คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : chapter : 02{ผมชอบพี่ครับ} 100%
บทที่ : 02
::ผมชอบพี่ครับ::
“น้องๆครับ ในฐานะที่วันนี้เป็นวันแรกของการเจอหน้ารุ่นพี่
พี่ก็จะให้น้องๆแนะนำตัวกันก่อน ส่วนกิจกรรมรับน้องเราจะมีกันพรุ่งนี้นะครับ...เริ่มจากแถวแรกก่อนเลย”
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมของมหาลัยผมและพวกเพื่อนๆผมก็ต้องมาทำกิจกรรมกับรุ่นน้องตามธรรมเนียมของคณะครับ
ซึ่งวันนี้เป็นวันแรก พวกผมเลยต้องเรียกรุ่นน้องมาทำความรู้จักกันก่อน เมื่อวานพวกผมแบ่งงานกันว่าใครจะรับหน้าที่อะไร
ไอ้กายรับหน้าที่ด่านหน้าคอยดำเนินกิจกรรมรับน้องที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้หรือพี่สรรทนาการที่เค้าชอบเรียกกันนั่นแหละครับ
จะมีไอ้แซ็กกับไอ้ธีมเป็นพี่ว๊าก และผมรับหน้าที่เป็นฝ่ายปฐมพยาบาล ส่วนคนอื่นๆที่เหลือก็คอยคุมน้องครับ
ฟังดูของผมน่ะสบายสุดแล้ว วันๆไม่ต้องทำอะไรแค่คอยดูน้องที่ป่วย ไม่สบาย
หรือเป็นลม ซึ่งมันก็มีไม่เยอะอยู่แล้วเพราะคณะผมส่วนมากมีแต่ผู้ชาย ถึกๆกันทั้งนั้น
งานผมเลยสบายมาก และว่างมาก
เรื่องง่านที่แบ่งนี่ผมไม่ได้เลือกเองนะ คนที่แบ่งงานให้คือพวกปีสามปีสี่
และสาเหตุที่ผมได้มาอยู่ฝ่ายประถมพยาบาลก็มีเหตุผลเดียวเลย คือผมเป็นของส่วนรวมของคณะครับ
มันเป็นตำแหน่งที่พวกวิศวะตั้งขึ้นมาเพื่อสนองตัณหาของพวกผู้ชาย เพราะคนที่ได้ตำแหน่งนี้จะกลายเป็นดาราของคณะทันที
ไม่มีใครกล้าแตะต้องเพราะเป็นของส่วนรวม มันดีตรงที่ไม่มีใครกล้าทำอะไรนี่แหละครับ
แต่ก็จะรำคาญสายตาที่พวกมันมองกัน ปกติจะแต่งตั้งผู้หญิง
แต่เผอิญว่ารุ่นผมไม่มีผู้หญิงพวกมันเลยเอาผมไปแทนเพราะผมหน้าเหมือนผู้หญิงและเป็นที่จับจ้องของพวกผู้ชายมากที่สุด
กลับมาสู่ปัจจุบันกันครับตอนนี้ผมกำลังยืนมองไอ้กายมันสั่งน้องให้แนะนำตัวก่อนจะเริ่มด้วยแถวฝั่งขวา
แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ ฟังไปก็จำไม่ได้อยู่ดี อยากจะบอกว่าสกิลการจำชื่อคนของผมมันค่องข้างเป็นลบมากครับ
เนิ่นนานกว่าจะแนะนำกันครบเพราะน้องปีนี้มีเยอะกว่าปีที่แล้ว
ตอนนี้ก็ผ่านไปเกือบครึ่งแล้ว ผมเลยคิดอะไรไปพรางๆ
จนได้ยินเสียงกรี๊ดดังขึ้นนั่นแหละ ผมถึงได้กลับมาสนใจสถานการณ์ตรงหน้าต่อ
“ผมนายกันตินันท์ ก่อเกียรติ ชื่อเล่นชื่อกันครับ ”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!
