ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดินแดนที่ข้ายอมแลกด้วยชีวิตและหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : ดินแดนซังอา ♥ ตอนที่ 1 รุ่นพี่นักกีฬากับความทรงจำอันเลวร้าย 60 %

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.พ. 66


    ดินแดนที่ข้า..
    ยอมแลกด้วยชีวิตและหัวใจ



    Chapter 1
    รุ่นพี่นักกีฬา กับความทรงจำอันเลวร้าย


    มหาลัยฯ ซังอา

    เหลือเวลาเกือบชั่วโมง..

    ซน จองมิล ดูนาฬิกาที่บอกเวลาอยู่ตรงข้อมือของเธอ ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสี่โมงเย็น เธอเลิกเรียนแล้ว แต่ยังต้องทำงานพิเศษที่คาเฟ่ใกล้หอพักประจำ และด้วยความที่มหาลัยฯ กับหอพักไม่ได้ไกลกันมากนัก ถ้าใช้เวลาเดินไปทำงานก็ไม่เกินครึ่งชั่วโมง

    หญิงสาวแยกจากเพื่อนหลังจากเรียนเสร็จ นั่นเพราะวันนี้เพื่อนๆ ของเธอมีนัดสำคัญ เพราะทีมบาสเก็ตบอลชายของมหาลัยฯ มีแข่งขันกระชับมิตรกับมหาลัยฯ อุนเซ

    จะว่าไปการแข่งขันน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ที่ทุกฝ่ายกระตือรือร้นเหลือเกินจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัวโดยเฉพาะพวกสาวๆ ก็คงเพราะทีมบาสเก็ตบอลชายของทั้งสองมหาลัยฯ นั้น นอกจากฝีมือการเล่นเป็นที่น่าจับตามองแล้ว ดีกรีหน้าตาความหล่อก็ไม่แพ้พวกเหล่าไอดอล คนดัง เลย

    ขณะที่จองมิลกำลังจะก้าวลงบันไดหน้าตึกที่สูงตระหง่านนั้น ก็มีสาวๆ กลุ่มหนึ่งเดินขึ้นมา พวกเธอไม่ทันมอง เพราะกำลังหัวเราะและพูดคุยกันถึงเรื่องการแข่งขันของวันนี้ ทำให้หนึ่งในสามคนเดินชนจองมิลเข้าอย่างจัง

    จองมิลเซไปหน่อยนึง ทำให้หนังสือในมือและอุปกรณ์การเรียนนั้นร่วงลงสู่พื้น

    “อุ้ย! ขอโทษนะ”

    “ไม่เป็นไรหรอก” จองมิลตอบกลับ ขณะก้มลงไปเก็บของตัวเอง แต่คนชนเธอก็แค่พูดส่งๆ ไปอย่างนั้น ก่อนจะพากันเดินไปอย่างไม่สนใจใยดีกันสักนิด

    ช่างประไรไป! พวกพ่อแม่มีเงินก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องแคร์ความรู้สึกใคร สังคมของเราถูกแบ่งชนชั้นระหว่างคนจนและคนรวยมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์แล้ว จองมิลได้แต่ยิ้มให้กับความขมขื่นของชีวิตตัวเอง เธอมันจนนี่นา...ก็คงต้องก้มหน้าหาเงินและใช้ชีวิตของตัวเองให้ดีต่อไป จะไปเรียกร้องอะไรได้ สู้อยู่และพยายามไม่มีเรื่องกับใครเลยดีที่สุด

    แต่ขณะที่เงยหน้าขึ้นมา จองมิลก็พบเข้ากับร่างสูงของชายคนหนึ่ง ในชุดนักกีฬา เสื้อกล้ามตรงหน้าอกแน่นตึงมีตราของมหาลัยฯ ปักอยู่เด่นหรา ซึ่งเขากำลังมองเธอแล้วยิ้ม

    “นี่..จองมิล วันนี้ไปดูพี่แข่งไหม?”

