ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ YAOI ] GUNGUS...{ รักนะครับรุ่นพี่ }

    ลำดับตอนที่ #6 : chapter : 05{สร้างกระแส} 70%

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 59


     

    บทที่ : 05

    สร้างกระแส



    พี่มาอยู่กับผมนะหลังจากที่นั่งเงียบกันมาจะค่อนทางผมก็พูดขึ้นมา เล่นเอาคนที่นั่งนิ่งตลอดทางตั้งแต่ขึ้นรถมาต้องหันมามองผม

     

    วันนี้ผมต้องตื่นเช้าเพื่อไปส่งพี่กัสที่มหาลัยเพราะพี่มันมีเรียนเช้าแต่ผมดันมีเรียนบ่าย ตอนแรกพี่มันบอกจะไปเองนั่นแหละครับแต่ผมอยากไปส่งเลยต้องโกหกพี่มันว่ามีเรียนเช้าเหมือนกันพี่มันเลยยอมนั่งรถมากับผม

     

    ผมมองพี่กัสตอบ สายตาก็สื่อถึงความจริงจังกับประโยคที่พูดไปเมื่อกี้ เรื่องนี้ผมนั่งคิดนอนคิดตีลังกาคิดแล้วทั้งคืน ผมอยากให้พี่กัสมาอยู่ด้วยอย่างน้อยก็แค่ตอนที่ไอ้แฟนเก่ามันตามง้อพี่กัส ผมไม่อยากให้พี่มันไปเจอหมอนั่นในขณะที่ใจยังตัดมันไม่ขาด


    ผมกลัวใจพี่กัสครับ ถึงผมจะเพิ่งรู้จักพี่มันมาแค่ไม่กี่วันแต่ผมก็รู้ว่าพี่มันเป็นคนขี้ใจอ่อนมากถึงบางครั้งจะดูใจเด็ดไปบ้างก็เถอะ ผมเลยต้องหาทางทำให้พวกเขาสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ต้องขัดขวางครับเพราะฉะนั้นผมต้องเอาพี่กัสไปอยู่กับผมชั่วคราวให้ได้

     

    นะพี่กัส


    เป็นเหี้ยไรอีกเนี่ย ผีเข้าหรอถึงชวนเราไปค้างบ้าน


    ผมหมายถึงให้ไปอยู่ชั่วคราว


    คอนโดเราก็มี จะไปอยู่บ้านนายทำเหี้ยไรนี่ตกลงมันจะพูดเพราะหรือพูดหยาบกันวะสงสัยผมจะบังคับพี่มันมากไปถึงได้จับมาผสมกันซะมั่วเลย


    ก็ผมไม่อยากให้พี่เจอหน้าไอ้แฟนเก่านั่น เชื่อดิว่ามันต้องไปดักรอพี่ที่คอนโดแน่


    เราบอกแล้วไงว่านั่นมันเรื่องของเราใช่ซี่ผมมันคนนอกนี่ รีบๆขับรถเถอะ เดี๋ยวไม่มีเวลากินข้าวพูดเสร็จก็เบือนหน้าหนีผมไปมองข้างทางเหมือนตัดบทสนทนาเรื่องนี้ ผมเลยต้องหันมาสนใจทางข้างหน้าต่อ ไม่อยากเร่งรัดพี่มันมากเกินไปเดี๋ยวจะหาว่าผมยุ่งวุ่นวายกับพี่มันมากเกิน


    ก็รู้แหละว่าถ้าพูดตอนนี้พี่กัสคงไม่ยอมผมง่ายๆ ก็เมื่อคืนผมเล่นรุกพี่มันหนักไปหน่อยเช้ามาเลยระวังตัวเป็นพิเศษ ขนาดผมขอ Morning kiss มันยังไม่ให้เลยต้องขโมยเอาแต่ได้แค่เฉียดแก้มเพราะพี่มันดันไหวตัวทัน เรื่องนี้พี่กัสคงจะระแวงผมไปอีกนานเลย

     

    ผมเลี้ยวรถเข้าโรงจอดรถก่อนจะจอดมันตรงพื้นที่จอด พอรถหยุดคนที่นั่งนิ่งอยู่อีกฝั่งก็เปิดประตูรถแล้วเดินออกไปไม่รอผมเลยครับ ผมเลยต้องรีบออกจากรถตามพี่มันไป


