คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 จนได้สิน่า
ความรักก็เหมือนกับอาหาร
ตราบใดที่อาหารนั้นยังถูกปาก คุณก็จะสั่งเรื่อย ๆ ทุกครั้งไป
แต่หากวันใดที่คุณเริ่มเอียนแล้วละก็ เมื่อนั้น.. แม้แต่ชื่อรายการอาหารคุณยังไม่อยากจะปรายตามอง
ความรักของคนสองคน คงไม่ต่างกันใช่มั้ย
ถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่เมื่อไหร่ คุณก็พร้อมจะเขี่ยเค้าทิ้งไปทันที
6.00 น.
ตะละแลด แต๊ดตึ่ง แต๊ดตึ่ง แต๊ดตึ่ง! ~
เสียงนาฬิกาปลุกรูปเป็ดสวมเครื่องแบบวงโยธวาทิต ปลุกให้ฉันตื่นจากความฝันด้วยความอ่อนเพลียสุด ๆ ร่างกายบิดไปมาด้วยความอ่อนล้า พาดขาก่ายหมอนข้างด้วยความขี้เกียจ ไถหัวไปมากับหมอนนุ่มด้วยความอาลัยอาวรณ์ นั่นคือภาพกิจกรรมยามเช้าที่ฉายซ้ำทุก ๆ วันของฉัน
ถึงแม้ว่าจะนอนดึกแค่ไหน ฉันก็ต้องตื่นเช้าทุกทีสิน่า คิดแล้วก็น่าน้อยใจ เพื่อน ๆ ฉันไม่เห็นต้องทำแบบฉันเลย นอนคุยกันถึงตีหนึ่งเที่ยงคืน แล้วก็ได้ตื่นเก้าโมงสิบโมงกันทุกคน คิดแล้วก็อยากมีชีวิตแบบนั้นบ้าง
แต่ก็ได้แค่คิดแหละ ก็ฉันต้องตื่นขึ้นมาช่วยมาสเตอร์เปิดร้านอาหารนี่หน่า ขืนไม่ตื่นมาทำหน้าที่โดนไล่ออก ไม่มีกินกันพอดี
ฉันเป็นเด็กต่างจังหวัด ที่ต้องเข้ามาเรียนมหาลัยในเมืองหลวง และนั่นทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าไฟ ค่าน้ำ จิปาถะอีกมากมาย เงินเดือนพ่อกับแม่ก็ใช่ว่าจะสูง เพราะงั้นฉันเลยต้องมาหางานทำเสริม ส่งเสียตัวเองไปด้วย ไฟต์บังคับน่ะ ฉันก็เด็กธรรมดาที่ขี้เกียจเป็นนั่นแหละ
ตะละแลด แต๊ดตึ่ง แต๊ดตึ่ง แต๊ดตึ่ง! ~
“รู้แล้วน่า ไอ้เป็ดบ้า!” เมื่อรู้สึกโมโหเมื่อไหร่ สิ่งที่จะลงได้ก็มีแค่ไอ้เป็ดนาฬิกาปลุกนี่แหละ ปลุกได้ปลุกดี ปลุกมันทุกเช้า ไม่รู้จะปลุกอะไรนักหนา รำคาญโว้ย! เจ้านี่จะหยุดปลุกก็ต่อเมื่อมีเสียงดังโวยวายให้มันได้ยิน เป็นระบบคำสั่งเสียงน่ะ พอมันได้ยินเสียงดัง มันก็จะปิดปากทำหน้าจ๋อย แล้วก็หันหน้าเข้าเล้ามันและหันก้นให้ฉันดูแทน เฮอะ! ทำไมต้องหันก้นให้ด้วยว่ะ ใครเป็นคนสร้างมันมาเนี่ย!
