ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องตรวจ คุณตำรวจต้องรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ...3... ค้นตัวและหัวใจ

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 55


    3
    ค้นตัวและหัวใจ
     
     
     
                    ทั้งหมดนี้ คือเหตุผลที่ทำไม สารวัตรองค์อาตม์จึงเกลียด ‘ใต้โต๊ะ’ เข้าไส้ และโมโหสุดๆ เมื่อผู้ก่อการร้ายสาวบังอาจหยามเกียรติเขาด้วยการ ‘จ่ายสด’ หน้าตาเฉย
                    แต่พญามารยังไม่เข้าใจ นึกว่าเขา ‘ไม่พอ’
                    “งบประมาณมีน้อย ต้องใช้สอยอย่างประหยัดค่ะคุณตำรวจขา... เราคนกันเอง กากีนั้ง อย่าคิดแพงเลยนะคะ” พญาสาวอ้อนเสียงหวานใส หวังหมดใจว่าเขาจะเห็นแก่ ‘ความหลังครั้งเก่าสุดแสนประทับใจ’ ไม่เอาอะไรมากไปกว่านี้
                    หากตาคมดุคู่นั้นยังคงจ้องมองเธอแน่นิ่งไม่ไหวติง!
                    เอ...หรือว่าหนึ่งร้อยมันน้อยไปจริงๆ ? ...คิดได้ดังนั้น เธอจึงควักธนบัตรให้เขาเพิ่มอีกหนึ่งใบอย่างใจป้ำ ...คราวนี้เป็นธนบัตรสีเขียว!
                    อีกตั้งยี่สิบเชียวนะ!!!
                    เมื่อเห็นกระดาษสีแดงโบกสะบัดตัดกับสีเขียวที่นิ้วขาวนวลยื่นมานั้น สารวัตรหนุ่มก็ถึงกับควันออกหู บนหัวเหมือนมีระเบิดปรมาณูพวยพุ่ง!
                    แต่ก่อนที่เธอจะถูกวิสามัญฆาตกรรม ‘จ่ายิ้ม’... จ่าตำรวจใจดีที่รับทรัพย์จากผู้กำกับสาวแถมจูจุ๊บจากนางเอกในสังกัดเธอเป็นประจำก็ปราดเข้ามาช่วยด้วยเมตตาธรรม
                    “สารวัตรท่านนี้ มีนโยบายไม่รับใต้โต๊ะนะขอรับ” จ่ากระซิบบอกหญิงสาวเอาบุญ “...ขนาดแบ๊งก์พันมาเป็นกองๆ ท่านยังปฏิเสธเลย อย่าว่าแต่แบ๊งก์ร้อยแบ๊งก์ยี่สิบ นั่นมันเรตค่าน้ำร้อยน้ำชาของพวกกระผม อย่างสารวัตรท่านน่ะ... ไม่สนเงินหรอกครับ รับอย่างมากก็แค่นมชมพูหน้าขาว” จ่ายิ้มหมายถึงน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ที่ชาวบ้านมอบให้ แต่เธอคิดไปไกลถึงไหนๆ...
                อุ๊ยตายว๊ายกรี๊ด... ไม่รับเงิน แต่ชอบนมชมพู!
                    พระเอกตำรวจในฝันของเธอทะลึ่งอะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้!!! ...ในใจแอบตำหนิเขาพอเป็นพิธี เสร็จก็รีบดึงคอเสื้อยืดกะโปโลขึ้นมา ก้มหน้ามุดหัวลงไปมองของตัวเอง สำรวจดูว่าสีสรรเป็นอย่างไร พอไหวไหม
                    อืม... ก็ขาวอมชมพูอยู่หรอกนะ เพราะเจ้าของไม่ค่อยให้โอกาสมันได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน ใส่ชุดทะมัดทะแมงเป็นประจำ ตั้งแต่เกิดมายี่สิบกว่าปี ยังไม่เคยนำไปใช้ทำประโยชน์อะไร
                    หรือว่า ถึงเวลาแล้ว?... กรี๊ดๆ
                    แต่... แต่... จะดีหรือ? ตรงนี้ก็กลางแจ้งด้วย นมชมพูกับแบ๊งค์แดงไม่เหมือนกัน ยื่นให้เขาโจ๋งครึ่มไม่ได้ ถึงจะเป็นพญามารร้ายก็อายเป็นเหมือนกันนี่นา... (อายแล้วนะนี่)
                    ขณะหันซ้ายหันขวาหาดูว่ามีใต้โต๊ะให้หลบหรือไม่ สายตาเธอก็เหลือบไปเห็นทีมงานพากันย้อนกลับมายังจุดเกิดเหตุด้วยความเป็นห่วงผู้กำกับ พร้อมด้วยนางเอกฝาแฝดสุดสวย...
