ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เรื่อง ฉันรักนายผู้ชายเอาแต่ใจ [ ฮันเกิงVSฮีซอล ] 3
อ่านให้สนุกนะ เม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วย
อย่าลืม!!ไปอ่าน Fic: See. กับ Fic: Friend นะคะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ม.ปลายห้อง 3c
อย่าลืม!!ไปอ่าน Fic: See. กับ Fic: Friend นะคะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ม.ปลายห้อง 3c
บรรยากาศที่แสนจะวุ่นวายในห้องเรียนทำให้คนอย่างผมถึงกับเดือด อะไรกัน!!ที่มันห้องนะไม่ใช่ตลาดสดแต่ผมก็ต้องข่มใจเอาไว้ เพราะตอนนี้ผมกำลังตื้นตันกับคำนินทาของคนทั้งโรงเรียน ที่พูดถึงเรื่องผมกับฮันเกิง..ใช่!!มันมีทั้งคำชมทั้งคำด่าและคำคาดโทษ ผมมีความสุขชะมัดที่มีแต่คนพูดถึงเรื่องนี้ ถ้าจะถามผมว่าผมกลัวพวกแฟนคลับฮันเกิงจะมาตบมั๊ย? บอกได้คำเดียว...ไม่กลัว..และก็ท้าด้วยถ้ากล้ามาแหยมกับ คิม ฮีซอล คนนี้หล่ะก็ไม่ตายดีหรอก โฮ๊ะๆๆๆ ผมเป็นเจ้าหญิงหรือแม่มดเนี่ย?
“ฮีซอลเพื่อนเลิฟ เรื่องเมื่อเช้ามันหมายความว่าไง บอกมาซะดีๆ” มาแล้วๆเสียงแหลมๆแบบนี้จะมีใครที่ไหนนอกจาก ลี ซองมิน เพื่อนกระต่ายน้อยของผม
“เรื่องอะไร?” ผมทำเป็นไม่รู้เรื่องทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่าซองมินมาถามเรื่องอะไร
“ก็เรื่องฮันเกิง ห้อง3aไง ทำไมเมื่อเช้ามาด้วยกันหล่ะ แถมยังนั่งซ้อนท้ายจักรยานมาอีก..นายรู้มั๊ยนายโดนหมายหัวจากพวกแฟนคลับฮันเกิงแล้วนะตอนนี้..ชั้นหล่ะสงสารคนพวกนั้นจริงๆ” ซองมินเอ่ยบอกอย่างตกใจและเป็นห่วง กลัวพวกแฟนคลับจะมีอันตราย ฟังไม่ผิดหรอก!! ซองมินมันกลัวพวกแฟนคลับจะมีอันตรายจริงๆ เพราะผมมีคอนเซ็ปอยู่ว่า ...ใครทำให้ผมเจ็บเท่าไหร่ ผมจะทำให้มันเจ็บคืนเป็นร้อยเท่า...555+นางเอกผู้แสนดี
“อืม!! งั้นหรอ” ผมตอบรับอย่างอารมณ์ดี
“แล้วเรื่องที่ถามหล่ะ บอกมาซะดีๆ”นายนี่มันความจำดีจริงๆไอ้เรื่องอย่างนี้ เรื่องของคนอื่นเนี่ย!!
“ฮันเกิงเค้าหลงเสน่ห์ชั้นหล่ะมั้ง..ดูสิชั้นสวยมั๊ย?!!” ผมสะบัดผมที่ยาวประบ่าให้ไปด้านหลัง คนในห้องต่างหันมามองเป็นตาเดียวกัน
“สวย!!” เป็นไงผู้ชายในห้องต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน ทั้งๆที่ผมคุยกับซองมินแค่สองคน คนแบบนี้เค้าเรียกว่าอะไรนะ. อ้อ!!นึกออกแล้ว....เสือก..นั่นเอง....เอาอีกแล้วปากกรรไกรเข้าสิงอยู่เรื่อยเลย และในที่สุดเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึงซะที เวลาอะไรอย่างงั้นอ่ะหรอ? คอยดูเองแล้วกัน.......
