ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องตรวจ คุณตำรวจต้องรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : ...5... ฝากขังไว้ในหัวใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.71K
      28
      8 เม.ย. 55

    5

    ฝากขังไว้ในหัวใจ

     

     

     

                     ที่ผ่านมา... ผู้ชายอย่างองค์อาตม์ไม่เคยขาดผู้หญิง เขาออกเดทตั้งแต่เรียนมัธยม สาวสวยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นฝรั่ง เอเซีย หรือไทย เขาก็เคยผ่านมาหมดแล้ว...

                    งั้นๆ แหละ!

                    องค์อาตม์เป็นพวกยอมหักไม่ยอมงอ... ยอมเลิกไม่ยอมง้อ... สาวๆ ทั้งหลายแรกๆ ก็คลั่งไคล้เขาแทบตาย แต่สุดท้ายก็ทนคนตรงยิ่งกว่าตรงไม่ไหว เป็นอันต้องลาจากไป ซึ่งเขาก็ไม่เดือดร้อน รู้สึกโล่งอกด้วยซ้ำ

                    ด้วยอาชีพที่ต้องเสี่ยงตาย บางครั้งถึงกับมีชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ทำให้เขารู้สึกไม่เหมาะกับการมีครอบครัว เขาจึงพอใจเพียงความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราวหรือ... ชั่วคืน... หยุดอยู่แค่ความปรารถนาที่ต้องกันของคนสองคน ...ไม่หวังรักแท้ ...ไม่คิดหาแม่ให้ลูก

                    สมัยก่อนตอนเป็น FBI หรือกลับเมืองไทยเป็นทายาทผบ.ตร. หนุ่มเนื้อหอมอย่างเขามีสาวๆ ห้อมล้อมมากมาย แต่ตอนนี้เขาเป็นเพียงสารวัตรจนๆ คนหนึ่ง รถสปอร์ตไม่มีขับแล้ว เดินจากแฟลตตำรวจมาทำงาน ใช้รถราชการออกตรวจจุดเกิดเหตุในท้องที่ สาวน้อยใหญ่ซึ่งเคยยอมพลีกายถวายตัวให้เขาก็เริ่มตีจาก ทำให้เขาได้รู้ซึ้งถึงสัจธรรมแห่งสังคมวัตถุนิยม ผู้หญิงสมัยนี้ตัดสินคุณค่าของสมบัติมากกว่าความสามารถและความดี หาสามีดูยี่ห้อรถ

                    สุดท้ายเขาก็เกิดความเบื่อหน่าย บอกลาความสัมพันธ์อันฉาบฉวยกับสาวสวยเหล่านั้นจนหมดสิ้น หันมาทุ่มเทเวลา ทำงานรับใช้ประชาชนอย่างจริงจัง

                    ทว่า ในบางครั้ง... บางครา... บางเวลาในความเปลี่ยวเหงา หัวใจว่างเปล่าซึ่งมีอายุมากขึ้นตามวัยก็แอบหวังว่า สักวัน เขาจะได้พบกับ เธอ คนที่ใช่ หญิงสาวที่รักเขาด้วยความจริงใจ ยอมเป็นคุณนายตำรวจจนๆ พอใจกับฐานะเท่าที่เขาหาได้โดยยังดำรงไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรี

                    ที่น่าประหลาดใจ พอคิดมาถึงตรงนี้ทีไร... เงาของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งประทับอยู่ในความทรงจำส่วนไหนของเขาไม่รู้ก็ผุดพรายขึ้นมาเสมอ โดยที่เขาก็ไม่เข้าใจเหตุผลว่า ทำไมถึงต้องเป็น เธอ...พญา

                    ทั้งๆ ที่เขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับเธอ ไม่นะ... เขาคิดว่าไม่น่านะ... เธอไม่ใช่ผู้หญิงในสเป็กของเขา ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด

                    บ้าที่สุด... ต้องเป็นเพราะอาถรรพ์ ดอกไม้ของเจ้าสาวช่อนั้นแน่ๆ

                    ไม่น่าเลย เขาไม่น่าไปร่วมงานแต่งงานไอ้หมอนพ...เพื่อนสนิทสมัยประถมของเขาเลย

                    ความจริงเขากับ ไอ้หมอนพไม่น่าจะสนิทกันได้ด้วยซ้ำ เพราะนิสัยที่ต่างกันสุดขั้ว เขาเป็นคนตรง แรง และกล้ามาตั้งแต่เด็ก ในขณะที่ไอ้หมอนั่นลื่นไหลอย่างพริ้ว

