ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องตรวจ คุณตำรวจต้องรัก

    ลำดับตอนที่ #8 : ...8... ทรมานหัวใจ

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 55


    8
    ทรมานหัวใจ
     
     
     
                    สารวัตรองค์อาตม์จอดรถแอบไว้ใต้ต้นไม้ใกล้ประตูรั้วบานใหญ่ เขาไล่ตามหลังรถพยาบาลของพญามารสาวมา ทันเห็นมันเลี้ยวหายเข้าไปท่ามกลางแมกไม้ในบริเวณบ้านเธออยู่ไวๆ หากไม่ไวไปกว่าประตูอัตโนมัติจะปิดใส่หน้า
                    ถ้าเป็นสมัยก่อนตอนเขาทำงานให้ FBI คงขับพุ่งชนประตูไปแล้ว แต่ที่นี่ประเทศไทย งบประมาณมีน้อย ต้องใช้สอยอย่างประหยัด เขาไม่อยากทำลายของหลวง จึงตัดสินใจลงทุนลงแรงปีนข้ามรั้วบุกรังพญามาร
                    หากวินาทีที่เขาทิ้งตัวส่งน้ำหนักจากเท้าลงสู่ผืนดิน สัญชาตญาณบางอย่างเตือนเขาให้คิด... หรือนี่เป็นกับดักของพญามารสาวจอมเจ้าเล่ห์?
                    สารวัตรหนุ่มรีบปัดความระแวงนั้นทิ้งไปทันที... ต่อให้ใช่ เขาก็ยินดีเดินสู่เข้ากับดัก เพื่อจับเธอมาลงโทษให้จงได้ ถึงต้องตายในหน้าที่ก็ยอม!
     
                แย่แล้ว แย่แล้ว อีตาท่านองค์ฯ บ้า ทำไมมาเร็วอย่างนี้
                    ความจริงแล้ว นี่เป็นแผนของเธอ ก่อเรื่องให้เขาจับ แล้วล่อให้เขามาติดกับ เธอเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่งานนี้ ไม่มีผู้ช่วย ทีมงานส่ายหน้าเมื่อได้ฟังแผนการ ‘ล่าพระเอก’ ของเธอ ดังนั้นของที่เตรียมไว้ยังจัดไม่ทันพร้อมอยู่ในที่ทาง อย่างเช่นยาสลบที่จิ๊กมาจากห้องยาโรงพยาบาลยังอยู่ในขวด ไม่ได้เหยาะใส่ผ้า ตาข่ายยังอยู่บนม้านั่ง ไม่ได้แขวนกับรอกบนต้นไม้ เขาก็ดันบุกเข้ามาก่อน
                    ตอนแรก ตามแผนเดิมคือ ทิ้งร่องรอยให้เขาไล่ตามมาจนถึงหลุมพลางที่เธอขุดไว้ เมื่อเขาตกลงไป เธอก็จะดึงรอกขึ้นให้ตาข่ายห่อร่างสูงใหญ่ จากนั้นก็จะใช้เชือกมัดเขาให้แน่นอีกที ก่อนจะโบ๊ะด้วยยาสลบปิดท้าย แล้วหามเขาเข้าบ้าน... ทีนี้ก็ทรมานหาความสำราญกับร่างไร้สติของพระเอกตำรวจของเธออย่างไรก็ได้ตามอำเภอใจ... คริคริ
                    ไม่อยากบอกเลยว่า เธอตั้งกล้องเตรียมไว้ด้วย ฉากสำคัญขนาดนี้ จะพลาดได้ไง เพราะเธอจะใช้มันแบล็คเมลเขา อย่างไรก็ต้องยอมรับบทพระเอกของเธอแน่นอน!
                    แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ เขามาก่อนเวลา ผิดแผนไปหน่อย หนำซ้ำยังไร้มารยาท ไม่ยอมรับคำเชิญลงไปแอ้งแม้งในหลุมที่เจ้าบ้านอุตส่าห์ขุดเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ให้ตั้ง 5 หลุม แต่เขาเมินหลบเลี่ยงจนครบทุกหลุม
                    FBI เก่าเจนสนามอย่างอาร์เธอร์ มีหรือจะหลงกลกับดักเด็กเล่น แค่เห็นแวบเดียวก็มองออกแล้ว หนำซ้ำยังกลายเป็นเครื่องเตือนภัยให้เขาระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น เขาไม่แปลกใจเลย เมื่อเห็นเงาใครบางคนบนต้นไม้ พอแหงนหน้าขึ้นไป ก็มีร่างแหตาข่ายอันใหญ่คลี่คลุมลงมาครอบร่างเขา!