    ด้วยความสูงของเขา และหน้าตาที่เรียกว่าดีมากทำให้คนที่กำลังเลิกเรียนเหมือนกับเธอให้ความสนใจ และใช่คนที่เข้ามาทักเธอนั้นเป็นรุ่นพี่ที่ค่อนข้างฮอต แต่สายตาของจองมิลแข็งกร้าวยามมองคนตรงหน้า เธอถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะขยะแขยงอีกฝ่ายราวกับเจอพวกแมลงน่ารังเกียจ

    “ถอยไป! ไอคนโสโครก!

    คำขู่คำรามอย่างเอาจริงของจองมิลนั้น ทำให้เขาหัวเราะออกมา ก่อนจะโน้มตัวลงแล้วกระซิบข้างหูหญิงสาว

    “โธ่..อะไรกัน ความรักของพี่กับเธอมันขมเฝื่อนขนาดที่เราสองคนมองหน้ากันไม่ติดแล้วหรือ”

    ยิ่งอีกฝ่ายยิ้มและทำท่าทีราวกับหลงรักเธอเสียเต็มประดา คนรอบข้างก็ยิ่งให้ความสนใจกันมากกว่าเดิม เพราะเขาเป็นคนดัง บางคนถึงขั้นยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูป และจองมิลเชื่อว่าภายในเย็นนี้วันนี้...เธอจะต้องตกเป็นข่าวดังประจำมหาลัยฯ เพราะการกระทำฉาบหน้าว่าเป็นคนดีของเขา

    หากย้อนเวลากลับไป 4 เดือนที่แล้ว ซน จองมิล คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอกับรุ่นพี่ อี แทคู รักกัน แน่นอนว่าเข้ามาให้ความสนใจเธอก่อน และเธอก็อดใจอ่อนในการกระทำอันแสนหวาน อ่อนโยน ชวนหวั่นไหวของเขาไม่ได้ แต่ว่าเมื่อถึงครบรอบ 100 วัน เขาก็แสดงทาสแท้ออกมาให้เห็นเต็มตา

    แม้มันจะเป็นเรื่องปกติที่เขาชวนเธอไปเดตตามประสาคนรัก และอยากมีอะไรกับเธอตามประสาคนที่กำลังคบหากัน แต่ในตอนนั้นจองมิลไม่ได้อยากมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแทคูเลย เธอปฏิเสธออกไปอย่างนุ่มนวล ทว่าใครจะรู้ว่าแทคูเลวกว่าที่คิดเอาไว้มาก!

    อาจเพราะรู้ว่าจองมิลจะไม่ยอมลงเอยด้วย มันเลยหยอดยาในเครื่องดื่มของเธอแล้วพาเข้าห้องในโรงแรม ทุกอย่างถูกเตรียมไว้อย่างดี รวมถึงกล้องวีดีโอในห้องนั้นด้วย!

    วันนั้นเป็นความทรงจำที่โคตรเลวร้ายที่สุดในชีวิตของเด็กผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างจองมิล เธอไม่มีใครที่จะสามารถขอความช่วยเหลือได้เลย ไม่มีแม้กระทั่งคนที่จะปลอบใจด้วยซ้ำ ไม่มีพ่อแม่ ดังนั้นเธอจึงต้องดิ้นรนหาทางเอาตัวรอดสุดชีวิตและรวบรวมเรี่ยวแรงที่มี ขัดขืนแทคู

    โชคดีอย่างเดียวที่อีกฝ่ายก็ดื่มหนักไม่แพ้กัน แทคูเลยไม่ค่อยมีสติและเรี่ยวแรงดึงรั้งเธอเอาไว้ จองมิลเลยดิ้นหลุดออกมาจากห้องเชือดนั้นได้อย่างหวุดหวิด

    และแน่นอนว่าแทคูตามออกมานอกห้อง ก่อนจะพ่นคำพูดที่น่ารังเกียจ ซึ่งมันสะบั้นความเห็นใจของจองมิลในวินาทีนั้น

    “คิดว่าฉันรักแกจริงๆ หรือไงวะ!” แทคูแหกปากโวยวาย และทันใดนั้นฝ่ามือของหญิงสาวก็ฟาดเข้าไปที่หน้าของอีกฝ่ายเต็มแรง

    เพี๊ยะ!