                    ที่สนิทกันเพราะมันไปมีเรื่องกับแก๊งรุ่นพี่ตัวโตกว่า สู้ไม่ได้ไม่ว่า กลับมาหลอกเขาไปพะบู๊... เขาเป็นเด็กมีคุณธรรมน้ำมิตร เห็นสหายเดือดร้อนยื่นมือเข้าช่วยด้วยความกล้าหาญ แต่ไอ้หมอนั่นมันมาแนวถ้ากูสู้ไม่ได้ก็ไปหาเพื่อนบู๊เก่งกว่ามาสู้ พอเห็นท่าไม่ดีก็ทำหน้าแตกตื่นร้องตะโกน... ครูมา!’ วิ่งหนีกันจ้าละหวั่น ทั้งๆ ที่ไม่มีแม้แต่เงาภารโรง!

                    พวกเขาสร้างวีรกรรม จนในที่สุดก็สนิทกลายเป็นคู่หูกันแบบคู่ตรงข้าม... ขาวกับดำ ตรงกับเลื้อย บู๊กับบุ๋น แข็งกับพริ้ว เข้ากันได้อย่างเหลือเชื่อ

                    ทุกครั้งที่เขาซ่าจนได้แผล ก็ได้ไอ้หมอนี่ช่วยทำแผลให้เสมอ มันอยากเป็นหมอมาตั้งแต่เด็ก เห็นเลือดเป็นดีใจรีบโดดเข้าใส่ ส่วนเขาก็โลดโผนหาเรื่องเลือดกระฉูดได้ตลอด ทั้งซ้อมหมัดมวย รำกระบี่กระบอง ผลิตอาวุธสารพัด กลายเป็นคนไข้ประจำซึ่งก็คือตัวทดลองของมันไปโดยปริยาย ด้วยความที่หมอฝีมือดีเกินไปหน่อย จึงทิ้งรอยแผลเป็นลายเต็มตัว มันยังมีหน้ามาบอกว่า... อุตส่าห์ทำให้มึงดูแมนขึ้น

                    แต่พอเขาจากไปอยู่แดนไกล ทั้งสองก็ห่างเหินกันไปหลายปี กลับมาสนิทกันอีกครั้ง ก็เมื่อมันเติบโตขึ้นกลายเป็นน.พ.นพ จริงๆ ไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ ในขณะที่เขาทำงานเป็น FBI แล้ว

                    มันนิสัยไม่เปลี่ยน เด็กๆ เจ้าเล่ห์แค่ไหน โตเต็มวัยเหลี่ยมจัดยิ่งกว่า เขาไม่รู้ว่ามันซนซ่าอีท่าไหน ผ่านบอร์ดผ่าหัวใจ กลับเมืองไทยได้ไม่เท่าไร ก็ดันไวไฟทำสาวไฮโซแสนสวยท้องป่อง ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานสายฟ้าแลบ เขาเป็นเพื่อนมันยังไม่ทันได้รู้เรื่องอะไรเลย มันก็ร่อนการ์ดเชิญมา ประจวบเหมาะกับตอนนั้น เขาเพิ่งลาออกจาก FBI กลับบ้านมารับราชการพอดี

                    และงานวิวาห์คืนนั้นนั่นเองที่เขาได้พบกับเธอ

                    พญามารตัวน้อยที่เขาเคยเห็นเมื่อสมัยยังเป็นเด็กหญิงเล็กๆ เติบโตขึ้นเป็นสาวขนาดนี้แล้วหรือนี่?

                    หากเธอกลับไม่เหมือนหญิงสาวคนไหนเลยที่เขาเคยพบเจอ

                    เธอคือหนึ่งเดียวในโลก...

                    โชคดีที่โลกใบนี้มีเธอคนเดียว... แต่ใครมีเธอคนเดียวคงโชคร้ายสิ้นดี!

                    และแล้ววันนี้ เธอก็โคจรเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้งโดยบังเอิญ ไม่ใช่แค่ เงาของหญิงสาวที่ประทับอยู่ในใจของเขา คอยผุดพรายขึ้นมาหลอกหลอนตอนดวงตกๆ แต่เธอมาแบบตัวเป็นๆ จับต้องได้... ทั้งเป็นฝ่ายถูกเขาจับและจับเขา ...แบบนี้เรียกว่า ดวงจู๋ใช่ไหม หรือต้องเรียกว่า ดวงองคชาติ?!

