ย่านอินซาดง ... ย่านที่รวมของอร่อยจากทั่วประเทศเกาหลีใต้เอาไว้ที่นี่ ...
หากเอ่ยถึงย่านอินซาดงแล้ว คนเกาหลีใต้ทุกคนจะต้องนึกถึงอาหารหลากหลายนานาชนิด ล้วนแต่มีรสชาติอร่อยถูกปาก และมาจากทุกภาคทุกจังหวัดของเกาหลีใต้มารวมกันอยู่ที่ย่านแห่งนี้ หรือจะเรียกให้ถูกก็คือ เป็นย่านของกินที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้นั่นเอง ...
และหากจะพูดถึงของหวานหรือเบเกอรี่โฮมเมดที่ขึ้นชื่อสุดๆของย่านนี้แล้ว ก็คงจะเป็นร้านไหนไปไม่ได้นอกจากร้าน SHINee Bakery ร้านเบเกอรี่น่ารักของผู้ชายหน้าตาดีทั้งห้าคน ที่ขึ้นชื่อสุดๆในเรื่องของความอร่อย สดและใหม่ของเบเกอรี่ ทุกๆเช้า ถ้าได้เดินผ่านร้านนี้ จะมีกลิ่นหอมของเบเกอรี่ที่พึ่งทำเสร็จใหม่ๆโชยออกมาให้ท้องได้ร้องกันเสมอ ... นอกจากนี้ รูปลักษณ์การตกแต่งของร้านก็ยังเป็นสไตล์โมเดิร์นที่เน้นสีขาวครีมสบายตา น่าเข้าไปนั่งจิบกาแฟและทานเบเกอรี่เป็นที่สุด
แต่ถ้าร้าน SHINee Bakery เป็นร้านเบเกอรี่ร้านเดียวที่ขายดีที่สุดในย่านนี้ เรื่องราวทั้งหมดมันก็คงจะไม่วุ่นวายถึงขนาดนี้ ...
หน้าร้าน SHINee Bakery ... ในช่วงเช้าของวันเสาร์ อากาศกำลังแจ่มใสทีเดียว
“ฮ้า ~ อากาศดีจังเลย” เสียงของ อนยู ชายหนุ่มผมสีบลอนด์ทองดัดเป็นลอนอ่อนๆ ดวงตาเรียวเล็กที่สามารถยิ้มได้ทุกเมื่อที่เจ้าของดวงตายิ้มดังขึ้นที่หน้าร้าน พร้อมกับร่างสูงของเขาเดินออกมาบิดขี้เกียจ ยืดแขนทั้งสองข้างออกไปอย่างสุดแรง อ้าปากกว้างเพื่อหาวอย่างไม่กลัวว่าแมลงวันที่ไหนจะบินหลงเข้ามาในปากหรือไม่
ซ่า~!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“อูแหวะ! แค่ก! แค่ก! อ่อก! โอ๊ย! อะไรกันวะเนี่ย?” กำลังหาวอย่างเพลิดเพลิน อยู่ๆก็มีน้ำจากไหนมากมายก็ไม่รู้ สาดเข้ามาที่เขาเต็มๆ! เนื้อตัวและเสื้อผ้าเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตั้งแต่หัวจรดเท้า รวมไปถึงในปาก ที่เมื่อกี๊กำลังอ้ากว้างเต็มที่เพื่อหาว บัดนี้ก็เต็มไปด้วยน้ำและบางส่วนก็ถูกกลืนลงกระเพาะไปแล้วเรียบร้อย
“ยัยบ้าซอนเย!” หลังจากที่ไอค่อกแค่กเพราะสำลักน้ำเสร็จแล้วเรียบร้อย อนยูก็รีบหันไปเล่นงานกับตัวการที่ทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพนี้ทันที
“อะไรเหรอ? อ้าว ...ร้อนแต่เช้าเลยเหรอ ทำไมตัวถึงเปียกโชกแบบนั้นล่ะ?”