    จองมิลรู้คำตอบและตาสว่างขึ้นมาตั้งแต่เห็นกล้องในห้อง แต่เขาไม่คิดจะสำนึกและขอโทษกันเลยสักคำ ทีแรกเธอคิดว่าถ้าเขายอมขอโทษออกมาเธอหน่อย ก็ยังพอจะให้อภัยกันได้ในฐานะคนหลงผิดที่คิดทำทำเรื่องสารเลวไปชั่ววูบชั่วยาม แต่นี่มัน..เลวโดยเนื้อแท้ เลวอย่างตั้งใจและวางแผนมาเป็นอย่างดี

    ถุย!

    อีกฝ่ายพ่นน้ำลายปนเลือดใส่หน้าเธอด้วยกิริยาหยาบช้าแสนต่ำตม “กูจีบมึงก็เพราะกูพนันกับเพื่อนต่างหากล่ะ แล้วนี่อะไรวะ..คิดว่าคนอย่างกูจะชอบเด็กบ้านๆ ที่แสนจะยากจนข้นแค้นหรือไง เงินค่าเทอมก็แทบไม่มีจะจ่าย หาเช้ากินค่ำไปวันๆ แต่งตัวก็โคตรจะบ้านนอก สารรูปเหรอ..”

    แทคูลากสายตามอง ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และจากปลายเท้าจรดศีรษะของจองมิลอีกที “เฮอะ!..ก็งั้นๆ แหละ ถ้าไม่เห็นว่ากูจะได้กำไรจากมึงสองต่อ สามต่อล่ะก็ คงไม่คิดเข้ามายุ่งด้วยหรอก ขยะแขยงชะมัด”

    เธอสิ เธอต่างหากต้องพูดคำนั้นออกมา จองมิลคิดในใจ

    “กำไร?” หญิงสาวกำหมัดแน่น หัวใจที่เต้นตุบๆ ด้วยความเดือดดาลในอกบีบแน่นจนเจ็บหายใจแทบไม่ออก ใบหน้าของเธอร้อนวูบ แต่ไร้ความรู้สึก แต่ถึงอย่างนั้นจองมิลก็พยายามอดทน ไม่เข้าไปบีบคออีกฝ่ายให้ตายคามือเพราะอยากรู้ความจริง “กำไรที่ว่าคงจะเป็นไอกล้องบ้าๆ ตัวนั้นใช่ไหม..”

    “เออ!” อีกฝ่ายปาดเลือดที่มุมปากของตัวเองออก “กูพนันกับเพื่อนว่าถ้าจีบเด็กไร้กำพืดอย่างมึงติดจะได้ล้านวอน อย่างว่านะ..ก็มึงดูไม่ง่ายและท่าทางจะยังซิงอยู่นี่หว่า แต่ถ้ากูยอมมีอะไรกับมึงสักยกสองยก คลิปนั่นจะใช้เป็นหลักฐานได้ไง...เพื่อนกูให้มากกว่าเดิมตั้ง 10 เท่าแน่ะถ้ามึงยังซิง แล้วเผลอๆ ถ้าคลิปมันสนุก กูจะเอาไปทำกำไรต่อในกลุ่มลับอีก คนพวกนั้นมันยอมจ่ายให้เรื่องชั่วๆ ไม่อั้นเลย”