                    “เธอเห็นฉันเป็นสัตว์ป่าหรือปลาตัวผู้?!” เขาถามเสียงเย็นเยียบ ทั้งที่ข้างในเดือดปุๆ ไม่เคยมีใครกล้าทำกับเขาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาโดนผู้หญิงจับด้วยวิธี ‘ทอดแห’ ไม่ใช่ทอดสะพาน!
                    “คิกคิก”
                    มันช่วยไม่ได้ ก็เพราะเขาไม่ยอมลงหลุม เธอจึงแอบดักหน้าปีนขึ้นไปซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ กะจังหวะเหวี่ยงตาข่ายลงมาคลี่คลุมตัวเขาพอดี แต่ก็แค่คลุม ไม่ได้ห่อร่างอย่างที่วางแผนไว้เพราะเตรียมการไม่ทัน ซึ่งก็หมายความว่า มีโอกาสที่เขาจะหลุดรอดออกมาเมื่อไรก็ได้ ทำให้เธอไม่กล้าเข้าใกล้เขาเอาเชือกมัดแล้วโบ๊ะยาสลบ โดยเฉพาะเมื่อเห็นการสาวตาข่ายให้พ้นตัวอย่างคล่องแคล่วของเขา ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า เวลานั้นคงมาถึงในอีกไม่ช้า
                    ยามกระทันหัน พญามารร้ายไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากใช้ของเท่าที่มีอยู่ในมือ เปิดฝาขวดเทยาสลบราดรดใส่ท่านสารวัตรทันที!
                    ‘บ้าที่สุด! น้ำอะไรของเธอเนี่ย?’ เขาโวยวายในใจ
                    มีหรือ ที่เขาจะยอมให้ใครเอาอะไรราดหัวง่ายๆ แม้ยังติดอยู่ในตาข่าย แต่เขาก็สามารถสับเท้าหลบเลี่ยงได้อย่างว่องไว อีกทั้งยังกลั้นหายใจ ไม่สูดเอามันเข้าไปในร่างกาย ป้องกันตัวไว้ก่อนดีกว่า เผื่อว่าของเหลวเป็นสารพิษจำพวกยาสลบ
                    ผู้กำกับสาวเคยชื่นชมความสามารถของพระเอกตำรวจในฝันของเธอ หากบัดนี้ เธออยากให้เขาเก่งน้อยลงกว่านี้สักหน่อยก็ดี
                    “อยู่เฉยๆ ซี่... ปัดโธ่” คนบนต้นไม้ร้อนใจขึ้นมาทันที
                    เธอเล็งให้ตาย ยาหยดแล้วหยดเล่า ไม่โดนเป้าหมาย อย่างมากก็แค่เลอะเสื้อเขา จนเทหมดหยดสุดท้าย คนในตาข่ายก็ไม่ได้หมดสติไป กลับแหงนหน้าขึ้นส่งสายตาคมปราบราวกับดาบประหารพุ่งตรงมา
                    เจ็บใจ๊เจ็บใจ! พญามารสาวได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่บนต้นไม้
                    “ยังมีอะไรอีกไหม? ถ้าไม่มี ก็มอบตัวให้ฉันเสียดีๆ”
                    “มอบตัวให้คุณโง่สิ” ...เรื่องอะไรเธอจะยอมเสียตัวให้เขา
                    “หรืออยากให้ฉันขึ้นไปเอาเธอบนต้นไม้” เขาหมายถึงเอาตัวเธอลงมาจากบนนั้น ไม่ได้คิดลึกอย่างพญามารสาวซึ่งฟังแล้วอยากเขย่าต้นไม้ระบายความหื่น… อ๊าก บนต้นไม้เลยหรือคะ
                    สารวัตรหนุ่มส่ายหน้ากับท่าทางพิกลของเธอ พร้อมใช้มือสาวเอาตาข่ายออกให้พ้นตัวต่ออย่างใจเย็น
                    เธอเห็นท่าไม่ดี ก็คิดหาวิธีพลิกแพลงไปตามสถานการณ์... ไม่กี่วินาทีก่อนที่ตาข่ายเส้นสุดท้ายจะผ่านมือใหญ่คู่นั้น เธอก็ตัดสินใจปาขวดเปล่าใส่ กะเล็งให้โดนจังๆ แสกกลางหน้าผาก!