หญิงสาวหน้าหวานร่างบาง เจ้าของเรือนผมสีดำขลับที่บัดนี้ถูกเกล้าเป็นมวยหลวมๆเอาไว้ทางด้านหลังโดยปล่อยปอยผมลงมาที่ข้างแก้มเล็กน้อย หันหน้าไปถามอนยู ที่เมื่อกี๊พึ่งจะเรียกชื่อเธอพร้อมกับคำนำหน้าที่ไม่ค่อยจะน่าฟังสักเท่าไหร่
“ยังจะมีหน้ามาถามอีก! เธอตั้งใจจะแกล้งฉันใช่ไหม! ยัยเตี้ย”
“อ้าว! พูดจาหมาๆแบบนี้แต่เช้าเลยนะอีตาเต้าหู้ยี้! ฉันพูดดีๆด้วยทำไมต้องด่ากันด้วยล่ะ แบบนี้มันหาเรื่องกันชัดๆนี่หว่า” หญิงสาวร่างบางหรือ มินซอนเย ยืนเท้าสะเอวหันไปเผชิญหน้ากับอนยูทันทีที่ได้ยินเขาเรียกเธอว่า ‘ยัยเตี้ย’ ว่าเธอไม่สวย ว่าเธอเป็นบ้าเป็นบออะไรเธอทนได้ แต่มาว่าเธอ เตี้ย เนี่ย เธอยอมไม่ได้!
“แล้วเมื่อกี๊คนแคระที่ไหนมันสาดน้ำใส่ฉันล่ะหา!”
“อะไร? ใครสาดอะไรใส่นาย? อย่ามาพูดพล่อยๆนะยะ ถึงฉันจะถือสายยางอยู่ แต่ฉันกำลังรดน้ำต้นไม้ ไม่ได้หันสายยางไปฉีดใส่นายนี่ เพ้อเจ้อ” ซอนเยเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงแม้ว่าในมือของเธอจะถือสายยางอยู่ แต่เธอก็ออกมารดน้ำต้นไม้จริงๆนี่นา ไม่ได้เอามาสาดใส่อนยูอย่างที่เขากล่าวหาสักหน่อย
“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยยัยเตี้ยหัวเถิก! หลักฐานมันก็คามือเธออยู่นั่น ยังจะกล้าปฏิเสธอีกเหรอ! หน้าเธอนี่มันทำด้วยอะไรกันเนี่ย ทำไมถึงได้ด้านได้ทนขนาดนี้”
“อ้าวๆ พูดงี้ก็สวยสิไอ้คนซังเท! หนอย! มากล่าวหากันลอยๆแบบนี้ฉันไม่ยอมหรอก ว่าคนอื่นเค้าเตี้ยหัวเถิก ไม่เคยดูสารรูปตัวเอง นายเองก็ไม่ได้สูงมากไปกว่าฉันหรอก! แถมหน้านายยังบานสิบสามนิ้วอีกต่างหาก”
“ว่าฉันหน้าบานเหรอยัยเตี้ยนี่!” เมื่อถูกซอนเยด่าเอาด้วยถ้อยคำเจ็บแสบเช่นนั้น อนยูจึงถลกแขนเสื้อ เดินกร่างเข้าไปหาซอนเย เตรียมตัวจะหาเรื่องเต็มที่ แต่ทว่า ....
“อนยู! เกิดอะไรขึ้นน่ะ”
เสียงของชายหนุ่มผิวขาวผ่องจนดูเหมือนกับมีออร่าออกมาจากร่างกายดังขึ้น พร้อมๆกับที่ร่างผอมสูงของเขาวิ่งออกมาจากในร้าน SHINee Bakery เขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากเลยทีเดียว ดวงตาของเขาเรียวเล็กคล้ายๆอนยู คิ้วเข้มตัดกับผิวขาวๆอย่างชัดเจน ริมฝีปากแดงระเรื่อบ่งบอกถึงความมีสุขภาพดี และที่สำคัญ ใบหน้าของเขานี่หวานซะยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก!
“ก็ยัยเตี้ยฟันเหยินนี่น่ะสิ! อยู่ดีๆก็มาสาดน้ำใส่ฉันเฉยเลย หลักฐานก็คามืออยู่นั่นยังจะมีหน้ามาปฏิเสธอีก หน้าด้านจริงๆ” อนยูไม่รอช้า หันไปฟ้อง คีย์ หรือคิมคิบอม ชายหนุ่มที่วิ่งออกมาเมื่อครู่ ผู้เป็นเจ้าของตำแหน่ง พาร์ทิซิเย่ของร้านเขาทันที
“นายอย่ามากล่าวหากันนะ! มีหลักฐานอะไรมาบอกว่าฉันเป็นคนสาดน้ำใส่นาย”
“ก็สายยางในมือเธอนั่นไงยัยบ้า”
“เอ๊ะ! ก็บอกว่าฉันเอามารดน้ำต้นไม้ไงเล่า ไอ้หน้าบาน!”
