ตอนที่ 5 : บุกหมู่บ้านโจร
บนต้นไม้ข้างหมู่บ้านโจร
ผมเปลี่ยนจุดสอดแนมไปหลายที่รอบหมู่บ้าน เพื่อตามหาที่คุมขังของผู้หญิงที่โดนจับมา ผมต้องการที่จะช่วยเธอออกมา เธอน่าจะโดนขังอยู่ที่กระท่อมของหัวหน้าโจร เพราะมีคนเฝ้าอยู่และมีการนำอาหารไปส่งอยู่เป็นประจำ คาดว่าเธอน่าจะโดนจับมาเรียกค่าไถ่ ทำให้ได้เธอรับการดูแลอย่างดี ดังนั้นผมจึงยังพอมีเวลาสักหน่อยก่อนที่จะมีใครมาไถ่ตัวเธอไป
ไม่ใช่เพราะว่าผมอยากเป็นฮีโร่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณป้า หรือว่าหลงเสน่ห์เธอจนต้องตามมาช่วย แต่เป็นเพราะผมพึ่งจะสังเกตเห็นแหวนที่ได้มามันไม่ใช่แหวนธรรมดา มันทำขึ้นจากแร่เงินแท้ มีอัญมณีเป็นโอปอลสีขาว ขนาดหัวแม่มือ ทั้งวงได้รับการแกะสลักอย่างประณีตงดงามหากเทียบกับสร้อยลูกปัดของพวกโจร เรียกได้ว่าแทบจะมาจากคนละโลกเลยทีเดียว ชาวบ้านธรรมดาไม่มีทางที่จะมีของแบบนี้แน่เธอต้องเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวยหรือไม่ก็เป็นคนใหญ่คนโต หากผมเดาถูกการช่วยเธอออกมาจากหมู่บ้านโจร มันจะทำให้ผมได้รับการช่วยเหลือดูแลอย่างดี ถึงแม้จะไม่เป็นไปตามที่ผมคิด แต่ผมก็ต้องจัดการกับเจ้าคนเถื่อนพวกนี้อยู่ดี หรือในกรณีที่ผมหนี ออกไปจากป่าแห่งนี้มันก็รับประกันไม่ได้ว่าผมจะเจอคนดี แล้วเขาจะยินดีให้ความช่วยเหลือกับผม แต่ถ้าไปเจอคนไม่ดีผมคงจะโดนจับไปเป็นแรงงานทาสแน่นอน แถมยังสื่อสารไม่ได้อีกโอกาสที่จะโดนหลอกไปทำเรื่องแย่ๆ เยอะมากทีเดียว
ดังนั้นผมจึงต้องช่วยเธอออกมาจากที่นี่!!
จากการเฝ้าสังเกตทำให้ผมได้รู้ว่าบริเวณลานดินทางซ้ายของหมู่บ้านใกล้กลับรั้วที่ผมซ่อนอยู่ ถูกใช้เป็นที่สอนหนังสือให้พวกเด็กตัวเล็กๆ โจรที่ทำหน้าที่เฝ้ายามมีอยู่สองคน
โจรคนหนึ่งตัวผอม ท่าทางใจร้อนดูเหมือนพวกไม่ค่อยมีสมองแต่ตัดสินใจได้ไว ส่วนโจรอีกคนตัวอ้วน ทำอะไรชักช้า ดูใจเย็นและฉลาดกว่า
ผมรอเวลาที่พวกโจรออกปล้นอีกครั้ง แต่พวกมันหยุดปล้นไปนานหลายวัน เพราะการปล้นรถม้ารอบที่แล้ว พวกมันมีเสบียงมากพอที่จะไม่ต้องออกปล้นไปหลายวัน อีกทั้งเงินค่าไถ่ของผู้หญิงคนนี้ที่กำลังจะมาถึงจนตอนนี้ผมสามารถจำคำศัพท์ของพวกเขาได้ในระดับเด็กตัวเล็กๆ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการผมต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้พวกมันออกปล้นอีกครั้ง