    พี่กัสเดินเข้าตึกวิศวะแล้วตรงเข้าโรงอาหารไปเลย ตลอดทางที่พี่มันเดินผ่านก็จะมีแต่คนมองสลับกับมองผม คนถูกมองอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นของสูงเลยไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่เปล่าครับ มันมีอะไรที่มากกว่านั้น ผมรู้ได้ไงนะหรอ ก็ผมเป็นคนทำไง หึหึ 

     


    พี่กัสเอาของมาวางที่โต๊ะก่อนจะเดินออกไปหาอะไรกิน ผมเลยเอากระเป๋าตัวเองมาวางข้างๆกับของพี่มัน ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงกว่าๆแล้วครับ ที่โรงอาหารเลยค่อนข้างมีคนเยอะหน่อยเพราะพวกที่เตรียมมารอเรียนเช้าจะพากันมากินข้าวที่นี่เพื่อความสะดวกสบายและง่ายต่อการขึ้นเรียน


    มหาลัยที่ผมเรียนโรงอาหารดูเป็นส่วนตัวมากเพราะมีโรงอาหารอยู่ในตึกของใครของมัน  ทุกคณะจะไม่มีการข้ามเขตแดนมากินที่คณะอื่น ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมเพราะผมพึ่งเข้าเรียนปีหนึ่ง แต่พวกรุ่นพี่เขาเตือนพวกผมอยู่เหมือนกันว่าอย่าเข้าไปเดี๋ยวเป็นเรื่อง

     

    ผมมองพวกวิศวะที่เอาแต่จ้องพี่กัสไม่วางตาก่อนที่สายตาของพวกนั้นจะเหล่ลงไปมองคอระหงของพี่มันแล้วทำหน้าตกใจเหมือนไม่อยากเชื่อบ้าง สงสัยบ้าง ทำไมวะ กับอีแค่มีรอยแดงตรงคอ ทำเป็นตื่นเต้นกันไปได้ 


    ผมรีบก้าวเท้าไปหาคนที่ยืนสั่งข้าวอยู่ที่ร้านอาหารตามสั่ง ไปถึงก็เอามือไปจับตรงราวกั้นเพื่อให้ดูเหมือนเป็นการโอบเอวพี่มันไว้เพื่อให้คนที่มองอยู่อิจฉาเล่น รำคาญแม่งมองพี่กัสอยู่ได้ พี่มันก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าผมคิดจะทำอะไร ผมขยับตัวเข้าหาพี่กัสอีกหน่อยแล้วเอาคางเกยไหล่พี่มัน จะเรียกว่าสร้างกระแสก็ได้ครับ หึหึ


    ที่ทำแบบนี้ก็แค่แสดงความเป็นเจ้าของพี่มันโดยไม่ให้เจ้าตัวรู้ตัวและเพื่อเปิดเผยไอ้ตัวการที่ทำรอยอันเร่าร้อนไว้บนคอพี่กัสคือผมและพวกที่มองอยู่จะได้รู้ว่าของใครเป็นของใคร หึหึ


    จะยื่นหน้าเข้ามาทำไมวะพี่กัสโวยวายขึ้นเมื่อผมวางคางไว้บนไหล่ก่อนจะขยับหนีผมไป


    ผมเอาเหมือนพี่นะสั่งให้ด้วย


    มาเพื่อบอกแค่นี้หรอ ตะโกนบอกก็ได้มั้ง


    ผมไม่อยากตะโกนนี่ เดี๋ยวกลับไปเฝ้าโต๊ะให้สร้างภาพเสร็จก็เดินกลับโต๊ะมานั่ง และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นรอ


    ผมปลดล็อคมือถือแล้วเข้าไปในรูปภาพ ภาพแรกที่ปรากฏเลยคือภาพผู้ชายสองคนนอนกอดกัน ผมไม่รีรอที่จะกดเข้าไปดูรูปแบบเต็มจอทันที ภาพที่ปรากฏขึ้นทำให้ผมยิ้มออกมา ผมมองภาพผู้ชายสองที่คนนึงยิ้มให้กล้องและอีกคนหลับสนิทไม่รู้เลยว่าถูกผมแอบถ่ายรูปไว้ ผมมองพี่กัสที่อยู่ในรูปอย่างนึกเสียดาย


