ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องตรวจ คุณตำรวจต้องรัก

    ลำดับตอนที่ #7 : ...7... ไล่ล่าพญามาร

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 55


    7
    ไล่ล่าพญามาร
     
     
     
                    หลังจากท่านสารวัตรส่งพญามารสาวกลับเข้ารังแล้ว เขาก็เดินตรวจตราไปทั่วบริเวณจนเห็นว่าปลอดภัย หากในความรู้สึกลึกๆ กลับเหมือนว่าเขายังไม่ค่อยพอใจที่เธออาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาในพื้นที่กว้างใหญ่เช่นนี้ ครั้นโทรไปต่อว่าพี่ชาย ก็กลับได้รับคำตอบเป็น...
                    “ฮั่นแน่... หาเรื่องค้างบ้านกูนี่หว่า” หมอนพดักคอ
                    “ไม่ใช่โว้ย ฉันเป็นตำรวจ มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยประชาชน...” ตำรวจพูดยังไม่ทันจบ หมอก็รีบสรุป...
                    “เห็นมีโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจไม่ใช่หรือ งั้นกูขอฝากบ้านแถมน้องสาวไว้ให้มึงช่วยดูแลหน่อยก็แล้วกันนะ”
                    “เฮ่ย! นั่นจะได้อย่างไรกัน” สารวัตรหนุ่มโวย
                    “น่า... ฝากหน่อยๆ น้องกูตัวเล็กๆ เอง... ถ้ามันซนนัก มึงก็แปลงร่างจากตำรวจเป็น ‘ตำจรวด’ สักที เอาเสียให้เข็ดเลยนะ แค่นี้แหละ”
                    ว่าแล้วพี่ชายที่แสนดีก็ตัดสายทิ้ง ปล่อยให้เพื่อนรักแอบยืนเหม่อมองหน้าต่างห้องน้องสาวอยู่ในสวนอีกครึ่งค่อนคืน
                    ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นห่วงพญามารสาวขนาดนั้น นี่เป็นบ้านที่เธออาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็ก ในอดีตที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาโจรกรรมใดๆ ที่สำคัญ... ตัวอันตรายอย่างเธอ โจรเจอเข้าคงหนีไม่แทบทันมากกว่า อย่ากระนั้นเลย ตัดใจกลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่า ป่านนี้ เธอคงหลับสบายไปถึงไหนแล้ว
     
                    หารู้ไม่ว่า พญามารสาวไม่ได้หลับสบายอย่างที่เขาคิด แต่กลับนอนกอดหมอนบิดไปบิดมาบนเตียงกว้าง…
                    หลับตาลงก็เห็นแต่ท่านสารวัตรมาดเข้ม โดยเฉพาะภาพตอนเขากู้ระเบิดหัวใจของเธอ มันใช่เลย... พระเอกในฝัน!
                    ไม่นะ... เธอไม่ได้หลงรักเขาหรอก พญารีบปฏิเสธตัวเอง... เธอก็แค่ได้ค้นพบ ‘คนที่ใช่’ อ่า... หมายถึงคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งพระเอกในเรื่อง ‘รักต้องตรวจ คุณตำรวจต้องรัก’ ก็เท่านั้นแหละ
                    หรือเธอควรทาบทามเขาเข้าวงการ?... แถมด้วยกราบเขาเป็นอาจารย์สอนวิชาการต่อสู้เพื่อประโยชน์ในการกำกับคิวบู้ด้วย?
                    ท่าที่เขาพลิกตัวสองตลบสยบเธอได้อย่างราบคาบรวดเร็วนั้นช่างเหลือร้ายนัก ร่างหนาหนักทาบทับบนตัวเธอนั้นก็ช่างทรงพลังเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ชายอันเย้ายวน... อร๊าย... ไม่ได้นะ ท่านผู้กำกับขา... ห้ามคิดเลยเถิดกับว่าที่เด็กในสังกัดเด็ดขาด คนอย่างนางสาวพญาไม่ยอมพลาดเสียคำว่า ‘สาว’ ให้เขาหรอกน่า อย่ามากก็แค่จับๆ กุมๆ นิดหน่อยตรวจสอบสินค้า ดาราบางคนอยากเข้าวงการยังเอาตัวเข้าแลกเลยนี่นา
                    ผู้ชายขี้เก๊ก โคตรดุ แถมยังซื่อ(บื้อ)สาด เห็นเงินแล้วไม่เอา เห็นดาราสาวแล้วไม่เกิดอารมณ์อย่างเขาน่ะหรือ... ชิ!
                    หากพอเธอนึกถึงสัมผัสอันเร่าร้อนตอนตรวจค้นร่างกาย มือใหญ่ร้อนระอุที่ลูบไล้ไปทั่วทั้งตัวเธอแล้ว... อา... ไม่แน่ใจว่าเขาเกิดอารมณ์หรือเปล่า รู้แต่เขาทำอารมณ์เธอกระเจิดกระเจิงอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ยิ่งตอนที่เธอจับกุมเขา... ตามทฤษฎีที่เธอเรียนรู้มาจากวิชาอนาโตมีที่พ่อสอน แข็งๆ อย่างนั้นคงต้องเกิดอารมณ์เป็นแน่
                    แอ๊... อายจังเลย... อายจังเลย... (เพิ่งมารู้สึกอายเอาตอนนี้)
                    นางสาวพญาเอามือปิดหน้าบิดตัวไปมาแล้วเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า... ตายแล้ว เธอยังไม่ได้ล้างมือเลยนี่นา!
     
