ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Battlefield Witch: Cattleya แม่มดฝ่าสมรภูมิเดือด

    ลำดับตอนที่ #7 : แม่มดกับ Trick or Treat

    • อัปเดตล่าสุด 18 มิ.ย. 54


                    แม่มดน่ารักอย่างหนูคงจะนำโชคให้มากกว่านะ

     

                    ฉันจำได้ว่าลุงเพิ่งพูดประโยคนี้ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ

     

                    มือของแกยังอุ่นอยู่เลย...

     

                    แต่ชีพจรกลับหยุดเต้นเสียแล้ว

     

                    ฉันพูดอะไรไม่ออก 

     

                    ในหัวขาวโพลน... เหมือนกับตอนที่วิ่งด้วยความเร็วสูงแล้วจู่ ๆ ก็พบว่าข้างหน้ามีต้นไม้ขวางอยู่

     

                    ลุง...

     

              ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างลอยขึ้นอยู่เหนือร่างลุง

     

                    มันคือร่างอันเปลือยเปล่าของสตรีเต็มวัยที่ลุกโชนด้วยเปลวเพลิงสีทองในห้องใต้ดินแสนมืดอับ  ผมหยักศกเป็นคลืนปลิวไสวอย่างไร้น้ำหนักราวกับปีกนก  มือทั้งสองข้างผายออกคล้ายกับจะโอบกอดโลกทั้งใบไว้

     

              สวยเหลือเกิน

     

                    ภาพที่ฉันเห็นดูราวกับนางฟ้าจุติจากสรวงสวรรค์

     

                    ทว่า...

     

                    มันไม่ใช่นางฟ้าหรืออะไรที่ศักดิสิทธิ์ทั้งนั้น

     

                    ไอ้ระยำเอ้ย !”

     

                    ฉันตะโกนลั่นด้วยความโกรธแค้น

     

                    สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าฉันคือร่างจิตของแม่มด...

     

              ฉันประมาทเกินไป...

     

                    มันไม่แปลกเลยที่เวทมนต์ซับซ้อนขนาดนั้นจะถูกร่ายโดยแม่มดมากกว่าหนึ่งตน

     

                    แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือฉันไม่รู้สึกถึงการมีตัวตนของแม่มดอีกตนเลย

     

              แม่มดที่แอบซุ่มอยู่อย่างแนบเนียนย้อนรอยวิธีที่ฉันจัดการกับแม่มดผมแดงคนนั้น  ยังเห็นเส้นสีทองจาง ๆ เป็นแนวโค้งยาวที่ตรงดิ่งลงมาจากรูทางออก

     

                    ฉันแทบจะมองไม่เห็นรายละเอียดบนใบหน้าของร่างจิตนั่นเลย  แต่ฉันรู้สึกได้ว่าเธอหันมามองฉันพลางกล่าวอะไรเบา ๆ

     

                    “Trick or Treat”

     

                    ฉันจำสามพยางค์นั้นได้แม่นแม้จะเป็นภาษาของพวกฝั่งจักรวรรดิก็ตาม 

     

                    จากนั้น  ร่างสีทองเรืองแสงก็เริ่มจางหายไปกับธาตุอากาศ

     

    ไอ้ระยำเอ้ย  อย่าหนีนะ

     

    ฉันคว้าคฑาไรซิ่งสตาร์ออกมาร่ายมนต์อย่างบ้าคลั่ง

     

    จิตของฉันถูกดึงเข้าไปในห้วงแห่งอาคาช่าอีกครั้ง 

     

    ท่ามกลางสายใยแห่งจักรวาลอันยุ่งเหยิง  ฉันมองหาแม่มดตนนั้นได้อย่างไม่ยากเย็น

     

    ร่างของเธอเปล่งประกายท่ามกลางปมแสงที่กำลังดับสูญราวกับราชินีแห่งห้วงจักรวาล

     

    แต่ฉันไม่ปล่อยให้มันหนีไปง่าย ๆ หรอก

     

