ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Hikaru no go] เมื่อผมได้มาโลกการ์ตูน

    ลำดับตอนที่ #1 : ก็แค่คนหนึ่งๆ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.61K
      94
      9 มี.ค. 59

      
       "อาจารย์ฮามาอิครับ ช่วยชี้แนะผมด้วยครับ" เสียงของชายวัย40กว่าๆกล่าวกับคนอายุน้อยกว่าอย่างนอบน้อม มันคงเป็นอะไรที่ตลกถ้าคุณเห็นเหตุการณ์นี้ข้างนอกแต่ว่า...สำหรับวงการนี้แล้วนั้น มันเป็นอะไรที่ปกติมากๆ


       ใช่แล้ว...



               วงการนี้คือวงการหมากล้อมหรือโกะนั่นเอง


       
        ชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของชื่อหันไปมองคนที่ให้ตัวเองชี้แนะก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ทางด้านผู้ที่ขอร้องให้เล่นด้วยก็ถึงทำหน้าเหมือนตนถูกล็อตเตอรี่ที่ 1 ก็ไม่ปาน เขาไม่ลืมกล่าวด้วยความดีใจว่า

        "ขอบใจนะครับ"

             





        หลังจากที่เล่นกันเพียงแค่ 10 นาที กระแสของเกมก็ได้ไปอยู่กับชายหนุ่มที่ดูท่าว่าจะอายุน้อยกว่า ชายหนุ่มคนนี้เวลาลงหมากแต่ล่ะครั้งนั้นเขาแทบจะไม่ต้องคิดแถมยังไร้ช่องโหว่ ทำให้คนที่เล่นด้วยถึงกับเหงื่อแตกพลั่กทั้งๆที่พวกเขากำลังเล่นอยู่ในสมาคมโกะที่แอร์เย็นมากๆ

       "ผมแพ้แล้วครับ" ชายอายุมากกว่ากล่าวอย่างจำยอม เขาไม่เห็นทางที่จะชนะบุคคลตรงหน้าได้เลย

       "ตรงนี้ยังพอเล่นได้อยู่..." เสียงนิ่งๆของคนตรงหน้าทำให้ฝ่ายแพ้ถึงกับดีใจเพราะว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ค่อยจะเป็นพวกชอบปริปากพูดสักเท่าไหร่และแม้จะเป็นอย่างนั้นชายคนนี้ก็ยังเป็นอัจฉริยะที่ 1,000 ปีจะมีสักคน

       'ฮามาอิ คิโตะ' ชายหนุ่มที่วัยเพียง10ปี ก็สามารถสอบเป็นมืออาชีพได้แต่มาสอบเมื่อตอนอายุ 24 เพราะเรียนแพทย์ ตั้งแต่ที่เข้าสู่วงการมืออาชีพก็ชนะหมากล้อมทุกตาที่เขาเพิ่งเป็นขึ้นสู่จุดสูงสุดเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาเพราะว่าเขาเรียนคณะแพทย์ศาสตร์ซึ่งงานเยอะและการเรียนก็ยากมากๆเลยไม่ได้มาสอบและยังไม่พอเขาได้ข่าวอีกว่าอีกฝ่ายนั้นก็เล่นเกมกระดานทุกชนิดได้ทั้งหมดโดยไม่เคยแพ้ใครเช่นเดียวกับเล่นโกะ

       ผมเงยหน้ามองชายวัยกลางคนตรงหน้านิ่งๆ ดูเหมือนว่าชายคนนี้กำลังคิดอะไรเกี่ยวกับผมอยู่แน่ๆ เห็นได้จากสายตาที่จ้องมองอย่างชื่นชมนั้น แต่ว่าเขาต้องกลับไปทำอาหารให้น้องๆคงจะอยู่นานไม่ได้ คิโตะคิดพร้อมกับมองนาฬิกาข้อมือสีดำของตน

      "เดี๋ยวผมจะบอกจุดที่วางหมากที่เสียเปล่าให้ทางเมลล์นะครับ..."

       คิโตะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบเช่นเคยก่อนจะกล่าวขอบคุณที่อีกฝ่ายเล่นด้วยกันอย่างเป็นมารยาทของการเล่นโกะแล้วเดินออกจากสมาคมเพื่อไปซื้ออาหารให้น้องๆทันที

       พ่อและแม่ของเขาเสียไปตั้งแต่เขาอายุได้ 14 ขวบ ที่เขามาเล่นโกะก็คงเป็นเพราะวันนั้น...


       "คิโตะ สุขสันต์วันเกิดอายุ 9 ขวบนะจ้ะ" คุณแม่ของเขากล่าวขึ้นในวันเกิดของเขา ซึ่งมีการจัดงานใหญ่โต บางทีเขาก็สงสัยว่าทำไมต้องทำไมต้องตอนอายุ 9 ขวบ เขาก็เลยถามคุณแม่ซึ่งคุณแม่ก็บอกว่าที่ประเทศของแม่นั้นเลข 9 ถือเป็นเลขมงคล

        "ลูกพ่อโตขนาดนี้แล้วหรอเนี่ยนะเนี่ย"พ่อพูดพร้อมกับลูบหัวของเขาด้วยความเอ็นดูก่อนจะให้หนังสือเขาเล่มหนึ่งมันเป็นหนังสือเกี่ยวกับ...

          เกมกระดานทุกชนิด

       "ขอบคุณนะฮะพ่อ" เขาในตอนนั้นดีใจมากที่ได้ของขวัญจากคุณพ่อที่ไม่ค่อยกลับมาบ้านเพราะพ่อเขาเป็นนักแสดงดังก็กอดพ่อด้วยแขนเล็กๆของตัวเอง

       "แม่ก็มีของจะให้นะ บู่ๆ"คุณแม่ทำหน้างอนๆใส่ผมกับพ่อก่อนจะยกอะไรบางอย่างให้ผม

          
        กระดานโกะแบบมีขาตั้ง

       "ขอบคุณนะฮะ ฮึกๆฮือ~" เขาที่เมื่อก่อนเป็นคนที่ขี้แยก็ดีใจมากจนร้องไห้ทำให้ต้องลำบากให้พ่อแม่มาปลอบกันยกใหญ่







        หลังจากวันนั้นผมก็เล่นเกมกระดานทุกชนิดโดยเฉพาะโกะมาตลอดและด้วยความที่พ่อแม่เขาไม่มีคนไหนที่เล่นเป็นเลยทำให้เขาต้องเล่นกับคอมพิวเตอร์โดยเขานำหมากดำ-ขาวมาวางไว้บนกระดานโกะแบบมีขาตั้งแล้วกดเล่นในคอม

         ผมแพ้ไป 5 กระดาน

         หลังจากนั้นก็ชนะมาตลอดและเกมกระดานอื่นๆผมก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ช่วงแรกๆที่ชนะผมดีใจมากๆเลยเล่นจนพ่อแม่เป็นห่วง

         วันที่เขาได้รู้ว่าพ่อแม่เสียแล้วในใจเขาก็รู้สึกบีบรัดอย่างแรง พ่อแม่ของเขาไปซื้อของกินให้ในวันนั้นและประสบอุบัติเหตุ... ตอนนั้นเขารู้สึกสับสน เขาไม่รู้ว่าเขาจะเลี้ยงดูน้องๆแฝดสามได้ยังไง แต่ในใจผมเรียกให้ผมสู้เพื่อน้อง

         'เราต้องดูแลน้องให้ดีที่สุด!'

