ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : - ก่อนจะมาเป็น ฮันเกิง แห่ง Super Junior.
ฮันเกิง คนที่รักการแสดงออกมาตั้งแต่เด็ก เด็กชายที่เกิดในครอบครัวธรรมดา ในชนกลุ่ม HezHE [ได้ข่าวว่าชนกลุ่มนี้เป็นชนกลุ่มน้อยที่หลงเหลือน้อยที่สุดในประเทศจีน] เมืองมู่ตานเจียง มณฑลเฮยหลงเจียงของประเทศจีนเค้าก็เหมือนกับเด็กธรรมดาๆทั่วไป ที่มีนิสัยซุกซน ร่าเริง แล้วก็มีความน่ารักอยู่ในตัว
ปี1990 ฮันเกิงน้อยก็เข้าเรียนในโรงเรียนประถม GuanG hUA เค้ามีความชอบในการแสดงออกและการเต้น ดังนั้นเค้าจึงเป็น 1 ในสมาชิกชมรมเต้นของรร.
และแล้ววันหนึ่ง คุณครูท่านนึงได้เห็นการเต้นของฮันเกิงบนเวที และรู้สึกว่าฮันเกิงเป็นคนนึงที่มีศักยภาพมากในการเต้น ดังนั้นคุณครูท่านนี้จึงได้เข้าไปคุยกับฮันเกิงเพื่อชักชวนเค้าไปเรียนศิลปะการเต้นที่รร. zhongyang minZu ในปักกิ่ง
ฮันเกิงผู้ซึ่งมีความสนใจอย่างมากในการเต้นอยู่แล้วจึงปรึกษากับทางบ้าน และผลออกมาก็คือ เค้าจะลองดู เด็กชายฮันเกิง อายุเพียง 13 ปีจึงได้เดินไปตามทางที่ตนสนใจ
เมื่อถึงปักกิ่ง ฮันเกิงได้สอบติด ZhongyAng minZu ตามที่ใจฝัน และเริ่มเรียนการเต้นเป็นเวลา 6 ปี ระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในรร. ฮันเกิงไม่เพียงแต่สามารถเต้นรำพื้นเมืองของจีนได้ 56 ท่า เพื่อความยืดหยุนของร่างกาย เค้าจึงเริ่มเรียน wushu[martial art] แล้วก็บัลเลต์
เนื่องจากว่าฮันเกิงเป็นคนนึงที่โดดเด่นมาก ดังนั้นจึงถูกส่งเป็นตัวแทนของรร.ไปแสดงในหลายๆประเทศไม่ว่าจะเป็นอเมริกา รัสเซีย ฮ่องกง มาเก๊า และในหลายๆพื้นที่ การที่ฮันเกิงได้แสดงเสมอๆก็เหมือนเป็นการพิสูจน์ความสามารถของตัวเค้าเอง
ช่วงกลางปี 1997 กระแสเกาหลีเริ่มเข้าสู่ประเทศจีน วันรุ่นจีนก็เริ่มสนใจประเทศที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศๆนี้ และฮันเกิงก็เป็นอีก 1 คนที่ไม่พลาด เค้าชอบการเต้นที่มีเอกลักษณ์และเพลงของวง HOT เอามากๆ และ KANGTAก็คือต้นแบบของเค้าวันที่ 12 ปี 2001 บริษัท SM ENTERTAINMENT ก็ได้จัดงาน“H.O.T. China”?เพื่อเฟ้นหาผู้ที่มีความสามารถขึ้นที่ปักกิ่ง ฮันเกิงและเพื่อนของเค้าก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันนี้ด้วย และด้วยทักษะการเต้นที่โดดเด่น รวมถึงหน้าตาอันหล่อเหลาของฮํนเกิงก็ทำให้เหล่าคณะกรรมการประทับใจเป็นอย่างมาก [จริงๆแล้วการแข่งครั้งนี้เหมือนเกิงจะไม่ได้ที่ 1 นะค้า ]
กลางปี 2002 ฮันเกิงก็ได้รับข่าวจากทาง sm เป็นคนจีนคนแรก จาก 3000 คนที่จะได้เซ็นสัญญากับทางSM
หลังจากที่ฮันเกิงได้ปรึกษากับครอบครัว ผลสรุปก็คือเค้าจะเดินทางไปเกาหลี เพื่อทำตามความฝัน
เดือน 5 ปี 2003 ฮันเกิงได้รับพาสปอร์ตเกาหลี และเดินทางไปเกาหลี ตลอดเวลาที่อยู่เกาหลี ฮันเกิงจึงได้เข้าใจว่าการที่จะได้เป็นนักร้องมันไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เค้าคิด
มีคนจีน 2-3 คนที่เดินทางไปเกาหลีกับเค้าด้วย และพวกเค้าก็ไปฝึกที่ บริษัทด้วยกัน พวกเค้าได้รับการฝึกฝนในทุกรูปแบบฮันเกิงที่เพิ่งจะถึงเกาหลี เกาหลีก็พูดไม่ได้ เค้าจึงพูดน้อยมากๆ ทุกๆวันนอกจากจะต้องเรียนเต้น แล้วก็ยังต้องเรียนภาษาอีกด้วยฮันเกิงบอกว่า ช่วงเวลานั้น เค้าใช้เวลา 10 กว่าชม.ในการเรียนภาษาเกาหลี
แต่วัฒนธรรมอะไรต่างๆของเกาหลีตอนแรกๆฮันเกิงก็ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับมันได้
สำหรับเกาหลี คนที่อายุมากสุด ก็จะมีอำนาจมาก
คนเกาหลีจะไม่ค่อยเข้าใจคนต่างชาติ [ประโยคนี้น่าจะหมายความว่า ชาตินิยมรึเปล่า ??]