“โอ๊ยๆ พอก่อนเถอะ พอก่อน ค่อยๆคุยกันก่อนดีมั้ย อย่าพึ่งใช้อารมณ์สิ” คีย์ทนเห็นทั้งสองคนทะเลาะกันไม่ไหวจึงรีบเข้ามาห้ามเอาไว้เป็นการใหญ่
“มีอะไรเหรอซอนเย เสียงดังเอะอะโวยวายเข้าไปถึงข้างในร้านเลย”
บุคคลที่สี่โผล่ออกมาจากในร้าน Carino Bakery ร้านเบเกอรี่ที่ติดกับร้านของอนยู ที่มีซอนเยเป็นเจ้าของร้าน หญิงสาวผมสั้นซอยหมือนทรงผมผู้ชาย หากแต่ใบหน้าของเธอนั้นหวานน่ารักเหมือนกับใบหน้าของซอนเย เดินเข้ามาหาซอนเยที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการทะเลาะกับอนยู เธอคนนี้ก็คือ ฮวางเฮยอง พาร์ทิซิเย่สาวห้าวของร้าน Carino Bakery ของซอนเยนั่นเอง
“ก็ไอ้บ้าหน้าบานสิบสามนิ้วนี่น่ะสิ! ฉันออกมารดน้ำต้นไม้อยู่ดีๆ มันก็มาหาว่าฉันไปสาดน้ำใส่มันเฉยเลย! ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะเฮยอง ไม่เห็นด้วยซ้ำว่ามันออกมายืนตรงนี้” ซอนเยได้ทีจึงหันไปฟ้องเฮยองบ้าง
“ก็แบบนี้แหละน้า ... พวกผู้ชายสมองฝ่อ ดีแต่กล่าวหาคนอื่นว่าทำร้ายตัวเองโดยไม่ดูให้ดีก่อน ... มิน่า ... ถึงไม่มีผู้หญิงที่ไหนเอาเป็นแฟน จนเก็บกดกลายมาเป็นเกย์อย่างที่เห็น” เฮยองเบ้ปากพลางว่ากระทบถึงคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นเพราะความหมั่นไส้ส่วนตัวมากกว่า
“อ้าว ยัยทอม แกว่งปากหาหมัดแล้วไงล่ะ! ฉันไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลยนะเธอมาว่าฉันทำไม” และคีย์ ... ก็คือคนๆนั้นที่เฮยองพูดถึง เขารีบเดินออกมาประจันหน้าเถียงกับเฮยองทันที
“อะไรของนาย ฉันยังไม่ได้เอ่ยชื่อนายสักคำเลยนะ อย่ามากล่าวหากันลอยๆสิ พูดแบบนี้นี่มันร้อนตัวชัดๆเลยนี่นา ... เอ๊ะ! หรือนายจะยอมรับแล้วว่านายเป็นเกย์?”
“ฉันไม่ได้เป็นเกย์!!”