                    แม้ว่างานนี้ เธอต้องการจับเป็นโดยมิให้ส่วนใดของพระเอกบุบสลาย แต่ทำไงได้ ริเป็นผู้ร้ายจับตำรวจ ก็ต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน อย่างไรเธอก็เป็นลูกสาวเจ้าของโรงพยาบาล แค่หัวแตกคงไม่เป็นไรน่า
                    พญามารสาวเกือบโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นว่าคนในตาข่ายหลบไม่ทัน ขวดใบนั้นกำลังจะพุ่งเข้าใส่ แต่แล้ว มือใหญ่กลับตะครุบมันไว้ได้อย่างแม่นยำ!
                    ความจริงเขาจะหลบก็ย่อมได้ หากเขาไม่ต้องการให้ขวดใบนี้แตก เพราะอยากจะรู้ว่า ของเหลวที่เธอเทลงมาใส่เขานั้นมันใช่อย่างที่เขาคาดเดาหรือไม่ แล้วมันก็ใช่จริงๆ!
                    เมื่อรู้แน่แล้วว่าไอ้ที่เปื้อนเสื้อเขาเป็นสารอะไร สารวัตรหนุ่มก็รีบตวัดแขนถอดมันออกทันที
                    พญามารสาวบนต้นไม้มองลงมาตาแทบถลนออกจากเบ้า อา... ช่างงามแท้แลตะลึงจริงๆ เรือนร่างภายใต้เครื่องแบบของเขาดูแข็งแกร่งสมส่วน ประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อล้วนๆ ไร้ไขมันแบบคนที่ฟิตร่างกายออกกำลังอย่างหนักเป็นประจำ ทำเอาความดันโลหิตของเธอพุ่งขึ้นมาทันใด
                    จนกระทั่งเขาหลุดออกมาจากร่างแหได้ ก็ยังไม่รับรู้ถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตน มัวแอบหลงดีใจที่ไม่มีตาข่ายบดบังเรือนร่างอันกำยำได้รูปของเขา เธอจะได้เห็นถนัดชัดตา
                    หารู้ไม่ว่าสารวัตรหนุ่มเพิ่งคิดกลยุทธ์ใหม่ได้ ไม่ต้องลงทุนลงแรงปีนขึ้นไปเอายัยตัวแสบลงมาแล้ว แค่ย้อนศรอาวุธของศัตรูสนองคืนสู่ศัตรู ...เขาหรี่ตาคมเล็งเป้าหมายบนต้นไม้ ก่อนที่จะใช้กำลังแขนทรงพลังโยนเสื้อเครื่องแบบหนาหนักที่ชุ่มไปด้วยยาสลบในมือขึ้นไปครอบใส่หัวพญามารร้ายพอดิบพอดี!
                    ด้วยความลืมตัว เพราะมัวแต่เพลิดเพลินกับการโลมเลียหุ่นแมนของเขา เมื่อเธอต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ไม่ทันคิด ยิ่งตกใจก็ยิ่งหายใจถี่แรง สูดเอายาสลบเข้าไปเต็มปอด!
                    ไม่นาน ร่างบางก็สูญเสียการทรงตัว ร่วงหล่นลงมาสู่อ้อมแขนแข็งแรงที่รอรองรับอยู่ใต้ต้นไม้สมใจท่านสารวัตร
                    “คิดจะวางยาฉันรึ... ให้มันน้อยๆ หน่อย”
                    ภวังค์สุดท้ายก่อนที่พญามารร้ายจะสลบไป เธอได้ยินเสียงทุ้มนุ่มหัวเราะต่ำในลำคออยู่ริมหู
                    “หลับเอาแรงไปก่อนนะพญา ตื่นมาเธอเจอหนักแน่... ฉันจะทำให้เธอได้รู้จักกับความทรมานแบบมีชีวิตอยู่มิสู้ตาย เดี๋ยวจะหาว่าองค์อาตม์คนนี้ร้ายไม่เป็น!”