ฉันคว้ายูนิฟอร์มร้านกับผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ ก่อนจะเสร็จภารกิจเรียบร้อยภายในสิบนาที และรีบวิ่งลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว ร้านเราเปิดเจ็ดโมงน่ะ เผื่อให้นักศึกษามารับประทานอาหารก่อนไปเรียนหนังสือ เพราะฉะนั้นเราจะต้องเตรียมร้านให้เสร็จก่อนเจ็ดโมง - -“
“กว่าจะลงมาได้นะแม่นาง” มาสเตอร์ - -“ เขาบังคับให้ฉันเรียกแบบนั้น ที่จริงเขาชื่อชัยพุฒิ และมีชื่อเล่นที่เขาตั้งเอาเองว่าพุดดิ้ง มาสเตอร์หนุ่มหน้าหวาน ออกจะหวานไปทั้งคำพูดคำจาและกริยามารยาทซะด้วย ถ้าหากว่าคู่สนทนาเป็นผู้ชาย – O –
ร้านนี้ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมดสี่คน คือฉัน มาสเตอร์ เภตรา แล้วก็น้องลูกแก้ว จะเรียกว่าสี่สาวแห่งอาณาจักรหอมหวานก็ยังกระดากปาก เมื่อเหลือบไปเห็นมาสเตอร์ที่ยื่นบ่นอยู่ข้าง ๆ - -“
“โต๊ะมันไม่ช้ำหรอกนะคะ เช็ดให้มันแรง ๆ ก็ได้” ตอนนี้ฉันกำลังเช็ดทำความสะอาดโต๊ะอยู่ และมาสเตอร์คนงามก็ตามจิกกัดฉันให้ป่วยจิต ใครก็ตามที่ลงมาช้าที่สุดก็จะโดนแบบนี้ทุกราย และส่วนใหญ่จะเป็นฉัน L
“เสร็จแล้วค่ะ จะให้ทำอะไรต่อคะมาสเตอร์” ฉันเงยหน้าถามเขาอีกครั้ง หลังจากก้มเช็ดโต๊ะงก ๆ ไม่ได้เงยหน้าพูดคุยกับใครมาตลอดสิบนาทีเต็ม
“ถามมาได้นะคะ นู้น! ห้องครัว ไปล้างผักล้างปลาเตรียมของสดสิ” ฉันได้แต่ก้มหน้าอย่างสงบเสงี่ยม และเดินไปทำงานตามคำสั่งอย่างเซ็ง ๆ เป็นลูกจ้างเขาต้องทำใจ เค้าสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำหมดแหละ ไม่งั้นโดนไล่ออก ไม่มีกินกันพอดี
“โดนหนักเลยดิพี่ ฮะฮ่า” น้องลูกแก้ว หนึ่งในเพื่อนร่วมงานคนสนิทในชุดแม่ครัวผมเซเลอร์มูน ยื่นถุงผักสดที่พึ่งหยิบออกมาจากตู้เย็นส่งให้ฉัน ฉันรับมาอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ก็เดินไปล้างจนเสร็จ รีบ ๆ ทำให้เสร็จไป เพราะยังไงก็ต้องทำอยู่ดี ทำช้าเดี๋ยวก็โดนด่าเป็นออฟชั่นเสริมอีก ปวดหูเปล่า ๆ
หลังจากล้างผักสามถุงใหญ่จนเสร็จเรียบร้อย ฉันถึงได้เงยหน้าดูเวลาอีกที เจ็ดโมงแล้ว ได้เวลาเปิดร้านแล้วสินะ เฮ้อ~
กรุ๊ง กริ๊ง~
เสียงกระดิ่งหน้าร้านเป็นสัญญาณว่ากำลังมีผู้มาใหม่มาเยือน และเมื่อฉันชะโงกหน้าออกไปดูก็พบว่า… ไอ้นี่อีกแล้ว คราวนี้มากับสาวสวยคนใหม่ตามเคย
“สั่งอะไรก่อนสิครับ” ประโยคเดิม ๆ ที่ได้ยินทุกอาทิตย์ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ครั้งก่อน ๆ ก็นึกสงสารผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาจับจิต
“เอาข้าวผัดไข่ค่ะ แล้วคราสละค่ะ”
“เหมือนองุ่นละกัน” หมอนี่ดูท่าจะชอบกินผลไม้ คราวที่แล้วแตงโม ก่อนหน้านั้นลูกพลัม อาทิตย์ก่อนโน้นลูกแพร คราวนี้องุ่น เฮอะ! อาทิตย์หน้าอะไรดีละ มังคุด มะละกอ หรือทุเรียนดี
“ตามนี้คะ” เสียงใสแจ๋วบ่งบอกถึงความอารมณ์ดีของหญิงสาวสุด ๆ
“ได้ยินออเดอร์แล้วนะ รีบทำด้วย” มาสเตอร์เดินเข้ามากำชับก่อนจะเดินนวยนาดออกไปนั่งบริเวณเคาท์เตอร์เพื่อนั่งมองอาหารตาของโปรดอย่างอารมณ์ดี ดูท่ามาสเตอร์จะหลงนายคราสคนนี้เอามาก ๆ อาจเป็นเพราะนายนี่เป็นลูกค้าประจำ หรือไม่ก็หน้าตาหล่อเหลาที่แสนจะเกลี้ยงเกลาของเค้า
ห้านาทีผ่านไป ฉันส่งอาหารให้เภตรา สาวสวยประจำร้าน พนักงานเสริฟสุดฮอต นำข้าวผัดสองจานไปส่ง เสียงช้อนกระทบจานดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าพวกเขากำลังเริ่มรับประทานอาหารแล้ว ได้เวลานับถอยหลังแล้วสินะ
“คราสไม่เบื่อหรอ ทานซ้ำ ๆ เหมือนเราทุกครั้งที่มาทานด้วยกันเลย” หญิงสาวเอ่ยปากถาม
“องุ่นทานให้อร่อยเถอะครับ”
“คงไม่ได้กะจะเอาใจเราหรอกใช่มั้ย” คนทางนี้ขอตอบว่าไม่!
