ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love mission ภารกิจรักพิชิตหัวใจเธอ

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 : ยินดีที่ได้รู้จัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 612
      2
      13 ธ.ค. 53




    ตอนที่ 3
    ยินดีที่ได้รู้จัก
     
                01 : 03 A.M.
     
                “เอา!นี่เอาของเธอ”
                พี่วอดก้ายื่นซองจดหมายสีขาวให้กับฉัน ไม่ใช่ซองจดหมายไล่ออกนะคะ แต่มันคือเงินเดือนของฉันต่างหากล่ะ -_-
                “ขอบคุณค่ะ” ฉันยกมือไหว้ขอบคุณพี่วอดก้า แล้วรับซองสีขาวนั่นมา แหม!ปั้นหน้าดุแบบนี้เต็มใจให้หรือเปล่าเนี่ย -_-; แต่ถึงจะไม่เต็มใจให้ยังไงฉันเอาอยู่ดีนั่นแหล่ะ เพราะถ้าพรุ่งนี้ยังไม่มีเงินไปจ่ายค่าเช่าห้องยัยเจ๊ปากแดงนั่นล่ะก็ มีหวังได้ระเห็จร่อนเร่ไปนอนข้างถนนแน่ เฮ้อ~คิดแล้วเศร้า T^T
                “แล้วไอ้ยินใช้เธอไปเสริฟข้างบนใช่มั้ย”
                “เอ่อ...ค่ะ”
                “แล้วขึ้นไปทำไม ก็รู้อยู่ไม่ใช่เหรอว่าพ่อฉันสั่งห้าม”
                “กะ...ก็พี่ยินสั่งนี่คะ”
                “วันหลังใครสั่งก็ห้ามขึ้นไป ยกเว้นพ่อคนเดียวเข้าใจมั้ย”
                “(- -)(_ _)(- -)(_ _)” 
                “ไอ้บ้ายินก็เหมือนกัน มันคิดอะไรของวันวะถึงให้เธอไปเสริฟข้างบน ทั้งๆที่มันเองก็...” พี่วอดก้าชะงักคำพูดไป เอ่อ...ทั้งๆที่พี่ยินทำไมเหรอคะ -_- “เอ๊า!มัวแต่ยืนฟังอยู่ได้ ได้เงินแล้วก็รีบๆกลับไปสิ!” พี่วอดก้าทำมือไล่ฉัน แล้วหันไปเช็คออเดอร์ต่อ ง่า...ทำไมต้องดุฉันด้วยล่ะ T^T
                “งั้นขอตัวกลับก่อนนะคะ” ฉันบอกกับพี่วอดก้าแล้วเดินกลับเข้าไปหลังร้าน
                ลุงเคนหรือคุณพ่อของพี่วอดก้ากับพี่ยิน ท่านมักจะเป็นห่วงฉันเสมอ ไม่ยอมให้ฉันขึ้นไปเสริฟข้างบนเพราะเป็นสถานที่ที่เป็นส่วนตัว และยังมีผู้ชายมากหน้าหลายตาที่ล้วนแล้วแต่ไว้ใจไม่ได้ แถมพอเลิกงานก็ให้ฉันกลับก่อนพนักงานคนอื่นๆอีกด้วย เพราะเหตุนี้เลยทำให้พี่ยินไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไร และเหตุผลที่สำคัญที่สุดคือ...
                “เร็วๆหน่อยได้มั้ย ฉันรีบนะ!” 
                ...การไปส่งฉันทุกๆคืนตามคำสั่งของลุงเคน...คุณพ่อของเขา -_-
                “ปะ...ไปเดี๋ยวนี้แหล่ะค่ะ”
                ฉันเร่งฝีเท้ารีบเดินตามพี่ยินที่เดินนำออกไปทางประตูหลังก่อนแล้ว เอ๊ะ!แต่อิสยูบอกว่าให้ฉันรอเขาอยู่ข้างล่างนี่หน่า แต่หลังจากนั้นก็ไม่เห็นเขาจะลงตามมาเลยนี่ แล้วเรื่องที่เขาบอกว่าฉันเป็นแฟนเขาน่ะมันหมายความว่ายังไงกัน ช่างเถอะ!เขาคงพูดเพื่อช่วยฉันเท่านั้นแหล่ะ คงไม่มีอะไรมากมายเป็นพิเศษหรอก แต่...ทำไมเขาจะต้องอ้างแบบนั้นด้วยล่ะ อ๊ะ!ผู้ชายตัวสูงๆผมสีแพตตินั่มโดดเด่นที่กำลังยืนโบกไม้โบกมือให้รถที่กำลังขับออกคันนั้นมันอิสยูนี่หน่า
                “นี่!ไม่ได้ยินรึไงว่าฉันรีบ”
                เสียงของพี่ยินทำให้ฉันสะดุ้งโหยง ก่อนจะหันไปพบว่าเขากำลังยืนปั้นหน้ายักษ์อยู่ข้างๆรถของตัวเองแล้ว และพอฉันหันกลับไปมองทางอิสยู ก็พบว่าเขากำลังเดินมาทางฉัน
                “จะกลับแล้วเหรอ” คำถามไม่กี่คำถูกเปล่งออกมาเมื่อเขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
                “อะ...อืม”
                “นี่ใคร” พี่ยินเดินเข้ามาหยุดอยู่ใกล้ๆแล้วถาม พลันสายตาก็จับจ้องไปที่มิสยู
