในปอดให้หมด

    เขาไม่หยุดเพียงแค่นั้น ซ้ำยังกดจูบลงที่คอเป็นรอยจ้ำๆ และไล้ลงไปเรื่อยๆ กระดุมเสื้อนิสิตถูกปลดออก2-3เม็ดจนเห็นเนินอกขาวๆของฉัน รวมทั้งบาร์เซียสีดำลูกไม้นั้นอีก -///-

    เจ็ด...พอแล้วนี้มันที่มหาลัยนะ ทันทีที่สติกลับคืนมา ฉันก็ระดมทุบหลังเขาให้ได้สติซะที เขากล้าทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงกัน

    งั้นแสดงว่าที่บ้านฉันเธอก็ไม่ห้ามใช่ไหม?” เจ็ดถามยิ้มๆ ฉันเลยตีเขาไปด้วยความหมั่นไส้

    ไอ้บ้า! -///-”

    นานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันไม่ได้คุยแบบนี้กับเขา   

    เฮ้ยๆ อย่าพึ่งเคลิ้มเชียวนะเอลา นี้มันมหาลัยนะ! เอ้ยไม่ใช่! ไม่ว่าที่ไหนก็ห้ามทั้งนั้นละ  แถมอีกอย่างคือเราไม่ได้เป็นแฟนกัน ท่องเอาไว้ๆ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน

    กรี๊ดดดด!

    ทนไม่ไหวกับสายตาคู่นั้นที่มองมา เจ็ดมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นได้ยังไงกันน่ะ! บ้าๆๆๆๆๆๆ

    บ้าไปแล้วแน่ๆ

    ถอยไปได้ยัง

    ไม่

    ถอย

    ก็บอกว่าไม่ไง! คนเขาหายไปตั้งอาทิตย์หนึ่งเธอไม่คิดถึงฉันหน่อยหรอไงวะ!”

    เราเถียงค้างๆคูๆกันไปมา จนสุดท้ายฉันก็ยอมแพ้เพราะคำว่า คิดถึง จากปากของเขา ปากของเจ็ดเถียงส่วนมือเขาก็พยายามติดกระดุมเสื้อของฉันให้เข้าทีเหมือนเดิม

    นี้ถามจริงๆนะเจ็ด

    “…”

    กลับมาทำไม

    ... เขาเงียบอีกเช่นกัน นี้ฉันรู้สึกว่าคุยกับตึกแล้วนะเนี่ย! เจ็ดถอนหายใจเบาๆ เขาส่ายหัวเหมือนเหนื่อยใจอะไรบ้างอย่าง

    “…”

    เขามองหน้าฉันก่อนจะเลี่ยงหันไปมองทางอื่น พลางยกมือเก้าหัวแก้เก้อ

    ก็แค่คิดถึงเรื่องของเรา

    “…”

    คิดถึงเธอด้วย แถมยังโครตชอบเธออีก

    “…”

    ถ้าฉันจะจีบเธออีกครั้งนี้ฉันผิดหรือไง!”







     



     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×