“เฮ้ๆ! ข้างล่างระวังด้วยครับ”
ในขณะที่ทั้งสี่คนกำลังยืนเถียงกันอย่างสนุกสนาน (?) อยู่นั้น ก็มีเสียงตะโกนบอกให้ระวังดังมาจากชั้นสองของทางร้าน SHINee Bakery ทั้งสี่คนจึงหันขึ้นไปมองเป็นตาเดียวกันทันที
“ไอ้มินโฮ ขึ้นไปทำอะไรข้างบนวะ” อนยูตะโกนถามขึ้นไป เมื่อพบว่าเป็น ชเวมินโฮ ชายหนุ่มตัวสูงโปร่งเจ้าของดวงตากลมโตหวานมีสเน่ห์ ผู้เป็นเจ้าของตำแหน่ง พนักงานเสิร์ฟ ของทางร้าน SHINee Bakery ขึ้นไปยืนถือถังน้ำอยู่บนระเบียงชั้นสองของร้าน ตรงหัวของเขาพอดี
“ก็เมื่อคืนฝนมันตกอ่ะดิเฮีย แล้วน้ำมันก็ขังอยู่ที่ผ้าใบนี่เต็มเลย ผมเลยมาวิดออก เฮียหลบกันให้ดีๆนะเดี๋ยวจะโดนน้ำนี่เข้า มันสกปรก เมื่อกี้ผมเทลงไปรอบนึงแล้ว ไม่รู้ไปโดนใครเค้าเข้ารึเปล่า”
“อ้าว ... แกเองหรอกเหรอ” อนยูทำหน้าเหมือนพึ่งจะระลึกชาติออก ... เมื่อความจริงปรากฏว่า เป็นมินโฮที่เป็นตัวการทำให้เขาเปียกโชกเช่นนี้ ไม่ใช่ซอนเยอย่างที่เขากล่าวหา
ซ่า~!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“โอ้โห ... เฮ้ย! ยัยยูจิน! ทำบ้าอะไรกันเนี่ย!!” ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรต่อ มินโฮที่กำลังจะวิดน้ำที่ระเบียง ก็ถูกน้ำสาดเข้ามาที่ใบหน้าเต็มๆ! และต้นเหตุก็มาจากหญิงสาวผมยาวร่างบางหน้าตาน่ารัก ที่กำลังวิดน้ำอยู่บนระเบียงชั้นสองของทางร้าน Carino Bakery เช่นเดียวเหมือนกับเขา
“ก็วิดน้ำน่ะสิไม่เห็นเหรอ หรือว่าตาบอด” ฮันยูจิน หญิงสาวร่างบางหน้าตาน่ารักคนดังกล่าว เจ้าของตำแหน่งบาลิสต้าผู้สรรค์สร้างรสชาติของกาแฟประจำร้าน Carino Bakery เถียงมินโฮ โดยที่ยังไม่หันหน้ามาหาเขา เธอยังคงวิดน้ำของเธอต่อไปอย่างขะมักเขม้น แถมไอ้ทิศทางที่เธอเทน้ำทิ้งเนี่ย ก็ดันเป็นทางที่เขายืนอยู่อีกต่างหาก!
“โอ๊ย! ทำไมไม่เทน้ำลงพื้นล่ะยัยนี่! ฉันยืนอยู่ตรงนี้ไม่เห็นหรือไง ยังจะมีหน้ามาสาดน้ำใส่อีก” มินโฮต่อว่ายูจินที่เทน้ำอย่างไม่รู้กาลเทศะ แต่เจ้าตัวกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“ถ้างั้นนายไม่ไปยืนที่อื่นเล่า รู้ก็รู้ว่ายืนตรงนี้แล้วมันจะเปียกยังจะเสนอหนังหน้าเน่าๆของนายมายืนอยู่ได้! นี่นายโง่หรือนายบ้ากันแน่ยะเนี่ย” แทนที่ยูจินจะรู้สึกสำนึกผิดแล้วกล่าวขอโทษ ที่ไหนได้ เธอกลับด่ามินโฮกลับซะอย่างงั้น
“ปากดีนักนะ! งั้นเจอนี่หน่อยเป็นไง” มินโฮเอาน้ำในถังของเขาสาดใส่ยูจินบ้าง
“กรี๊ดดดด!!! ไอ้บ้ามินโฮ ไอ้เสาไฟฟ้าเดินได้ เล่นอะไรของนายเนี่ย สกปรกโสโครกที่สุด!!”
ในขณะที่ข้างบนก็กำลังวุ่นวายกันอยู่นั้น ย้อนกลับมาที่ข้างล่างก็ยังคงวุ่นวายไม่แพ้กัน เมื่อคีย์และเฮยองก็ยังคงยืนเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร อนยูและซอนเยเองก็กำลังด่ากันถึงเรื่องน้ำไม่รู้จักจบสิ้น
“ว่าไงล่ะ สรุปว่านายเป็นฝ่ายผิด เพราะฉันไม่ได้เป็นคนเอาน้ำสาดใส่นาย แต่เป็นมินโฮลูกน้องนายนั่นแหละที่เป็นตัวการ! นายกล่าวหาฉันก่อน นายต้องขอโทษฉันเดี๋ยวนี้!” ซอนเยเรียกร้องคำขอโทษจากอนยู ที่เขากล่าวหาว่าเธอเป็นคนไปสาดน้ำใส่เขา ทั้งๆที่เธอเองไม่รู้เรื่อง
“ไม่มีทาง! เธอนั่นแหละที่ผิด เธอด่าฉันว่าไอ้หน้าเต้าหู้ยี้ หน้าบานสิบสามนิ้ว แล้วเธอยังว่าฉันเตี้ยด้วย! เธอนั่นแหละที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษฉัน!” อนยูเองก็ไม่ยอมเช่นกัน เรียกร้องเอาคำขอโทษจากซอนเยบ้าง ทั้งๆที่ตัวเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายไปด่าเขาก่อน (เฮียแมนมากเลยนะคะเนี่ย - - ไรท์เตอร์)
“แล้วหมาที่ไหนมันด่าฉันว่าเตี้ย คนแคระ หัวเถิก ฟันเหยินกันล่ะยะ!”
