คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ในอ้อมแขนคุณ ♥ บทที่ 10 :: หัวใจที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด 100 %
ในขณะที่โลกของณพิศสดใสราวกับมีน้ำฝนรดรินชโลมใจ
ทว่าโลกของวารวารีกลับพลันมืดมิดสนิทลง
“เดี๋ยวนะ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!”
เด่นคุณมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาที่ยากจะอธิบายได้ วารวารีหลับฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะ
โดยมีแก้วเครื่องดื่มนับสิบวางเรียงราย ที่สำคัญ...คนร่วมโต๊ะเป็นเพื่อนดื่มด้วยยังเป็นณพิศอีก
ให้ตายเถอะ! สองคนนี้ ไปสนิทกันตอนไหน?
“คุณ...” ณพิศเงียบไป ก่อนจะมองหน้าเด่นคุณแล้วมองวารวารีที่หลับคอพับคออ่อนไม่ได้สติ
แต่ก่อนหน้านี้ หญิงสาวทั้งร้องไห้เป็นเพื่อน ปลอบใจเธอราวกับคนรู้จักคุ้นเคยกันมานาน
แล้วยังทำให้หัวใจที่แห้งแล้งราวกับตากซาก กลับมาเต้นตึกตักได้อีกครั้ง
“นี่พิศ บอกคุณทีเถอะว่ายายตัวแสบไม่ได้ดื่มไปหมดนี่น่ะ”
เด่นคุณถึงขั้นยกมือกุมขมับ พลางต่อว่าพนักงานตัวเองในใจ
ไหนว่าไม่ค่อยออกงานสังคมไง
แต่นี่ซัดซะเรียบเลย
“พูดตรงๆ
เรามานั่งคุยกันแล้วระหว่างที่แบบ..ปรับทุกข์ วาฬก็ดื่มไป..อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ”
อาจเพราะวารวารีเสียใจแทนเธอด้วยก็ได้ล่ะมั้ง
ถึงได้หยิบเครื่องดื่มมากระดกแก้วแล้วแก้วเล่า เพื่อกลบความเสียใจที่เอ่อล้นขึ้นมา
”แต่อย่าวาฬเลยนะ ที่วาฬเป็นแบบนี้ก็เพราะพิศเองนั่นแหละ” ณพิศออกตัวให้
“หมายความว่ายังไง?”
คิ้วของชายหนุ่มกระตุก อย่างที่เขาคิดสินะ...ทั้งสองคนสนิทกันเข้าให้แล้ว
แหม..เธอนี่มันผูกสัมพันธ์เก่งจริงๆ
เด่นคุณคิดในใจ
“บังเอิญพิศมีเรื่องคุยกับวาฬ
แล้วเจ้าตัวก็ดันมาเห็นอกเห็นใจพิศเสียจนเป็นอย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ
ก่อนหลับก็ร้องห่มร้องไห้ไปยกใหญ่ พรุ่งนี้ตาคงบวมฉึ่งน่าดู”
เด่นคุณได้แต่ถอนหายใจ
ยืนเท้าเอว พร้อมกับส่ายหัวไปมา
เขาให้เธอมาช่วยหาตัวการ ทำไมถึงได้เมาเละนี้ขาดสติขนาดนี้
ทำไมไม่รู้ลิมิตตัวเองบ้าง
“อย่ามัวแต่ทำหน้าเอือมวาฬเลยน่า
ทีตัวเองหายหน้าไปเกือบชั่วโมงเนี่ย..” ณพิศมองเด่นคุณด้วยสายขุ่นเคือง
แต่ก็พยายามสงบคำไม่ต่อว่าเขา ทว่าก็อดใจไม่ไหว “รู้บ้างหรือเปล่าเถอะ ว่าวาฬเดินตามหาคุณอยู่ตั้งนาน
จนไปเจอคุณกำลังดูดดื่มชมจันทร์หวานฉ่ำอยู่กับยายแพม”
“ห๊า!”
“อย่าคิดว่าไม่มีใครรู้ใครเห็นนะ”
“ก็..”
