ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : กักบริเวณเหรอ? ก็หนีน่ะสิถามได้!!!
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
- หกโมงเย็น -
“นี่ๆพี่ครีอุส”
“มีอะไรเหรออันเซียร์”ข้าถามพร้อมรอยยิ้มของเทพอัศวินครีอุสอย่างสมบูรณ์แบบ
“พี่พอจะแสดงเวทย์มนต์อะไรให้ผมดูได้รึเปล่า”
ชิ้ง~~~
เท่านั้นล่ะ บรรยากาศในห้องก็เงียบลงทันตา เฮฟเตตัสที่กำลังสนอกสนใจรีโมททีวีก็ปล่อยมันตกพื้น ไอซอทแม้จะยังดูทีวีอยู่ แต่ก็เหลือบมามองข้า เคเรสทำกระปุกเครื่องเทศร่วงหลุดมือ ขนาดเทอร์มิสยังเกือบสำลักน้ำอีกต่างหาก
“อืม ข้าเป็นเทพอัศวินน่ะ ไม่ค่อยเก่งเวทย์ซักเท่าไหร่”ข้ายิ้มแหย
“ผมอยากดูน่ะครับ แสดงให้ดูซักหน่อยไม่ได้เหรอครับ”อันเซียร์ทำหน้าหมองลงเล็กน้อย แต่แค่นั้นแหละข้าก็ได้รับสายตาอาฆาตจากคนฝั่งเซ็ตติ้งซันทุกคนแทบจะทันที
จริงๆสายตาของพวกเขาไม่ทำให้ข้ากลัวซักเท่าไหร่หรอก แต่สายตาของราชาซอนเน่นี่สินำข้าหนาวของจริง สายตาแบบเดียวกับเทอร์มิสไม่มีผิด! ข้ายังไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวนะ!!!
“เจ้าก็แสดงพลังแห่งเทพให้ดูซักเล็กน้อยก็ได้นี่”
ขอบใจเจ้ามากเฮฟเตตัส! ข้าเกือบจะลืมไปแล้วนะนี่!!!
“เอาเช่นนั้นก็ได้เฮฟเตตัสที่รัก”ข้ายิ้มกว้าง ก่อนจะรวบรวมพลังแห่งเทพแค่ “เล็กน้อย” มารวมเป็นกลุ่มก้อน เกิดเป็นลูกพลังสีขาวสว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงไฟบนเพดานของพวกเขาเสียอีก
“โห สวยจัง”อันเซียร์ทำหน้าอยากรู้อยากเห็น
“จะลองสัมผัสดูก่อนก็ได้”เห็นรอยยิ้มแบบนั้นข้าก็ใจอ่อน สุดท้ายก็ต้องยอมยกลูกพลังนั้นให้เขาไป ซึ่งอันเซียร์ก็พลิกซ้ายพลิกขวา มองมันอย่างสนอกสนใจมาก
“นั่นอะไรเหรอคะคุณหนู?”เมโลดี้ถาม
“ครีอุสทำให้น่ะ สวยใช่ม้า”อันเซียร์ชูมันให้เมโลดี้ดู ซึ่งเธอก็ดูจะสนอกสนใจมันมากเช่นกัน
“ใส่ถ่านตรงไหนเหรอคะเนี่ย สว่างจ้าเชียว หรือจะเป็นแบบชาร์จแบต?”
“ถ่าน? แบต? ข้าไม่รู้จักของแบบนั้นหรอกครับ”ข้ายิ้มอ่อนๆ “นั่นเป็นเวทย์มนต์อย่างง่ายๆที่เทพอัศวินทุกองค์ย่อมกระทำได้ แค่การรวบรวมไอพลังแห่งเทพของพวกเราเป็นกลุ่มก้อนเท่านั้นเอง”
“เจ้าก็ใจอ่อนเกินไป แค่ถูกขอร้องก็ต้องสร้างให้เสียแล้ว”ไอซอทเริ่มทำหน้าที่ของเขา เอาล่ะ ข้ารู้ดีว่ายังไงก็ไม่เกินสามประโยคเช่นเดิมอยู่แล้ว
“ไอซอทที่รัก ด้วยฐานะของผู้แทนวจนะของเทพแห่งแสงสว่างเช่นข้า การโอบอ้อมอารีและเมตตาแก่ทุกสรรพชีวิตย่อมเป็นเรื่องที่เทพอัศวินครีอุสควรกระทำ แล้วข้าผู้ซึ่งเป็นข้ารับใช่แห่งเทพจะไม่กระทำตามกฏแห่งท่านได้อย่างไร”
โอ้ ไม่ได้พูดเสียนาน พอพูดขึ้นมาก็รู้สึกคิดถึงเลยนะเนี่ย ชีวิตเทพอัศวินที่ต้องพูดจาอ้อมโลกไปซักหลายสิบตลบของข้า
“ครีอุส พอเถอะ ข้าจะเป็นลม”เฮฟเตตัสคราง
“ไม่ได้ฟังซะนาน รู้สึกคิดถึงขึ้นมาเลยนะเนี่ย”เคเรสยิ้มนิดๆ
“เจ้าใจอ่อนเกินไปแล้วเทพอัศวินครีอุส มีแต่ความเฉียบขาดเท่านั้นที่จะทำให้เจ้าอยู่รอดในโลกแห่งนี้ได้ ซักวันเจ้าจะต้องสิ้นชีพด้วยความใจดีไร้สาระของเจ้าเป็นแน่แท้”ไอซอทหันกลับไปดูทีวีต่ออีกครั้ง
เอาล่ะ จบกิจวัตรประจำวันไปอย่างหนึ่งแล้ว เหลือแค่การกินอาหารเย็นกับนอนหลับแต่หัววัน
แต่วันนี้อาจจะต้องขอยกเว้นเป็นกรณีพิเศษสินะ อืม ใช่แล้ว
“เคเรสที่รัก ไม่ทราบว่าวันนี้เทพอัศวินเนเฟลได้ไปอาบไล้แสงสว่างของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง ณ ที่ใดกันหรือ?”