ในเวลานั้นฮันเกิงจึงได้แต่พยายามยิ้มและอดทน เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังและความแข็งแกร่งของชาวจีน!
ในบริษัทSM มีนร.ที่มาฝึกฝนมากมาย ดังนั้นการแข่งขันก็จะค่อนข้างสูงมาก ทุกๆวันก็จะมีนร.ใหม่เข้ามาฝึกฝน นร.เก่าก็จะจากไป ระหว่างช่วงฝึกฝน เพื่อนๆของเค้าที่มาจากจีนด้วยกันก็ไม่อยู่แล้ว เหลือแต่เค้าเพียงคนเดียว
ตอนอยู่ที่เกาหลี 2 ปีกับชีวิตที่มีเงินอยู่ไม่ถึง 500 หยวน ช้อปปิ้งก็ไม่เคย อยู่แค่ 2 ที่คือบริษัทและที่พัก
เค้า..เคยร้องไห้เพราะคิดถึงบ้านผ่านความยากลำบาก จนอยากที่จะถอยหลังกลับ
แต่ว่าเค้าก็รักการเต้นเค้า..แค่อยากที่จะพิสูจน์ตัวเองเค้า..จึงไม่ยอมแพ้
หลายคนรอบๆกาย ในที่สุดก็ได้ DebuTฮันเกิงเคยพักอยู่ในหอเดียวกับแจจุงแล้วก็ยุนโฮ
และแล้วเมื่อปี 2004 ทั้ง 2 คนก็ได้เปิดตัวในนาม ทงบังชินกิ
ใช่ว่าเค้าจะไม่เคยรู้สึกอิจฉาใช่ว่าจะไม่เคยรู้สึกลังเลใจแค่ต้องคิดว่าจะพยายาม
พยายามเพื่อที่จะทำให้ดีที่สุด
ปี1990 ฮันเกิงน้อยก็เข้าเรียนในโรงเรียนประถม GuanG hUA เค้ามีความชอบในการแสดงออกและการเต้น ดังนั้นเค้าจึงเป็น 1 ในสมาชิกชมรมเต้นของรร.
และแล้ววันหนึ่ง คุณครูท่านนึงได้เห็นการเต้นของฮันเกิงบนเวที และรู้สึกว่าฮันเกิงเป็นคนนึงที่มีศักยภาพมากในการเต้น ดังนั้นคุณครูท่านนี้จึงได้เข้าไปคุยกับฮันเกิงเพื่อชักชวนเค้าไปเรียนศิลปะการเต้นที่รร. zhongyang minZu ในปักกิ่ง
ฮันเกิงผู้ซึ่งมีความสนใจอย่างมากในการเต้นอยู่แล้วจึงปรึกษากับทางบ้าน และผลออกมาก็คือ เค้าจะลองดู เด็กชายฮันเกิง อายุเพียง 13 ปีจึงได้เดินไปตามทางที่ตนสนใจ
เมื่อถึงปักกิ่ง ฮันเกิงได้สอบติด ZhongyAng minZu ตามที่ใจฝัน และเริ่มเรียนการเต้นเป็นเวลา 6 ปี ระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในรร. ฮันเกิงไม่เพียงแต่สามารถเต้นรำพื้นเมืองของจีนได้ 56 ท่า เพื่อความยืดหยุนของร่างกาย เค้าจึงเริ่มเรียน wushu[martial art] แล้วก็บัลเลต์
เนื่องจากว่าฮันเกิงเป็นคนนึงที่โดดเด่นมาก ดังนั้นจึงถูกส่งเป็นตัวแทนของรร.ไปแสดงในหลายๆประเทศไม่ว่าจะเป็นอเมริกา รัสเซีย ฮ่องกง มาเก๊า และในหลายๆพื้นที่ การที่ฮันเกิงได้แสดงเสมอๆก็เหมือนเป็นการพิสูจน์ความสามารถของตัวเค้าเอง
ช่วงกลางปี 1997 กระแสเกาหลีเริ่มเข้าสู่ประเทศจีน วันรุ่นจีนก็เริ่มสนใจประเทศที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศๆนี้ และฮันเกิงก็เป็นอีก 1 คนที่ไม่พลาด เค้าชอบการเต้นที่มีเอกลักษณ์และเพลงของวง HOT เอามากๆ และ KANGTAก็คือต้นแบบของเค้าวันที่ 12 ปี 2001 บริษัท SM ENTERTAINMENT ก็ได้จัดงาน“H.O.T. China”?เพื่อเฟ้นหาผู้ที่มีความสามารถขึ้นที่ปักกิ่ง ฮันเกิงและเพื่อนของเค้าก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันนี้ด้วย และด้วยทักษะการเต้นที่โดดเด่น รวมถึงหน้าตาอันหล่อเหลาของฮํนเกิงก็ทำให้เหล่าคณะกรรมการประทับใจเป็นอย่างมาก [จริงๆแล้วการแข่งครั้งนี้เหมือนเกิงจะไม่ได้ที่ 1 นะค้า ]
