คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : แม่มดกับประสบการณ์ครั้งแรก
เธอพยายามจะพูดอะไรบางอย่างกับฉัน แต่มันก็สายเกินไป
รูเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนทรวงอกแม่มดผมแดง ตาสีม่วงของหล่อนยังเบิกกว้างจ้องมองที่ตัวฉัน แต่เพียงสักครู่ร่างของหล่อนก็ทรุดลงไปนอนกับพื้น
หล่อนตายแล้ว
กระสุนตะกั่วคงตัดขั้วหัวใจปลิดชีพแม่มดผมแดงในชั่วพริบตา คราบโลหิตค่อย ๆ แผ่ออกมาเป็นดวงรอบรูกระสุนราวกับดอกไม้กำลังผลิบาน เลือดสีแดงฉาดที่ไหลทะลักจากบาดแผลที่กว้างกว่าด้านหลังย้อมพื้นดินให้ดูคล้ายกับหล่อนกำลังสยายปีก โบยบินไปยังท้องฟ้าสีคราม...
ใช่แล้ว... มันราวกับไก่ที่ในที่สุดก็สามารถโผบินบนฟากฟ้าได้ตามปรารถนา
มันเป็นเพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น ระหว่างความเป็นกับความตาย
..............
........
..
ฉันลืมตาขึ้นราวกับเรื่องเมื่อสักครู่เป็นแค่ความฝัน
แต่ก็รู้ดีว่าสิ่งที่เห็นนั่นห่างไกลจากความฝันมากนัก
ภาพของแม่มดผมแดงที่นอนจมกองเลือดยังติดตาฉันอยู่
พะอืดพะอม... อยากจะอ้วกเหลือเกิน แต่มันก็ไม่มีอะไรออกมานอกจากความรู้สึกบัดซบ
กระนั้น ฉันก็ไม่มีเวลาพอที่จะมาอ่อนแอกับเรื่องพรรค์นี้ได้
ในตอนนั้นเองที่ฉันสังเกตว่าพื้นดินกลับมาเป็นพื้นแข็งกระด้างตามเดิมแล้ว ราวกับที่มันกลายเป็นทรายดูดเมื่อสักครู่เป็นเรื่องโกหก
ทั้งตัวฉันและลุงไม่มีเวลาชื่นชมผลงานมากนัก เรารีบตะเกียกตะกายจากกองฝุ่นที่ฝังพวกเราแทบมิดหัว หมอบคลานไปตามพื้นดินอย่างบ้าคลั่ง คลุกฝุ่นคลุกดินจนแม้แต่ไส้เดือนยังอาย ก่อนจะมุดกลับลงไปหลบในห้องใต้ดินของโบสถ์
ควันจางยังลอยฉุยจากปลายปากกระบอกปืนไรเฟิลที่พาดอยู่บนร่องไหล่ของลุง เนื้อตัวของแกยังเปื้อนฝุ่นมอมแมมราวกับคนเหมือง แต่ลุงแกกลับเพียงสนใจว่าหนวดเข้ารูปหรือเปล่า
ลุงรวบรวมลมหายใจที่เหนื่อยอ่อนก่อนจะหันมองฉันด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม
“จัดการมันได้แล้วเหรอ”
“อืมม” ฉันตอบพลางปัดเสื้อผ้าไปพลาง
“ทั้งที่ยิงขึ้นฟ้าไปมั่ว ๆ อย่างนั้นเนี่ยนะ”
“ค่ะ หนูบอกให้กระสุนนึกถึงตัวตนที่แท้จริง ก่อนจะปล่อยให้มันวิ่งไปหาผู้ที่ร้องเรียกหามัน เจ้ากระสุนเลยวิ่งไปหาแม่มดฝ่ายโน้นที่กำลังร่ายเวทอยู่... วิ่งเข้ากลางอกเธอเลย”
แม้ฉันจะอธิบายไปแล้ว แต่ดูเหมือนลุงจะยังไม่เข้าใจอยู่ดี
“ไม่น่าเชื่อ อย่างกับเวทมนต์เลย”
“ก็มันเวทมนต์นี่นา”
แปลกมาก ทั้งที่เสียงระเบิดกับเสียงหวีดหวิวของกระสุนปืนใหญ่บินผ่านหัวไปมา ทั้งที่ทหารฝ่ายเราที่อยู่เบื้องหลังกำลังดิ้นรนวิ่งฝ่าแนวกระสุนอย่างเอาเป็นเอาตาย...
แต่ฉันกับลุงต่างคุยกันราวกับกำลังปิกนิกกันอยู่ ไม่สิ... ถ้าเป็นอารมณ์นี้น่าจะเป็นนั่งตกปลากันอยู่มากกว่า
“แม่มดเพิ่งเคยฆ่าคนเป็นครั้งแรกสินะ”
ฉันพยักหน้า
“เห็นหน้าของคนนั้นด้วยใช่ไหม”
ฉันพยักหน้าตอบอีกครั้ง
“งั้นเหรอ”
ลุงถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อยผิดกับท่าทางของคนไร้ความรู้สึกในตอนพบกันครั้งแรกอย่างสิ้นเชิง
เขาจ้องมองฉันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก มันไม่ใช่สายตาที่มองสิ่งที่น่ารังเกียจเหมือนในช่วงแรก...
หากแต่เป็นสายตาที่จ้องมองเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
“รู้ไหม ตอนแรกฉันคิดว่าแม่มดอย่างเธอฆ่าคนได้เหมือนกับไปเยี่ยวไปขี้เลยนะ”
“แม่มดเองก็มีหัวใจนะคะ”
“นั่นสินะ”
ลุงทหารเปรยออกมาราวกับเป็นความรู้ใหม่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน มันจะน่าดีใจหรือเสียใจดีที่ลุงเพิ่งรับทราบว่าแม่มดเองก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากมนุษย์ทั่วไป
โดยที่ไม่ทันตั้งตัว มืออันหยาบกร้านของลุงก็เอื้อมมาตบไหล่ฉันเบา ๆ ราวกับต้องการจะปลอบใจ ฉันสบตากับลุงที่มองฉันด้วยความเห็นอกเห็นใจ
“ขอโทษด้วยนะที่ทำให้เด็กสาวอย่างแม่มดต้องมาเจอเรื่องอย่างนี้”
ไม่ว่าเพราะน้ำเสียงอันอ่อนโยนของลุงจะก้องกังวาลในจิตวิญญาณของฉัน...
หรือการที่มีมนุษย์ธรรมดามองฉันเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง...
หรืออาจเป็นเพราะคำขอโทษจากปากของคนที่เคยประสบพบเจอเรื่องเดียวกันมาก่อน
น้ำตาอุ่น ๆ เริ่มไหลรินอาบแก้มที่มอมแมม
ฉันร้องไห้ท่ามกลางห่ากระสุนที่สาดกระเซ็น
ความคิดเห็น