                    “ฉันบอกแล้วไงว่า ไม่! …อย่างไรก็ ‘ไม่’ !!!” ท่านสารวัตรปฏิเสธพญามารร้ายอย่างไร้เยื่อใย
                    ใครหนอบอกว่าตื้อเท่านั้นครองโลก เธอตื้อเขาเป็นครั้งที่ร้อยๆ แล้ว ยังไม่สำเร็จ หัวใจของเขาทำด้วยอะไร ทำไมแข็งนักก็ไม่รู้
                    ก็เธอเล่นขออะไรไม่ขอ มาขอให้เขารับบทพระเอก ใครจะบ้าไปเป็นดาราในสังกัดพญามารสาว
                    “ฉันเกิดมาเพื่อเป็นตำรวจ ไม่ใช่ซุปเปอร์สตาร์” เสียงดุพยายามแล้วที่จะให้คำอธิบายสั้นๆ ได้ใจความ
                    “ตอนนี้ฉันไม่ว่างมาปวดหัวกับเด็กอย่างเธอหรอกนะ กลับไปซะ”
                    สารวัตรหนุ่มไม่ว่างจริงๆ...
                    เขากำลังวุ่นวายอยู่กับคดีสำคัญซึ่งสะเทือนขวัญประชาชนอยู่ในขณะนี้... ระเบิดที่เกิดขึ้นกลางเมืองต่อเนื่องถึง 2 ครั้ง 2 คราในเวลาไล่เลี่ยกัน
                    ระเบิดจริงๆ ที่ไม่ใช่ของเก๊หลอกชาวบ้านเล่นๆ อย่างกล่องหัวใจของเธอ ...ถึงแม้ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ก็มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยจำนวนมากจากความโกลาหล เมื่อวิเคราะห์หลักฐานเบื้องต้นแล้ว เขามั่นใจว่า การระเบิดทั้งสองครั้งเป็นฝีมือกลุ่มเดียวกัน น่าจะเป็นคดีต่อเนื่อง มีระเบิดลูกที่ 1 และ 2 ก็ย่อมมี 3 4 5 ตามมา ตราบใดที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ก็ไม่แน่ว่าระเบิดครั้งต่อไป จะมีใครต้องสังเวยชีวิตหรือไม่
                    ที่น่าสงสัยคือ เป้าหมายการลอบวางระเบิด ทำไปเพื่ออะไร? จะว่าก่อการร้าย ก็มีหลายอย่างที่ ‘ไม่ใช่’ โดยทั่วไป ผู้ก่อการร้ายจะป่าวประกาศว่าระเบิดเป็นฝีมือตนให้คนทั้งโลกเห็น แต่นี่เป็นระเบิดปริศนาที่หาตัวจนร้ายไม่ได้ อีกทั้งไม่มีการเรียกร้องข่มขู่กดดันรัฐบาลหรือองค์กรใดให้ทำอะไรเลย ประการสำคัญ ลักษณะการวางระเบิด ทั้งเวลาและสถานที่ ดูก็รู้ว่า มิได้ต้องการทำอันตรายใครให้ถึงแก่ชีวิตเลย อีกทั้งขนาดและชนิดของระเบิดที่ใช้มีอำนาจทำลายเป็นบริเวณไม่กว้างมากนัก คล้ายแค่ทำให้เกิดเสียงดังสร้างภาพเพื่อทำข่าวเท่านั้น
                    ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ องค์อาตม์จึงได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนคดีพิเศษนี้ ซึ่งเขามุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มกำลัง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะจับคนร้ายได้ จึงหัวเสียสุดๆ เมื่อยังต้องมาโดนป่วนด้วยเจ้าแม่ระเบิดเก๊ที่มาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ อีก
                    “ได้ยินไหม บอกว่า ไปให้พ้น! ...ไป ...ไป๊”
                    ผู้กำกับสาวเลยได้แต่จ๋อยกลับไปทุกครั้ง ทิ้งให้สารวัตรหนุ่มแอบเหลียวมองใช้สายตาส่งเธอ จนจ่ายิ้มอดแซวไม่ได้…
                    “คนอื่นมีแต่เขาอยากเป็นดารายอมพลีกายถวายตัวให้ผู้กำกับ แต่สำหรับท่านสารวัตร คงต้องผู้กำกับยอมพลีกายถวายตัวให้ท่านกระมังขอรับ!”
                    “ไปทำงานได้แล้ว จ่า อย่ามัวอู้ ไอ้ที่กินอยู่นี่มันเงินภาษีประชาชนทั้งนั้น!”
     
