ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพียงชิดใจ

    ลำดับตอนที่ #4 : เพียงชิดใจ :: บทที่ 03 ตอน นางในฝัน 100 %

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 62


    เพียงชิดใจ
    (นวนิยายรักชุด...รักทุกฤดู :: ฤดูดอกรักผลิบาน)


    White and #pink #flower centerpieces #coordinatethedate

    || บทที่สาม ||

    _____________________________________________________________________

    นางในฝัน



    นราธรอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้คนรักฟังอย่างละเอียดว่าเขาไม่ได้แอบไปรู้จักกับเพียงชิดจันทร์เป็นการส่วนตัว และเขาไม่ได้คิดปิดบังเลย เพียงแต่มันมีเหตุผลหลายอย่างเข้ามาแทรกกลาง...ส่วนหนึ่งอาจเพราะนิลเนตรกับเขาเรียนอยู่กันคนละที่ โอกาสเจอกันก็น้อยมาก และต่างฝ่ายต่างก็เรียนหนักเพราะเป็นปีสุดท้าย ทำให้เขาอาจหลงลืมเรื่องบางเรื่องไปเสียสนิท

    “เรื่องมันก็แค่นี้แหละ นิลวู่วามไม่ยอมมาคุยกับนัทก่อน” ชายหนุ่มบอกหลังจากที่เขาอธิบายความจริงทุกอย่างให้คนรักฟังจนหมดเปลือก แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหยิกจมูกคนตัวเล็กด้วยความหมั่นเขี้ยวระคนเอ็นดู “แต่นัทเองก็ผิดที่ไม่ได้บอกนิล นี่ถ้าไอแต๊งค์มันรู้ว่าเราทะเลาะกันเพราะมันเป็นตัวต้นเหตุนะ มันต้องไม่สบายใจแน่ๆ”

    “แต่ตอนนี้นิลเข้าใจนัทแล้วนะ” หญิงสาวบอก ดวงตาคู่สวยที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาทั้งสองข้าง บัดนี้ก็เหือดแห้งไปแล้ว “นิลไม่รู้นี่นาว่านัทจะไปเป็นเพื่อนแต๊งค์”

    “ช่างเถอะน่า เรื่องมันผ่านมาแล้ว นัทแค่อยากให้นิลเข้าใจว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ” นราธรบอก เพราะเขาไม่อยากให้แฟนสาวคิดมาก “แต่ตอนนี้มีเรื่องที่นิลควรจัดการนะ นิลรู้ใช่มั้ยว่านิลทำผิดกับน้อง”

    ชายหนุ่มมองเธอด้วยสายตาใจเย็น อ่อนโยน และเข้าใจ ขณะที่นิลเนตรเองก็รู้ตัวดีว่าตนเองทำผิดและใจร้อนเกินไปหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็พลั้งมือก่อเรื่องลงไปแล้ว และตอนนี้คลิปก็แพร่กระจายจนยากจะควบคุมได้ ซึ่งหญิงสาวไม่รู้เลยว่าเธอควรจะรับมือกับปัญหาหรือควรจะจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรดี

    “แต่นิลทำเด็กนั่นไปแล้ว” หญิงสาวพูดเสียงอ่อย ใบหน้าสวยแสดงความลำบากใจออกมาอย่างชัดเจน “อีกอย่าง...ตอนนี้เราหยุดคลิปที่ทุกคนแชร์ไม่ได้ทั้งหมดหรอกนะนัท”

    นราธรเข้าใจแฟนสาว เขาเห็นด้วยว่าเรื่องคลิปที่หลุดออกมาก็คงต้องปล่อยเลยตามเลย เพราะหากจะหยุดยั้งตอนนี้ก็คงไม่ทันการณ์แล้ว และสื่อออนไลน์ก็ไปไวมาก แต่ที่ชายหนุ่มพูดและอธิบายก็แค่อยากให้นิลเนตรรู้จักยอมรับผิด และรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป

    “นิลก็ไปขอโทษน้องด้วยตัวเองสิ ง่ายจะตาย” นราธรบอกแฟนสาวและมันคงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้ “มันไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยนะนิล เราทำผิดเราก็ขอโทษ คนที่รู้ตัวว่าตัวเองทำผิดใครๆ ก็อยากให้โอกาส ยอมให้อภัยทั้งนั้นแหละ”

    “เห้อ...ก็ได้ นิลจะไปขอโทษเด็กนั่น และจะประกาศในเฟสบุ๊คขอโทษอย่างเป็นทางการอีกทีพร้อมกับอธิบายว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นความผิดของนิลเอง นิลวู่วามเอง” นิเนตรคิดว่าเธอขอโทษเพียงชิดจันทร์แบบตรงไปตรงมาก็ดีเหมือนกัน เพราะเธอไม่สบายใจเลยที่ทำเรื่องร้ายกาจใส่คนอื่นทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    “ดีมากครับ” นราธรยีผมคนรักด้วยความเอ็นดู เขารู้ว่านิลเนตรไม่ใช่คนร้ายกาจ เธอแมนพอที่จะยอมรับผิด และรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง คนรักของเขาอาจดูแรงและร้ายในสายตาของคนอื่น แต่สำหรับนราธรแล้ว...นิลเนตรเป็นผู้หญิงสวยครบเครื่อง มีเหตุผล คุยกันรู้เรื่อง และยังเป็นคนเก่งทำงานหาเลี้ยงตัวเองโดยไม่คิดพึ่งพาใคร ซึ่งเหตุผลเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่นราธรคิดว่าหญิงสาวเป็น คนที่ใช่มากพอจะร่วมชีวิตด้วยกันได้

    “แล้วนัทไม่ได้ชอบเด็กนั่นจริงๆ ใช่มั้ย” ถึงจะยอมรับผิด แต่หญิงสาวก็อดหวั่นใจไม่ได้อยู่ดี

