คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เสน่หาไร้ปราณี - Chapter 04 - ลูกหนี้ที่รัก 25 %
Chapter 4
ลูกหนี้ที่รัก
ริเอะจังคิดว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดไปอย่างแน่นอน เมื่อครู่นี้เธอเห็นโอคาตะกับตา เขายืนออู่ฝั่งตรงข้าม มีรถยนต์สีดำจอดอยู่ และจ้องมายังเธอ หญิงสาวถอนหายใจ..เพราะแค่คิดว่าเขากำลังสะกดรอยตาม
เธอก็พลันขนลุกซู่ไปทั้งตัวแล้ว
ทว่าเพียงครู่เดียว เพราะความไม่คิดเอะใจอะไรทำให้ริเอะลืมเรื่องของโอคาตะซัง
แล้วหันไปคิดเรื่องเทโจแทน รุ่นพี่ของเธอเป็นหมอ ทั้งหล่อ บ้านฐานะดี
แล้วยังเก่งไปเสียทุกด้าน ที่สำคัญเทโจได้ย้ายมาทำงานอยู่ในโรงพยาบาลที่เป็นจุดศูนย์กลางของเมืองนี้อีก
มันทำให้เธออยากเจอหน้าอีกฝ่ายมากขึ้น
เธออยากเห็นกับตาตัวเองว่าเทโจเปลี่ยนไปมากแค่ไหน
ริเอะคิดเรื่องของเทโจอยู่หลายวัน จะว่าไปที่ผ่านมา..แม้เธอจะพยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสายตาของเทโจซังมากมายเท่าไหร่
แต่ว่าอีกฝ่ายก็ไม่เคยมีท่าทีตอบกลับมาเลย แหงล่ะ! ในเมื่อเทโจซังมีตัวเลือกเข้ามาหามากมาย
แล้วเรื่องอะไรที่เขาจะมาเลือกเด็กสาวธรรมดาแบบเธอ
ในวันหนึ่ง ขณะที่ริเอะจังยังคงตั้งหน้าตั้งตาหางานของตัวเองจนเมื่อย
สลับกับการช่วยงานที่ร้านของอาหารของย่ากับพ่อนั้น ตอนที่หญิงสาวกำลังล้างจานอยู่ ข้อความจากโทรศัพท์ก็แจ้งเตือนเข้ามา
หญิงสาวเปิดดูด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างขุ่นมัว แต่เธอก็ต้องตาโตตกใจสุดขีดเมื่อเห็นว่าข้อความที่แจ้งเข้ามาเป็นของธนาคารในชื่อโยเนะ
แจ้งเตือนการชำระหนี้ก้อนโต ซึ่งถูกกู้ไปใช้จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลจำนวน 20
ล้านเยน
หนี้ถูกชำระไปบ้างแล้วราว 2 ล้านเยน ยังเหลืออีกตั้งเกือบเต็มจำนวนของเงินกู้ทั้งหมด
เรื่องนี้คุณย่าไม่เคยบอกเธอมาก่อน และไม่เพียงแค่นั้น...เพราะไม่ถึง 2
นาทีต่อมาเสียงโทรศัพท์ของริเอะก็ดังขึ้น
หน้าจอเป็นเบอร์ที่ไม่ถูกบันทึกเอาไว้ในรายชื่อผู้ติดต่อที่หญิงสาวรู้จัก
จนเธอแอบเอะใจว่าหรือนี่จะเป็นพวก ‘มิจฉาชีพ’
โทรมาหลอกลวงกันแน่
“โมชิโมชิ~” หญิงสาวกรอกเสียงทักทายอย่างไม่สบอารมณ์นัก
แต่เสียงปลายสายที่พูดกลับมา ทำเอาริเอะหน้าตาตื่นยิ่งกว่าเจอผีเสียอีก
“เรามาพูดภาษาไทยที่เธอถนัดกันดีกว่ามั้ย..ริเอะจัง”
น้ำเสียงเข้มข้นในแบบผู้ชายที่เจือไปด้วยเสียงหัวเราะนั้น ทำให้หญิงสาวรู้ทันทีว่าเขาคือว่าที่เจ้านายโรคจิต
ที่ตนเคยปฏิเสธการร่วมงานไป
นี่เล่นทั้งสะกดรอยตาม ทั้งโทรมา แสดงว่าเขาต้องมีแผนการร้ายๆ
อยู่ในใจเป็นแน่
“นี่คุณสะกดรอยตามฉันหรือคะ!”
หญิงสาวแหวกลับไปด้วยความโกรธเคือง เพราะรู้สึกว่าตัวเองโดนอีกฝ่ายตามคุกคามไม่เลิกรา
“ไม่นะ เมื่อวันก่อนฉันบังเอิญผ่านไปแถวนั้นต่างหาก
แล้วดันเจอเธอเข้า” โอคาตะบอกด้วยน้ำเสียงไร้แววซีเรียส ซึ่งตามความจริงเขาก็แค่ขับรถไปแถวนั้นแล้วบังเอิญเห็นริเอะเข้าจริงๆ
“ไม่ว่างไปเฝ้าเธอหรอก ไปสมัครงานที่ร้านอาหารนั่นหรือไง?”
