ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รานใจ นิยายชุด...รักทุกฤดู :: ฤดูที่เจ็บปวด

    ลำดับตอนที่ #4 : ♥ เล่ห์รานใจ ♥ ตอนที่ 2 :: พี่สาวตัวร้าย X ผู้ชายเลวๆ อัพเดท 100 %

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 230
      9
      13 เม.ย. 64


     เล่ห์รานใจ 
    [นวนิยายรักชุด...รักทุกฤดู :: ฤดูที่เจ็บปวด]
    ฟราน วันวิวาห์

    ตอนที่ 2
    _____________________________________________________
    พี่สาวตัวร้าย X ผู้ชายเลวๆ

    That when you fall for Someone,
    You have to make sure that that person is true to you.
    Not just using you or enjoying you as if you are only past of a game.

    เวลาที่คุณรักใครสักคน คุณต้องมั่นใจว่าคนๆ นั้นรักคุณจริงๆ
    ไม่ใช่เพียงใช้คุณเพื่อเล่นสนุกไปเท่านั้น!

    ดินเนอร์หวาน ฟราน วันวิวาห์ นางเอกสาวคนดัง ทานข้าวกับแฟนหนุ่มนอกวงการ งานนี้ของหวานไม่ต้อง แค่มองตาก็หวานพอ

    หล่อเทียบชั้นพระเอกดัง ว่าที่ลูกเขยเจ้าสัวพิสุทธิ์ หวานใจนางเอกสาว ฟราน วันวิวาห์ รักนี้ใกล้สุกงอม

    ประวัติทนายหนุ่มหล่อ เจ้าชายหวานใจนางเอกสาว ฟราน ยิ้มนี้ทำเอาสาวๆ ใจละลาย

     

    พาดหัวข่าวออนไลน์วันนี้เต็มไปด้วยประเด็นร้อนพร้อมเสิร์ฟความหวานฉ่ำของคู่รักประจำวันนั่นคือ...วันวิวาห์กับคเณศ โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าความรู้สึกที่แท้จริงของนางเอกสาวนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว

    เธอเกลียดคเณศ เกลียดวรรณิดาพี่สาวของตัวเองด้วย!

    หลังจากที่รู้ว่าคเณศนอกใจแอบคบหาลับๆ กับวรรณิดาผู้เป็นพี่สาว วันวิวาห์ก็ไม่คิดอยากกลับไปคืนดีกับชายหนุ่มอีก หญิงสาวเสียใจมากก็จริงที่ถูกทั้งคนรักทรยศหักหลัง แล้วไหนจะโดนพี่สาวตัวเองแทงข้างหลังซ้ำลงไปอีก เจ็บแล้วเจ็บเล่าแบบนี้...มันคงไม่ใช่ความเผลอไผลไปเพียงชั่วครั้งคราวของคเณศเป็นแน่

    แต่มันต้องเกิดจาก ความตั้งใจของคนเลวๆ ทั้งสองคนที่ร่วมมือกันดึงเธอลงนรก!

    หลังจากที่วันวิวาห์รู้ความจริง หญิงสาวก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอนัดทานข้าวกับคเณศที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งบรรยากาศดี อาหารอร่อย ดรตรีเพราะรื่นหู และที่สำคัญในค่ำคืนนั้น...คเณศยังหอบดอกไม้ช่อโตมาเอาใจเธออีกด้วย

    ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยอมรับดอกไม้ช่อนั้นไว้ พร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานๆ ให้เขาเป็นการตอบแทน แม้ความรู้สึกข้างในของวันวิวาห์นั้นจะพังครืนลงมา จนหญิงสาวอยากจะเดินออกจากโต๊ะแล้ววิ่งกลับบ้าน แต่ด้วยเลือดนักแสดงที่เข้มข้นอยู่ข้างใน ทำให้วันวิวาห์ยังแสดงละครฉากใหญ่ต่อ ทำเป็นว่าตนรักคเณศเหมือนเดิมได้อย่างแนบเนียน แม้กระทั่งชายหนุ่มก็ไม่ระแคะระคายอะไรเลย

    มิหนำซ้ำทั้งคู่ยังถ่ายภาพร่วมกันและอัพรูปลง Instagram จนพวกเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงและแฟนคลับต่างแห่กันเข้ามา Comments แซวกันบ้าง หยอกล้อกันบ้าง บ้างก็เชียร์ให้คเณศขอวันวิวาห์แต่งงาน บ้างก็ส่งรูปหัวใจบ้างมาให้เป็นกำลังใจซึ่งแสดงถึงความรัก จนมันเกิดเป็นกระแสข่าว

    แต่ที่เพราะทุกคนพากันตื่นเต้นไปกับรูปคู่ของนางเอกสาวนั้น ก็คงเป็นเพราะว่าวันวิวาห์กับคเณศคบหากันแบบเงียบๆ ไม่ค่อยหวานออกสื่อให้ใครอิจฉาเท่าไหร่ จะมีภาพลงด้วยกัน ส่วนใหญ่เป็นภาพครอบครัวเวลาคเณศมาทานข้าวที่บ้านบ้าง หรือยกครอบครัวไปทานอาหารด้วยกันที่ร้านบ้างก็เท่านั้น

    “สื่อเล่นข่าวเราแทบไม่หยุดเลยนะ” ทอปัดหันไปพูดกับนางเอกสาวที่นั่งจิบชาร้อนหอมกรุ่น พร้อมกับเคี้ยวคุกกี้เข้าปากด้วยท่าทางสบายอารมณ์