“เอาเถอะ แค่จะบอกให้ฟังว่าวาฬคงตามหาคุณอยู่สักพักแล้วแหละ
เลยดันมาเจอช็อตเด็ดเข้าให้ เห็นแบบนั้นใครจะกล้าเรียกถูกมะ ลูกที่น้องที่ไหนจะกล้าขัดจังหวะเจ้านาย
แต่ตอนนั้นพิศเองก็บังเอิญหาคุณกับวาฬอยู่เหมือนกัน ก็เลยลากวาฬออกมาก่อน”
เด่นคุณหน้าเหลอหลาเถียงไม่ออก
ถึงพรชีวันจะเปลี่ยนไปในบางเรื่องราวกับพลิกฝ่ามือ
แต่เรื่องความด่วนได้ใจเร็วนั้นยังเหมือนเดิม
เขาพยายามปฏิเสธเธอ
กว่าจะสลัดจากอีกฝ่ายหลุดก็ยื้อกันอยู่นานสองนาน แต่ก็นะ...อาจเพราะฤทธิ์เครื่องดื่มที่ดื่มไปก่อนหน้านี้ด้วยแหละ
เลยทำให้เลือกที่จะทำตามใจตัวเองมากกว่าจะเลือกอยู่ข้างเหตุผล แล้วพรชีวันเองก็เข้ามาได้จังหวะพอดี
แต่เขากับเธอแค่จูบกันเท่านั้นนะ
ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกว่านี้เลยจริงๆ
“เอาเถอะ..ยังไงก็ขอบใจนะพิศ
ที่คุยเป็นเพื่อนวาฬ” ชายหนุ่มตอบได้ไม่เต็มเสียงนัก
“แล้วนี่จะกลับกันเลยหรือเปล่า”
“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ
ดูสภาพสิ...วาฬคงอยู่ต่อไม่ไหวแล้ว”
ณพิศเห็นด้วย
ก็วารวารีเล่นดื่มค็อกเทลไปเกือบ 5 แก้ว ไหนจะไวน์อีก ถ้าคออ่อนกว่านี้คงน็อกไปนานแล้วด้วยซ้ำ
เด่นคุณมองคนที่กำลังนอนเมาแอ๋
พลางคิดว่าจะเอาไงกับเด็กนี่ดี
“แล้วจะให้ช่วยอะไรมั้ย?”
ณพิศถามเหมือนเดาใจชายหนุ่มออก
“พิศช่วยคุณดันวาฬขึ้นหลังหน่อยแล้วกัน ถ้าให้อุ้มคงไม่ไหวหรอก กลัวแขนจะหักก่อน” เด่นคุณบอก “แล้วรบกวนช่วยถือกระเป๋าเดินไปส่งที่รถที”
“โอเค”
.............
เด่นคุณขับรถมาถึงคอนโดฯ ในเวลาเที่ยงคืนกว่า
วารวารีเองก็หลับมาตลอดทาง แต่กรรมก็ยังตกอยู่ที่ชายหนุ่ม
เขาต้องช้อนร่างบางลงจากรถ มาพิงไว้ ก่อนจะประคองปีกเดินเข้าคอนโดฯ อย่างทุลักทุเล
กว่าจะไปถึงลิฟต์ กว่าจะถึงห้องตัวเอง ก็เล่นเอาเหงื่อตกไม่น้อย
“นี่ ปลาวาฬได้ยินที่เรียกมั้ยเนี่ย”
เขาพูดด้วยเสียงที่ดังกว่าปกติเล็กน้อย แถมยังพูดข้างหูเพื่อให้หญิงสาวฟื้นจากอาการสลบไสล
“หืม ปลาวาฬ..” หญิงสาวตอบกลับมาเสียงอ้อแอ้
พลางหัวเราะร่วนกับชื่อของตัวเอง “ใครชื่อปลาวาฬเหรอ น่ารักจัง” คนพูดทรงตัวยืนไม่ค่อยจะอยู่
จนเด่นคุณต้องพาเธอไปทิ้งตัวที่โซฟา
โอ้ย จะเป็นลม
“นี่..ที่เรียกไม่ได้จะให้นอนนะ
ตื่นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าล้างตา แล้วไปนอนในห้องดีๆ เลยไป”
พอโดนเจ้านายดุเข้า หญิงสาวก็กระเด้งตัวเองขึ้นมานั่ง
ทั้งที่ตายังหลับอยู่ พลางยกมือสองข้างจับที่หัว
“เดินไม่ไหวอ่ะ
มึนไปหมดเลย” ใบหน้ากลมแดงก่ำด้วยอาการเมามายพูดจาก็ฟังไม่ค่อยจะได้ศัพท์ “เวียนหัวบ้านหมุนติ้วๆ