                    นั่นไง ใช่เลย... นมขาวอมชมพูดึ๋งๆ ของโปรดเขา
                    แต่แทนที่พญามารสาวจะดีใจที่มีตัวช่วยโผล่มา กลับรู้สึกเสียอารมณ์อย่างแรง! …โดยเฉพาะเมื่อ สองสาวแฝดรี่เข้ามาตามแรงดึงดูดของเสน่ห์ท่านสารวัตรโดยที่เธอไม่ได้เรียกสักคำ
                    “ให้ท๊อฟฟี่กับแคนดี้ช่วยจูจุ๊บคุณตำรวจขอ ‘ส่วนลด’ อย่างเคยนะคะ” ทั้งคู่รีบอาสาอย่างรู้หน้าที่
                    ปกติเจอแต่จ่าเหี่ยวๆ แต่นี่สารวัตรหนุ่มหล่อมาดเข้ม... แบบนี้ต้องขอจัดเต็ม!
                    แต่เสียใจ หากคนอย่างองค์อาตม์ไม่ยินยอม คิดจะแตะต้องเขาน่ะรึ อย่าฝัน! ...ก่อนที่ริมฝีปากเคลือบลิปติกจะสัมผัสโดนแก้มเขา ไวกว่าที่สายตาใครจะทันเห็นว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างไร ตำแหน่งที่คนตัวโตยืนประจันหน้ากับพญาสาวอยู่ก็กลายเป็นจ่ายิ้มอวบอ้วนมารับโชคแทน... จ๊วบบบ!
                    ส่วนตัวเขากลับเข้าประชิดตัวผู้ต้องหาสาวตัวก่อเหตุ จับแขนเรียวขาวผ่องไพล่หลังจนอกแอ่น!
                    “กรี๊ด!!!”
                    ร่างบางที่ถูกวงแขนแข็งแรงล๊อคไว้ ดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจรอดพ้นได้
                    “ฉันขอจับกุมเธอ นอกจากข้อหา ‘สร้างความแตกตื่นแก่ประชาชน ทำลายความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ’ แล้ว ยังมีข้อหา ‘ติดสินบนเจ้าหน้าที่’ เพิ่มอีกกระทงด้วย!”
                    “คุณตำรวจใจร้าย ไหนว่าไม่เอาเงิน แต่เอานมชมพูไงคะ?”
                    “จ่ายิ้ม!” สารวัตรหันไปส่งสายตาโหดมองลูกน้องผู้สูงวัยกว่า จ่าไม่รอช้ารีบอธิบายคำจำกัดความของนมชมพูหน้าขาวให้ผู้ต้องหาสาวเข้าใจชัดเจน ที่ไหนได้ กลับพาพญามารร้ายหลงทิศไปไกลยิ่งกว่า...
                ตายแล้ว... ตายๆๆ พระเอกตำรวจไทยในฝันของพญา ไม่ชอบสาว แต่ชอบเครื่องดื่มสีชมพู มาดออกจะแมน ที่แท้ก็... โอ... มิน่าเล่าเขาถึงว่า ผู้ชายสมัยนี้ดูแต่รูปกายภายนอกไม่ได้เลยจริงๆ!
                    “ถ้าคุณสารวัตรไม่ชอบผู้หญิงล่ะก็ ฉันขอเสนอผู้ช่วยตากล้อง ‘น้องตุ๊กติ๊ก’ สุดล่ำประจำทีมเรา”
                    เนื่องจากมือทั้งสองข้างไม่ว่างเพราะถูกเขาจับเอาไว้ เธอจึงต้องใช้ปากน้อยๆ ยื่นไปบุ้ยใบ้ใส่หนุ่มหน้าใสขวัญใจชายรักชายที่กำลังยืนยิ้มส่งตาปิ๊งๆ มาให้ท่านสารวัตร ซึ่งยังคงเข้มไม่เปลี่ยนสีหน้า แค่หรี่ตาคมก้มลงมองหญิงสาวในวงแขน
                    “ฝากจ่าสั่งหัวหน้าชุดสืบสวนค้นของกลาง แล้วช่วยพาผู้ต้องสงสัยทั้งหมดไปสอบปากคำด้วย” เขาสั่งการเสียงต่ำทำเอาคนฟังรู้สึกเย็นยะเยือกด้วยความพรั่นพรึง
                    ในความหมายของคำสั่งนั้นคือ ‘ออกไปไกลๆ ให้หมดเดี๋ยวนี้!’  
