คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 1: Act VI
ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา สตรีสามนางกำลังเตรียมพร้อมเข้าห้ำหั่นกันทุกเมื่อ
ฟากหนึ่งคือเมดสาวร่างเล็กที่ยืนถือมีดดาบอยู่ด้านหน้าสตรีวัยกลางคนที่ดูคล้ายจะเป็นเจ้านาย
ส่วนอีกฟากคือเมดสาวผมสีเงินสกปรกที่ดูคล้ายกับผีร้ายที่สิงสู่ในปราสาทร้าง ในมือของหล่อนถือคีมตัดเหล็กก้านยาวพร้อมตัดฉีกเนื้อให้ขาดสะบั้น
“เถาวัลย์สวรรค์ เมลิซซ่า ก่อนเราจะฆ่ากันตายไปข้างเนี่ย เรามีเรื่องสงสัยสักสองข้ออยากจะถามก่อนได้หรือไม่ ?” สตรีวัยกลางคนเอ่ยปากถามทำลายความเงียบงันที่เข้าปกคลุมหลังเสียงระเบิดได้จางหายไป
“........”
“นี่แน่ะเมลิซซ่า เราสงสัยเหลือเกินว่าทำไมเมลิซซ่าถึงได้มีฉายาว่าเถาวัลย์สวรรค์ล่ะ ทั้งเขวี้ยงพลั่วก็ดี ทั้งคีมตัดเหล็กในมือก็ดี อาวุธแมทีเรียลไลซ์ของเธอไม่เห็นเข้ากับสมญานามเลย”
“.......”
“ความลับทางการค้าสินะ เราเข้าใจดี ๆ” สตรีวัยกลางคนพยักหน้าทำท่าเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง “ไม่เป็นไร เดี๋ยวสู้ไปก็รู้เองล่ะ”
“ส่วนข้อสองนี่ค่อนข้างสำคัญเลยทีเดียวนะ... นี่เถาวัลย์สวรรค์ ทั้งที่เจ้านายของเธอตายไปแล้ว ทำไมเธอยังมีชีวิตอยู่ล่ะ ?”
ราวกับว่าคำพูดประโยคนั้นสะกิดอะไรบางอย่างในใจของเมดสงครามไร้นาย นัยน์ตาของหล่อนเบิกกว้างราวกับสัตว์ป่าที่คลุ้มคลั่ง มันเต็มไปด้วยอารมณ์เชี่ยวกราดผิดกับนัยน์ตาไร้อารมณ์ของเมดสาวร่างเล็กที่เป็นคู่ต่อสู้โดยสิ้นเชิง
ทันใดนั้นเมลิซซ่าก็ถีบขาก็พุ่งตรงเข้าหาสตรีวัยกลางคนด้วยความเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
ทางฝั่งผู้บุกรุกที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วก็ไม่ปล่อยให้เมดคลั่งได้ทำอะไรตามอำเภอใจ ดาบปลายปืนนับสิบที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วพุ่งทะยานเข้าหาเมลิซซ่าอย่างรวดเร็วปานลูกดอก กระนั้นพวกมันกลับเฉี่ยวเพียงธาตุอากาศ เมลิซซ่าเคลื่อนตัวด้วยความพลิ้วไหวหลบหลีกดาบปลายปืนราวกับปลาที่แหวกว่ายในสายน้ำ
เมดร่างเล็กไม่ปล่อยให้จังหวะขาดตอน ระหว่างที่เมลิซซ่าเอี้ยวตัวหลบดาบปลายปืนเล่มสุดท้าย เมดสงครามวัยเยาว์พุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็วพร้อมกระหน่ำแทงมีดดาบเข้าใส่ เสียงโลหะกระทบกันดังไม่หยุดเมื่อเมลิซซ่าเองก็ใช้คีมตัดเหล็กปัดป้องมีดดาบที่หมายปองชีวิตอย่างไม่ยากเย็น แต่มันก็เพียงพอที่จะดึงความสนใจของเมลิซซ่าออกจากสตรีวัยกลางคนได้แล้ว
การต่อสู้ของทั้งสองราวกับการร่ายรำ
ขาสองคู่ก้าวสลับไปมาเป็นจังหวะบนพื้นที่เต็มไปด้วยรั้วลวดหนามที่ถูกซากเพดานและแรงระเบิดกระชากจนล้มลงระเนระนาด
กระโปรงเมดสะบัดเป็นริ้วเยี่ยงกลีบดอกไม้ผลิบาน
จังหวะใบมีดแหลมคมกับคีมตัดเหล็กปะทะกันส่งเสียงคล้ายเป็นเสียงจังหวะแท็ป
เมลิซซ่าพยายามผละตัวหลุดออกจากการรบประชิดที่มีดดาบขนาดเล็กจะได้เปรียบกว่าด้วยการเรียกแมทีเรียลไลซ์พลั่วสนามออกมานับสิบด้าม ทว่าก่อนที่พลั่วจะได้พุ่งเข้าเสียบศัตรู มันก็ถูกมีดดาบจำนวนที่เท่ากันพุ่งกระทบจนสลายไปกลางอากาศ
ในที่สุดเมลิซซ่าก็ตัดสินใจว่าถึงเวลาเผยไม้เด็ดออกมาได้แล้ว แทนที่จะใช้คีมคอยกันมีดดาบทั้งสอง หล่อนกลับอ้าคีมออกก่อนจะงับใบมีดที่เข้าจู่โจม...