“นี่เธอว่าฉันเป็นหมาเหรอยัยเตี้ยหัวเถิก!”
“นั่นไง! นายยอมรับแล้ว”
“กรี๊ดดดดด!!!! พี่ซอนเย พี่เฮยอง ช่วยด้วย โฮๆๆๆๆๆ”
ซอนเยและอนยูกำลังเถียงกันเพลินๆ อยู่ๆก็มีสาวน้อยหน้ากลมน่ารัก แก้มป่องเหมือนซาลาเปาน้อยๆ แต่เนื้อตัวเปียกโชกไปด้วยน้ำ วิ่งตื๋อเข้ามาที่กลางวง ร้องไห้โฮๆเข้ามากอดซอนเยราวกับว่าตัวเองเป็นเด็กเล็กๆ โดยที่ทางด้านหลังของเธอก็มีชายหนุ่มหล่อหน้าตาละม้ายคล้ายเป็ด ผมสีทองย้อมไล่เป็นสามระดับ เดินล้วงกระเป๋าหัวเราะหึหึตามมาด้วย
“อ้าว ฮยอนอิน เป็นอะไรมาเนี่ย ร้องไห้ทำไม” ซอนเยเอ่ยถาม คิมฮยอนอิน สาวน้อยแก้มป่องคนดังกล่าวที่กอดเธอแน่นพลางร้องไห้โฮอย่างไม่แคร์ต่อสายตาใคร คิมฮยอนอินคนนี้ก็คือ พนักงานเสิร์ฟของร้าน Carino Bakery นั่นเอง แต่น่าแปลก ทั้งๆที่เป็นพนักงานเสิร์ฟ แต่กลับเป็นคนซุ่มซ่ามเฟอะฟะ หยิบจับอะไรเป็นเละเทะไปหมด ที่สำคัญ ข้าวของในร้าน Carino Bakery ที่พินาศส่วนมากก็เป็นฝีมือของเธอคนนี้นี่แหละ
“แล้วทำไมตัวเปียกแบบนั้น” เฮยองผละจากการเถียงกับคีย์ มาสนใจฮยอนอินที่ยืนอยู่กลางวงแทน
“ก็ไอ้บ้าจงฮยอนนี่น่ะสิคะ ... ฮยอนอินยืนรอรถอยู่ดีๆ มันก็ซิ่งเวสป้าของมันเฉี่ยวน้ำมาโดนฮยอนอินเต็มๆเลย โฮๆ นี่ชุดใหม่ของฮยอนอินที่พี่ดงอุนซื้อให้เมื่อวันเกิดด้วยอ่ะ” ฮยอนอินฟ้องซอนเยและเฮยองอย่างเคียดแค้น ส่วนดงอุนที่เธอพูดถึงนี่ก็คือ ซนดงอุน รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยที่เธอปลื้มอยู่นั่นเอง
“อะไรของเธอยัยฮยอนอินมานดู มันเป็นเรื่องบังเอิญต่างหาก ฉันจงใจแกล้งเธอซะที่ไหนกันล่ะ อย่ามาร้องไห้ตีโพยตีพายเหมือนเด็กๆไปหน่อยเลย เด็กๆทำมันก็น่ารักอยู่หรอก แต่เธอนี่แก่จนจะลงโลงได้อยู่แล้วมั้งเนี่ย ทำแล้วมันน่าสมเพชจะตายไป ไม่อายตัวเองก็เห็นแก่หน้าตาพ่อแม่บ้างก็ดี” คิมจงฮยอน ชายหนุ่มหัวทองคนดังกล่าว เดินเข้ามาสมทบที่วงนั้นอีกคน เขาคนนี้เป็นเจ้าของตำแหน่ง บาลิสต้า ของร้าน SHINee Bakery ที่ขึ้นชื่อว่าปากหมาและกวนตีนไม่มีใครเกิน
“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยนะไอ้หน้าเป็ด! ดูก็รู้ว่านายน่ะจงใจแกล้งฉัน ฉันกินข้าวนะไม่ได้กินหญ้า ไม่ต้องมาตอแหลเลย! แล้วอีกอย่าง ... ฉันชื่อคิมฮยอนอิน ไม่ใช่ฮยอนอินมานดูโว้ย! ไอ้หน้าเป็ด!” ฮยอนอินรีบเช็ดน้ำตาของตัวเองพลางหันไปยืนเถียงกับคิมจงฮยอน