                    “ไม่นะ... ไม่ๆๆ อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียว” พญามารสาวร้องเสียงหลง หากใครเล่าจะกล้าขัดท่านสารวัตร
                    “ขอรับผ๊ม...” จ่ายิ้มตะเบ๊ะแล้วรีบทำตามสั่ง
                    แต่ก่อนที่เขาจะกวาดต้อนทุกสิ่งทุกอย่างจากไป ก็รู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวรุ่นราวคราวลูกของเขา ซึ่งคุ้นเคยกันตามประสา ‘ประชาชนมากปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ’
                    “แล้วท่านสารวัตรล่ะขอรับ?”
                    “เดี๋ยวผมตามไป ...ขอ ‘ค้นตัว’ ผู้ต้องหารายนี้ก่อน ผมสงสัยว่าอาจซุกซ่อนอะไรร้ายๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายระหว่างสอบสวนได้!”
                    เป็นที่รู้กันว่า ท่านสารวัตรเป็นคนจริง ตรง และบางครั้งก็... โหด! หากไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เขาใช้อำนาจในทางมิชอบกับผู้ต้องหา ไม่ว่าจะตอนเป็น FBI หรือตำรวจไทย แต่ดูจากสายตาที่เขามองร่างบางในวงแขนแล้ว จ่ายิ้มชักไม่มั่นใจ...
                    “ระวังตัว (และหัวใจ) ด้วยนะขอรับ” ผู้สูงวัยแอบกลั้นหัวเราะ เอ่ยลอยๆ โดยละคำในวงเล็บไว้ในใจ ไม่ทราบเตือนใคร ผู้ต้องหาหรือสารวัตร!
     
                    “โอ๊ย... คุณตำรวจจะทำอะไรฉัน ไม่นะคะ... ไม่ๆๆ...” พญามารร้ายโวยวายตลอดทางที่ถูกคนตัวโตกึ่งลากกึ่งจูงไปยังบริเวณมุมลับสายตาหลังป้ายโฆษณาขนาดใหญ่
                    ไม่มีเสียงตอบใดจากสารวัตรหนุ่ม คนจริงอย่างเขาไม่นิยมพูด แต่นิยมลงมือทำ และเขากำลังจะให้คำตอบแก่เธอเดี๋ยวนี้แล้ว
                    พญามารสาวอยากร้องไห้ เมื่อเขาจับเธอยืนหันหน้าเข้าผนังแล้วออกคำสั่งเสียงเหี้ยม...
                    “ยกมือขึ้นทั้งสองข้างแล้วกางขาออก!”
                    เธอบังอาจหยามเกียรติเขาด้วยเงิน ยังไม่น่าเจ็บใจเท่ากับเธอยินยอมให้ปากของคนอื่นมาจูบเขา แต่ทั้งหลายทั้งปวงก็ยังไม่ร้ายเท่ากับเธอลบหลู่ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย!
                    ไม่ใช่ผู้ชายงั้นหรือ?! ฮึ่ม!... รู้จัก ‘สารวัตรองค์อาตม์ ชาติชูชัย’ น้อยไปหน่อยแล้ว!!!
                    แม้เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้ เขาอดใจไม่ทำไม่ไหวจริงๆ เธอบังอาจเกินไป คงต้องสั่งสอนเด็กบ้านี่ให้รู้สำนึกเสียบ้างว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร!
                    “ฉันสั่งให้ยกมือขึ้นแล้วกางขาออกไงเล่า” เขาทวนคำสั่งเสียงโหดกว่าเดิม พร้อมกับจัดการจับมือทั้งสองของเธอยกขึ้นสูง แล้วใช้เข่าดันขาคู่เรียวกางออกกว้างในท่ายืนจังก้า ด้านหน้าแนบผนังเย็นๆ ไม่ช่วยให้เลือดที่เดือดพล่านในกายสาวเย็นลงได้เลย เมื่อตลอดแผ่นหลังเธอต้องสัมผัสกับร่างสูงใหญ่แผ่อุ่นไอร้อนผ่าวราวกับเตารีดนาบร่างเธอไว้ สร้างความร้อนรุ่มแก่หัวใจเธอจนแทบจะระเบิด!