         ด้วยเพราะพ่อแม่ไม่มีญาติเลยสักคนทำให้เด็กอายุ 14 ปีตัวคนเดียวต้องเลี้ยงดูน้องของตัวเอง เขายังจำได้ดีว่าตอนนั้นเขาต้องหางานทำทุกๆอย่างไม่ว่างานอะไรงานก็จะทำ ยกเว้น งานที่ทำให้คนอื่นลำบาก

         การเรียนก็ตั้งใจมากๆเวลาทำงานก็จะแยกประสาทสัมผัสท่องวิชาที่เรียนไปด้วยมันทำให้เขาได้คณะที่ตัวเองหวังไว้และงานพิเศษก็ทำให้เขามีหลายความสามารถ ช่วงแรกๆลำบากก็จริงแต่พอชินแล้วเขาก็รู้สึกสนุกกับงานพิเศษพวกนั้น

         "650 บาทค่ะ" 

         เสียงพนักงานร้านซูเปอร์มาร์เก็ตทำให้ร่างสูงที่กำลังคิดถึงวันวานสะดุ้งตัวแต่เขาก็ไม่ลืมพยักหน้าแล้วล้วงเงินส่งให้พนักงาน

         "ขอบคุณค่ะ โอกาสหน้ามาใหม่นะคะ"

          




         
          เบื้องหน้าเขาตอนนี้ก็คือบ้านทรงญี่ปุ่นในประเทศไทยซึ่งก็คือบ้านของเขากับน้องๆนั่นเอง 

          'เป็นบ้านที่เรากับพ่อแม่ช่วยกันสร้างขึ้นมา...' ร่างสูงคิดในใจเงียบๆ

          "พี่ฮะมาแล้วหรอ?/x3" เสียงน้องๆที่น่ารักของผมดังขึ้นเรียกให้ผมหันไปมองด้วยความเอ็นดู

          "อื้ม วันนี้กินสุกี้กันนะ" ผมก็ไม่ลืมตอบน้องๆไป เขาไม่ลืมหรอกว่าน้องๆเขาชอบกินสุกี้กันขนาดไหน

          "เย้~/x3" เสียงดีใจที่ดังลั่นของเหล่าแฝดสามตัวป่วนประจำบ้านเรียกสายตาคนข้างๆบ้านหันมามอง

           ผมขำน้อยๆกับปฎิกิริยาดีใจแบบสุดๆของน้องๆก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านที่เป็นเหมือนสายใยของพ่อแม่ที่บอกว่า'ท่านยังคอยมองพวกเราเสมอ'

           ติ้ดๆ

          "ครับ?" 

          "คุณหมอคะ มีเคสตอน 4 ทุ่มนะคะ"

          "อืม"

          และผมก็วางสายไป ดีที่น้องๆไม่ได้ยินเพราะตอนนี้ผมทำอาหารอยู่ที่ห้องครัวซึ่งค่อนข้างไกลจากห้องอาหาร 

          'น้องๆยิ่งไม่ยอมให้ออกจากบ้านตอนกลางคืน...'

          

          
         "เสร็จแล้วล่ะ"

        เสียงของพี่ใหญ่ของบ้านเรียกสายตาแฝดสามที่ตอนนี้กำลังเล่นไพ่กันอย่างสนุกสนาน 

         "พี่ฮะ แปปนึงนะฮะ" 'อ๊อตโต้'พี่คนโตของแฝดสามพูดขึ้นโดยไม่ละสายตาไปจากไพ่ของตน

         "แปปเดียวฮะ" 'พารา'แฝดคนเล็กสุดก็เอ่ยขึ้นอย่างรีบเร่ง

         "พี่ลองทำเสียงของผู้หญิงให้ฟังได้ไหมฮะ?" 'เมต้า'แฝดคนรองพูดขึ้นมาพร้อมทำสายตาวิบวับ

         "เอาสิ เอาเสียงของใครล่ะ?" พี่โตสุดของบ้านก็ถามน้องของเขาด้วยแววตาที่เจือปนความขบขันกับหน้าตาของน้องตอนนี้