    ทุกอย่างแทคูมองเห็นทุกอย่างเป็นเงินและโอกาสให้ตัวเองจนลืมนึกถึงผิดชอบชั่วดี คิดง่ายๆ แค่ว่าอดทนกับจองมิลไม่กี่วัน ลงทุนทำดีกับเธอนิดหน่อย เงินเป็นกอบเป็นกำก็ลอยเข้ามาในบัญชีตัวเองแล้ว งานนี้มีแต่ได้กับได้ แล้วทำไมคนอย่างเขาจะต้องปฏิเสธด้วย

    ขณะที่จองมิลยืนตัวสั่นด้วยความโกรธ แทคูก็สาวเท้าเข้ามาหา ปลายนิ้วชี้ของเขาแตะปลายคางจองมิลแล้วดันให้เธอเชิดหน้าขึ้น สบตากัน

    “จะว่าไป เด็กอย่างเธอนี่ทำเงินให้ฉันเยอะอยู่นะ ยอมหลับหูหลับตาทำดูสักครั้งไหมล่ะ ยิ่งดิ้นพล่านๆ แบบเมื่อกี้นี้คนดูยิ่งชอบนะ..” แทคูพูดไปก็เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มเล่นไป ก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ “ตอนเอากันก็ร้องให้มันดังๆ หน่อย"

    ว่าพลางเอาปลายนิ้วที่แตะคางลากไล้ลงมาอย่างเอื่อยเฉื่อย อย่างใจเย็น จนกระทั่งปลายนิ้วผ่านลำคอระหง มาถึงกลางหน้าอกของหญิงสาว

    "เอาน่าที่รัก..แล้วพี่คนนี้จะแบ่งเงินให้เธอครึ่งนึงเลย เราทำสัญญากันก็ได้นะ พี่น่ะใจถึงพึ่งได้นะเว้ย..”

    “ไอชั่วเอ้ย!” จองมิลอดรนทนไม่ไหว ผลักอีกฝ่ายเข้ากำแพง ก่อนจะควานหามีดคัตเตอร์ในกระเป๋าสะพายตัวเอง แล้วดันปลายมีดขึ้นพร้อมจ่อไปที่คอหอยคนสารเลวอย่างแทคู “ลองดูไหมล่ะ เพราะคนอย่างฉันเองก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วเหมือนกัน ถ้าชีวิตฉันพังเพราะไอชั่วอย่างแก รับรองเลยว่าฉันลากแกลงนรกไปด้วยกันแน่!

    ไม่ได้พูดเปล่า คนที่ต้องใช้ชีวิตดิ้นรนมาตั้งแต่เด็กเพราะเสียครอบครัวอย่างจองมิลเอาจริง ในตอนนั้นหญิงสาวจำได้ว่าเธอกดปลายมีดอันคมกริบปาดใต้คางของแทคูเป็นทางยาวราวสองถึงสามเซนติเมตร แต่ไม่ได้ลึก ทำลงไปเพื่อต้องการจะขู่ แต่เลือดที่ไหลออกมาหลังจากกดปลายมีดลงบนเนื้ออีกฝ่ายนั้น...ก็มากพอที่จะทำให้แทคูตกใจ กลัวจนตาแทบเหลือถลนออกมา กระทั่งลนลานวิ่งหนีตายออกไป

    เหตุการณ์ในคืนนั้นจองมิลรู้ว่าแทคูจำมันได้ดี แต่เขาก็ยังเล่นละครทำเหมือนว่าตัวเองเป็นฝ่ายโดนเธอทิ้ง โพสลงโซเชี่ยลถึงเธอไม่เว้นแต่ละวัน คงมีแต่จองมิลที่ดูออกว่านั่นมันเป็นละครที่แทคูแสดง เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากคนที่ให้ความสนใจเขา

    “ถ้าไม่อยากโดนมีดปาดคอเหมือนวันนั้นอีกล่ะก็..ขอเตือนว่าอย่าเข้าใกล้ฉันจะดีกว่า!” จองมิลจ้องหน้าแทคูด้วยดวงตาเขม็งกร้าว ขู่อีกฝ่ายด้วยเสียงโทนต่ำผ่านลำคอเรียวๆ ขณะที่แทคูแกล้งยกมือสองข้างขึ้นเป็นสัญญาณของการยอมแพ้

