ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้น
ปัจจุบัน ณ ปราสาทเก่าแก่ใจกลางเกาะแห่งหนึ่ง
" ทุกอย่างเตรียมพร้อมเรียบร้องแล้วครับ " ชายผู้หนึ่งร้องบอกด้วยนํ้าเสียงร้อนรน
" ......เริ่มพิธีได้ " ชายฉกรรจ์ที่นั่งอยุ่บนเก้าอี้ด้านหลังพูดด้วยนํ้าเสียงแผ่วเบา
ทันใดนั้นแท่นตรงกลางห้องก๊ลอยตัวขึ้นตรวกลางแท่นมีร่างเด็กทารกอยู่ 5 คน ล้อมรอบไปด้วยเหล่าผู้คนสวมผ้าคลุมหัวไว้มิดชิดหลายสิบคนบทสวดได้ดังขึ้นราวกับเรียกกรีดร้องโหยหวน ท้องฟ้ายามราตรีมืดมิดน่ากลัวราวกับห้วงอเวจีทวีความน่ากลัวเป็นเท่าตัว เมฆสีกำลอยมารวมตัวกันเหนือปราสาท สายฝนโปรยปรายลงมา เสียงฟ้าร้องกระหึ่มอย่างบ้าคลั่ง ทันใดนั้นในห้องก็เกิดวงแหวนอาคมขนาดใหญ่ขึ้นมันเหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นขีดเขียนขึ้นมา ค่อยๆ ขยายตัวออกพุ่งไปจากแท่นตรงกลางห้องลากผ่านพื้น กลุ่มคนที่สวมผ้าคลุม บางคนเริ่มมีอาการลุกลี้ลุกลน หันหน้ามองกันไปมาแต่บทสวดก๊ยังดำเน้นต่อไป
รอยยิ้มค่อยๆปรากฏบนใบหน้าของชายที่นั่งอยู่แล้วหันไปพยักหน้าให้กับลูกน้อง
" จักการได้ " เมื่อสิ้นเสียงวงเวทย์อาณาเขตก๊ปิดทางเข้าออกทั้งหมด กลุ่มคนในชุดผ้าคลุมบางคนเลิกสวดแล้ววิ่งหาทางออกกันอย่างเอาเป็นเอาตาย บ้างก็นั้งร้องไห้ คุกเข่าเอามือประสานกันเพื่อวิงวอนขอชีวิต แต่คนที่อยู่ด้านนอกเวทย์อาณาเขตทำราวกับสิ่งที่อยู่เบื้อหน้าเป็นเรื่องปรกติ ไม่ได้ไห้ความสนใจแต่อย่างใด ทว่าสิ่งที่ดึงดูดสายตาทุกคู่ คือ กลุ่มควันสีดำที่ลอยวนเวียนอยุ่กลางห้อง และแล้วเสียงสวดก๊เงียบลง กลุ่มควันค่อยๆลอยผ่านมาทางกลุ่มคนสวมผ้าคลุม ร่างของคนที่ถูกกลุ่มควันปกคลุมค่อยๆ ล้มลง...จนในที่สุดสิ่งมีชีวิตกลุ่มเดียวที่เหลืออยู่ คือ เด็กทารกที่อยู่ตรงแท่นกลางห้อง กลุ่มควันได้แยกออกเป็น 5 สายแล้วซึมหายเข้าไปในร่างของเด็กทารกเหล่านั้น
"สำเร็จ เอ่อ หมายความว่าชั้นคิดว่ามันสำเร็จ" ชายที่ดูเหมือนหัวหน้าลุกขึ้นด้วยท่าทางลิงโลด
"เร็วๆ รีบตรวจดูสภาพของมันสิ" เขาออกคำสั่งอีกครั้ง
"คนที่ 1-2 ไม่พบสิ่งผิดปรกติ"
"คนที่ 3-4 ไม่พบสิ่งผิดปรกติเช่นกัน"
"อืม...นับว่าเป้นข่าวดี แล้วคนสุดท้ายล่ะ สภาพเป้นไงบ้าง"
ชายอีกคนก้มลงสำรวจ ทารกคนสุดท้าย แทบไม่เชื่อสายตา แล้วตอบกลับด้วยนํ้าเสียงหวาดๆ ว่า
"พบสิ่งผิดปรกติ ทารกเกิดการต่อต้าน"
"ว่าไงนะ อ่ะ...แต่ช่างเถอะยังไงเราก๊ได้มาถึง 4 คน" สีหน้าชายฉกรรจ์ยังคงยิ้มแย้มอยู่
"อ้อ! แล้วอย่าลืม..กำจัด เอ่อ... ขยะของเสียด้วยล่ะ " ว่าแล้วเขาก๊เดินผิวปากออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี
. . . . 17 ปีผ่านไป
เสียงดนตรีอันไพเราะ แผ่วพลิ้ว ล่องลอยในบรรยากาศที่สดชื่น เด็กหนุ่มผู้หนึ่งกำลังเดินอยุ่บนถนนในสถานที่ที่เขาเองก็ยังไม่รุ้ว่ามันคือที่ใด เขาใด้แต่เดินตามเสียงดนตรีไป ยิ่งเข้าไปไกล้ก๊ยิ่งใด้ยินเสียงเพลงที่เข้ากับจังหวะดนตรี เสียงร้องที่อ่อนหวานนุ่มนวลราวกับตรึงร่างไห้หยุดนิ่งอยู่กับที่ สิ่งที่ดึงดูดเคลือนไหวไปคือจิตวิญญานของเขา....และแล้วเขาก๊มาถึงห้องที่มีประตูสีขาวทุกอย่างกลับเงียบลงไม่มีเสียงดนตรีอีกต่อไป....และแล้วเขาก๊ตื่นขึ้นมา...
ซ่า........เสียงฝนตกลงมาทำไห้เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นมาในความืดเขาทำหน้ามึนงงราวกับว่า เขาจำเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ได้รอบตัวเขาเต็มไปด้วยกองขยะเศษซากอาวุธหลังจากที่เขายันตัวเองลุกขึ้นนั่งได้ เขาก๊ค่อยๆหวนนึกว่าทำไมตัวเองถึงมานอนอยู่ในโกดังร้าง ที่ไม่มีแม้กระทั้งหลังคาที่จะหลบฝน หรือเตียงนอน... เขาสายหน้าก่อนฝืนยิ้มออกมาท่ามกลางสายฝน พลางบอกกับตัวเองอย่างเศร้าสลดว่า
"ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งความจริง เจราส"
ผมมาลงไห้วันละตอนนะครับ...................
" ทุกอย่างเตรียมพร้อมเรียบร้องแล้วครับ " ชายผู้หนึ่งร้องบอกด้วยนํ้าเสียงร้อนรน
" ......เริ่มพิธีได้ " ชายฉกรรจ์ที่นั่งอยุ่บนเก้าอี้ด้านหลังพูดด้วยนํ้าเสียงแผ่วเบา
ทันใดนั้นแท่นตรงกลางห้องก๊ลอยตัวขึ้นตรวกลางแท่นมีร่างเด็กทารกอยู่ 5 คน ล้อมรอบไปด้วยเหล่าผู้คนสวมผ้าคลุมหัวไว้มิดชิดหลายสิบคนบทสวดได้ดังขึ้นราวกับเรียกกรีดร้องโหยหวน ท้องฟ้ายามราตรีมืดมิดน่ากลัวราวกับห้วงอเวจีทวีความน่ากลัวเป็นเท่าตัว เมฆสีกำลอยมารวมตัวกันเหนือปราสาท สายฝนโปรยปรายลงมา เสียงฟ้าร้องกระหึ่มอย่างบ้าคลั่ง ทันใดนั้นในห้องก็เกิดวงแหวนอาคมขนาดใหญ่ขึ้นมันเหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นขีดเขียนขึ้นมา ค่อยๆ ขยายตัวออกพุ่งไปจากแท่นตรงกลางห้องลากผ่านพื้น กลุ่มคนที่สวมผ้าคลุม บางคนเริ่มมีอาการลุกลี้ลุกลน หันหน้ามองกันไปมาแต่บทสวดก๊ยังดำเน้นต่อไป
รอยยิ้มค่อยๆปรากฏบนใบหน้าของชายที่นั่งอยู่แล้วหันไปพยักหน้าให้กับลูกน้อง