เสียงกรี๊ดกร๊าดของพวกผู้หญิงที่เหมือนฝูงลิงแตกลังทำให้พวกผู้ชายต้องเอามืออุดหนูกันทั่วหน้า
ผมยังไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุ ผมเลยมองตามสายตาทุกคนไปก็เห็นรุ่นน้องคนนึงยืนอยู่ในแถว
ทุกสายตาจับไปที่รุ่นน้องคนนั้นที่ยืนแนะนำตัวกับรุ่นพี่ เข้าใจเลยครับว่าทำไมพวกผู้หญิงถึงได้กรี๊ดกันขนาดนั้น
ก็น้องคนนั้นหล่อมากไงครับ
ดวงตาใสๆกับทรงผมที่ยาวละต้นคอ ข้างหน้าก็ถูกปล่อยยาวมาปกปิดหน้าผากจนถึงคิ้วช่างเข้ากับหน้าน้องมาก
ดวงตากลมโตแต่แอบคมหน่อยๆนั่นชั่งเข้ากับจมูกโด่งเป็นสันที่รับกับริมฝีปากเป็นกระจับของน้องทำให้ทุกอย่างบนใบหน้านั้นเปะเหมืนพระเจ้าประมวลผลแล้วปั้นมันออกมาให้เป็นแบบนี้
นั่นยังไม่เท่าไหร่ครับ น้องมันยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้พวกผู้หญิงวิ่งไปสยบแทบเท้าคือรอยยิ้มของน้องมันตอนมันไม่ยิ้มก็ดูหล่อคมดีแต่เวลาน้องยิ้มมันเหมือนเด็กขี้เล่นเลยครับ
ทั้งสดใสและร่าเริงมากเหมือนตอนนี้ที่มันกำลังโปรยยิ้มไปทั่วก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ผม
ผมกับน้องจ้องตากันแปบนึงก่อนที่ผมจะหันซ้ายหันขวาดูว่ามีใครอยู่ข้างผมหรือเปล่าเผื่อน้องมันไม่ได้มองผมไง
แต่ก็ไม่มีใครนี่หว่า พอสำรวจแล้วผมเลยหันกลับไปจ้องน้องอีกครั้งก่อนจะรู้สึกคุ้นหน้ามันแต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเจอมันที่ไหนรึเปล่า
ตอนนี้มันนั่งลงแล้วครับ แต่ก็ยังจ้องผมไม่วางตาผมก็ทำเป็นไม่เห็นน้องมันและมองผ่านมันไปทำเป็นสนใจเรื่องอื่นแทน
ตอนนี้พวกปีหนึ่งแนะนำตัวกันเสร็จแล้วครับ
และถึงเวลาที่พวกผมจะต้องแนะนำตัวให้รุ่นน้องได้รู้จักกันบ้าง เริ่มจากปีสองก่อน
และคนที่แนะนำตัวเป็นคนแรกคือไอ้กายแล้วต่อๆกันมา ซึ่งผมจะเป็นคนสุดท้ายที่ไดบอกชื่อให้น้องได้รู้จักเพราะรุ่นพี่เขากำหนดมาแล้วว่าคนที่ได้ตำแหน่งส่วนรวมของคณะจะต้องปิดทายทุกปี
แต่ก่อนจะเป็นผมก็เป็นเดือนของคณะผมก่อนครับซึ่งก็คือไอ้เหี้ยเอส
อดีตแฟนเก่าผมที่เลิกกันไปเมื่อตอนปิดเทอม และตอนนี้มันก็กำลังพยายามขอผมคืนดีอยู่
“กัส ยังไม่หายโกรธเอสอีกหรอครับ”
หายโกรธหรอ มันกล้าพูดมาได้ว่าหายโกรธทั้งที่มันไปเอาคนอื่นนี่ผมต้องหายโกรธด้วยมั้ยวะ
“....” ผมเงียบไม่ยอมพูดกับมันจนมันต้องเอามือมาจับหัวผมเหมือนที่มันเคยทำอยู่ประจำ
แต่ผมปัดมือมันทิ้งแล้วจ้องกลับด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความไม่พอใจไปให้ ถามว่ายังรักมันอยู่มั้ย
บอกเลยว่ารักมันเหมือนเดิม แต่ผมก็ไม่อยากโง่เป็นควายอีกแล้วครับ
เลยต้องใจแข็งเข้าไว้ และตอนนี้มันกำลังทำลายความตั้งใจของผมลงไปด้วยคำพูดของมันที่พยายามบอกผม
“เอสจะไม่ทำแบบนั้นแล้วนะ กัสกลับมาหาเอสนะครับ”
กี่ครั้งแล้วที่ผมได้ยินคำนี้แล้วก็โง่เชื่อมัน ฉะนั้นผมจะไม่ใจอ่อนอีกแล้ว
จะไม่ยอมกลับไปเป็นควายให้มันหลอกแล้วครับ
“กูรู้ว่ามึงทำไม่ได้หรอกเอส
สันดานมึงมันเป็นแบบนั้น อย่ามาพูดในสิ่งที่มึงทำไม่ได้เลย” ผมหันไปกระซิบกับมัน
พอมันได้ยินก็ทำหน้าเหมือนไม่พอใจ
“กัส! มากไปแล้วนะ”
มันกดเสียงลงต่ำแสดงถึงความไม่พอใจในคำพูดของผม แต่ผมไม่สนใจและทำเป็นหันหนีมันไป
ก่อนที่ไอ้เอซจะพูดอะไรกับผมต่อไอ้กายก็เรียกมันออกไปข้างหน้าครับ
มันเลยเลิกสนใจผมแล้วก้าวขาออกไปหนึ่งก้าว แนะนำตัวพร้อมบอกตำแหน่งของตัวเอง เหมือนเดิมครับที่พอรุ่นพี่หล่อรุ่นน้องก็ต้องกรี๊ดเสียงกรี๊ดก็ไม่แพ้ไอ้น้องปีหนึ่งนั่นเลยครับ
พอไอ้เอซมันแนะนำตัวเสร็จก็ถอยหลังกลับมายืนที่เดิม ต่อไปก็ถึงตาผมบ้างครับ ผมกว้าขาออกไปข้างหน้า