ความจริงแล้วนั่นเป็นสิ่งที่เมดร่างเล็กรอคอยเลยก็ว่าได้ ถึงดาบปลายปืนเล่มหนึ่งจะถูกตรึงไว้ แต่เธอก็ยังเหลือมีดดาบอีกเล่มที่จะฟันเข้าที่ร่องไหล่ของคู่ต่อสู้
ทุกอย่างมันดูเข้าทางเมดจิ๋วไปเสียหมด โอกาสมันหอมหวานเกินกว่าจะปล่อยให้หลุดมือ...
กระนั้นเมลิซซ่ากลับทำบางอย่างเหนือความคาดหมาย เธอปล่อยคีมตัดเหล็กออกก่อนจะชูสองข้างไปรับมีดดาบที่ฟันลงมา
ตามปรกติเมลิซซ่าคงไม่แคล้วที่จะต้องเสียแขนเหมือนดั่งที่เธอตัดแขนชาลีผู้โชคร้ายเมื่อไม่นานมานี้
ทว่า มีดดาบของเมดร่างเล็กกลับหยุดกึกกลางอากาศ...
ก่อนจะรู้ว่าอะไรหยุดดาบเธอไว้ ดาบก็เหมือนโดนบางอย่างดึงกระชากออกจากมือ เป็นจังหวะเดียวกับที่เมลิซซ่าบิดตัวตวัดขาเตะเข้าที่สีข้างของเมดจิ๋วอย่างจังจนเท้าลอยจากพื้นไปหลายคืบเลยทีเดียว
เมดจิ๋วเสียท่าโดนเตะจนกระเด็นลอยกระเด็นไปกลิ้งกับพื้น หล่อนสำลักกับความเจ็บปวดของสีข้างที่ราวกับโดนม้าถีบ
ในที่สุดเมดร่างเล็กก็รู้เสียทีว่าอะไรรับมีดดาบของหล่อนไว้ในตอนนั้น...
มือที่สวมถุงมือหนาของเมลิซซ่ากำลวดหนามอยู่หลายเส้น
ลวดหนามเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ป้องกันดาบสุดท้าย และเป็นสิ่งที่กระชากดาบปลายปืนให้หลุดไปจากมือ
“ทีนี้ก็รู้แล้วหรือยังว่าเราได้สมญานามนี้มาจากไหนกัน”
เมลิซซ่ากล่าวพร้อมหวดแส้ลวดหนามเข้าใส่เมดจิ๋วที่นอนอยู่ สาวใช้ที่กำลังอยู่ในสถานการณ์อันตรายก็รีบยกมีดดาบขึ้นมาป้องกัน
แส้ลวดหนามตวัดเฉี่ยวหน้าของสาวน้อยไปไม่เท่าไหร่ แต่มันได้ตรึงมีดดาบเล่มสุดท้ายในมือของเมดจิ๋วไว้ เมลิซซ่าที่สบโอกาสก็รีบกระชากมีดออกไปก่อนจะแมทีเรียลไลซ์พลั่วสนามในมือ กระโจนเข้าใส่เหยื่อเคราะห็ร้ายไร้ซึ่งอาวุธป้องกัน
มันเป็นจังหวะนั้นเองที่เมดจิ๋วรีบโยนคริสตัลสีฟ้าใส่เมลิซซ่า
จู่ ๆ คริสตัลที่เคยเป็นแสงส่องสว่างเมื่อสักครู่ก็ระเบิดขึ้นเป็นลูกเพลิงสีฟ้าต่อหน้าเมลิซซ่า ถึงแม้พลังทำลายมันเทียบเท่ากับเพียงประทัดเล็ก ๆ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เมลิซซ่าชะงัก
และจังหวะนั้นเองที่สตรีวัยกลางคนรอคอยอยู่แล้ว เธอตวัดดาบปลายปืนใส่เมลิซซ่าโดยไม่ให้ทันได้ตั้งตัว เมดผมสีเงินสกปรกเอี้ยวหลบปลายมีดได้อย่างหวุดหวิด แต่การโจมตีครั้งนั้นก็ฝากรอยแผลตื้น ๆ บนต้นคอไว้
สตรีผู้เป็นนายไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ การโจมตีครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ตามติดไม่มีหยุด กดดันให้เมลิซซ่าเป็นฝ่ายตั้งรับด้วยพลั่วสนามเพียงฝ่ายเดียว