“เปล่า” หญิงสาวตอบเสียงห้วน “ว่าแต่หนี้ 20 ล้านเยนนี่
ฉันหวังว่าคุณคงไม่ได้กุเรื่องขึ้นหรอกนะ”
“ย่าของเธอรับการรักษาด้วยโรคหัวใจ
การผ่าตัดครั้งสุดท้ายใช้เงินก้อนจำนวนมากนี่นา”
โอคาตะเอ่ยขึ้นอย่างไม่รอให้อีกฝ่ายหาข้อโต้แย้งได้
“หรือจะให้บอกชื่อหมอที่รักษาด้วยก็ได้นะ เธอจะได้มองฉันในแง่ดีขึ้นมาบ้าง”
“ย่าเป็นหนี้ธนาคาร..นาโอกะ แบงค์ ใช้หนี้ไปแล้ว 2 ล้านเยน
แต่ถ้าคุณคิดจะรวบรัดหนี้สินตอนนี้ล่ะก็...ฉันไม่มีให้หรอก”
ที่ผ่านมาย่าโกหกเธอตลอดว่าค่ารักษาพยาบาลไม่ได้แพงมากมาย และท่านเอาเงินเก่าเก็บมารักษาตัวเอง
ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่เลย “แต่จะว่าไป
มันมีที่ไหนกันที่ให้คนป่วยกู้เงินมากขนาดนั้นมารักษาตัวเอง ธนาคารคุณนี่เสี่ยง ‘หนี้ศูนย์’ มากนะ
ถ้าคนไข้เกิดตายระหว่างการผ่าตัดขึ้นมาล่ะ..”
ริเอะพูดด้วยความโมโห แต่เธอก็พลันชะงักไปเมื่อคิดได้ว่าตนพูดจาเหมือนกำลังแช่งย่าตัวเองอยู่
แต่ก็นะ! ค่ารักษาแพงหูฉี่ขนาดนี้
ถ้าธนาคารเขาไม่ได้ให้กู้ตั้งแต่ทีแรก ย่าของเธอจะเป็นอย่างไร
“เธอนี่..ใจดำกว่าที่คิดนะ ถ้าย่าเธอไม่มากู้เงิน
แล้วค่ารักษาพยาบาลจะเอาที่ไหน ป่านนี้ไม่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นหรือไง”
ริเอะเถียงไม่ออก เพราะโอคาตะพูดความจริง “ฉันก็แค่ทำตามหน้าที่ ถ้าลองมาคำนวณแล้ว
หนี้ที่เหลืออีกเกือบเต็มจำนวน กับเวลาของคุณย่าที่แก่ลงทุกวัน ยังไงซะ..ย่าของเธอก็ใช้หนี้ให้ทางธนาคารเราไม่หมดหรอก”
ถึงคำพูดจะรุนแรงไปสักนิด แต่โอคาตะก็นึกขอโทษโยเนะอยู่ในใจตลอด
เขาไม่มีเจตนาแช่งโยเนะเลย
แต่ถ้าไม่เอาเรื่องความเป็นความตายของโยเนะมาเล่นกับความรู้สึกของริเอะ
เขาก็คงหมดโอกาสที่จะได้อยู่ใกล้หญิงสาวแล้วจริงๆ
“จะบอกให้นะว่าปกติแล้ว คนที่จะสามารถกู้เงินจำนวนมากได้
จะต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันที่ทางธนาคารเห็นแล้วว่าสินทรัพย์เหล่านั้นจะสามารถบรรเทาหนี้ของผู้กู้ได้อย่างไม่ขาดทุน
แต่ในกรณีของย่าเธอ ธนาคารพิจารณาให้ผ่านเป็นพิเศษ”
“หรอคะ งั้นฉันขอทราบเหตุผลหน่อยว่าทำไมธนาคารของคุณถึงใจดีกับย่าฉันพิกล”
ริเอะถอนใจ ภาวนาในใจขอให้โอคาตะไม่เล่นตุกติกกับเธอ แต่จากการคาดการณ์ของหญิงสาวแล้ว..ถ้าย่าเธอเป็นหนี้ก้อนโตขนาดนี้
ดูเหมือนว่าคนต่อไปที่ทางธนาคารจะเร่งรัดเอาหนี้คืนได้ก็คงเป็นเธอ...หรือไม่ก็พ่อ
“ย่าของเธอเคยช่วยคนสำคัญของนาโอกะกรุ๊ปเอาไว้น่ะ”
“งั้นก็ฝากบอกไอคนที่ย่าฉันเคยช่วยด้วยว่า..สำนึกบุญคุณกันหน่อย ลดหนี้ให้สักครึ่งนึงได้รึเปล่า?”
“ไม่ได้!” โอคาตะสวนกลับมาทันที แล้วก็แทบทันทีเช่นกัน...ที่ริเอะโต้กลับมาด้วยน้ำเสียงที่เดือดปุด
“ทำอย่างกับว่าคนที่ย่าฉันช่วยไว้..เป็นคุณ”
“ใช่” คำพูดเรียบๆ
ที่เจือด้วยเสียงหัวเราะทำเอาหญิงสาวถึงกับมั่นใจว่าโอคาตะพูดเรื่องจริงแน่นอน
อะไรที่เขาถือไพ่เหนือกว่าเขาจะดูสบายอกสบายใจเสมอ “ย่าของเธอเคยช่วยฉันไว้ตอนเด็กมาก
อ๋อ ทั้งพ่อเธอและย่าเธอนั่นแหละ”
“ถ้าย่าฉันเป็นหนี้คุณจริง ฉันจะจ่ายคืนให้”
“ปีละ 3 ล้านเยนขั้นต่ำ”
ความคิดเห็น