    ร่างจิตของฉันลุกโชนด้วยความเกรี้ยวกราด  พุ่งทะยานไปอย่างไม่หยุดยั้งตามเส้นสายใยวิถีกระสุนที่ยังหลงเหลืออยู่  โดยไม่สนว่าจะปล่อยให้ร่างจิตของฉันเกี่ยวพันไปกับเส้นสายใยอื่นที่กำลังถูกพัดไปมาอย่างปั่นป่วน

     

    นั่นเป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์

     

    ทุกครั้งที่ฉันแหวกว่ายผ่านสายใยแห่งจักรวาลแต่ละเส้น  วิญญาณของฉันเชื่อมต่อกับทุกอณูของสนามรบ

     

    แนวทหารเครื่องแบบสีน้ำเงินอันห้าวหาญวิ่งฝ่าผืนดินที่เป็นรูตะปุ่มตะปั่มอย่างไม่คิดชีวิต

     

    กลัว...

     

    เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

     

    ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว...

     

    เสียงปืนกลเริ่มคำรามแผดเสียงดังกึกก้อง

     

    ประกายแสงจากปากลำกล้องปืนแวววับราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า

     

    ฉันล้ม  ฉันกลิ้ง  ฉันถูกยิง  ร่างถูกระเบิดฉีกขาด  ร่างไหม้เกรียม

     

    ซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ฉันต้องรับรู้ถึงพริบตาสุดท้ายของชีวิตทหารหนุ่มเหลานั้น

     

    ฉันก็ยังวิ่งต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง  หากไม่วิ่งก็ตาย  หากไม่ตายก็ต้องวิ่ง

     

    กี่ครั้งที่ต้องกระโดดข้ามพวกพ้องที่ร้องอวดครวญถึงคนรักหรือครอบครัว 

     

    กี่หนที่เหยียบย่ำซากศพเพื่อนร่วมหมู่บ้านที่เคยร่วมดื่มกินมาตลอด...

     

    ก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังวิ่งเข้าไปหาดงหลวดหนามอันแหลมคม

     

    เจ็บ...

     

    ฉันไปต่อไม่ได้  มันเจ็บ  ทรมาน  พยายามจะกระเสือกกระสนออกจากดงลวดหนามมรณะให้ได้  แต่ปลายแหลมก็ยังคงจิกเกี่ยวเข้าไปในเนื้อไม่ปล่อย

     

    พวกพ้องที่วิ่งไล่ตามหลังทันเริ่มดันตัวฉันให้ถลำลึกเข้าไปในดงลวดหนามอีก  พวกเรากระจุกกันอยู่หน้าแนวรั้วลวดหนามที่ดูจะไม่ถูกทำลายโดยปืนใหญ่เลย

     

    เมื่อไปต่อไม่ได้  ฉันก็ตาย

     

    ซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ฉันต้องตาย

     

    เสียงปืนกล  เสียงปืนเล็กยาว  ระเบิดมือลอยละล่อง  ร่างของฉันกองเป็นพะเนินอยู่หน้าแนวรั้วลวดหนาม  ทั้งตัวฉันที่ตายแล้ว  ทั้งตัวฉันที่กำลังจะตาย  กองทับถมปนเปราวกับเนื้อบดที่ทำจากมนุษย์

     

    หุ่นรบหุ้มเกราะไร้เทียมทานพยายามจะเปิดช่องแนวรุกให้กับทหารที่เหลือ

     

    แต่แล้วไฟก็ลุกพรึบเข้ามาในห้องคนขับ

     

    ร้อน ! ผิวหนังของฉันกำลังไหม้เกรียม  ฉันกรีดร้อง  แต่หลอดเสียงฉันไหม้จนหมดแล้ว 

     

    ฉันถูกย่างทั้งเป็นในห้องคนขับ

     

    ตัวฉันเป็นเหมือนดอกไม้ไฟที่มีชีวิต  กระสุนที่อยู่รอบเอวเริ่มระเบิดจากความร้อน

     

    ฉันตายอีกแล้ว  ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ฉันเป็นพยานกับการดับสูญของคนหนุ่มเหล่านั้น

     

    ฉันไปต่อไม่ได้

     

    ทุกคนรุกต่อไปไม่ได้

     

    และแล้ว  ทุกอย่างก็สิ้นสุดลงด้วยเสียงนกหวีด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×