เป็นวงกลม”
“อ้าว
ทีคุยกับณพิศยังคุยรู้เรื่องเลย อย่ามาลีลา ไปอาบน้ำ”
“ก็..ก็คุณณพิศน่าสงสารมากนะคะ”
คนพูดเริ่มสะอึกสะอื้นขึ้นมาอีกรอบ พลางใช้แขนปาดน้ำตา “วาฬสงสารคุณณพิศ
วาฬจะแก้แค้นให้คุณณพิศ”
“ไปกันใหญ่แล้ว”
เด่นคุณคนยืนเท้าเอว ทั้งสงสารแต่ก็อดขำในท่าทางตลกๆ
ของวารวารีไม่ได้ ครั้นจะโกรธก็คงโกรธไม่ลง
เพราะนี่มันงานเลี้ยงก็ต้องมีสังสรรค์เป็นธรรมดา
เพียงแต่วารวารีดื่มเยอะเกินธรรมดาไปก็เท่านั้น
“งั้นฉันจะประคองเธอไปล้างหน้าล้างตานะ
ไปเช็ดเครื่องสำอางออกซะ เดี๋ยวหน้าจะพัง” ชายหนุ่มพูดอย่างใจเย็น ก่อนจะตัดสินใจอุ้มร่างบางที่นั่งโงนเงนขึ้นมาในอ้อมแขน
นี่มันดึกมากแล้ว ต่างคนจะได้พากันแยกย้ายไปพักผ่อนเสียที
แต่ดูเหมือนว่าอะไรๆ
จะไม่ได้เป็นใจให้เด่นคุณนัก เพราะพออุ้มวารวารีขึ้นมา หญิงสาวก็ทุบแผงอกเขาแบบรัวๆ
ใบหน้าที่เมามายทำหน้าพะอืดพะอม วินาทีนี้...ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าของที่หญิงสาวกินเข้าไปนั้น
พร้อมจะขย่อนออกมาในไม่ช้า
“นี่...!” เด่นคุณตวาดลั่นพร้อมกับรีบวางวารวารีลง
รีบเอามือตะครุบปากหญิงสาวไว้แน่น “วารี นี่เธอห้ามอ้วกใส่ฉันเลยนะ ห้ามเด็ดขาด!”
ไม่เพียงแค่ตวาด ทว่าเด่นคุณยังรีบพาวารวารีไปที่ห้องน้ำ
ทว่าถึงอย่างนั้นมันก็ดูจะไม่ทันการณ์แล้ว เพราะของที่กินเข้าไปมันตีขึ้นจนหญิงสาวกลั้นต่อไปไม่ไหว
แหวะ!
ในที่สุดหญิงสาวพ่นทุกอย่างที่ทานไปออกมาแบบหมดไส้หมดพุง
อ้วกใส่เสื้อของเจ้านายหนุ่ม ของเหลวที่ทั้งเละ ทั้งเหม็นนั้นเปื้อนตั้งแต่หน้าอกไหลลงไปยังหน้าขา
ถึงจะใส่เสื้อผ้า แต่เด่นคุณสัมผัสได้เลยว่าสิ่งที่หญิงสาวพ่นออกมานั้น มันกำลังซึมเข้าไปสัมผัสกับเนื้อตัวด้านในของเขา
“อี๋..”
เด่นคุณมองสภาพตัวเองที่เปรอะเปื้อนด้วยความขยะแขยง ห้องน้ำอยู่แค่เอื้อมนี่เอง แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
แต่ยังไม่ทันจะพูดหรือทำอะไรไปมากกว่านี้
วารวารีก็ทำท่าจะขย่อนออกมาอีกรอบ ทว่าคราวนี้เด่นคุณถึงขั้นรีบดันตัวหญิงสาวเข้าไปในห้องน้ำ
ไม่สนใจเนื้อตัวและเศษอาหารที่ตกลากเป็นทางยาวเลย
เสียงโอ้กอ้ากดังออกมาเป็นระรอกหลังจากที่ส่งหญิงสาวนั่งลงหน้าชักโครกเพื่อให้เธอโก่งคออาเจียน
ส่วนเด่นคุณเองรีบหาทิชชูมาเช็ดทำความสะอาดเนื้อตัว และพื้นทางเดินที่เปื้อนเพราะวารวารีตัวแสบด้วย
ขณะที่เด่นคุณอยู่นอกห้องน้ำ
วารวารีก็อาเจียนประเภทหมดไส้หมดพุง หญิงสาวนั่งหมดแรง หน้าตาแดงก่ำอยู่พักใหญ่
หมดสภาพหญิงสาวตระกูลผู้ดีที่ถูกเนรมิตไปก่อนหน้านี้จนหมดสิ้น
..........................
เช้าวันต่อมา
โครม!