         "โถ่! นายชนะแล้วก็พูดได้สิ" เสียงอ๊อตโต้กับพาราดังขึ้นพร้อมกันสมกับความเป็นฝาแฝด

         "ก็นะ...เอาเสียงคนนี้ครับxxxxx" เมต้าทำท่ายักไหล่กับเเฝดของตัวเองก่อนจะไปพูดกับพี่ของตน

         ผมเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเสียงตัวเอง มันเป็นความสามารถพิเศษที่สามารถเปลี่ยนเสียงตัวเองให้กลายเป็นเสียงคนอื่นได้เพียงแค่ฟังเพียงแค่ครั้งเดียวซึ่งเขาได้มาจากการฝึกตอนทำงานพิเศษ

        "เป็นยังไงบ้าง?" เสียงหวานเจี๊ยบดังออกมาจากพี่ใหญ่ของบ้านเรียกให้เหล่าแฝดสามหันมามองด้วยความประทับใจ

        "พี่เก่งเหมือนเดิมเลยนะฮะ ผมฟังกี่รอบก็อดทึ่งไม่ได้..." พาราเอ่ยอย่างภูมิใจที่พี่ตัวเองมีความสามารถ
      
        "ยิ่งตอนที่แปลงโฉมแล้วเนี่ย..." อ๊อตโต้เอ่ยต่อจากแฝดคนน้อง

        "ยิ่งทำให้ตกใจ" เมต้าพูดต่อจากพี่ชายของตัวเอง พอกล่าวจบเหล่าแฝดสามก็ขำพร้อมกัน เรียกสีหน้าเอือมระอาของมิโตะ

        "มากินข้าวกันได้แล้ว ก่อนที่พี่จะโกรธ"

        ร่างสูงกล่าวพร้อมกับทำท่าทางว่า'จะโกรธแล้วนะ'เรียกเสียงหัวเราะของน้องๆได้เป็นอย่างดี







         "...และก็จบอย่างมีความสุข"

         เฮ้อ น้องเรานอนได้สักที กว่าจะทำให้นอนได้ตอน 3 ทุ่มนี่ลำบากเอาการเลย ตอนนี้ผมเพิ่งจะเล่านิทานให้น้องๆฟังจบ น้องผมไม่รู้เป็นอะไรชอบให้ผมเล่านิทานทุกวันและผมก็

         'เล่านิทานด้วยเสียงของแม่'

         และด้วยความที่พ่อเป็นนักแสดงเลยทำให้เขาสามารถเปลี่ยนหน้าตาเป็นยังไงก็ได้และก็สามารถเปลี่ยนสีหน้าได้อย่างไร้ที่ติ แต่ว่า เขาจะทำอย่างนั้นเฉพาะเวลาอยู่กับคนอื่นเท่านั้น

         "ฝันดีนะน้องพี่"

         คิโตะเอ่ยกับน้องเบาๆก่อนจะห่มผ้าห่มแล้วจัดท่าให้น้องนอนสบายมากขึ้น ร่างสูงค่อยๆเดินไปที่รถและรีบตรงไปที่โรงพยาบาล

         




         "ขอบคุณนะครับที่ช่วยลูกสาวของผมไว้"

         เสียงชายหนุ่มอายุวัยประมาณเท่าๆกับเขาแต่ดูจะน้อยกว่าเอ่ยด้วยความปลื้มปิติ เขายิ้มให้ชายคนนี้ก่อนจะกล่าวคำพูดที่ดูเหมือนจะติดปากไปซะแล้ว

         "ไม่เป็นไรครับเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว"

         "ขอบคุณมากๆเลยนะครับที่ไม่คิดเงิน คุณหมอเป็นคนที่มีพรสวรรค์แล้วก็ใจดีมากๆเลย" ชายคนนี้พูดพร้อมจะพยายามเอาหัวโขกพื้นเพื่อเป็นการขอบคุณเรียกให้คุณหมอต้องรีบไปพยุง

         "อย่าทำแบบนั้นอีกนะครับ...เดี๋ยวบาดเจ็บเอาได้"

         ชายคนนี้เมื่อได้ยินที่หมอพูดก็มองตัวแววตาที่มีประกายชื่นชมก่อนที่เขาจะขอตัวกลับบ้านไปนั่นเอง

         "ผมขอยกลูกสาวให้หมอครับ!!!"

