ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fiction My Gang] Wizardly School

    ลำดับตอนที่ #4 : ชั่วโมงแรก

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ค. 57


                อีก 15 นาทีก็จะเริ่มการเรียนการสอนชั่วโมงแรกของโรงเรียนเวทมนต์แห่งนี้ นักเรียนชั้นปีที่ 1 ต่างรีบมาจับจองที่นั่งที่ตัวเองพอใจ และส่งเสียงคุยกันจ้อกแจ้กอย่างไม่ขาดสาย

    “แถวนี้แหละ ฉันว่าโอเคแล้ว นั่งเลยๆ” เกรซหยุดอยู่ตรงแถวที่นั่งกลางห้องแล้วชี้ชวนให้เพื่อนๆอีก 3 คนรีบนั่ง ก่อนที่จะโดนคนอื่นแย่งไปซะก่อน ซึ่งเพื่อนสาวทั้ง 3 ก็เดินเข้าไปนั่งอย่างว่าง่าย

    ห้องเรียนชั่วโมงนี้เป็นห้องขนาดใหญ่ที่รองรับนักเรียนปี 1 ได้ทั้งหมด ที่นั่งเป็นอัฒจันทร์ที่ไล่ลำดับชั้นกันไป บริเวณหน้าห้องเป็นลานรูปวงกลมขนาดปานกลาง มีโต๊ะสำหรับอาจารย์ผู้สอน และกระดานดำ ดูๆไปแล้วก็เหมือนห้องเรียนทั่วไปนี่เอง ทว่าทั้งโต๊ะ เก้าอี้ และกำแพงที่เป็นไม้สีน้ำตาลเข้มทำให้ที่แห่งนี้ดูขลังสมเป็นโรงเรียนเวทมนต์ขึ้นมาทันที

    “เอ่อ ขอโทษนะ ตรงนี้มีคนนั่งรึเปล่า” หญิงสาวผมสั้นสีทองประกายก้มลงมาถามจาวิกะที่นั่งอยู่เกือบริมสุดของแถว เนื่องด้วยแถวที่พวกเธอนั่งเหลือที่ว่าง 1 ที่ พอดี

    “อ่อ ไม่มีหรอก จะนั่งก็ได้นะ” จาวิกะตอบ อีกฝ่ายยิ้มอย่างดีใจก่อนจะกล่าวขอบคุณและนั่งลงข้างๆอย่างสุภาพ

    “ฉันชื่อจีอุน ยินดีที่ได้รู้จักนะ” สาวผมทองแนะนำตัว

    “ฉันจาวิกะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน แล้วพวกนี้ก็ เอ่อ..” จาวิหันไปหาเพื่อนอีก 3 คนที่นั่งถัดจากเธอได้แก่ พีโกะ พาเอมิ และเกรซ เมื่อทั้ง 3 เห็นจีอุนต่างก็แนะนำตัวทำความรู้จักกันอย่างครึกครื้น ได้ความมาว่าจีอุนไม่มีเพื่อนคนอื่นที่เข้าโรงเรียนนี้เหมือนกันเลย และเธอเป็นคนพูดไม่เก่งทำให้ยังหาเพื่อนไม่ค่อยได้สักเท่าไร

    อยู่ๆเสียงคุยกันของนักเรียนในห้องก็ค่อยๆเงียบลง เมื่ออาจารย์ก้าวเข้ามาในห้อง เขาเป็นชายชราที่มีรูปร่างสูงโปร่งดูภูมิฐาน สวมแว่นกลมและมีสีหน้าจริงจังตลอดเวลา

    สวัสดี นักเรียนใหม่ทุกคน ฉันชื่ออาโอกิ เป็นอาจารย์ประจำวิชาอักษรรูนพื้นฐาน พวกเธอเองก็คงจะรู้กันมาบ้างแล้วว่า อักษรรูนนั้นเป็นอักษรที่มีความลึกลับและเกี่ยวข้องกับเวทมนต์มาตั้งแต่โบราณกาล ถือเป็นอักษรที่มีประโยชน์มากหากพวกเธอได้เรียนรู้ ตามตำนานกล่าวไว้ว่า ผู้คิดค้นอักษรนี้คือเทพแห่งสงครามนามว่า โอดิน..”