                คนอย่างนางสาวพญา ไม่มีคำว่าแพ้ในพจนานุกรม!
                    ในเมื่อเขาไม่ยอมตอบรับคำขอ เธอก็จะหาทางอื่นต่อไปเพื่อให้ได้เขามาครอบครอง... เอ้ย... เพื่อให้เขามาเป็นพระเอกของเธอให้จงได้
                    ถึงแม้ว่าท่านสารวัตรจะขู่ท่านผู้กำกับไว้ว่าคราวหน้า ‘เอาจริง’ เธอ ‘เสร็จเขา’ แน่ แต่นางพญามารร้ายหาเกรงกลัวอันใดไม่ คอยดูเถอะ เธอจะป่วนให้เขาคลั่งตายในหน้าที่ซะเลย เผื่อจะเปลี่ยนใจจากอาชีพรับราชการ มารับใช้พญามาร ทำงานกับท่านผู้กำกับคนนี้เสียดีดี!
                    “ทุกอย่างพร้อมแล้วนะ... 3… 2… 1…”
                    ตู้ม!!!
                    ผู้กำกับสาวถูกคลื่นกระแทกจากแรงดันของอณูอากาศอัดจนกระเด็นกลิ้งโค่โร่ไปไกล สติดับไปวูบหนึ่ง หากพอรู้สึกตัวโซเซลุกขึ้นมาได้ ก็ต้องอ้าปากตาค้าง มองฉากระเบิดวินาศสันตะโรตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง
                    ระเบิดเก๊ของเธอที่สร้างจากปะทัดและระบบแสงสีเสียง ถ่ายทำเสร็จแล้วค่อยไปแต่งภาพเพิ่มความเหมือนจริงในขั้นตอนโพสโปรดักชั่น ไม่คิดเลยว่าจะสมจริงได้อลังการงานสร้างขนาดนี้ นี่ยังไม่ได้ทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิคเลยนะ
                    ไอร้อนที่ปะทะใบหน้ากับความเจ็บปวดที่แขนขา และอาการจุกที่หน้าอก อีกทั้งยังความโกลาหลกับเสียงคนในกองถ่ายตะโกน... ‘ไฟไหม้... หนีเร็วๆๆ’ สะกิดใจให้ท่านผู้กำกับคิด… หรือว่ามีอะไรผิดพลาด ทำให้อะไรสักอย่างระเบิดจริงๆ ?
                    ตายแล้ว! เสียดายอุปกรณ์ แต่ช่างเถอะ ได้ภาพสมจริงขนาดนี้ รีบถ่ายเก็บไว้ก่อนดีกว่า
                    หากเมื่อหันไปจะสั่งตากล้อง ก็พบแต่กล้อง ส่วนคนหนีตายวิ่งตามฝูงชนหายไปไหนแล้วไม่รู้ เธอจึงต้องควบสองตำแหน่งอีกครั้ง จนกระทั่งเกือบจะหาทางออกจากกองเพลิงไม่ได้ ต้องให้หน่วยกู้ภัยมูลนิธิตอเป็กตึ๊งลากตัวออกมาในสภาพถลอกปอกเปิก หัวหูดูไม่จืด
                    โชคดีที่ท่านผู้กำกับตัดสินใจเลือกถ่ายทำบริเวณโซนที่เพิ่งปิดปรับปรุงวันแรก ยังไม่เริ่มดำเนินงานซ่อมแซม จึงไม่มีใครเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ็บสุดก็เห็นจะเป็นพญามารร้ายตัวต้นเหตุ เพราะความงกอยากได้ภาพแถมยังห่วงอุปกรณ์ มัวเก็บของอยู่นั่นเอง
     
