ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ...4... แปดข้อหาพญามาร
4
แปดข้อหาพญามาร
‘ของกลาง’ (จริงๆ) ที่รวบรวมได้ถูกวางเรียงไว้ข้างเสาใกล้จุดเกิดเหตุ...
ที่สะดุดตาคือ แผ่นซีดีมากมายจากกระเป๋าใบใหญ่ แค่มองซองพลาสติกและปกกระดาษปราดเดียว ไม่ต้องเป็นตำรวจก็ดูออกแล้วว่าเป็นแผ่นผีซีดีเถื่อน
แต่สิ่งที่ทำให้สารวัตรหนุ่มหันควับไปมองหน้าผู้ต้องหา คือภาพปกหลายสิบแผ่นเป็นรูปสาวสวยหมวยอึ๋มร่างเปลือยเปล่า ไม่ต้องมีสัญลักษณ์ XXX ก็รู้แล้วว่าเป็นหนังผู้ใหญ่ ซึ่งผิดกฎหมายไทย
“เธอแอบดูหนังลามกด้วยหรือนี่?” องค์อาตม์ถามเสียงเข้ม
จ่ายิ้มเกือบหลุดหัวเราะออกมา สีหน้าท่าทางและคำถามของเจ้านายเขา มันใช่ตำรวจสอบผู้ต้องหาเสียที่ไหนเล่า เหมือนพ่อเจอหนังโป๊ใต้เตียงลูกสาวจอมซ่ามากกว่า!
“หนุ่มๆ ในกองถ่ายเขาเอามาให้ยืมค่ะ แหะๆ” เธอฉีกยิ้มสารภาพตรงๆ
“อ้อ... ยืมหนังโป๊จากผู้ชาย?”
ถ้าตำรวจฟาดก้นคนร้ายไม่ผิดกฎหมายล่ะก็ เขาจะขอทำเดี๋ยวนี้เลย!
“ฉันเอามาดูเป็นตัวอย่าง ว่าเขาถ่ายฉากหวิวกันอย่างไร”
“อะไรนะ?! นี่แปลว่าเธอสร้างหนังโป๊รึ?” ถ้าท่านสารวัตรมีหนวด หนวดคงกระดิกไม่หยุดแน่
“ทำไมคุณตำรวจต้องทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ ฮ่าๆ... มันก็แค่มนุษย์สืบพันธุ์เท่านั้นเอง”
พญามารสาวมีพ่อเป็นหมอยูโร...เชี่ยวชาญด้านบุรุษเพศ ส่วนแม่ก็เป็นหมอสูติฯ เรื่องเพศศึกษา เธอได้ยินพ่อแม่เม้ากันมาตั้งแต่จำความได้ ฟังจนเป็นนิทานก่อนนอนไปแล้ว เพราะบ้านเธอมีนโยบายไม่ปิดบังเรื่องธรรมชาติ ลูกสาวจะได้รู้ทันเล่ห์ผู้ชาย ไม่โดนใครหลอกกินง่ายๆ กลายเป็นพญามารร้ายไม่มีใครกลืนลงไปได้แบบทุกวันนี้ แต่ ‘คนนอก’ อย่างเขาไม่รู้ เข้าใจผิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ...
ผู้หญิงอะไรนี่ พูดออกมาได้หน้าตาเฉย หรือเธอจะเคยมีประสบการณ์พรรค์นี้มามากจนด้านชา? แถมยังโปรดปรานถึงขนาดทำอาชีพเป็นผู้กำกับหนังอย่างว่า?
อา... แค่คิด สารวัตรหนุ่มก็แทบจะคุ้มคลั่ง
พญาเห็นดังนั้นก็เข้าใจว่า ท่านสารวัตรโมโหที่เธอสร้างหนังโป๊ผิดกฎหมายไทย จึงรีบอธิบาย...