เคเรสเงียบไปพักหนึ่ง ข้าคิดว่าเขาคงกำลังตีความหมายคำพูดของข้าอยู่ ซึ่งระหว่างนั้นข้าก็ค่อยๆก้าวถอยหลังอย่างช้าๆไม่ให้เป็นที่สังเกต เพื่อไปให้ใกล้กับบันไดที่สุด
“เจ้าจะถามว่าเนเฟลไปไหนงั้นเหรอครีอุส”เคเรสถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ ซึ่งข้าก็พยักหน้ารับเพราะข้าคงไม่พูดอะไรที่ทำให้เขามึนไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่งั้นเขาได้เอาเส้นผมของข้าไปทำตุ๊กตาอีกแน่ๆ
“เนเฟลไปห้องสมุดกับเทมเพส ป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย”เคเรสตอบข้า
“ถ้าเช่นนั้น ข้าขอฝากการทักทายถึงเขาด้วยเมื่อเขากลับมา”ข้าพูดแค่นั้นก็รีบผลุบหายเข้าไปในห้องของข้าอีกครั้ง ปล่อยให้พวกเขางงกับคำพูดของข้าไปอีกซักระยะ
แต่ก็เป็นไปตามคาด ที่มีแค่แลนซ์ เทอร์มิส เจ้าพยาธิในกระเพาะของข้าเท่านั้นที่แปลความหมายออกแทบจะทันที เขาถึงกับจะร้องลั่นเชียวล่ะ
“ครีอุส! เจ้านั่นจะแอบหลบออกไปข้างนอก!!!!!”
ข้าได้ยินเสียงคนหลายคนวิ่งขึ้นบันได้มา ซึ่งมันสายไปแล้วล่ะเพื่อนๆเหล่าเทพอัศวินที่รัก เพราะข้ากำลังปีนออกทางหน้าต่างเรียบร้อยแล้ว และเวทย์สลักกลอนของข้าก็ยังแน่นหนาดีจนต้องให้เทอร์มิสพังประตูเท่านั้นแหละถึงจะเข้าไปได้
* พากย์ by เทอร์มิส *
โครม!!!
ในที่สุดข้าก็พังประตูสำเร็จ...เกรเซียส! เจ้าไม่ได้แค่ลงกลอนประตูธรรมดา แต่เล่นใช้เวทย์สลักกลอนใช่มั๊ย! ดีแค่ไหนที่ข้าพอจะรู้อยู่ว่าเจ้าต้องใช้แน่ๆเลยอาสาเป็นคนพังประตู ถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจผิดสังเกตไปนานแล้ว!!!
“เดี๋ยวก่อนครับ! เล่นพังประตูกันแบบนี้เลย...”พ่อบ้านหน้าอ่อนพยายามจะห้ามข้า...อืม...ช้าไปแล้วล่ะ
“พี่ครีอุสหายไปไหนแล้วล่ะ!!!”น้องชายของราชาซอนเน่กระพริบตาปริบๆ เจ้าคงได้เห็นเวทย์มนต์ของแท้สมใจแล้วล่ะสิ ฮึ!
“ครีอุสหนีออกไปแล้ว โอย~”เคเรสกุมขมับ ข้าเองก็เห็นใจเขานะ เขารู้แน่ๆว่าเกรเซียสจะไปล้างแค้นแต่ก็พูดไม่ได้เพราะเป็นคำสั่ง...
