คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : chapter : 01 {ความต้องการ}100%
บทที่ : 01
::ความต้องการ::
ครืดดดด~ ครืดดดด~ ครืดดดด~
“ว่าไง?”
“อยู่ไหนแล้ววะ?”
“กูถึงแล้ว กำลังจะเข้าไป”
“เออๆ มึงรีบมาเลย พวกกูมากันครบแล้วเนี่ย รอมึงคนเดียวเลย”
“คร้าบบบบ! ไอ้เพื่อนอ้อน”
ผมกดตัดสายไอ้ดีอ้อนไปก่อนจะวนรถหาที่จอดต่อ
วันนี้พวกผมนัดกันมากินเลี้ยงฉลองในการสอบเข้ามหาลัยได้กันทุกคนแถมยังติดที่เดียวกันอีก
พวกเรานัดกันที่ผับพี่ไอ้ซีโน่เพื่อนผมครับ
ผมมาถึงได้สักพักแล้วแต่ดันหาที่จอดรถไม่ได้ซักที
ดูเหมือนวันนี้คนจะเยอะเป็นพิเศษเลยหาที่จอดยากหน่อยครับ ผมวนอยู่อย่างนั้นหลายรอบก่อนจะเห็นรถคันหนึ่งแล่นออกไป
เลยเข้าไปเสียบแทน พอหาที่จอดรถได้แล้ว
ผมก็เดินลงจากรถแล้วล็อกเสร็จสัพก่อนจะเดินไปที่ทางเข้าผับ
แต่ขายังไปได้ไม่ถึงไหนก็มีคนเดินมาชนไหล่ผมซะแรงเลยครับ
ผมถลาไปข้างหน้าหนึ่งก้าวก่อนจะหันควับไปมองหน้าไอ้คนที่มันเดินไม่ดูตาม้าตาเรือ
แต่มองไม่เห็นครับ เห็นแค่หลังไวๆเหมือนรีบไปไหนสักที่นึงนี่แหละ
เฮ่!!
มึงชนกูนะ ไม่คิดจะขอโทษกูหน่อยหรอวะ!
ผมกำลังจะตะโกนด่ามันแต่ก็ต้องหยุดปากไปทันทีเมื่อเห็นว่ามันกำลังทำอะไรอยู่
จากอารมณ์โกรธแปลเปลี่ยนเป็นความอึ้งงัน
จะไม่ให้อึ้งได้ไงก็ไอ้คนที่ผมจะตะโกนด่ามันเมื่อกี้
จู่ๆมันก็เดินย่างสามขุมไปกระโดดถีบผู้ชายคนนึงที่ยืนอยู่หน้าผับจนคนแถวนั้นแตกตื่นกันระนาวถอยหนีแทบไม่ทันครับ
พอมองดีๆแล้วไอ้นั่นมันตัวเล็กมากเลย
แถมหน้ายังหวานอย่างกับผู้หญิง แต่ดันกล้าไปกระโดดถีบผู้ชายที่ตัวใหญ่กว่าตัวเองอย่างไม่เกลงกลัวเลยครับ
บ้ารึเปล่าวะไปถีบเค้าไม่กลัวเค้าจะสวนกลับหน้าหันเลย
ผมยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสนอกสนใจ
เรื่องที่มันเดินชนผมเมื่อกี้ก็ลืมไปแล้วครับ
ไอ้ผู้ชายที่ถูกมันถีบอย่างไม่ทันตั้งตัว ก็หันมามองคนที่ถีบตัวเองสีหน้ามันดูโกรธมาก
แต่พอหันมาเห็นว่าเป็นใครสีหน้ามันก็เปลี่ยนไปเหมือนตกใจมากเมื่อเห็นไอ้หน้าหวาน
ดูเหมือนจะรู้จักกันนะ เพราะมันเผลอเรียกชื่อคนตรงหน้ามันซะเสียงดัง
“กัส”
“เออกูเอง” มันก็ตอบกลับไปด้วยเสียงที่ดังพอที่จะบ่งบอกอารมณ์ของมันได้
“มึงมาอยู่นี่ได้ไง แล้วมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” ไอ้คนถูกถีบถามไอ้หน้าหวานหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะลุกขึ้นมาปัดฝุ่นออกจากตัว
ผมยืนพิงรถมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่รีบร้อนเท่าไหร่ ดูว่ามันจะเป็นไงต่อไป
นี่ไม่ได้เสือกนะครับ พวกมันยืนขวางทางเข้าผมต่างหาก
“กูมานานพอรู้ว่ามึงนอกใจกูนั่นแหละเอซ!” ผมพอจะเข้าใจเรื่องราวคร่าวๆแล้วครับว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์กันแบบไหน
“มึนเข้าใจกูผิดนะกัส”
“เข้าใจผิดพ่อมึงสิ! กูเห็นเต็มสองตา
มึงยังกล้าแถได้นะ...ทำไมวะเอซ มีกูคนเดียวไม่พอหรือไงมึงถึงได้ไปมีคนอื่น”
“กัสมึงฟังกูก่อน กูขอโทษ” ผู้ชายที่นอกใจแฟนพยายามจะเดินไปจับแฟนเข้ามากอดแต่ดันโดนคนตรงหน้ามันสะบัดตัวหนีแถมด้วยการกระชากคอเสื้อมันเข้ามาจะต่อยต่อ
แต่ยังไม่ต่อยนะครับ “กูจะไม่ทำอีกแล้วกัส”
“มึงพูดแบบนี้มากี่ครั้งแล้ววะเอซ!
ทุกครั้งที่กูจับได้มึงก็สัญญาว่าจะไม่ทำอีก แล้วที่กูเห็นนี่มันคือไรวะ!”
“กัส กูสัญญาว่าคราวนี้กูจะไม่ทำอีกแล้ว มึงให้โอกาศกูนะ กูรักมึงมาก”
“พอเหอะว่ะ กูไม่อยากโง่เชื่อคำพูดมึงอีก”
“ไม่กัสมึงต้องฟังกู”
“มึงเก็บคำสัญญาของมึงไว้ตอนที่มึงทำมันได้เถอะ!”
“กัส…”
“เราเลิกกัน”
“ไม่กัส กูไม่เลิก”
“เรื่องของมึง แต่กูจะเลิก”
ไอ้หน้าหวานมันเตรียมจะเดินหนีแต่ถูกแฟนที่ตัวเองพึ่งบอกเลิกกอดเอวไว้จนมันต้องสะบัดทิ้งอย่างรำคาญ
พอเห็นว่าเขาไม่ยอมปล่อยมันก็เลยสวนหมัดเข้าให้
เก่งมากครับเห็นตัวเล็กๆแบบนั้นแต่แรงนี่อย่างกับควาย
ต่อยแฟนเก่าจนหน้าหันเลือดกบปากเลย
ครืดดดด~ ครืดดดดดด~
ผลละสายตาออกจากเรื่องของผัวเมียแล้วมาสนใจโทรศัพท์ที่กำลังสั่นในกระเป๋า
ไม่ต้องดูก็รู้ว่าใครโทรมา
“เออ”
“ไหนว่าถึงแล้วไงไอ้กันทำไมมันนานนักวะ? นี่มึงโกหกกูใช่มั้ยเนี่ย!!” ไอ้ดีอ้อนตะโกนด่าผมแข่งกับเสียงเพลงข้างใน
กูเปล่าโกหกเว้ยแค่มีเรื่องน่าสนใจนิดหน่อยเอง แฮ่ๆ
“ถึงแล้ว พอดีมีเรื่องที่หน้าร้านนิดหน่อย” มองเพลินเลยครับมันมาก
“มีเรื่องไรวะ? ให้กูออกไปช่วยมั้ย”
“ไม่ใช่เรื่องของกูหรอก อีกอย่างมันจบแล้ว”
“เออๆมึงรีบมาเลย ไอ้พวกเหี้ยนี่เมารอมึงแล้วเนี่ย...เร็วๆ” ไอ้ดีอ้อนมันเร่งผมยิกๆ
“เออๆ กูจะเข้าไปแล้วเนี่ย ค่อยเจอกันข้างใน”
ผมกดตัดสายเพื่อนก่อนจะมองกลับไปตรงที่เกิดเหตุการณ์เมียต่อยผัวเพราะจับได้ว่าผัวไปมีเมียน้อยเมื่อกี้แต่ไม่เห็นใครแล้วครับ
ชิ! อดดูเลยว่ามันเป็นไงต่อ สรุปไอ้หน้าหวานมันใจอ่อนป่ะวะ?