    นิลเนตรมองคนรักด้วยสายตาหวาดหวั่น นัยน์ตาคู่สวยไหววูบและยังเจือความระแวงเอาไว้บางๆ  เธอกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจไปจากเธอไม่เลิกไม่รา

    “โธ่นิล นัทมีนิลอยู่แล้วทั้งคนนะครับ จะไปรักคนอื่นได้ยังไงกัน”

    และพอจบประโยคนั้นชายหนุ่มก็ดึงร่างเล็กเข้ามากอด ย้ำชัดว่าเขายังคงรู้สึกกับเธอเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่เพียงแค่นั้นเขายังประทับริมฝีปากหยักร้อนลงบนเรียวปากอิ่มเต็ม น่าสัมผัส ก่อนจะจูบเธอย่างลึกซึ้งเพื่อตอกย้ำทุกคำพูดที่พูดออกไปอย่างหนักแน่น และมั่นคง

    เขาจะรักนิลเนตรตลอดไป...



     

    วันนี้เป็นวันหยุดวันสุดท้าย พอเพียงชิดจันทร์บินกลับมาถึงกรุงเทพฯ ดาริณก็ลากหลานสาวคนโปรดออกมาทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เป็นหนึ่งในร้านโปรดของเพียงชิดจันทร์ ตัวร้านตกแต่งแบบไทย แต่มีอาหารให้เลือกรับประทานหลากหลายประเภท

    ทว่าพอทานไปได้สักพัก หญิงสาวก็ปวดฉี่จนต้องขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำ เพียงชิดจันทร์ทำธุระเสร็จเรียบร้อยดีแล้วจึงเดินออกมา แต่หญิงสาวก็ไม่คิดเลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุเข้า และเกิดจากความซุ่มซ่ามของตัวเองเสียด้วย

    นั่นเพราะ...เธอไม่ทันได้ระวังเอง

    “ขอโทษค่ะ จันทร์ไม่ได้ตั้งใจ”

    เพียงชิดจันทร์เดินชนเข้ากับ ใครคนหนึ่งอย่างจัง เนื่องจากเธอมัวแต่เดินก้มหน้าก้มตา สำรวจเสื้อผ้าของตัวเองจนไม่ทันได้ระวัง หญิงสาวเกือบล้มไปกองบนพื้นแล้ว...ถ้าไม่ติดว่าคนที่เธอชนช่วยคว้าแขนเธอเอาไว้ได้ทัน จนเธอกลับมายืนตั้งหลักได้อีกครั้ง

    “ไม่เป็นไรครับ พี่เองก็ไม่ทันได้ระวังเหมือนกัน” คนโดนชนบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน

    เพียงชิดจันทร์มองหน้าเขาตาปริบๆ หญิงสาวแน่ใจว่าเขากำลังยิ้มน้อยๆ ให้เธอด้วย ให้ตายเถอะ! ผู้ชายที่เธอเดินชนดูดี โดดเด่น มีเสน่ห์ และเท่มาก เขาเหมือนดาราดังหรือไม่ก็พวกพระเอกละครหลังข่าวไม่มีผิด แต่หญิงสาวกลับไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย ทว่าประเด็นสำคัญตอนนี้คือเธอเดินชนเขาเองแท้ๆ ทำไมเขาต้องมาแบ่งรับความผิดจากเธอด้วย

    “หืม...ไม่จริงเลยค่ะ จันทร์ซุ่มซ่ามเองต่างหากล่ะ” หญิงสาวโต้กลับ เข้าใจว่าเขาอาจช่วยรับผิดครึ่งหนึ่งเพราะกลัวเธอเสียหน้าก็ได้ “แล้วนี่พี่เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ จันทร์ชนซะแรงเลย”

    เพียงชิดจันทร์รู้ว่าเธอชนเขาแรงอยู่ไม่น้อย แต่อาจเป็นเพราะเขาตัวสูงมาก หุ่นทรงก็หนาแบบคนออกกำลังกายดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เลยยืนเป็นยักษ์อยู่กับที่ในขณะที่คนชนอย่างเธอกระเด็นเสียเอง

    “พี่ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มส่ายหน้า เป็นห่วงก็แต่เธอ นี่ถ้าเขาไม่คว้าแขนเอาไว้ มีหวัง...หญิงสาวคงล้มไปนั่งกองอยู่บนพื้นแล้ว “แล้วน้องล่ะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

    “จันทร์ไม่เป็นไรค่ะ แต่ก็เกือบไปแล้วเหมือนกัน ถ้าพี่ไม่ช่วยไว้จันทร์ต้องล้มกลิ้งอยู่ที่พื้นแน่ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณที่เขามีน้ำใจช่วยเหลือเธอ จนอีกฝ่ายแทบยกมือรับไหว้ไม่ทัน “ถ้าไม่มีอะไรแล้วจันทร์ขอตัวนะคะ”

    พูดจบหญิงสาวก็เดินกลับเข้าไปยังตัวร้านอาหารในโซนที่เธอกับผู้เป็นย่านั่ง ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามหลังเธอไป พร้อมด้วยรอยยิ้มหวานฉ่ำ นัยน์ตาเปล่งประกายระยิบระยับ

    ร่างสูงคิดในใจขณะมองตามแผ่นหลังของสาวมีน้ำมีนวล เวลาเธอเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อก็น่ารักไปอีกแบบเหมือนกัน รู้สึกเหมือนสนิทกันเลย

    “คุยกับใครน่ะทานต์”

    เสียงของผู้จัดการส่วนตัวอย่าง ดาวศุกร์ทักขึ้น ทำให้ ทานต์ ทยากร ออกจากภวังค์ความคิดแล้วหันกลับมาหาคนเรียก ทั้งที่นัยน์ตายังคงทอแสงวับวาว