ทำไมพวกกลุ่มเฮมิซแต่ละคนถึงได้น่าสงสารขนาดนี้นะ...มีคนอย่างเกรเซียสเป็นหัวหน้า...เฮ้อ
“เขาต้องไปล้างแค้นพวกนั้นแน่”
“ล้างแค้น???”ทุกคนหันขวับไปทางต้นเสียง แต่ข้ารู้ดีว่าใคร
“เจ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ฮาเดส”อาเทมิสยักคิ้ว เป็นข้าก็คงสงสัยเหมือนกัน โผล่มาเงียบๆแบบเดียวกับเนเฟลไม่มีผิด
“เรื่องนั้นช่างมันก่อน ว่าแต่ล้างแค้นอะไรกัน”เฮฟเตตัสรีบถาม สมกับที่เป็นคนใจร้อนอย่างเฮฟเตตัส...ลอเรน เอ๊ย ฮาเดสกลับมาเงียบๆแบบน่าสงสัยขนาดนี้ยังไม่สนใจ
“เมื่อตอนเที่ยง...เขาถูกคนร้ายกลุ่มเดิมจับเป็นตัวประกันล่อใครบางคนออกมา”ฮาเดสยังพูดนิ่งๆตามแบบของเขา จริงสินะ เกรเซียสบอกว่าเขาเป็นคนแน่วแน่ตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่แล้ว ข้าล่ะไม่แปลกใจซักนิด
“คุณรู้?”โจซัวเผลอหลุดออกมา
“นายก็รู้เหรอ!!!”เฮฟเตตัสหันไปแยกเขี้ยวใส่โจซัว ที่ตอนนี้รีบเอามืออุดปากตัวเอง
“จะโทษก็ไปโทษครีอุสโน่น เขาเป็นคนห้ามไม่ให้พวกเราพูดย่ะ”เมโลดี้เชิดหน้าขึ้นแบบเดียวกับอาเทมิสเป๊ะ
“นี่ใช่มั๊ย...ที่นายอยากจะพูดเมื่อตอนเที่ยง”ไทรอนหันไปถามเคเรส
“...ฮื่อ...”เคเรสพยักหน้านิดๆ ข้าก็เห็นใจเขานะ จริงๆเขาก็คงไม่อยากขัดคำสั่งของเกรเซียสอยู่แล้ว ยิ่งหลังจากที่เขาถูกเกรเซียสช่วยให้ฟื้นคืนชีพมาได้นี่ยิ่งรู้สึกจะเป็นห่วงเกรเซียสเข้าไปอีก ดีที่รายนั้นหาทางกลบเกลื่อนเรื่องตาบอดได้ก็เลยรอดไป แต่ข้าก็สงสัยเหมือนกันว่าจะรอดได้ถึงไหน
“ถ้างั้นล่ะก็...พวกนั้นไม่ได้ตายดีแน่ๆ”เฮฟเตตัสทำหน้าตาสงสารพวกคนร้ายสุดหัวใจ ซึ่งไม่มีใครในกลุ่มเทพอัศวินไม่ทำหน้าแบบนั้นหรอก ขนาดข้ายังอดสงสารไม่ได้เลย
ข้ากล้าพูดเลยนะว่าพวกคนร้ายที่มาถึงมือข้า...ยังดีกว่าไปถึงมือเกรเซียสเยอะ!!!
ข้าเคยได้รับคนร้ายคนหนึ่งมาจากเกรเซียส ซึ่งนั่นคือหลังจากที่เขาจัดการคนร้ายนั่นจนพอใจแล้ว...และข้าถึงได้รู้ว่าการที่พวกนักโทษมาเจอกับข้ายังดีกว่าไปเจอเกรเซียสเป็นไหนๆ ช่างน่าสงสารพวกนั้นจริงๆ
“ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่ได้แน่ พวกเรารีบออกตามหาเขาเถอะ”เคเรสเร่ง
“ท่านว่ายังไง เทอร์มิส”อาร์เมลถามข้า แน่ล่ะ ก็ข้าเป็นหัวหน้าพวกเขานี่
“เรื่องของฝั่งเฮมิซ เราจำเป็นต้องร่วมด้วยรึอย่างไรกัน”ข้าวางมาดขรึมอย่างที่เทพเทอร์มิสสมควรกระทำ เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น ข้ากับเกรเซียสเป็นคู่ปรับที่ไม่มีทางลงรอยกันได้นี่นะ
แม้ว่าความจริงคนที่เป็นคู่ปรับที่ไม่มีทางลงรอยคือเกรเซียสกับเทพไทรอนก็ตาม แต่ภายนอกพวกเขาสองคนต้องสนิทสนมกันให้มาก ถึงแม้เกรเซียสจะใช้ความสนิทสนมนี้บุกไปถึงห้องไทรอนตอนกำลังล่อลวงนักบวชสาวๆอยู่ก็เถอะ
“เทอร์มิส...ข้าขอร้องเถอะ”เคเรสคราง
“...นี่ไม่ใช่หน้าที่ของข้า...”ข้าพยายามทำใจแข็งก่อนที่จะเผลอตอบตกลงไป เฮ้อ เคเรสเอ๋ย เจ้าจะรู้มั๊ยว่าหน้าตาเจ้าตอนนี้มันน่าสงสารขนาดไหน ข้าว่าถึงเป็นเกรเซียสเองคงทำใจแข็งได้ยากเหมือนกัน
แต่เพื่อให้ละครฉากนี้สมบูรณ์ ข้าต้องใจแข็งไว้ก่อน และรีบหลบฉากออกไปให้พวกโคลด์บลัดด์ใต้บัญชาของข้า “แอบ” ตกลงกับพวกเฮมิซกันเอาเองสินะ
“โจซัว เมโลดี้ ท่านทั้งสองช่วยนำทางข้าไปพบราชาซอนเน่จะได้หรือไม่”ข้าถาม ซึ่งข้าแน่ใจว่าพวกเขาไม่มีทางตอบข้าได้หรอก
