ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Number go รักให้ว่อง คล่องให้ลัก

    ลำดับตอนที่ #19 : [TEN REDDY] CHAPTER {5} & THE END 120%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 109
      0
      18 ก.พ. 58





     

    CHAPTER {5}



    Prince and Princess


              ฉันนั่งอยู่บนรถของพี่ราชันย์ ตอนนี้มันกำลังวิ่งอยู่บนทางด่วน ฉันบอกให้พี่ราชันย์พากลับบ้านแต่เขากลับไม่ยอมพากลับ แถมยังพาไปที่ไหนสักแห่งด้วย ไม่นานนักการเดินทางของเราก็มาหยุดอยู่ที่ตีนเขาแห่งหนึ่งแถบภาคเหนือ 

    พี่พาฉันมาทำไม

    พี่แค่อยากรู้ความรู้สึกของสิบ พี่อยากรู้...จริงๆ พี่ราชันย์เลื่อนสายตาที่ยากจะคาดเดามามองฉัน เราสบตากันอย่างเนิ่นนาน ฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่ายที่ดังกังวานอยู่

    คือ...

    มัน หรือ พี่ เขาพูดอย่างช้าๆ และเน้นๆ ราวกับให้ฉันคิดให้ดีก่อนที่จะตอบคำถามของเขาออกไป ไม่ตอบไม่กลับ

    พี่ราชันย์พูดอย่างเด็ดขาด เขาจะมาเค้นเอาคำตอบอะไรกับฉัน ความรู้สึกของฉัน...ถ้าฉันตอบว่าฉันไม่รู้ละ

    ถ้าฉันตอบว่าไม่รู้เขายังจะต้องการคำตอบจากฉันอีกรึเปล่า

    คิดดีๆสิบ...

    “…”

    มันหรือพี่ คนที่เธอมีความสุขเวลาอยู่ด้วย เธอคิดให้ดีๆ ที่ผ่านมาใครดูแลเธอดีกว่ากัน ใครทำให้เธออยากอยู่ด้วย

    “…”

    ระหว่างที่พี่ไปอเมริกามันเป็นช่วงเวลาๆหนึ่งที่พี่รู้ว่าพี่ทำให้ระยะห่างของเราเพิ่มขึ้น และทำให้ใครบางคนแทรกเข้ามาในใจเธอแทนพี่

    “…”

    มะรืนนี้พี่จะไปอเมริกา 3ปี ถ้าเธอเลือกพี่พี่อยากจะพาเธอไปอยู่กับพี่ที่นั้น เรื่องนี้พี่ปรึกษากับพ่อเธอแล้ว และเขาตกลง

    “…”

    ว่ายังไงละ

    ตะตอบไงดี... อะไรกัน ทำไมมันเร็วอย่างนี้ละ ฉันยังไม่ทันจะคิดอะไรเลยนะ ฉันเลื่อนสายตาขึ้นจากพื้นมองหน้าเขา มองริมฝีปากของเขา มองจมูกของเขา มองดวงตาของเขา พี่ราชันย์กุมลือของฉันแน่นขึ้น เขาบีบมันเบาๆราวกับเหมือนเตือนสติ

    ฉัน...ถ้าฉันบอกว่าไม่รู้ละ

    ทำไมจะไม่รู้! ที่จริงคำตอบของเธอมันก็ชักเจนอยู่แล้ว...

    “…”

    เพราะเธอร้องไห้ เพียงคำนั้นฉันถึงได้รู้สึกถึงความเปียกแฉะบนหน้า มันคือน้ำตาสินะ ไหลมาตอนไหนกัน

    แค่เพียงระยะสั้นๆ ฉันไม่มีทางชอบพี่ซันหรอกคะ ฉันก็ต้องเลือกพี่อยู่แล้วสิ ฉันยิ้มให้พี่ราชันย์ ทั้งที่ฉันน่าจะมีความสุขแท้ๆ ฉันจะได้ไปอยู่กับพี่ราชันย์ ฉันจะได้เป็นเจ้าสาวของเขาเหมือนที่ฉันหวังเอาไว้ แต่ทำไมละ...

    ทำไม

    เพียงระยะสั้นๆเธอก็สามารถที่จะชอบมันได้ เหมือนพี่ไง พี่ชอบเธอตั้งแต่เราเจอกันครั้งแรก

    นั้นสินะ... แค่เพียงระยะสั้นๆเราก็สามารถที่จะชอบคนๆหนึ่งได้โดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิด

    เช่นเดียวกับมัน พี่เป็นผู้ชายพี่มองออก ว่ามันชอบเธอมาแค่ไหน แค่พริบตาเดียวความเศร้าหมองที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนฉายฉัดบนแววตาคู่นั้น ก่อนที่มันจะกลับเป็นแววตาที่เรียบนิ่งและไม่มีความรู้สึกอยู่

    แต่เราอายุห่างกัน...

