คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ดินแดนซังอา ♥ ตอนที่ 1 รุ่นพี่นักกีฬากับความทรงจำอันเลวร้าย 100 %
“พี่จองมิลไปเสิร์ฟเองสิ เขามองพี่นี่นา เขาอาจจะชอบพี่ก็ได้นะ” นอกจากปฏิเสธงาน อีกฝ่ายยังดันเธอให้เอากาแฟที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ไปเสิร์ฟอีกด้วย
“เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว! เขาก็แค่มองเอง” จองมิลเองก็ปฏิเสธ อีกทั้งยังทำสายตาดุใส่ และยื่นแก้วให้น้องพนักงานทำหน้าที่ของตัวเอง ทว่าสุดท้ายอีกฝ่ายก็ปฏิเสธ พร้อมส่ายหน้าบ่ายเบี่ยง จนเธอจนใจต้องนำกาแฟของ พัค จียง ไปเสิร์ฟถึงโต๊ะ
จนได้สิน่า!
จองมิลคิดในใจ เธอยิ่งไม่อยากยุ่งกับอีกฝ่าย แต่ก็นะ..นี่มันเป็นงาน เลยจำใจต้องเดินเอากาแฟไปเสิร์ฟให้เขา
ทว่าหลังจากเสิร์ฟกาแฟให้ชายหนุ่มแล้ว ขณะที่จองมิลหมุนตัวกลับไปยังเคาน์เตอร์ หญิงสาวดันทำหนังสือเล่มหนึ่งที่ พัค จียง วางไว้บนเก้าอี้ตกพื้น หนังสือเล่มนั้นหนาและค่อนข้างเก่า แต่หน้าปกแข็งแรง หญิงสาวก้มลงไปเก็บคืนให้ ถึงได้เห็นว่านั่นเป็นหนังสือประวัติศาสตร์
‘ประวัติศาสตร์ที่ถูกลืม ดินแดนที่ล่มสลายของเกาหลี’
หนังสือเล่มนี้หน้าปกเหมือนหนังสือนิทานมากกว่า หรือไม่ก็พวกนิยายพื้นบ้าน แต่ทันทีที่หญิงสาวหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาวางไว้ที่เดิม ความรู้สึกหนึ่งก็ปรี่เข้าจู่โจมเธอทันที มีลมพัดผ่านหน้าจองมิลวูบใหญ่ หัวใจหญิงสาวเต้นรัวราวกับกลองรบจนเจ็บหน้าอกไปหมด
นอกจากนั้น จองมิลยังได้ยินเสียงของดาบที่กระทบกันดังก้องอยู่ในหู รวมถึงเสียงโห่ร้องกึกก้องของเหล่าหารกล้า
“นี่เธอ!” เสียงเรียกของจียง ซึ่งเขากำลังมองหญิงสาวที่นิ่งไปนาน เรียกสติให้จองมิลกลับมาอยู่กับปัจจุบัน “เป็นอะไรหรือเปล่า หน้าเธอซีดมากนะ”
หญิงสาวางหนังสือคืนให้ก่อนจะส่ายหน้าเชื่องช้า
“ไม่เป็นไร..”
ในขณะที่จองมิลกำลังคิดว่าเมื่อครู่มันเกิดอะไรขึ้นอยู่นั้นเอง เสียงเรียกที่สดใสก็ดังขึ้น พัค จียง หันไปมองทางต้นเสียงเช่นเดียวกับจองมิล หญิงสาวคาดเอาเองว่าคนที่เพิ่งมาใหม่น่าจะเป็นญาติหรือไม่ก็น้องสาวของชายหนุ่ม อีกฝ่ายเป็นเด็กสาวอายุราวสิบห้าปี เธอมีรอยยิ้มสดใสเหมือนกับดอกไม้ที่ได้รับแสงตะวันเต็มที่ เด็กสาวคนนั้นกำลังโบกมือให้ พัค จียง ด้วยท่าทางร่าเริงและสนิทสนม
“อุ้ย!” แต่ตอนที่จองมิลเดินผ่านเด็กคนนั้นก็ชะงักฝีเท้าลง อีกทั้งยังร้องออกมาพร้อมกับทำท่ายกมือปิดปากฉับ ทั้งที่สายตาจับจ้องจองมิลด้วยท่าทางตกใจ ก่อนจะเก้าขาช้าๆ ไปหาพี่ชายตัวเอง “ให้ตายสิ..พี่สาวคนนั้น..”