ผมเสี่ยงดวง โยนคบเพลิงยางไม้ไปไว้แถวที่เด็กๆ มาเล่นกันประจำ เมื่อพวกเด็กที่กำลังซน เห็นก็เก็บมันไปเล่นด้วยความอยากรู้และเหมือนเด็กทั่วไปเมื่อมีของเล่นใหม่เพียงอันเดียว ย่อมเกิดการแย่งกัน เด็กคนที่ถือคบเพลิงวิ่งหนีเพื่อนๆ ที่พยายามจะเข้ามาแย่ง เด็กๆวิ่งไปทั่วหมู่บ้าน ทำให้พวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านต้องรีบตามไปหยุดจนเกิดความวุ่นวาย เพราะพวกเขารู้ดีว่ากระท่อมฟางไม้มันติดไฟได้ง่ายขนาดไหน
แต่ถึงกระนั้น มันก็สายเกินไป ผมจัดการโยนถ่านติดไฟใส่หลังคากระท่อมที่คาดว่ามันเป็นที่เก็บเสบียงของหมู่บ้าน ปรากฏว่าเกิดไฟลุกไหม้ทันที ผมจึงรีบหลบออกจากที่เกิดเหตุ
กว่าที่พวกเขาจะรู้ตัว ไฟก็ลามไปเกินครึ่งแล้วกว่าจะดับเสร็จก็เหลือแต่เถ้าถ่าน แม้ว่ากระท่อมเสบียงอีกหลังจะไม่โดนไฟไหม้ไปด้วยเนื่องจากมันอยู่ห่างจากกำแพงจนผมโยนถ่านติดไฟไปไม่ถึง แต่เพียงเท่านี้ก็กดดันให้เขาต้องออกปล้นอีกครั้ง
แผนเสี่ยงดวงของผมสำเร็จไปได้ด้วยดีพวกเขาคิดว่าเด็กๆ เก็บคบเพลิงจากของที่ปล้นมาได้ แล้วนำไปเล่น ชนกันจนเกิดไฟไหม้ พวกเด็กเลยโดนทำโทษกันไปตามระเบียบ แม้พวกเด็กๆ จะพยายามบอกว่ามันมีไฟลอยข้ามมาจากกำแพงแต่พวกผู้ใหญ่ไม่มีใครเชื่อพวกเขาเลย ไม่ว่าผู้ใหญ่โลกไหนก็ไม่ฟังเหตุผลของเด็กหรอก ยิ่งเรื่องไม่น่าเชื่อแบบนี้ด้วย ผมคิดว่า อีกไม่นานพวกเขาต้องออกปล้นอีกแน่นอน ผมต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา
เป็นไปตามคาดหลังจากนั้น 3 วัน พวกมันออกปล้นอีกครั้ง เวลานี้เป็นช่วงใกล้ค่ำอีกไม่นานนักก็จะมืดสนิท ความมืดช่วยทำให้ผมทำงานได้ง่ายขึ้น
หมู่บ้านแห่งนี้ มีประตูหน้าเป็นทางเข้าและทางออก เพียงทางเดียวของหมู่บ้านและที่หลังหมู่บ้านจะมีประตูลับไว้สำหรับหนีภัยซึ่งปกติประตูจะปิดไว้ตลอด
ผมจุดไฟใส่ประตูหลังแล้วแอบเข้ามาข้างใน จากรูใต้รั้วไม้ ทางฝั่งขวาของหมู่บ้าน ที่ผมแอบขุดไว้เมื่อผมมุดผ่านเข้ามาข้างใน ไฟกำลังลุกท่วมรั้วไม้ ท่ามกลางความโกลาหลของคนในหมู่บ้าน
ไม่มีใครสังเกตเห็นผมที่แอบเข้ามา ด้วยการอำพรางตัวไปกับความมืดด้วยชุดสีดำที่ได้มาตั้งแต่เจอพวกโจรครั้งแรก แถมยังเอาถ่านมาทาหน้าจนดำสนิทไปทั้งตัว
ผมรีบออกตามหาหญิงสาวทันที ผมเดินแอบหลบสายตาผู้คนไปตามกระท่อมเพื่อส่องดูข้างใน ด้วยความระมัดระวังแต่ก็ชักช้าไม่ได้ ถ้าไฟดับแล้วผมยังช่วยเธอไม่ได้ผมจะไม่มีโอกาสอีก เวรยามจะหนามากจนไม่สามารถช่วยเธอได้
จนกระทั่งได้พบเธอในกระท่อมหลังใหญ่ที่เป็นจุดศูนย์กลางของหมู่บ้าน คิดว่าหลังนี้น่าจะเป็นกระท่อมของหัวหน้าโจร ข้างในมีเด็กสาวของหมู่บ้าน ผมจำได้เธอเป็นครูสอนภาษาพวกเด็กๆในหมู่บ้าน หรือว่าเธอจะเป็นเมียของหัวหน้าโจรกัน แต่เธอยังดูอายุน้อยอยู่เลยนะหรือว่าพวกเขาเป็นพวกโลลิคอน? ผมเริ่มคิดอะไรแปลกๆก่อนจะเตือนสติตัวเอง
ไม่มีเวลาแล้ว!!