ว่าแต่ผมไปเสือกเรื่องของเค้าทำไม่วะ?
ผมสลัดเรื่องคนอื่นออกจากกหัวแล้วเดินไปที่หน้าผับเพื่อเข้าไปข้างใน ช้าเดี๋ยวแม่งก็โทรตามกูอีก
พอพี่การ์ดที่ยืนตรวจบัตรเห็นผมก็โค้งให้แล้วพาผมเข้าไปหาพวกไอ้โน่ทันที มีเพื่อนที่พี่เปิดผับมันดีแบบนี้เองครับ
หึหึ
พี่การ์ดพาผมเดินขึ้นชั้นสองที่เป็นโซน VIPครับ เห็นไอ้พวกเพื่อนๆผมนั่งอยู่กันครบองค์ แถมกำลังเมาได้ที่เลย
“เฮ้ย! ไอ้กันมาแล้วโว้ย!!”ไอ้อลันร้องทักผมทันทีที่เจอหน้าเลยครับ
“สัสกัน กว่าจะเสด็จมาได้นะมึง”
“เออๆ กูเสด็จมาแล้วไงสัสโน่เลิกบ่นเลย”ผมตอบไอ้ซีโน่อย่างกวนๆ
“แหมมมไอ้กัน มึงมาตอนที่เค้าจะกลับกันแล้วเนี่ย”
“หุบปากไปไอ้อลัน...แล้วไหนสาวกูวะไอ้โน่”ผมถามเมื่อเห็นพวกมันมีกันครบ
ยกเว้นผมครับ
“หาให้แล้วครับเพื่อน รอแปบไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวก็มา”ไอ้ซีโน่หันมาตอบผมก่อนจะกลับไปคลอเคลียกับสาวมันต่อแต่ละคนจัดว่าเด็ดครับ
หุ่นนี่หย่างกับนางแบบหน้าตานี่ไม่ต้องพูดถึงสวยทุกคน ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างไอ้ดีอ้อน
เหมือนมันจะรู้งานเตรียมหยิบแก้วเหล้ามาชงให้ผมพร้อม
“เมื่อกี้มึงบอกมีเรื่อง ตกลงมันเรื่องไรวะ?”ไอ้ดีอ้อนหันมาถามผมถึงเรื่องเมื่อกี้ครับ
“ไม่มีไรหรอกมึง แค่ผัวเมียทะเลาะกัน”
“เฮ้ย! จริงดิ...แล้วมึงไปเสือกไรกับเค้าวะ”ไอ้เหี้ยอ้อนมันหาว่าผมเสือกเรื่องชาวบ้านว่ะ
มันไม่เห็นเหมือนผมไงเลยคิดแบบนั้น
ปกติผมก็ไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นนะครับแต่เรื่องนี้มันดูไม่ธรรมดาเลยหักเหความสนใจของผมอย่างมาก
ก็ผู้ชายรักกับผู้ชายผมไม่เคยเห็นไง
ถึงสังคมทุกวันนี้จะเปิดกว้างเรื่องพวกนี้แล้วก็เถอะ
แต่ผู้ชายรักกับผู้ชายด้วยกันแถมยังบอกเลิกกันเหมือนตัวเองมีตัวเลือกมากมาย
ชายทั้งแท่งอย่างผมไม่เข้าใจครับ ถึงมันจะหน้าตาน่ารักแต่นั่นก็เป็นผู้ชายนะเว้ย
ต้องกล้าแค่ไหนถึงจะบอกเลิกเขาได้
ถ้าตัวเองหาชายอื่นไม่ได้จะไม่ต้องขึ้นคานเลยเหรอ
ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะเป็นเกย์ไปซะหมด อย่างน้อยก็ไม่ใช่พวกผมแหละครับ
“กูอยากเสือก พอใจมึงยังวะไอ้อ้อน!” ผมหันหน้าหนีมัน
สัสนี่ชอบหาเรื่องทะเราะกับผมตลอด
“เออๆ…อ๊ะนี่ของมึง” ไอ้ดีอ้อนยื่นแก้วเหล้าที่ชงมาให้ผม
ผมรับมาจิบก่อนจะมองบรรยากาศในร้านไปเรื่อยเปื่อย
พวกผมนั่งโต๊ะติดกับกระจกที่สามารถเห็นโซนข้างร่างที่เป็นพื้นที่แดนซ์
ส่วนชั้นสองเป็นโซนVIP ซึ่งเป็นพื้นที่นั่งชิว
ผับพี่ซีน่อนค่องข้างใหญ่ มีสองชั้นตามที่ผมบอกว่าชั้นล่างจะเป็นพื้นที่ไว้เต้น
ซึ่งคนที่มาก็เต้นกันหลุดโลกจนพวกผมเรียกโซนนั้นว่าโซนปล่อยผี
ผมก้มมองลงไปที่โซนปล่อยผีเห็นผู้คนกำลังส่ายสะโพกโยกย้ายไปตามจังหวะเพลงที่ดังกระหึ่มอย่างเมามัน
ก่อนที่สายตาจะไปหยุดกับร่างของใครบางคนที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตา
กำลังเต้นอยู่กับผู้ชายคนนึง ผมคิดว่าผู้ชายคนนั้นน่าจะเป็นคู่ขาคนใหม่ของมัน
เพราะมือมันคล้องคอผู้ชายคนนั้นไว้ทั้งสองข้างส่วนคู่ขามันก็เอามือคล้องที่เอวมันไว้ทั้งคู่เหมือนจะรวมร่างกันกลางผับให้ได้
สภาพแบบนั้นผมคงจะคิดเป็นอื่นไปไม่ได้หรอกครับ พึ่งบอกเลิกแฟนไปแท้ๆแต่กลับหาใหม่ได้ง่ายดาย
ผมนั่งมองทั้งสองยืนกอดคอกันเต้นไม่อายสายตาใคร
ก็เข้าใจว่าโลกเปิดกว้างแล้ว แต่พวกมึงก็ช่วยแคร์สายตาคนอื่นหน่อยได้มั้ยวะ! กูรับไม่ได้!!