และเริ่มแนะนำตัวให้น้องๆได้รู้จักกัน
“พี่ชื่อกฤต กอบกาญจน์ ชื่อเล่นกัส
อยู่ปีสอง เป็นของส่วนรวมของคณะครับ” พอผมแนะนำตำแหน่งเสร็จทุกคนก็ฮือขึ้นมา เสียงนี่ดังไปทั้งลานหน้าคณะเลยครับ
บางคนก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร หรือบางคนที่รู้ก็ไม่เชื่อว่าหน้าอย่างผมน่ะหรอจะเป็นของส่วนรวม
ก็ไม่แปลกที่พวกมันจะคิดแบบนั้นเพราะผมเป็นผู้ชาย
รุ่นผมเป็นรุ่นแรกที่เอาผู้ชายมาเป็นและอีกอย่างคือวันนี้ผมใส่แว่นมา หน้าผมเลยดูจืดชืดไปไม่น้อย
“น้องกัสช่วยถอดแว่นออกหน่อยครับ น้องๆจะได้หายข้องใจ” ผมตวัดสายตาไปมองพี่ภาพที่ตะโกนสั่งผมอยู่ฝั่งตรงข้าม
ผมเลยต้องทำตามที่พี่มันบอก ที่ใส่เพราะผมชอบใส่ไม่ได้เกี่ยวกับการอำพรางตัวอะไรหรอกครับเลยยังไงก็ได้
แต่พวกเพื่อนๆชอบบอกว่าที่ผมใส่แว่นก็เพื่อไม่ให้เป็นจุดเด่นเกินไป นั่นผมว่ามันเป็นผลพลอยได้มากกว่า
พอผมถอดแว่นออกเท่านั้นแหละเสียงฮือฮาที่เพิ่งเงียบไปเมื่อครู่ก็กลับมาดังกังวานอีกครั้ง
แต่ที่เพิ่มเติมมาคือเสียงโห่ร้องของพวกผู้ชายที่พากันผิวปากบ้างตะโกนบ้าง
จนผมต้องรีบใส่แว่นกลับเข้าที่เดิมแล้วเดินกลับไปยืนข้างๆไอ้เอส
“ชอบล่ะสิเป็นที่จับจ้องของทุกคนน่ะ
หึ” มันทำท่าทางหึงผมเหมือนเมื่อก่อนจนผมต้องย้ำกับมันว่าเราเป็นอะไรกัน
“มึงกับกูไม่ได้เป็นอะไรกัน
ฉะนั้นเลิกทำเป็นหึงกูได้แล้ว”
“กัส มึงอย่าทำแบบนี้
กูรู้ว่ามึงยังรักกูอยู่” ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าตัวเองยังรักมันอยู่หรือว่าเสียดายความรู้สึกที่ให้มันกันแน่
มันเป็นผู้ชายคนเดียวที่ผมยอมคบด้วย
มันทำให้ผมรักผู้ชายอย่างมันทั้งที่ผมไม่ใช่เกย์
ผมเลยเสียใจที่ผมเลือกมันแทนที่จะไปเลือกผู้หญิงสวยๆ ผมเสียดายความรู้สึกของตัวเอง
ผมเลยไม่รู้ว่าที่ตัวเองอยากกลับไปหามันเพราะเสียดายหรือรัก
แต่จะอันไหนผมก็จะไม่กลับไปแล้วเพราะผมเจ็บกับมันมามากพอแล้ว
“กูไม่ได้รักมึงแล้วเอซ
ช่วยเข้าใจใหม่ด้วย”
ผมได้ยินไอ้กายมันบอกน้องเกี่ยวกับกำหนดการณ์พรุ่งนี้และเริ่มปล่อยน้องกลับกันแล้ว
ผมเลยเดินหนีออกมาพร้อมน้อง ไม่อยากคุยกับไอ้เอซมากเดี๋ยวใจอ่อนครับ
แต่มันก็หน้าด้านพอที่จะตามผมมาแล้วคว้าข้อมือผมไว้ ไวอย่างใจคิดผมสะบัดมือมันทิ้งแล้วหันไปจ้องหน้ามันอย่างไม่ชอบใจในการกระทำของมัน
“มึงปล่อยกูไปเถอะเอซ
ปล่อยกูไปตามทางของกู อย่ามายุ่งกับกู” ผมแทบจะขอร้องมันแล้วนะถ้ามันยังไม่ยอมปล่อยผมไปแบบนี้
จะให้ผมทำยังมันถึงจะเลิกยุ่งกับผมวะ
“ไม่กัส กูรักมึง” มันดึงตัวผมเข้าไปกอดไว้แน่น
ผมเลยตะคอกใส่มันไปที
“ปล่อยกูไอ้เอซ” ผมพยายามดันตัวมันออกแต่ก็ไม่เป็นผล มันรู้ว่าผมจะมาไม้ไหนเล่นหลบผมได้ทุกทาง
ขนาดผมใช้ตีนเหยียบเท้ามันตอนเผลอมันยังหลบได้เลย
“ให้โอกาสเอซอีกครั้งได้มั้ย เอซสาบานเลยว่าจะไม่ทำตัวแบบนั้นอีก
เอซรู้แล้วว่าเอซรักกัส ขาดกัสไม่ได้”
ใจผมเริ่มลังเลกับคำพูดของมัน ความพยายามที่จะหนีมันมาตลอดเริ่มไร้ค่า ผมพยายามคิดถึงสิ่งที่มันทำกับผมเพื่อไม่ให้ตัวเองใจอ่อน
แต่คำพูดของมันเมื่อกี้ก็เข้ามาบดบังทุกการกระทำชั่วๆของมันจนหมด
ผมกำลังใจอ่อน
“เอซ อย่าทำแบบนี้” เสียงห้ามของผมทำไมมันเบาหวิวแบบนี้วะ ใจแข็งเข้าไว้สิไอ้กัส
นึกถึงสิ่งที่มันทำกับมึงไว้แล้วปฏิเสธมันไปซะ
“เอซรักกัสนะ” เจอคำนี้ไปผมก็ตายสิครับ สมองเริ่มประมวลอดีตของมันกับผม
ความทรงจำดีๆที่ผมกับมันเคยทำร่วมกันค่อยๆไหลเข้ามาให้คิดถึงหลังจากที่ผมปิดตายมันมานาน
ผมกำลังก้าวขาเข้าไปติดบ่วงของมันอีกครั้ง
ความพยายามตั้งสองเดือนของผมถูกมันทำลายด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ
“กู...”