ก็ในเมื่อพวกเขาไม่มีทางพาข้าไปหาราชาซอนเน่อะไรนั่นได้อยู่แล้ว ถ้าอันเซียร์ไม่ไปด้วย เพราะแค่ข้าดูแวบเดียวก็รู้แล้วว่าพวกเขาขึ้นตรงต่ออันเซียร์ และคนที่มีอำนาจต่อรองกับราชาซอนเน่คืออันเซียร์ ไม่ใช่พวกเขาสองคน ดังนั้นถ้าข้าเอ่ยปากขอ อันเซียร์จะต้อเป็นคนเสนอนำทางให้เอง และทั้งสองคนก็ต้องออกไปด้วยแล้ว “ปล่อย” ให้เฮมิซและโคลด์บลัดด์อยู่ “เจรจา” กันเอง
ขนาดข้ายังรู้ฐานะของพวกเขา แล้วนับประสาอะไรกับเกรเซียส ข้าว่าเดี๋ยวคนติดตามสองคนนี้จะได้ถูกเกรเซียสปั่นหัวเข้าซักวันแน่ๆ
“อ...เอ่อ...”ทั้งสองคนมีอาการอ้ำอึ้งตามคาด
“งั้นให้ผมพาไปหาพี่ชายเองดีกว่าครับ”อันเซียร์เสนอตัว
“ตามใจพวกท่านเถอะ”ข้ายักไหล่ ก่อนจะหันกลับไปหากลุ่มโคลด์บลัดด์ของข้า
“ข้าจะไปคุยธุระกับราชาซอนเน่แทนเทพอัศวินครีอุส และจะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงสี่ทุ่ม หากข้ากลับมาไม่พบพวกเจ้า...จะถือว่าพวกเจ้าขัดคำสั่งข้า”ข้าทำตาขวางราวกับจะข่มขู่ไม่ให้พวกเขาออกไปตามหาเกรเซียส แต่ข้าว่าสำหรับเทพอัศวินหลายๆคนที่ได้ยินคำพูดสุดวกไปวนมาของเกรเซียสจนชินน่าจะแปลความหมายของข้าออก
“เอ่อ...ตามผมมาเลยครับ”อันเซียร์เอ่ยกับข้า ซึ่งก็เป็นไปตามที่ข้าคาด โจซัวรีบไปเปิดประตูให้คุณหนูของเขาทันที และเมโลดี้ก็เป็นคนรั้งท้ายขบวน
“เจ้าคงรู้ว่าถ้าขัดคำสั่งข้าจะเป็นยังไง...เพราะฉะนั้นอย่าให้ข้าต้องใช้กฏของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างกับเทพอัศวินด้วยกันเอง”ข้ายังไม่วายพูดรั้งท้าย ก่อนที่ประตูจะปิดลง
[ที่นี้...บรรยายโดยคนแต่ง]
“เทอร์มิสวางมาดดุจนวินาทีสุดท้ายเลยวุ๊ย”ไทรอนทำหน้าเบ้
“เขาคงหมายความว่า...ถ้าจะไปก็รีบไป แต่ต้องกลับมาก่อนสี่ทุ่ม และห้ามหลงเหลือร่องรอยทิ้งไว้ให้เขาเห็น...สินะ”เคเรสแปลความหมาย
“เจ้าเทอร์มิสคงติดนิสัยพูดพล่ามยาวๆของครีอุสมาแล้วน่ะสิ”เฮฟเตตัสแบะปาก
“แต่ก็ดีอย่างที่เขาเอามาใช้เพื่อส่งสารลับให้ต่อพวกเราหน้าคนนอกแหละน่า”เอกอนถอนหายใจ
“แล้วจะเอาไง ตัดเนเฟลกับเทมเพสที่ยังไม่กลับมา ครีอุส แล้วก็เทอร์มิสออกไปก็จะเหลือแค่แปดคน แถมในแปดคนนี้ยังไม่มีใครซักคนที่จะจำแผนที่ของเมืองนี้ได้หมดอีกต่างหาก แล้วจะไปหาครีอุสจากไหนได้”อาร์เมลถาม
“ฮาเดส เจ้าพอจะรู้ที่ซ่อนของคนร้ายพวกนั้นรึเปล่า”ไอซอทถาม
“ไม่รู้”ฮาเดสตอบสั้นๆได้ใจความ
“วันนี้เจ้าไปเดินเที่ยวกับครีอุสนี่เคเรส พอจะจำได้มั๊ยว่าพวกเขาหนีไปทางไหน”อาเทมิสถามบ้าง
“เอ่อ...ข้าเองก็มองไม่ค่อยชัดเพราะโดนบ้านเรือนบังเอา แต่ข้าแน่ใจว่าพวกเขาหลบไปทางตะวันตกเฉียงใต้นะ”
“งั้นเริ่มหาจากที่นั่นแล้วกัน เราจะแบ่งกลุ่มไป”ไอซอสสั่งการแทน “เฮฟเตตัส ไทรอน เอกอน ไปกับข้า ส่วนฮาเดส อาเทมิส และอาร์เมล พวกเจ้าไปกับเคเรส หาสองกลุ่มจะมีโอกาสเจอง่ายกว่า”
ไม่แปลกที่ไอซอสจะสามารถสั่งทุกคนได้ราวกับเป็นหัวหน้าตัวจริง อาจเพราะเขาเป็นคนที่เยือกเย็นอยุ่ตลอดเวลาทำให้เกิดความน่าเชื่อถือก็ได้ และคำสั่งของเขาก็นับว่าสมเหตุสมผลดี เพราะยังไงเคเรสก็ยังนับว่าเป็นมือธนู ถึงจะเก่งดาบกว่าครีอุสแต่ก็ยังไม่มากไปกว่าพวกเทพอัศวินคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นให้ไปกับฮาเดสและอาร์เมลจะเหมาะสมที่สุด ส่วนเขาก็ต้องไปกับเฮฟเตตัสและไทรอน เพราะสองคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องความใจร้อน อารมณ์รุนแรงและมีนิสัยอีกอย่างคือชอบหาเรื่องคนอื่น [ทำให้ครีอุสเอาทั้งสองคนไปหลอกใช้ในเล่มหนึ่งนั่นแล] ดังนั้นให้เขาไปด้วยจะคอยควบคุมได้ดีกว่า