พัค จียง มองแผ่นหลังของจองมิล ซึ่งหญิงสาวเพียงหยุดเดินแล้วหันมามองเล็กน้อยด้วยความแปลกใจที่ว่าเด็กคนนั้นทำเหมือนรู้จักเธอมาก่อน และเพราะอะไรถึงได้ทำหน้าตกอกตกใจมากขนาดนี้ หรือว่าเรื่องของเธอกับไอเลว แทคู...จียง จะบอกน้องตัวเองหมดเปลือกแล้ว
ให้ตายเถอะน่า! ปากคนนี่มันห้ามยากจริงๆ
จองมิลเดินกลับไปทำงานของตัวเองด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เธอรู้สึกไม่ชอบใจอย่างมากที่จียงเอาเรื่องของเธอไปเล่าให้ใครต่อใครฟังอย่างสนุกปาก แต่ทางด้านของจียงนั้น เขาเอานิ้วชี้แตะปากตนจนเห็นว่าจองมิลเดินห่างออกไปแล้ว ถึงเลื่อนเก้าอี้ให้ พัค จีซอน น้องสาวแท้ๆ ที่เพิ่งบินกลับมาจากอเมริกานั่ง
“พี่สาวคนนั้นนี่คะ หน้าตาเหมือนในหนังสือเล่มนี้เด๊ะๆ เลย คนที่ถูกกล่าวถึงและถูกยกย่องให้เป็นอัครมเหสีของพระเจ้าอุนเซ รัชทายาทลำดับที่ 2 ของพระเจ้าอุนมยอง รัชสมัยซังอาที่ 2”
“นี่ เราก็พูดไปโน่น คนเราก็หน้าเหมือนกับคนที่เราเคยรู้จักก็เยอะแยะไป” จียงบอกน้องสาว ทั้งที่เขาเองก็รู้สึกเหมือนกับที่น้องพูดมาทุกประการ
ในหนังสือที่ได้รับเป็นมรดกตกทอดรุ่นต่อรุ่นมาจนถึงปัจจุบัน จียงเชื่อว่าแคว้นที่ล่มสลายและไม่ได้ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์นั้นมีอยู่จริง นั่นเพราะในประวัติเล่มนี้บอกเรื่องราวเอาไว้อย่างเข้มข้น รวมถึงรายละเอียดของแต่ละบุคคลที่เป็นบุคคลสำคัญ อย่างเช่นท่านแม่ทัพ จา มยองมุน ที่มีรอยถูกฟันที่ต้นแขนขวา และพัคจียงเมื่อตอนแรกเกิดก็มีรอยแผลเป็นราวกับถูกกรีดที่ต้นแขนขวา เพราะอย่างนั้นเขาจึงเชื่อว่าในหนังสือเล่มนี้จะเป็นตัวนำพาให้ทุกคนได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เพียงแต่ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป
การเวียนว่ายตายเกิดนั้นมันมีอยู่จริง...
“ทำมาว่าน้อง ทีตัวเองก็เชื่อใช่มั้ยล่ะว่าการกลับชาติมาเกิดมันเป็นเรื่องจริง แล้วพี่ก็เชื่อด้วยว่าตัวเองเคยเป็นท่านแม่ทัพนักรบของแผ่นดินซังอามาก่อน” จีซอนยิ้มเจ้าเล่ห์ให้พี่ชายก่อนจะชี้ไปยังที่แขนขวาพี่ชาย “เพราะนี่ไง แผลตรงนี้ตั้งแต่เกิด มันตรงกับแผลของแม่ทัพในหนังสือเล่มนี้ มรดกตกทอดที่อยู่คู่กับตระกูลเรามาเป็นร้อยๆ ปี”
พัค จียงมองน้องสาวที่ชักแจะแสนรู้ขึ้นทุกวัน แต่อีกฝ่ายก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว
“แล้วถ้าพี่สาวคนเมื่อกี้เป็นอย่างที่เราคิดจริงๆ นั่นก็เท่ากับว่าในชาติที่ดินแดนซังอายังอยู่ พี่คนนั้นก็คือแม่ของหนูเอง โธ่...เสด็จแม่ ทำไมต้องทรงตรากตรำทำงานขนาดนี้นะเพคะ ทั้งที่ชาติที่แล้วท่านก็ทรงงานหนักเหลือเกิน หม่อมฉันเศร้าพระทัยยิ่งนัก”
“นี่ อย่าล้อเล่นได้มั้ย” จียงส่งสายตาดุๆ ให้จีซอน
แต่จะว่าไปแล้วน้องสาวของเขาก็มีบาดแผลที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดเหมือนกัน บาดแผลนั้นเหมือนรอยธนูที่องค์หญิง ฮารัม บุตรสาวคนที่ 2 ของอัครมเหสีโดนลอบสังหารในพิธีล่าสัตว์ไม่มีผิด!