“หวัดดีครับพี่กัส” ผมผละตัวออกจากไอ้เอสทันทีที่ได้ยินคนเรียกชื่อตัวเอง ก่อนจะหันไปมองว่าเป็นใคร อยากจะขอบคุณมันสักหน่อยที่ช่วยผม เมื่อกี้ผมกำลังจะใจอ่อนให้อภัยมันแล้วเชียว
50%
“หืม?” นี่มันน้องปีหนึ่งที่สาวกรี๊ดกันนี่หว่า
แล้วมันมาทักผมทำไมวะงง?
“พี่จำผมได้มั้ยครับ” น้องมันถามผมหน้ายิ้ม แตกต่างจากผมที่กำลังคิดว่าตัวเองเคยรู้จักไอ้เด็กนี่ด้วยหรอ
“มึงเป็นใครวะ?” นั่นไม่ใช่เสียงผมแต่เป็นไอ้คนข้างๆผมต่างหาก มันตะคอกใส่น้องด้วยความโกรธที่มีคนมาขัดจังหวะมันกำลังจะได้คืนดีกับผม
แต่ผมกลับขอบคุณน้องมันเหลือเกิน
“ผมไม่ได้ถามพี่” ไอ้เด็กนี่หันไปตอบไอ้เอซอย่างไม่เกรงกลัวแถมยังจ้องหน้าไอ้เอซอย่างไม่เค้ารพเลยด้วย
และเหมือนจะเกิดศึกกันระหว่างสองคนนี้ ผมเลยต้องรีบเบี่ยงประเด็นเพื่อห้ามศึก
แค่ผมกับไอ้เอซทะเลาะกันก็มีคนมองกันมากพอแล้ว
ยังมีไอ้เด็กนี่มาเพิ่มสีสันอีกครับเป็นจุดเด่นกันเลยทีเดียว
“เอ่อคือ...พี่จำไม่ได้ครับ เราเคยเจอกันด้วยหรอ?”
ไอ้เด็กนั้นหันมาสนใจผมแล้วครับ
มันทำหน้าเหมือนผิดหวังนิดหน่อยแต่ก็กลับมายิ้มให้ผมเหมือนเดิน
“ถ้าผมบอกว่าผมคือคนที่ช่วยพี่ในคืนนั้นพี่จะจำผมได้มั้ย”
ผมเป็นคนที่ชอบลืมชื่อคนอื่นครับลำพังแค่จำชื่อเพื่อนในห้องแล้วเรียกให้ถูกผมยังทำไม่ได้เลย
จะเอาสมองที่ไหนไปจำคนอื่นอีกล่ะ
“ขอโทษนะ พี่จำเราไม่ได้จริงๆ”
ผมตอบตามความจริง ไม่สนว่าน้องมันจะเสียใจรึเปล่า แต่ผมจำไม่ได้
“งั้นถ้าผมบอกว่า ผมเคยพาพี่ไปนอนที่บ้านผม
พี่จะจำผมได้มั้ย...อ้อ ถ้ายังจำไม่ได้ผมจะอธิบายให้ระเอียดกว่านี้ดีมั้ยครับ”
ไอ้เด็กนี่เริ่มยิ้มกว้างขึ้นมาตอนที่พูดถึงเรื่องนี้
เรื่องที่ผมไม่รู้
“มึงว่าไงนะ”
ไอ้เอซเริ่มขึ้นเสียงใส่เด็กนั่นอีกครั้งก่อนที่มันจะเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อน้องไว้
ผมเลยรีบเข้าไปห้ามทัพ
“น้องพูดเรื่องไรครับพี่ไม่เข้าใจ?”
ผมลากไอ้เอซออกจากน้องแล้วถามมันไป มันจะมาตู่ว่าผมเคยนอนกับมันงั้นเหรอ
ผมไม่เคยนอนกับผู้ชายนะเว้ย!
“ผมเคยช่วยพี่ที่ผับแล้วพาพี่กลับบ้าน
เรานอนด้วยกันทั้งคืนขนาดนั้นพี่ยังลืมผมได้ ความจำพี่จะสั้นเกินไปรึเปล่าครับ”
เหมือนจะพอนึกได้อยู่เรื่องนึง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นตอนที่ผมเลิกกับไอ้เอซแล้วเข้าผับ
ตอนนั้นผมเมาไม่รู้เรื่องเลยครับ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ถูกใครก็ไม่รู้พากลับบ้านมันแต่ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผมแค่เกือบๆเพราะผมถูกวางยาตอน
พอเช้ามาเขาก็ไปส่งผมที่คอนโดที่ผมบอก ผมให้ที่อยู่มั่วๆเขาไป
ตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่ได้เจอกันอีกและผมก็ลืมไปแล้วด้วย จนไอ้เด็กนี่มาบอกนี่แหละครับ
สรุปเด็กนี่คือคนคนนั้นหรอวะโลกจะกลมเกินไปแล้ว
“มึงว่าไงนะ
มึงนอนกับเมียกูหรอไอ้เหี้ย!!” ไอ้เอสมันกำลังจะเข้าไปต่อยรุ่นน้องแต่ผมก็รั้งมันไว้ได้ทัน
น้องมันพูดซะผมเสียหายเลยว่ะ แน่จริงมึงก็บอกเค้าไปด้วยดิว่ากูแค่นอนไม่ได้ทำอะไรกับมึง
“เอส”
“มึงห้ามกูทำไมวะไอ้กัส
มึงห่วงมันหรอ!...อ้อ หรือที่มันพูดเป็นเรื่องจริงมึงสวมเขาให้กูใช่มั้ยกัส”
ผมเริ่มโกรธที่มันมาใส่ร้ายผม หาว่าผมร่านกล้าไปนอนกับผู้ชายอื่น
ทั้งๆที่มันก็รู้ว่าผมเป็นคนยังไงขนาดมันผมยังไม่ให้เลย แล้วคิดได้ไงว่าผมจะมีอะไรกับเด็กนี่มันเอาสมองส่วนไหนคิดวะ!!