“กลุ่มข้าจะหาจากทิศใต้ไล่ขึ้นไป”เคเรสว่า
“งั้นพวกข้าจะหาจากตะวันตกลงไปใต้เอง”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
- หกโมงเย็น -
“นี่ๆพี่ครีอุส”
“มีอะไรเหรออันเซียร์”ข้าถามพร้อมรอยยิ้มของเทพอัศวินครีอุสอย่างสมบูรณ์แบบ
“พี่พอจะแสดงเวทย์มนต์อะไรให้ผมดูได้รึเปล่า”
ชิ้ง~~~
เท่านั้นล่ะ บรรยากาศในห้องก็เงียบลงทันตา เฮฟเตตัสที่กำลังสนอกสนใจรีโมททีวีก็ปล่อยมันตกพื้น ไอซอทแม้จะยังดูทีวีอยู่ แต่ก็เหลือบมามองข้า เคเรสทำกระปุกเครื่องเทศร่วงหลุดมือ ขนาดเทอร์มิสยังเกือบสำลักน้ำอีกต่างหาก
“อืม ข้าเป็นเทพอัศวินน่ะ ไม่ค่อยเก่งเวทย์ซักเท่าไหร่”ข้ายิ้มแหย
“ผมอยากดูน่ะครับ แสดงให้ดูซักหน่อยไม่ได้เหรอครับ”อันเซียร์ทำหน้าหมองลงเล็กน้อย แต่แค่นั้นแหละข้าก็ได้รับสายตาอาฆาตจากคนฝั่งเซ็ตติ้งซันทุกคนแทบจะทันที
จริงๆสายตาของพวกเขาไม่ทำให้ข้ากลัวซักเท่าไหร่หรอก แต่สายตาของราชาซอนเน่นี่สินำข้าหนาวของจริง สายตาแบบเดียวกับเทอร์มิสไม่มีผิด! ข้ายังไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวนะ!!!
“เจ้าก็แสดงพลังแห่งเทพให้ดูซักเล็กน้อยก็ได้นี่”
ขอบใจเจ้ามากเฮฟเตตัส! ข้าเกือบจะลืมไปแล้วนะนี่!!!
“เอาเช่นนั้นก็ได้เฮฟเตตัสที่รัก”ข้ายิ้มกว้าง ก่อนจะรวบรวมพลังแห่งเทพแค่ “เล็กน้อย” มารวมเป็นกลุ่มก้อน เกิดเป็นลูกพลังสีขาวสว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงไฟบนเพดานของพวกเขาเสียอีก
“โห สวยจัง”อันเซียร์ทำหน้าอยากรู้อยากเห็น
“จะลองสัมผัสดูก่อนก็ได้”เห็นรอยยิ้มแบบนั้นข้าก็ใจอ่อน สุดท้ายก็ต้องยอมยกลูกพลังนั้นให้เขาไป ซึ่งอันเซียร์ก็พลิกซ้ายพลิกขวา มองมันอย่างสนอกสนใจมาก
“นั่นอะไรเหรอคะคุณหนู?”เมโลดี้ถาม
“ครีอุสทำให้น่ะ สวยใช่ม้า”อันเซียร์ชูมันให้เมโลดี้ดู ซึ่งเธอก็ดูจะสนอกสนใจมันมากเช่นกัน
“ใส่ถ่านตรงไหนเหรอคะเนี่ย สว่างจ้าเชียว หรือจะเป็นแบบชาร์จแบต?”
“ถ่าน? แบต? ข้าไม่รู้จักของแบบนั้นหรอกครับ”ข้ายิ้มอ่อนๆ “นั่นเป็นเวทย์มนต์อย่างง่ายๆที่เทพอัศวินทุกองค์ย่อมกระทำได้ แค่การรวบรวมไอพลังแห่งเทพของพวกเราเป็นกลุ่มก้อนเท่านั้นเอง”
“เจ้าก็ใจอ่อนเกินไป แค่ถูกขอร้องก็ต้องสร้างให้เสียแล้ว”ไอซอทเริ่มทำหน้าที่ของเขา เอาล่ะ ข้ารู้ดีว่ายังไงก็ไม่เกินสามประโยคเช่นเดิมอยู่แล้ว
“ไอซอทที่รัก ด้วยฐานะของผู้แทนวจนะของเทพแห่งแสงสว่างเช่นข้า การโอบอ้อมอารีและเมตตาแก่ทุกสรรพชีวิตย่อมเป็นเรื่องที่เทพอัศวินครีอุสควรกระทำ แล้วข้าผู้ซึ่งเป็นข้ารับใช่แห่งเทพจะไม่กระทำตามกฏแห่งท่านได้อย่างไร”
โอ้ ไม่ได้พูดเสียนาน พอพูดขึ้นมาก็รู้สึกคิดถึงเลยนะเนี่ย ชีวิตเทพอัศวินที่ต้องพูดจาอ้อมโลกไปซักหลายสิบตลบของข้า
“ครีอุส พอเถอะ ข้าจะเป็นลม”เฮฟเตตัสคราง
“ไม่ได้ฟังซะนาน รู้สึกคิดถึงขึ้นมาเลยนะเนี่ย”เคเรสยิ้มนิดๆ
“เจ้าใจอ่อนเกินไปแล้วเทพอัศวินครีอุส มีแต่ความเฉียบขาดเท่านั้นที่จะทำให้เจ้าอยู่รอดในโลกแห่งนี้ได้ ซักวันเจ้าจะต้องสิ้นชีพด้วยความใจดีไร้สาระของเจ้าเป็นแน่แท้”ไอซอทหันกลับไปดูทีวีต่ออีกครั้ง
เอาล่ะ จบกิจวัตรประจำวันไปอย่างหนึ่งแล้ว เหลือแค่การกินอาหารเย็นกับนอนหลับแต่หัววัน
แต่วันนี้อาจจะต้องขอยกเว้นเป็นกรณีพิเศษสินะ อืม ใช่แล้ว
“เคเรสที่รัก ไม่ทราบว่าวันนี้เทพอัศวินเนเฟลได้ไปอาบไล้แสงสว่างของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง ณ ที่ใดกันหรือ?”