“โอ๊ย!” เสียงคนตกเตียงร้องโอดโอย ก่อนจะเอื้อมมือไปจับที่หลัง
ซึ่งกระแทกเข้ากับพื้นอย่างจัง
เด่นคุณลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าบู้บี้
เอามือขยี้หัวตัวเองไปมาอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะมองไปยังบนเตียง
หญิงสาวที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือแต่ชุดชั้นใน
หน้าตาสะอาดสะอ้านหมดจด นอนหลับตาพริ้ม ใบหน้ากลมแนบกับหมอน
เมื่อครู่นี้ วารวารีเพียงแค่พลิกตัวเองแล้วเผลอเหยียดเท้า
ถีบไปที่เจ้านายหนุ่มจนเขาตกเตียง เพียงเพราะไม่ชินที่มีคนมานอนข้างๆ
เมื่อคืนหญิงสาวดื่มหนักมาก
จากนั้นเธอก็ก่อวีรกรรมสุดแสบจนเจ้านายถึงขั้นต้องกุมขมับกันเลย จนกระทั่งตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้สติกลับคืนมา
วารวารีไม่รู้เรื่องอะไรเลย มีแต่เด่นคุณที่คอยเช็ดเนื้อเช็ดตัว ทำความสะอาด
จนกระทั่งลากเธอเข้านอน ส่วนตัวเขาเองก็ตามเช็ดทุกอย่าง
จนห้องสะอาดเอี่ยมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อคืนกว่าจะได้นอนบอกเลยว่าเกือบสว่าง
“เห้อ...”
ชายหนุ่มถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วพาตัวเองกลับไปนอนบนเตียงกับหญิงสาวตามเดิม
ภาพลักษณ์ระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง
หรือลูกน้องที่จะต้องวางตัวให้ดีกับเจ้านาย หึ! เขากับวารวารี มันไม่เหลือสภาพนั้นอีกแล้ว
เด่นคุณเอื้อมมือไปคว้าผ้าห่มจากหญิงสาว
เอามาห่มตัวเองเพราะอากาศในห้องค่อนข้างหนาวกว่าปกติ ทว่าวารวารีก็แย่งมันกลับไป
“ไปนอนห้องตัวเองสิคะ...”
หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“ไม่” เป็นคนเจ้านายปฏิเสธเสียงห้วน
“เมื่อคืนฉันแบกเธอออกจากงานหลังแทบหัก แล้วไหนจะต้องมานั่งเช็คอ้วกที่เธอทำไว้อีก
รู้มั้ย...กว่าจะได้นอนก็เกือบสว่างเข้าไปแล้ว เธอนั่นแหละ...ต้องเสียสละผ้าห่มมาให้ฉัน”
ตอนนี้ความเขินอายต่อกันมันถูกพับเก็บใส่กระเป๋า
ไม่เหลือแม้กระทั่งความประดักประเดิด คงมีแต่ความขุ่นเคืองเท่านั้นที่ผุดขึ้นในใจของชายหนุ่ม
“ไม่เอาหรอก”
หญิงสาวพูดทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้ลืมตาด้วยซ้ำ
“เฮอะ! หัดสำนึกบุญคุณเจ้านายหน่อยเถอะ
ในโลกนี้คงไม่มีเจ้านายคนไหนทำให้พนักงานยิ่งกว่าเมียตัวเองหรอกนะ” ถึงจะพูดอย่างนั้น
แต่หญิงสาวก็ไม่ไหวติง “นี่วาฬ รู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองแทบจะแก้ผ้านอนแล้ว”
พอได้พูดความในใจแล้วเด่นคุณก็อดที่จะพูดยืดยาวไม่ได้
แต่มันก็จริงทุกคำนั่นแหละ...เพราะวินาทีนี้ สภาพของเขาและเธอไม่ต่างจากผัวเมียที่แต่งงานอยู่กินกันมาหลายปีเลย
ไม่ใช่ข้าวใหม่ปลามัน แต่เหมือนผัวเมียที่ใกล้จะเลิกรากันมากกว่า