" จักการได้ " เมื่อสิ้นเสียงวงเวทย์อาณาเขตก๊ปิดทางเข้าออกทั้งหมด กลุ่มคนในชุดผ้าคลุมบางคนเลิกสวดแล้ววิ่งหาทางออกกันอย่างเอาเป็นเอาตาย บ้างก็นั้งร้องไห้ คุกเข่าเอามือประสานกันเพื่อวิงวอนขอชีวิต แต่คนที่อยู่ด้านนอกเวทย์อาณาเขตทำราวกับสิ่งที่อยู่เบื้อหน้าเป็นเรื่องปรกติ ไม่ได้ไห้ความสนใจแต่อย่างใด ทว่าสิ่งที่ดึงดูดสายตาทุกคู่ คือ กลุ่มควันสีดำที่ลอยวนเวียนอยุ่กลางห้อง และแล้วเสียงสวดก๊เงียบลง กลุ่มควันค่อยๆลอยผ่านมาทางกลุ่มคนสวมผ้าคลุม ร่างของคนที่ถูกกลุ่มควันปกคลุมค่อยๆ ล้มลง...จนในที่สุดสิ่งมีชีวิตกลุ่มเดียวที่เหลืออยู่ คือ เด็กทารกที่อยู่ตรงแท่นกลางห้อง กลุ่มควันได้แยกออกเป็น 5 สายแล้วซึมหายเข้าไปในร่างของเด็กทารกเหล่านั้น
"สำเร็จ เอ่อ หมายความว่าชั้นคิดว่ามันสำเร็จ" ชายที่ดูเหมือนหัวหน้าลุกขึ้นด้วยท่าทางลิงโลด
"เร็วๆ รีบตรวจดูสภาพของมันสิ" เขาออกคำสั่งอีกครั้ง
"คนที่ 1-2 ไม่พบสิ่งผิดปรกติ"
"คนที่ 3-4 ไม่พบสิ่งผิดปรกติเช่นกัน"
"อืม...นับว่าเป้นข่าวดี แล้วคนสุดท้ายล่ะ สภาพเป้นไงบ้าง"
ชายอีกคนก้มลงสำรวจ ทารกคนสุดท้าย แทบไม่เชื่อสายตา แล้วตอบกลับด้วยนํ้าเสียงหวาดๆ ว่า
"พบสิ่งผิดปรกติ ทารกเกิดการต่อต้าน"
"ว่าไงนะ อ่ะ...แต่ช่างเถอะยังไงเราก๊ได้มาถึง 4 คน" สีหน้าชายฉกรรจ์ยังคงยิ้มแย้มอยู่
"อ้อ! แล้วอย่าลืม..กำจัด เอ่อ... ขยะของเสียด้วยล่ะ " ว่าแล้วเขาก๊เดินผิวปากออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี
. . . . 17 ปีผ่านไป
เสียงดนตรีอันไพเราะ แผ่วพลิ้ว ล่องลอยในบรรยากาศที่สดชื่น เด็กหนุ่มผู้หนึ่งกำลังเดินอยุ่บนถนนในสถานที่ที่เขาเองก็ยังไม่รุ้ว่ามันคือที่ใด เขาใด้แต่เดินตามเสียงดนตรีไป ยิ่งเข้าไปไกล้ก๊ยิ่งใด้ยินเสียงเพลงที่เข้ากับจังหวะดนตรี เสียงร้องที่อ่อนหวานนุ่มนวลราวกับตรึงร่างไห้หยุดนิ่งอยู่กับที่ สิ่งที่ดึงดูดเคลือนไหวไปคือจิตวิญญานของเขา....และแล้วเขาก๊มาถึงห้องที่มีประตูสีขาวทุกอย่างกลับเงียบลงไม่มีเสียงดนตรีอีกต่อไป....และแล้วเขาก๊ตื่นขึ้นมา...
ซ่า........เสียงฝนตกลงมาทำไห้เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นมาในความืดเขาทำหน้ามึนงงราวกับว่า เขาจำเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ได้รอบตัวเขาเต็มไปด้วยกองขยะเศษซากอาวุธหลังจากที่เขายันตัวเองลุกขึ้นนั่งได้ เขาก๊ค่อยๆหวนนึกว่าทำไมตัวเองถึงมานอนอยู่ในโกดังร้าง ที่ไม่มีแม้กระทั้งหลังคาที่จะหลบฝน หรือเตียงนอน... เขาสายหน้าก่อนฝืนยิ้มออกมาท่ามกลางสายฝน พลางบอกกับตัวเองอย่างเศร้าสลดว่า
"ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งความจริง เจราส"
ผมมาลงไห้วันละตอนนะครับ...................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น