“ฉันไม่ได้ทำหนังโป๊หรอกค่ะ จริงๆ แล้ว ฉันทำหนังแอ๊คชั่น แต่กลัวว่าถ้าไม่มีฉากเรท เดี๋ยวเรตติ้งไม่ดี ไม่มีใครมาดู”
ก็โพลสำรวจทางการตลาดพบว่า ผู้บริโภคกว่าครึ่งนิยมชมชอบเลิฟซีนหวิวๆ นี่นา
สารวัตรหนุ่มหรี่ตาคมมองเธออย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะหันไปหาของกลางมาตรวจสอบ แล้วเขาก็พบคอมพิวเตอร์ซึ่งซิงค์อยู่กับกล้องถ่ายหนังของเธอ จึงเปิดขึ้นมาสุ่มตรวจดูว่ามีไฟล์งานอะไรที่เธอถ่ายเก็บไว้บ้าง
“อย่านะ! อย่ามาแตะต้องของฉันนะ ...เกิดคุณตำรวจเล่นจนพังขึ้นมา ฉันจะหากินอย่างไร อุตส่าห์ถ่ายทำแทบตาย” เธอพยายามกางปีกกันท่าเต็มที่ราวกับแม่ไก่หวงไข่ หากหญิงสาวร่างบางอย่างเธอหรือจะสู้แรงชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อย่างเขาได้ ไม่มีทาง
ความจริงนางสาวพญาแค่หวงของ แต่นั่นกลับยิ่งทำให้เขาเข้าใจผิด คิดว่ามีฉากหวิวซ่อนอยู่ เธอจึงไม่ยอมให้เขาดู เขาก็ยิ่งต้องดูให้ได้
“ไม่ต้องห่วงน่า ฉันไม่ทำเจ๊งหรอก”
มันสมองของเขาระดับผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ระเบิดที่ว่าซับซ้อนแค่ไหน เขายังจัดการได้ ...เคยปราบเด็กช่างกลด้วยการโชว์ถอดปืนที่ยึดมาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยภายในเวลาไม่ถึงชั่วอึดลมหายใจ จนเปลี่ยนนิสัยจากที่เคยยกพวกตีรันฟันแทง เอาปืนมายิงกัน กลายเป็นจัดแข่งขันถอดประกอบปืน แล้วนับประสาอะไรกับแค่เปิดดูฟุตเทจแค่นี้ ...กระจอก!
แล้วเขาก็ได้พบกับ ‘ฉากหวิว’ จริงๆ
เป็นไฟล์ล่าสุด ดูจากวันที่ ก็รู้ว่านี่เป็นผลงานใหม่ซึ่งเพิ่งถ่ายทำสดๆ ร้อนๆ วันนี้นี่เอง!
พระเอกฉากหวิวดังกล่าวอยู่ในชุดตำรวจสีกากีค่อนข้างรัดรูปเน้นสรีระ ด้วยสีสรรของผ้าที่คล้ายผิวเนื้อ เมื่อรวมกับมุมกล้องที่ค่อยๆ แพนจากบนลงล่างช้าๆ ทำให้รู้สึกเหมือนผู้ดู เป็นเจ้าของสายตาสาวหื่นแอบโลมเลียชาย ปลดเปลื้องเครื่องแบบที่ใส่ด้วยจินตนาการอนาจารสุดบรรเจิด โดยเฉพาะเมื่อมุมกล้องส่องเลยใต้เข็มขัดลงมา ก็ซูมอินเข้าไปราวกับพยายามเพ่งมองให้ทะลุเป้า!
แต่ที่ท่านสารวัตรรับไม่ได้สุดๆ ...พระเอกคนนี้ คือตัวเขาเอง!
เธอหลอกเขามากู้ระเบิดกล่องหัวใจ แต่กลับแอบตั้งกล้องซูมส่องกล่องดวงใจของเขาหรือนี่!!?
ถ้าเจ้าหน้าที่ที่มาไม่ใช่เขา เธอก็จะส่องดูเป้ากางเกงของชายอื่นงั้นหรือ ผู้หญิงคนนี้...?!
“ฉันขอเพิ่มข้อหาให้เธออีกสอง... มีของเถื่อนไว้ในครอบครอง และผลิตสื่อลามก!”
“เดี๋ยวๆ ค่ะ ลามกตรงไหนคะ? คุณตำรวจไม่ได้ถอดกางเกงเสียหน่อย”
“เดี๋ยวๆ ค่ะ ลามกตรงไหนคะ? คุณตำรวจไม่ได้ถอดกางเกงเสียหน่อย”
“นี่ยังจะเถียงอีกหรือ หลักฐานมัดตัวขนาดนี้?”