“คนไหนชื่อฮีซอล ออกมานี่เดะ” นั่นไงลูกสมุนยัยเจสห้อง 3d มาเรียกผมแล้ว ใครในโรงเรียนมัธยมควังอันจะไม่รู้ชื่อเสียงของ ยัยเจสสิก้า ห้อง 3d ก็บ้าแล้ว เพราะยัยเนี่ยมันนักเลงชัดๆ แถมยังบ้าฮันเกิงอีกตั้งหาก ผมเคยได้ข่าวมาว่า....มีเด็กผู้หญิงปี2คนหนึ่งเดินเข้าไปจับมือฮันเกิงแล้วเอ่ยบอกรัก พอดียัยเจสเห็นเข้า ยัยเด็กนั่นอีก1ชั่วโมงถูกหามส่งโรงพยาบาลเฉยเลย และมีข่าวลือว่า ยัยเจสกับพวกไปรุมตบเอาหน่ะ คนในโรงเรียนได้แต่รักฮันเกิงอยู่ห่างๆแต่จะให้เดินเข้าไปถูกเนื้อต้องตัวฮันเกิง ไม่เสี่ยงชีวิตด้วยหรอก~ แต่คนอย่างผมมันกล้าเมื่อเช้าเลยนั่งซ้อนท้ายจักรยานและกอดเอวฮันเกิงมาซะแน่นเลย 55+ สะใจคนสวย
“อยู่นี่!!มีอะไร รึเปล่า?” ผมเดินออกไปประจันหน้ากับพวกนั้น
“ออกมาเจอกันหลังโรงเรียนดิ” กล้าท้าคนอย่าง คิม ฮีซอล งั้นหรอ ได้เลย!! จัดไป...
“ได้ !!ไม่มีปัญหาเมื่อไหร่หล่ะ”
“ตอนนี้” ดูสายตาที่ยัยหน้าปลาดุกนี่มองผมสิ จะกินผมรึไง!!มิทราบ เดี๋ยวแม่ก็ตบตาหลุดเลย ใจเย็นไว้ๆ ฟู่!! อย่าให้ใครเค้ารู้ว่านายเป็นคนอย่างไง เดี๋ยวภาพพจน์ของเจ้าหญิงประจำควังอันจะเสียหมด..
“อืม” ผมเดินตามพวกมันออกไปอย่างว่าง่าย แต่โดนมือหนึ่งรั้งเอาไว้ผมจึงหันมามอง
“อย่าให้ถึงกับตายนะฮีซอล” ซองมินมองผมอย่างหวาดๆ
“ไม่ตายหรอกน่า แต่มาโรงเรียนไม่ได้ 3 เดือนก็เท่านั้นเอง” ผมยิ้มหวานให้เผื่อว่าเพื่อนคนนี้สบายขึ้น แต่มันไหงหน้าหงอยว่าเดิมหล่ะ ไม่เอาและไม่สนใจไปดีกว่า!!
“ไปแล้วนะ” ว่าแล้วผมก็เดินตามหลังยัยพวกหน้าปลาดุกไป
หลังโรงเรียน
ที่จริงหลังโรงเรียนเนี่ยไม่ค่อยจะมีคนมาซักเท่าไหร่หรอก เพราะมันรกมากถ้าจะมีคนก็คงจะเป็นไอ้พวกโดดเรียนหรือไม่ก็พวกที่มาแอบสูบบุหรี่กัน พูดง่ายๆแหล่งรวม..พวกเหลือเดนของโรงเรียน ผมมองไปรอบๆก็เจอกลุ่มผู้หญิงเกือบ40คนแต่ไม่ยักกระเห็นยัยเจสสิก้า พวกมันคงดูถูกผมน่าดู น่าโมโหจริง!!
“มีอะไรก็รีบๆพูดมา ไม่ค่อยมีเวลา” ผมพูดเสียงเรียบออกไป เพื่อยั่วโมโหยัยพวกนี้
“โฮะ!ปากดีจังนะ อยากหน้าเละรึไง” ยัยหัวฟูคนหนึ่งหยิบคัดเตอร์ขึ้นมาและรูดมันขึ้น
“จุ๊ๆๆเป็นสาวเป็นแซ่หัดพกคัดเตอร์ ไม่น่ารักเลย” ผมยกนิ้วขึ้นมาจุ๊ปากและส่ายหน้าอย่างระอา
“หน๋อย!! ปากดีอย่างนี้ขอซักทีเถอะนะ...เพี๊ยะ!!” เสียงใบหน้าของใครบางคนถูกตบ..อยากรู้ใช่มั๊ยว่าหน้าใคร?โฮ๊ะๆๆ ก็หน้าผมไง โอ๊ย!! เจ็บชะมัด ทำไมผมถึงยอมให้พวกนี้ตบน่ะหรอก็บอกแล้วไง...ใครทำให้ผมเจ็บเท่าไหร่ ผมจะทำให้มันเจ็บคืนเป็นร้อยเท่า...