การต่อดาบแต่ละกระบวนท่าลื่นไหลอย่างไร้ช่องว่าง สำหรับเมลิซซ่าแล้วคนที่เหมือนจะเป็นเจ้านายของเมดกลับอันตรายเสียยิ่งกว่าเมดสงครามเสียอีก
เวลาผ่านไปได้สักพัก เมดร่างเล็กก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาร่วมการดวลเป็นสองต่อหนึ่งอีกครั้ง เพียงแค่ดาบปลายปืนสองเล่มในมือสตรีวัยกลางคนก็รับมือยากอยู่แล้ว นี่จะกลายเป็นสี่เล่มในการดวลระยะประชิด
หากสถานการณ์ยังลากยาวต่อไปอยู่เช่นนี้เมลิซซ่าคงไม่อาจชนะได้แน่
แต่ในตอนนั้นเองที่เมลิซซ่าเหมือนจะฉุกคิดอะไรออก เธอถอยร่นไปยังกองเศษซากลวดหนามที่ถูกเศษซากหินบนเพดานทับอยู่
ในที่สุดศัตรูทั้งสองเคลื่อนตัวตามหล่อนเข้ามาในพื้นที่กับดักเป็นที่เรียบร้อย
“เสร็จล่ะ !”
เมลิซซ่าปัดดาบของสตรีวัยกลางคน และแทนที่จะยกพลั่วขึ้นมารับกระบวนดาบต่อมา เธอกลับทิ้งพลั่ว ย่อตัวลง ก่อนจะกระชากกองลวดหนามที่ซ่อนอยู่ใต้เศษซากปรักหักพังขึ้นมาราวกับเหวี่ยงแหจับปลา เพียงแต่ปลาตัวนั้นเป็นเมดสาวตัวเล็กที่กำลังพุ่งเข้ามาสมทบนั่นเอง
“!!!”
ทว่า ผู้ที่ติดอยู่ในร่างแหนั้นไม่ใช่เมดสาวที่เป็นเป้าหมาย หากแต่เป็นสตรีผู้สูงศักดิ์ที่เอาตัวเข้ามาบังแทนเมดสงครามของหล่อน
ระหว่างที่เมลิซซ่ากำลังทึ่งกับการคาดคะเนที่ถูกต้องอยู่นั้นเอง เมดสาวร่างเล็กก็เขวี้ยงมีดดาบใส่เมลิซซ่าทันที แต่มีดเล่มนั้นก็ถูกพลั่วปัดทิ้งกลางอากาศ
ความจริงแล้วเมลิซซ่ากำลังได้เปรียบอยู่อย่างมาก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอกลับถอนตัวออกไปยืนอยู่บนบันไดที่อยู่ปลายสุดของห้องโถง ยืนมองคุมเชิงผู้บุกรุกทั้งสองด้วยความประหลาดใจ
เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้ถอนตัวออกไปชั่วคราว เมดสาวก็ใช้มีดที่เหลือพยายามตัดลวดหนามที่พันตัวสตรีวัยกลางคนอยู่ แต่เมื่อดาบปลายปืนไม่อาจตัดลวดหนามโดยง่าย เธอจึงหยิบมีดดาบขึ้นมาบนหน้าผากก่อนจะพึมพำอะไรบางอย่าง...
คราวนี้เธอสามารถตัดลวดหนามออกได้อย่างง่ายดายราวกับใช้มีดตัดเส้นสปาเก็ตตี้
ผ้าคลุมอันหนาจะพอป้องกันไม่ให้หนามจิกเข้าไปในผิวอันอ่อนบาง กระนั้นใบหน้าของอดีตโฉมงามที่ไร้การป้องกันก็ปรากฏรอยขีดข่วนเต็มไปหมด
“นี่ ยายเมดจิ๋วตรงนั้นนะ...” เมลิซซ่าตะโกนหาเมดของอีกฝ่าย “เธอเป็นเมดสงครามภาษาอะไร ให้เจ้านายเป็นคนปกป้องเธอเนี่ยนะ ?”
“............”
“แถมยังใช้เวทมนตร์ได้อีกด้วย เราไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าเมดสงครามใช้เวทมนตร์ได้นอกเหนือจากการแมทีเรียลไลซ์อาวุธนะ”
“.........”
“ยายเมดจิ๋ว... เธอนะเป็นเมดสงครามจริง ๆ เหรอ ?”
ความคิดเห็น