    วันวิวาห์ยังนอนอยู่ที่คอนโดฯ ของผู้จัดการสาวเหมือนเดิม ยังไม่ได้ย้ายฐานทัพหนีไปไหน

    วันนี้หญิงสาวไม่มีถ่ายละคร แต่มีงานโชว์ตัวตอนบ่ายเกือบเย็น ซึ่งวันวิวาห์ก็พอมีคำตอบที่เธอเรียบเรียงเอาไว้แล้วว่าจะพูดอะไรกับสื่อบ้าง

    งานนี้เธอคงต้องแสดงละครฉากใหญ่เพื่อตบตาสื่อ เหมือนที่ตบตาคเณศอีกครั้ง

    “ฟรานตั้งใจนี่คะ” วันวิวาห์บอกยิ้มๆ

    หากนับรวมตั้งแต่วันที่รู้เรื่องว่าถูกคนรักนอกใจ จนกระทั่งวันนี้ เวลาแค่ไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ดี ทอปัดคิดว่าเด็กในสังกัดตัวเองเข้มแข็งมากทีเดียว เพราะวันวิวาห์ไม่มีอาการโศกเศร้าให้เธอเห็นอีกเลย

    แต่มันค่อนข้างน่ากลัว ลองมานิ่งๆ แบบคลื่นลมสงบแบบนี้ ทอปัดคิดว่ามันจะต้องมี สึนามิตามมาอย่างแน่นอน

    วันวิวาห์อาจไม่ใช่อันธพาลที่ชอบไปหาเรื่องระรานใครก่อน แต่ก็ใช่ว่าหญิงสาวจะเป็นคนยอมคนเสียเมื่อไหร่

    “แล้วเราจะนัดสองคนนั้นคุยเมื่อไหร่ล่ะ ยืดเยื้อมันจะไม่ดี”

    “บอกแล้วไงคะว่าฟรานอยากจับให้ได้คาหนังคาเขามากกว่าพูดจาไกล่เกลี่ย” เธอตอบเรียบๆ ขณะที่สายตาทอดมองไปข้างหน้า แต่ในใจกลับมีเรื่องให้คิดวางแผนมากมายเต็มไปหมด

    บางทีหากตกลงพูดจากันไม่รู้เรื่อง วันวิวาห์คิดว่าตนเองอาจจะยอมเอาชื่อเสียงมาเดิมพันกันสักตั้ง ทว่าถึงอย่างนั้น...หญิงสาวก็คิดทุกอย่างมาเป็นอย่างดีแล้วว่าตนจะต้องเป็นฝ่ายคุ้มทุน ได้มากกว่าเสียอย่างแน่นอน

    “เรานี่มันร้าย”

    “คงร้ายไม่เท่าพี่ฝ้ายหรอกค่ะ” น้ำเสียงของนางเอกสาวเจือไปด้วยเสียงหัวเราะในคอ ที่ฟังแล้วไม่ตลกตาม แต่กลับเหมือนเสียงเย้ยหยันมากกว่า

    “ถ้าพี่เชียร์เรา อยู่ข้างเรา พี่จะไม่กลับไปเป็นน้องหมาทีหลังใช่มั้ยฟราน” ทอปัดถามด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง สายๆ แบบนี้เธอไม่อยากให้บรรยากาศตึงเครียดมากจนเกินไป “เราจะไม่กลับไปคืนดีกับคินใช่มั้ย”

    “ฟรานมั่นใจแล้วค่ะว่า ฟรานกับพี่คิน เราไม่ใช่คนรักกันตั้งแต่แรก” หญิงสาวหันมาสบตากับคนที่เธอกำลังสนทนาด้วย “ฟรานนั่นแหละที่คิดไปเองว่าเขารัก เขาชอบ ทั้งที่พี่คินไม่เคยรักฟรานในทำนองนั้นเลย”

    วันวิวาห์ตอบด้วยความมั่นใจเต็มอก หญิงสาวเองมีดีรอบด้านไม่แพ้วรรณิดาสักนิด ทั้งรูปร่างหน้าตา ชื่อเสียง เงินทอง และหน้าตาในสังคม แต่คเณศก็ยังนอกใจไปหาพี่สาว

    คเณศไม่ใช่คนโง่ที่จะหลงผิดทำพลาดพลั้ง และเขาก็ใช่คนเจ้าประตูดินด้วย ฉะนั้นเรื่องเดียวที่วันวิวาห์พอจะคิดออกนั่นก็คือ...คเณศไม่เคยรักเธอเลย ระหว่างเธอกับเขาก็แค่น้องสาวกับพี่ชายที่แสนดีเท่านั้น แต่ตัวจริงที่อยู่ในใจคเณศมาตอลด นั่นก็คือ...วรรณิดา ต่างหาก

    “แล้วเรารักคินหรือเปล่า?”