“แล้วองุ่นรู้สึกดีมั้ยล่ะ”
“แน่นอนสิ ก็คราสตามใจเราทุกอย่างเลยนี่หน่า แล้วคราสล่ะ คิดกับเรายังไง” เสียงรวบช้อนเป็นสัญญาณว่ามีคนทานอิ่มแล้วหนึ่งคน
“องุ่นชอบทานข้าวผัดไข่หรอ เห็นสั่งทุกครั้งเลย ไม่เบื่อหรอ” มันเริ่มแล้วไง - -“
“ก็.. คราสทักแบบนี้ องุ่นก็เริ่มเบื่อแล้วล่ะ คราวหน้าคงไม่สั่งแล้ว” เสียงใสยังเจือไปด้วยความอารมณ์ดีอยู่ ฉันที่ยืนกอดอกพิงประตูมองคู่รักคุยกันได้แต่ภาวนาให้ปฏิกิริยาตอบสนองของผู้หญิงคนนี้ต่างไปจากผู้หญิงคนก่อน ๆ
“องุ่นถามว่าคราสคิดยังไงกับองุ่นใช่มั้ย”
“ค่ะ”
“คิดว่าองุ่นเหมือนข้าวผัดไข่จานนี้ไง” เขาชี้นิ้วไปยังจานอาหารของหญิงสาว
“เราไม่อยากจะสั่งมากินอีกแล้วล่ะ”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“ชั้นเขี่ยเธอลงถังขยะแล้ว ยัยองุ่นเน่า เช็คบิลด้วยครับ” เขากระดิกนิ้วเรียกมาสเตอร์ให้ไปเช็คบิล แน่นอนว่าเจ้นี่รีบดิ่งไปที่โต๊ะอย่างรวดเร็วเหมือนรู้งาน
“ตลกน่าคราส… ฮึกฮือ..” อ่า.. คราวนี้เสียใจอย่างสงบเสงี่ยมหน่อย ดีแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นคงไม่พ้นฉันที่ต้องตามเก็บเศษแก้วที่แตกกระจายเพราะบรรดาผลไม้เน่านั่นอาลาวาดแน่ ๆ
“ไปเถอะ เราเบื่อน่ะ กินผลไม้หวาน นาน ๆ มันเลี่ยน เธอไม่รู้หรอ” พูดมาได้ เห็นพูดอย่างงี้ทุกครั้ง สุดท้ายพี่ท่านก็หิ้วผลไม้หวานมากินตลอด - -“
“กรี๊ด! ฮือ! ! ! ~” เพล้ง ! ร่างของนางองุ่นลุกไป พร้อมกับจานกระเบื้องที่ถูกปัดตกแตก ! ! !