    เสียดายที่เมื่อคืนไม่ได้ลักหลับคนน่ารักไง นี่ถ้ารู้ว่าตอนหลับจะน่ารักขนาดนี้ผมไม่ปล่อยไปหรอก เมื่อคืนพอแอบถ่ายรูปพี่มันเสร็จผมก็นอนเลยรูปก็ไม่ได้ดูว่าเป็นยังไงด้วย กว่าพี่มันจะหลับให้ถ่ายผมต้องรอยันเกือบตีสองถ้าเอาเวลาไปดูรูปด้วยเมื่อคืนผมคงไม่ได้นอนว่ะ ผมนี่ก็ลงทุนเนอะ อ้อ...อีกเรื่องนึงที่ผมเพิ่งรู้เกี่ยวกับพี่กัสคือพี่มันหลับลึกมากขนาดผมจัดท่าทางพี่มันเพื่อถ่ายรูปยังไม่ตื่นเลยหลับลึกเกินไปแล้ว

     

    ตึก

     

    พี่กัสเดินมาวางข้าวลงบนโต๊ะก่อนจะเลื่อนมาตรงหน้าผม ผมเลยต้องเงยหน้าขึ้นไปมองพี่มันที่มาใหม่และรีบเก็บโทรศัพย์อย่างแนบเนียน เดี๋ยวมันจะรู้ว่าแอบถ่ายตอนมันหลับ


    ผมละสายตาจากพี่กัสแล้วก้มลงมามองจานข้าวตัวเอง อยากรู้ว่าคนหน้าหวานๆแบบพี่กัสจะกินอะไร

     

    “...” นิ่งไปเลยสิเมื่อเห็นว่าจานข้าวของผมมันคืออะไร หันไปมองของคนที่สั่งให้เพราะคิดว่ามันแกล้งแต่เปล่า ทั้งสองจานเหมือนกันเป๊ะเลยครับ เฮ้ย! เอาจริงดิ บนโลกนี้ยังมีคนสั่งข้าวผัดมากินด้วยหรอวะ

     

    มองอะไรคนตรงหน้าผมถามเมื่อเห็นผมมองพี่มันไม่หยุด

     

    เปล่าจะให้บอกได้ไงว่าอึ้งที่พี่มันสั่งข้าวผัดมากิน พี่ชอบกินข้าวผัดหรอ

     

    เปล่า แต่ในโรงอาหารมีแต่ของเผ็ดๆ

     

    กินเผ็ดไม่ได้

     

    อือตอบผมทั้งที่ข้าวเต็มปาก แก้มพี่กัสพองขึ้นเพราะมีข้าวอยู่ข้างในเห็นเเล้วอยากเอามือไปหยิกชิบหาย น่ารักว่ะ

     

    เมื่อเจ้าตัวถูกผมจ้องมากก็ส่งสายตาดุๆมาให้ ผมเลยละสายตาออกมามองข้าวในจานต่อ นี่สรุปผมต้องกินมันสินะ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบข้าวผัดนะครับแต่แบบมันเป็นอาหารที่สมควรกินที่บ้านเฉพาะเวลาหิว ไม่น่ามาสั่งตามร้านอาหารได้ เพราะมันทำง่ายและก็สิ้นคิดมากไป หรือคนอื่นเค้าสั่งกินกันวะ

     

    ไม่กินคนที่นั่งกินฝั่งตรงข้ามกับผมเงยหน้าขึ้นถามเมื่อเห็นผมลังเลไม่ยอมกินมันสักที

     

    กินๆผมตักข้าวผัดเข้าปากก่อนจะเขี้ยวตุ้ยๆ มันก็อร่อยอยู่หรอกแต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลามาหิวข้าวผัดครับ

     

    ไม่ชอบก็ไปซื้อใหม่ เราไม่ชอบบังคับฝืนใจใครให้กินตามเรา

     

    ห่วงผมหรอ((^-^))” 

     

    เราไม่ได้ห่วงคนตรงหน้าก็ตอบตรงเชียว เล่นเอาหุบยิ้มแทบไม่ทันเลย

     

    เรานั่งกินข้าวกันไม่นานก็หมดจาน ผมเลยเก็บจานข้าวทั้งของผมและของไอ้พี่กัสไปเก็บ ด้วยเลย มีไม่ยอมให้ผมเก็บของมันไปด้วยนะครับแต่พอผมคว้าได้ก็เดินออกไปเลย พี่มันเลยว่าอะไรผมไม่ทัน ตอรแรกคิดว่าพอละสายตาผมพี่มันจะหนีเข้าห้องเรียนเลย แต่พอกลับมาที่โต๊ะก็เห็นมันนั่งอยู่ที่เดิม เล่นเอาผมยิ้มไม่กว้างไปเลย นี่รอผมหรอ ผมตามความคิดพี่มันไม่ทันแล้วนะเนี่ย