“หึ! ว่าแต่คนอื่นร่าน ตัวเองก็ใช่ย่อย” ผมเผลอพูดออกมาจนไอ้ดีอ้อนที่นั่งข้างผมได้ยิน มันเลยหันมาถามผม
“อะไรวะไอ้กัน”
“เปล่า”ผมไม่ตอบแต่หันไปมองคนที่เพิ่งละสายตาไปเมื่อกี้ต่อ
แต่ปรากฎว่าไม่เห็นร่างเล็กที่เคยอยู่ตรงนั้นเห็นแค่คู่ขาคนใหม่ของมันเต้นอยู่ที่เดิมแถมยังกอดเอวผู้หญิงคนนึงไว้ด้วย
ผมไม่เข้าใจว่ะ? สังคมแบบนี้มันอะไรกันวะเนี่ย!! ไอ้หน้าหวานมันโดนนอกใจอีกแล้วหรอวะน่าสงสารชิบ
“ไอ้กัน มาชนกับเพื่อนกับฝูงสิวะ! มองอะไรอยู่ได้” ไอ้ซีโน่เรียกผม ผมเลยต้องหันมาสนใจกับเรื่องของตัวเองแทน
ผมหยิบแก้วมาชนกับพวกมเพื่อนๆแล้วจิบไปนิดหน่อย
กะว่าจะไม่กินเยอะเพราะต้องขับรถกลับเอง
“มานู่นแล้วครับคุณกัน ของมึงๆ”ไอ้ดีอ้อนมันสะกิดผมและชี้ไปที่ผู้หญิงคนนึงที่กำลังเดินมาทางนี้
เธอสวยมากจนคนในผับหันมองกันตาละห้อย
สมแล้วที่เป็นไอ้โน่หามาแต่ละคนไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลยครับ
เธอคนนั้นเดินตรงมาที่โต๊ะก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างผม เธอยิ้มให้ผม
ผมก็ยิ้มตอบเธอไปแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นจิบอีกนิดหน่อย
“เจสนี่ไอ้กันเพื่อนโน่”ไอ้ซีโน่เเนะนำผมให้สาวสวยตรงหน้ารู้จัก
“หวัดดีกัน เราเจสิก้า”
“ครับเจส คุณดูสวยมากเลยครับ” ผมยิ้มหว่านเสน่ห์ให้เจสิก้าก่อนที่เธอจะขยับมาใกล้ผมแล้วเราก็เริ่มคุยกันตามภาษาชายหญิงที่จะสานความสัมพันธุ์กัน
เจสิก้าดูเป็นคนไม่เรื่องมากซึ่งเป็นสเปคผม เลยคิดจะสานต่อกับเธอในคืนนี้
เรานั่งชนแก้วกันและคุยกันในกลุ่มก่อนที่ผมจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
เดินไปไม่นานก็ถึง ผมชอบห้องน้ำที่นี่ครับ ดูสะอาดสะอ้านตลอดเวลา
แถมไม่เหม็นเหมือนผับอื่นๆ
พี่ซีน่อนที่เป็นพี่ชายไอ้ซีโน่ค่อนข้างให้ความสนใจกับเรื่องนี้มาก
ผมเดินไปที่โถชี่และจัดการธุระของตัวเอง
เสร็จก็เดินมาที่อ่างล้างมือ ข้างๆกันมีผู้ชายสองคนกำลังล้างมืออยู่และพูดคุยกัน
“มึงเอาจริงหรอวะกับไอ้หน้าสวยนั่น” ผมจะไม่ใส่ใจเลยถ้าบทสนทนามันไม่สะกิดให้ผมนึกถึงใครบางคน
แต่ผมว่าคงไม่ใช่หรอกเพราะคนหน้าสวยก็มีเยอะแยะไป
“เออดิ แม่งน่ารักชิบหาย ไว้ท่ารีรามันเด็ดกูจะแบ่งมึง” ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ผมก็ยังเสือกยืนฟังพวกมันคุยกันไม่ยอมขยับไปไหน
ทั้งที่ธุระของตัวเองก็เสร็จหมดแล้ว
“แต่ว่ามันจะยอมหรอวะ เมื่อกี้มันยังไล่พวกเราเลยนะเว้ย”
“กูมีตัวช่วย...ตอนนี้มันน่าจะเมาได้ที่แล้วแค่เอานี่ให้มันกินอีกแก้วก็จบ”
ผมชำเลืองมองทางหางตาเห็นมันหยิบซองสีใสที่ข้างในบรรจุผมสีขาวอยู่เต็มถุงเล็กๆ
ก่อนที่มันจะเก็บลงกระเป๋าคืน แล้วเดินออกไปจากห้องน้ำ คิดจะวางยาเลยเหรอวะ
แม่งเลวชิบ
ผมเดินตามพวกมันสองคนออกไปโดยไม่ให้พวกมันรู้ตัว
ในใจก็คิดว่าจะเป็นคนเดียวกับที่ผมคิดไว้รึเปล่า แล้วผมจะไปสนใจเรื่องของมันทำไมกันวะเนี้ย
ไม่ใช่เรื่องของผมซักหน่อย แต่ถึงจะคิดแบบนั้นผมก็ยังเดินตามไอ้สองคนนั้นไปอยู่ดี
ถ้าเป็นหมอนั่นจริงผมก็อดสงสารไม่ได้ว่ะ
ชีวิตมันจะรัดทดไปไหน
โดนแฟนนอกใจแถมยังโดนไอ้พวกสวะรากไปข่มขืนอีกผมคงปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้
---------------------------------------------------------------------------------------------------
50%
ต่อค่ะ
ตามไปไม่นานก็เห็นมันนั่งลงที่โต๊ะตรงมุมนึงของร้าน
เป็นดังคาดครับ คนเดียวกันจริงๆ แถมนั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆกับโต๊ะผมด้วย
ผมเลยเดินผ่านพวกมันไปที่โต๊ะของตัวเอง
“กลับมาแล้วหรอคะกัน”เจสิก้าทักผมทันทีที่ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างเธอ
ผมหันไปพยักหน้าให้เธอแล้วหันกลับไปมองโต๊ะตรงมุมนั้นต่อ
ไอ้หน้าหวานกำลังเมาได้ที่เลยครับ
มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้พวกนั้นกำลังจะวางยาตัวเอง
ไอ้พวกสวะนั่นกำลังยื่นแก้วไปให้คนเมา มันก็รับไปโดยที่ไม่รู้เรื่องเลยผมจะสงสารหรือสมเพศมันดีวะ
ผมรุกพรวดทันทีเมื่อไอ้หน้าหวานนั่นกำลังจะยกแก้วที่ไอ้สองตัวนั่นส่งให้ขึ้นดื่ม
เพื่อนผมในโต๊ะพากันหันมามองผมอย่างงงๆ
“อะไรของมึงเนี่ยไอ้กัน?”ผมไม่สนใจพวกมันก่อนจะเดินไปที่โต๊ะไอ้หน้าหวานทันทีแต่ไม่ทันแล้วครับ
ไอ้หน้าหวานมันกระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมดเลย
“เชี่ยเอ้ย!”ผมสบถออกมาอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะรีบเดินไปเมื่อเห็นพวกมันเริ่มจะพยุงร่างคนเมาที่ไม่รู้เรื่องนั่นออกจากร้าน
หมับ
“เฮ้ย มึงเป็นใครวะ?” พวกมันหันมาถามผมเพราะผมดันไปคว้ามือคนที่พวกมันกำลังจะพาไปทำมิดีมิร้ายไว้และออกแรงดึงคนตัวเล็กเข้าหาตัว
มือนุ่มชิบหายไม่น่าละถึงเป็นที่หมายตาของคนอื่นไปทั่ว
“ผมเป็นเพื่อนกับคนที่คุณคิดจะวางยาเค้า” พวกมันดูอึ้งมากที่ผมรู้แผนการชั่วๆของพวกมัน
“มึงพูดอะไรวะอย่ามาใส่ร้ายกู และคืนเพื่อนกูมาด้วย”
แม่งหน้าด้านมาก ผมข่มอารมณ์ไว้ไม่อยากมีเรื่อง
เพราะผมเกรงใจพี่ซีน่อน
“มีเรื่องไรกันวะ?”ไอ้ซีโน่ถามผมเมื่อเห็นว่าผมกำลังมีเรื่องพวกมันเลยเดินมายืนขนาบข้างผม
พอไอ้สองตัวข้างหน้าผมเห็นพวกผมมีเยอะกว่าเลยยอมถอยทัพครับ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” อืม
อย่าลืมมาเอาคืนล่ะพวก
พอเรื่องคลี่คลายผมก็พาคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนผมกับคนอื่นๆกลับโต๊ะ
พอผมทิ้งตัวลงนั่งได้พวกมันก็ไต่สวนผมทันที
“มีเรื่องไรวะกัน แล้วหมอนั่นใคร?” ไอ้ดีอ้อนเป็นคนเปิดประเด็นก่อนที่ทุกคนจะหันมามองร่างบางที่นอนซบไหล่ผมอยู่
“แค่คนรู้จักวะ เห็นจะถูกวางยากูเลยช่วยไว้”
“วางยา!!”พวกมันพูดขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจ
ตอนแรกที่ได้ยินผมก็ตกใจเหมือนกันไม่คิดว่าสมัยนี้ต้องพึ่งยาด้วย
“โดนผู้ชายวางยาเนี่ยนะ!!” ไอ้อลันถามผมก่อนจะมองไปหาร่างที่เมาไม่รู้เรื่องข้างๆผม”แต่นั่นมันผู้ชายไม่ใช่เหรอวะ!”