“ทำได้แค่นี้งั้นหรอ” ผมเช็ดเลือดตรงมุมปาก แล้วก็ฉีกยิ้มมุมปากแบบเย้ยหยัน
“งั้นเอาอีกทีเป็นไง........เพี๊ยะ!!” ทายซิคราวนี้เป็นเสียงหน้าของใครเอ่ย? ปิ๊งป่อง! ถูกต้องแล้วคร้าบบบ เสียงของใบหน้ายัยหัวฟูไง ดูสิหน้าหันเลยแล้วอะไรกระเด็นออกมานะ ถ้าจำไม่ผิดคงเป็น..ฟัน..หละมั้ง มือหนักแฮะเรา!!
“กรี๊ด!! ฟันชั้น ยืนเซ่ออยู่ทำไมหล่ะ รุมมันสิ!!” ยัยหัวฟูมองพวกข้างหลังที่มองหน้ากันอย่างเหริกหรัก ก่อนจะกรูกันเข้ามาหาฮีซอล
ปั๊ก!! เพ๊อะ !! กรี๊ด!! เพี๊ยะ !! เพล้ง!! ตุ๊บตั๊บ!! (เสียงอะไรกันเนี่ย?)(-O-)?
ในที่สุดยัยพวกนั้นก็ลงมานอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น ผมทำแรงไปรึเปล่านะ..แล้วอะไรในมือผมหน่ะ ...เหล็กแท่ง.. ผมหยิบมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย..ช่างมันเหอะผมไม่สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว ว่าแล้วผมก็โยนแท่งเหล็กลงในป่าข้างๆและก็ปัดฝุ่นที่มือ ลัล ลัลลัลล้า~ ผมเดินจากไปด้วยรอยยิ้มและเสียงเพลง มีความสุขจัง!!
ม.ปลายห้อง 3a
“ฮันเกิงนายบังอาจมากนะที่มากับเจ้าหญิงของชั้น” เพื่อนรักของฮันเกิงนามว่าคังอิน กำลังบ่นกระปอดกระแปดอย่างกับคนแก่ เมื่อฮันเกิงเอาเจ้าหญิงในดวงใจซ้อนท้ายจักรยานมาโรงเรียน
“เค้าเป็นของนายตั้งแต่เมื่อไหร่?” ละสายตาจากตำราอาหารมามองหน้าคังอิน จะมีใครรู้บ้างนะว่าหนุ่มป็อปคนนี้เป็นคนชอบทำอาหาร
“เอ่อคือ..........” อ้ำอึ้งๆไม่รู้จะตอบอย่างไง
“ตอบไม่ได้ใช่มั๊ย?” หันกลับมาอ่านหนังสือเหมือนเดิม
“เรื่องของชั้นเถอะน่า...แล้วเรื่องเจ้าหญิงน่ะว่าไง” เมื่อตอบไม่ได้ก็เปลี่ยนเรื่องทันที
“เค้าคงหลงเสน่ห์ชั้นหล่ะมั้ง” ฮันเกิงหันมายิ้มหวานให้เพื่อนรักที่ยิ้มเจือนๆให้...โรคหลงตัวเองนี่ไม่เข้าใครออกใครจริงๆเลยให้ตายสิ คังอินบ่นในใจ (หลงตัวเองเหมือนฮีซอลเลยนะป๋าเนี่ย!)
“มีข่าวใหญ่ มีข่าวใหญ่” เพื่อนร่างท้วมนามว่า ชินดง วิ่งกระหืดกระหอบเหงื่อท่วมตัวมาที่ห้องเรียกความสนใจของเพื่อนได้มิใช่น้อย
“มีข่าวอะไรไอ้อ้วน” คังอินพูดขึ้น
“ไอ้อ้วนงั้นหรอ ที่บ้านมีกระจกก็หัดส่องซะบ้างนะไอ้อืด” ชินดงแย้งขึ้น ไอ้บ้านี่ปากอยากกินตรีนรึไงดูมันพูด มันเองก็กำลังจะอ้วนพอๆกันยังจะมาปากดีอีก..ไอ้อืดเอ้ย!!