กลางปี 2002 ฮันเกิงก็ได้รับข่าวจากทาง sm เป็นคนจีนคนแรก จาก 3000 คนที่จะได้เซ็นสัญญากับทางSM
หลังจากที่ฮันเกิงได้ปรึกษากับครอบครัว ผลสรุปก็คือเค้าจะเดินทางไปเกาหลี เพื่อทำตามความฝัน
เดือน 5 ปี 2003 ฮันเกิงได้รับพาสปอร์ตเกาหลี และเดินทางไปเกาหลี ตลอดเวลาที่อยู่เกาหลี ฮันเกิงจึงได้เข้าใจว่าการที่จะได้เป็นนักร้องมันไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เค้าคิด
มีคนจีน 2-3 คนที่เดินทางไปเกาหลีกับเค้าด้วย และพวกเค้าก็ไปฝึกที่ บริษัทด้วยกัน พวกเค้าได้รับการฝึกฝนในทุกรูปแบบฮันเกิงที่เพิ่งจะถึงเกาหลี เกาหลีก็พูดไม่ได้ เค้าจึงพูดน้อยมากๆ ทุกๆวันนอกจากจะต้องเรียนเต้น แล้วก็ยังต้องเรียนภาษาอีกด้วยฮันเกิงบอกว่า ช่วงเวลานั้น เค้าใช้เวลา 10 กว่าชม.ในการเรียนภาษาเกาหลี
แต่วัฒนธรรมอะไรต่างๆของเกาหลีตอนแรกๆฮันเกิงก็ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับมันได้
สำหรับเกาหลี คนที่อายุมากสุด ก็จะมีอำนาจมาก
คนเกาหลีจะไม่ค่อยเข้าใจคนต่างชาติ [ประโยคนี้น่าจะหมายความว่า ชาตินิยมรึเปล่า ??]
ในเวลานั้นฮันเกิงจึงได้แต่พยายามยิ้มและอดทน เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังและความแข็งแกร่งของชาวจีน!
ในบริษัทSM มีนร.ที่มาฝึกฝนมากมาย ดังนั้นการแข่งขันก็จะค่อนข้างสูงมาก ทุกๆวันก็จะมีนร.ใหม่เข้ามาฝึกฝน นร.เก่าก็จะจากไป ระหว่างช่วงฝึกฝน เพื่อนๆของเค้าที่มาจากจีนด้วยกันก็ไม่อยู่แล้ว เหลือแต่เค้าเพียงคนเดียว
ตอนอยู่ที่เกาหลี 2 ปีกับชีวิตที่มีเงินอยู่ไม่ถึง 500 หยวน ช้อปปิ้งก็ไม่เคย อยู่แค่ 2 ที่คือบริษัทและที่พัก
เค้า..เคยร้องไห้เพราะคิดถึงบ้านผ่านความยากลำบาก จนอยากที่จะถอยหลังกลับ
แต่ว่าเค้าก็รักการเต้นเค้า..แค่อยากที่จะพิสูจน์ตัวเองเค้า..จึงไม่ยอมแพ้
หลายคนรอบๆกาย ในที่สุดก็ได้ DebuTฮันเกิงเคยพักอยู่ในหอเดียวกับแจจุงแล้วก็ยุนโฮ
และแล้วเมื่อปี 2004 ทั้ง 2 คนก็ได้เปิดตัวในนาม ทงบังชินกิ
ใช่ว่าเค้าจะไม่เคยรู้สึกอิจฉาใช่ว่าจะไม่เคยรู้สึกลังเลใจแค่ต้องคิดว่าจะพยายาม
พยายามเพื่อที่จะทำให้ดีที่สุด
.
..++++++++++++++++++++++++++++++++++++
..++++++++++++++++++++++++++++++++++++
กรี๊ดดดดดดดด ป๋าน่ารักที่สุด!!
พยายามเข้าหล่ะ Super Junior China...
Super Junior Only 13
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น