“อือ”ผมรู้ว่าไอ้อลันก็ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้เหมือนกับผมหรือออกจะรับไม่ค่อยได้ยิ่งกว่าผมอีก
“แล้วมึงรู้รึเปล่าว่าพวกมันใช้ยาอะไร” ไอ้ซีโน่ดูจะเฉยๆกับเรื่องแบบนี้เอ่ยถามผม ผมกไม่รู้เหมือนกันครับว่ายาตัวไหนเห็นแต่เป็นผงสีขาวๆ
“ไม่รู้ว่ะ เห็นแค่เป็นผงสีขาวๆ”
“เวรแล้วมั้ยล่ะมึง!”คนที่เฉยมาตลอดตอนนี้เริ่มไม่เฉยแล้วครับ
มันเริ่มทำหน้าผะอืดผะอมมองคนตรงหน้าอย่างหวาดผวาจนผมสงสัย
“อะไรของมึงวะไอ้โน่?” ไอ้อลันเริ่มระแวงไอ้โน่
“คือกูกำลังคิดว่ายาที่หมอนี่กินเข้าไปน่าจะเป็น...”มันอ้ำอึ้งไม่ยอมตอบพวกผมจนผมเริ่มรำคาญเลยต้องเร่งมัน
“มึงรีบๆพูดมาดี๊ มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่ได้สัสนี่”
"ถ้ามึงคิดจะวางยาผู้ชาย มึงจะใช้ยาอะไรล่ะไอ้กัน”
“อย่าบอกนะว่าเป็นยาเซ็กส์อ่ะ”นี่ไม่ใช่เสียงผมแต่เป็นเสียงไอ้อลันครับ
“ไม่ใช่หรอกมั้ง บางที่อาจจะแค่ยาสลบก็ได้
ของพวกนั้นหายากจะตาย” ผมเห็นด้วยกับไอ้ดีอ้อน
“สัสอ้อน ถ้าเป็นผู้หญิงแค่ยาสลบก็ได้
แต่นี่มันผู้ชายนะเว้ย ถ้าไม่มีอารมณ์ร่วมมันจะไปสนุกอะไร”
“มึงนี่รู้ดีนะไอ้โน่มึงเป็นปะเนี่ย?” ผมถามไอ้โนอย่างติดตลกไม่ได้คิดหรอกว่ามันจะเป็น
“เป็นพ่องมึงดิสัส!”
“แล้วเราจะเอาไงดีวะ
ปล่อยไว้แถวนี้ให้คนอื่นมาเก็บไปมั้ย หรือเรียกพวกมันกลับมาเอาให้มันจบๆจะได้ไม่ลำบากพวกเรา”
ไอ้ดีอ้อนมันว่างั้น ผมเลยตัดปัญหาที่ผมเป็นคนเริ่มเองครับ
“อาจจะเป็นแค่ยาสลบก็ได้มั้ง กูไม่เห็นมันจะมีอาการเลย
แต่ถ้าพวกมึงระแวงมากเดี๋ยวกูพากลับไปบ้านกูก็ได้” ผมบอกเพื่อนๆเพื่อให้พวกมันสบายใจ
“เอาจริงหรอวะไอ้กัน?” ไอ้ดีอ้อนก็ถามผมอย่างเป็นห่วง(สายตามันบอกผมแบบนั้น)มันกลัวจะเป็นยาที่ไอ้ซีโน่บอก
“เออ”
“ระวังมึงจะเสียเอกราชนะเว้ย”
ป้าบ
ผมตบหัวไอ้อลันไปทีนึงก่อนจะรุกขึ้นยืนไม่วายดึงคนเมาขึ้นมาด้วย
“ขอโทษนะเจส กันคงไปกับเจสไม่ได้แล้วนะครับ” ผมหันไปขอโทษเจสิก้า เธอไม่ได้ว่าอะไรผมหรือทำสีหน้าโกรธผมด้วย นั่นทำให้ผมรู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้เข้าไปอีก
“ไปเถอะค่ะเจสเข้าใจ” เธอยิ้มให้ก่อนจะหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบแล้วหันไปพูดคุยกับคนอื่นต่อ
ผมพยุงร่างไอ้หน้าหวานออกจากร้านมาแล้วตรงไปที่รถผมที่จอดอยู่ไม่ไกลก่อนจะพามันขึ้นรถแล้วขับออกไป
ไม่นานรถผมก็มาจอดที่หน้าบ้าน
ผมกดรีโมทเปิดประตูบ้านแล้วขับเข้าไป
บ้านผมเป็นบ้านสองชั้นที่ไม่ใหญ่มากเพราะผมอยู่คนเดียว พ่อกับแม่ผมอยู่เมืองนอก
คนใช้ไม่มีประจำเพราะผมไม่ชอบให้ใครมาอยู่ด้วยเลยจ้างแค่ให้มาทำความสะอาดแล้วกลับไปทุกวัน
ผมพาร่างบางขึ้นไปข้างบนบ้าน
มีห้องอยู่สองห้องครับแต่อีกห้องไม่ได้ใช้เลยไม่ได้ทำความสะอาด
ผมเลยพามันเข้าห้องผมแทน ไม่เคยพาใครเข้าห้องเลยให้ตายดิ ผมทิ้งร่างมันไว้บนเตียงอย่างเหนื่อยหอบเห็นตัวเล็กๆแบบนี้แต่หนักใช่ย่อย
"อือออออ~"มันดิ้นนิดหน่อยก่อนจะพยายามลุกขึ้นมาถอดเสื้อออกเผยให้เห็นร่างกายใต้เนื้อผ้า
เชี่ยยยยยยย!!