“ลืมไปแล้วหรอเอซ กูเลิกกับมึงแล้ว
กูจะไปเอากับใคร ไปร่านกับใครมันก็เรื่องของกู มึงไม่มีสิทธิ์มาโกรธกู” ผมจะไม่อธิบายอะไรทั้งนั้น ให้แม่งเข้าใจผิดๆไปเลยจะได้ไม่ต้องมาตามตื้อผมอีก
“กูไม่เชื่อ
อย่างมึงหรอจะกล้าไปเอาผู้ชาย” ทีงี้ละเสือกไม่เชื่อ
งั้นแสดงให้ดูเลยดีมั้ย จูบแม่งโชว์เลย แต่เดี๋ยวๆ น้องมันจะไม่ต่อยผมหรอ ดูแล้วไม่น่าจะเป็นเกย์
ถ้าผมไปจูบมันคงเจอสวนด้วยหมัดแน่ๆอาจจะหนักด้วยเพราะครั้งนั้นผมทำเด็กนี่ไว้แสบเหมือนกัน
ที่มาทักนี่จะมาเอาคืนผมรึเปล่าวะ
“ไม่เชื่อก็เรื่องของมึง” ผมตัดปัญหาด้วยการจะเดินหนีมันไป แต่ก็ถูกมันรั้งแขนไว้อีกครั้ง “ปล่อยแขนกู”
“มึงต้องคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อน”
“กูไม่มีอะไรจะคุยกับมึง” เสียงผมเริ่มเด็ดขาดอีกครั้ง มือก็พยายามจะแกะมือมันออก แต่จู่ๆก็มีมือที่สามมาดึงมือผมกับไอ้เอซแยกออกจากกันแล้วมือของไอ้เด็กนั่นก็จับแขนผมไว้แทน
ผมมองมันอย่างงงๆ
“พี่เค้าบอกไม่มีอะไรจะคุยกับพี่ก็อย่าหน้าด้านตามตื้อเค้าสิครับ”
คำพูดมันก็สวนเข้าหน้าไอ้เอซอย่างจัง ดูเหมือนมันต้องการจะมีเรื่องกับไอ้เอซให้ได้เลย
งั้นผมจะไม่ห้ามแล้วนะ
“มึงเสือกไรเรื่องของแฟนกูนักหนาวะ!!”
ไอ้เอสเริ่มจะเปิดสึกกับเด็กนี่อีกรอบครับอารมณ์มันเริ่มขึ้นเมื่อเจอคำพูดของไอ้เด็กปากดีนี่ตีแสกหน้ามัน
แต่ละคำพูดชั่งดูไม่มีความเคารพรุ่นพี่เลย
“ขอโทษนะครับ พี่ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่กัสแล้ว
ฉะนั้นผมยุ่งได้เพราะผมชอบพี่กัส” ว่าไงนะ!! เด็กนี่ชอบผมหรอ สรุปมันเป็นเกย์หรอวะ ?
“….”
ผมยืนนิ่งด้วยความสับสนแล้วครับ นี่มันคิดจริงหรือว่าแค่ช่วยผม แต่มันรู้ได้ไงว่าผมมีปัญหาอะไรกับไอ้เอซ
หรือมันแอบฟังตอนที่พวกผมคุยกันเมื่อกี้
“ไอ้สัสเอ้ย มึงชอบแฟนกูหรอ!!”
ไอ้เอสมันคงทนไม่ไหวแล้วครับ ถึงได้เดินเข้ามาหาเด็กนี่ก่อนจะเงื้อมือขึ้นมาเตรียมใส่หมัดเข้าหน้า
น้องมันก็ไวใช่ย่อย มันดันตัวผมออกห่างก่อนจะรับหมัดไอ้เอซแล้วสวนกลับไปทันทีแต่ก็ยังไม่เข้าไปซ้ำไอ้เอซที่ล้มลงไปกองที่พื้น
พอคนล้มตั้งหลักได้ทั้งสองถึงได้เริ่มเข้าหากันแล้วออกหมัดใส่กันอย่างบ้าคลั่งจนคนที่ยืนดูอยู่ห่างๆต้องเข้ามาห้าม
ไอ้กายรีบวิ่งมาดึงตัวไอ้เอซออกจากน้องส่วนน้องนั่นก็เหมือนจะได้เพื่อนช่วยจับไว้แล้วบอกให้มันใจเย็น
ผมที่เป็นตัวต้นเหตุยืนดูเหตุการณ์นิ่งๆไม่ขยับไปไหน
ก็ห้ามแล้วมันไม่ฟังเลยขี้เกียจห้ามครับ
“หยุดๆ นี่มันเรื่องอะไรกัน!”