                    “ฝีมือเธองั้นหรือ?!!”
                    พญามารร้ายคาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่าเขาต้องมา แล้วเขาก็มาจริงๆ !
                    เธอรู้ล่วงหน้าด้วยว่าเขาต้องโมโห แล้วเขาก็โมโหจริงๆ ! ...โมโหมากเสียด้วย
                    สารวัตรหนุ่มหรี่ตามองผู้ต้องหาสาวเจ้าเก่าของเขาราวกับจะฉีกเนื้อเถือหนังออกมากิน ดูดดื่มเลือดให้หมดตัว แล้วแทะกระดูกจนเกลี้ยง แม้แต่วิญญาณจนวายร้ายก็ยังอยากสูบลงไปไม่ให้เหลือ
                    เขานึกไม่ถึงเลยว่า จะเป็น ‘เธอ’ !!!
                    อย่าบอกนะว่า เหตุระเบิดปริศนากลางเมืองต่อเนื่องที่เขากำลังหัวปั่นสืบหาตัวผู้ร้ายอยู่นี่ มีต้นเหตุมาจากพญามารร้ายโรคจิตคิดสร้างหนังแอ๊คชั่นก็เท่านั้น?!
                    อะไรก็ดี ที่ทำเขาโมโหสุดๆ คือ เธอกล้าลองของอันตรายเพื่อถ่ายหนังจนไม่รู้จักรักถนอมเนื้อหนังมังสาตัวเองเลยหรือไง
                    เล่นระเบิดแบบนี้ ถ้ามีคนตายขึ้นมาเล่าจะว่าอย่างไร ไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าเจ้าของระเบิดเกิดพลาดเองขึ้นมา...
                    “ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้เลย มันเป็นอุบัติเหตุค่ะ” เธอพยายามอธิบาย
                    “ไม่ต้องแก้ตัวอะไรแล้ว”
                    สารวัตรหนุ่มอุ้มร่างบางที่ดิ้นกระแด่วๆ ไม่หยุดไปนั่งหลบมุม แล้วใช้ร่างสูงใหญ่ของตนช่วยบังเธอไว้ ขณะจัดการตรวจสอบความเสียหาย
                    กรี๊ด!... ท่านสารวัตรขา ไม่ให้เธอแก้ตัว แต่จับเธอแก้ผ้าหรือคะ?
                    หากสายตาของสารวัตรหนุ่มในตอนนี้ มิได้ฉายแววดั่งเช่นชายหนุ่มมองนวลเนื้อในร่มผ้าของหญิงสาวเลย เห็นหน้าตามอมแมมแถมบาดแผลทั่วร่างกายของเธอแล้ว เขาทั้งเวทนาจนน้ำตาซึม ทั้งโกรธจนแทบบ้า เกือบลืมตัวก้มลงจูบปลอบประโลมไปพร้อมๆ กับบีบคอเล็กๆ ของแม่ตัวแสบให้ตายคามือ!
                    ยังดีที่ไม่มีบาดแผลร้ายแรงจนเป็นอันตราย แค่ฟกช้ำและถลอกแต่เพียงผิวกายภายนอกเล็กน้อยเท่านั้น...
                    ต้องโทษเขาผิดเอง ที่คราวก่อนใจอ่อนยอมปล่อยให้เธอลอยนวลจนได้ใจ ยังไม่ถึงเดือน ก็กล้าก่อคดีซ้ำซ้อน ไม่สิ... คดีใหญ่กว่าเก่าไม่รู้กี่เท่า
                    คราวนี้ ปล่อยไว้ไม่ได้ เขาจะต้องเอาจริงกับเธอเสียที!
     