     
                ต้องขอบใจผู้กำกับสาวที่สร้างห้องทรมานไว้เหมือนให้เขาใช้สำหรับการนี้โดยเฉพาะ...
                    สารวัตรหนุ่มอุ้มร่างบางวางไว้บนเก้าอี้แคบๆ พนักพิงสูงปรับเบาะเอนได้คล้ายเก้าอี้ทำฟันตัวหนึ่ง ซึ่งนัยว่าเธอน่าจะขโมยมาจากแผนกทันตกรรม
                    ยังมีเตียงขาหยั่งจากแผนกสูติวางอยู่ไม่ไกล ทำให้คนเป็นตำรวจรู้สึกเขิน ต้องพยายามไม่มอง...
                    แต่ช่วยไม่ได้เลยที่สมองส่วนไหนไม่รู้ของสารวัตรหนุ่มสร้างภาพร่างบางที่กำลังหลับใหลไม่รู้อิโหน่อิเหน่นี้ถูกจับนอนในท่าแยกขาห่างกันจนอ้ากว้างเปิดทางให้เขาอย่างเต็มที่ แล้วก็ต้องรีบลบภาพนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว ก่นด่าตักเตือนตนเองไม่ให้เพี้ยนตามเธอ...
                    เด็กบ้า เล่นอะไรไม่รู้ น่าโมโหที่สุด หากเขาไม่ใช่ผู้ชายชื่อองค์อาตม์ที่มีพลังขันติสุดยอดแล้วล่ะก็ ป่านนี้คงหักห้ามอารมณ์ไม่ได้ลงไม้ลงมือกระหน่ำยิงเป้าผู้ต้องหาทั้งที่ยังไม่ได้สติแน่ ไม่ต้องไต่สวนอะไรกันพอดี!
                    แม้กระนั้น... ภาพหญิงสาวนั่งเอนหลับใหลไม่ได้สติอยู่บนเก้าอี้ทำฟัน ปทุมถันคู่น้อยดุนดันเสื้อยืดสีขาวขึ้นมาเคลื่อนไหวช้าๆ ตามจังหวะการหายใจ ก็ทำให้คนอย่างเขาไหววูบในอกได้เหมือนกัน
                    แล้วดูสิดู... ดูใบหน้าอ่อนใสไร้เดียงสาในยามนี้ ดูไม่ออกเลยว่าลืมตาขึ้นมาเป็นพญามารร้ายที่สามารถทำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง นึกถึงสิ่งที่เธอทำแต่ละอย่างแล้ว ช่างน่าโมโหจนน่าฆ่าให้ตายนัก         
                    ถึงแม้โมโห แต่ก็ยังอดใจดีแอบหายามาทาตรงที่แผลถลอกและฟกช้ำตามเนื้อตัวให้เธอไม่ได้ นวลเนื้อขาวผ่องในร่มผ้าทำให้เขาใจสั่นหวั่นไหวจนต้องหรี่ตาทา แล้วจัดเสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อยโดยไว...