    “ฮ้าวว หลับละนะ” พาเอมิฟุบลงไปกับโต๊ะ เช่นเดียวกับนักเรียนอีกหลายๆคนในห้องที่เริ่มมีอาการเบื่อหน่าย เริ่มวิชาแรกก็ต้องมาเจอเลกเชอร์ที่ไม่ต่างจากการเรียนในโรงเรียนปกติ สิ่งที่พวกเค้าคาดหวังคือการได้เรียนใช้เวทมนต์เร็วๆต่างหากเล่า แต่พาเอมิก็เงยหน้าขึ้นมาเมื่อเห็นพีโกะที่นั่งข้างๆกำลังจดอะไรยิกๆ “นี่จะขยันไปไหน จะเอาที่ 1 ของชั้นปีอีกรึไงยะ”

    พีโกะหันมาหาพาเอมิอย่างหัวเสีย “ขยันบ้าอะไรล่ะ ฉันกำลังกรอกเอกสารการเป็นรองประธานชั้นปี แล้วก็อ่านเอกสารรายละเอียดคณะกรรมการในตำแหน่งต่างๆที่รุ่นพี่ฮิสึมิยัดมาให้เมื่อตอนกลางวันอยู่ต่างหาก แล้วเดี๋ยวเย็นพรุ่งนี้ก็ต้องไปประชุมรวม 4 ชั้นปีอะไรนั่นอีก วุ่นวายชะมัด ไม่ใช่เรื่องเลยนะเนี่ย ใครอยากเป็นกัน!

    “ชู่วว เบาๆหน่อย ว่าแต่โจทก์ของเธอมานู่นแล้วแน่ะ” จาวิกะปรามเพื่อนก่อนจะชี้ไปทางประตูห้อง

    เต๋า เร็นกำลังเดินเข้ามาด้วยท่าทางสบายๆ ไม่แยแสต่อสายตารอบข้างที่มองมาที่เขาเป็นตาเดียวเลยสักนิด เขานั่งลงตรงที่นั่งแถวบน ถัดไปจากแถวที่พวกจาวิกะนั่ง จะว่าไปแล้วก็มีนักเรียนหลายคนที่เข้ามาหลังจากที่อาจารย์เริ่มสอนแล้ว เป็นไปได้ว่าคงไปเดินสำรวจโรงเรียนกันอย่างสนุกสนานอยู่กระมัง

                “ดี! จบคาบนี้ฉันจะเอางานไปโยนให้นายทันทีเลย” พีโกะบ่นพลางปล่อยรังสีอำมหิต โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเร็นกำลังมองเธอที่วุ่นอยู่กับเอกสารอยู่จากแถวบน ยิ้มอย่างพอใจที่ได้สร้างความวุ่นวายให้อีกฝ่าย

                อาจารย์อาโอกิยังคงบรรยายถึงประวัติความเป็นมาและตำนานต่างๆของอักษรรูนโดยไม่ได้ใส่ใจว่านักเรียนเกือบครึ่งห้องกำลังนั่งหลับ หรือมีนักเรียนเข้าสายเลยแม้แต่น้อย คาดว่าเขาคงจะชินกับบรรยากาศแบบนี้เสียแล้ว และก่อนที่นักเรียนจะหลับกันซะหมด ประตูห้องก็เปิดขึ้นอีกครั้ง

                ชายหนุ่มร่างสูงผู้มีผมสีดำซอยสั้นก้าวเข้ามาในห้อง ใบหน้าหล่อเหลาปนเจ้าเล่ห์ทำให้สาวๆในห้องถึงกับมองกันตาค้าง ความง่วงก่อนหน้านี้พลันหายไปเป็นปลิดทิ้ง

                “มาแล้วรึ นี่คือผู้ช่วยของอาจารย์ในคาบเรียนนี้ แนะนำตัวกับน้องๆหน่อยสิ” อาจารย์กล่าว

                “สวัสดีครับทุกคน พี่ชื่อลี จุนกิ อยู่ปี 2 วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาเป็นผู้ช่วยอาจารย์อาโอกิและได้พบกับน้องๆที่น่ารักทุกคน ยังไงก็ฝากตัวฝากใจด้วยนะครับ” ชายหนุ่มพูดและยิ้มหวานทำเอาสาวๆในห้องใจละลายไปตามๆกัน

                “ไอออร่าเพลย์บอยนี่มันอะไรกัน” พาเอมิบ่นพึมพำ

                “หล่อออกแก แต่ก็ยังไม่ใช่สเปคฉันอยู่ดี ฮ่าๆๆ” เกรซหัวเราะอย่างร่าเริง

                “ฉันรู้ว่าพวกเธอคงจะเบื่อ ก็เลยชวนจุนกิมาสาธิตการใช้อักษรรูนให้พวกเธอดู เมื่อพวกเธอเข้าใจอักษรรูนและสามารถเขียนอักขระเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องแล้วล่ะก็ อักษรเหล่านี้จะช่วยเพิ่มพลังเวทของพวกเธอให้ยิ่งแข็งแกร่งและมีลักษณะเฉพาะขึ้นอีก” อาจารย์อาโอกิอธิบาย