                                   

                ฮาโหล... ไอ้หมอ กูขออนุญาตจับน้องสาวมึงหน่อยนะ

                    อย่างไรก็เป็นน้องสาวเพื่อนรัก ลูกเขามีพ่อมีแม่ ไม่ใช่ไร้หัวนอนปลายเท้ามาจากไหน เขาจะทำอะไรก็คงต้องโทรแจ้งให้ทางบ้านเธอรับทราบไว้ก่อน

                    มันไม่ไหวจริงๆ ว่ะ” …องค์อาตม์กำลังจะฟ้องวีรกรรมของน้องสาวให้คนเป็นพี่ชายฟัง แต่เพื่อนเขากลับชิงขัดขึ้นด้วยเสียงกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

                    โห... อยากจับยัยพญามารมากถึงขนาด ไม่ไหวจริงๆ เลยรึ ฮ่าๆๆ... งั้นก็จับๆ ไปเหอะ ถ้าเจ้าตัวยินยอมนะ จะโทรมาขอกูทำไม?    

                    องค์อาตม์สงสัย... ไม่รู้ว่าตัวเองทนคบกับไอ้หมอนี่ได้อย่างไรตั้งหลายปี

                    มึงจับเสร็จแล้วต้องไปขอกับพ่อแม่มันโน่น รับรองได้บ้านแตก!”

                    จริงหรือ พ่อแม่หวงลูกสาวขนาดนั้นเชียว?...มีอะไรต้องหวงนักหนา น่าจะต้องเป็นห่วงกลัวหลุดออกไปทำร้ายใครเขาเสียล่ะมากกว่า

                    ดีใจจุดพลุฉลองจนบ้านแตกน่ะ ฮ่าๆๆ ผู้ชายโชคร้ายปรากฎตัว มาเอายัยตัวแสบออกจากบ้านไปได้ซะที เตือนไว้ก่อน สินค้าชิ้นนี้ตีตรา ให้ฟรี แต่ไม่รับคืนไม่ว่ากรณีใดๆ’ !”

                    นั่นไง! ว่าแล้วเชียว

                    ไปไกลๆ หน่อย กูคงไม่ซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนั้น แค่เป็นเพื่อนกับพี่ชายก็แย่แล้ว ยังจะให้ดองเป็นน้องเขยอีกหรือ

                    พูดออกไปแล้วสารวัตรหนุ่มก็แอบหวั่นใจ สังหรณ์เร้นลึกกู่ก้องร้องตะโกนบอกเขาว่า ระวังเถอะ!’

                    ไม่... ไม่... เขาคงไม่ได้ก่อกรรมหนักหนาสาหัสอะไรถึงขนาดนั้น หากติดหนี้สินคนตระกูลนี้มาแต่ชาติปางไหน เขาก็ยินดีชดใช้ แต่ขออย่าได้ต้องเจอทั้งพี่ชายและน้องสาว... ซึ่งน่ากลัวว่า สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายกว่าเก่า เพราะ ไอ้หมอนพอย่างมากก็แค่เพื่อนคู่หู แต่เธอ... ไม่รู้จะมาเป็นคู่อะไร แค่นี้ ก็ทำเขารู้สึกคันยุบยับไปหมดทั้งหัวใจ ไม่รู้จะเกาตรงไหนดี

                    ถ้ามึงจะจับยัยพญามารร้ายล่ะก็ ต้องระวังๆ หน่อยนะ เดี๋ยวกลับโดนมันจับกลับ

                    คนเป็นพี่ชายพูดได้ถูกต้องราวกับตาเห็น!

                    แน่ะ... ทำไมมึงอึ้งไปวะ เงียบแบบนี้ หรือว่าจะโดนมันจับไปแล้ว?ไอ้หมอดักคออย่างรู้ทัน

                    คนอะไรฉลาดไม่น่าคบที่สุด!

     

                    กว่าจะสอบปากคำผู้ต้องสงสัยและพยานทั้งหมดครบทุกคน ก็เป็นเวลาค่ำ ท้องฟ้าภายนอกเปลี่ยนเป็นสีดำแล้ว หากแสงไฟภายในสถานีตำรวจกลับสว่างจ้า แม้ว่าเลยเวลาเปลี่ยนเวรของเจ้าหน้าที่ไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่สารวัตรองค์อาตม์ก็ยังไม่ยอมไปไหน เขาไล่นายตำรวจในทีมกลับไปพักผ่อน เหลือแต่ตัวเขากับจ่ายิ้มซึ่งไล่เท่าไรก็ไม่ยอมไป เพราะอยากเกาะติดสถานการณ์ เพลิดเพลินกับหนังรักสามมิติของเจ้านายหนุ่ม มือปราบพญามารสาวสุดเร้าใจ