ไอ้ที่เธอซูมนั่นน่ะ ถ้าเอาไปทำเป็นหนัง 3 มิติล่ะก็ ตุงทะลุแว่นจิ้มตาคนดูแน่!
“พูดไม่รู้เรื่อง ไปคุยกันต่อที่สถานีฯ ดีกว่า!”
“ไม่นะ ฉันไม่ไปเด็ดขาด”
ขนาดอยู่หน้าห้าง เธอยังโดนล้วงที่ลับจับที่แจ้งเสียจนหมดเนื้อหมดตัว เล่นเอาระทวยเกือบตาย ถ้าย้ายไปถิ่นเขา เธอจะต้องโดนขนาดไหนเล่า เขามิควักอะไรต่อมิอะไรของเธอออกมาหมดไส้หมดพุงเลยหรือ?!
ในยามกระทันหัน สัญชาติญาณเอาตัวรอดอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพญามารร้ายก็เริ่มทำงาน...
“คุณตำรวจคะ คุณมียศเป็นแค่สารวัตร จับฉันไม่ได้หรอกค่ะ”
ได้ฟังดังนั้น คิ้วหนาก็ขมวดเข้าหากัน
“เพราะฉันเป็นถึง ‘ผู้กำกับ’ เชียวนะคะ” พญามารร้ายเชิดจนหน้าแทบจะขนานกับฟ้า ก็ผู้กำกับใหญ่สุดในโรงพักนี่นา ฮ่าๆๆ
“ทำหน้าไม่เชื่อเหรอคะ? งั้นก็ลองไปถามทีมงานในกองถ่ายดูก็ได้ พวกเขาเรียกฉันเป็น ‘ผู้กำกับ’ หมดทุกคน”
เขาไม่ใช่ไม่เชื่อ... แต่เชื่อหมดใจแล้วว่า เธอมันพญามารร้ายตัวจริง!
เห็นเขาเจอมุกนี้เข้าไปยืนนิ่งอึ้งตะลึงงัน ‘ผู้กำกับ’ ก็ยิ่งได้ใจ เบ่งใหญ่...
“คุณตำรวจก็แค่ ‘สารวัตร’ ยศต่ำกว่าฉัน ‘ท่านผู้กำกับ’ เจอกันเมื่อไร คุณต้องยกมือตะเบ๊ะให้หรือไม่ก็ไหว้ฉันด้วย”
“ครับ... ผมมีเรื่องอยากแจ้งให้ท่านผู้กำกับรับทราบไว้สักสองสามข้อ...”
โอ้โห! ได้ผลแฮะ ถ้าไม่นับน้ำเสียงโหดๆ นั้น สำนวนท่านสารวัตรที่พูดกับเธอเปลี่ยนไปเป็นนอบน้อมขึ้นมาทันที มิน่าเล่า เขาถึงว่าคนในเครื่องแบบเน้นความสำคัญของลำดับอาวุโส
“เรื่องแรก... ‘สารวัตร’ และ ‘ผู้กำกับ’ เป็น ‘ตำแหน่ง’ ครับ ไม่ใช่ ‘ยศ’ ...ผมมีตำแหน่งเป็น ‘สารวัตร’ ยศ ‘พันตำรวจตรี’ ...ส่วนท่าน มีตำแหน่งเป็น ‘ผู้กำกับ’ แต่ยศอะไร อันนี้ผมไม่ทราบ!” เขาอธิบายเสียงเรียบ มีผลทำให้พญาคิดถึงพ่อแม่และพี่ชายขึ้นมาทันที เพราะหมออื่นคงไม่รับเย็บหน้าให้เธอแน่
“เรื่องต่อมา...” เขาชี้แจงเสียงเย็นเยียบ “...ที่ท่านบอกว่า ‘สารวัตร’ จับ ‘ผู้กำกับ’ ไม่ได้นั้น ขอโทษนะครับ... จับได้ไม่ได้ ก็จับไปแล้ว! จับหมดทุกส่วนแล้ว!!!”
กรี๊ด!!! ไม่ต้องตอกย้ำช้ำเติมเธอออกมาเป็นคำพูดก็ได้ คนใจร้าย!