เคเรสเงียบไปพักหนึ่ง ข้าคิดว่าเขาคงกำลังตีความหมายคำพูดของข้าอยู่ ซึ่งระหว่างนั้นข้าก็ค่อยๆก้าวถอยหลังอย่างช้าๆไม่ให้เป็นที่สังเกต เพื่อไปให้ใกล้กับบันไดที่สุด
“เจ้าจะถามว่าเนเฟลไปไหนงั้นเหรอครีอุส”เคเรสถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ ซึ่งข้าก็พยักหน้ารับเพราะข้าคงไม่พูดอะไรที่ทำให้เขามึนไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่งั้นเขาได้เอาเส้นผมของข้าไปทำตุ๊กตาอีกแน่ๆ
“เนเฟลไปห้องสมุดกับเทมเพส ป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย”เคเรสตอบข้า
“ถ้าเช่นนั้น ข้าขอฝากการทักทายถึงเขาด้วยเมื่อเขากลับมา”ข้าพูดแค่นั้นก็รีบผลุบหายเข้าไปในห้องของข้าอีกครั้ง ปล่อยให้พวกเขางงกับคำพูดของข้าไปอีกซักระยะ
แต่ก็เป็นไปตามคาด ที่มีแค่แลนซ์ เทอร์มิส เจ้าพยาธิในกระเพาะของข้าเท่านั้นที่แปลความหมายออกแทบจะทันที เขาถึงกับจะร้องลั่นเชียวล่ะ
“ครีอุส! เจ้านั่นจะแอบหลบออกไปข้างนอก!!!!!”
ข้าได้ยินเสียงคนหลายคนวิ่งขึ้นบันได้มา ซึ่งมันสายไปแล้วล่ะเพื่อนๆเหล่าเทพอัศวินที่รัก เพราะข้ากำลังปีนออกทางหน้าต่างเรียบร้อยแล้ว และเวทย์สลักกลอนของข้าก็ยังแน่นหนาดีจนต้องให้เทอร์มิสพังประตูเท่านั้นแหละถึงจะเข้าไปได้
* พากย์ by เทอร์มิส *
โครม!!!
ในที่สุดข้าก็พังประตูสำเร็จ...เกรเซียส! เจ้าไม่ได้แค่ลงกลอนประตูธรรมดา แต่เล่นใช้เวทย์สลักกลอนใช่มั๊ย! ดีแค่ไหนที่ข้าพอจะรู้อยู่ว่าเจ้าต้องใช้แน่ๆเลยอาสาเป็นคนพังประตู ถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจผิดสังเกตไปนานแล้ว!!!
“เดี๋ยวก่อนครับ! เล่นพังประตูกันแบบนี้เลย...”พ่อบ้านหน้าอ่อนพยายามจะห้ามข้า...อืม...ช้าไปแล้วล่ะ
“พี่ครีอุสหายไปไหนแล้วล่ะ!!!”น้องชายของราชาซอนเน่กระพริบตาปริบๆ เจ้าคงได้เห็นเวทย์มนต์ของแท้สมใจแล้วล่ะสิ ฮึ!
“ครีอุสหนีออกไปแล้ว โอย~”เคเรสกุมขมับ ข้าเองก็เห็นใจเขานะ เขารู้แน่ๆว่าเกรเซียสจะไปล้างแค้นแต่ก็พูดไม่ได้เพราะเป็นคำสั่ง...
