การสตาร์ทรถยนต์เกียร์ออโต้ - การสตาร์ทรถยนต์เกียร์ออโต้ นิยาย การสตาร์ทรถยนต์เกียร์ออโต้ : Dek-D.com - Writer

    การสตาร์ทรถยนต์เกียร์ออโต้

    ภาพความทรงจำของในอดีตของหญิงสาวกับความรู้เรื่องการสตาร์ทรถยนต์เกียร์ออโต้ เอ๊ะ!มันเกี่ยวกันยังไง ต้องลองอ่าน

    ผู้เข้าชมรวม

    218

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    218

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 ส.ค. 54 / 20:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     ดูภาพประกอบได้ที่
    http://www.facebook.com/TopSpeedTraining
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       “ทำไมท้องฟ้าวันนี้ถึงสีหม่นจัง…”

      ฉันเหม่อมองท้องฟ้าที่วันนี้สีฟ้าได้หายไปเหมือนกับใจของฉันเลย มีเพียงสีเทาๆหม่นๆมาแทนที่ ซึ่งตรงกับความรู้สึกในใจฉันตอนนี้จริงๆ บนความสูงของตึกสามสิบชั้นมันเป็นแบบนี้นี่เอง เมื่อก่อนแค่ความสูงระดับสะพานลอยฉันก็กลัวแล้ว แต่ตอนนี้ไม่รู้ทำไมถึงไม่กลัวความสูงบนดาดฟ้าตึกนี้เลย มองไปรอบๆก็มีแต่ตึกต่างๆเต็มไปหมด แค่นี้เอง…กรุงเทพฯ

      ฉันหยิบรูปถ่ายของเราขึ้นมาดูอีกครั้ง

      “ไอแจ๊ค ไอเลว ไอคนไม่จริงใจ ไม่รักษาคำพูด”

      “คอยดูเถอะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่คิดถึงแกอีกแล้ว จะไม่คิดถึงแกอีกเลย”

      ฉันฉีกรูปถ่ายทิ้งแล้วโปรยเศษของมันลงไปจากดาดฟ้า

      จู่ๆ น้ำตาของฉันมันก็ซึมแล้วก็ล้นออกมาจากตา

      “อกหัก มันเป็นอย่างนี้นี่เอง”

      แล้วฉันก็ตัดสินใจกระโดด…

      ก็เคยดูหนังมาหลายเรื่อง วินาทีที่ตัวละครในหนังกระโดดจากตึกลอยอยู่กลางอากาศ ความคิดความรู้สึกเหตุการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตก็จะผุดขึ้นมาในหัวมากมาย ไม่รู้ว่าแค่ช่วงเวลาไม่กี่วินาทีทำไมอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ถึงได้พรั่งพรูออกมาได้มากมายขนาดนี้เหมือนกับร่างกายและจิตใจพยายามที่จะรีดเค้นทุกสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับมันให้แสดงออกมาอีกครั้งก่อนที่จะแตกดับตลอดไป

      ตุ๊บ!

      …ลงจากขอบฐานรั้วกันตกของดาดฟ้ามาสู่ระดับพื้นดาดฟ้าอย่างปลอดภัย

      ว่าแต่ไอคนเขียนบท มันรู้ได้ไงว่าคนกำลังจะตายเค้าจะรู้สึกอย่างนั้น ไอพวกเขียนบท เขียนนิยาย เนี่ยเคยตายมาแล้วหรือไง ทำไมฉันไม่มีความรู้สึกหรืออารมณ์อะไรพรั่งพรูออกมาบ้างล่ะ ถึงแม้ฉันจะแค่กระโดดจากขอบฐานรั้วกันตกของดาดฟ้ามาที่พื้นดาดฟ้าเป็นระยะแค่ 20-30 เซ็นติเมตรก็ตาม และแม้จะฉีกรูปไปแล้วแต่ในใจก็มีแต่ใบหน้าของไอแจ๊คผุดขึ้นมา ไม่มีความรู้สึกหรือเรื่องอื่นๆผุดขึ้นมาบ้างล่ะ

      ขอให้ฉันคนเก่าและความทรงจำที่เกี่ยวกับเราทั้งหมดตายไปพร้อมรูปใบนั้นสักที ฉันได้แต่ภาวนาในใจพร้อมกับเดินกลับไปที่ลิฟต์

      ติ๊ง!