    เหมือนพี่กับเธอ

    แต่ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉัน... ฉันจะไปกับพี่ ฉันจะไปอเมริกา

    อย่าเสียใจในสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจไปแล้วนะสิบ เพราะทุกอย่างมันไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรอกนะ

    ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงมีแต่ทนและยอมรับสินะ การตัดสินใจของฉันครั้งนี้มันอาจจะเป็นการวัดความในใจของฉันถึงผลที่ออกมามันอาจจะทำให้ฉันเจ็บก็ตามที

    ฉันจะได้เป็นว่าที่เจ้าสาวของพี่เชียวนะ ไม่มีทางหรอก

    ครับ เรากลับกันได้แล้วละ

    ไม่รู้ทำไม...ทำไมบรรยากาศมันถึงได้หม่นหมองขนาดนี้นะ

     
     

    สองวันต่อมา

    วันออกเดินทาง

    ฉันนั่งอยู่ที่ห้องรับประทานอาหารที่มีพวกพี่น้องครบพร้อมหน้าพร้อมตาทุกคน เมื่อคืนเรามีปาร์ตี้จัดเลี้ยงส่งฉัน และวันนี้ทุกคนก็พร้อมใจกันที่จะไปส่งฉันยันถึงสนามบินแต่ฉันบอกให้พวกเขาไม่ต้องไปเพราะคงจะมีศึกน้ำตาหนองเป็นแน่ ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อนที่พี่ราชันย์ไปส่งฉันที่บ้านแล้วหลังเรากลับเขาอะไรสักอย่าง = =;;; พี่ราชันย์ก็ไม่มาให้ฉันเห็นเลย จนถึงตอนนี้

    พร้อมแล้วใช่มั้ย

     พี่ราชันย์เดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร เขาโค้งทักทายพี่น้องฉันทุกคนก่อนจะหันมายิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยนแบบที่เขาชอบทำ ไม่ได้เจอกันตั้งสองวันฉันคิดถึงเขาจัง

    คะ ไปกันเลยไหมคะ

    อืม ไปสิ เขาเดินมาหิ้วกระเป๋าฉันไปถือก่อนจะเดินนำฉันไปยังรถของเขา

    โชคดีที่วันนี้รถไม่ได้ติดนักเราเลยไปถึงก่อนเวลาขึ้นเครื่องเกือบชั่วโมง ดูเหมือนวันนี้พี่ราชันย์ดูกะวนกะวายเป็นพิเศษ เขาเอาแต่มองนาฬิกาข้อมือทุกเกือบ 10นาที ราวกับว่าเขากำลังรอบางอย่างอยู่

    อีกไม่ถึง 10นาทีก็ต้องขึ้นเครื่องแล้ว ช้าชิบ!” เขาสบถออกมา

    พี่รออะไรหรอคะ ฉันถามเขาด้วยความที่อดสงสัยไม่ได้

    ไม่มีอะไรหรอก ไปกันเถอะ ฉันเดินตามพี่ราชันย์ไป แต่ไม่ทันที่จะก้าวขา แขนของฉันก็ถือคว้าด้วยอะไรบางอย่างก่อนที่ตัวฉันจะหมุนตามแรงไป ดวงตาของฉันเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนริมฝีปากของฉันจะถูกประกบด้วยริมฝีปากที่อ่อนนุ่มราวกับสายตา เขาบดขยี้ริมฝีปากฉันอย่างรุนแรงฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นความเลือดที่คละคลุ้งอยู่ในปาก ก่อนที่มันจะถูกผละออก
     

    นึกว่าจะไม่ทันแล้วสักอีก เสียงทุ้มต่ำปนเสียงหอบเหนื่อยที่ฉันคุ้นเคย กลิ่นน้ำหอมของผู้ชายที่ฉันคุ้นเคย ไม่ต้องมองฉันก็รู้ว่าใคร

    พี่มาทำไมอะไรที่นี้!” ฉันมองหน้าพี่ ซันคิว สลับกับพี่ราชันย์อย่างสงสัย พี่ราชันย์มองหน้าฉันจากนั้นก็คลี่ยิ้มออกมา เขาเดินมาหาฉันอย่างช้าๆ

    โชคดีนะ พี่อยากเห็นเธอมีความสุขมากกว่า เขายิ้ม

    หมายความว่ายังไง ฉันมองหน้าเขาอย่างสงสัย

    พี่อยากเห็นเธอมีความสุข แล้วพี่ก็มั่นใจว่ามันจะต้องดูแลเธอดีไม่แพ้พี่แน่นอน เขายิ้มให้ฉัน หลังจากนั้นพี่ราชันย์ก็หันไปหาพี่ซันคิวที่ยืนฟังการสนทนาของเราเงียบๆหวังว่ามึงจะดูแลได้