    “ก็ได้ วันนี้ฉันยอมเธอก่อนเพราะมีแข่งหรอกนะ..” แทคูบอก ก่อนจะเดินจากไป แต่ก็ไม่วายหาเรื่องด้วยการเดินกระแทกไหล่หญิงสาว แล้วพูดเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคนว่า “แต่ฉันชักสนุกแล้วสิจองมิล รู้ใช่มั้ย..อะไรที่ได้มายากมันยิ่งท้าทาย ฉันเริ่มไม่อยากได้เงิน แต่อยากได้เธอแทนแล้ว”

    คำพูดนั้นทำให้ซน จองมิล ขนลุกซู่ เธอหลับตาลงก่อนจะถอนหายใจหนักๆ ออกมาด้วยความเหนื่อยใจกับชีวิตที่แสนจะวุ่นวายของตัวเอง อีกทั้งยังคิดว่าคนชั่วอย่างแทคูคงไม่ได้ดีแต่สั่นประสาทเธอด้วยการขู่ไปวันๆ เป็นแน่ แต่คนอย่างนั้นต้องวางแผนทำอะไรสักอย่าง

    หญิงสาวพยายามสลัดความคิดและอารมณ์ที่ขุ่นมัวออกไป ก่อนจะลืมตาและบังเอิญหันไปสบตาเข้ากับใครคนหนึ่ง ฝ่ายนั้นก็อยู่ในชุดกีฬาที่พร้อมจะลงแข่งด้วยเหมือนกัน

    ถ้าจองมิลจำไม่ผิด เขาคืนคนที่เพิ่งย้ายเข้ามากลางเทอม ลูกชายเจ้าของกิจการอะไรสักอย่างแต่บ้านรวยมาก หน้าตาอีกฝ่ายก็ดีมากประเภทเดียวกับพระเอกซีรี่ย์

    จองมิลมองเขาตอบด้วยสายตาที่นิ่งและเย็นชาราวกับว่าเธอกำลังยืนอยู่ในพายุหิมะอันหนาวเหน็บ ขณะที่อีกคนอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ มีแสงแดดอันอบอุ่น ทุกอย่างดูสดใสและดีงามไปหมด

    บ้าจริง! ชีวิตคนสองคนจะต่างกันสุดขั้วขนาดนี้ได้ยังไง โชคชะตานี่..ชอบเล่นตลกร้ายกับชีวิตคนจัง

    จองมิลไม่ได้สนใจอีกฝ่าย เขาจะมองเธอด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง เธอไม่ใส่ใจและไม่คิดให้ความสนใจผู้ชายคนไหนอีกแล้ว แค่ไอเวรแทคู ชีวิตเธอก็เหมือนตกนรกทุกวัน แต่ในตอนที่เธอก้าวขามุ่งหน้าเดินออกจากมหาลัยฯ เพื่อไปทำงานพาร์ทไทม์ ก็มีเสียงฝีเท้าหนักๆ วิ่งตามมาจากทางด้านหลัง

    “เดี๋ยวครับ..”

    เสียงเรียกนั่น ทำให้จองมิลหันไปมอง พ่อหนุ่มฮอตคนนั้น วิ่งตามเธอมา

    “นายมีอะไร?”