                    ระหว่างที่ผู้ต้องหาสาวเข้าไปในรถพยาบาลเพื่อทำแผล สารวัตรหนุ่มก็ลงตรวจสถานที่เกิดเหตุ… คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันทีที่พบหลักฐาน ‘เศษซากวัตถุระเบิด’…
                    ของจริง! ...เหมือนอย่างที่เขาพบในที่เกิดเหตุอีก 2 ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีผิด ทั้งลักษณะการวางระเบิดที่ดูเหมือนว่ามีเจตนาหลีกเลี่ยงการทำร้ายชีวิตผู้คน
                    หลักฐานชี้ตรงไปที่เธอ... ‘นางสาวพญา’ !!!
                    เป็นเธอจริงๆ หรือนี่?
                    ไม่สิ... ไม่! ไม่ไม่...เขายังไม่ควรปักใจเชื่อเช่นนั้น ก่อนอื่น เขาคงต้องให้เธอสารภาพความจริง เล่าเรื่องราวที่มาที่ไปอย่างละเอียดเสียก่อน หญิงสาวอย่างเธอมีอาวุธสงครามอยู่ในครอบครองได้อย่างไร ...วัตถุประสงค์ในการวางระเบิด เพียงแค่ถ่ายภาพยนต์จริงๆ หรือมีสิ่งอื่นใดแอบแฝงหรือไม่... มีใครอยู่บงการอยู่เบื้องหลังหรือแค่เล่นพิเรนทร์ตามลำพัง...
                    หากยังไม่ทันที่ท่านสารวัตรจะได้เริ่มดำเนินการสอบสวน ก็กลับพบว่าผู้ต้องหาสาวของเขาอันตรธานหายตัวไปพร้อมรถพยาบาลแล้ว!
     
                    “ปล่อยให้คนร้ายหลบหนีไปได้ไง?” สารวัตรหนุ่มเล่นงานจ่ายิ้ม ซึ่งเขาอุตส่าห์ไว้ใจ สั่งให้ควบคุมตัวเธอไว้ระหว่างที่เขาเดินตรวจสถานที่เกิดเหตุ
                    “แหะๆ... กระผมก็เพิ่งทราบขอรับ ว่าคันตะกี้นี้ไม่ใช่รถพยาบาลของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ที่กระผมเรียกมารักษาผู้บาดเจ็บ” จ่ายิ้มฉีกยิ้มรายงานนายเสียงจ๋อย “...ทีมงานของท่านผู้กำกับรายงานว่า เป็นรถตู้ประจำตำแหน่งน่ะขอรับ”
                    “รถตู้ประจำตำแหน่ง?”
                    ไม่ยากเลยที่ลูกสาวผู้ถือหุ้นใหญ่โรงพยาบาลดัง จะขอรถพยาบาลเก่าๆ เหลือใช้สักคันจากบิดา มาเป็นรถตู้ของบริษัทเพื่อความประหยัด แต่แม่คุณเล่นใช้รถพยาบาลติดไซเรนเต็มยศไม่ดัดไม่แปลงไม่ตกไม่แต่งมาขนของยกกองถ่ายไปไหนมาไหน เพื่อความสะดวกรวดเร็วและอภิสิทธิ์พิเศษต่างๆ อย่างเด็กขี้โกงหน้าด้านๆ! นี่ยังใช้เป็นยานพาหนะหลบหนีการจับกุมอีกด้วย
                    ร้ายนักนะ พญา... กล้ามาก ทั้งลูบคลำลูบคมเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ใช่เพียงแค่กระตุกหนวดเขาแล้ววิ่งหนี แต่นี่เธอจุดระเบิดประกาศสงครามแล้วยั่วให้เขาตามหา
                    ได้! ถ้าเธออยากเล่นแรงๆ นอกกรอบแบบไร้กติกา เขาก็รับคำท้า แต่อย่าหาว่าเขาทารุณก็แล้วกัน
            ไม่สั่งสอนให้เธอรู้สำนึกเสียบ้างว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร เขาก็ไม่ใช่องค์อาตม์ ชาติชูชัยแล้ว!!!
                   