“ฉันก็ไม่ได้ชือ่ไอ้หน้าเป็ด ฉันชื่อคิมจงฮยอน ยัยฮยอนอินมานดู”
“ก็บอกว่าไม่ได้ชื่อฮยอนอินมานดูไงไอ้บ้า”
“เฮ้ย! อนยู ทำอะไรสักอย่างเหอะว่ะ มันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะเนี่ย ข้างบนก็ทะเลาะกัน ข้างล่างก็ด่ากัน นี่มันจะทะเลาะกันเกือบทั้งร้านแล้วนะเว้ย! ฉันอายคนว่ะ” คีย์ที่เมื่อกี๊ยังยืนด่ากับเฮยอง หันมากระซิบอนยูให้ทำอะไรสักอย่าง เมื่อจงฮยอนและฮยอนอินมายืนด่ากันหน้าร้านอีกคู่ แล้วตอนนี้ คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็เริ่มหันมามองที่พวกเขากันด้วยสายตาแปลกๆบ้างแล้ว ลูกค้าในร้านก็ชะเง้อคอออกมามองอย่างสนอกสนใจ
“เออ ได้! เดี๋ยวฉันจะจัดการให้” อนยูหันไปรับปากกับคีย์ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาซอนเยอีกรอบ
“นี่ยัยเตี้ย! เห็นมั้ยว่าลูกน้องของร้านเรากำลังทะเลาะกัน ไม่คิดจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์มากไปกว่าการยืนโชว์ฟันเหยิน ทำตาปริบๆมองลูกน้องทะเลาะกันหรือยังไงหา! เป็นเจ้าของร้านประสาอะไรเนี่ย ไม่สวยแล้วยังซื่อบื้ออีก!” แทนที่อนยูจะเข้าไปช่วยห้ามจงฮยอนที่ยืนด่ากับฮยอนอิน เขากลับเดินเข้าไปต่อว่าซอนเยซะอย่างงั้น คีย์ถึงกับเอามือตบกบาลตัวเองด้วยความเอือมระอาทันที ...
“แล้วทำไมต้องมาด่าฉันด้วยล่ะห๊ะ! ฉันอุตส่าห์เงียบไม่เถียงกับนายแล้วนะไอ้หน้าเต้าหู้ยี้! นายว่าฉันไม่สวยแล้วตัวนายเองหล่อนักหรือไงพ่อซุปเปอร์สตาร์! เตี้ยก็เตี้ย ว่าคนอื่นเขาเตี้ยตัวเองน่ะสูงตายเลยนะ! ตาก็หยี ดูยังไง หมาที่บ้านฉันก็ยังดูดีกว่านายเป็นร้อยเท่า! คนอะไร ไม่หล่อแล้วยังปากเสียอีก!”
“พูดงี้ก็สวยสิ มาด่ากันสักตั้งไหมล่ะ!”
“เอาสิ! ใครกลัวล่ะ ไอ้ @#$%&!#@#@%#$” (หยาบคายจนเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้)
“เป็นเพราะนายแท้ๆเลยไอ้เกย์! ไม่รู้จักห้ามลูกพี่ตัวเอง เป็นไง เลยด่ากันอีกรอบเลย” เฮยองที่ยืนเงียบอยู่นานหันมาเล่นงานคีย์บ้าง
“มาโทษฉันอีกแล้วนะยัยทอมคลั่ง! ฉันจะไปรู้มั้ยล่ะว่าเขาจะด่ากันอีกรอบน่ะ เมื่อกี๊ฉันก็ช่วยพูดไปแล้วไม่เห็นหรือไง แล้วอีกอย่าง จะให้ฉันบอกอีกสักกี่รอบฮะว่า ฉัน-ไม่-ใช่-เกย์!!”