     

    รอผมอยู่หรอผมทำหน้าทะเล้นใส่พี่มันก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนเจ้าตัวต้องถอยหนี

     

    บอกแล้วไงว่าไม่ชอบ และก็ไม่ได้รอด้วยแค่นั่งรอเวลาเข้าเรียน

     

    แต่นี่มันจะสิบโมงแล้วนะคนนั่งรอถึงกลับยกแขนขึ้นมาดูเวลาทันทีและพี่มันก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นตัวเลขที่ขึ้นเด็นหลาอยู่ตรงหน้าปัดนาฬิกาขอมือ 08:58  

     

    เชี่ยยยยพี่มันสบออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะรีบวิ่งออกไป ผมยิ้มตามหลังพี่มันไปจนสุดสายตา แล้วค่อยละสายตามาที่โทรศัพท์ของตัวเอง ผมส่งเฟสหาไอ้เพื่อนเกรียนทั้งหลายให้มันมามอเร็วๆเพราะผมไม่อยากอยู่คนเดียว จะจีบพี่มันทีนี่ผมต้องคิดหาคำโกหกเป็นว่าเล่นเลย ลงทุนกับพี่มันมาเยอะแล้วด้วยต้องได้มาถึงจะคุ้มกับที่เสียไป

     

    Special: [GUS]

     

                ทักๆๆๆ

     

    ผมรีบวิ่งขึ้นตึงไปชั้นสามอย่างรีบร้อนเพื่อให้ทันเข้าห้องก่อนอาจารย์ เพราะดันไปรอไอ้เด็กกันเอาจานไปเก็บให้จนไม่รู้เวล่ำเวลา ยิ่งเป็นวิชาของอาจารย์ ศรีนวรด้วยแล้ว แกยิ่งชอบจับผิดผมอยู่ด้วย ไม่รู้ว่าไปเจ็บแค้นเคืองโกรธโทษผมไย


    ถึงได้จ้องจะเล่นงานผมตลอดเวลา แค่ผมกระดิกตัวหน่อยยังหาว่าผมไม่ตั้งใจเรียนเลย เพราะฉะนั้นผมต้องรีบเข้าก่อนอาจารย์ ผมมองเวลาที่ข้อมือตอนนี้เก้าโมงแล้วครับสาธุขอให้อาจารย์ท้องเสียเข้าสอนช้า เพราะแกมักจะเข้าตรงเวลาเสมอผมเลยต้องพึ่งดวง 

     

    แฮกๆ

     

    ผมยืนหอบอยู่ตรงหน้าห้องเรียนพอให้หายใจทันหน่อยจากนั้นค่อยเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูแล้วเปิดออกฉะโงกหน้าเข้าไปดูก่อน เผื่ออาจารย์อยู่ในห้องจะได้เตรียมคำแก้ตัว แต่ไม่เห็นแฮะ เห็นแค่เพื่อนๆที่นั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันครบองค์ เฮ้ออออ~ รอดไปสิครับ ว่าแต่ทำไมวันนี้จิตมนัสสายได้วะ พระเจ้าต้องเห็นใจข้างผมแน่ๆเลย


    เมื่อไม่เห็นอาจารย์ผมเลยเดินเข้าห้องไป พอเพื่อนในห้องเห็นผมก็พากันสะกิดหลังอีกคนให้มองมาทางผมจากนั้นทุกวายตาก็จับจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว ผมว่ามันแปลกๆตั้งแต่ที่โรงอาหารแล้วครับ สายตาของทุกคนที่มองมาทางผมมันดูต่างไปจากเดิมนิดหย่อย ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะผมเป็นของส่วนรวมทุกคนก็ต้องมองเป็นปกติอยู่แล้ว แต่มันไม่ใช่ ยิ่งมาเจอคนในห้องมองแบบนี้แล้วผมว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ


    ผมเดินผ่านสายตาเพื่อนๆที่มองมาแล้วขึ้นไปนั่งข้างไอ้กายที่เว้นที่ว่างไว้ให้ ถัดจากไอ้กายคือไอ้แซ็กและเป็นไอ้เอส ปกติไอ้เอสจะนั่งข้างผมแต่ยังดีที่ไอ้กายมันเว้นระยะห่างให้ผมกับไอ้เอสไม่งันผมคงอึดอัดตายคาห้องแน่ ขนาดนั่งห่างกันสองที่นั่งผมยังอึดอัดเลย ไอ้เอสมันเล่นหันมามองผมตั้งแต่ผมเดินเข้ามายันนั่งที่มันก็ยังไม่เลิกมองเลยครับ แวบนึงที่ผมเห็นสายตามันดูเศร้าๆแต่ด้วยสาเหตุอะไรนั้นผมไม่รู้

     

    เดี๋ยวนี้ริอาจแรดนะมึง เมื่อคืนมึงไปทำอะไรกับใครมาวะไอ้กัสไอ้กายทักผมทันทีที่ก้นผมถึงเก้าอี้ ว่าแต่มันรู้ด้วยหรอว่าเมื่อคืนผมไปกับไอ้เด็กชั่งเต๊าะที่ทำเอาผมเกือบเสียเวอร์จิ้นไปแล้วครับ ถ้าผมห้ามไม่ทันมีดรามาแน่ อ้อ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้ทำให้ผมชอบมันมากขึ้นหลอกนะครับ ที่ผมเขินเพราะผมดันคิดอกุศลกับไอ้เด็กนั่นก่อน คุณรองมาเจอทับแบบผมดิคุณจะรู้ถึงแรงดึงดูดของไอ้เด็กนั่น ต่อให้ไม่ได้รักหรือชอบพอกันคุณจะหวันไหวเหมือนผม ยิ่งตอนมันจ้องตาใจผมก็คิดไปไกลแล้วครับ อย่าบอกมันเชียวเดี๋ยวมันได้ใจ 

     

    มึงรู้หรอว่าเมื่อคืนกูไปไหน?”

     

    แหมไอ้กัสคอมึงเด่นหลาขนาดนั้นกูไม่รู้เลยมั้ง

     

    คอ?” ผมตะคลุบคอตัวเองพรางหาสิ่งผิดปกติ คอผมเป็นอะไรมีอะไรงั้นหรอ

     

    นี่มึงอย่าบอกนะว่าตั้งแต่เดินเข้ามอมามึงไม่รู้อะไรเลย

     

    รู้อะไรวะ?”

     

    กูล่ะเชื่อมึงเลยด่าผมเสร็จก็ยื่นโทรศัพท์ที่เปิดกล้องหน้ามาให้ ผมเลยรีบคว้ามันมาจากมือไอ้กายแล้วส่องดูคอตัวเองว่ามีอะไร สิ่งที่เห็นก็ทำเอาผมต้องเบิกตากว้างเลย ผมเข้าใจแล้วครับ สาเหตุที่พากันมองตั้งแต่โรงรถยันในห้องเรียนเพราะไอ้รอยดูดที่เด่นหลาอยู่บนคอนี่เอง

     

    ไอ้เชี่ยยยยยผมสบถด่าไอ้เด็กนั่นอย่างโมโห แม่งสร้างรอยอุบาทนี่ไว้ไม่บอกผมเลย แถมตอนเดินมาด้วยกันมันก็เอาแต่ยิ้มตลอดทาง คงชอบใจในผลงานล่ะสิ เจอหน้ากันเมื่อไหร่มึงตายแน่ไอ้เหี้ย!

     

    ผมรีบเอามือตะคลุบคอเพื่อปกปิดรอยดูดเอาไว้ ถึงจะคิดว่าไม่ทันแล้วก็เถอะ ในใจก็โกนด่าไอ้เด็กนั่นไม่หยุด

     

    ตกลงไอ้คนที่ทำรอยนี่มันเป็นใคร พวกกูรู้จักป่ะ?” ไอ้เเซ็กที่หาโอกาสแทรกพวกผมพูดกันก็เอ่ยถาม แต่เรื่องอะไรผมจะบอก แค่นี้ก็อับอายมากพอแล้ว

     

    ครืดดดด~ ครืดดดดดดด~

     

    โทรศัพท์ที่สั่นในกระเป๋ากางเกงยีนส์ทำให้ผมต้องคว้ามือไปหยิบมันขึ้นมาดูว่าเป็นใครที่โทรเข้ามา

     

    สามีในอนาคต (ไม่รับผมจะจุ๊บพี่ร้อยที)

     

    ชื่อที่ปรากฏบ้นหน้าจอดูไม่คุ้นตาแต่รู้ว่าคือใครทำให้ผมตกใจไม่น้อยครับ จุ๊บพี่หรอ ไม่รู้เลยมั้งว่าเป็นใคร แล้วมันเอาโทรศัพท์ผมไปเมมชื่ออุบาทๆแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?