พี่ภาพวิ่งเข้ามากลั้นกลางระหว่างสองคนไว้ พอไอ้เอสมันเห็นรุ่นพี่เข้ามายุ่งด้วยมันเลยยอมสงบ
เพราะมันเกรงใจพี่ภาพอย่างกับอะไร
“พี่ถอยไป
ผมจะเคลียร์กับไอ้เด็กนี่ให้มันรู้เรื่อง เสือกมายุ่งกับคนของผม”
“พี่กัสไม่ใช่คนของพี่
พี่กับพี่เค้าเลิกกันแล้ว” ไอ้น้องนี่ก็ว๊ากกลับอย่างไม่เกรงกลัวจนไอ้เอซเริ่มโมโหและเตรียมจะพุ่งเข้าใส่น้องมันอีกรอบแต่โดนเพื่อนๆกักตัวไว้ได้ทัน
“ไอ้เอซมึงใจเย็นๆ
กัสมึงก็มาช่วยพวกกูห้ามมันหน่อยดิ นี่เรื่องมึงนะ” ไอ้กายมันบอกผมให้เข้าไปช่วย
ผมเลยจะเดินเข้าไปแต่กลับถูกห้ามไว้ซะก่อน
“พี่อย่าเข้ามา เรื่องของพี่มันจบแล้วแต่ไอ้นี่มันไม่ยอมจบผมเลยต้องมาสานต่อ
ตอนนี้มันเป็นเรื่องของผมกับมัน” เด็กนี่สั่งผมเมื่อเห็นผมก้าวขาเข้ามา
ผมนี่นิ่งเลย เอาไงดีวะจะเชื่อใครดีเด็กนี่ก็พูดถูกเรื่องของผมกับไอ้เอซมันจบแล้ว ผมไม่มีส่วนเอี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว
ผมคิดแบบนั้นได้มั้ย
“เก่งจังนะมึง เฮ้ย! มึงปล่อยกู กูจะไปกระทืบมัน!!”
“มาสิว๊ะ
ถ้าผมชนะพี่ก็เลิกยุ่งกับพี่กัสได้แล้ว” ผมว่ามันชักจะไปกันใหญ่แล้ว
ถ้าผมไม่ทำอะไรสักอย่างสองคนนี้ต้องได้ตีกันอีกรอบแน่
ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหาพวกมันสองคนท่ามกลางสายตาของทุกคน
เกิดมาเพิ่งเคยเห็นผู้ชายตีกันแย่งผู้ชาย ผมก็งงเหมือนกันเกิดมาก็ไม่เคยเจอผู้ชายตีกันแย่งตัวเอง
ผมเข้าไปยืนอยู่ตรงกลางระหว่างสองคนที่มีเรื่องกันก่อนจะหันไปมองหน้ารุ่นน้องที่พยายามจะช่วยผมแล้วพูดกับมัน
“พี่ไม่รู้ว่าเราต้องการอะไรที่เข้ามาช่วยพี่แต่ช่วยหยุดได้มั้ยเพราะพี่ไม่ชอบ”
มันนิ่งไปเลยเมื่อผมพูด สายตามันที่มองผมเหมือนกับว่าคำพูดของผมทำให้มันเจ็บปวด
แต่ผมคิดว่าตัวเองตาฝาด
ผมหันหน้าไปทางไอ้เอซบ้างมันเองก็มองการกระทำของผมนิ่งเหมือนรอดูว่าผมจะพูดอะไรกับมัน
”เอซ
มึงจะให้กูทำยังไงมึงถึงจะปล่อยกูไป จะให้กูอ้อนวอนมึงเลยมั้ย ปล่อยกูไปเถอะนะ”
น้ำเสียงผมมันเบามากเพราะนั่นเป็นคำขอร้องของผม ผมเจ็บกับเรื่องนี้มามากพอแล้ว
พอกับคนนี้แล้วจริงๆ
“แต่กูรักมึงนะกัส” มันยังยืนยันคำเดิมและนั่นทำให้ผมหมดความอดทนกับมันจนต้องพูดมันออกมา คำที่ผมพยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด
“ถ้ามึงรักกู มึงจะไปมีคนอื่นทำไม”
“คนพวกนั้นไม่ได้สำคัญกับกูเท่ามึง”
“อย่าหลอกตัวเองเอซ
ที่มึงมาขอกูคืนดีเพราะมึงยังไม่มีคนมาแทนที่กู มึงเห็นกูเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
แต่กูก็ยังไม่ใช่สำหรับมึง”
“ไม่ใช่ กูรักมึง” ผมหันหลังให้เอซและเดินออกมาจากตรงนั้น ผมถือว่าเรื่องของผมกับมันจบแล้ว ถ้ายังไม่รู้เรื่องผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
ถ้ามันยังทำตัวแบบนี้สักวันผมคงต้องใจอ่อน และผมก็จะกลับไปเสียใจเหมือนเดิม ผมต้องเจ็บทุกครั้งที่จับได้ว่ามันไปมีคนอื่น
ผมไม่อยากเป็นแบบนั้นอีกแล้ว
“กัส…”
ผมหยุดฉะงักทันทีที่ได้ยินมันเรียกชื่อผมเสียงสั่น มันร้องไห้หรอ
ตั้งแต่คบกันมาผมยังไม่เคยเห็นมันร้องไห้เลยสักครั้ง เอสมันเป็นคนที่เข้มแข็งมาตลอด