                    ผู้ต้องสงสัยและพยานที่ให้ปากคำสำหรับทำคดีเสร็จแล้ว เขาก็ปล่อยให้ทยอยกันกลับบ้านจนหมด เหลือแต่ผู้ต้องหา... นางสาวพญา เพียงคนเดียว ที่ต้องรอประกันตัว

                    ทว่า... รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีใครมา ซึ่งเจ้าตัวดูจะไม่เดือดร้อน นั่งหันซ้ายหันขวาดูการทำงานของคุณตำรวจด้วยความสนใจ

                    นี่... ท่านสารวัตรองค์ฯ ถ้าฉันจะขอมาถ่ายทำฉากโรงพักที่นี่ได้ไหมคะ ฉันจะได้ประหยัดงบทำฉากกับค่าตัวตำรวจตัวประกอบ ส่วนคุณตำรวจทั้งหลายก็จะได้ออกโรง เดี๋ยวฉันทำมาม่ามาเลี้ยงค่ะ

                    เธอช่างกล้าลงทุนจริงๆ

                    ผมขอจองบทเด่นนะขอรับ จ่ายิ้มอาสา แต่ท่านสารวัตรแทบจะเอาด้ามปืนทุบตัว

                    หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว เมื่อไรจะมีใครมาประกันตัวเธอเสียทีเขาถามตรงประเด็น

                    ผู้ต้องหาสาวส่ายหน้าเป็นคำตอบ

                    ไม่มีค่ะ

                    หมายความว่าอย่างไร... ไม่มี?

                    ก็ไม่มีใครยอมมาประกันตัวฉันสักคนผู้ต้องหาบอกด้วยสีหน้าจ๋อยๆ น้อย

                    อ้าว... แล้วพ่อแม่เธอล่ะ?” เขาถามด้วยความแปลกใจ อุตส่าห์โทรไปบอกพี่ชาย ซึ่งตามหลักแล้ว ก็น่าจะรายงานให้พ่อแม่ทราบ ลูกสาวโดนตำรวจจับ เป็นใครใครก็ต้องร้อนใจ วิ่งโร่มาช่วยเหลือแน่ๆ แต่...

                    แม่ฉันบอกว่า สมน้ำหน้า ส่วนพ่อก็ร้องว่า เย้!”

                    เวรกรรม!

                    องค์อาตม์ไม่รู้จะทำอะไรดีไปกว่าโทรหาเพื่อนรักอีกครั้ง คราวนี้ ไอ้หมอนพปล่อยให้เขารอสายนานมาก ต้องโทรซ้ำหลายครั้ง กว่ามันจะยอมรับสาย

                    เฮ่ย... มาประกันตัวยัยพญามารร้ายกลับบ้านไปได้แล้ว

                    อะไรอีกเล่า ฉันกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม!” หมอหนุ่มตอบกลับเสียงกระเส่า

                    นี่... น้องสาวจะเข้าตารางอยู่แล้ว มึงยังมีอารมณ์อีกหรือ?คนเป็นตำรวจเครียด

                    เอ่อ... ฉันหมายถึงกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเย็บคนไข้อยู่คนเป็นหมอแก้ตัว แต่เพื่อนคู่หูเก่ารู้ทัน

                    คงไม่ใช่คนไข้ที่ไหนหรอก เคสฉีดเชื้อคนไข้พิเศษหนึ่งเดียวในดวงใจล่ะสิ ไอ้หมอนี่นิ หื่นแต่หัวค่ำเลยโว้ย

                    มึงยังไม่เข้าใจหรอก หัวอกคนเป็นพ่อ จะหาความสุขที ต้องรอสบโอกาส มีจังหวะเมื่อไรต้องรีบฉวยไว้ กว่าไอ้ตัวเล็กจะหลับได้ ลุ้นใจแทบขาด เดี๋ยวๆ ก็ตื่นมาแย่งนมดูดอีกแระหมอหนุ่มบ่นแบบกลัวเพื่อนรักนึกภาพไม่ออก

                    ฮ่าๆ... ช่วยไม่ได้ อยากพลาดเอง

                    ไม่ได้พลาดโว้ย ตั้งใจปั๊มสุดๆ เลยคนนี้หมอนพเถียงคอเป็นเอ็น

                    งั้นก็อย่าบ่น ใส่เสื้อผ้าแล้วรีบไสหัวมารับน้องสาวกลับบ้านไปได้แล้ว

                    ไม่ล่ะ กูอุตส่าห์กล่อมเมียจนยอมส่งเจ้านายใหญ่ไปฝากย่าเลี้ยงคืนหนึ่ง... ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล ใครจะลุกจากเตียงให้โง่!”