    “ผมบังเอิญเจอรุ่นน้องที่มหาลัยฯ น่ะครับ แต่ดูเหมือนน้องเขาจะจำผมไม่ได้เลย”

    ชายหนุ่มบอกแต่น้ำเสียงกลับเจือความเศร้าเอาไว้เล็กๆ นั่นเพราะทยากรแน่ใจว่าเขาจำหญิงสาวได้แม่น เนื่องจากเดินสวนกับเพียงชิดจันทร์บ่อยครั้ง เจอกันในงานกิจกรรมของมหาลัยฯ ก็ตั้งหลายหน

    แต่ความจริงคือ...ทยากรเจอเพียงชิดจันทร์ตั้งแต่ตอนที่หญิงสาวเข้ามาเรียนปีหนึ่ง และเขาก็แอบชอบเธอตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

    ชายหนุ่มยังจำได้ดีว่าตอนที่เจอกันครั้งแรก...เพียงชิดจันทร์มีรูปร่าง ตุ้ยนุ้ยกว่านี้เสียหน่อย แต่ปัจจุบันหญิงสาวก็น้ำหนักลดลงมามาก หุ่นทรงเข้าที่ชวนมอง แต่ที่เขาจำได้ไม่เคยลืมจนติดตรึงอยู่ในใจเลยคือ...ผิวขาวเนียนละเอียดของหญิงสาว ดวงตากลมใสสุกสกาว และรอยยิ้มอ่อนหวานของเธอ

    ในสายตาคนอื่นเพียงชิดจันทร์อาจไม่ได้สวยสมบูรณ์แบบเหมือนผู้หญิงคนอื่นในวัยแรกแย้ม  ไม่ได้มีความเซ็กซี่น่ามอง หรือมีแรงดึงดูดเพศตรงข้ามมหาศาล แต่ความน่ารัก รอยยิ้ม แววตา ความเป็นธรรมชาติ และตัวตนของเธอทำให้ชายหนุ่มไม่อาจลืมภาพเด็กสาวตัวขาวผ่อง มีความจ้ำม่ำนิดๆ ใส่แว่นตาเหมือนตัวการ์ตูน และใส่กระโปรงยาวลากพื้นได้ลงเลย

    และหากนับวันเวลาที่ทยากรแอบหมายปองหญิงสาวคนนี้ ก็ยาวนานมาถึง 3 ปีเต็มแล้ว

    ทยากรถือว่าวันนี้เป็นวันที่ดีของเขามาก เพราะตั้งแต่เขารู้จักเพียงชิดจันทร์มา (ทั้งที่หญิงสาวไม่รู้จักเขาเลยก็ตาม) ก็เพิ่งจะได้คุยกันเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าการเริ่มต้นระหว่างเขากับเพียงชิดจันทร์นั้นอาจจะประหลาดไปหน่อยก็ตาม

    “นี่ ทานต์มองน้องเขาตาเยิ้มเกินไปหรือเปล่าจ้ะ” ดาวศุกร์ทัก เด็กในสังกัดเมื่อเห็นว่าทยากรหันมาคุยด้วยแล้ว แต่ประกายสายตาที่มองตามเด็กสาวเมื่อครู่กลับไม่ลดลงเลย

    อย่างกับคนมีความรัก

    “เหรอครับ ผมไม่เห็นรู้ตัวเลย” ชายหนุ่มบอกพร้อมยักไหล่ด้วยท่าทางสบายๆ ทั้งที่เขาเองรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตัวเองรู้สึกอะไรกับผู้หญิงที่เพิ่งเดินจากไป แต่ชายหนุ่มก็หัวเราะกลบเกลื่อนอาการที่แสดงออกชัดเจนของตัวเองแทน พลอยทำให้ดาวศุกร์ต้องยิ้มตามไปด้วย

    “แหม!” ถึงจะยิ้มตามเมื่อเห็นชายหนุ่มอารมณ์ดี แต่ดาวศุกร์ก็อดหมั่นไส้ไม่ได้เลย เพราะที่ผ่านมาทยากรไม่เคยมองใครด้วยสายตาแบบนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว “ยังจะมาเฉไฉอีกนะ พี่เห็นอยู่คาตาเนี่ย”

    “ว้า! ไหนๆ พี่ดาวศุกร์ก็จับได้ละ ผมบอกความจริงพี่เลยดีกว่า” ชายหนุ่มบอกด้วยสีหน้ายิ้มแกมทะเล้น แต่เขาไม่ได้พูดแหย่ผู้จัดการตัวเองเลยสักนิด

    “ความจริงอะไรจ๊ะ สุดหล่อของพี่”

    “ผมชอบน้องเขาครับ ชอบมานานแล้ว”

    ดาวศุกร์วางสีหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะปกติแล้วทยากรเป็นคนอารมณ์ดี ชอบอำ ชอบแหย่คนอื่นเสมอ ชอบทำให้คนอื่นยิ้มและหัวเราะได้ในทุกสถานการณ์ ทว่าในขณะเดียวกันนั้นสายตาก่อนหน้านี้ที่ทยากรมองตามหลังเด็กสาวที่เดินสวนกับเธอ บวกกับน้ำเสียงในประโยคหลังที่จริงจังมากขึ้นทำให้ดาวศุกร์คาดเดาไม่ถูกเลยว่าทยากรกำลังคิดอะไรอยู่...แกล้ง หรือ เอาจริง!