“เรื่องสุดท้าย... เอาไปอีกหนึ่งข้อหา... แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ!”
“อะไรกันคะ แค่นี้ก็เป็นข้อหาแล้วหรือ?” พญามารร้ายโวยวาย แต่สารวัตรหนุ่มไม่ฟังเสียง จับแขนเรียวบางทั้งสองข้างไพล่หลังแล้วสวมกุญแจมือทันที เพื่อป้องกันมิให้ปลาไหลน้อยๆ ตัวนี้ลื่นไปไหนได้
หากแค่ใส่กุญแจมือได้เพียงข้างเดียว เธอก็แผลงฤทธิ์!...
“ไม่ๆๆ... ทำเหมือนกับฉันเป็นโจรผู้ร้ายแบบนี้ไม่ได้นะคะ ฉันไม่ยอม... ไม่ยอม
” คราวนี้พญามารลงไปดิ้นพล่านกลางลาน แล้วออกลวดลายผู้กำกับหนังแอ๊คชั่นบู๊ล้างผลาญ ให้สมกับที่เธอสู้อุตส่าห์ไปขอเรียนกระบวนท่าวิทยายุทธ์จาก ‘เจ็ท ลี’ และ ‘แจ๊คกี้ ชาง’ มา ตวัดขาเตะสูง หวังให้ท่านสารวัตรหน้าหงาย เธอจะได้หมุนตัวตามด้วยศอกและเข่า
ทว่า... ขาที่เตะออกไปกลับถูกมือใหญ่แข็งแรงกว่ายึดไว้ในท่าชี้ฟ้ากลางอากาศ! ครั้นจะดึงกลับมา เขาก็ยึดมันไว้มั่นไม่ยอมปล่อย
“มอบตัวให้ผมซะดีๆ ดีกว่า อย่าขัดขืน!” เขาตะคอกเสียงโหดใส่ผู้ต้องหาด้วยสำนวนสามัญประจำปากตำรวจ แต่คนฟังแปลความไปถึงไหนๆ
พญามารสาวซึ่งกำลังกางขาอ้าซ่า ก็ระแวงสายตาคมดุกำลังเล็งส่อง ‘ของกลาง’ ตรงหน้า กลัวใจเหลือเกินว่า ขืนยอม ‘มอบตัว’ เธอก็ต้อง ‘เสียตัว’ ให้เขาเป็นแม่นมั่น คิดได้ดังนั้น จึงตัดสินใจงัดเอาท่าไม้ตายออกมาใช้แบบไม่ง้อสตั๊นไม่พึ่งสลิง ดีดตัวลอยขึ้นแล้วใช้ขาอีกข้างที่ยังมีอิสรภาพถีบสุดแรง!
หากแทนที่จะถีบโดน ‘ของแข็ง’ ที่เล็งไว้ กลับกลายเป็นความว่างเปล่า! เขาหลบเท้าน้อยๆ ของเธอด้วยความไวที่เหนือชั้นกว่า แล้วปล่อยให้แรงดึงดูดของโลกช่วยจัดการ พญามารร้ายหงายหลังลงไปนอนแผ่อย่างหมดท่า
แต่ด้วยความเมตตาจากท่านสารวัตร เป็นห่วงหัวผู้ต้องหาคนสำคัญโหม่งพื้นสูญเสียความทรงจำให้ปากคำไม่ได้ จึงยื่นมือเข้าปกป้อง ใช้สองแขนโอบประคองรองรับร่างบางไว้ก่อนจะถึงพื้น โดยมีร่างสูงใหญ่ของเขาทาบทับอยู่ด้านบนอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง!
“ขอเพิ่มอีกกระทง... ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ!”
“ไม่จริง คุณตำรวจขี้โกง!”
คนทั้งโลกยกย่องว่าเขาซื่อตรง คงมีแต่เธอเท่านั้นละมั๊งที่ด่าว่าเขา ‘ขี้โกง’
“เล่นขี้โกงนี่นา จับเค้าแล้วรังแก รังแกเสร็จแล้วก็แจ้งจับเค้าอีก แบบนี้มันกลั่นแกล้งประชาชนชัดๆ!” เธอใส่เขาเป็นชุด “ชิ... ‘ค้นตัว’ กะผีสิ! จริงๆ ก็หลอกแต๊ะอั๋ง ฉันรู้ทันนะ ไอ้ท่านสารวัตรองคชาติ!”