                      ประตูลิฟต์เปิดออก ฉันเดินออกจากลิฟต์ที่นำฉันมาถึงชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นลานจอดรถ

      แปลกเหมือนกันนะ วินาทีที่อยู่บนดาดฟ้าแต่ละวินาทีรู้สึกว่ายาวนานเหลือเกินหรือเพราะมันเต็มไปด้วยอารมณ์และเรื่องราวเก่าๆ ต่างกับวินาทีที่อยู่ในลิฟต์รู้สึกว่าแป๊บเดียวเอง

      ฉันเดินไปที่รถของฉัน กดสวิตซ์ที่รีโมทกุญแจรถเพื่อปลดล็อค ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย การกระทำทางร่างกายเป็นไปอย่างอัตโนมัติ แต่จิตใจยังคงคิดถึงแต่เรื่องเก่าๆ ยังจำวันแรกที่เขาสอนฉันขับรถได้ดี เหมือนทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง

      “ก่อนเข้าไปขับรถแตงต้องตรวจสอบรอบตัวรถก่อนว่ามีสิ่งกีดขวางอะไรอยู่รอบตัวรถหรือเปล่า โดยลองเดินดูรอบๆตัวรถเพราะถ้าเข้าไปนั่งในรถแล้ว มันจะมีจุดบอดที่มองไม่เห็นจากที่นั่งคนขับโดยเฉพาะพวกสิ่งของอย่างถังขยะ กระถางต้นไม้ กรวยจราจร และนอกจากนี้แตงก็ควรก้มไปดูใต้ท้องรถว่ามีแมว หมา นอนอยู่ใต้ท้องรถหรือเปล่า รวมถึงดูว่ามีคราบน้ำมันอยู่ที่พื้นใต้ท้องรถมั้ย”

                  “แล้วถ้าพบคราบน้ำมันที่พื้นใต้ท้องรถ แล้วต้องทำไงคะ”

      “ก็โทรเรียกพี่สิคะ หรือเรียกใครให้มาช่วยดูให้ก็ได้ เพราะต้องเปิดฝากระโปรงเพื่อตรวจเช็คหาอุปกรณ์ที่รั่วซึมหรือถ้าจะเช็คง่ายๆ แตงก็ลองดูที่กระปุกน้ำมันเบรค น้ำมันพวงมาลัย น้ำหล่อเย็น พวกนี้ดู เพราะน้ำมันที่รั่ว เราไม่รู้ว่ามาจากอุปกรณ์อะไร ถ้าเป็นน้ำมันเบรคละก็ อันตรายมากเลย ห้ามขับรถออกไป”

      “ถ้าทุกอย่างปกติดีจึงค่อยเข้าไปนั่งเพื่อเตรียมขับ อย่าลืมรัดเข็มขัดให้เป็นนิสัยทันทีที่นั่งเพื่อเตรียมขับนะ แล้วก็ลองปรับที่นั่งให้สบายสำหรับแตงที่สุดด้วย”

      “แหม กว่าจะขับรถออกไปได้เนี่ยขั้นตอนเยอะจริงๆ จะได้ฤกษ์ Start รถหรือยังคะเนี่ย”

      “ใจเย็นๆจ้า เพราะก่อน Start เราต้องตรวจสอบเกียร์ก่อนว่าให้อยู่ที่ตำแหน่ง N หรือ P รวมถึงดึงเบรคมือขึ้นด้วยเพื่อป้องกันรถเคลื่อนที่ผิดทิศหรือเคลื่อนที่ทันทีหลังจาก Start”

      “ตอนนี้ก็มาถึงขั้นตอน Start แล้วพร้อมรึยังจ๊ะ จะ Start แล้วนะ”

      “พร้อมตั้งนานแล้วค่ะ พี่แจ๊ค”

      “ที่จริงก็สามารถบิดกุญแจ Start รถได้ทันที แต่พี่อยากแนะนำให้แตงปิดสวิตซ์อุปกรณ์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทุกอย่างก่อนจะดีกว่าเพราะจะเป็นการรวบรวมพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาเพื่อทำการ Start เครื่องอย่างเดียวจะทำให้ Start รถได้ง่ายกว่าและเป็นการถนอมแบตเตอรี่ จากนั้นเราก็บิดกุญแจ Start โดยบิดมาที่ตำแหน่ง On ก่อนแล้วค่อยมาที่ตำแหน่ง Start เป็นจังหวะ อย่าบิดรวดเดียวมาที่ Start เลยนะ ควรบิดให้เป็นจังหวะ”

      “เมื่อ Start รถติดแล้ว ก็อย่าเพิ่งรีบขับออกไปทันที ควรตรวจสอบไฟบนหน้าปัดว่ามีหลอดไฟแจ้งเตือนอะไรที่ติดสว่างขึ้นมาหรือเปล่า อันเป็นการอุ่นเครื่องไปในตัวเพื่อให้น้ำมันหล่อลื่นได้กระจายตัวทั่วถึงชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ รวมถึงอย่าลืมปลดเบรคมือลงก่อนออกรถ”

      “แล้วอุ่นเครื่องเนี่ย เราต้องอุ่นนานแค่ไหนคะ ไม่มีเวลาบอกเป็นช่วงเวลาที่แน่นอนหรือคะ”

      “ก็คงประมาณสัก 20 วินาที ก็พอ โดยสามารถสังเกตจากเข็มชี้แสดงอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นและความเร็วรอบเครื่องอยู่ในระดับปกติก็ได้จ๊ะ”