หน้าทองแบนราบแถมยังขาวเนียนน่าสัมผัสสุดๆ
ตั้งแต่เมื่อไหล่ไม่รู้ที่มือผมไปอยู่ตรงหน้าท้องขาวๆนั่น
ร่างกายมันร้อนมากเพราะเนื้อส่วนนี้เคยถูกเสื้อให้ความอบอุ่นบวกกับแอลกอฮอล์ในร่างกายที่มีอีก
พระเจ้ามันน่าจับมาก
ผมเพิ่งรู้ว่าร่างกายผู้ชายมันดึงดูดเพศเดียวกันได้ด้วยเพราะตอนนี้ร่างผมเริ่มเคลื่อนเข้าหาคนตรงหน้าโดยที่ผมเองก็ไม่รู้ตัวเลยครับ
“ร้อน” คนตัวเล็กกว่าเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแต่ผมกลับคิดว่ามันเซกซี่มากผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่คิดว่าคนตรงหน้าเซ็กซี่
มึงแหกตาดูหน่อยดิวะไอ้เชี่ยกัน มันเป็นผู้ชายนะเว้ย มีทุกอย่างเหมือนมึง
มึงไม่ใช่เกย์ที่จะหวั่นไหวกับผู้ชาย
“อื้อออออ” ถึงจะบอกแบบนั้นแต่ปากเราก็ประกบกันเรียบร้อยครับ
ที่หนักคือผมเป็นคนเอี่ยวหน้าไปหามันเอง ตายกูตาย
ผมว่ามันไม่ได้โดนวางยาหรอกครับเป็นผมต่างหากที่โดน
“ฮ่าา”ร่างบางผละจูบออกจากผมก่อนจะผลักผมลงไปที่เตียงแล้วขึ้นคร่อมผมแทน
มือเรียวก็เริ่มดึงเสื้อผมออกอย่างเร่าร้อน
“ใจเย็นๆ” ผมร้องเตือนคนที่พยายามจะดึงเสื้อผมทิ้งแต่ความเมาก็เป็นอุปสรรคกับการถอดเสื้อผมมากเพราะมันจับเสื้อผมสะเปะสะปะแบบมือไม่นิ่งเลย
“เร็วๆ กูไม่ไหวแล้ว” มีการมาสั่งผมอีกนะ
แต่อะไรคือไม่ไหววะ ผมเก็บความสงสัยไว้แล้วถอดเสื้อตามคำบัญชาของคนข้างบน
นี่ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลยที่คิดจะเอาผู้ชาย
พอผมถอดเสร็จมันก็จู่โจมทันทีด้วยการไล้เลียตั้งแต่ซอกคอผมรามไปทั่วทั้งอกกว้าง
มันแปลกครับที่ผมไม่ได้รังเกียจแต่กลับรู้สึกดี เชี่ยกันมึงมีปัญหาทางเพศแน่ๆ
ผมน่าจะฟังคำเตือนไอ้อลันมันตั้งแต่แรกผมน่าจะปล่อยมันไปกับพวกนั้นไม่น่าเข้าไปยุ่งจนตัวเองเดือดร้อนเลย
“อึก อืออ~” จากที่คนข้างบนบอกไม่ไหวแต่ตอนนี้เป็นผมเองนี่แหละที่ไม่ไหวจนต้องร้องครางออกมา
ผมพลิกตัวร่างบางให้นอนลงกับเตียงแล้วเปลี่ยนมาขึ้นคร่อมมันแทนก่อนจะเริ่มจูบเล้าโลมมัน
ผมไม่เคยทำให้ผู้ชายแต่ผมคิดว่ามันก็เหมือนทำให้ผู้หญิงนั่นแหละแค่ปล่อยให้อารมณ์มันพาไปและดูเหมือนจะพาผมไปไกลเลยครับ
“ไม่ใช่” คนใต้ร่างพึมพำอะไรสักอย่างแต่ผมไม่สนใจวินาทีนี้อารมณ์อยู่เหนือสิ่งอื่นใด
“เอซ ฮึก...ไม่เอา”
ป้าบ! ตุบ? อั๊ก!!
สามเสียงดังขึ้นแทบจะพร้อมกัน
เมื่อผมรู้สึกเจ็บที่หน้าท้องก่อนที่ร่างทั้งร่างจะปลิวตกเตียงไปก้นจ้ำเบ้าที่พื้น
ผมเริ่มประมวลผลดูก็เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เมื่อกี่ผมถูกคนใต้ร่างถีบตกเตียงนี่เอง
“มึงไม่ใช่เอซ! มึงเป็นใคร
มาอยู่ในห้องกูได้ไง?” มีมโนว่าเป็นห้องตัวเองด้วย
“นี่ห้องผมครับ ไม่ใช่ห้องคุณ”ผมลุกขึ้นจากพื้นมือก็ลูบที่ก้น
แม่งตีนหนักชิบหาย
"ห้องมึง แล้วกูมาอยู่ที่นี่ได้ไงวะ โอ้ยยย!
ทำไมกูร้อนแบบนี้ มึงวางยากูหรอ!” ไอ้คนชั่งมโนหันสายตาดุๆมามองผม
ตัวก็บิดเร้าๆไปมาอยู่บนเตียงเหมือนกลั้นอะไรไว้สักอย่าง
เข้าใจแล้วครับว่ายาตัวไหน
“ปล่อยออกมา ไม่งั้นนายจะทรมาน”
“ไม่!...กูไม่ได้ง่ายนะ!” เวลานี้ยังจะหวงตัวอีกนะพ่อคุณ
“แล้วจะทำไง?”
“กูไม่รู้ มึงวางยากู ไอ้เหี้ยยยยย” ด่ากูอีกนี่ผมทำคุณบูชาโทษเหรอวะ
“ตามใจเพราะผมก็ไม่ได้ชอบรสนิยมแบบนี้เท่าไหล่”
“ช่วยกูที” นี่มันกวนตีนผมป่ะเนี่ย!
พอผมจะเดินหนีกลับมายื้อผมไว้ “มันทรมาน
ช่วยกูด้วย”
ชั่งแม่งแล้วครับตอนนี้ เจอสายตามันแล้วผมไม่สนว่ามันจะเป็นหญิงหรือชายแค่ตอนนี้ผมต้องการมัน
และต้องได้ด้วยต่อให้มันจะร้องขอให้ผมหยุดก็เถอะ หน้ามันตอนนี้อ้อนวอนผมสัดๆ ผมเข้าจู่โจมมันอีกครั้ง แรกๆมันก็เหมือนจะยอมผมแต่หลังๆเริ่มจะดิ้นครับ
“อือออ อ้อยยย”มันดิ้นขัดขืน
แต่ผมกดทับร่างมันไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้ แล้วพรมจูบไปทั่งร่างมัน
“จะช่วย อย่าดิ้นสิวะ!”ที่บอกว่าช่วยนี่ผมช่วยตัวเองนะ
“ไม่!”มันเริ่มดิ้นหนักขึ้นเรื่อยๆ
จมมือหลุดออกจากมือผมแล้วจัดการเสยหมัดเข้าที่หน้าผมอย่างไม่ทันตั้งตัว
ผลัก อั๊ก
ผมปล่อยมันออกจากพันธนาการด้วยความเจ็บที่แสกขึ้นหน้า