“แมร่งจะลุกไปดี ๆ ไม่ได้รึไงว่ะ!” ฉันสบถออกมาด้วยความหัวเสียสุด ๆ นายคราสหันมามองฉันด้วยสายตานิ่ง ๆ คงจะได้ยินที่ฉันพูดเมื่อครู่ละมั้ง
“เดี๋ยวผมจัดการเอง”
“ช่วยเปลี่ยนจากเงินของนายเป็นแรงงานมาช่วยชั้นเก็บกวาดจะดีกว่า” พูดไปก็ก้มหน้าก้มตาเก็บเศษกระเบื้องไป
“เอะอะก็ใช้เงินฟาดตลอด หัดแก้ปัญหาที่ต้นตอบ้างสิฮะ” คราวนี้ยั้งปากไม่ไหวจริง ๆ โชคดีที่มาสเตอร์หายไปไหนไม่รู้ ไม่งั้นโดนด่ายับแน่ ๆ ไม่พอแรงอาจจะโดนตัดเงินเดือนหรือไล่ออกด้วย
“ขอโทษ ต่อไปผมจะเปลี่ยนร้านละกัน”
“นั่นมันต้นตอปัญหาซะที่ไหนเล่า” ฉันลุกขึ้นตบโต๊ะและถลึงตามองเขาด้วยความอารมณ์เสียสุด ๆ
“เอะอะไรกัน นี่! ไปยืนค้ำหัวลูกค้าอย่างนั้นได้ยังไง มีอะไรรึเปล่าจ้ะคราสน้อยของพุดดิ้ง~” ลูกค้านะคะ ไม่ใช่พ่อใช่แม่ - -“ หมั่นไส้ยัยเจ้นี่จริง ๆ ที่ผู้ชายละหวานใส่เชียวนะ L
“เจ้พุดดิ้งครับ ต่อไปเราคงไม่ได้เจอกันแล้วนะครับ” เขาก้มหน้าก้มตาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อย ๆ แต่เมื่อฉันก้มหน้าทาบไปกับโต๊ะเพื่อดูสีหน้าที่แท้จริงของเขาก็พบว่าเขากำลังยกยิ้มอย่างสะใจ ! แถมยังยักคิ้วอย่างเหนือกว่าให้ฉันซะด้วย เห็นแล้วก็ยั้งมือตบโต๊ะแรง ๆ ด้วยความโมโหไม่อยู่
“ทำแบบนั้นกับลูกค้าได้ยังไงฮะ! ทำไมละจ้ะ..” ไอ้เจ้นี่ก็ไปบ้ายอตามเค้า ช่วยเบิ่งตาดูมันให้ชัด ๆ หน่อยไม่ได้รึไงฮะ มารยาชัด ๆ เลย
“พนักงานคนนี้เค้าไม่อยากให้ผมมาสร้างความวุ่นวายให้กับร้านของเจ้อีกแล้ว” พูดอ้อมแอ้ม และส่งสายตาน้อยใจมาให้ฉัน แต่ริมฝีปากด้านที่มาสเตอร์มองไม่เห็นกลับกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ไอ้หมอนี่ อยากลองดีใช่มั้ยฮะ! ฉันถลึงตามองเขาอย่างโหด ๆ แต่เขากลับแผลงฤทธิ์มากกว่าเดิม
“เห็นมั้ยครับ เค้าจ้องผมใหญ่เลย ผมคงต้องรีบไปแล้วล่ะครับ” พูดจบก็รีบลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว กลัวจะหลุดขำรึไงฮะ เห็นนะว่านายกลั้นขำสุดฤทธิ์อยู่น่ะ เขาหันหลังให้มาสเตอร์และค่อย ๆ แทรกตัวผ่านฉันกับมาสเตอร์ เมื่อเผชิญหน้ากันตรง ๆ เขาก็ไม่วายแลบลิ้นให้ทีก่อนจะรีบชิ่งหนีไปเลย
“เธอ! ชั้นไล่เธอออก! เก็บข้าวเก็บของแล้วไสหัวไปซะ! คราส~ คราสของพุดดิ้ง~” มาสเตอร์วิ่งตามนายนั่นออกไป ทิ้งไว้เพียงฉันที่กำลังจุกจนพูดไม่ออก อะไรนะ! ไล่ออกงั้นหรอ พนักงานที่ปฏิบัติตามคำสั่งทุกประการกลับต้องมาโดนไล่ออกเพราะดันไปว่าลูกค้าคนโปรดของเจ้าของร้านอย่างงั้นหรอ คิดแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้ นี่ฉันกำลังจะไม่มีกินหรอเนี่ย… T^T
“พี่รีบไปเถอะ จำเคสพี่มินนี่ที่พึ่งออกไปได้มั้ย ถ้าไม่รีบออกไปก่อนที่มาสเตอร์จะกลับมา พี่จะแย่เหมือนพี่มินนี่นะ” ชีวิตช้าน!~~~ T^T
“รู้แล้ว พี่ไปก่อนนะ” พูดไปก็น้ำตาไหลพรากไม่หยุด แล้วจะไปบอกพ่อกับแม่ว่ายังไงเนี่ย โว้ย! ที่สำคัญ เดือนนี้เจ้แกยังไม่ได้จ่ายเงินเดือนเลยนะ
‘ชั้นจะเอาอะไรกิน ! ! ! ~~~~~~’
ความคิดเห็น