รู้แบบนี้แล้วผมจะอดใจไหวหรอ ผมทนเห็นมันร้องไห้ไม่ได้หรอก
ผมจะกลับไปต่อให้ตัวเองต้องเจ็บอีกผมก็ไม่สนแล้วผมจะกลับไปหามัน
สุดท้ายผมก็ตัดสินใจหมุนตัวกลับมาจนได้หวังจะได้เห็นมัน แต่สิ่งที่เห็นกลับไม่ใช่ร่างของไอ้เอซแต่เป็นหน้าอกของใครบางคนที่เดินเข้ามาบังสายตาของผมไม่ให้ผมได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างหลัง
“อย่าหันกลับไป พี่จำไม่ได้หรือไงว่ามันทำอะไรไว้กับพี่
วันที่พี่ร้องไห้ในห้องผมพี่จำความรู้สึกนั้นไม่ได้แล้วหรอ พี่อยากกลับไปเป็นแบบนั้นอีกรึไง”
ผมคิดตามที่คนตรงหน้าพูดก่อนที่น้ำตาจะเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง
ผมจำได้ความรู้สึกนั้นผมรู้ว่ามันทรมานแค่ไหนแต่จะให้ทำยังไงตอนนี้ผมก็ทรมานเหมือนกัน
ทรมานที่ทำให้ไอ้เอซมันร้องไห้
“...” ผมหาทางไปไม่เจอ
มันตันไปหมด สมองก็ตื้อจนคิดอะไรไม่ออก
“ผู้ชายคนนั้นยังเจ็บได้ไม่เท่าที่พี่เจ็บหรอก
ฉะนั้นอย่าใจอ่อนเพียงแค่น้ำตาของมัน”
“จะให้ทำยังไง เราจะไม่ไหวแล้ว”
“ผมจะพาพี่ออกไปเอง” เด็กนั่นพลิกตัวผมให้หันหลังกลับก่อนที่มือมันจะเอื้อมมากุมมือผมไว้แล้วพาผมเดินไป
ทุกย่างก้าวมันชั่งยากลำบากแต่เด็กนี่กลับไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ทำอย่างที่ใจคิดเลย
มันกุมมือผมไว้แน่นแล้วบีบเหมือนให้กำลังใจ เสียงของมันก็บอกผมตลอดว่าอย่าใจอ่อน
อย่าหันหลังกลับ จนผมสามารถออกมาจากตรงนั้นจนได้
มันพาผมเดินออกมาไม่ไกลนักก่อนจะพาผมมานั่งที่ไหนสักแห่งในมหาลัยและผมก็ไม่สนใจด้วยว่าที่ไหน
พอนั่งได้ผมก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะทันที
คนที่พาผมมาก็เหมือนจะรู้ว่าต้องทำตัวยังไงถึงได้นั่งเงียบแล้วปล่อยผมไว้คนเดียว
เวลาผ่านไปนานเท่าไหล่ไม่รู้ที่ผมฟุบหน้าอยู่ตรงนั้นไม่ยอมเงยขึ้นมาและคนที่พาผมมาก็ยังเงียบเหมือนเดิมจนผมคิดว่ามันคงกลับไปแล้วเลยเงยหน้าขึ้นมา
แต่เปล่าเลยครับมันยังนั่งอยู่ที่เดิมข้างๆผม ผมอึ้งที่เห็นมันยังรอผมอยู่ ความมืดรอบตัวผมทำให้รู้ว่าผมนั่งอยู่กับเด็กนี่นานพอสมควร
“ทำไมยังอยู่อีก” ผมถามน้องมันไป อยากรู้ว่ามันจะมานั่งเฝ้าผมทำไมตั้งหลายชั่วโมง
บ้ารึเปล่า
“ก็พี่ยังไม่ยอมลุกขึ้นมาผมก็เลยยังไม่ไปไหน”
“เกี่ยวไรกันวะ?”
“ผมเป็นห่วง” ผมเงียบไปเลยกับคำพูดของไอ้เด็กนี่ แต่ก็ไม่อยากคิดว่ามันจะมาคิดชอบผม
มันแค่อยากช่วยผม คงสงสารผมมากกว่า(มั้ง)
“ขอบคุณที่ช่วยแล้วกัน” ผมบอกขอบคุณมันก่อนจะลุกขึ้นยืนเตรียมเดินกลับคอนโด
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้มั้ย?”
ผมมองไอ้เด็กนี่อย่างชั่งใจว่ามันต้องการอะไรจากผมกันแน่ แต่ก่อนที่ผมจะได้ถามอะไรไป
เด็กนี่ก็ดึงตัวผมให้กลับไปนั่ง หน้าหล่อๆของมันยื่นเข้ามาหาผมจนผมต้องถอยตัวหนี
“ช่วยเอาหน้าออกไปไกลๆหน่อย”
ผมเตือนคนตรงหน้าไปก่อนที่ผมจะเอากำปั้นไปยัดปากมันแทน
แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมขยับออกตามที่ผมสั่งแถมยังเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้กว่าเดิมอีก
“พี่จำชื่อผมได้ป่ะเนี่ย?” จะถามแค่นี้ทำไมต้องเอาหน้ามึงมาใกล้ขนาดนี้ด้วยวะ! จำไม่ได้โว้ยยยยย!