    แน่นอน กูดูแลได้อยู่แล้ว ครั้งนั้นที่ภัตตาคารมึงก็เห็น

    อืม เห็น

    หะ...ห๊า! ที่ภัตตาคารวันนั้นนะหรอ เห็นได้ไงละ

    ดูแลเธอให้ดีๆ ถ้ากูรู้ว่ามึงทำให้เธอเสียใจ กูจะกลับมาแย่งของๆกูคืน ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร พี่ราชันย์กันมาพูดกับฉันก่อนจะเดินไปเช็คอินขึ้นเครื่องพี่ไปนะ แล้วเจอกัน

    เราไปหาที่คุยกันเงียบๆไหม พี่ซันคิวคว้ากระเป๋าของฉันไปถือซะเอง มือหนาที่อบอุ่นของเขากุมมือฉันไว้ เขาพาฉันไปยังรถของเขาที่จอดอยู่ไม่ไกล

    พี่รู้ได้ยังไงกัน

    เมื่อวานนี้มันไปหาพี่ที่คอนโด

    แล้วยังไงต่อหรอ พี่ชันย์คุยอะไรกับพี่หรอ

    มันต่อยก่อนจะสิแล้วค่อยคุย จริงด้วยสิถ้าพี่ซันไม่พูดฉันก็คงไม่สังเกตแผลช้ำที่มุมปากของเขา  มันไม่ใช่แผลใหญ่อะไรมากมาย แต่ก็บวมอยู่เหมือนกัน

    เจ็บมั้ย ไหวกว่าความคิด นิ้วเรียวของฉันก็ลูบแผลที่มุมปากของเขาอย่างแผ่วเบา พี่ซันมองฉันอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาสักเท่าไหร่ มือหน้าจับมือฉันขึ้นก่อนจะริมฝีปากหนานั้นจะประทับลงมาอย่างแผ่วเบา เขาทำอย่างนั้นอีกครั้ง...และอีกครั้ง

    พี่รักเธอนะ

    แค่เพียงคำเดียวที่ทำให้หัวใจของฉันพองโตขึ้นอย่างน่าตกใจ มันเต้นไม่เป็นส่ำ น้ำตาแห่งความดีใจที่ไหลออกมาอย่างหักห้ามไม่ได้ ฉันมองแววตาของเขาถึงแม้เขาจะไม่ได้มองมันตอบเพราะต้องใช้สมาธิอยู่กับการขับรถ แต่ฉันรู้ว่าเขากำลังต้องพยายามเหล่มองอยู่แน่

    น้องสิบรักพี่ซันคิวคะ เขายิ้มอย่างดีใจเมื่อฉันพูดคำๆนั้น คำที่เขาต้องการจะได้ยินมันตลอดมาตั้งแต่เรารู้จักกัน

    นี้รู้มั้ยว่าพี่ชอบเราก่อนที่เราจะเจอกันที่บ้านของเธอ พี่เห็นเธอยืนรอใครสักคนอยู่หน้าโรงเรียนในวันหนึ่ง พี่ชอบเธอมากเลยพี่ก็เลยแอบมามองเธอที่หน้าโรงเรียนตลอดทุกๆวัน

    อ้อ! ไอ้ที่ฉันรู้สึกว่าโดนถ้ำมองอยู่คือพี่สินะ

    จนพี่ได้ไปเจอเธออยู่ที่บ้านของสี่ ตอนแรกพี่คิดว่าเธอจะเป็นแฟนใครสักคนในนั้น แต่พี่มารู้จากไอ้สี่ว่าเธอเป็นน้องสาวที่ไม่ค่อยได้ออกงานเหมือนคนอื่นๆ พี่ก็เลยคิดว่าพี่จะจีบเธออย่างจริงๆจังๆ

    พี่คิดว่าฉันเป็นแฟนพี่ราชันย์ด้วยสินะคะ

    มันบอกเธอหรอ

    คะ พี่ราชันย์บอกว่าพี่ซันนะโง่ แค่นี้ก็ดูไม่ออกแล้วจะมาดูแลฉันได้ยังไง พี่ซันคิวมองฉันเป็นนัยๆว่า ทำไมต้องพูดตามมันทุกประโยคด้วย

    นั้นสินะ จนเกือบจะเสียเธอไปพี่ก็ยังไม่รู้ว่าเธอยังโสด แถมยังชอบพี่อีกต่างหาก

    แสดงว่าพี่โง่เหมือนที่พี่ราชันย์บอกจริงๆสินะ ฉันหัวเราะอย่างสะใจ แต่ก็ต้องหยุดเมื่อพี่ซันคิวสยบฉันด้วยคำพูด

    เป็นแฟนกันนะ

    ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!