“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?” เขาสะดุดหูกับ ‘นามมงคล’ ที่เธอตั้งให้
“ไหนเรียกใหม่อีกทีซิ”
พญามารร้ายแอบขำ ทำเป็นงง เดี๋ยวจะช่วยอธิบายให้หายงง เธอออกแรงดันหัวไหล่คนตัวโตที่นอนคว่ำหน้าทาบทับร่างเธออยู่ให้ขยับขึ้นไป แล้วใช้นิ้วชี้จิ้มที่ป้ายชื่อบนอก จงใจให้นิ้วปิดตัวการัณท์ของคำว่า ‘องค์’ และตรงคำว่า ‘อาตม์’ พอดี
“นี่ไงคะ ...องค-ชาติ-ชู-ชัย” เธออ่านย้ำให้เจ้าของชื่อฟังชัดๆ ทีละตัว อ่านจบก็เพิ่งนึกอะไรขึ้นได้
“อุ๊ยตายว๊ายกรี๊ด! ไม่ใช่แค่องคชาติเฉยๆ นะคะ ทั้ง ‘ชู’ ทั้ง ‘ไช’
จั๊กจี้จังค่ะ!”
เวรกรรม! หมดกัน...ชื่อที่บิดามารดาตั้งให้กับนามสกุลพระราชทาน
ชื่อของเขาพ้องเสียงกับคำว่า ‘องอาจ’ ที่แปลว่างามสง่ากล้าหาญ แต่ ‘องค์อาตม์’ มีความหมายว่า ‘เป็นตัวของตัวเอง’ ซึ่งเหมาะสำหรับกับคนตรงไม่ยอมไหลตามน้ำ และมีความคิดเป็นตัวของตัวเองอย่างเขายิ่งนัก
ส่วน ‘ชาติชูชัย’ แทบไม่ต้องแปล มีความหมายตรงตัว สมกับตระกูลข้าราชการทหารตำรวจเก่าแก่แต่โบราณ
ไม่เคยมีใครหาญกล้าล้อชื่อนามสกุลอันไพเราะคล้องจองและฟังดูสมชายชาติอาชาไนยเช่นเขาเลยสักคน นอกจากเธอ... พญามารร้าย!
น่าตายนัก!!! เด็กบ้าอะไรนี่ บังอาจลองดีกับเขาถึงปานนี้
“ความอดทนของฉันมีขีดจำกัดนะ...พญา” สารวัตรหนุ่มเตือนเสียงเหี้ยม “จำไว้... ถ้าเธอเรียกหา ‘องคชาติชูชัย’ อีกแม้แต่คำเดียว ฉันสัญญาว่า จะให้เธอได้เจอกับองคชาติชูไชของจริง!”
กรี๊ดดด!!! ช่วยด้วย... แค่คิดตามก็เลือดกำเดาไหลน้ำลายฟูมปากแล้ว ยังจะทำท่าประกอบคำพูดด้วยการกด ‘ท่านองค์ฯ’ ลงมาเป็นจังหวะอีก
ได้โปรด... อย่าเพิ่งมาไชอะไรเธอนะ รอให้เธอมีโอกาสได้ส่งหนังไปคานส์เสียก่อน แล้วจะยอมให้ไชแต่โดยดี เอ้ย... แล้วค่อย ยอม... อ่า... มอบตัวให้เขาจับกุมอย่างไรก็ได้แต่โดยดี
“ตอนนี้ เจอข้อหาหมิ่นประมาทไปพลางๆ ก่อนก็แล้วกัน!”
โอย ...โดนไปกี่กระทงแล้วนี่ แบบนี้เธอจะต้องโทษสถานใด? ทำอย่างไรดี แบบนี้เธอคงต้องหาทางหนีก่อนแล้วค่อยว่ากัน
สารวัตรหนุ่มพลิกร่างบางให้คว่ำหน้า ตัวเองลุกขึ้นมานั่งกางขาคร่อมเอวเธอ แล้วจับมือไพล่หลังอีกครั้งเพื่อใส่กุญแจมือข้างที่เหลือ ในจังหวะที่เขาปล่อยมือน้อยๆ ที่ถูกล๊อคเรียบร้อยแล้วนั้นเอง พญามารร้ายก็ได้โอกาสตะปบ ‘ท่านองค์ฯ’ เข้าเต็มเป้า!