    “ทานต์อำพี่เล่นรึเปล่าเนี่ย” ดาวศุกร์ถามเด้กหนุ่มด้วยน้ำเสียงกึ่งหวั่นใจ แต่สีหน้าก็ยังประดับรอยยิ้มไม่จาง “เด็กที่เดินสวนพี่ไปเนี่ยนะ”

    “ใช่ครับ แต่อย่างที่ผมบอกพี่ดาวศุกร์เลย...น้องเขาจำผมไม่ได้” ชายหนุ่มยอมรับออกมาตามตรง คราวนี้น้ำเสียงจริงจังมากไม่แพ้สีหน้าที่แอบหนักใจหน่อยๆ ด้วย “นี่ขนาดเรียนที่เดียวกันแท้ๆ” ประโยคหลังทยากรคล้ายพูดตัดพ้อกับตัวเองมากกว่า

    ก็จะไม่ให้เขาน้อยใจเพียงชิดจันทร์ได้อย่างไร ในเมื่อเขากับหญิงสาวเรียนอยู่ที่สถาบันเดียวกัน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมมหาลัยฯ เจอกันก็ตั้งหลายครั้งหลายหน ทั้งงานกิจกรรมต่างคณะฯ บ้างล่ะ งานประเพณีของมหาลัยฯ บ้างล่ะ และยังเดินสวนกันไปมารวมแล้วก็น่าจะร้อยรอบได้

    มิหนำซ้ำทยากรยังโด่งดัง มีชื่อเสียงมาจากการร้อง Cover เพลงของศิลปินดังลงใน YouTube จนกระทั่งมีแมวมองสนใจและชักชวนชายหนุ่มให้เข้าวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว ทยากรไม่ได้ปิดกั้นโอกาสตัวเองและไม่นานหลังจากนั้นค่ายเพลงดังก็จับชายหนุ่มผู้มากความสามารถเซ็นต์สัญญาเป็นนักร้องในสังกัดเป็นที่เรียบร้อย

    ทยากรเองใช่ว่าจะทำได้แค่ร้องเพลง ขายเสียง แต่เขายังรับงานละครบ้างเล็กน้อย อวดโฉมหน้าให้เห็นผ่านทางสื่อบ่อยครั้ง งานโฆษณาก็มี และด้วยความสามารถที่หลากหลายทำให้เขาสร้างตัวได้ตั้งแต่อายุยังน้อย จนตอนนี้ทยากรกลายเป็นทั้งนักร้องและนักแสดงคุณภาพที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่ง

    ทว่าสุดท้ายแล้วถึงทยากรจะมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของประชาชน แต่เขากลับไม่เคยได้อยู่ในสายตาของเพียงชิดจันทร์เลย

    “ทานต์ เราอย่าหาว่าพี่ปากร้ายเลยนะ แต่พี่ขอบอกตรงๆ พี่ไม่คิดว่าทานต์จะชอบสาว...เอ่อ...ประเภทนี้น่ะ”

    “น้องเขาไม่สวย?”

    “ไม่เชิงหรอกนะ แต่เด็กคนนั้นอาจเป็นประเภทลูกเป็ดขี้เหร่ที่ใครๆ มองข้ามก็ได้”

    ดาวศุกร์บอกอย่างถนอมน้ำใจเด็กในสังกัดตัวเอง ถึงเธอจะเป็นสาวประเภทสอง แต่ก็ไม่เคยพูดจารุนแรงหยาบคาย อีกทั้งเด็กสาวคนนั้นก็ใช่ว่าไม่สวยเสียทีเดียว มีความน่ามอง และน่ารักไปตามวัย แต่ออกจะเฉิ่มไปนิด ดูเป็นเด็กเรียนไปหน่อย ซึ่งในชีวิตของทยากรนั้นมีสาวสวยระดับเน็ตไอดอล หรือพวกดาราสาวๆ รุ่นราวคราวเดียวกันให้ชอบตั้งถมเถ ดาวศุกร์เลยไม่คิดว่าทยากรจะชอบสาวประเภทเรียบร้อยขนาดนี้

    “น้องอาจจืดไปในสายตาคนอื่น แต่สำหรับผมน้องจันทร์น่ารักมากครับ” ชายหนุ่มบอกพร้อมรอยยิ้มเขินข้างมุมปาก

    “โอ๊ย เกินไปแล้ว” พอเห็นท่าทาง ชอบจริงจัง ดาวศุกร์เลยอดแซวไม่ได้ “น้องเขายังไม่รู้ตัวเลยว่าเราชอบหนักขนาดนี้”

    “ผมถามพี่ดาวศุกร์จริงๆ เลยนะครับ ถ้าผมจีบน้องจันทร์ติด พี่จะอนุญาตให้ผมกับน้องเขาคบกันมั้ย”

    ทยากรไม่เคยสร้างปัญหารำคาญใจให้ดาวศุกร์คอยตามแก้ไขเลย ชายหนุ่มเป็นคนที่จริงจัง มุ่งมั่นในการทำงานมาก และยังวางตัวได้เหมาะสม หากมีเรื่องไม่สบายใจอะไร หรือมีข่าวที่ส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของตัวเอง ทยากรก็จะปรึกษาผู้จัดการอย่างดาวศุกร์ทันทีเพื่อหาทางออกร่วมกัน ทยากรไม่เคยตัดสินใจผิดพลาด และไม่เคยทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาผู้จัดการให้ดาวศุกร์ต้องขุ่นเคืองใจเลย

    ความรักครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาอยากขอความเห็นจากดาวศุกร์ก่อน

    “น้องเขาไม่ใช่คนดังใช่มั้ย”

    “ไม่น่าใช่หรอกครับ เป็นผู้หญิงธรรมดาที่น่ามอง” ชายหนุ่มบอก แต่ก็ไม่วายหยอดคำชมหญิงสาวในดวงใจทิ้งท้าย

    “หืม นี่เรียกว่าหลงแล้วล่ะ เกินเบอร์คำว่าชอบไปมาก” ดาวศุกร์เบ้ปากใส่เด็กในสังกัดตัวเองอย่างหมั่นไส้

    “ก็แหม ผมแอบมองน้องจันทร์มาสามปีเต็มแล้วนะครับ” ทยากรยอมรับพร้อมกับรอยยิ้มเขินอย่างที่เห็นได้น้อยครั้งนัก ชายหนุ่มรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวอย่างไร้สาเหตุขึ้นมาดื้อๆ เวลาเอ่ยถึงเพียงชิดจันทร์ แต่เขาก็พยายามกลบเกลื่อนอาการที่เกิดขึ้นให้เป็นปกติมากที่สุด “แต่วันนี้เราเพิ่งได้คุยกันเป็นครั้งแรกเอง”

    “คุยว่า...?”