                “อะ...เอ่อ...” ฉันจะตอบว่าอิสยูเป็นใครดีล่ะเนี่ย แฟนอย่างที่เขาบอกเพื่อนๆเมื่อตอนนั้นน่ะเหรอ...อ๊ายยยย~~!! ไม่เอาอะ เขิน >///<
                “ถ้าแฟนก็พูดมาเร็วๆ ฉันจะได้รู้ว่าคืนนี้ไม่ต้องไปส่งเธอ ฉันบอกแล้วไงว่ารีบ!”
                ง่า...ทำไมพี่ยินขึ้นเสียงแบบนั้นอะ ฉันกลัวเป็นนะ ถามด้วยน้ำเสียงแบบนี้ใครจะกล้าตอบเนี่ย -_-;
                “ผมเป็นแฟนของเค้าน่ะครับ เชิญคุณตามสบายเถอะ” อิสยูหันไปบอกพี่ยินด้วยใบหน้ายิ้มๆ แล้วทำไมนายจะต้องโกหกออกไปแบบนั้น แล้วทีนี้ใครจะไปส่งฉันล่ะเนี่ย ตอนกลางคืนน่ะมันอันตรายสำหรับผู้หญิงนะ โดยเฉพาะผู้หญิงสวยๆอย่างฉัน T^T 
                “เออ!แค่นั้นล่ะ แล้วมารับให้ได้ทุกวันล่ะ ฉันขี้เกียจไปส่งยัยเด็กพิเศษนี่” พี่ยินพูด แล้วเดินกลับเข้าไปข้างในทางประตูหลังทันที
                ตุบ!
                แล้วทำไมต้องเตะถังขยะด้วยอะ -_-;
                “ต้องขอโทษแทนพี่ยินด้วยนะ คือว่าเขา...” ฉันบอกกับอิสยู แต่คำพูดก็ต้องชะงักไปเมื่อเขาพูดตัดบทขึ้นมาซะดื้อๆ
                “กลับกันได้แล้วล่ะ” อิสยูพูดพร้อมกับหมุนตัวกลับแล้วเดินไปที่รถคันหนึ่งที่จอดอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ส่วนฉันน่ะเหรอคะ ก็ยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่นี่ไง หมายความว่ายังไงที่ว่ากลับกันได้แล้วน่ะ “ฉันเองก็รีบเหมือนกันนะ” อิสยูหันกลับมาบอกด้วยสีหน้านิ่งๆ
                “แต่เรายังไม่รู้จักกันเลยนะ” 
                “...” อิสยูเลิกคิ้วขึ้น รอยยิ้มนิดๆผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อๆนั่น ก่อนที่เขาจะเดินกลับเข้ามาหาฉันอีกครั้ง “เธอชื่ออะไร”
                “เมมโมรี่”
                “เมมโมรี่ ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่ออิสยู ^^”
                “O_O”
                “อ้าวล่ะ!ทีนี้เราก็รู้จักกันแล้ว”
                ง่ะ!ทำไมคิดอะไรง่ายจังฟะ -_-;
                “แค่ชื่อเนี่ยนะ”
                “แค่ชื่อที่ไหน เมื่อคืนเราก็แดนซ์กันจนฟลอร์แทบระเบิด อีกอย่างเธอลืมจูบเมื่อคืนไปแล้วเหรอ”
                “ย่ะ...อย่าพูดถึงเรื่องนั้นนะ” อายเป็นนะเฟ้ย >///<
                “ฉันก็คิดอยู่แล้วว่าเธอคงไม่ลืมผู้ชายที่ได้เฟริสคิสของเธอไปหรอก”
                “นายรู้ได้ไง!”
                “ฉันก็ไม่ได้อ่อนประสบการณ์นักหรอกนะ”
                พูดแบบนี้แล้วฉันจะยังไว้ใจที่จะไปกับเขาได้อีกเหรอเนี่ย >_<
                “แค่นี้ถือว่าเรารู้จักกันได้ยังอะ”
                “ที่ฉันหมายถึงคือฉันยังไม่รู้จักนายพอต่างหาก”
                “เธอเองก็น่าจะเคยเห็นฉันที่โรงเรียนไม่ใช่เหรอ”
                “แค่เห็นเดินผ่านไปผ่านมา ไม่ได้ทำให้รู้จักกันสักหน่อย”
                “ช่างเถอะ ฉันแค่จะพาไปส่งบ้านแค่นั้นล่ะ ผู้หญิงกลับดึกๆคนเดียวมันอันตรายนะ”
                “แต่...”
                ถึงไม่มีเขา พี่ยินก็ไปส่งฉันอยู่ดีนั่นแหล่ะ 
                “คิดซะว่าตอบแทนที่ฉันช่วยเธอไว้ก็ได้”
                ทวงบุญคุณอีกนะ -*-
                “เฮ้อ~เอาสิ”
                “ต้องอย่างงี้สิเด็กดี ^^” อิสยูพูดแล้วลูบหัวฉัน ราวกับว่าฉันเป็นเด็กเล็กๆ ทั้งๆที่ความจริงนายนี่อ่อนกว่าฉันตั้งหนึ่งปีเชียวนะ ชิส์!เด็กบ้า เล่นหัวคนที่มีอายุมากกว่าได้ไง อีกอย่างถ้าไม่เห็นว่ามืดค่ำมันอันตราย ฉันก็ไม่มีทางยอมให้นายไปส่งหรอกย่ะ
     