                รุ่นพี่จุนกิชักดาบไม้ที่เอวออกมาพร้อมกับกวัดแกว่งมันไปในอากาศ

                “นี่คือพลังเวทของผมปกตินะครับ” ทันใด พลังเวทสีเขียวอ่อนก็ลุกโชนขึ้นทั่วดาบไม้ธรรมดาๆนั้น จุนกิวาดดาบไปมาในอากาศอีกครั้ง คราวนี้อากาศในห้องเริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลง กระแสลมค่อยๆแรงขึ้นๆจนกระดาษปลิวว่อนไปทั่ว

                “กรี๊ดด” สาวๆที่นั่งหน้าห้องร้องอย่างตกใจเมื่อข้าวของบนโต๊ะของเธอปลิวไปกับสายรมแรงที่รุ่นพี่จุนกิสร้างขึ้น นักเรียนในห้องเริ่มวิ่งไปเก็บของของตัวเอง สภาพเป็นไปอย่างชุลมุนวุ่นวาย ใช่แล้ว รุ่นพี่ได้สร้างพายุเล็กๆให้เกิดขึ้นในห้องเรียนแห่งนี้ ก่อนที่มันจะค่อยๆสงบลงสู่สภาพปกติ

                “คราวนี้ ลองดูอีกทีนะครับ” รุ่นพี่ใช้มีดสั้นแกะสลักอักษรรูนเป็นข้อความบางอย่างลงบนตัวดาบไม้แล้วกวัดแกว่งมันอีกครั้ง สายลมอ่อนๆก่อตัวขึ้นทั่วห้อง นักเรียนทุกคนต่างหาที่ยึดเกาะเพราะกลัวจะโดนพายุที่หนักกว่าเดิมพัดปลิว ทว่าคราวนี้กลับต่างออกไป สายลมอ่อนๆไม่ได้ทวีความรุนแรงขึ้น แต่กลับทำให้เย็นสบาย ทันใดนั้นก็มีเสียงเพลงบรรเลงดังขึ้นทั่วห้อง ท่วงทำนองไพเราะจับใจ ราวกับกำลังนั่งอยู่ในคอนเสิร์ตวงออเครสตร้า นักเรียนทุกคนต่างทึ่งไปกับพลังของรุ่นพี่จุนกิ

                “เมื่อกี้นี้ รุ่นพี่จุนกิได้สลักอักษรรูนที่มีความหมายว่า “เย็น” และ “บทเพลง” ลงไป ทำให้พลังเวทของเขามีลักษณะเฉพาะขึ้น เห็นไหมล่ะว่าอักษรรูนน่าสนุกขนาดไหน” อาจารย์อาโอกิพูดอย่างภูมิใจ “ขอบคุณมากนะจุนกิ เธอไปทำงานของเธอต่อได้แล้วล่ะ ฉันเรียกเธอมาไม่ให้เจ้าพวกนี้มันง่วงเท่านั้นแหละ”

                “ฮะฮะ เป็นเกียรติมากครับอาจารย์ แต่ก่อนไปผมขอมอบอะไรไว้ให้น้องๆหน่อยได้ไหมครับ”

                “เอาสิ เชิญเลย”

                จุนกิหยิบอาวุธลับ(?)ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา และใช้มันเล็งไปทางนักเรียนปี 1 ในห้อง น้องๆต่างแตกตื่น เพราะตอนนี้รุ่นพี่กำลังใช้ “ปืน” เล็งไปที่พวกเขาด้วยสายตาและรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม เหล่าเด็กปี 1 ต่างกรีดร้อง โวยวาย แตกตื่น หลับตาหยีด้วยความตกใจกลัว

                “นี่คือของขวัญที่พี่ขอมอบให้น้องๆนะครับ”

     

                ปัง !!!