“....” ผมยังนิ่งได้อีกครับ
“พี่ดูเปลี่ยนไปนะ
เล่นเอาผมแทบจำไม่ได้…ถ้าพี่ไม่ถอดแว่นผมก็คงจำพี่ไม่ได้แน่เลย”
รู้งี้กูไม่ถอดหรอก ชิ
“นายก็เปลี่ยนไปนะ...ดูปากมากกว่าตอนนั้นเยอะเลย”
“จำผมได้ด้วยหรอ” มึงจะยิ้มทำไม กูด่ามึงอยู่นะ
“เราขอเตือนนายอีกครั้ง
ช่วยเอาหน้านายออกไปก่อนที่เราจะเอาอย่างอื่นไปดันมันออกเอง” ผมเตือนมันเป็นครั้งสุดท้าย ถ้ามันยังไม่เอาหน้าออกไปอีก
ผมจะเอากำปั้นไปกระแทกให้มันออกไปเอง
“ผมยอมแล้วครับ” สุดท้ายมันก็ยอมเลื่อนหน้าออกไปแต่โดยดี “แต่เรื่องที่ผมพูดวันนี้ทั้งหมดผมพูดจริงนะ”
ผมย้อนคิดว่าคนตรงหน้าผมพูดอะไรไปบ้าง
ก่อนจะนิ่งไปทันทีเมื่อคิดถึงคำพูดหนึ่งที่มันเคยพูดไว้กับไอ้เอซ
“นายเป็นเกย์หรอ?” ผมถามมันตรงๆแบบไม่มีอ้อมค้อม แต่จะถามไปทำไมวะคำตอบมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ในเมื่อมันชอบผู้ชายด้วยกันก็แสดงว่ามันเป็นเกย์ไง
และมันคิดว่าผมเป็นเหมือนกันเลยชอบผมงั้นสินะ
“ผมไม่ใช่เกย์
แต่ถ้าเป็นแล้วมันจะทำให้พี่เป็นของผม ผมก็ยอมนะ” หมายความว่าไงวะ
สรุปเป็นไม่เป็นกันแน่เนี่ย
“จะยังไงก็ชั่ง ถ้านายคิดจะจีบเราก็ขอให้หยุดซะเถอะ
เพราะเราไม่ใช่เกย์”
“ทั้งๆที่พี่คบกับผู้ชายน่ะหรอ”
“ถึงเราจะเคยคบกับผู้ชาย
เราก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเราเป็นผู้ชายไม่ใช่เกย์อย่างที่นายเข้าใจ” ผมคิดว่าพออธิบายให้มันเข้าใจแล้วมันจะปล่อยผมไป แต่ดูเหมือนมันจะตรงกันข้ามกับที่ผมคิดไปเยอเลยเพราะมันกลับยิ้มกับคำตอบของผมเหมือนถูกใจผมมากย่างนั้นแหละ
“ผมไม่ได้ชอบพี่เพราะพี่เป็นเกย์หรอกนะ
ผมชอบพี่ที่เป็นพี่ ต่อให้พี่จะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง เกย์ กระเทย
ผมก็ยังจะชอบพี่อยู่ดี” คำตอบมันเล่นเอาผมอึ้งไปเลย ผมไม่รู้ว่ามันพูดจริงรึเปล่าแต่ผมก็เผลใจเต้นไปกับคำพูดนั้นเหมือนกัน
แต่ก็ไม่ได้ชอบมันหรอกนะเพราะผมคงเข็ดกับผู้ชายไปอีกนานเลยครับ
“ทำไมต้องเป็นเรา
ผู้หญิงก็มีตั้งเยอะแยะ นายก็หล่อน่าตาดีดูมีชาติตระกูล หาได้ดีกว่าเราอยู่แล้ว”
“ผมดันไปสัญญากับพระเจ้าไว้ว่าถ้าเจอกันอีกครั้งผมจะยอมจีบพี่
เพราะผมถือว่าเราเป็นเนื้อคู่กันพระเจ้าถึงได้ลลิขิตให้เราเจอกันอีกครั้ง
ผมเลยต้องทำตามสัญญา” สัญญาเนี่ยนะ!
มันคิดได้ไงวะ
“ถ้านายไม่ได้จริงจังอะไรก็อย่าเลย
เพราะมันจะทำให้เราเจ็บเปล่าๆ” ถ้าเกิดมันทำให้ผมรักมันขึ้นมาได้จริงๆ
คงเป็นผมที่ต้องเสียใจ
เหมือนคนเห็นแก่ตัวเลยที่คิดแค่จะทำตามสัญญาโดยไม่คิดถึงผลที่ตามมา
“ถ้าผมไม่จริงจังแล้วผมจะสัญญาทำไม
เพราะผมจริงจังมาก เลยต้องสัญญาในเมื่อสวรรค์ให้โอกาสแล้วผมก็จะคว้ามันไว้
พี่ไม่คิดแบบนั้นบ้างหรอ”
“เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะนะ เราจะกลับบ้าน” ผมตัดบทมันดื้อๆก่อนจะเดินออกไปเลย
“ผมไปส่งนะ
และก็จำชื่อผมไว้ด้วยล่ะ ผมชื่อกัน”
“ทำไมเราต้องจำด้วย” ขนาดเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาจะเป็นปีผมยังเรียกผิดเรียกถูกเลย
“พี่ควรจำชื่อคนที่ตามจีบพี่ไว้นะ ถ้าตอนนี้พี่จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะทำให้พี่จำผมได้เอง” ต่อให้มาบอกทุกวันผมก็จำไม่ได้หรอก เพราะผมเป็นมนุษย์ที่ลืมชื่อทุกคน ขนาดไอ้เอซผมยังเรียกมันผิดอยู่ทุกวัน แล้วเด็กนี่เป็นใครถึงได้มาสั่งให้ผมจำชื่อมันกันวะฮะ
100%
#รุ่นพี่เด็ด
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น