                    ยิ่งเมื่อมือใหญ่เริ่มขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวที่ใบหูและซอกคอ ทำเอาเธอขนลุกชันสะท้านสั่นหวั่นไหว ครั้นการสำรวจตรวจค้นไล่เรื่อยลงไปตามลำตัว... จนถึงสะโพกกลมกลึง มือคู่นั้นก็เคล้นเคลึงสองแก้มล่างจนแก้มบนแดงซ่านด้วยความอับอาย
                    “อ๊ายยย!!! จะทำอะไรน่ะ... อย่านะ... จะค้นตัวผู้หญิงก็ต้องให้ตำรวจผู้หญิงสิ” แม้ไม่รู้กฎหมาย แต่พญามารร้าย ‘ดูหนัง’ มามาก
                    ใช่ ที่เธอพูดก็จริง หากว่ากันตามระเบียบแล้ว การค้นตัวผู้ต้องหาหญิง ตำรวจชายทำไม่ได้ แต่...
                    “ก็ไหนเธอว่าฉันไม่ใช่ผู้ชายไงเล่า!” ปากคนตรงย้อนสวนกลับไปตรงๆ ด้วยเสียงเย็น
                    เขาจะให้บทเรียนกับเธอ... อย่าได้เที่ยวหยามผู้ชายไม่ใช่ผู้ชาย จะได้ไม่กล้าทำกับใครอีก
                    “ก็ผู้ชายที่ไหนชอบดูดนมชมพูอย่างนั้นเล่า... คนเขาก็ต้องเข้าใจผิดสิ... อา...”
                    เสียงใสที่เถียงฉอดๆ ค่อยๆ หายไป กลับกลายเป็นเสียงครางหวิวฟังไม่เป็นภาษา เมื่อมือคนตรงไม่ฟังเสียง ลูบไล้ต่อไปตลอดช่วงขา ขนาดผ้ายีนส์ที่ว่าหนา ยังไม่อาจขวางกั้นสัมผัสจาบจ้วงตรงไปตรงมาที่ทำเอานางสาวพญาแข้งขาอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงจนเกือบทรุด จังหวะเดียวกับมือใหญ่ซึ่งอ้อมจากเบื้องหลังมาสำรวจทางข้างหน้าไล่ตรวจค้นด้านในต้นขาจนถึงจุดสูงสุดที่ขาสองข้างมาพบกันตรงกลางพอดี ช่วงรั้งร่างบางไว้ให้ทรงตัวยืนอยู่ได้ในท่าเดิม เสริมความมั่นคงด้วยอกแกร่งกดประทับตรึงเธอไว้กับผนังอีกครั้ง
                    “ยืนดีๆ!...กางขาออกกว้างๆ จะได้ไม่ล้ม” ลมปากร้อนผ่าวที่เป่ารดข้างหูด้วยคำสั่งเชิงข่มขู่แกมหวังดี กับมือทั้งสองข้างที่ไม่ยอมจากไป กลับกดย้ำซ้ำๆ อยู่ที่เก่าทำเอาพญามารสาวถึงกับดิ้นพล่าน!
                    “กรี๊ด! …หยุดนะ... หยุดเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะฟ้องพ่อ”
                    “ฟ้องว่าโดน ‘ตำรวจจับ…’ งั้นรึ? หึหึ” เขาย้อนถามเสียงโหดแกมเย้ยหยัน
                    “ชิ!... พ่อฉันเป็นหมออวัยวะสืบพันธุ์เพศชายนะ ระวังเหอะ ฉันจะสั่งให้พ่อเจื๋อนของคุณออกมาหั่น ฉับๆๆ... เป็นแว่นๆ”
                    พญาขู่แบบชนิดบรรยายให้เห็นภาพจะๆ แล้ว แต่ดูเหมือนสารวัตรหนุ่มหากลัวไม่
                    เขาได้ยินคำขู่จากเหล่าร้ายมานับไม่ถ้วน บ้างขู่ทำร้าย บ้างขู่ฆ่า แต่ไม่เคยมีผู้ร้ายที่ไหนขู่ได้น่าโมโหแต่แอบฮาอย่างแม่เจ้าพระคุณเธอเลยจริงๆ เพิ่งเคยพบเคยเจอผู้หญิงที่บังอาจคิดร้ายกับน้องชายเขา มันทำให้หัวใจชายแกร่งรู้สึกคันยุบยิบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
                    “ฉันไม่ใช่ผู้ชายนี่ แล้วจะมีอะไรให้พ่อเธอตัดได้ไง ฮึ?” เขาถามพร้อมกับย่อตัวลงใช้ส่วนที่กล่าวถึงซึ่งกำลังแข็งขึงกดคลึงไปมาที่บั้นท้ายของเธอ ให้รู้กันชัดๆ จะๆ ไปเลยว่า เขามีให้ตัดหรือเปล่า
                    เจอ ‘ของแข็ง’ จากคนจริงเข้าไป พญามารร้ายถึงกับร้องไม่ออก
                    ยัง... ยังไม่พอ ในเมื่อเธอแสบซ่าถึงกับโดนสั่งสอนขนาดนี้ยังมีหน้าหันมาขู่เขา... ก็สมควรเพิ่มบทลงโทษให้แรงขึ้นอีก... มือใหญ่ตรวจค้น ‘ของกลาง’ ที่จุดยุทธศาสตร์จนสมใจแล้ว ก็ค่อยๆ เคลื่อนย้าย แหวกชายเสื้อหายเข้าไปในร่มผ้าทางด้านหน้า...