“แต่นายเป็นตุ๊ด!”
“ไม่ใช่ทั้งตุ๊ดทั้งเกย์อะไรทั้งนั้นน่ะ!!”
“ทะเลาะกันแต่เช้าเลยแฮะ” ชายหนุ่มหน้าตาน่ารัก ผมสีบลอนด์ทองยาวระดับต้นคอที่พึ่งจะเดินมาถึงหน้าร้าน SHINee Bakery เอ่ยขึ้นกับตัวเองเมื่อเห็นเหตุการณ์ความไม่สงบที่หน้าร้าน แต่เขาก็ชินซะแล้วล่ะ เพราะเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว เขาคนนี้ก็คือ ลีแทมิน พนักงานเสิร์ฟหนุ่มน้อยน่ารักของร้าน SHINee Bakery ผู้เป็นขวัญใจนูนาทั้งเกาหลีใต้นั่นเอง
แทมินกำลังจะเดินเข้าร้าน SHINee Bakery เพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเอง พลันสายตาก็เหลือบไปเห็น หญิงสาวผมยาวดัดเป็นลอนถึงกลางหลัง ที่อยู่ในชุดแส็กสั้นสีดำ สวมถุงน่องสีชมพูแสบตา กำลังเดินผ่านเขาไปเพื่อที่จะเข้าร้าน Carino Bakery ข้างๆพอดี ... แทมินยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก ก่อนจะส่งเสียงแซวหญิงสาวคนดังกล่าวอย่างนึกสนุก
“ว่าไงยัยอุนจิ เอ๊ย! อุนเซ เมื่อวานสอบเลข สอบตกอีกแล้วใช่มั้ย?”
“.......” ฮวางอุนเซ หญิงสาวคนดังกล่าวถึงกับหันขวับมามองแทมินด้วยสายตาขุ่นเคืองทันที ฮวางอุนเซคนนี้เป็นน้องสาวแท้ๆของฮวางเฮยองและเป็นพนักงานเสิร์ฟของร้าน Carino bakery ด้วย นอกจากนี้ เธอยังเป็นเพื่อนร่วมคลาสของแทมิน และเธอก็เป็นคนที่โง่คำนวณมาก ถึงขนาดที่ตกวิชาคณิตศาสตร์มาสามปีซ้อน ด้วยความที่เรียนคลาสเดียวกัน แทมินเลยล่วงรู้ผลการเรียนของเธอทั้งหมดทุกภาคการศึกษา และเขาก็เก็บเอามาล้อเธออย่างสนุกปากทุกครั้งที่ได้เจอกัน
“แล้วนายล่ะ? ที่ตกเลขเมื่อปีที่แล้ว ไปแก้หรือยัง?” หน้าที่บานเป็นจานดาวเทียมของแทมินต้องหุบลงเหลือสองนิ้ว เมื่ออุนเซตอบกลับมาเช่นนั้นพร้อมกับยิ้มเยาะเย้ยเขา ความจริงก็คือ แทมินเองก็โง่คำนวณพอๆกับอุนเซ ตกพร้อมกันและไปสอบซ่อมพร้อมกันตลอด แต่ก็ยังมีหน้ามาล้อเลียนเขาอีก
“แล้วเธอล่ะ ที่ตกเลขเมื่อสองปีที่แล้ว แก้ผ่านหรือยัง?”
“น่าจะถามตัวเองมากกว่านะ ที่ตกเลขเมื่อสามปีที่แล้วน่ะ แก้ผ่านหรือยัง? โง่!”
“ไม่จริง เธอนั่นแหละที่โง่กว่า”
“นายต่างหากที่โง่กว่าฉัน ไอ้เห็ดสมองกลวง!”
“เธอนั่นแหละโง่กว่า ยัยอุนจิ!”
แล้วทั้งสิบคนก็ยืนเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ที่หน้าร้านเบเกอรี่นั่นเอง ... โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหรือจะจบง่ายๆด้วย ... และสำหรับคนที่ผ่านไปผ่านมาในละแวกนั้นเป็นประจำ ต่างก็คงจะรู้สึกชินซะแล้วกับเหตุการณ์ปะทะกันทางฝีปากของร้านเบเกอรี่ทั้งสองร้านดังกล่าว ...