                    นี่ไม่ใช่เวลาวอกแวกเรื่องหัวใจ คดีระเบิดที่เธอก่อช่างหนักหนาสาหัส เป็นคดีอาญาแผ่นดินที่มิอาจยอมความได้ เขาคิดไม่ออกเลยว่าสมควรจัดการกับกรณีอย่างไรดี ถึงสามารถทำหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างถูกต้อง ทั้งยังปกป้องเธอให้พ้นจากโทษทางกฎหมายได้
                    ไม่! ไม่ใช่ช่วยให้ผู้ร้ายพ้นผิด แต่... ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เขาถึงอยากเป็นผู้รับผิดชอบลงทัณฑ์นักโทษสาวรายนี้ด้วยตัวเอง หากจะด้วยวิธีการอย่างไร ในฐานะใด เพื่ออะไร เขาเองก็ยังตอบไม่ได้
                    ตอนนี้ ขอแค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า คิดให้ออกเสียก่อนเถิดว่าจะใช้วิธีไหนรีดเค้นเอาความจริงออกมาจากปากน้อยๆ นี่ดีกว่า
                    สารวัตรหนุ่มนั่งคิดพลางเหม่อมองดูพญามารสาวอยู่เนิ่นนาน... ไม่รู้ตัวเลยว่ายื่นหน้าเข้าไปพิจารณาดวงหน้าเนียนใสจนชิดใกล้ตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกที ริมฝีปากของเขาก็ประทับลงบนกลีบปากเอิบอิ่มนุ่มนิ่มของเธอซึ่งเผยอน้อยๆ ราวกับคอยรับจูบจากเขาแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวเสียแล้ว
                    ครั้นได้ลิ้มชิมรสหอมหวานละมุนคล้ายนมชมพูอุ่นๆ จากริมฝีปากปากเล็กๆ ของเธอ ตำรวจที่ริเป็นหัวขโมยก็รู้ตัวว่าตนได้เผลอทำอะไรลงไป หัวใจชายหนุ่มไหววูบอย่างแรงรีบผละถอยห่างออกมาทันที พร้อมก่นด่าตัวเองอย่างหัวเสีย...
                    บ้าที่สุด! นี่เขาเป็นบ้าอะไร คิดจะสอบปากคำผู้ต้องหาวิธีใหม่ด้วยการดูดข้อมูลจากปากหรือไง บ้าไปแล้ว!
                    คราวก่อนตอนค้นตัวเธอ เขาก็เผลอไปที ตั้งใจจะสั่งสอนเธอแท้ๆ แต่ตัวเขากลับเกิดความรู้สึกเสียเอง สัมผัสนวลเนียนใต้ร่มผ้านั้นยังติดมือเขาไม่จางหาย
                    มาคราวนี้... ไม่ทันไรก็พลาดท่าอีกแล้ว ที่ไม่น่าให้อภัยคือ คนร้ายไม่ได้ทำอะไรเลย เธอนอนเฉยๆ ไม่มีสติด้วยซ้ำ แล้วจะโทษว่าใครได้ นอกจากตัวเขาเอง
                    อา... ต่อแต่นี้ไป เขาต้องระวังตัวระวังใจให้ดี อย่าได้พลั้งเผลอกับเธอเป็นอันขาด!
     
                ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว…
                    ภาษิตนี้ พญาได้ยินมาตั้งแต่เด็ก แต่เพิ่งรู้ซึ้งถึงขั้วหัวใจจริงๆ ก็วันนี้นี่เอง
                    เธอรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมาก็พบกับแสงสว่างจ้าจากโคมไฟผ่าตัด! อะไรกันนี่?!! เมื่อตั้งสติมองรอบกายก็พบว่า เธอกำลังนั่งอยู่บน ‘เก้าอี้ไฟฟ้า’ ที่ดัดแปลงมาจากเก้าอี้ทำฟันใน ‘ห้องทรมาน’ บ้านป้าของเธอนั่นเอง
                    เมื่อเธอจะขยับมือมาป้องหน้าเพื่อลดความจ้าจากแสงไฟที่ระคายเคืองตา ก็กลับพบว่า มือทั้งสองข้างถูกสวมกุญแจมือล๊อคไว้กับเท้าแขน!
                    แง...
                    คนใจร้ายที่ทำกับเธอแบบนี้อยู่ที่ไหนไม่รู้ เพราะแสงสว่างจ้าพุ่งใส่หน้าเธอจนแทบลืมตาไม่ขึ้น ได้ยินแต่เสียงโหดแทรกผ่านรัศมีสีขาวเข้ามากระทบโสต...
                    “ตามบทเรื่อง ‘รักต้องตรวจ คุณตำรวจต้องรัก’ นี่... มีฉากพระเอกทรมานผู้ร้ายให้สารภาพใช่ไหม?”         “อย่านะ... อย่าทำอะไรกับฉันน่ะ”
                    เธอไม่อาจย้อนแสงมองเห็นใบหน้าคร้ามคมของเขาได้ แต่สารวัตรหนุ่มมองเห็นใบหน้าขาวใสซีดเผือกลงด้วยความหวาดผวาอย่างชัดเจน เขาก็อดยิ้มไม่ได้
                    “หึหึ... เพิ่งจะมากลัวฉันทำอะไรเธอเอาตอนนี้ จะไม่สายไปหน่อยหรือ?” เสียงเย็นย้อนถามกลับมา ทำเอานางสาวพญาใจแป้ว
                    หรือว่า... โอ... หรือว่าเธอเสร็จองคชาติชูไช เสีย ‘สาว’ ให้เขากลายเป็นนางพญาเต็มขั้นไปแล้ว?!