                    สารวัตรหนุ่มสาบานว่า เขาไม่เคยใช้อำนาจในทาง ‘มิชอบ’ มาก่อน ถึงตอนนี้ เขาจะยังคงรักษาศรัทธาที่มีให้กับตนเองในข้อนั้นได้หรือไม่ ในเมื่อสิ่งที่เขากำลังทำกับคนร้ายรายนี้ เขาไม่อาจปฏิเสธว่าเขา ‘มิชอบ’ มันได้เลยจริงๆ!
                    กลิ่นกายสาวหอมแป้งเด็กอ่อนๆ ที่เขาสูดเข้าไปเต็มปอด ช่วยปลอบใจองค์อาตม์ให้เชื่อว่าตนยังคงความเป็นตำรวจไทย ‘ใจซื่อมือสะอาด’ อยู่บ้าง ...ก็มือทั้งสองข้างของเขาแตะต้องนวลเนื้อผุดผ่องใสสะอาด และเคลื่อนไหวอย่างซื่อตรงตามใจปรารถนา!
                    นิ้วชำนาญการตรวจค้นที่สอดแทรกเข้าไปวนเวียนอยู่ระหว่างความแข็งของผนังกับความอ่อนนุ่มของยอดเนินทั้งคู่ที่ถูกเขาแกล้งกดจนนาบแนบ ยิ่งเน้นย้ำสัมผัสที่จุดอ่อนไหว ยามเมื่อเขาเคลื่อนนิ้วไปมาก็ยิ่งให้ความรู้สึกซาบซ่านอย่างที่พญามารสาวไม่เคยพบเจอมาก่อน...
                    “อย่า... อา... พอแล้ว... ไม่... ไม่ไหวแล้ว”
                    ไม่สู้แล้วหรือ เมื่อกี้ยังเห็นแอบก้มลงสำรวจดูนมชมพูของตัวเองอยู่เลย
                    สารวัตรหนุ่มซ่อนยิ้มไว้ในใบหน้าเคร่งขรึม แค่นี้คงพอได้แล้วกระมัง หวังว่า บทเรียนที่เขามอบให้จะช่วยลดทอนความร้ายกาจของเธอได้บ้างไม่มากก็น้อย คิดได้ดังนั้น มือปราบพยศเด็กดื้อก็ถอนตัวออกมา จับร่างบางหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า… ตาสบตา...
                    ไม่รู้ว่า เพราะแผ่นหลังของเธอถูกเปลี่ยนจากนาบแนบกับอกแกร่งร้อนผ่าว กลายเป็นผนังหินเย็นๆ หรือเป็นเพราะนัยน์ตาคมดุที่กำลังจ้องเธอราวกับจะกลืนกินคู่นี้ ที่ทำให้เธอรู้สึกหนาวยะเยือกจนตัวสั่นเหมือนจะจับไข้
                    “ยังคิดว่าฉันไม่ใช่ผู้ชายอยู่อีกหรือเปล่า?” เขาก้มหน้าลงกระซิบถามเสียงต่ำ
                    พญามารร้ายรีบส่ายหน้าเร็วๆ
                    “ไม่? ...หมายความว่าไง? ฉัน ‘ไม่ใช่’ ผู้ชายงั้นรึ?”
                    มีหลักฐานฟ้องชัดขนาดนั้นแล้วนะ ยังจะปากแข็งปฏิเสธอีก
                    “หรือฉันต้องแสดงหลักฐานด้วยวิธีอื่น?!”