ไอ้คนที่ต่อยผมก็วิ่งไปที่ห้องน้ำแล้วปิดประตูเสียงดังปัง! ฤทธิ์เยอะชิบหาย ผมเข้าใจความเจ็บของแฟนเก่ามันเลยแม่งมือก็เล็กนิดเดียวแต่แรงยิ่งกว่าเดอะฮัก
“อ้าา~” ผมชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงดังมาจากห้องน้ำ
ตอนแรกก็คิดว่าหูแว่วแต่พอตั้งใจฟังจนเสียงมันดังชัดเจนเท่านั้นแหละครับรู้เลยว่าคนขางในกำลังทำอะไร
“อึก อ๊าา” มันช่วยตัวเอง
เอาจริงดิ ไม่อยากนอนกับผมถึงขั้นนั้นเลยหรอวะ
ไม่เคยเห็นคนโดนวางยาปลุกเซ็กส์แล้วไปช่วยตัวเองเลย
แต่แค่นั้นมันไม่พอหรอกนะไม่งั้นเค้าจะสร้างยานี่ขึ้นมาทำไมกัน
ผ่านไปเป็นชั่วโมงคนในห้องน้ำก็ยังไม่ออกมา
ขนาดผมลงไปอาบน้ำข้างล่างแล้วขึ้นมาก็ยังไม่เห็นมันโผล่หน้าออกมาเลย
แต่ยังได้ยินเสียงอยู่นี่มันเสร็จไปกี่รอบแล้ววะเนี่ย!! มีความพยายามเกินไปล่ะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ออกมาได้แล้ว
อยู่แบบนั้นก็มีแต่จะทรมานตัวเองเปล่าๆน่า” ผมรองเรียกมันดูแต่ดันได้คำตอบเดียวสั้นๆกลับมา
“ไม่”
“ตามใจ ผมนอนละนะ”
ผมเดินไปที่เตียงแล้วทิ้งตัวลงนอนก่อนจะหลับตาลง แต่ดันเห็นหน้าคนในห้องน้ำลอยมาปรากฎอยู่ในความมืด ริมฝีปากผมกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ไม่รู้ว่ายิ้มเพราะอะไรเหมือนกันครับอาจเป็นเพราะความดื้อรั้นของมัน หรือหน้าตาน่ารักของมันหุ่นของมัน หรือจะทั้งหมดนั่น ผมชักถูกใจมันเข้าแล้วว่ะ ถึงขนาดไม่สนว่ามันจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายแค่ผมอยากได้มันเท่านั้นก็พอ
90%
สวบ~
“อืออออออ~”
ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงอะไรสักอย่างที่กำลังคืบคลานเข้ามาใต้ผ้าห่มก่อนที่มือผมจะเริ่มคลำหาสวิตซ์ไฟตรงหัวเตียงแล้วกดเปิด
เมื่อแสงไฟสว่างขึ้นผมก็กระพริบตาถี่เพื่อให้ตาชินกับแสงไฟก่อนจะเริ่มปรับโฟกัสภาพตรงหน้า
ก่อนจะเห็นร่างของใครบางคนที่กำลังพยายามคลานขึ้นเตียงแต่ด้วยความเหนื่อยล้าจากการช่วยตัวเองบวกกับความเมาที่มีอยู่ในตัวทำให้ขึ้นมาได้แค่ครึ่งเดียวโดยที่ตัวมันอยู่บนที่นอนส่วนขามันอยู่ที่พื้นครับ
ผมลุกจากที่นอนก่อนจะเดินอ้อมเตียงไปหาร่างที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งทันที
ผมเอื้อมมือไปคว้าร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่กึ่งพื้นกึ่งเตียงมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน
เหมือนมันจะเหนื่อยมากครับ ถึงขนาดไม่มีแรงจะรั้งตัวเองไว้และยังไม่ขัดขืนผมอีกด้วย
ผมวางร่างเล็กๆลงที่เตียงแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมร่างให้มันก่อนจะเดินไปหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้
มันอาบน้ำแล้วเพราะผมได้กลิ่นหอมๆจากตัวมัน แต่ก็เห็นมันใส่ชุดเดิมแถมยังเปียกอยู่ด้วย
พอหาได้ก็เริ่มลงมือเปลี่ยนให้มันซะ ร่างเล็กพยายามจะขัดขืนเมื่อเห็นผมเริ่มจับตัวมันแต่ก็ทำไม่ได้ร่างกายมันไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหล่
“จะทำอะไรกู”
“เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ชุดที่นายใส่อยู่มันเปียก” ผมบอกไปแค่นั้นแล้วเริ่มลงมือถอดกางเกงมัน
ร่างเล็กพยายามปัดมือผมออกแต่มันเหมือนสะกิดมากกว่า
“ไม่เอา กูจะนอนปล่อยกู”
“อย่าดื้อ และอย่าดิ้นเดี๋ยวกูมีอารมณ์” ผมเตือนมันเพราะมันกำลังทำให้ผมลำบาก
“ปล่อยกู”เหมือนมันจะพูดไม่รู้เรื่องแต่ผมก็เข้าใจครับ
มันไม่รู้จักผมเลยกลัวผมจะไปทำอะไรมัน
พอถอดเสร็จผมก็รีบเบือนหน้าหนีเกือบไม่ทัน
จากที่น้องชายผมหมดอารมณ์ไปเพราะโดนส้นตีนถีบเข้าให้ ตอนนี้เริ่มตื่นอีกแล้วครับ
ผมพยายามไม่มองส่วนนั้นของมัน แต่ให้ตายดิลำพังแค่ใส่กางเกงแบบไม่มองยังว่ายากแล้ว
ไอ้คนตรงหน้ายังไม่ให้ความร่วมมืออีก มันดิ้นไปมาจนส่วนนั้นจะโดนมือผมหลายรอบ
ผมเริ่มจะทนไม่ไหวกับเหตุการณ์นี้จนต้องขู่มันไป
“จะอยู่นิ่งๆให้ผมใส่กางเกง หรือจะขึ้นมาขยับบนตัวผม”มันคงเข้าใจที่ผมพูดเลยยอมนิ่งแต่โดยดี
ผมรีบใส่กางเกงให้มันต่อคราวนี้ง่ายกว่าเมื่อกี้เยอะ
พอใส่เสร็จก็เริ่มใส่เสื้อให้ต่อเลย มันว่าง่ายมาก บอกให้ยกมือก็ยกเหมือนหมาเลยว่ะ
เห็นแล้วมันน่า...