      “พี่สาธิตให้ดูแล้ว แตงมาลองหัด Start ดู”

      “วันหลัง ถ้าแตงขับๆ ไปแล้วรถเสียกลางทางจะมีใครมาสาธยาย อธิบาย และแก้ปัญหาให้มั้ยนะ”

      “ไม่ต้องห่วงหรอกจ๊ะ พี่บอกไปแล้วโทรเรียกพี่ได้ทุกเวลาเลย ยิ่งถ้าแตงประสบอุบัติเหตุ พี่ก็จะดูแลทั้งรถและแตงแถมให้ด้วย”

      “อ้าวนี่เห็นแตงเป็นตุ๊กตาแถมติดรถหรือไง”

      “พี่พูดจริงนะ ไม่ใช่แค่รถที่พี่จะคอยดูแลให้ตลอดไป เจ้าของรถพี่ก็พร้อมจะดูแล…ตลอดไป”

      “เอ่อ…คือ…”

      “แตง พี่อยากจะบอกแตงมาตั้งนานแล้ว ว่าพี่รู้สึกยังไงกับแตง ความรู้สึกที่มีต่อแตงมันทำให้พี่ต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวพี่เองในหลายๆอย่าง ไม่รู้ว่าแตงจะรู้สึกเหมือนกันไหม อย่างกับเราเคยเป็นคู่กันมาก่อน ถ้าวันนึงไม่มีแตงพี่คงอยู่ไม่ได้ พี่พร้อมจะดูแลแตงเสมอ ไม่ว่าแตงจะเป็นยังไงอยู่ที่ไหน พี่ก็จะตามไปดูแลทุกภพทุกชาติ พี่ขอสัญญา”

      “คือ…คือแตงอยากบอกว่า เจ้าของรถคันนี้คือคุณพ่อแตง พี่คงต้องดูแลคุณพ่อแตงเพิ่มอีกคนด้วยนะคะ”

      “อ้าว เหรอ ฮ่าๆๆๆ”

      หลังจากวันนั้น เราก็เริ่มคบกัน พร้อมๆกับการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน รวมถึงการถ่ายทอดความรู้เรื่องการดูแลรถ,การขับรถให้กับฉันไปด้วย แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อ 3 วันก่อนนี่เอง ฉันมั่นใจว่าขับรถคล่องแล้วจึงขออาสาเป็นคนขับเอง อยากจะลองเป็นสารถีให้เขาได้นั่งชื่นชมความสามารถฉันบ้าง และในขณะที่ฉันกำลังเพิ่มความเร็วรถ จู่ๆก็มีมอเตอร์ไซต์ขี่ออกมาจากซอยข้างๆปาดหน้าในระยะกระชั้นชิด ฉันตัดสินใจหักรถหลบทันที แล้วรถก็ชนเข้ากับเสาไฟฟ้าอย่างแรง หลังจากนั้น ฉันก็สูญเสียเขาไปตลอดกาล

      มารู้สึกตัวอีกทีตอนนี้ฉันก็มาถึงวัดที่จัดงานศพแล้ว แต่ฉันก็ไม่กล้าเข้าไปจริงๆ ฉันได้แต่เสียใจอยู่เงียบๆคนเดียวตรงนี้ ได้แต่ยืนมองไอแจ๊คมันขับรถมาพร้อมกับผู้หญิงใหม่ของมัน ได้แต่มองดูมันพรอดรักกันอยู่หน้าลานจอดรถหน้าวัด

      “แนน รอพี่อยู่ที่รถนะจ๊ะ แป๊บเดียวเอง เดี๋ยวพี่เข้าไปร่วมงานแป๊บเดียวก็ออกมาแล้ว”

      “ทำไมล่ะคะ งานศพเพื่อนของพี่แจ๊ค ก็เหมือนเพื่อนของแนนนั่นแหละ แนนไม่อยากรออยู่ที่รถคนเดียว รู้สึกใจมันหวิวๆยังไงไม่รู้ค่ะแถวนี้”

      “แป๊บเดียวจริงๆจ๊ะ เพื่อนพี่คนนี้ พี่ก็ไม่ได้สนิทอะไรมาก เป็นลูกค้าคนหนึ่งที่บริษัท รู้จักเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเอง แต่พี่จำใจต้องมาร่วมงานเพราะวันที่เขาประสบอุบัติเหตุพี่ขอติดรถเขาไปด้วยแต่พี่ไม่เป็นอะไรเลย จึงต้องมาร่วมงานแสดงน้ำใจหน่อย”

                  “ฮือๆๆ ไอ้แจ๊ค ฉันตายแล้ว แกไม่เสียใจสักนิด ยังมีหน้าพาผู้หญิงของแกมางานฉันอีก ไหนบอกจะตามดูแลตลอดไป ดูแลทุกภพทุกชาติ ”

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×