                    “ไอ้คุณตำรวจทุเรศ คุณลักหลับฉันหรือ ไอ้ขี้ขโมย ไอ้โรคจิต ไอ้บ้ากาม ไอ้... ไอ้...” ผู้ต้องหาบนเก้าอี้ไฟฟ้าดิ้นพล่านด่าท่านสารวัตรจนลิ้นแทบพันกัน
                    ฟังเหมือนหญิงสาวเสียดายตัว แต่...
                    เลวที่สุด เธอยังไม่เคยลิ้มรสรักครั้งแรกของลูกผู้หญิงเลยนะ ไอ้ที่เขาว่า ‘เจ็บแต่ดี’ อะไรนั่น เธอก็ไม่มีโอกาสได้สัมผัสแล้วสิ เพราะประสบการณ์ครั้งแรกมันได้แค่คนละ 1 ทีเท่านั้นนี่
                    อุตส่าห์ได้เจอท่าน ‘องค์ฯ ลง’ ทั้งที ดูสิเนี่ย ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรแล้ว... เจ็บใจ เจ็บใจ!!!
                    เนื่องจากมือทั้งสองโดนพันธนาการ ไม่สามารถใช้มันลูบคลำสำรวจร่างกายส่วนใดๆ ได้ พญามารร้ายจึงพยายามรวมรวมพลังชี่พุ่งตรงลงไปที่จุด ‘เจินหยิม’ แต่กลับไม่พบความเสียหายขนาดยับ ‘เยิน’ อย่างที่คาดคิด  ลองขมุบขมิบดูก็ไม่รู้สึกถึงบาดแผลอันใดแม้เพียงนิดเดียว
                    หรือว่าผู้กำกับใหญ่ใหญ่กว่าสารวัตร ท่านองค์ฯ เลยทำอะไรเธอไม่ได้? เสียทีที่เขาอุตส่าห์ ‘มีชื่อ’ ด้านบุรุษเพศทั้งที ที่แท้ก็ชูไชแล้วไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย ...คนเก่งทฤษฎีไม่เคยลองของจริง แอบกระหยิ่มยิ้มภูมิใจในความยิ่งใหญ่ของตน
                    “นี่เธอคิดอะไรไปถึงไหน?...ฉันไม่ทำอะไรเด็กอย่างเธอแบบนั้นหรอก”
                    แม้ไม่เห็นหน้า แต่น้ำเสียงของเขาเหมือนกำลังดูถูกว่า เธอมันกระจอก อย่าหมายได้แอ้มผู้ชายระดับเขาเลย ไม่มีทาง!
                    ซึ่งความจริงกลับตรงกันข้าม...
                    พญามารร้ายไม่รู้ตัวเลยว่า ยามเธอหลับใหลไม่ได้สติ ทำหัวใจแกร่งของสารวัตรหนุ่มอ่อนเหลวได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นพลั้งเผลอตัวทำอะไรบ้าๆ ลงไปได้ หากเมื่อนัยน์ตากลมแป๋วคู่นี้ลืมขึ้นมา ก็หมดเวลาใจอ่อนเฉพาะสำหรับหญิงสาวหลับใหลไร้เดียงสาแต่เพียงนั้น แล้วเริ่มปฏิบัติการลงทัณฑ์ทรมานพญามารร้ายแทน!
                    “เดี๋ยวก่อนค่ะ... ตกลงว่าคุณตำรวจยังไม่ได้ทำอะไรฉันหรอกหรือ?” พญาถามไปโดยไม่รู้ตัวว่าดีใจหรือเสียใจกันแน่
                    “แล้วทำไมถึงไม่ทำอะไรเลยล่ะคะ?”