                    คราวนี้พญารีบเปลี่ยนเป็นพยักหน้าเร็วๆ ชวนให้สารวัตรหนุ่มเห็นแล้วแอบใจอ่อนลงเล็กน้อย รู้สึกว่า ผู้ต้องหาสาวที่เขากักตัวไว้ในวงแขนเหมือนตัวอีโมติคอนดุ๊กดิ๊กน่ารักน่าขำสักตัว ไม่ใช่หญิงสาวหน้าตาดีวัยยี่สิบกว่าปีอย่างที่เธอเป็นเลย
                    เพราะเขากลัวว่าหัวผู้ต้องหาจะหลุดลงมาหรอกนะ จึงหยุดความเคลื่อนไหวของเธอไว้ด้วยการเชยคางน้อยๆ ขึ้นมา จ้องตากลมโตคู่นั้น
                    “แล้วยังจะกล้าหาใครมาจูบฉันอีกไหม?”
                    เธอจะส่ายหน้า แต่คางติดมือใหญ่ยึดไว้ขยับไม่ได้ เลยจำต้องเปลี่ยนเป็นใช้เสียงตอบ
                    “ถ้าท่านสารวัตรไม่ชอบจูบ ไม่จูบก็ได้”
                    เขาไม่ชอบจูบงั้นหรือ? หลังจากค้นตัวผู้ต้องหาจนหมดทุกซอกทุกมุมแล้ว ท่านสารวัตรต้องวนกลับมาค้นหัวใจตัวเอง...
                    ใครว่าเขาไม่ชอบจูบเล่า เขาแค่ไม่ชอบที่เธอหาใครอื่นมาจูบเขา แต่ถ้าเป็นริมฝีปากเล็กๆ ที่อยู่ตรงหน้านี้ล่ะก็... เขาไม่แน่ใจเลยว่า จะใจแข็งปฏิเสธไม่รับสินบนของเธอไหวไหม
                    หรือควรรับไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในเอาผิดเธอ ข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่?
                    หัวใจพญามารร้ายแทบจะวายตาย เมื่อใบหน้าคมเข้มของท่านสารวัตรก้มต่ำลง... ต่ำลง... เรื่อยๆ จนจมูกโด่งเป็นสันแตะจมูกน้อยๆ ของเธอ... คล้ายดั่งบังคับให้สูดเอาลมหายใจอุ่นๆ ของเขาเข้าไปกับลมหายใจของเธอ แล้วริมฝีปากได้รูปก็ตามลงมา...
                    เธอไม่รู้ตัวเลยว่าหลับตาลงตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกครั้งก็เมื่อได้ยินเสียงไอกระแอมของจ่ายิ้มดังขึ้นกระทันหัน โดยยังไม่ทันได้รับสัมผัสใดๆ ที่ริมฝีปากเลย ซึ่งปลุกให้เธอลืมตาขึ้นพลัน ทันได้เห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาของเขาอยู่ในระยะชิดใกล้แค่ไหน ก่อนจะผละจากไปอย่างสุดแสนเสียดาย
                    “ท่านสารวัตรเสร็จหรือยังขอรับ?” จ่ายิ้มถามด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา ปั้นหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เห็นสีหน้าละอายใจหรือสายตาอาฆาตของใครเลยจริงๆ “…อ่า... กระผมหมายถึง ปฏิบัติการค้นตัวเสร็จหรือยังน่ะขอรับ หุหุ”
                    “มีอะไรก็รีบว่ามา” เห็นสายตารู้ทันของลูกน้องแล้ว คนเป็นนายก็รีบตัดบทเสียงเย็น
                    “เอ่อ... หน่วยสืบสวนรวบรวมหลักฐานไว้ทางโน้น อยากจะเชิญท่านสารวัตรไปตรวจดูหน่อยครับ”
                    เป็นห่วงเจ้านายหรอกนะ จึงมาขัดจังหวะด้วยความรักและเคารพ แต่ถ้าท่านสารวัตรสุดหล่อของเขาอยากเข้าซังเตเป็นเพื่อนผู้ต้องหารายนี้จริงๆ ล่ะก็ ขอให้บอกมา จ่ายิ้มจะได้จัดหาทุนมาตกแต่งห้องขังคู่ให้อยู่เป็นพิเศษ งบราชการคงไม่มี แต่ถ้าเรี่ยไรตำรวจทุกนายที่รู้จักท่านองค์อาตม์ล่ะก็ รับรอง... ทำห้องขังฮันนีมูนสวีทยังได้!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×