    “ตอนนั้นฟรานคงหลง แต่ตอนนี้ฟรานมั่นใจว่าไม่รักพี่คินแล้ว”

    นี่ก็เป็นอีกคำตอบที่วันวิวาห์ย้ำชัดเจนไม่แพ้กัน เธอหลงคเณศเพราะด้วยบุคลิกที่น่าเชื่อถือ สุภาพ นุ่มนวลของเขา คเณศกับเธอเองก็รู้จักกันผ่านวรรณิดา ถ้าเธอฉุกคิดสักนิดเดียว เรื่องทุกอย่างมันจะไม่กลายมาเป็นความเคลือบแคลงใจแบบนี้

    จะว่าไป วันวิวาห์ก็อยากรู้เหมือนกันว่าใจจริงของคเณศปรารถนาใครเป็นเป้าหมายของเขากันแน่ เธอหรือพี่สาว แล้วในเสี้ยวนาทีหนึ่งของเขาเคยมีเธออยู่ในใจบ้างมั้ย มีสักครั้งหรือไม่ที่เขารักเธอขึ้นมาจริงๆ ไม่ใช่แค่ใช้เธอเป็น สะพานที่ทอดผ่านไปหาใครอีกคน!

    “ตัดใจได้เร็วดีจัง” ทอปัดยื่นขนมคุกกี้ให้อีกชิ้นเหมือนกับต้องการจะให้รางวัลคนเข้มแข็งที่กลับมายืนด้วยขาของตัวเองได้เร็วโดยไม่ต้องพึ่งพาหรือยืมของใครมาฉุดดึงให้ขึ้นจากหลุมของความเศร้าโศก

    ทว่าหลังจากนั้นต่างคนก็ต่างเงียบไป วันวิวาห์จมอยู่กับความคิดของตัวเอง ขณะที่ทอปัดไถหน้าจอโทรศัพท์เช็คข่าวคราวประจำวัน แต่แล้วสายตาของทอปัดก็สะดุดเข้ากับรูปภาพของวรรณิดาที่เพิ่งอัพโหลดลง Instagram

    “เอ๊ะ..นี่มัน”

    ทอปัดหันไปมองเด็กในสังกัดตัวเอง ซึ่งวันวิวาห์ก็แค่หันมามองเธอ อีกฝ่ายทำหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราว ตาใสแป๋วแหวว แต่มุมปากของนางเอกสาวกลับอมยิ้มอย่างมีเลศนัย

    “อะไรเหรอคะ?”

    “รู้อยู่แล้วยังจะมาถามพี่อีก” ทอปัดมองค้อนหน่อยๆ “นี่เราส่งข้าวไปให้พี่สาวเหรอ แล้วยังให้คนอื่นๆ อีก”

    วรรณิดาโพสต์ว่าเธอได้รับกำลังจากน้องสาวคนสวยที่ส่งอาหารเช้ามาให้ แถมยังเผื่อแผ่ให้คนอื่นๆ ในสตูดิโออีก

    “ฟรานแค่อยากทำหน้าที่น้องสาวที่ดีน่ะค่ะ” วันวิวาห์บอกปัด ทั้งที่มันเป็นแค่การเริ่มต้นเดินเกมอย่างชาญฉลาดของเธอก็เท่านั้น และดูเหมือนว่าพี่สาวขี้อิจฉาของเธอก็ตกหลุมพรางนี้เข้าอย่างจัง “ใช่ว่าจะบ่อยเสียเมื่อไหร่”

    หญิงสาวจงใจสั่งอาหารเช้าร้านดัง แล้วส่งไปให้วรรณิดาเอง มิหนำซ้ำยังสั่งเผื่อแผ่คนที่อยู่รอบตัวพี่สาวอย่างทั่วถึง นั่นก็เพราะวันวิวาห์ต้องการเรียกเรตติ้งให้ตัวเอง ต้องการซื้อใจให้คนทั้งหมดเข้ามาเป็นพวกเดียวกับเธอ

    เธอมีแฟนหนุ่มเป็นถึงทนายความเชียว ดังนั้นทำอะไรก็ต้องรอบคอบ มีพวกพ้องไว้ก่อนยิ่งดี

    อีกอย่างถึงภายในบ้านสองพี่น้องจะมีปัญหากันมายาวนานตั้งแต่เด็ก แต่คนอื่นก็ไม่ได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังด้วยเสียหน่อย นั่นเพราะภาพลักษณ์ของครอบครัวเจ้าสัวพิสุทธิ์คือภาพความน่ารัก ความอบอุ่น ซึ่งดูเผินๆ ก็เหมือนว่านางเอกสาวกับพี่สาวผู้ประกาศข่าวดูจะรักใคร่ปรองดองกันดี

    “ฟราน..” ทอปัดถอนหายใจออกมา ขณะมองหน้านางเอกสาว หัวคิ้วก็พลันขมวดเข้าหากันแน่น “แน่ใจนะว่าถ้าทุกอย่างมันเดินหน้าต่อไป แล้วเราจะรับแรงกระแทกไหว”

    ผู้จัดการสาวถามอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ หากอะไรๆ ไม่เป็นอย่างที่วันวิวาห์คิด หากกระแสตีกลับทำให้ชื่อเสียงของนางเอกสาวดิ่งลงไปในทางลบ ความนิยมชื่นชมน้อยลง ทุกอย่างมันมีมูลค่ามากเกินกว่าที่ใครจะคาดคิดถึง แล้วไหนจะต้องมานั่งแก้ข่าว ความรู้สึกก็เสียอีก

    “แล้วถ้าอะไรๆ มันไม่เป็นอย่างที่เราคิดล่ะฟราน เรามองหาทางออกเอาไว้หรือยัง”

    ทอปัดรู้ว่าวันวิวาห์ไม่ชอบเรื่องอะไรในทำนองนี้ แต่หากได้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ก่อน มีแผนสำรองหลายๆ ชั้นก็คงดี