    จองมิลถามเสียงห้วนอย่างไม่ยินดีผูกมิตรด้วยสักนิด แต่อีกฝ่ายไม่สนสายตาของเธอ เขามองหาอะไรบางอย่าง ก่อนจะดึงเอาปากกาที่เหน็บเอาไว้จากกระเป๋าหญิงสาวออกมา แล้วดึงมือเธอไป ตั้งใจเขียนอะไรบางอย่าง

    “ทำบ้าอะไรของนาย!” จองมิลชักสีหน้า แถมตวาดเสียงลั่น ก่อนจะชักมือหนี แต่อีกฝ่ายก็ดึงมือเธอมาเขียนยุกยิกจนเสร็จ

    “ผมจียง พัค จียง ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไรก็โทรมาหาผมนะ ผมยินดีช่วยคุณ”

    “แล้วนายเป็นใครล่ะ จะมาช่วยอะไรฉันได้” จองมิลแค่นหัวเราะขื่น กับการกระทำที่แสนพิลึกของเขา

    ให้ตายเถอะน่า! เธอเหนื่อยจากทั้งการเรียน เหนื่อยกับชีวิตที่แสนจะโดดเดี่ยว และเพิ่งเหนื่อยใจกับแทคูจนแทบจะยกมือขึ้นมากุมขมับตัวเองด้วยซ้ำ ยังต้องมาเจอพวกก่อกวนอีก.

    “ที่โรงแรมวันนั้น ผมเห็นเหตุการณ์ทกอย่าง เรื่องรุ่นพี่แทคู ถ้าคุณจะเอาเรื่องเขาผม..”

    “นี่!” จองมิลรีบเดินเข้า เอามือตัวเองอุดปากอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้พูดเรื่องน่าอายคืนนั้นออกมา ก่อนจะมองรอบข้าง “ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายต้องการอะไรกันแน่ แต่เรื่องของฉัน..ฉันจัดการเองได้ ขอบใจ แต่อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวชีวิตของฉันอีกเลย”

    “แต่ว่าผู้เสียหายเป็นคุณ..” เขาดึงมือที่อุดปากตัวเองไว้ออก “ทำไมต้องปกป้องคนผิดด้วย”

    หึ! ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะใช้ชีวิตและถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีสินะ

    “นายมันลูกคนรวยใช่มะ ถึงพูดเรื่องความยุติธรรมออกมาได้น่าตาเฉยเนี่ย หึ...เรื่องแบบนั้นคนจนมันทำได้แค่ฝันเท่านั้นแหละ และจะบอกอะไรให้นะ ถ้ามองเห็นความเป็นจริงบนโลกสักนิด นายถ่างตาให้กว้างสักหน่อย ก็จะรู้ว่าเสียงของคนไม่มีจะกินอย่างฉันมันเบาแค่ไหน ไม่ว่าตำรวจ อัยการ อาชีพอะไรก็ตาม หรือพยานมันก็แพ้คนมีเงินกับมีอำนาจทั้งนั้นแหละ ฉันมีแค่มือสิบนิ้ว ส่วนรุ่นพี่นายน่ะ..ยังไงเขาก็มีครอบครัวเป็นกะลาคอยคุ้มหัว มองจากนอกโลกยังรู้เลยว่าฉันสู้ไปก็มีแต่จะแพ้กับแพ้”

    จองมิลรู้สึกขอบใจอีกฝ่ายก็จริง เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตก็ว่าได้ที่มีคนหยิบยื่นน้ำใจมาให้ก่อน แม้ว่าจะยังไม่รู้เจตนาของอีกฝ่ายว่าต้องการอะไรจากเธอก็ตาม แต่เธอไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับแทคูด้วยเรื่องกฎหมายบ้าบออะไรทั้งนั้น เธอน่ะมีแต่เสีย ทั้งเสียเวลา เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เสียความรู้สึก สู้ใช้ศาลเตี้ยในแบบตัวเองตั้งมือรับกับไอบ้านั่นจะดีกว่า

    “ไปเถอะ แล้วอย่ามาเจอกันอีก”

    ......................................