       ร่างสูงยกมือขึ้นมากุมขมับก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความรู้สึกลำบากใจ

       "ลูกสาวคุณคงอยากอยู่กับคุณมากกว่านะครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ"






         บางทีเขาก็ไม่เข้าใจคนอื่นที่บอกว่าเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ ทำอะไรก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว บอกว่าเขานั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ เป็นคนที่ฟ้าสรรสร้างมา แต่ในความคิดของเขานั้น

        
        เขาก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็น'แค่คนๆหนึ่ง'


        เป็นคนที่ไม่ได้พิเศษออกจะโชคร้ายด้วยซ้ำที่เสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กจนตอนนี้อายุ 30 ปี เขาสู้เพื่อน้องมา 10 ปี

        10 ปี ที่ไม่มีช่วงเวลาวัยรุ่นเหมือนคนอื่นเขา

        10 ปี ที่ไม่เคยไปเที่ยวที่ไหนเลย

        10 ปี ที่ทำงานพิเศษทุกๆวัน

        แต่เขาก็ไม่เคยที่จะเสียใจกับสิ่งที่เขานั้นได้กระทำลงไป เขาไม่เคยเสียใจที่จะทำเพื่อน้องของเขาและเขาก็ไม่ได้คร่ำครวญว่าทำไมพ่อแม่ถึงได้จากเขาไปไวนัก

        อาจเพราะเขามีตัวเเทนของพ่อแม่อยู่...

        บ้านที่เขากับพ่อแม่ช่วยกันสร้าง

        หนังสือมากมายที่พ่อแม่ซื้อมาให้เขาอ่าน

        กระดานโกะและหนังสือเกมกระดานที่พ่อแม่ให้ตอนวันเกิด

        และ



        น้องๆทั้งสามของเขา...







         ระหว่างที่คิโตะกำลังเดินเข้าบ้านนั่นเอง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองถูกดูดไปที่ไหนสักแห่ง นี่เขาจะไม่ได้เจอน้องอีกแล้วงั้นหรอ?

         "ข้าขออภัยจริงๆข้าเพิ่งรับตำแหน่งเมื่อเร็วๆนี้เลยควบคุมพลังไม่ได้"

         เสียงที่เขาไม่สามารถระบุเพศได้ดังขึ้นท่ามกลางความมืดก่อนที่ปรากฎแสงสว่างจ้าขึ้นมาแวบนึงและหายไป

         เบื้องหน้าของเขาคือชายหน้าตาดีคนหนึ่งผมยาวสีทอง ดวงตาคมกริบสีเงินนั้นมองมาที่เขาด้วยความรู้สึกผิด

         "แล้วน้องของผม?"

         "ข้าส่งคนไปดูแลแล้ว รับรองได้ว่าน้องเจ้าจะปลอดภัย"

         คิโตะลองที่จะเชื่อใจชายคนนี้ดู ชายคนนี้ที่สามารถนำเขามายังที่แห่งนี้ที่ๆไม่มีแสงใดๆลอดเข้ามา นั่นแสดงว่าชายคนนี้ก็ต้องมีพลังอำนาจมากพอที่จะช่วยดูแลน้องของเขาได้แน่นอน 

        และเหตุผลที่เขาให้ชายคนนี้ดูแลน้องก็ไม่ใช่อะไร...

        ตอนนี้ร่างของเขากลายเป็นโปร่งใสไปแล้ว...มันแสดงให้เห็นว่า ตัวเขานั้นได้

         ตายไปแล้ว...