ทำไมพวกกลุ่มเฮมิซแต่ละคนถึงได้น่าสงสารขนาดนี้นะ...มีคนอย่างเกรเซียสเป็นหัวหน้า...เฮ้อ
“เขาต้องไปล้างแค้นพวกนั้นแน่”
“ล้างแค้น???”ทุกคนหันขวับไปทางต้นเสียง แต่ข้ารู้ดีว่าใคร
“เจ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ฮาเดส”อาเทมิสยักคิ้ว เป็นข้าก็คงสงสัยเหมือนกัน โผล่มาเงียบๆแบบเดียวกับเนเฟลไม่มีผิด
“เรื่องนั้นช่างมันก่อน ว่าแต่ล้างแค้นอะไรกัน”เฮฟเตตัสรีบถาม สมกับที่เป็นคนใจร้อนอย่างเฮฟเตตัส...ลอเรน เอ๊ย ฮาเดสกลับมาเงียบๆแบบน่าสงสัยขนาดนี้ยังไม่สนใจ
“เมื่อตอนเที่ยง...เขาถูกคนร้ายกลุ่มเดิมจับเป็นตัวประกันล่อใครบางคนออกมา”ฮาเดสยังพูดนิ่งๆตามแบบของเขา จริงสินะ เกรเซียสบอกว่าเขาเป็นคนแน่วแน่ตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่แล้ว ข้าล่ะไม่แปลกใจซักนิด
“คุณรู้?”โจซัวเผลอหลุดออกมา
“นายก็รู้เหรอ!!!”เฮฟเตตัสหันไปแยกเขี้ยวใส่โจซัว ที่ตอนนี้รีบเอามืออุดปากตัวเอง
“จะโทษก็ไปโทษครีอุสโน่น เขาเป็นคนห้ามไม่ให้พวกเราพูดย่ะ”เมโลดี้เชิดหน้าขึ้นแบบเดียวกับอาเทมิสเป๊ะ
“นี่ใช่มั๊ย...ที่นายอยากจะพูดเมื่อตอนเที่ยง”ไทรอนหันไปถามเคเรส
“...ฮื่อ...”เคเรสพยักหน้านิดๆ ข้าก็เห็นใจเขานะ จริงๆเขาก็คงไม่อยากขัดคำสั่งของเกรเซียสอยู่แล้ว ยิ่งหลังจากที่เขาถูกเกรเซียสช่วยให้ฟื้นคืนชีพมาได้นี่ยิ่งรู้สึกจะเป็นห่วงเกรเซียสเข้าไปอีก ดีที่รายนั้นหาทางกลบเกลื่อนเรื่องตาบอดได้ก็เลยรอดไป แต่ข้าก็สงสัยเหมือนกันว่าจะรอดได้ถึงไหน
“ถ้างั้นล่ะก็...พวกนั้นไม่ได้ตายดีแน่ๆ”เฮฟเตตัสทำหน้าตาสงสารพวกคนร้ายสุดหัวใจ ซึ่งไม่มีใครในกลุ่มเทพอัศวินไม่ทำหน้าแบบนั้นหรอก ขนาดข้ายังอดสงสารไม่ได้เลย
ข้ากล้าพูดเลยนะว่าพวกคนร้ายที่มาถึงมือข้า...ยังดีกว่าไปถึงมือเกรเซียสเยอะ!!!
ข้าเคยได้รับคนร้ายคนหนึ่งมาจากเกรเซียส ซึ่งนั่นคือหลังจากที่เขาจัดการคนร้ายนั่นจนพอใจแล้ว...และข้าถึงได้รู้ว่าการที่พวกนักโทษมาเจอกับข้ายังดีกว่าไปเจอเกรเซียสเป็นไหนๆ ช่างน่าสงสารพวกนั้นจริงๆ
“ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่ได้แน่ พวกเรารีบออกตามหาเขาเถอะ”เคเรสเร่ง
“ท่านว่ายังไง เทอร์มิส”อาร์เมลถามข้า แน่ล่ะ ก็ข้าเป็นหัวหน้าพวกเขานี่
“เรื่องของฝั่งเฮมิซ เราจำเป็นต้องร่วมด้วยรึอย่างไรกัน”ข้าวางมาดขรึมอย่างที่เทพเทอร์มิสสมควรกระทำ เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น ข้ากับเกรเซียสเป็นคู่ปรับที่ไม่มีทางลงรอยกันได้นี่นะ
แม้ว่าความจริงคนที่เป็นคู่ปรับที่ไม่มีทางลงรอยคือเกรเซียสกับเทพไทรอนก็ตาม แต่ภายนอกพวกเขาสองคนต้องสนิทสนมกันให้มาก ถึงแม้เกรเซียสจะใช้ความสนิทสนมนี้บุกไปถึงห้องไทรอนตอนกำลังล่อลวงนักบวชสาวๆอยู่ก็เถอะ
“เทอร์มิส...ข้าขอร้องเถอะ”เคเรสคราง
“...นี่ไม่ใช่หน้าที่ของข้า...”ข้าพยายามทำใจแข็งก่อนที่จะเผลอตอบตกลงไป เฮ้อ เคเรสเอ๋ย เจ้าจะรู้มั๊ยว่าหน้าตาเจ้าตอนนี้มันน่าสงสารขนาดไหน ข้าว่าถึงเป็นเกรเซียสเองคงทำใจแข็งได้ยากเหมือนกัน
แต่เพื่อให้ละครฉากนี้สมบูรณ์ ข้าต้องใจแข็งไว้ก่อน และรีบหลบฉากออกไปให้พวกโคลด์บลัดด์ใต้บัญชาของข้า “แอบ” ตกลงกับพวกเฮมิซกันเอาเองสินะ
“โจซัว เมโลดี้ ท่านทั้งสองช่วยนำทางข้าไปพบราชาซอนเน่จะได้หรือไม่”ข้าถาม ซึ่งข้าแน่ใจว่าพวกเขาไม่มีทางตอบข้าได้หรอก