    “อย่าลืมนะ...ว่าเรามีชื่อเสียงเป็นเดิมพัน ยายฝ้ายน่ะ...ดังไม่ได้ครึ่งเราด้วยซ้ำไป”

    วันวิวาห์เล่นเดินหน้าเกินร้อยขนาดนี้แล้ว ทอปัดเชื่อว่าหญิงสาวคงไม่เปลี่ยนใจ ปล่อยเรื่องนี้ให้เงียบหายไปเฉยๆ หรอก

    “ค่ะ อย่างน้อยทุกคนก็ต้องอยู่ข้างฟราน ฟรานไม่ใช่คนผิด ฉะนั้นสังคมจะพิพากษาว่าฟรานเป็นคนผิดไม่ได้!

     


    “อิจฉาเนอะ แต่ดาราสาวๆ ก็งี้แหละ อยู่ในฐานะเลือกได้”

    เสียงของพยาบาลสาวที่นั่งประจำวอร์ตผู้ป่วยดังขึ้นอย่างร่าเริง เมื่ออ่านข่าวบันเทิงเช้านี้ และเพื่อนอีกหลายคนซึ่งทำหน้าที่เดียวกัน ก็กำลังจับกลุ่มสนทนาอย่างสนุกสนาน

    “แฟนนางหล่อมากอ่ะ” หัวหน้าพยาบาลร่วมวงสนทนาด้วย

    การได้พูดคุยข่าวที่กำลังเป็นกระแสของคนดังค่อยทำให้อาการง่วงจนแทบลืมตาไม่ขึ้น ฟื้นตัวขึ้นมาหน่อย ทำให้มีแรงทำงานต่ออย่างไม่น่าเชื่อ

    “โธ่เจ้ สังคมเขากว้างกว่าเราเยอะจะตายไป วันๆ นึงเจอคนตั้งไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ทำงานร่วมกับคนเป็นร้อย ประเภทหล่อ รวย ไฮโซ ก็ผ่านมาหมดแหละ” ลูกน้องใต้อาณัติชวนเมาส์ต่อ ก่อนจะถอนหายใจ ทำหน้าเศร้าซึม “แล้วดูเราสิ เห้อ...เจอแต่คนป่วย จิตใจห่อเหี่ยวชะมัดเลย”

    “ญาติคนไข้หล่อๆ ก็เยอะแยะเหอะ” เพื่อนร่วมงานอีกคนบอก

    “มีย่ะ แต่พวกนั้นก็มีลูกมีเมียเกินครึ่งไปแล้วมั้ย ที่เหลือก็เป็นพวกไม่สนหญิง เนี๊ยบจริง รวยจริง แต่ก็ต้องการผู้เหมือนเรานี่แหละ”

    “ดูอะไรกันอยู่เหรอครับ หน้าตาสดใสเชียว”

    แต่ในระหว่างที่สาวๆ กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกปาก ธยุตก็เดินเข้ามาทักทายทุกคน คุณหมอหนุ่มอย่างเขาเพิ่งมาเข้าเวรรับช่วงต่อจากหมออีกคน พอเห็นสาวๆ พูดคุยกันด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่ารับเช้าวันใหม่ ดูสดใสไม่เหมือนคนอยู่เวรมาทั้งคืนก็อดถาม อดแซวไม่ได้

    “คุณหมอ~”

    สาวๆ เรียกธยุตออกมาพร้อมกันเป็นเสียงเดียว พลางส่งรอยยิ้มสดใสให้คุณหมอที่ทั้งหนุ่ม ทั้งหล่อ และยังโสดสนิท ชนิดที่ว่าธยุตคือความสดใสหนึ่งเดียวในวอร์ตนี้ แต่นั่นก็จริงเพราะหมอในโรงพยาบาลส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ผู้ชายก็มีบ้างแต่ก็เป็นประเภทไม่มองหญิง แล้วอีกประเภทก็คือมีครอบครัวไปหมดแล้ว ที่สำคัญอายุก็มากเกินกว่าจะควงเป็นแฟนไหว

    ต้องยอมรับเลยว่าสมัยนี้การหาผู้ชายที่ครบเครื่อง และเพียบพร้อมแบบธยุตนั้น...หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก

    “ระวังนะครับ ญาติคนไข้โรงพยาบาลนี้ยิ่งดุๆ อยู่ด้วย” ธยุตเตือนอย่างไม่จริงจังเท่าไหร่นัก เขาน่ะไม่มีปัญหากับการเสพข่าวของพวกสาวๆ เลย แต่ญาติคนไข้ในโรงพยาบาลนี่สิ ยิ่งมากเรื่องและเข้มงวดเสียยิ่งกว่าผู้บริหารอีก

    ญาติคนไข้บางคนก็ดี พูดง่าย เข้าใจเร็ว แต่กับบางคนก็เจ้ากี้เจ้าการเกินเหตุ จับผิดแม้กระทั่งการทำงานเล็กๆ น้อยๆ ของพนักงานและทีมแพทย์ อะไรนิดหน่อยก็ไม่พอใจจนพาลหาเรื่องตำหนิไปเรื่อย บางรายหนักข้อขู่ว่าจะฟ้องก็มี