                    คำถามตรงไปตรงมาของพญามารร้ายทำให้คิ้วเข้มขมวดมุ่น พลางถอนใจ
                    “ใครว่า ‘ไม่ทำ’ ... ฉันแค่บอกว่า ‘ยังไม่ได้ทำ’ แต่ไม่ได้บอกว่า ‘จะไม่ทำ’ นี่” ท่านสารวัตรหรี่ไฟที่ส่องหน้าเธอลงมาให้พญามารสาวได้เห็นยิ้มเย็นยะเยือกบนใบหน้าเขา
                    “คนไข้ผ่าตัดถูกวางยาเพื่อไม่ให้รับรู้ความเจ็บปวดใช่ไหม? เธอสลบไปแบบนั้น ฉันทำอะไรเธอก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดน่ะสิ มิสู้รอให้เธอฟื้นก่อน แล้วค่อยลงมือทำไม่ดีกว่ารึ...” ใบหน้าคร้ามคมก้มลงกระซิบข่มขู่ “…หึหึ ฉันอยากให้ทุกขุมประสาทสัมผัสของเธอได้รู้ซึ้งถึงความทรมานที่แท้จริง”
                    “อ๊าย...” พญามารสาวดิ้นเร่า “...ไม่เอาน้า”
                    อายจังเลย... อายจังเลย... เขาจะให้เธอได้ลิ้มรสรักที่ว่ากันว่าเจ็บแต่ดีหรือนี่?
                    แล้วที่เขาล๊อคกุญแจเธอไว้กับเก้าอี้หมอฟัน ก็เพราะเขาคิดจะสร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้วงการทันตกรรมและตำรวจ เปลี่ยนจาก ‘เก้าอี้หมอฟัน’ เป็น ‘ตำรวจฟัน’ ล่ะสิ
                    อา... หรือว่าวันนี้ เธอจะได้เลื่อนขั้นเป็นนางพญาจริงๆ แล้ว?
                    ผู้ต้องหาสาวคิดไกลไปไหนสารวัตรหนุ่มตามไม่ทัน ยังคงยืนยันแสดงความโหดขู่เข็ญเธอต่อไป
                    “สารภาพมาเสียดีๆ ...ระเบิดทั้งสามครั้งนี่เป็นฝีมือเธอใช่ไหม? ...เธอไปเอาอาวุธสงครามมาเล่นได้อย่างไร?”
                    เจอคำถามเป็นชุดเข้าไป ผู้ต้องหาสาวก็ถึงกับมึนงง เปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทัน
                    “หา? ระเบิด 3 ครั้งไหนคะ?” เขาหมายถึงฉากระเบิดตอนไหน? เธองง “…แล้วอาวุธสงครามมีที่ไหนกันคะ บอกแล้วไงว่าจริงๆ มันก็แค่ระบบแสงสีเสียง แต่มันอีท่าไหนไม่รู้ ดันระเบิดเถิดเทิงอย่างนี้ นี่ฉันยังไม่ได้เช็คดูเลยว่ามีอุปกรณ์อะไรเสียหายบ้าง”
                    พญามั่นใจว่าสารภาพความจริงแล้ว แต่เขากลับไม่เชื่อคำพูดของเธอแม้แต่น้อย
                    “อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย ถ้าเป็นระบบแสงสีเสียง แล้วเศษวัตถุระเบิดตรงจุดเกิดเหตุนั่นมาจากไหน เธอหลอกฉันไม่ได้หรอก พญา... สารภาพมาเสียดีๆ ดีกว่าน่า อย่าโกหก”
                    “ก็บอกแล้วไงคะว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุ ไม่มีระเบิดจริงๆ สักหน่อย... กรี๊ดดด...!!!”
                    ผู้ต้องหาสาวกรีดร้องดังลั่นเมื่อเขาปรับเก้าอี้ให้เอนลงนอนราบ ปลายเท้าสูงกว่าระดับศีรษะของเธออย่างกระทันหัน แล้วไม่พูดพร่ำทำเพลง ใช้ผ้าชุบน้ำเปียกคลี่คลุมลงปิดมิดหน้าเธอ แล้วยุติเสียงกรีดร้องด้วยการราดน้ำลงมาตรงจมูกและปาก!
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×