                    อ้าว เฮ่ย...! แล้วยัยพญาล่ะ?

                    ฝากขังไว้ก่อนละกันหมอหนุ่มบอกเพื่อนง่ายๆ

                    ได้ไงวะ ห้องขังคืนนี้เต็มไปแต่ไอ้ขี้คุกสารวัตรหนุ่มโวยใส่พี่ชายใจร้าย แต่อีกฝ่ายกลับตอบกลั้วหัวเราะกลับมา...

                    ห้องขังเต็มแล้วไง กูรู้ว่าทั้งสี่ห้องหัวใจของท่านสารวัตรยังว่าง แถมยังเปิดกว้างยินดีรับฝากขังผู้ต้องหาสาวสวยสุดแสนจะอ่อนหวานคนนี้อยู่แล้ว

                    ไอ้หมอนี่นิ! ควรเลิกคบเสียดีไหม?!

                    ว่าแต่ว่า... เขาฟังอะไรผิดไปหรือเปล่า สาวสวยสุดแสนจะอ่อนหวาน? พญามารตัวแม่มากกว่า โฆษณาขายน้องเกินจริงหลอกลวงกันแบบนี้ คอยดูเถอะ เขาจะฟ้องสคบ.!

     

                เอาไงดีขอรับท่านสารวัตร จะจับท่านผู้กำกับใส่ตารางจริงหรือขอรับ?

                    องค์อาตม์เห็นห้องขังทั้งสามห้องมีขี้คุกอยู่เต็ม สายตาทุกคู่จ้องมองผู้ต้องหาคนพิเศษของท่านสารวัตรตาเป็นมัน บ้างก็ใจกล้าขนาดตัวอยู่ในกรงขัง ปากยังยื่นออกมาผิว วี๊ดวิ๊วส่งเสียงแซวเรียกร้องความสนใจ มันทำให้เขาเกิดอารมณ์คันไม้คันมืออยากกระทืบนักโทษแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หากเขาเพียงส่งสายตาคมกริบเหล่มองปราดเดียวเท่านั้น พวกมันก็รีบก้มหน้างุดหลบกันหมด

                    ไม่!”

                    ไม่ได้เด็ดขาด แม้อธิบายเหตุผลไม่ได้ แต่เขาไม่อาจยอมให้เธอเข้าไปโดนขี้คุกลวนลาม...

                    เอ๊ะ! หรืออย่างนางสาวพญา แทนที่เขาจะหวง น่าจะต้องเป็นห่วงกลัวเธอไปลวนลามขี้คุกมากกว่า แต่ก็ไม่ได้ เขารู้สึกไม่ยินยอมอยู่ดี!

                    ในเมื่อไม่มีใครรับประกัน ท่านสารวัตรก็พาท่านผู้กำกับไปฝากขังไว้บนห้องสิขอรับจ่ายิ้มบุ้ยใบ้ไปทางแฟลตตำรวจซึ่งเขาอาศัยอยู่ไม่ไกลจากสถานี เท่านั้นไม่พอ จ่ายังแนะนำเจ้านายสุดหล่อด้วยความหวังดี

                    จับใส่กุญแจมือสองข้างล๊อคไว้กับเตียงแล้วจัดการ วิสามัญฆาตกาม ด้วยการ ยิงเป้าซะก็หมดเรื่อง!”

                    ผู้ต้องหาสาวได้ยินแล้วอยากจะบ้า... รู้สึกสยองแกมสยิวกับคำว่า วิสามัญฆาตกาม

                    เท่าที่ทราบมา วิสามัญแปลว่า ไม่ธรรมดา... ฆาตกรรมแปลว่า ฆ่าให้ตาย... แล้ว วิสามัญฆาตกาม จะไม่แปลว่า ฆ่าด้วยกามแบบไม่ธรรมดาจนตายไปเลยหรือ?ฮือๆ แถมยังระบุด้วยว่าใช้วิธี... ยิงเป้า !!!

                    หวังหมดใจว่าเขาจะไม่บ้าจี้ทำตามคำแนะนำของคุณจ่านะ

                    หากเมื่อสายตาคมกริมคู่นั้นหันมามองดูเธอ พญาก็ชักไม่แน่ใจในชะตากามของตัวเองเสียแล้ว และรู้สึกว่า นักโทษหมดคุกนั่นก็ยังไม่น่าพรั่นพรึงเท่ากับท่านสารวัตรคนเดียว!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×