    “แหม เรื่องนี้คนเขาเผือกกันทั่วประเทศนะคะ ใช่ว่าพวกพี่ตื่นเต้นแก๊งเดียวเสียเมื่อไหร่กัน” หัวหน้าพยาบาลรีบออกตัวแทนเด็กๆ ของตน

    “วันนี้มีข่าวเมาส์ใครอีกล่ะ” ธยุตถามไปอย่างนั้น เพราะสายตากำลังอ่านชาร์ตเกี่ยวกับผลตรวจคนไข้อยู่

    “ก็...นางเอกน่ะค่ะ คุณหมอไม่รู้จักหรอก” พยาบาลคนหนึ่งพูดขึ้น เพราะทำงานกันมาปีกว่า...เธอถึงได้รู้จักธยุตมากกว่าใคร รู้ด้วยว่าธยุตไม่สนใจดูละคร ไม่สนใจติดตามดาราคนไหนเลย

    “เธอก็พูดไป คุณหมอจำผู้หญิงที่พี่ขอถ่ายรูปวันนั้นได้มั้ยคะ คนสวยๆ น่ะ” พี่หัวหน้าพยาบาลพูดแทรกขึ้น ในขณะที่หมอธยุคส่ายหน้าหวือ

    “จำไม่ได้แล้วครับ”

    วันๆ นึงหมอหนุ่มเจอคนไข้มานับไม่ถ้วน เดินเข้าแผนกนั้นออกแผนกนี้ อย่าว่าแต่คนไข้หรือญาติคนไข้เลย เพื่อนร่วมงานในโรงพยาบาลนี้ เขาก็ยังจำได้ไม่ครบด้วยซ้ำ

    แต่ก็เหมือนว่าหัวหน้าพยาบาลจะตัดปัญหาด้วยการเปิดรูปนางเอกสาวให้ธยุตดูไปเลย และดึงอีกฝ่ายเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย

    “คนนี้ไงคะ” หัวหน้าพยาบาลยื่นหน้าจอมือถือของตนเองส่งให้ธยุตดูรูปภาพของคนที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ “นี่แหละค่ะนางเอกสาวดาวรุ่ง ชื่อฟราน หน้าตาน่ารัก ตัวจริงก็สวยมาก มีข่าวเดทกับแฟนทนายหวานฉ่ำเลย พวกพี่เลยกินเผือกตั้งแต่เช้า บอกเลยค่ะว่าอิจฉาตาร้อนหนักมาก แฟนนางหล๊อหล่อ”

    “คุณหมอไม่สนใจมีบ้างเหรอคะ สาวๆ น่ะ” พยาบาลสาวอายุน้อยที่สุดในวอร์ตส่งสายตาเชิญชวนไปยังหมอหนุ่ม “เนี่ยพวกเราโสดๆ กันหมด คุณหมอก็น่าจะเลือกไปควงเล่นๆ สักคนนึง”

    พอโดนสาวๆ เสนอตัวให้เลือก คนดีอย่างหมอธยุตก็ทำได้แค่บ่ายเบี่ยง ทำเป็นไม่สนแล้วเดินหนีไปเสียอย่างนั้น

    “อืม ผมไปตรวจคนไข้ก่อนดีกว่า”

    พอธยุตเดินออกจากตรงนั้นไปแล้ว ลับหลังพยาบาลที่จับกลุ่มคุยกันก็เบี่ยงประเด็นจากดาราสาวพราวเสน่ห์ไปเมาส์คุณหมอหนุ่มหล่อแทน

    ธยุตเป็นที่หมายตาของทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ และต่อให้ทำงานด้วยกันจนเกิดความใกล้ชิดสนิทสนม แต่จิตใจของคุณหมอหนุ่มนั้นก็ไม่ได้หวั่นไหวไปกับใครเลย จนคนที่เคยได้รู้จักกับเรณุกาอดคิดแทนหญิงสาวไม่ได้ว่า...อีกฝ่ายช่างเป็นคนที่โชคดีมากจริงๆ ที่สามารถคว้าหัวใจของคุณหมอหนุ่มากุมเอาไว้ได้อย่างอยู่หมัด

    “เห้อ เอากะนางสิ แซวเรื่องนี้ทีไรมีอันต้องเดินหนีตลอด” พยาบาลสาวคนหนึ่งบ่นขึ้น ต่อให้เธอพยายามอ่อย หว่านเสน่ห์ให้ธยุตแค่ไหน แต่หมอหนุ่มก็ไม่เคยชายตามองกันเลย

    “สงสัยจะยังไม่หายเฮิร์ทมั้ง” หัวหน้าพยาบาลหันไปยิ้มขำลูกน้องตัวเอง “แต่ก็นะ กำลังจะแต่งงานอยู่แล้วเชียว คุณรันเธอก็น่ารักมากด้วย อีกอย่างเท่าที่รู้...สองคนนั้นรู้จัก สนิทสนมกันมานาน ก็เลยผูกพันกันมาก จะให้ตัดใจเร็วๆ ได้ยังไงไหว คนทั้งคนนะยะ แล้วก็เป็นว่าที่เมียด้วย”

    “แต่จะว่าไปก็สงสารเนอะ คุณหมอคงจะเข็ดกับความรักยาวๆ ไปเลย” พยาบาลอีกคนเท้าคางมองตามหลังร่างสูงที่หายลับตาไปยังห้องตรวจแล้ว