     
              Sunday
              09 : 32 A.M.
     
                “แล้วอย่าลืมเอาที่เหลือมาใช้ล่ะ”
                “ค่า~... -_-”
                “เพราะฉัน find หรอกนะ”
                ยังไม่เลิกว่าตัวเองเป็นควายอีก ยัยเจ๊ปากแดงขี้เหนียวแถมยังภาอังกฤษไม่แข็งแรงอีก -_-;
                “ไปกันเถอะ มาริโอ้” ยัยเจ๊ปากแดงหันไปบอกไอ้ยักษ์ปักหลั่นซึ่งวันนี้มาคนเดียว ว่าแต่เมื่อกี้ยัยเจ๊เรียกการ์ดตัวเองว่าอะไรนะ มาริโอ้งั้นเหรอ โห!ตัวใหญ่ยักษ์ ผิวคล้ำไหม้เกรียม จมูกก็ไม่มีดั่ง แถมหัวเถิกแบบนี้อะนะ อะโถ~!พ่อมาริโอ้ เมาเร่อ เอ๊ย!
                “เฮ้อ~ไปสักที”
                ฉันปิดประตูห้องแล้วเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอันหนานุ่ม ในที่สุดภาระหนี้สินก็ลดลง ถึงแม้ว่าจะยังจ่ายไม่ครบก็เถอะ แต่อย่างน้อยๆก็ยังเหลือหนี้ค้างอยู่แค่สองพันเท่านั้น มันก็ยังดีกว่าเจ็ดพันห้าร้อยห้าสิบห้าบาทกับอีกห้าสิบสตางค์ใช่มั้ยล่ะ เฮ้อ~เดือนนี้ต้องประหยัดสุดฤทธิ์เลยนะเนี่ย T^T ช่างเถอะ!ยังไม่อยากคิดเรื่องเงินให้รกสมอง ตอนนี้ขอนอนหลับให้เต็มอิ่มหน่อยดีกว่า
     
              นอนสลบอยู่ตรงนี้จ้า รีบๆรับสายน้า ไม่งั้นเค้าจะวางล่ะน้า~~
     
                ใครโทรมาตอนนี้ฟะ! เอ้ย!แล้วมือถือฉันหายไปไหนเนี่ย 
               
              นอนสลบอยู่ตรงนี้จ้า รีบๆรับสายน้า ไม่งั้นเค้าจะวางล่ะน้า~~
     
                ฉันลุกจากเตียงแล้วเดินไปรื้อกองเสื้อผ้าในตะกร้าออกมา เสียงมันดังแถวๆนี้นี่หน่า แล้วมันอยู่ไหนกันฟะ 
     
                นอนสลบอยู่ตรงนี้จ้า รีบๆรับสายน้า ไม่งั้นเค้าจะวางล่ะน้า~~
     
                เออๆ เอาแต่บอกอยู่ได้ว่านอนสลบอยู่ตรงนี้ นอนสลบบ้าอะไรฟะส่งเสียงร้องได้เนี่ย แล้วไอ้ตรงนี้อะมันตรงไหนฟะ -_-^ ฉันเดินไปหยิบนิตยสารทุกเล่มที่วางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะออกมา และในที่สุดฉันก็เจอมือถือสักที แหม!มานอนสลบอยู่ตรงนี้เองนะ
     
    นอนสลบอยู่ตรงนี้จ้า...
     