พ่อเคยสอนให้พญารู้จักสรีระบุรุษเพศเป็นความรู้เผื่อไว้ป้องกันตัว ซึ่งในเชิงทฤษฎี เธอรู้หมดจุดไหนแข็ง จุดไหนอ่อน หากเอาเข้าจริงๆ เมื่อต้องนอนคว่ำหน้า หลับตาคลำทางด้านหลัง อีกทั้งยังมีกางเกงขวางกั้น มือก็ถูกล๊อคใส่กุญแจ คนไม่เคยมีประสบการณ์จึงไม่แน่ใจว่าอะไรเป็นอะไร
อา...มันเต็มไม้เต็มมือขนาดนี้หรือนี่? มีแต่ต้องใช้วิธี ลองคลำๆ คลึงๆ ดูแล้วพยายามนึกถึงคำสอนของพ่อพร้อมภาพประกอบรูปตัด ‘ท่านองค์ฯ’ ทั้งตรงและขวางเป็นแว่นๆ ที่ติดผนังห้องตรวจ
คงต้องโทษที่พ่อสอนละเอียดไป ทำให้รู้มาก จึงเสียเวลาค้นหาจุดอยู่นานจนท่านองค์อาตม์รู้ทันเสียก่อน มีหรือเขาจะยินยอมให้เธอบีบเค้นทำร้าย ‘ท่านองค์ฯ’ ง่ายๆ
“นี่เธอทำอะไรของเธอ? หา??!”
เด็กบ้า! ถูกเขาจับกุมแล้วยังหาญกล้าบังอาจย้อนกลับมา ‘จับ’ และ ‘กุม’ เขา... เดี๋ยวเถอะ!
ผลก็คือ มือซนโดนตีเพี๊ยะๆ ...แถมด้วยตีก้นอีกป้าบใหญ่ๆ!! ก่อนจะถูกควบคุมตัวขึ้นรถตำรวจไปยังสถานีฯ พร้อมด้วยของกลางและผู้ต้องสงสัยอีกหลายคน ซึ่งก็คือทีมงานพร้อมอุปกรณ์ในกองถ่ายของเธอนั่นเอง
ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมา ก็คือทั้งเจ็ดข้อหาที่ท่านสารวัตรแจ้งจับนางสาวพญา(มาร) อีกทั้งข้อหาที่แปดซึ่งเขาเพิ่มเติมภายหลัง... ‘อนาจาร’ !
ไม่ยุติธรรมเลย ทีเวลาเขาจับเธอล่ะ จับเอาจับเอา... ทีเธอจับเขาแค่นี้ ก็โดนข้อหาซะแล้ว?!
“ไม่เห็นอนาจารตรงไหน” เธอเถียงเขา “...ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเพศนะจะบอกให้”
พญามารร้ายคุยโอ่อย่างไม่เกรงใจ เพราะถือว่าตัวเองเป็น ‘ลูกครึ่ง’ ...พ่อหมอจู๋กับแม่หมอจิ๋มเชียวนะ
แต่คนไม่รู้ฟังแล้วแทบจะบ้า โมโหหึงจนอยากจับหญิงสาวหน้าไม่อายมาฆ่าถลกหนังหน้าให้หนาน้อยลงบ้าง แล้วจับใส่ตระกร้ากดแม่น้ำสักร้อยสายล้างมลทินออกไป ก่อนที่จะลบรอยชายในอดีตของเธอให้หมดสิ้นด้วยตัวเขาเอง!
คิดมาถึงตรงนี้ สารวัตรหนุ่มก็แอบตกใจตัวเอง ทำไมเขาถึงได้รู้สึกอะไรกับเธอแบบนั้น มันเหมือน... อาการที่แถวบ้านเรียกว่า... หึงหวง!
บ้าน่า... เขาจะหึงหวงเธอไปทำไม?
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น