“แค่เนี้ย จะอะไรนักหน้า” ผมบ่นใส่มันก่อนจะเดินอ้อมเตียงกลับมาในที่ของตัวเองแล้วทิ้งตัวลงนั่งกับเตียงมือกำลังจะเอื้อมไปปิดไฟที่หัวเตียงแต่กลับได้ยินเสียงเล็กๆดังแว่วเข้ามาในหูซะก่อน
“ขอบคุณ”
ผมนิ่งค้างกับคำขอบคุณของมัน ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากมันครับ
พอก้มหน้าลงไปมองก็เห็นมันนอนนิ่งทำเหมือนตัวเองหลับไปแล้ว รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของผมอีกครั้งโดยที่ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องยิ้ม
กับแค่คำของคุณผมต้องดีใจขนาดนี้มั้ย
ผมกดปิดไฟที่หัวเตียงและทิ้งตัวลงนอนข้างๆร่างเล็กใต้ผ้าห่มก่อนจะตะแคงข้างหันหน้าไปมองมันผ่านความมืด
รอจนเสียงลมหายใจของมันดังสม่ำเสมอจึงค่อยๆดึงร่างมันเข้ามาในอ้อมแขน สายตาผมเริ่มชินกับความมืดเลยเห็นหน้ามันได้ชัดขึ้นมาหน่อย
พอสำรวจดูดีๆก็คิดว่ามันโคตรน่ารักเลย ผมสีบอลทองที่ปล่อยยาวมาจนถึงบ่าคลับให้หน้านั้นหวานยิ่งกว่าผู้หญิงมันชั่งเหมาะกับหุ่นบางๆที่ไม่บางมากขนาดเป็นผอมแห้ง
แต่กลับเหมาะกับทุกส่วนของร่างกายนี้เหลือเกินครับ
ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ชายถึงได้มากินกันเอง
ถ้าสวรรค์จะสรรสร้างเกย์ออกมาได้เพอร์เฟคขนาดนี้น่ะนะ ขนาดผู้ชายแมนๆอย่างผมยังอดใจไม่ไหวเลย
ผมมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าตัวเองไม่ได้เป็นเกย์แต่กลับผู้ชายคนนี้มันเกินไปจริงๆ
ผมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างมันกับผมไว้จนถึงคอก่อนจะจัดท่าให้มันเอาหน้ามาซุกที่ิอกผม
ปากก็กดจูบลงที่กระหม่อนคนตรงหน้าแล้วหลับตาลง ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ผมจะตื่นมาเจออะไร
ถ้ามันเห็นว่าผมนอนกอดมันอยู่อาจจะเจอต่อยเข้าที่หน้าหรือโดดเตะก้านคอแต่ผมว่าตีนมันคงไม่ถึงเพราะมันเตี้ยกว่าผม
หนักสุดอาจจะเอามีดไล่แทงผมก็ได้ แต่ชั่งมันเถอะครับผมอยากกอด
ไว้พรุ่งนี้ตื่นมาค่อยเอาตัวรอดใหม่…
ผิดคาดสุดๆครับ เมื่อมันตื่นมาแล้วเห็นผมนอนกอดอยู่
มันกลับมองผมนิ่งๆก่อนจะดันมือผมออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ดูแตกต่างจากเมื่อคืนลิบลับเลย
ผมลุกขึ้นนั่งที่เตียงมองคนที่เดินเข้าห้องน้ำอย่างไม่เข้าใจ นึกว่าจะโวยวายลั่นบ้านซะอีก
แต่ก็ดีแล้วครับที่ไม่โดน
ผมเลิกคิดเรื่องของไอ้หน้าหวานแล้วเดินลงไปข้างล่าง
เจอกับแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดและเตรียมอาหารเช้าให้ผมพอดี ป้าอ้อยดูตกใจนิดหน่อยที่เห็นผมตื่นในเวลานี้ปกติถ้าเป็นวันหยุดผมจะตื่นสาย
แต่เผอิญว่าวันนี้ไอ้คนที่ผมพามาบ้านเมื่อคืนมันตื่นเร็วผมเลยตื่นตามมัน ผมเดินไปนั่งที่โซฟากลางบ้านแล้วกดรีโมทเปิดทีวีดู
“วันนี้พายุจะเข้ารึเปล่าค่ะเนี่ย คุณหนูของป้าตื่นเช้า”
ป้าอ้อยทักทายผมอย่างเคย
คือป้าอ้อยอยู่กับผมมานานครับผมเคารพป้าอ้อยเหมือนเป็นญาติของผมคนนึง
“ตอนไปเรียนผมก็ตื่นเร็วนี่ครับป้าอ้อย”
“แต่วันนี้เป็นวันหยุดนะคะ หรือคุณหนูลืมเอ่ย”
“ใครจะไปลืมว่าตัวเองอยู่ในช่วงปิดเทอมกันครับป้า”
ตอนนี้ผมปิดเทอมและอยู่ในช่วงรอเข้ามหาลัยที่สอบติด ช่วงเวลานี้ก็กะจะเที่ยวให้เต็มที่เลยครับเพราะถ้าเข้ามหาลัยแล้วคงจะเที่ยวไม่ได้
"ค่ะๆ...ว่าแต่คุณหนูจะทานข้าวเลยมั้ยคะเดี๋ยวป้าจะเตรียมให้”
ป้าอ้อยถามผมก่อนจะเดินเข้าครัวไป
“ครับป้า ขอสองที่นะครับ” เป็นอีกครั้งที่ป้าอ้อยตกใจครับ
เพราะผมไม่เคยพาใครมาบ้านเลยนี่เป็นครั้งแรก ป้าอ้อยก็รู้ว่าผมเป็นคนยังไง
คนที่ผมจะพามาบ้านต้องเป็นคนที่ผมสนิทและให้ความสำคัญมากๆเท่านั้นขนาดพวกไอ้ซีโน่ผมยังไม่ค่อยให้มาเลย
กลัวพวกมันทำบ้านผมรก แต่สำหลับไอ้หน้าหวานผมถือเป็นข้อยกเว้น
“ค่ะๆ”ป้าอ้อยยิ้มกรุ้มกริ่มให้ผมก่อนจะเริ่มลงมือทำอาหาร
ผมรู้นะว่าป้าคิดอะไรอยู่
“เพื่อนครับ ไม่ใช่แฟน” ผมต้องดักทางป้าไว้ก่อนครับเดี๋ยวคิดไปไกล
"ป้ายังไม่ได้ว่าอะไรสักคำเลย คุณหนูอย่าร้อนตัวสิคะ”
ผมไม่ชอบให้ป้าทำเสียงกรุ้มกริ่มไงครับ
“วันนี้ป้ากลับได้เลยครับ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาทำความสะอาดก็ได้”ผมบอกกับป้าอ้อยแล้วหันมาสนใจทีวีตรงหน้าต่อ
"ป้าไม่อยู่เป็น ก ข ค คุณหนูหรอกค่ะ”ป้าแกก็ชั่งพูดนะครับ แต่ผมก็ขี้เกียจเถียงแกเลยปล่อยเลยตามเลย
ตอนนี้ป้าอ้อยจัดอาหารที่โต๊ะเสร็จแล้ว
แต่คนข้างบนยังไม่ลงมาเลย ป้าอ้อยหันมาบอกลาผมแล้วเดินออกไป
พอป้าออกจากบ้านไปแล้วผมเลยขึ้นไปตามคนข้างบนที่อาบน้ำจะเกินชั่วโมงให้ลงมากินข้าว
ผมเดินขึ้นบันไดบ้านไปที่ชั้นสองแล้วหยุดอยู่หน้าประตูห้องตัวเองด้วยความเคยชินผมเลยเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูเพื่อเปิดออก
แต่เพิ่งคิดขึ้นได้ว่าบางทีคนข้างในอาจจะกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่เลยคิดว่าน่าจะเคาะก่อน
ดังนั้นผมเลยเอื้อมมือไปหมายจะเคาะประตูห้อง
แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะเสียงที่ดังออกมาจากข้างในเหมือนเสียงคนร้องไห้
ผมเงียบฟังว่ามันใช่รึเปล่า คราวนี้มันดังขึ้นกว่าเมื่อกี้อีกครับ ขนาดผมที่อยู่ข้างนอกยังได้ยินมันชัดเจน