Carino Bakery เป็นร้านเบเกอรี่น่ารักๆ สไตล์เด็กผู้หญิงที่ดันมาเปิดร้านอยู่ติดกับร้าน SHINee Bakery ด้วยรุปลักษณ์น่ารักๆตกแต่งโทรสีชมพูของร้าน และรสชาติอร่อยหอมหวานของเบเกอรี่และกาแฟ เลยทำให้มีลูกค้าเข้าร้านเยอะพอๆกับร้าน SHINee Bakery และที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ชายนั้น ก็เพราะว่า เหล่าสมาชิกในร้านตั้งแต่เจ้าของ้านยันพยักงานเสิร์ฟล้วนแต่เป็นสาวๆหน้าตาน่ารักๆทั้งสิ้น ก็เหมือนกับร้าน SHINee Bakery ที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ก็เพราะสมาชิกในร้านทุกคนล้วนแต่เป็นผู้ชายหน้าตาดีๆทั้งนั้น ...
จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ทั้งสองร้านนี้จะเขม่นกันเพราะเรื่องแย่งลูกค้า จนกลายมาเป็นความหมั่นไส้ส่วนตัวที่พร้อมจะหาเรื่องกันทุกครั้งที่ได้เจอหน้ากัน แต่ความจริงแล้ว ... ทั้งสองร้านนี้ มีความผูกพันที่ลึกซึ้งซะยิ่งกว่าการเป็นเพื่อนข้างร้านกัน (แน่ใจนะว่าเพื่อน? - - ไรท์เตอร์) เพราะอันที่จริงแล้ว ร้านทั้งสองร้านนี้เป็นมรดกตกทอดมาจากรุ่นคุณปู่ของทั้งซอนเยและอนยู คุณปู่ของอนยูและคุณปู่ของซอนเยนั้น เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ยังเด็กๆ และมีความฝันว่าอยากจะเปิดร้านเบเกอรี่ร่วมกัน หากแต่ติดที่สัญญาเช่าที่ ก็เลยต้องเปิดร้านแยกกัน แต่เลือกทำร้านอยู่ติดกันอย่างที่เห็น ....
แต่เมื่อมาถึงรุ่นหลาน ... ซอนเยและอนยูกลับเกลียดขี้หน้ากันซะยิ่งกว่าอะไรดี และจากความที่เกลียดชังกันเข้าไส้ เลยพาลทำให้เหล่าสมาชิกในร้านไม่ชอบหน้ากันไปด้วยโดยอัตโนมัติ และต่างคิดกันเอาไว้ว่า จะไม่มีวันญาติดีกันเด็ดขาด! ซึ่งผลก็ออกมาเป็นอย่างที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นตอนไหน วันไหน เวลาไหน พวกเขาทั้งสิบคนก็สามารถสรรหาเรื่องราวมาด่ากันได้ทุกเมื่อ จนเป็นที่ชินหูชินตาของคนแถวนี้ไปซะแล้ว ...
แต่ ... พวกเขาทั้งสิบคน คงไม่มีทางรู้เลยว่า ... นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ความเปลี่ยนแปลงอันใหญ่หลวงกำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเขาแล้ว ... จะเกิดอะไรขึ้นกันนะ ถ้าหากว่า ร้านเบเกอรี่ที่ขึ้นชื่อว่า สุดยอด หากแต่ไม่ถูกกันทั้งสองร้านนี้ จะต้องถูกยุบรวมเป็นร้านเดียวกันเพราะสัญญาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณปู่ .... ความโกลาหลครั้งยิ่งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!!
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
♥ TORTUK TALK.
อินโทรฉบับรีไรท์ของพล็อตใหม่มาแล้วจ้า ;) รู้มั้ยว่าใช้เวลาปั่นอยู่คืนนึงเต็มๆ!
เรื่องของเรื่องคือเมื่อคืนเกิดคึกไง พล็อตมันไหลเข้าหัว เลยแต่งๆๆยาวจนจบตอนเลย ;)
ยังไงก็ฝากรีดเดอร์ติดตามด้วยนะจ๊ะ แอดแฟบแล้วห้ามลบนะเออ โอเคมั้ย? ไม่งั้นเค้า งอน ด้วยเหอะ!
รักกันชอบกันก็กดโหวต พิมเม้นท์ แอดแฟบกันนะจ๊ะ <3.
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Bl ing
ความคิดเห็น