.............................................................
ได้เวลาเลิกงานของจองมิลแล้ว
ชเว นายอน ส่งลิสต์ของที่จองมิลต้องซื้อมาให้ยาวเหยียด ส่วนใหญ่เป็นยาสามัญประจำบ้านประเภทยาแก้ปวดหลายกระปุก และอุปกรณ์ทำแผล รวมถึงเครื่องดื่มและอาหารประเภทขนมปัง
‘ซื้อของเสร็จแล้วนะคะพี่นายอน กำลังจะเข้าไปค่ะ’
หญิงสาวส่งข้อความไปบอกรุ่นพี่ว่าเธอซื้อของเสร็จแล้ว และตอนนี้กำลังอยู่ที่ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้าม แต่ขณะที่กำลังจะข้ามถนน ข้อความในโทรศัพท์ก็แจ้งเตือนขึ้นมาก่อน
ข้อความจาก..แทคู
อี แทคู ส่งคลิปวีดีโอมาให้จองมิล ไม่ใช่คลิปที่เธอโดนอีกฝ่ายพยายามข่มขืนกระทำชำเรา แต่เป็นคลิปที่เธอใช้มีดปาดคอไอสารเลวนั่นต่างหาก
เวรเอ้ย!
ประมาณสิบวินาทีต่อมา ขณะที่จองมิลสบถคำด่าหยาบคายให้กับการกระทำที่โคตรจะสารเลวของแทคูออกมา คนที่ถูกด่าก็พิมพ์ข้อความมาหา
‘คลิปนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่วมหาลัยฯ แล้ว ฉันอยากจะรู้นักว่า..คนจนที่แสนจะเย่อหยิ่งอย่างเธอ จะอยู่ในมหาลัยฯ ต่อไปได้ยังไง’
จองมิลดวงตาเบิกกว้าง ก่อนจะรีบกดเข้าเว็บมหาลัยฯ อี แทคู โพสต์คลิปลงเว็บไซด์จริงๆ แบบนี้เธอก็กลายเป็นคนร้ายที่อาจจะโดนข้อหาพยายามฆ่าก็ได้น่ะสิ
หัวใจของหญิงสาวเต้นเร็วด้วยความโกรธ หน้าร้อนวูบไปหมด พลางด่าทอแทคูในใจไปด้วย
‘ไอชาติชั่วเอ้ย’ แทคู มันเลวจนเธอไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแล้ว
หญิงสาวลนลาน เธอโกรธจนน้ำตาไหลพรากอาบแก้ม ความกลัวก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาจนทำให้รู้สึกสับสนวุ่นวาย นอกจากเธอจะไม่มีที่ให้ยืนในมหาลัยฯ แล้ว ต่อไปก็คงไม่มีที่ยืนในสังคมด้วย คนอย่างแทคูคงตั้งใจเหยียบเธอให้จมดิน ถ้าหายไปจากโลกนี้เลยได้ก็คงดี
ในโพสต์ของมหาลัยฯ ใต้คลิปที่แทคูลงไว้ พร้อมกับข้อความที่เขียนว่า
‘ผมอดทนเพราะรักผู้หญิงคนนี้มากเหลือเกิน จนกระทั่งวันที่ผมโดนเธอทำร้าย แผลที่คอยังไม่เท่าแผลในใจ ความรักมันไม่ผิด แต่ผิด..ที่ผมเลือกรักคนที่ทำร้ายตัวเอง’
ใต้โพสต์นั้นมีข้อความแสดงความคิดเห็นกันอย่างดุเดือดทีเดียว และส่วนใหญ่ก็แสดงความคิดเห็นในเชิงต่อว่าเธอและวิพากวิจารณ์เธอในเชิงเสียๆ หายๆ ด้วย
ความคิดเห็น