    “ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ น้องแค่เดินมาชนผม แล้วก็ขอโทษเท่านั้น”

    “แค่นี้?” ดาวศุกร์ถามย้ำ แต่กิริยาที่ทยากรแสดงออกมา ทั้งแก้มขึ้นสีระเรื่อ และแววตาที่เปล่งประกายวาววามเหมือนมีดวงดาวนับพันอยู่ด้านในทำให้ผู้จัดการอย่างเธออดยิ้มตามกับภาพที่เห็นไม่ได้เลย

    เพิ่งจะรู้ว่าผู้ชายแมนๆ ก็เขินเป็นเหมือนกัน

    “แต่ทานต์แอบชอบน้องเขามานานมากเลยนะ แล้วเราก็ดูชอบน้องเขาหนักมากด้วย” ดาวศุกร์ออกความเห็น และเธอดูออกว่ามันไม่ใช่การแสดง แต่เป็นความรู้สึกที่ออกมาจากข้างในจริงๆ

    “ครับ ตอนแรกผมก็แค่ปลื้มน้อง...เห็นว่าจันทร์น่ารักน่าหยิกดี แต่พอคุยกันเมื่อกี้ก็ยิ่งปลื้มน้องหนักเลย ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็น ติ่งที่คอยตามปลื้มน้องเขา อารมณ์เหมือนติ่งปลื้มศิลปินที่ตัวเองชอบ” ทยากรไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะออกอาการ ปลื้มหนักมากขนาดนี้...ขนาดที่แค่ได้คุยกับเพียงชิดจันทร์ไม่กี่คำก็ทำเขาหัวใจก็เต้นแรง และแทบหุบยิ้มไม่ได้ด้วยซ้ำ

    เพียงชิดจันทร์มีอิทธิพลต่อความรู้สึกเขามากจริงๆ

    ทยากรมีแฟนคลับมากมายที่ปลื้มเขา คอยตามเชียร์ ติดตามผลงาน คอยเข้ามาให้กำลังใจกันตลอด แต่ชายหนุ่มเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าการได้ปลื้มใครสักคนอย่างจริงจังนั้นมันทำให้หัวใจพองโต เหมือนมีพลังงานบางอย่างที่ทำให้เขามีความสุขมาก และอิ่มเอมใจแม้แค่ได้เห็นหน้าเท่านั้น

    ในด้านการทำงาน ทยากรสัญญากับตัวเองว่าเขาจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้คนที่คอยสนับสนุนเขาต้องผิดหวัง เสียใจ ส่วนในเรื่องของหัวใจ...ทยากรเองอยากลองลงสนามจีบเพียงชิดจันทร์ดูสักตั้ง

    ชายหนุ่มไม่ได้คาดหวังผลตอบรับว่าเพียงชิดจันทร์จะชอบเขาเลยในทันที เพราะถ้าหญิงสาวจะชอบหรือสนใจเขา...เธอคงมองเห็นเขาในสายตาตั้งแต่แรกแล้ว

    ทยากรแค่อยากจีบเพียงชิดจันทร์ นั่นเพราะเขาสนใจหญิงสาวจริงๆ และอยากให้เกียรติเธอด้วย อยากทำให้เห็นว่าเขาจริงใจกับเธอ และไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลย แม้จะมีแอบหวังเล็กๆ ในใจบ้างนั่นคือ...เพียงชิดจันทร์มองเห็นว่าเขามีตัวตนในสายตาเธอแล้ว

    “ทานต์ อาการหนักเหมือนกันนะเรา” ดาวศุกร์ไม่ว่าหากทยากรจะมีความรัก เพราะที่ผ่านมาชายหนุ่มรักษาภาพลักษณ์และไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียในวงการเลย อีกทั้งเธอยังไม่เคยเห็นว่าทยากรจะสนใจใครมากขนาดนี้มาก่อน “พี่ไม่ห้ามที่ทานต์จะชอบน้องเขานะ แต่ยังไงพี่ขอสืบประวัติน้องเขาก่อนละกัน พี่หวังว่าทานต์คงเข้าใจ”

    “ได้ครับ เอาที่พี่ดาวศุกร์สะดวกและสบายใจเลย ผมขอแค่พี่ไฟเขียวให้...ผมก็โอเคแล้ว” ชายหนุ่มยิ้มเอาใจเพราะเขารู้ดีว่าอย่างไรดาวศุกร์ก็จะให้โอกาสเขาเสมอ

    ส่วนดาวศุกร์ที่รักและเอ็นดูทยากรประดุจน้องชายแท้ๆ ไปแล้ว เนื่องจากทั้งคู่ร่วมงานกันมานานในระดับหนึ่ง แต่ที่สำคัญเลยคือทยากรมีความน่ารัก เป็นกันเอง เห็นอกเห็นใจผู้อื่น วินัยในการทำงานดีเลิศ และนิสัยใจคอใช้ได้เลยทีเดียว มิหนำซ้ำความประพฤติดีเยี่ยมมาตลอด ชายหนุ่มถึงเป็นที่รักใคร่ของผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุนและประชาชนจำนวนมากที่คอยเป็นแรงผลักดัน

    ส่วนเรื่องความรักถ้าเธอสืบประวัติฝ่ายหญิงแล้วไม่ได้มีปัญหา ประเภทเป็นผู้หญิงหลอกลวง หวังเกาะกระแสคนดังดังตาม มีนิสัยเสียเหวี่ยงวีน และเสี่ยงทำให้ทยากรตกเป็นข่าวคาวๆ ในวงการ เรื่องนี้คนอย่างดาวศุกร์ก็คงยอม ไฟเขียวให้ทยากรจีบหญิงสาวที่ตัวเองหมายปองได้ตามใจ