     

                สิ้นเสียงปืน นักเรียนทุกคนค่อยๆลืมตา และพบว่าสิ่งที่ออกมาจากปากกระบอกปืนหาใช่ลูกกระสุนไม่ แต่มันคือพลังเวทที่ก่อตัวเป็นรูปดอกกุหลาบ และตอนนี้ดอกกุหลาบสีเขียวอ่อนก็ร่วงลงบนโต๊ะของนักเรียนทุกคนอย่างสวยงามเหมาะเจาะ

                “ว้าววว” นักเรียนปี 1 ต่างรู้สึกตื่นเต้นไปกับความสามารถของรุ่นพี่จุนกิ โดยเฉพาะสาวๆ

                “โห สวยจังเลยเนอะ ถ้าพวกเราทำได้บ้างก็ดีสิ” จาวิกะพูดพลางหันไปหาจีอุน แล้วเธอก็ต้องแปลกใจเมื่อพบเพื่อนสาวกำลังนั่งหน้าแดงมองสิ่งที่อยู่ในมือ “เอ๋ จีอุน ทำไมของเธอถึงเป็นดอกกุหลาบแดงของจริงล่ะ”

     

                เสียงกริ่งดังไปทั่วอาคารเรียน บ่งบอกว่าหมดเวลาของคาบเรียนนี้แล้ว อาจารย์อาโอกิปล่อยนักเรียนออกจากห้อง บางคนก็อยู่คุยกับอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องอักษรรูน จาวิกะกับจีอุนก็เข้าไปร่วมวงด้วย ขณะที่พาเอมิค่อยๆเดินออกจากห้องมายืนรอกับเกรซ ส่วนพีโกะน่ะเหรอ..

                “นี่ นาย!! รอก่อนสิ!” หญิงสาวผมหางม้าสีดำสนิทตะโกนเรียกชายตรงหน้าที่รีบออกมาจากห้องเรียนเป็นคนแรกๆ เขาหยุดเดินแล้วค่อยๆหันมามอง

                “มีธุระอะไร” เร็นถาม

                “ถามมาได้! ก็นี่ไง เอกสารที่รุ่นพี่ฝากให้ฉันเอามาให้นาย รายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการที่เหลือน่ะ มีเลขานุการ กับคณะกรรมการพิเศษอีก 2 คน เอาไปอ่าน เลือก แล้วก็เซ็นด้วย เอ้อแล้วก็ พรุ่งนี้เย็นมีประชุมคณะกรรมการทั้ง 4 ชั้นปี อย่าลืมมาด้วยล่ะ” พีโกะพูดรวดเดียวอย่างเร่งรีบพร้อมยื่นเอกสารปึกหนึ่งให้เขา

                “นั่นน่ะเหรอ เอกสารที่เธอตามเก็บซะให้วุ่นตอนคาบเรียนเมื่อกี้” เร็นถามอย่างนึกขำ

                “น.. หนวกหูน่า!! เอาไปเดี๋ยวนี้เลย” ร่างเล็กยังคงยัดเยียดเอกสารให้อีกฝ่ายที่ไม่มีทีท่าว่าจะรับ

                “งั้นเธอก็ช่วยจัดการต่อด้วยก็แล้วกัน”

                “ว่าไงนะ!?

                “รองประธานก็มีหน้าที่ทำตามคำสั่งประธานอยู่แล้วไม่ใช่รึไง ฉันขอสั่งให้เธอรับผิดชอบเอกสารนั่น จะเลือกใครก็เรื่องของเธอ ส่วนเรื่องประชุม ฉันจะพยายามไปให้ก็แล้วกัน” ชายหนุ่มผมดำยิ้มอย่างผู้ชนะก่อนจะใช้พลังเวทเป็นแสงวาบจนทำให้อีกฝ่ายมองไม่เห็นไปชั่วครู่ เมื่อพีโกะลืมตาขึ้นอีกที เขาก็หายไปเสียแล้ว

                “ว้อยยยยยยย!! อยากจะบ้า!!” เธอร้องอย่างเหลืออด จนเพื่อนๆที่เหลือต้องเร่งฝีเท้าเข้ามาหา

                “เกิดอะไรขึ้น อ้าวนี่เธอยังไม่ได้ให้เอกสารเค้าไปอีกเหรอ” จาวิถาม

                “ภารกิจล้มเหลวสินะ โถโถ หมอนั่นนี่ใจร้ายชะมัด” พาเอมิพูดพลางตบบ่าเพื่อน

                “เอาน่าๆ ใจเย็น กลับไปนั่งคิดนั่งพักกันที่ห้องดีกว่า” เกรซบอก แล้วทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปยังห้องพักของตัวเอง

    การเรียนวันแรกเหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี..

    *************************************************************************************

    By Peko // ไม่ได้เขียนนาน มีอะไรแปลกๆไปก็ขออภัย 555 จริงๆตั้งใจจะเขียนมากกว่านี้แต่ขี้เกียจ พอละ
    ป.ล. จาวมาตั้งชื่อตอนของแกด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×