     

    ผมกดรับสายไอ้เด็กบ้ากามนั่นอย่างไม่รีรอ ไม่ใช่กลัวคำขู่นะครับ แต่อยากด่ามันเรื่องที่ทำรอยไว้ไม่บอกผมต่างหาก

     

    ไอ้...

     

    ( พี่อยู่ห้องไหนครับ ) ยังไม่ทันจะได้ด่าปลายสายก็พูดขัดขึ้นมาซะก่อนครับ

     

    ถามทำไม

     

    (ผมจะเอาเสื้อไปให้เผื่อพี่จะอายร้อยที่ผมทำไว้) มึงเพิ่งคิดได้หรอไอ้เด็กเจ้าเล่ห์ อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่านี่เป็นแผนมึงนะ

     

    ห้อง 305” เก็บไว้ด่าตอนเจอหน้าดีกว่าจะได้อัดมันด้วยเลย โทษฐานทำผมเสียชื่อเสียง และผมก็รำคาญพวกเพื่อนๆที่พากันนั่งเงียบตั้งแต่ผมรับโทรศัพท์แล้ว ผมรู้นะว่าพวกมันแอบฟังผมอยู่ อย่าฝันว่าผมจะโวยวายให้พวกมันรู้เลย

     

    โอเค เดี๋ยวผมไปหา

     

    ผมยกโทรศัพท์ออกจากหูแล้ววางมันไว้ที่โต๊ะเมื่อสายตัดไป พวกไอ้กายที่พยายามจะฟังบทสนทนาของผมกับไอ้เด็กนั่นถึงกับทำเสียงจิ้จ๊ะอย่างขัดใจเมื่อไม่ได้ข้อมูลอะไร มันเลยหันมาถามผมแทนคนทั้งห้องที่รอฟัง จะสนใจอะไรเรื่องของผมนักหนาวะ

                   

    สรุปมันเป็นคนในมอหรอวะ สาขาไหนกันที่คิดจะสอยของส่วนรวมของพวกวิศวะ

     

    ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ก็แค่...แค่อะไรวะ คิดไม่ออกแมลงกัดต่อยนี่อ้างได้ป่ะ

     

    แค่อะไร อย่าบอกว่ามดกัดเชียวนะมึง เป็นจ้ำขนาดนี้กูคงเชื่อหรอกใครมันจะบอกว่ามดกัดกัน เด็กอนุบาลดูยังรู้ว่ากูโกหกเลย

     

    เออน่า เลิกถามเซ้าซี้สักที ถ้ามีอะไรเดี๋ยวกูบอกพวกมึงเองแหละงานนี้ขอแถไปก่อนแล้วกันไม่อยากพูดถึงเรื่องเมื่อคืนเท่าไหร่

     

    มึงเป็นแบบนี้ทุกที ตอนเรื่องไอ้เอสก็ทีนึงแล้วนะผมเงียบไปทันทีที่มันพูดถึงไอ้เอส ก็จริงครับตอนที่ผมคบกับไอ้เอสเพื่อนๆไม่มีใครรู้ มารู้เอาตอนใกล้เลิกกัน พวกมันโกรธผมอยู่นานทีเดียวกว่าผมจะเคลียร์กันได้

     

    กูขอโทษ ที่ทำให้พวกมึงอึดอัดใจไอ้กายพอรู้ตัวว่าพูดอะไรมันก็ขอโทษผมแล้วหันไปขอโทษไอ้เอส ผมเข้าใจความรู้สึกมันนะครับ มันเป็นคนที่อยู่กึ่งกลางเรื่องของผมกับไอ้เอส ผมก็เพื่อนไอ้เอสก็เพื่อน มันคงไม่รู้จะทำตัวเข้าข้างใครดีระหว่างเพื่อนกับเพื่อน

     