ก็ในเมื่อพวกเขาไม่มีทางพาข้าไปหาราชาซอนเน่อะไรนั่นได้อยู่แล้ว ถ้าอันเซียร์ไม่ไปด้วย เพราะแค่ข้าดูแวบเดียวก็รู้แล้วว่าพวกเขาขึ้นตรงต่ออันเซียร์ และคนที่มีอำนาจต่อรองกับราชาซอนเน่คืออันเซียร์ ไม่ใช่พวกเขาสองคน ดังนั้นถ้าข้าเอ่ยปากขอ อันเซียร์จะต้อเป็นคนเสนอนำทางให้เอง และทั้งสองคนก็ต้องออกไปด้วยแล้ว “ปล่อย” ให้เฮมิซและโคลด์บลัดด์อยู่ “เจรจา” กันเอง
ขนาดข้ายังรู้ฐานะของพวกเขา แล้วนับประสาอะไรกับเกรเซียส ข้าว่าเดี๋ยวคนติดตามสองคนนี้จะได้ถูกเกรเซียสปั่นหัวเข้าซักวันแน่ๆ
“อ...เอ่อ...”ทั้งสองคนมีอาการอ้ำอึ้งตามคาด
“งั้นให้ผมพาไปหาพี่ชายเองดีกว่าครับ”อันเซียร์เสนอตัว
“ตามใจพวกท่านเถอะ”ข้ายักไหล่ ก่อนจะหันกลับไปหากลุ่มโคลด์บลัดด์ของข้า
“ข้าจะไปคุยธุระกับราชาซอนเน่แทนเทพอัศวินครีอุส และจะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงสี่ทุ่ม หากข้ากลับมาไม่พบพวกเจ้า...จะถือว่าพวกเจ้าขัดคำสั่งข้า”ข้าทำตาขวางราวกับจะข่มขู่ไม่ให้พวกเขาออกไปตามหาเกรเซียส แต่ข้าว่าสำหรับเทพอัศวินหลายๆคนที่ได้ยินคำพูดสุดวกไปวนมาของเกรเซียสจนชินน่าจะแปลความหมายของข้าออก
“เอ่อ...ตามผมมาเลยครับ”อันเซียร์เอ่ยกับข้า ซึ่งก็เป็นไปตามที่ข้าคาด โจซัวรีบไปเปิดประตูให้คุณหนูของเขาทันที และเมโลดี้ก็เป็นคนรั้งท้ายขบวน
“เจ้าคงรู้ว่าถ้าขัดคำสั่งข้าจะเป็นยังไง...เพราะฉะนั้นอย่าให้ข้าต้องใช้กฏของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างกับเทพอัศวินด้วยกันเอง”ข้ายังไม่วายพูดรั้งท้าย ก่อนที่ประตูจะปิดลง
[ที่นี้...บรรยายโดยคนแต่ง]
“เทอร์มิสวางมาดดุจนวินาทีสุดท้ายเลยวุ๊ย”ไทรอนทำหน้าเบ้
“เขาคงหมายความว่า...ถ้าจะไปก็รีบไป แต่ต้องกลับมาก่อนสี่ทุ่ม และห้ามหลงเหลือร่องรอยทิ้งไว้ให้เขาเห็น...สินะ”เคเรสแปลความหมาย
“เจ้าเทอร์มิสคงติดนิสัยพูดพล่ามยาวๆของครีอุสมาแล้วน่ะสิ”เฮฟเตตัสแบะปาก
“แต่ก็ดีอย่างที่เขาเอามาใช้เพื่อส่งสารลับให้ต่อพวกเราหน้าคนนอกแหละน่า”เอกอนถอนหายใจ
“แล้วจะเอาไง ตัดเนเฟลกับเทมเพสที่ยังไม่กลับมา ครีอุส แล้วก็เทอร์มิสออกไปก็จะเหลือแค่แปดคน แถมในแปดคนนี้ยังไม่มีใครซักคนที่จะจำแผนที่ของเมืองนี้ได้หมดอีกต่างหาก แล้วจะไปหาครีอุสจากไหนได้”อาร์เมลถาม
“ฮาเดส เจ้าพอจะรู้ที่ซ่อนของคนร้ายพวกนั้นรึเปล่า”ไอซอทถาม
“ไม่รู้”ฮาเดสตอบสั้นๆได้ใจความ
“วันนี้เจ้าไปเดินเที่ยวกับครีอุสนี่เคเรส พอจะจำได้มั๊ยว่าพวกเขาหนีไปทางไหน”อาเทมิสถามบ้าง
“เอ่อ...ข้าเองก็มองไม่ค่อยชัดเพราะโดนบ้านเรือนบังเอา แต่ข้าแน่ใจว่าพวกเขาหลบไปทางตะวันตกเฉียงใต้นะ”
“งั้นเริ่มหาจากที่นั่นแล้วกัน เราจะแบ่งกลุ่มไป”ไอซอสสั่งการแทน “เฮฟเตตัส ไทรอน เอกอน ไปกับข้า ส่วนฮาเดส อาเทมิส และอาร์เมล พวกเจ้าไปกับเคเรส หาสองกลุ่มจะมีโอกาสเจอง่ายกว่า”
ไม่แปลกที่ไอซอสจะสามารถสั่งทุกคนได้ราวกับเป็นหัวหน้าตัวจริง อาจเพราะเขาเป็นคนที่เยือกเย็นอยุ่ตลอดเวลาทำให้เกิดความน่าเชื่อถือก็ได้ และคำสั่งของเขาก็นับว่าสมเหตุสมผลดี เพราะยังไงเคเรสก็ยังนับว่าเป็นมือธนู ถึงจะเก่งดาบกว่าครีอุสแต่ก็ยังไม่มากไปกว่าพวกเทพอัศวินคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นให้ไปกับฮาเดสและอาร์เมลจะเหมาะสมที่สุด ส่วนเขาก็ต้องไปกับเฮฟเตตัสและไทรอน เพราะสองคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องความใจร้อน อารมณ์รุนแรงและมีนิสัยอีกอย่างคือชอบหาเรื่องคนอื่น [ทำให้ครีอุสเอาทั้งสองคนไปหลอกใช้ในเล่มหนึ่งนั่นแล] ดังนั้นให้เขาไปด้วยจะคอยควบคุมได้ดีกว่า
“กลุ่มข้าจะหาจากทิศใต้ไล่ขึ้นไป”เคเรสว่า
“งั้นพวกข้าจะหาจากตะวันตกลงไปใต้เอง”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น