    อะไรกันเสียงหัวใจของฉันมันดังขนาดนี้เลยหรอ... เขาต้องได้ยินมันแน่ๆ อายซะมัด!!!

    อะอืม...

    อะไรนะ พี่ไม่ได้ยินเลย ฉันรู้ว่าเขาแกล้งให้ฉันพูดดังๆ - -;

    ไม่รู้ละ ฉันไม่รักพี่แล้ว!” ฉันยู่ปากใส่และเมินเขาโดยการหันหน้าหนีไปมองข้างทางแทน ที่จริงฉันเขินมากกว่านะ

    อะไรน่ะ! อย่าขี้โกงแบบนี้สิ

    คนกินเด็กแบบเขานะ ต้องเจออย่างฉันนี้สิถึงจะเหมาะ


     

     

     

    บทส่งท้าย

    -ราชันย์-

    ดูแลเธอให้ดี

    หึ! ผมได้แต่ยิ้มสมเพศด้วยเอง ชอบเธอมาตลอด รักเธอมาตลอดแต่สุดท้ายคนที่จะได้ดูแลเธอตลอดกลับไม่ใช่ผม เมื่อวานผมไปหาไอ้ซันคิวที่คอนโดมัน ผมคุยกับมันเรื่องเธอ ทั้งที่ผมรู้เรื่องมาตลอดว่าใจของเธอตอนนี้ไม่ได้มีผมแล้ว

    นี้หรอความรู้สึกที่ว่า อกหัก น่ะ เจ็บดีนะ

    เกิดมาจนอายุจะ 30ยังไม่เคยอกหักสักครั้ง

    ผมเตรียมไว้นานแล้วสำหรับการปล่อยมือจากเธอไปแบบนี้ ผมจะยอมเป็นฝ่ายเจ็บถ้าเธอคนนั้นมีความสุข ผมมองพื้นถนนที่เริ่มไกลขึ้นเรื่อยๆจนมันกลายเป็นเหมือนขีดเล็กๆและหายไป ปุยเมฆสีขาวสะอาดที่ร่องรอยอย่างอิสระ...

    อยากจะจับมันดูสักครั้ง

    ความจริงแล้วผมมีบางอย่างที่ยังไม่ได้บอกเธอ การกลับไปครั้งนี้ผมไม่ได้ไปทำงานและรักษาแผลใจอย่างเดียว แต่แค่ผมต้องไปเจอคนๆหนึ่งที่จะต้องมาแทนสิบ คนๆนั้นคือ...

    คู่หมั้น

    ใช่! ผมมีคู่หมั้นแล้ว หลังจากที่ผมกลับประเทศไทยไปได้ไม่กี่วันผมก็พึ่งรู่ว่าผมถูกจับหมั้นกับสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกา และยังเป็นเชื้อราชวงศ์เหมือนผมอีก ผมเลยปฏิเสธไม่ได้ และจะให้สิบรู้เรื่องนี้ไม่ได้เช่นกัน

    ถ้าผมไม่ยกเธอให้ซันคิวผมอาจจะไม่ต้องหมั้นกับยัยผู้หญิงคนนั้นก็ได้ แต่มันคงจะเป็นการทำร้ายสิบมากเกินไป ผมเลยอยากให้สิบมีความสุขและให้ตัวผมเองไปเผชิญหน้ากับยัยนางมารที่ไหนก็ไม่รู้แทน  ผมเห็บรูปเธอแล้ว ถึงจะเป็นเพียงภาพถ่ายครึ่งหน้าก็ตาม เธอมีดีแค่สวย แต่ความน่ารักที่เหมือนสิบผมให้ติดลบ...

    เจ้าหญิง

    นี้คือชื่อคู่หมั้นของผม ถึงแปลกดีแถมยังเป็นคำที่ผมใช้เรียกยัยเจ้าหญิงน้อยของผมด้วยสิ อะไรจะบังเอิญจนน่าตกใจขนาดนี้นะ ฟ้าแกล้งชัดๆแต่ผมจะจำเอาไว้ว่ายัยชื่อเหมือนจะเป็นคนที่ทำให้ผมลืมคนอีกคนได้ คนที่ผมจะไม่มีวันลืม...

    ถ้าผมได้บอกเธอก็คงดี ว่าผมรักเธอมากแค่ไหน

    ถ้าได้พูดออกไปสักครั้งก็คงจะดี แค่อยากให้เธอคนนั้นได้ยินสักครั้งหนึ่ง...

    ราชันย์รักสิบ



    --------------------------------------------------- TEN: THE END ---------------------------------------------------





     



     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×