    ไม่ใช่ความผิดมึงสักหน่อยผมพูดเพื่อให้ไอ้กายสบายใจ แต่สายตากลับชำเลืองไปมองคนข้างหลังที่อยู่ถัดจากผมไปสองที่นั่ง มันมองผมอยู่ก่อนแล้วเราสบตากันแวบนึงก่อนที่ผมจะเบือนหน้าหนีมันไป

     

    แอ๊ดดดด~

     

    เสียงหลอนๆของประตูที่กำลังเปิดออก ทำให้พวกผมตกอยู่ในความเงียบกันแทบจะทันทีเพราะคิดว่าเป็นอาจารย์ แต่พอหัวของคนที่เปิดประตูโผล่เข้ามาก็ทำเอาทุกสายตาหันไปมองอย่างสงสัยว่าไอ้เด็กนี่มาทำอะไรที่ห้องนี้

     

    ผมมองไอ้เด็กกันที่โผล่แค่หัวเข้ามาแล้วสอดส่ายสายตามองหาอะไรสักอย่างซึ่งน่าจะเป็นผม พอมันเห็นผมก็ยิ้มและโบกไม้โบกมือให้ ผมรีบลุกขึ้นมาเมื่อเห็นไอ้เด็กนั่นจนเพื่อนในห้องละสายตาจากหน้าประตูแล้วหันมามองผมแทน

     

    “ไอ้กัส เดี๋ยวนี้มึงริอาจกินเด็กหรอวะ” เพื่อๆพากันแซวผม แต่ผมก็ไม่ได้สนใจรีบเดินไปหาไอ้เด็กที่นัดมันมาเจออย่างรีบเร่ง มันจะแสดงตัวเกินไปแล้วโว้ย ผมผลักหัวไอ้เด็กนี่ออกจากห้องทันทีที่เดินถึงตัวมันและไม่ลืมปิดประตูห้องเรียบร้อย

     

    บอกกันดีๆก็ได้ทำไมต้องรุนแรงกับผมด้วย

     

    เอาเสื้อมาแล้วใสหัวไปเลยนะผมไล่มันมือก็กระดิกเร่งให้มันถอดเสื้อมาให้ผมได้แล้ว

     

    ใจร้ายว่ะพี่ ผมอุตส่าห์เอาเสื้อมาให้คำขอบคุณก็ไม่มีสักคำมันทำเป็นตีหน้าเศร้าใส่ผมแต่คิดว่าผมจะเชื่อรึไงวะ!

     

    อย่ามาทำท่าทางน่าสงสาร มึงทำกูก่อน กล้าดียังไงมาทำรอยไว้บนคอกูไม่บอกกูสักคำ ไอ้...จุ๊ฟ

     

    ผมบอกแล้วไงว่าไม่ให้พูดคำหยาบกับผม

     

    ไอ้...อ๊ากกกกก หมดคำจะด่าทำไมมันอัดอั้นขนาดนี้วะ ความรู้สึกที่อยากด่าแต่ด่าไม่ออกนี่มันโคตรทรมานเลยเว้ย!

     

    เอาเสื้อมาได้แล้วผมข่มอารมณ์นี้ไว้แล้วพูดกับมันดีๆ

     

    ตอนเที่ยงไปกินข้าวกับผมนะมันเคยฟังภาษาคนรู้เรื่องมั้ยวะ เคยมองบ้างมั้ยว่าผมเบื่อ ผมรำคาญมันแค่ไหนหัดมองบ้างสิเห้ย

     

    ไม่กิน เอาเสื้อมาเร็วๆผมเดินไปแย่งเสื้อจากมือมัน แต่มันดันหลบได้แล้วเอาเสื้อซุกไว้ข้างหลัง

     

    งั้นผมไม่ให้นะ

     

    มึงอย่ามาบังคับกูให้มันมากนักนะ

     

    ผมเริ่มจะหมดความอดทนแล้วนะเว้ย อย่าให้ต้องได้วีน ไอ้เด็กนี้พอเห็นผมขึ้นคำหยาบก็เตรียมยื่นหน้ามาใกล้ ผมเลยต้องรีบตะครุบปากมันไว้ก่อนที่มันจะจุ๊บผมอีกที

     

    ไออินอ้าวอับอมอิ”(ไปกินข้าวกับผมสิ)

     

    ไม่!ผมก็เด็ดขาดเหมือนกัน ตอนนี้ผมปล่อยปากมันและผลักออกให้ห่างแล้วครับ

     