        



       "ข้าจะให้เจ้าไปเกิดใหม่"

       ผมเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคนี้ บางทีการเกิดใหม่น่าจะสนุกดีล่ะมั้ง ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นๆเขา

       "ข้าจะให้พรเจ้าสามข้อโดยที่เจ้าไม่สามารถปฎิเสธได้เพราะมันเป็นกฎของพวกเราเหล่าเทพที่เมื่อทำให้ใครตายต้องให้ไปเกิดใหม่พร้อมพรสามข้อ"

       ผมพยักหน้าน้อยๆตอนแรกเขากะจะบอกว่าไม่ต้องเอาอะไรเลยก้ได้แต่ถ้าชายคนนี้ต้องทำเพราะเป็นกฎเขาก็จะไม่ท้วงอะไร

       'เทพเขาก็คงต้องมีกฎของเทพ'

       "ข้อแรก เจ้าจะอยู่ในตระกูลที่ดี มีครอบครัวที่อบอุ่นซึ่งก็คือพ่อแม่ของเจ้านั่นแหละแต่อยู่อีกภพ"

       จบประโยคน้ำตาของคิโตะก็ออกมาเป็นสาย เขารู้สึกคิดถึงพ่อแม่เขามากจริงๆ ว่าแต่...แล้วน้องของเขาล่ะ?

       "น้องของผมล่ะครับ?"

       "น้องของเจ้าไม่ได้อยู่ในภพนั้น ข้าต้องขออภัย"

       ร่างสูงพยักหน้าน้อยๆ เขาควรรับความจริงว่าเขานั้นได้ตายจากโลกนั้นมาแล้วและเขาก็ไม่ควรกังวลกับน้องของเขา

       "ข้อสอง เจ้าจะมีความทรงจำเดิม"

       คิโตะเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก็หมายความว่าเขายังคงจำเรื่องราวของเขาตอนนี้ได้ ซึ่งนั่นมันก็ดีที่สามารถจดจำเรื่องราวของครอบครัวได้ เขายิ้มน้อยๆ

       "และข้อสุดท้าย เจ้าจะหน้าตาดีที่สุดไม่มีใครเทียบได้"

        คราวนี้ชายหนุ่มทำหน้างงๆปกติเขาก็หน้าตาปกติเนี่ยแหละ ถ้าเขาหน้าตาดีขึ้นมามันจะเป็นยังไงนะ? เขาคิดภาพไม่ออกเลยจริงๆ

       "เอาล่ะ เจ้าจะได้ไปเกิดและเนื่องจากเจ้าไม่ตกใจเมื่อรู้ว่าข้าเป็นเทพ..." ชายหนุ่มผมสีทองพูดด้วยน้ำเสียงมีอำนาจ

       "เจ้าจะได้รับพรพิเศษซึ่งข้าบอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร... แต่ว่าไม่ใช่สิ่งแรกที่เจ้าคิดเมื่อไปโลกนั้นแน่นอน"

        'สิ่งแรกที่ผมคิดงั้นหรอ' มิโตะที่แม้จะงงๆกับคำพูดของชายหนุ่มที่มีศักดิ์เป็นเทพคนนี้แต่เขาก็พยักหน้า

        "เอาล่ะ โชคดีนะ"

        ชายหนุ่มผมสีทองพูดจบก็จับไหล่ที่ตัวเขา หลังจากนั้นเขาก็เห็นแสงสีขาวจากร่างของชายหนุ่มคนนี้เคลื่อนมายังร่างของเขา ก่อนที่สติเขาจะดับวูบไปนั่นเองเขาก็ได้ยินเสียงดังแว่วมา...


                    "ข้าหวังว่าเจ้าจะมีความสุขกับโลกนั้นนะ"

       
        
     

          



          

          

         
         

         
     
       
     
       






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×