    นี่ถ้าจัดอันดับหนุ่มหล่อ มาดแมนสุดเพอร์เฟ็กต์ล่ะก็..ธยุตคงติดหนึ่งในนั้นได้ไม่ยาก ระดับหมอธยุตนั้นจะจีบคนดัง หรือหาดาราสวยๆ มาควงเป็นแฟนก็ได้ และคงได้ขึ้นแท่นไฮโซหนุ่มที่น่าจับตามองด้วยซ้ำ เพราะฐานะทางบ้านก็โดดเด่นมาก แม่ของเขามีทั้งโครงการบ้านจัดสรร โครงการทำคอนโดฯ มิเนียม ที่ดินมากมาย แล้วไหนจะยังมีมูลนิธิช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากที่ต่างประเทศอีก

    จะว่าไปสมบัติทางฝั่งพ่อก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากัน คนเป็นพ่อเพิ่งเสียไปด้วย สมบัติทั้งหมดก็คงไม่พ้นยกให้ลูกชายคนเดียวเป็นแน่ แต่หมอหนุ่มกลับทำตัวธรรมดาสามัญ ใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองมีหรือเด่นดังกว่าใครหน้าไหนเลย

    “เห้อ เสียของชะมัด” พยาบาลสาวซึ่งอายุน้อยที่สุดถอนหายใจออกมาอย่างแสนเสียดาย

    ผู้ชายแบบนี้ไม่รู้ว่าเกิดอีกกี่ชาติ เธอถึงจะได้มาครอบครอง

     


    นังพี่สาวกาฝาก

    ใบหน้าของวรรณิดามีเหงื่อผุดซึมขึ้นทั่วไรผม ความโกรธเกรี้ยวเป็นริ้วผุดขึ้นรอบดวงตา ด้วยเพราะหญิงสาวควบคุมสีหน้าต่อไปไม่ไหว

    คำด่าทอรุนแรงนี้ถูกพ่นออกมาจากปากน้องสาวตัวดีอย่างวันวิวาห์

    ตอนนั้นอีกฝ่ายยังเป็นเด็กที่เรียนชั้นประถม หน้าตาสะอาดสอ้านนั้นเลอะเปรอะไปด้วยคราบดินโคลนที่นำมาเป็นของเล่นขายของตามประสาเด็ก มีดอกไม้ใบหญ้าติดตามผมเผ้าดูรุงรังไม่มีแววลูกสาวเจ้าสัวผู้ร่ำรวยให้ได้เห็นเลยสักนิด

    พี่มันก็แค่ลูกที่พ่อกับแม่เก็บมาเลี้ยง นังพี่สาวนอกคอก!’

    วันวิวาห์ตะโกนใส่หน้าเธอคำแล้วคำเล่า ซึ่งถึงวรรณิดาจะรู้ว่านั่นไม่ใช่เรื่องจริงเลย แต่เธอก็เจ็บแปลบในอกอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าคำพูดนั้นมันบาดลึกเข้าไปในใจจนยากจะลบล้างได้

    เธอทะเลาะกับน้องสาวมาตั้งหลายครั้งหลายหน แต่คงมีครั้งนี้แหละ...ที่วรรณิดาหมดความอดทนอย่างถึงที่สุดแล้ว ถึงได้เผลอพลั้งตวัดฟาดผ่ามือลงบนใบหน้าของอีกฝ่ายเข้าเต็มแรง

    เพี๊ยะ!

    แล้วคนอย่างแกมันดีกว่าฉันตรงไหนกัน! ทั้งสกปรก มอมแมม หน้าอย่างกับหมาไปคลุกขี้โคลนมา เรียนก็เกือบผ่านเกือบตกตลอด โง่ซะไม่มีใครเทียม ถ้าจะบอกว่าฉันเป็นลูกที่พ่อกับแม่เก็บมาเลี้ยงล่ะก็...แกก็คงเป็นลูกที่พ่อกับแม่เก็บมาจากถังขยะที่มีแต่ขยะเน่าๆ สินะ

    จากนั้นภาพการทะเลาะวิวาทก็เกิดขึ้น ทุกอย่างมันชุลมุนไปหมด ความรู้สึก ทั้งเจ็บ ทั้งอยากทำให้อีกฝ่ายพ่ายแพ้นั้นตีผสมปนเป แต่เท่าที่รู้คือไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใครก่อนเลย

    “แก แกมันนังเด็กเหลือขอ”

    เสียงพูดพึมพำทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ทำให้คนที่แต่งตัวด้วยชุดสูทสีกรมเข้ม ต้องหันไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียง

    ละเมออีกแล้ว..

    พอเห็นว่าวรรณิดากำลังพูดจาอยู่ฝ่ายเดียว ขณะที่ใบหน้าส่ายไปมากับหมอนเหมือนกำลังหลบอะไรบางอย่างอยู่ คเณศก็รีบเดินเข้าไปนั่งข้างๆ พร้อมกับปลุกให้อีกฝ่ายตื่นขึ้นจาก ฝันร้าย

    “ฝ้าย ฝ้าย..” คเณศเขย่าตัวคนรักของเขาอยู่หลายครั้ง เรียกชื่อวรรณิดาอยู่หลายหน จนกระทั่งอีกฝ่ายเหมือนสะดุ้งตื่นแล้วลุกพรวดด้วยความตกใจ ก่อนจะสำลักอากาศไอค่อกแค่กไปหลายที