    และทันทีที่ฉันหยิบมือถือเครื่องสีขาวบางเฉียบนี้ขึ้นมา ไอ้คนที่โทรมาก็วางสายไปซะแล้ว เออ!คราวนี้สลบจริงๆด้วยแหะ -_-; ว่าแต่นี่มันเบอร์แปลกๆนี่หน่า เฮ้อ~เสียเวลาหาชะมัด กลับไปนอนต่อดีกว่า 
     
    นอนสลบอยู่ตรงนี้จ้า รีบๆรับสายน้า ไม่งั้นเค้าจะวางล่ะน้า~~
     
    เฮ้ย!ดังอีกแล้วอ่า -_-^ ดีนะที่คราวนี้วางมือถือไว้ใกล้ๆ เป็นเบอร์แปลกๆนั่นอีกแล้ว...ใครกันนะ
    “ฮัลโล” ฉันกรอกเสียงงัวเงียลงไป ให้ไอ้คนที่โทรมาได้รู้ซะบ้างว่ารบกวนเวลานอนของฉัน
    ((…))
    เงียบ... -*-
    “ใครคะ”
    ((...))
    อะไรกันโทรมารบกวนฉันแล้วยังไม่พูดอะไรสักคำอีก แบบนี้หงุดหงิดนะเฟ้ย!
    ((...กล้าๆ หน่อยดิวะ...))
    เสียงของผู้ชายดังขึ้นเบาๆจากปลายสาย   เอ...เสียงแบบนี้มันคุ้นๆหูอยู่นะ
    ((...ยัยนี่ฉีดยาเรียบร้อย ถึงกัดก็ไม่เป็นโรคไข้หวัดสุนัขหรอก...))
    โรคบ้าอะไรฟะ!ถูกกัดแล้วเป็นไข้หวัดสุนัขเนี่ย
    “งั้นแค่นี้นะคะ”
    ((เฮ้ย!เดี๋ยวเด้!!))
    -_-”
    ((เอ่อ...ยังไม่ตื่นเหรอ))
    “ยังค่ะ” 
    ไอ้หมอนี่มันใครกันอะ
    ((งั้นเหรอ แล้วจะตื่นเมื่อไรอะ))
    “ไม่รู้สิ ทำไมอะ”
    ((คือ...ว่า...จะชวนไปเที่ยวน่ะ...ไปมั้ย))
    “พ่อแม่เคยสอนไว้ว่าไม่ควรไปกับคนแปลกหน้าอะ”
    ((บ้า!คนแปลกหน้าอะไร คนกันเองทั้งนั้น))
    “คนกันเองที่ไหน”
    ((ก็คนที่ได้เฟริสคิสของเธอไปน่ะสิ ยัยเบ๊อะ))
    “อ๋อ นึกว่าใคร...ห๊ะ!ว่าไงนะ”
    อะ...ไอ้หมอนี่คืออิสยูงั้นเหรอ!
    ((คนที่ได้อันนั้นกับเธออะ))
    “อย่าย่อดิ ไอ้เด็กบ้า” 
    ย่อซะความหมายเปลี่ยนเลยนะ    -_-;
    ((คนที่ได้เฟริสคิสของเธอไปอะ ไง!พอใจยัง))
    “เออ!” 
    ก็ยังดีกว่าพูดย่อๆแบบเมื่อกี้ล่ะฟะ
    ((แล้วว่าไง ไปเที่ยวกันมั้ย))
    “กับนายอะนะ”
    ((อื้ม))
    “สองคน”
    ((อื้ม))
    “ไม่อะ”
    ((อื้ม...อ้าว! เฮ้ย!ทำไมอะ))
    “นายก็รู้นี่ว่าฉันเลิกงานดึกแค่ไหน ถึงแม้ว่าวันนี้จะหยุด ฉันก็อยากจะนอนทั้งวันนะ” แต่ความจริงก็คือฉันไม่อยากไปกับผู้ชายที่ยังไม่รู้จักกันดีสองต่อสองต่างหาก ถึงแม้ว่านายนี่จะเด็กกว่าก็เถอะ แต่ยังไงผู้ชายก็ไว้ใจไม่ได้อยู่ดีใช่มั้ยล่ะ 
    ((ถ้างั้นเธอนอนเถอะ ไม่พักผ่อนบ้างเดี๋ยวจะไม่สบาย))
    “อะ...อื้ม”
    หลังจากที่วางสายไปฉันจึงวางมือถือไว้ข้างๆ ก่อนจะพลิกตัวนอนหันไปอีกทางหนึ่ง หวังว่าคราวนี้คงได้หลับสบายจริงๆสักทีนะ ว่าแต่คำพูดที่เขาพูดเมื่อกี้นี้...
     
    ถ้างั้นเธอนอนเถอะ ไม่พักผ่อนบ้างเดี๋ยวจะไม่สบาย

             
    เขาเป็นห่วงฉันหรือฉันคิดไปเองฝ่ายเดียวกันนะ....


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×