    งั้นผมไม่ให้เสื้อนะว่าไม่พอยังยืนแกว่งเสื้อล่อตาล่อใจผมอีก จะไม่เอาก็ไม่ได้ผมทนให้คนเห็นรอยที่น่าอับอายบนคอไม่ไหวหรอก แต่ก็ไม่อยากไปกินข้าวกับไอ้เด็กนี่อยู่ดี

     

    ระหว่างที่คิดว่าจะเลือกทางไหนสายตาก็เหลือบไปเห็นอาจารย์ศรีนวรกำลังเดินขึ้นบันไดและตรงมาทางนี้ ซวยแล้วไงถ้าเกิดอาจารย์เห็นว่าผมยืนอยู่ตรงนี้ คงมีด่ากันแน่นอน 

     

    รีบๆเอาเสื้อมาได้แล้วผมเร่งคนถือเสื้อให้ส่งมันมาสักทีสายตาก็เอาแต่จับจ้องไปที่อาจารย์ ตอนนี้อาจารย์เห็นผมแล้วครับ

     

    บอกก่อนว่าจะไปกินข้าวกับผมมั้ยไอ้เด็กนี่ก็ยังรีราไม่เลิก กูยอมก็ได้ถ้าอาจารย์จะส่งสายตามากดดันขนาดนั้นผมยอมก็ได้!

     

    เออๆ เอามาได้แล้ว

     

    งั้นตอนเที่ยงผมมารอหน้าห้องนะ อย่าไปไหนล่ะ

     

    รู้แล้วรีบๆส่งมาซักทีดิวะ!” ผมเร่งคนตรงหน้ายิกๆ จะไม่ให้เร่งได้ไงอาจารย์เดินมาจนจะถึงผมอยู่แล้วโว้ยยย

     

    ครับในที่สุดมันก็ยื่นเสื้อมาให้ผม ผมรีบคว้าออกจากมือมันแล้ววิ่งเข้าห้องไปทันที ไม่วายใส่มันลงไปด้วยในระหว่างที่วิ่งไปนั่งที่

     

    พวกที่คิดจะแซวผมตอนเข้ามาก็อย่างหวังว่าจะได้แซวเลยพอเห็นท่าทางผมพวกมันก็รู้แล้วครับว่าอาจารย์กำลังมา พวกมันเลยต้องสงบปากสงบคำไว้เดี๋ยวโดนหางเลขแล้วจะซวยเหมือนผม

     

    แอ๊ดดดดด~

     

    เสียงเปิดประตูดังขึ้นอีกครั้งตามด้วยหญิงมีอายุหน่อยๆใส่แว่นหน้าเตอะเดินเข้ามาทำให้พวกนักศึกษาพากันเงียบกริบด้วยบารมีปากอาจารย์ที่แรงกล้าจนทุกคนกลัว สายตาดุใต้กรอบแว่นตวัดมามองผมก่อนที่คำพูดทิ่มแทงจะตามมาติดๆ

     

    ที่นี่คือมหาลัยไม่ใช่โรงแรม จะทำอะไรก็ให้เกียรติสถาบันด้วยนะคุณกฤต

     

    ครับผมได้แต่ก้มหน้ารับคำกล่าวหาของอาจารย์ กับผู้หญิงคนนี้เถียงไม่ได้ครับ ถ้าคุณยังอยากเรียนของแกอย่างสงบสุขก็อย่าเถียง

     

    วันนี้เราจะมาเริ่มเรียนกันที่บท...

     

    แล้วอาจารย์ก็เริ่มบทเรียนไป พวกเพื่อนๆในห้องก็นั่งเงียบเหมือนตั้งใจฟังอาจารย์ แต่เปล่าหรอกครับผมเห็นหมดคาบทีไรแม่งบ่นทุกทีว่าสอนไม่รู้เรื่องแถบอึดอัดเหมือนอยู่ในคุกอย่างไรอย่างนั้น แต่พออาจารย์ถามว่าเข้าใจมั้ยคะพวกผมก็จะพยักไปส่งๆเพื่อให้วิชานี้มันพ้นๆไปในแต่ละวัน

     

    เข้าใจมั้ยคะนักศึกษา

     

    เข้าใจครับอย่างวันนี้ก็เช่นกัน

     

     70%


    #รุ่นพี่เด็ด


    ---------------------------------------------------------

    -------------------------------



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×