     



    “โอ๊ย คนอะไรร้องเพลงเพราะมาก แถมยังหล่อน่าลากด้วย”

    มณิกาจ้องหน้าจอโทรศัพท์ ตาก็ดู MV เพลงใหม่ของที่ศิลปินวัยรุ่นที่กำลังเป็นที่นิยมมากในเวลานี้ แต่ปากกลับส่งเสียงกรี๊ดกร้าดชื่นชมเจ้าของผลงานไม่หยุด

    ไม่เพียงแค่นั้น มณิกายังใจดีแบ่งหูฟังข้างหนึ่งของตัวเองแล้วใส่หูให้เพื่อนอย่างเพียงชิดจันทร์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันฟังด้วย

    เพียงชิดจันทร์ไม่ค่อยได้สนใจบันเทิงไทยเสียเท่าไหร่ หญิงสาวฟังเพลงบ้างเพื่อคลายเครียดจากการอ่านหนังสืออย่างหนัก แต่เพลงที่เธอฟังก็ไม่ใช่ศิลปินในประเทศไทยเลย ทว่าเพลงที่มณิกาให้ฟังก็มีเนื้อหาใจความเพราะ ซาบซึ้งใจดี แม้เพลงจะเป็นแนวฟังสบายๆ แต่ก็รู้ได้ว่าคนทำเพลงต้องตั้งใจมากแน่ๆ

    “เพราะดี แล้วใครร้องล่ะ” เพียงชิดจันทร์ชมหลังจากฟังไปได้เกือบครึ่งเพลง ขณะที่สายตาไล่เรียงอยู่บนตัวอักษรในแผ่นกระดาษ แล้วมือก็กำลังเขียนสรุปบทเรียนที่เรียนมาทั้งหมด เพราะการสรุปเนื้อหาที่เรียนมานั้นทำให้เธอเข้าใจมากยิ่งขึ้น

    “แกรู้จักพี่ทานต์มั้ย” คนไม่สนใจอ่านหนังสือแต่สนใจศิลปินคนดังถามต่อ ใบหน้าหวานแกมทะเล้นของมณิกายิ้มแย้ม สายตามีประกายแห่งความปลาบปลื้มศิลปินคนดังเต็มที่

    “ไม่ ฉันไม่ค่อยฟังเพลงแนวนี้เท่าไหร่” เพียงชิดจันทร์ตอบทันที “ฉันฟังเพลงสากล หรือไม่ก็พวก K-Pop

    “เรื่องนั้นฉันรู้ย่ะ แต่แกพูดจริงป่ะเนี่ยที่ว่าแกไม่รู้จักพี่ทานต์น่ะ” มณิกาทำตาโตใส่เพื่อนสาวอย่างไม่อยากจะเชื่อ “จันทร์ แกพลาดมากเลยนะ”

    “พลาดยังไง ฉันก็ฟังเพลงในแนวที่ฉันชอบสิ”

    “ก็พลาดตรงที่แกไม่รู้จักพี่เขานี่ไงล่ะ” มณิกาทำสีหน้าจริงจังขึ้น ก่อนจะอธิบาย “พี่ทานต์เขาดังจะตาย นี่เพิ่งออกเพลงใหม่เมื่ออาทิตย์ก่อน ยอดวิวก็พุ่งไปตั้งห้าสิบล้านวิวแล้ว แล้วตอนนี้ก็เริ่มจับงานละคร งานโฆษณาพี่ทานต์ก็มีนะแก”

    แฟนคลับตัวยงอย่างมณิกาสาธยายผลงานของศิลปินดังที่ตนชื่นชอบแบบที่เพียงชิดจันทร์ไม่ต้องไปค้นประวัติให้เสียเวลาเลย

    “แล้วไง?”

    “ไม่แล้วไงหรอก แค่แปลกใจว่าทำไมแกไม่รู้จักพี่เขา นี่แกไปอยู่โลกไหนมายะ คนทั้งมหาลัยฯ เรารู้จักพี่ทานต์ทั้งนั้น และที่สำคัญพี่ทานต์เรียนอยู่ที่เดียวกับเรา” มณิกามองเพื่อนสาวอย่างไม่เข้าใจ ปกติเธอกับเพียงชิดจันทร์ก็ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เธอเจอทยากรคนดังออกจะบ่อย แต่เพียงชิดจันทร์นี่สิ...กลับไม่สังเกตเห็นอะไรบ้างเลย “คนนี้ไงแก”

    มณิกาเปิดรูปนักร้องดัง อีกทั้งยังมีดีกรีเป็นรุ่นพี่ร่วมมหาลัยฯ ที่เซฟเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือให้เพื่อนจอมเฉิ่มดู

    “หืม คนนี้ฉันเพิ่งเดินชนเขานี่นา”

    เพียงชิดจันทร์มองภาพศิลปินคนดังที่มณิกาชื่นชอบแล้วคิ้วเรียวได้รูปก็มีอันต้องขมวดเข้าหากัน หญิงสาวจำได้ดีว่าผู้ชายที่เห็นตอนนี้คือคนเดียวกับคนที่เธอเดินชนเขาเมื่อวันก่อน

    ว่าแล้วเชียว ดูดีขนาดนั้นต้องเป็นดาราแหงๆ

    ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ก็น่าแปลกที่เธอกลับไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าชายหนุ่มเรียนที่เดียวกันกับเธอ มิหนำซ้ำเธอก็ไม่เคยเห็นเขาเลย