    “ใจเย็นๆ” คเณศคอยลูบหลังให้อย่างเอาใจใส่

    วรรณิดาละเมอเช่นนี้บ่อยครั้ง เป็นอย่างนี้หลายหน แต่เขาก็ยังไม่ชินที่ต้องเห็นเธอตกอยู่ในฝันร้ายเกี่ยวกับเรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซำมา

    “จะไปทำงานแล้วหรือคะ?” วรรณิดาตั้งสติและสลัดความรู้สึกแย่ๆ ที่เกิดจากความฝันทิ้งไป ก่อนจะหันไปมองร่างสูง พอเห็นว่าคเณศอยู่ในชุดพร้อมไปทำงานเรียบร้อยแล้ว เธอก็อดถามไม่ได้

    “ยังหรอก อีกเกือบสองชั่วโมงแน่ะ พี่แค่ตื่นเช้า ก็เลยลุกขึ้นมาแต่งตัวก่อนดีกว่า ถ้านอนต่อคงอีกยาวแน่ เออ...นี่พี่สั่งข้าวเอาไว้แล้วด้วย อีกเดี๋ยวก็คงมาส่งแล้ว ฝ้ายไปล้างหน้าสิ แล้วออกมาทานข้าวด้วยกัน”

    “ค่ะ”

    วรรณิดาพยักหน้ารับ หญิงสาวปรับสภาพอารมณ์ขณะนั่งอยู่บนเตียงต่ออีกนิดหน่อย ก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา ส่วนคเณศก็ออกไปรับอาหารที่เพิ่งมาส่ง แล้วตั้งโต๊ะรอเธอออกมาทานมื้อเช้าด้วยกัน

    วรรณิดากับคเณศใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยา มาตั้งแต่หญิงสาวเรียนมหาลัยปีสุดท้าย ตอนนั้นคเณศเริ่มทำงานแบบเต็มตัวแล้ว

    ชายหนุ่มดีกับเธอเสมอมาตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน...จนกระทั่งตอนนี้ ความจริงคเณศดีเกินไปจนไม่เหมาะกับอาชีพทนายความด้วยซ้ำ เพราะเขาแทบไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรไปสู้กับพวกคนร้อยเล่ห์เพทุบายเลย

    ขนาดเธอขอร้องให้เขายอมหลอกวันวิวาห์ เขาก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย ทั้งที่วรรณิดารู้อยู่เต็มอกว่าคเณศไม่ได้ต้องการให้พี่น้องทะเลาะกันจนเป็นเรื่องบานปลายใหญ่โต แต่เขาก็ยอม

    หญิงสาวใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กซับน้ำออกจากใบหน้า ก่อนจะเดินไปนั่งร่วมโต๊ะกับคเณศด้วยสีหน้าและแววตาที่ดูยังไงก็รู้ว่าวรรณิดามีเรื่องไม่สบายใจให้ต้องคิดหนัก

    “ฝันร้ายอีกแล้วหรือไง” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเจือไปด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นวรรณิดาเอาแต่มองถ้วยข้ามต้ม และเธอแทบไม่ตักเข้าปากด้วยซ้ำ

    “ค่ะ” หญิงสาวยอมรับ มุมปากของเธอเจือรอยยิ้มเอาไว้หน่อยๆ

    จะว่าไปแล้วฝันเมื่อครู่นี้สมจริงมาก จนวรรณิดาแทบแยกแยะไม่ออกด้วยซ้ำ มันเหมือนเรื่องราวในอดีตคอยตามหลอกหลอนเธอมากกว่า

    ตอนเด็กเธอกับวันวิวาห์มีปากเสียงเรื่องนี้กันบ่อยครั้ง วันวิวาห์ชอบกล่าวหาว่าเธอเป็นลูกที่พ่อแม่เก็บมาเลี้ยง ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ส่วนเธอเองก็เกลียดคำพูดนั้นจนเข้าไส้ เกลียดความปากมอมของน้องสาวตัวเอง เลยหาเรื่องเอาคืนด้วยการสาดคำพูดแรงๆ โต้กลับ

    วรรณิดาจำได้ว่าตอนเด็กวันวิวาห์ไม่มีอะไรดีให้ใครชื่นชมเลย วันวิวาห์หน้าตาน่ารักน่าชังก็จริง แต่ก็สวยสมวัยได้แค่ครู่เดียวเท่านั้น เพราะหลังจากอาบน้ำแต่งตัวสวยสมเป็นลูกคุณหนูแล้ว น้องสาวของเธอก็ชอบไปเล่นที่สวนหลังบ้านเป็นประจำ ด้วยการเอาเสื่อไปปูวางของเล่นเกลื่อนกลาด มีหมาอยู่ข้างกายสองตัว เล่นกันจนเยินแทบแยกไม่ออกว่าอันไหนคน อันไหนหมา

    ส่วนเรื่องการเรียนนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง วันวิวาห์คำนวณไม่เก่ง ภาษาต่างประเทศก็ไม่ได้เรื่อง กีฬาก็ยังไม่เอาไหนอีก เห็นจะไปได้สวยก็แค่วิชาภาษาไทย และร้องเล่นเต้นระบำเท่านั้น

    นั่นมันเป็นความทรงจำที่แย่มากจริงๆ บ่อยเข้ามันเลยกลายเป็นความ ฝังใจจนวรรณิดาอยากเอาชนะน้องสาวในทุกทาง แต่จะว่าไปแล้ววันวิวาห์ไม่เคยใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อว่าเธอเหมือนในความฝันเลย เช่นเดียวกัน...วรรณิดาเองก็ไม่เคยลงไม้ลงมือตบตีวันวิวาห์ให้เจ็บตัว

    แต่เพราะอะไรที่เธอถึงยังอยากเอาคืนน้องสาวตัวดีน่ะเหรอ?