    On the Beach Café

    ที่ทำงานของซน จองมิลเป็นร้านกาแฟใกล้หอพักของเธอและไม่ไกลจากมหาลัยฯ มากนัก ถึงร้านจะค่อนข้างเล็ก แต่ก็มีเมนูให้เลือกมากมาย มีระบบการทำงานที่ดี และการตกแต่งก็ชวนให้สะดุดตาตามชื่อร้าน

    การตกแต่งส่วนใหญ่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ที่ทะเลทั้งที่ร้านอยู่กลางเมืองที่เจริญและแวดล้อมไปด้วยรถราวิ่งกันขวักไขว่ โทรสีร้านใช้สีขาวน้ำเงินเป็นหลัก และโคมไฟสาน มีห่วงยางคล้ายสมอเรือ ของตกแต่งในร้านส่วนใหญ่ก็เป็นการ์ตูนรูปสัตว์ทะเล

    จะว่าไป หลังจากการแข่งขันบาสเก็ตบอลของมหาลัยฯ ผ่านไป ผลการแข่งขันคือมหาลัยฯ อุนเซเป็นฝ่ายชนะ แต่หลังจากวันนั้นจองมิลก็ไม่เคยเจอกับแทคูอีกเลย ส่วนวันนี้ที่ไม่มีเรียนจองมิลต้องทำงานเต็มตาราง เธออยู่ร้านถึง 2 ทุ่ม เพราะมีงานอีกอย่างที่ต้องทำ

    จองมิลทำงานที่ได้เงิน นอกจากงานพาร์ทไทม์ที่ร้านกาแฟแล้ว เธอยังรับงานซื้อของด้วย เธอรู้จักกับ ชเว นายอน รุ่นพี่ในสาขาเดียวกัน นายอนทำงานอยู่ที่สถานพักฟื้นผู้สูงอายุ คอยดูแลคุณตาคุณยายที่เพิ่งหายจากอาการเจ็บป่วย ซึ่งสถานพักฟื้นผู้สูงอายุอยู่ห่างจากหอพักของจองมิลไปประมาณ 3 ป้ายรถเมล์ และเพราะเธอเคยตามนายอนไปทำงานทำความสะอาดบ้างบางครั้ง จองมิลเลยได้งานรับจ๊อบเล็กๆ น้อยๆ จากที่นั่น

    19 : 45 น.

    ตอนนี้เป็นเวลาใกล้เลิกงานแล้ว คนในร้านมีไม่เยอะมากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็เพื่อนๆ ในมหาลัยฯ และพวกเด็กนักเรียนที่แวะมานั่งดื่มเครื่องดื่มกับทานขนมสักชิ้นพร้อมกับอ่านหนังสือไปด้วย บ้างก็มาเป็นกลุ่ม นั่งโต๊ะใหญ่ช่วยกันติวหนังสือ

    “รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ?” ขณะที่จองมิลกำลังก้มหน้าแต่งหน้าโกโก้ร้อนให้กับลูกค้าซึ่งเป็นนักเรียนวัยมัธยมปลายอยู่นั้น เสียงสดใสของเพื่อนร่วมงานก็ดังขึ้น ก่อนจะใช้ศอกสะกิดเธอรัวๆ

    จองมิลเงยหน้าขึ้นเพราะทนแรงสะกิดไม่ไหว ก่อนจะพบว่าลูกค้าที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้านและทำการสั่งกาแฟคือผู้ชายคนที่เสนอความช่วยเหลือให้เธอ

    พัค จียง เขากำลังมองเธออยู่ ก่อนจะยื่นบัตรให้พนักงานรูดคิดเงิน จองมิลมองสบตาเขาครู่เดียวอย่างไร้ความรู้สึกก่อนจะสนใจงานของตัวเองต่อ

    “ได้แล้ว” หลังจากทำโกโก้ให้นักเรียนมัธยมปลาย เธอก็ทำเมนูถัดไปเป็นเอสเปรชโซ่เย็น เมนูของพัคจียง แล้วยื่นให้รุ่นน้อง แต่อีกฝ่ายปฏิเสธ



    แฟนเพจ 'อสรพิษ' เอาไว้ให้ทุกคนติดตาม
    แจ้งข่าวการอัพเดทนิยายที่นี่ เร็วทุกสถานการณ์ 

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×