                    “ประสานงานกับฝ่ายจราจร ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนช่วยกันจับตามองหารถพยาบาลที่มีคนขับเป็นผู้หญิงด่วน โดยเฉพาะเส้นทางจากที่นี่ ไปยัง...” เขาบอกชื่อถนนที่ตั้งรังพญามาร เพราะคาดการณ์ว่า เธอน่าจะกลับไปตั้งหลักในอณาจักรส่วนตัว  
                    ไม่นานตำรวจจราจรที่ตั้งด่านตรวจไม่ไกลจากจุดที่ท่านสารวัตรสงสัยก็รายงานเข้ามายืนยันความถูกต้องของสมมติฐานท่านสารวัตร ว่าพบรถพยาบาลน่าสงสัยดังกล่าว คนขับเป็นหญิงสาววัยยี่สิบเศษท่าทางรีบร้อน พอถูกเจ้าหน้าที่จราจรเรียกให้จอดก็บอกว่าปวดฉี่แล้วขับหนีทันที
                    มามุกแบบนี้ จะไปมีใครอีกเล่า นอกจากพญามารสาวจอมเจ้าเล่ห์!
                    “เอาไงดีครับท่าน? ท่านจะให้ผมขี่มอเตอร์ไซด์ตามไปไหมครับ แต่รถพยาบาลเปิดหวอ ใครๆ ก็ให้ทางให้เธอซิ่งสบายไป ไม่รู้จะจับทันไหม”
                    “ไม่ต้อง ไม่ต้อง” ห้ามใครจับเธอทั้งนั้น “...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมดีกว่า” ว่าแล้วสารวัตรหนุ่มก็ขึ้นรถตำรวจเปิดไซเรนกระหึ่ม
                    หนีไปไหนไม่หนี ดันหนีกลับรัง ดูซิจะไปไหนรอด!
                    “ท่านสารวัตรจะไปไหนขอรับ?” จ่ายิ้มถามเจ้านาย
                    “จับกุมผู้ต้องหาหลบหนีคดี”
                    ปรากฎการณ์ใหม่ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่รถหวอตำรวจไล่กวดรถหวอพยาบาล!
                    “กระผมไปด้วยขอร๊าบ” งานนี้จะพลาดได้ไง จ่ายิ้มขอจองเป็นกองเชียร์ทัพหน้า ...เต็มที่!
                    “ไม่! ผมขอบุกเดี่ยว” เขาล๊อคประตูรถทันทีที่ลูกน้อยสูงวัยตั้งท่าจะกระโดดขึ้นรถ
                    “งั้นก็... ระวัง (เสีย) ตัวด้วยนะขอรับท่าน” จ่ายิ้มเตือนด้วยความปรารถนาดี “...จะให้ผมระดมพลไปช่วยเป็นกำลัง (ใจ) เสริมให้ท่านสารวัตรปฏิบัติการรุกแบบหน่วย ‘สวาท’ ไหมขอรับ?” ผู้ใต้บังคับบัญชาอาวุโสซ่อนคำคมแซวเจ้านายของเขาอย่างแนบเนียน
                    น่าเสียดายว่า ตอนนี้ท่านสารวัตรไม่อยู่ในอารมณ์รับรู้เรื่องปลีกย่อย จึงไม่ทันสังเกตความนัย แม้แต่ตัวเขาเองหลุดอะไรออกมาโดยไม่ตั้งใจก็ยังไม่รู้ตัว...
                    “ไม่ต้อง ขอบใจ …อย่าตามไปเลย เดี๋ยวผมเอาอยู่!”
                    “งั้นผมขอห่างๆ ไว้ดีกว่าขอรับ ได้ยินคำว่า ‘เอาอยู่’ ทีไร เสียวน้ำแตกแบบน้องปูทู๊กที ท่านผู้กำกับเจอสวาทท่านสารวัตรเข้าไป จะขาดใจไหมนี่?!”
                    ท่านสารวัตรหันมาขมวดคิ้วเข้มดุใส่จ่ายิ้มเป็นเชิงปราม แล้วรีบเหยียบคันเร่งให้รถตำรวจของเขาพุ่งทยานไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น ทิ้งให้ลูกน้องมองตามด้วยแววตารักและเทิดทูน
                    โอ๊ย... เจ้านายใครเนี่ย แอบหื่นหรือเปล่าไม่รู้... แต่เท่ห์!!!
                   
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×