ผมแอบเข้าไปข้างในทันที เป็นจังหวะที่เด็กสาวมัวแต่สนใจมองไปนอกหน้าต่าง ดูกำแพงที่กำลังไฟไหม้อยู่นั้น ผมเข้าถึงตัวเธอจากทางด้านหลังโดยที่เธอยังไม่ทันรู้ตัว ก่อนจะเอามือปิดปากและจับเธอไว้ไม่ให้ส่งเสียง เธอพยายามขัดขืนแต่ด้วยแรงผู้ใหญ่อย่างผมทำให้เธอมิอาจฝืน ก่อนที่จะโดนมัดและเอาผ้าอุดปาก
ผมรีบแก้มัดให้หญิงสาวตัวประกัน เมื่อผมเห็นเธอใกล้ๆ พบว่าเธอดูเด็กกว่าที่ผมคิดในตอนแรก เมื่อผ้าหลุดออกจากปาก เธอก็พูดออกมาทันที
เด็กสาวตัวประกัน: "ใคร@#฿&+&฿+*"
ผม: "ช่วย เร็ว"
แม้ฟังจะออกเพียงบางคำแต่พอจะเดาได้ว่าเธอถามอะไร ผมรีบตอบก่อนที่จะพาเธอออกไป เธอเชื่อฟังแต่โดยดีผมรีบตรงไปที่คอกม้า มันมีม้าเหลืออยู่ในคอก สองตัว
ผมตัดบังเหียนบังคับม้าอีกตัวแล้วปล่อยมันวิ่งหนีไป ผมพาเธอขี่ม้าอีกตัว แต่ทว่ามันไม่ยอมขยับ!!
เวรแล้วไงทำไมไม่ยอมวิ่ง?? ชีวิตนี้ผมไม่เคยขี่ม้ามาก่อนด้วยสิ มันมีคันเร่งอยู่ตรงไหนหรือเปล่า? ทำไมเห็นคนอื่นเขาขี่กันง่ายๆ??
เด็กสาวตัวประกัน : "ไป@#฿&+??"
ผม: "ไป ไป ไป!!"
ผมพูดตามเธอแต่ม้าก็ยังคงนิ่งเหมือนเดิม หน่อยแน่ ไอ้ม้าบ้านี่อยากจะลองดีงั้นเหรอ เดี๋ยวก็จับไปให้หมีกินซะเลย
ผมได้ยินเสียงโวยวายออกมาจากในกระท่อมของหัวหน้าโจร เลวร้ายแล้วไง!! เมียหัวหน้าโจรดิ้นจนผ้าหลุดออกจากปาก งานเข้าล่ะสิเอาไงดีเนี้ยยย คุณมาวิ่งสักทีเถอะ
เด็กสาวตัวประกัน : "ข@#฿&+#฿@"
เด็กสาวรัวคำพูดที่ผมฟังไม่รู้เรื่องเป็นชุด
โจรเฝ้ายามที่ไปช่วยดับไฟดูเหมือนจะรู้ตัวแล้วพวกเขาวิ่งตามมา งั้นก็ช่วยไม่ได้ผมเอาไม้ฟาดใส่ก้นของม้า มันไม่ยอมขยับ ผมฟาดใส่เต็มแรงอีกที คราวนี้มันยกสองขาหน้าขึ้นแล้วกระโดดตัวไปข้างหน้า มันพยายามจะสลัดผมออกจากหลังของมัน
เด็กสาวตัวประกัน :กรี๊ดดดดดดด!!
เด็กสาวกรีดร้องออกมาพร้อมน้ำตาไหลด้วยความหวาดเสียวว
******
โปรดติดตามตอนต่อไป
ภาพประกอบ หมู่บ้านโจร
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