    หลังจากที่ทั้งสองคนมีปากเสียงกันบ่อยเข้า ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องก็เริ่มเหินห่างขึ้นเรื่อยๆ

    แล้วก็เหมือนวันวิวาห์จะพยายามปรับปรุงให้ตัวเองดีขึ้นในทุกด้านแข่งกับพี่สาวเช่นกัน การเรียนของวันวิวาห์ดีขึ้นตามลำดับความตั้งใจ พ่อแม่ก็ยิ่งยกย่องชื่นชมลูกสาวคนเล็ก และยิ่งโตเป็นสาวความสวยโดดเด่นก็ยิ่งทำให้วันวิวาห์เป็นที่ต้องต้องใจของใครหลายคน

    ทั้งสวย ทั้งเก่ง วันวิวาห์เลยเริ่มโด่งดังในโรงเรียน ได้ทำกิจกรรมที่เป็นหน้าตาของโรงเรียน จนตอนนี้อีกฝ่ายมีชื่อเสียง มีคนรู้จักทั่วประเทศ วันวิวาห์แทบจะมองข้ามหัวเธอไปเลย

    “จริงสิ วันก่อนพี่เห็นเราโพสต์รูปที่ฟรานส่งข้าวให้น่ะ”

    “ฝ้ายก็แค่ทำเหมือนว่าเราสองคนรักกันดี ทำเหมือนครอบครัวอบอุ่นไปอย่างนั้นแหละ” วรรณิดาตักข้าวต้มละเลียดเข้าปาก ขณะที่คเณศวางช้อนในชามตัวเองแล้วจ้องคนรัก

    “เราพลาดแล้ว”

    คำพูดนิ่งของอีกฝ่ายทำให้วรรณิดาต้องสบตากับเขา คเณศพูดอย่างนี้หมายความวายังไงกัน

    “คะ?”

    “ถ้าเกิดมีข่าวหลุดออกไป ว่าพี่คบกับฝ้าย หรือมีข่าวในทำนองรักสามเส้า เราสามคน ฝ้ายจะเป็นคนที่เสียหายที่สุด” คเณศพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังมากขึ้น พลางถอนหายใจ

    “คิดมากไปหรือเปล่า พี่คินก็รู้นี่ว่าฝ้ายกับฟรานไม่ลงรอยกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เราสองคนพี่น้องก็แค่สร้างภาพให้คนอื่นเข้าใจไปว่ารักกันดี”

    “ฝ้ายเกลียดฟราน แค่เพราะเรื่องที่ฟรานว่าฝ้ายว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆ แค่นั้นเหรอ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น ถามด้วยความสงสัย

    ความจริงเรื่องแค่นี้ไม่เห็นจะต้องไปคิดมาก ไม่จำเป็นต้องเก็บเอามาใส่ใจเลย วรรณิดาเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าอะไรเป็นอะไร แล้วทำไมวรรณิดาถึง...ยังเกลียดน้องเข้าไส้เหมือนไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ

    “ก็มันน่าโกรธมั้ยล่ะคะ ทะเลาะกันทีไร ยายนั่นก็หยิบเรื่องนี้มาล้อเลียนทุกที ทั้งที่ฝ้ายก็เป็น” หญิงสาวชะงักไปหน่อยนึง ก่อนจะพูดเสียงอ่อนลง “...ลูกสาวคนหนึ่งเหมือนกัน”

    “พี่คิดว่าจะบอกเลิกฟรานเร็วๆ นี้” คเณศพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

    “อย่านะคะ!” วรรณิดารีบห้ามปราม “ฝ้ายอยากสั่งสอนให้ยายนั่นเจ็บที่สุดก่อน”

    “แต่..”

    “นะคะพี่คิน แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ฝ้ายสัญญาว่าจะไม่ขอให้พี่คินต้องฝืนใจทำอะไรแบบนี้อีก” หญิงสาวเอ่ยปากขอร้อง แต่คำพูดประโยคถัดมาก็เคลือบแฝงไปด้วยความแค้นเคืองใจ “ยายนั่นจะได้เลิกทะนงตัวเองสักที”

    คเณศไม่พูดอะไรออกมาอีก เขาเพียงก้มหน้าก้มตาทานมื้อเช้าของตัวเองต่อไป พลางคิดในใจว่า มันต้องมีอะไรบางอย่างที่วรรณิดายังไม่เคยบอกกับเขาเป็นแน่


    ...Loading 100 %...

    ฟรานสายแข็งจ้า อกหักทำอะไรนางเอกของเราไม่ได้เลย
    เดินหน้าสู้ต่อ และสู้อย่างมีชั้นเชิงด้วย
    ส่วนหมอครามตอนนี้หมอขอหลบไปรักษาคนไข้ก่อน
    แล้วจะค่อยๆ โผล่หน้ามาทักทายแฟนๆ จ้า 

    แฟนเพจ 'อสรพิษ' เอาไว้ให้ทุกคนติดตาม
    แจ้งข่าวการอัพเดทนิยายที่นี่ เร็วทุกสถานการณ์ 

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×