หมอนั่นมันกำลังร้องไห้อยู่
ไม่แปลกที่คนเราจะร้องไห้เพราะอกหัก
ถึงมันจะเป็นคนบอกเลิกเค้าก็เถอะ แต่เมื่อวานตอนมันบอกเลิกแฟนก็ยังดูปกติดีนี่หว่า
มันดูเข้มแข็งเหมือนไม่เป็นอะไรแถมยังไปเต้นยั่วผู้ชายอื่นได้หน้าตาเฉย ผมเลยคิดว่ามันไม่เป็นไร
คงไม่ได้รักผู้ชายคนนั้นมากมาย แต่ทำไมวันนี้มันกลับดูเป็นคนละคนเลยวะ นี่มันรักไอ้เหี้ยนั่นมากขนาดไหนถึงได้ร้องไห้หนักขนาดนี้
ถึงขนาดอดกลั้นไม่ได้จนต้องปล่อยออกมาไม่กลัวผมจะได้ยินเลย
พอคิดไปคิดมาผมกลับทึ้งในความใจเด็ดของมัน
ทั้งที่รักมากขนาดนั้นแต่ก็ยอมปล่อยเค้าไป
แถมตอนที่บอกเลิกยังไม่มีความลังเลเลยสักนิด
ต้องอดกลั้นแค่ไหนต้องเจ็บปวดขนาดไหนต่อหน้าแฟนมัน ผมล่ะยอมใจมันเลยครับ
ผู้ชายตัวเล็กๆคนนี้ทำให้ผมทึ่งได้หลายเรื่องมากจากที่เจอกันแค่วันเดียวเอง
ผมหันหลังกลับแล้วเดินลงไปข้างล่าง
ไม่อยากกวนมันเพราะรู้ว่ายังไงคำปลอบใจของผมมันก็ไร้ค่าสำหลับมันตอนนี้
ผมเลยปล่อยให้มันอยู่คนเดียวไป
ได้ระบายคนเดียวก็คงจะดีกว่าให้คนอื่นอย่างผมไปเห็นไปรู้
เป็นผมก็ไม่อยากให้ใครมาเห็นผมในสภาพแบบนั้นหรอกครับ
ผมเดินลงมานั่งที่เดิม สายตาก็จ้องมองทีวีแต่กลับไม่ได้ยินเสียงมันเลยภาพก็ไม่เห็นไม่รู้ว่าตัวเองเปิดช่องไหนไว้ด้วยซ้ำ
ผมนั่งเหม่อหาแต่ไอ้คนข้างบ้นเป็นห่วงมัน
อย่าถามว่าทำไมต้องห่วงเพราะผมก็ตอบไม่ได้
แค่รู้ว่าห่วงมันมากไม่มีเหตุผมไรทั้งนั้นครับ
นานพอสมควรกว่ามันจะยอมลงมา พอมันเห็นหน้าผมก็ชะงักไปเล็กน้อยแล้วทำเป็นมองผ่านผมไปเหมือนไม่ได้ใส่ใจ
ผมสังเกตว่าตามันแดงมากเนื่องจากร้องไห้หนักอย่างที่คิด
มันเดินผ่านผมไปที่หน้าประตูบ้านเหมือนผมเป็นธาตุอากาศจนผมต้องเรียกมันไว้ก่อน
“จะไปไหน?”ผมถามมัน
เท้าก็พาร่างตัวเองเดินไปหามัน
“กลับบ้าน”มันตอบผมนิ่งๆก่อนที่มือมันจะเอื้อมไปจับบานประตูเพื่อเลื่อนมันให้เปิดออก
แต่ผมกลับรั้งมันไว้ด้วยการดันบานประตูไม่ให้มันเลื่อนเปิดได้
“กินข้าวก่อนเดี๋ยวผมไปส่ง”
“ไม่เป็นไรเรากลับเองได้”มันตอบผมมาก่อนที่มือจะเอื้อมไปดึงประตูอีกครั้งแต่ผมก็ยังไม่ยอมปล่อยมันไปอยู่ดี
“ผมบอกจะไปส่ง” ผมทวนความตั้งใจของตัวเองอีกครั้ง
สายตาก็ส่งไปให้มันแกมบังคับจนมันเริ่มทำหน้าไม่พอใจผม
“ขอคุณที่ช่วยเหลือเราแต่เราอยากกลับบ้าน ขอร้องล่ะปล่อยเราเถอะ”ถึงประโยคมันจะฟังดูขอร้องแต่น้ำเสียงเหมือนมันกำลังบังคับผมเลย
“งั้นรอแปบนึงเดี๋ยวไปหยิบกุญแจรถก่อน”ผมกำลังจะก้าวขาออกไปแต่ถูกคนตัวเล็กรั้งแข้นเอาไว้
“ไม่เป็นไร เราไปเองได้...ไปนะ”คนตรงหน้ายกมือขึ้นมาบ๊ายบ่ายผมก่อนจะเลื่อนประตูให้เปิดแล้วเดินอออกไป
ผมมองตามหลังมันไปก่อนที่ร่างกายจะขยับไปโดยอัตโนมัติแล้วเอื้อมมือไปคว้ามือมันไว้
มันสะบัดมือออกทันทีที่ผมถูกมือมันเหมือนจะเผลไปเพราะคนตรงหน้าหันมามองผมอย่างขอโทษ
แต่ผมก็ยังหน้าด้านไปจับมือมันอีกรอบ แล้วออกแรงดึงร่างมันให้เดินตามผมเข้าบ้าน
“ปล่อย!”มันเริ่มขึ้นเสียงใส่ผม แต่ผมไม่ได้สนใจแล้วรากมันขึ้งห้องนอนไป
เหมือนคนตรงหน้าจะคิดว่าผมจะทำอะไรมันเลยเริ่มขัดขืน ผมก็จับมันไว้แน่น แล้วดึงมันให้เดินตามผมมาที่โต๊ะเขียนหนังสือ
หยิบกุญแจรถขึ้นมาโชว์ตรงหน้ามัน มันดูนิ่งไปเลยเมื่อเห็นกุญแจในมือผม
“จะไปส่ง”ผมบอกแค่นั้นแล้วเดินลากมันไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อหูดมาใส่
ลากมันลงมาข้างล่าง เหมือนมันจะไม่ชอบให้ผมลากมันไปมาเลยพยายามแกะมือผมออก
“เราเดินเองได้ไม่ต้องลากเราหรอก” ทำไมคำพูดคำจามันถึงได้ดูน่ารักจังวะ
แทนตัวเองว่าเราด้วยเสียงก็ใสๆโอ้ยยยยย น่าร๊าาาาก!
ผมปล่อยมือตามที่มันขอแล้วเดินนำมันไปที่รถ
เหมือนมันจะไม่ขัดขืนแล้วเพราะพอมาถึงรถมันก็เดินขึ้นไปนั่งแล้วปิดประตูเลยครับ
ผมเลยเปิดประตูฝั่งคนขับแล้วขึ้นไปนั่งบ้าง
ตลอดทางที่ขับรถตามที่มันบอกผมก็ชิวมากครับ เหมือนขี่เต่าทั้งที่ขี่รถ
ก็ผมไม่อยากให้ถึงบ้านมันเร็วๆนี่หว่าเลยขอถ่วงเวลานิดนึง แต่ไอ้คนข้างๆดูจะไม่เอ็นจอยกับการกินลมชมวิวข้างทางเลยครับ
มันทำหน้าเศร้าแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างไม่สนใจผมเลย
ตลอดทางผมกับมันไม่ได้พูดกันเลยจนมาถึงคอนโดที่มันบอกผม
พอมันเดินลงรถได้ก็หันมาบอกขอบคุณผมแล้วเดินเข้าคอนโดไป ผมมองตามจนมันหายเข้าไปข้างใน
ก่อนจะถอนหายใจหนักๆแล้วขึ้นรถตัวเองขับออกไป
ทำไมนะ ทำไมถึงยังไม่อยากจากมันเลย
ไม่อยากบอกลากลัวว่าจะไม่ได้เจอกันอีก ประเทศนี่ก็ออกจะใหญ่และผมยังคิดว่าหมอนั่นโกหกที่อยู่ผมด้วย
ดูจากหน้ามันก็รู้แล้วครับ แต่ผมก็ต้องยอมปล่อยมันไปถ้าไปตื้อมันมากกว่านี้กลัวมันจะคิดว่าผมเป็นพวกโรคจิตอีก
ผมคงต้องพึ่งปฎิหาริย์แล้วมั้ง ผาวนาขอให้ได้เจอมันอีกครั้ง ถ้าเจอกันอีกผมจะจีบมันจริงๆนะ
ต่อให้มันจะเป็นผู้ชายก็เถอะ เพราะผมเลือกแล้วว่าต้องเป็นมัน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกครับประเทศนี้มีประชากรเป็นล้านๆคน
เอาแค่ในตัวเมืองยังมีเป็นแสนๆ โอกาสที่ผมจะได้พบเจอมันนี่เท่ากับศูนย์เลย ผมคงต้องถอดใจสินะครับ
100%
#รุ่นพี่เด็ด
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น