ประเภทที่ต่อให้นอนแก้ผ้าด้วยกัน ก็ไม่สามารถจุดประกายไฟปรารถนาให้ลุกฮือได้แล้ว
“ช่างปะไร วันก่อนคุณคุณก็เห็นฉันในชุดว่ายน้ำนี่นา”
คนหลับตากอดผ้าห่มแน่นพูดเสียงอู้อี้ในคอ “ที่สำคัญฉันไม่ใช่สเปกผู้หญิงที่คุณชอบหรอก
เลยไม่ต้องห่วงว่าคุณจะทำมิดีมิร้ายฉัน”
เออ ให้มันได้อย่างนี้สิ
นี่ขนาดงัวเงียยังพูดจาได้เจ็บถึงความรู้สึกขนาดนี้เลย เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาก็จริง แต่เขาก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนมั้ยล่ะ นี่...ผู้ชายตัวเป็นๆ นอนอยู่ข้างๆ แถมท่อนบนยังเปลือยเปล่า อย่างน้อยก็ช่วยรักนวลสงวนตัวหน่อยเถอะแม่คุณ
แต่จะว่าไปที่วารวารีไม่รู้สึกอะไร นี่เพราะเขาไม่มีเสน่ห์พอที่จะทำให้เธอหวั่นไหวได้เหรอ ไม่สิ ไม่ใช่..ขนาดเมื่อคืนพรชีวันยังขอคืนดีด้วยเลย งั้น...ถ้าไม่ใช่ความหล่อที่ทำให้หวั่นไหวได้ ก็แสดงว่าวารวารี มีคนที่ชอบอยู่แล้วงั้นสิ
ใช่...ต้องใช้แน่ๆ ไม่อย่างนั้นเธอก็คงต้องใจสั่น
ใจบางกันบ้างแหละน่า คนแบบเขาใช่ว่าจะเดินข้างทางแล้วได้เจอเสียเมื่อไหร่
เด่นคุณคิดอะไรเพลินๆ จนเผลอหลับไปอีกครั้ง
กว่าจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ก็ตอนที่ภายในห้องมีเสียงกริ่งดังขึ้น
ทั้งที่วันนี้เขาไม่มีนัดหมาย
เพราะพรุ่งนี้จะต้องบินกลับภูเก็ตแล้ว หากแต่เสียงกริ่งนี่หวังว่าคงจะไม่ใช่มารดาหรอกนะ
ห๊า! แม่!
..ฉิบหายแล้ว
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ
หากแม่ของเขามาเห็นว่าเขาอยู่ในสภาพกึ่งเปลือยแถมยังนอนเตียงเดียวกับวารวารี มีหวังได้โดนไม้แขวนเสื้อฟาดแล้วฟาดอีกแน่
แต่ในขณะที่หันไปมองหญิงสาวซึ่งนอนข้างๆ
มาตลอดทั้งคืน ที่นอนของวารวารีกลับว่างเปล่า เด่นคุณเดินออกไปนอกห้องก็เห็นว่ามีอาหารบางส่วนวางอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
ที่สำคัญ วารวารีอาบน้ำแต่งตัวอยู่ในชุดใหม่
หน้าตา ผมเผ้าก็ดูเป็นผู้เป็นคนปกติ
“ตื่นแล้วเหรอคะ”
หญิงสาวรีบวางถ้วยที่เพิ่งหยิบออกจากไมโครเวฟไว้บนโต๊ะ แต่เด่นคุณยังไม่ได้พูดอะไร
วารวารีก็รีบยกมือห้าม “แป๊บนึงนะคะ เดี๋ยวไปเปิดประตูรับแขกก่อน”
และไม่นาน เขาก็ได้รู้ว่าคนที่มาเยือนถึงที่พักคือใคร?
“อ้าว คุณเพิ่งตื่นเหรอเนี่ย?”
ณพิศเอ่ยทักทาย พร้อมมองนาฬิกาข้อมือ “จะเที่ยงแล้วนะ”
“ดะ..เดี๋ยวนะ...” เป็นคนเจ้าของห้องงงเป็นไก่ตาแตก
พลางรีบมองไปยังพนักงานสาว ส่งสายตาเชิงถามว่าณพิศมาที่นี่ได้ยังไง ในเมื่อเขาไม่ได้นัดเธอเอาไว้
“คืออว่า...วาฬเชิญคุณณพิศมาเองแหละค่ะ”
หญิงสาวยิ้มแห้ง “ก็ตั้งใจว่าจะบอก แต่เมื่อคืนวาฬเมาเละเลย แล้วเมื่อเช้าก็ไม่กล้าบอกด้วย”
“อ๋อ” เด่นคุณลากเสียงรับรู้ไปอย่างงั้น
“เมื่อวานฉันสัญญากับคุณณพิศเอาไว้ เรามีเรื่องต้องทำด้วยกันนิดหน่อย วาฬขออนุญาตเลยแล้วกัน”
ความคิดเห็น