    “เมื่อไหร่ ที่ไหน อะไรยังไง ไหนเล่าให้เพื่อนฟังซิยายตัวดี” มณิกาคาดคั้นทันทีที่เพื่อนสาวหลุดปากออกมาว่าเคยเจอกับทยากรมาก่อน อีกทั้งยังเดินชนกัน ซึ่งเธอถือว่าเพื่อนสาวโชคดีมากจนอยากรู้ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร...เพียงชิดจันทร์ถึงได้โชคดีขนาดนี้

    เพียงชิดจันทร์ส่งโทรศัพท์มือถือคืนเพื่อน พอเห็นมณิกาจ้องหน้าเธออย่างคาดคั้นเอาคำตอบ...หญิงสาวก็จำใจเปิดปากเล่าเรื่องราววันก่อนที่บังเอิญเจอกับทยากรให้เพื่อนฟัง

    “ก็วันก่อนฉันไปทานข้าวกับคุณย่ามา หลังกลับมาจากเชียงใหม่น่ะ แล้วฉันก็ดันซุ่มซ่าม เดินชนเขาหน้าห้องน้ำ จบ!” เพียงชิดจันทร์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสั้นๆ แบบรวบรัดตัดความเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเอาคนตั้งใจฟังตาแป๋วถึงกับทำหน้ายับยู่

    “แค่นี้!” มณิกาโวยวายหลังจากเพื่อนสาวเล่าจบ และทำท่าว่าจะเขียนสรุปบทเรียนต่อโดยไม่สนใจใยดีกัน “จบปิ้งเลยเนี่ยนะ”

    “อืม ก็แค่นี้แหละ แกจะเอาอะไรมากมายล่ะ” เพียงชิดจันทร์พยักหน้า และที่สำคัญแค่นี้ก็เกินพอแล้ว เพราะวันนั้นเธอซุ่มซ่ามมากจนอดรู้สึกขายหน้าเขาไม่ได้จริงๆ

    “มากมายสิยะ ก็นี่มันเป็นพรหมลิขิตชัดๆ” มณิกาขึงตาใส่เพื่อนอย่างดุๆ พร้อมกับส่ายหน้าอย่างระอาใจ

    ถึงทยากรจะเรียนที่เดียวกับพวกเธอก็จริง แต่ก็ใช่ว่าคนดังแบบนั้นจะเจอตัวกันได้ง่ายๆ เสียเมื่อไหร่ ยิ่งได้เจอกันนอกสถานที่แบบนี้ด้วยแล้ว มณิกาถือว่าเพียงชิดจันทร์โชคดีมาก

    “เว่อร์ไป แกมโนไปเอง” เพียงชิดจันทร์ว่าเพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก เธอไม่เคยคิดเรื่องอะไรทำนองนั้นเลย...เพราะมันเป็นไปไม่ได้ “ฉันเดินชนพี่เขานะม่าน จะมาพรหมลิขิตอะไรกันล่ะ แค่นี้ก็ขายหน้าจะแย่แล้ว ดีนะที่พี่เขาไม่ล้มไปกองกับพื้น”

    “แล้วไม่ได้พูดอะไรกับพี่เขาเลยเหรอ ขอถ่ายรูปล่ะ ขอนามบัตรไว้มั้ย” มณิกาซักไซ้เพื่อนต่อด้วยความอยากรู้อยากเห็น โดยไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ

    “เดี๋ยวนะม่าน ฉันเดินชนพี่เขานะ ไม่ได้ขับรถชนซะหน่อย ทำไมต้องถ่ายรูปและขอนามบัตรไว้ด้วย ให้พี่เขาโทรมาเคลมประกัน เรียกร้องค่าเสียหายจากฉันเหรอ” เพียงชิดจันทร์โต้กลับเพื่อนสาวแกมประชดอย่างขำๆ

    “โอ๊ย แกน่ะฉลาดทุกเรื่องรู้ตัวหรือเปล่าจันทร์ แต่เรื่องแบบนี้ดันซื่อเสียเหลือเกิน เบื่อเพื่อนตัวเองจัง” มณิกาโอดครวญด้วยน้ำเสียงสุดเซ็ง “แกเห็นว่าพี่ทานต์เขาดูดีมีออร่ากว่าคนปกติทั่วไปก็น่าจะถามสักนิดว่าใช่คนดังหรือเปล่าคะ เป็นดาราใช่มั้ยสิ แล้วถ้าใช่แกก็ขอถ่ายรูปไง มีโอกาสทั้งที”

    “ฉันไม่ทันคิดนี่นา” เพียงชิดจันทร์บอกเพื่อนสนิท และตอนนั้นสถานการณ์ก็จวนตัวจนเธอทำอะไรไม่ถูก “ตอนนั้นมันมัวแต่ตกใจนี่”

    “ช่างเหอะ แต่ถ้าเป็นฉัน...ฉันจะขอถ่ายรูป ขอเบอร์ติดต่อ ไอดีไลน์ เบอร์ห้องด้วยเลย เอาให้คุ้ม” มณิกาบอกสีหน้าที่เซ็งเมื่อครู่กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นเมื่อหญิงสาวนึกถึงนักร้องในดวงใจ

    คิดก็ฟินแล้ว

    “แกดูโรคจิตนะม่าน” เพียงชิดจันทร์จ้องเพื่อนตัวเองด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ ก่อนจะยิ้มขำเมื่อเห็นมณิกาทำตาเขียวใส่เธอ

    “ก็ฉันชอบพี่ทานต์นี่ เก่ง หล่อ มากความสามารถ”

    “แล้วแกเอาพี่แต๊งค์ของแกไปไว้ไหนจ้า” เพียงชิดจันทร์อดแซวเพื่อนไม่ได้

    เธอเห็นว่าทีกับต้องชนะที่คอยตามจีบมณิกาเช้าถึงเย็นถึง มณิกาไม่เห็นใส่ใจเท่านักร้องในดวงใจขนาดนี้เลย และตั้งแต่คุยกันมา...เพื่อนสาวก็เอาแต่พูดถึง พี่ทานต์แทบไม่หยุดปาก ไม่เห็นมี พี่แต๊งค์หลุดออกมาจากปากเลยแม้แต่คำเดียว

    จะว่าไปแล้วพักนี้เพียงชิดจันทร์รู้สึกว่าเธอไม่ค่อยได้เจอหน้าต้องชนะเลย หรือว่าอีกฝ่ายจะถอดใจเลิกจีบเพื่อนของเธอไปแล้ว

    “จะว่าไปฉันก็สงสารพี่แต๊งค์เหมือนกันนะจันทร์ นี่โดนไอเมี่ยงแกล้งซะสะบักสะบอมไปแล้ว” มณิกาเอามือเท้าคาง ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าหม่นลง

    พอพูดมาถึงตรงนี้...มณิกาก็อดเห็นใจต้องชนะไม่ได้

    เธอกับต้องชนะจงใจคบหากันเงียบๆ ไปก่อน แต่ความดันมาแตกตอนที่นิลเนตรมาอาละวาดเพียงชิดจันทร์ จากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้มณิสรคาดคั้นแล้วได้ความจริงจากปากมณิกาว่าเพียงชิดจันทร์ โดนลูกหลงสาเหตุมาจากเธอแอบไปเดทกับรุ่นพี่ต่างมหาลัยฯ จนเกิดความเข้าใจผิดกัน

    พอมณิสรรู้ว่าฝาแฝดของตัวเองกำลังคบหากับต้องชนะ กอปรกับต้องชนะก็บุกบ้านหญิงสาวเข้ามาสารภาพกับทางครอบครัวของฝ่ายหญิงอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาขอคบกับมณิกาอย่างเปิดเผย และจะคบกันอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ ไม่ทำเรื่องเสื่อมเสีย นั่นก็เพื่อให้ทางครอบครัวของมณิกาสบายใจได้ว่าตนจริงใจกับมณิกาจริงๆ

    ทว่านั่นก็เท่ากับเปิดโอกาสให้ทั้งบิดาและมณิสรร่วมกันพิสูจน์ความจริงใจของต้องชนะด้วยการกลั่นแกล้งชายหนุ่มสารพัด ทั้งทดสอบความสามารถรอบด้าน ทดสอบความอดทน จนตอนนี้ต้องชนะช้ำไปทั้งตัวเลยก็ว่าได้

    แต่ถึงกระนั้นก็ยังโชคดีที่มารดาของมณิกาไม่ร่วมแกล้งต้องชนะด้วยอีกคน และท่านออกจะเห็นใจต้องชนะอยู่มาก เลยช่วยออกปากปรามทั้งสามีและลูกสาวอีกคนว่าให้เพลาๆ มือลงหน่อย ไม่เช่นนั้นแล้วผู้ชายอาจถอดใจเลิกจีบ ลูกสาวของท่านคงขายไม่ออกทั้งสองคน

    “ไอเมี่ยงร่วมมือกับพ่อลากพี่แต๊งค์ไปเรียนยิงปืน โดดหอ ไปวิ่ง ไปฝึกนั่นฝึกนี่ อย่างกับจะต้อนรับทหารใหม่แน่ะ ดีนะที่แม่คอยปรามๆ พ่อกับไอเมี่ยงบ้าง ทั้งสองคนนั้นเลยออมมือลง” มณิกาถอนหายใจระบายความอึดอัดใจที่เกิดขึ้น ในใจก็พลอยนึกสงสารต้องชนะ แต่เธอขัดใจทั้งมณิสรกับบิดาไม่ได้เลย “พี่แต๊งค์เขาจริงใจมากเลยนะ เขามาสารภาพกับฉันตามตรงว่าอย่าแกล้งเขาเลย วันที่เราแกล้งเขาพาไปกินอาหารแพงๆ เขาเองก็รู้...แต่ก็ยอม พี่แต๊งค์บอกว่าบ้านเขาไม่ได้รวยขนาดนั้น อาจพาไปกินอาหารหรูๆ ไม่ได้ทุกมื้อ แต่เขาสัญญาว่าจะไม่ทำให้ฉันต้องตกระกำลำบากแน่นอน”

    “แล้วพี่แต๊งค์โดนแกล้งขนาดนี้ แกโทรหาเขาหรือยัง” เพียงชิดจันทร์ถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

    “โทรแล้ว นี่คงงอนแหละ ไม่รับสายฉันเลย” มณิกาโทรหาต้องชนะตั้งแต่เช้า ก่อนพักเที่ยงก็โทรไปหาอีกรอบ แต่ต้องชนะก็หายเงียบไปเลย “เป็นห่วงจัง แกไปหาพี่แต๊งค์เป็นเพื่อนฉันหน่อยนะจันทร์”




    ...Loading 100 %...




    อะเคร ตอนนี้ 'พี่ทานต์' ของทุกคนอยู่ในสายตาน้องบ้างแล้วนะ
    น้องรู้จักพี่ทานต์แล้วนะคะ เพื่อนก็ชงเก่งว่าพรหมลิขิต
    ส่วนน้องก็ใสๆ เน้นเรียนจ้า ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษเลย
    อย่างว่าหนูจันทร์เก่ง และบ้านรวย(มาก) อยู่แล้วด้วย
    คือไม่ต้องสนใครก็สบายๆ ลอยตัวอยู่แล้วเนอะ

    ม่าน -- Fc. พี่ทานต์
    พี่ทานต์ -- Fc. หนูจันทร์


    red velvet - joyParkHyungsik
    เพียงชิดจันทร์ + นราธร


    Bambam Got7
    ทานต์ ทยากร



    แฟนเพจ 'อสรพิษ' เอาไว้ให้ทุกคนติดตาม
    แจ้งข่าวการอัพเดทนิยายที่นี่ เร็วทุกสถานการณ์ 
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×