“หน๋อย!! เดี๋ยวปัดจับย่างไฟกินเลย” คังอินพูดอย่างหัวเสีย ในห้องเป็นที่รู้กันดีว่าถ้าสองคนนี้อยู่ใกล้กันเมื่อไหร่ การโต้วาทีก็จะเกิดขึ้นทันที โดยมีหัวข้อว่า..ไอ้อืดและไอ้อ้วน
“จะทะเลาะกันทำไมเนี่ย!! มีข่าวอะไรหรอชินดง” ฮันเกิงพูดขัดคนทั้งสอง
“ชั้นได้ข่าวมาว่า เจ้าหญิงถูกพวกแฟนคลับนายพาไปที่หลังโรงเรียน ป่านนี้จะเป็นอย่างไงบ้างยังไม่รู้เลย” เมื่อชินดงพูดจบ ฮันเกิงก็วิ่งลิ่วไปที่หลังโรงเรียนทันที และตามติดมาด้วยคังอินและชินดง
หลังโรงเรียน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย” คังอินที่วิ่งตามมาพูดขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นเหล่าบรรดาหญิงสาวนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น แต่ฮันเกิงกลับดูนิ่งสงบหรือที่เค้าเรียกว่า อึ้งกิมกี่ ก็ว่าได้
“เค้ามีสงครามกันรึไง!! รึเมนท์ยัยพวกนี้ไหลกันวะ?” ชินดงพูดติดตลกแต่เพื่อนทั้งสองไม่ตลกเลย ฮันเกิงค่อยๆเดินแหวกไปตามทางเพื่อมองหาร่างบางที่อาจจะสลบอยู่ตรงไหนก็เป็นไปได้..... เค้าเป็นห่วงเหลือเกิน ทำไมเค้าถึงมีความรู้สึกอย่างนี้นะไม่เคยเป็นมาก่อน
“อยู่ไหนวะเนี่ย!” ฮันเกิงบ่นอย่างหัวเสีย เมื่อหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ แต่กลับเจอกระเป๋าสตางค์ที่มีรูปร่างบางตกอยู่ฮันเกิงจึงหยิบมันขึ้นมาทันที
“ของฮีซอลนี่หว่า!! ประเป๋าอยู่นี่แล้วคนอยู่ไหนหล่ะเนี่ย” ฮันเกิงกระวนกระวายเข้าไปใหญ่อาจจะโดนฆ่าหมกป่าไปแล้วก็เป็นไปได้ เค้าจึงเดินลงไปแหวกป่าข้างทางดู
“ฮีซอล นายอยู่ไหนหน่ะ?” ฮันเกิงตะโกนออกมา เพื่อนทั้งสองก็ช่วยเค้าหาร่างบางด้วยเช่นกัน
“ชั้นอยู่นี่!!” เสียงเจื้อยแจ๊วของใครบางคนดังขึ้น ถ้าจำไม่ผิดมันเสียง..ฮีซอล..นี่นา ฮันเกิงจึงรีบแหวกพงหญ้าเร็วขึ้นเพื่อที่จะหาร่างบางที่ส่งเสียงขานรับ
“นายอยู่ตรงไหนนะ” ฮันเกิงตะโกนมาอีกครั้ง
“อยู่ตรงนี้ไง...อยู่ข้างหลังนาย หาอะไรกันอยู่หรอ?ช่วยหามั๊ย!!” ฮีซอลทำหน้าตาสงสัยและชะโงกหัวมาดูว่าฮันเกิงกำลังหาอะไรอยู่
“นะ นายมาอยู่นี่ได้ไง” ฮันเกิงพูดเสียงตะกุกตะกัก
“ชั้นทำกระเป๋าสตางค์หายหน่ะ พวกนายเห็นรึเปล่า?” ฮีซอลบอกความปราศนาที่เค้าเดินย้อนกลับมาที่หลังโรงเรียน
“อันนี้ใช่มั๊ย?” ฮันเกิงชูกระเป๋าสตางค์สีแดงใบสวยตรงหน้าฮีซอล
“อืม !!ขอบใจนะ แล้วมาทำอะไรกันยังไม่ได้ตอบเลย” ฮีซอลหยิบกระเป๋าคืนและมองหน้าฮันเกิง มองซะแทบจะทะลุลงไปเห็นตับไตไส้พุงเลย
“มา มาหานายนั่นแหละ..นึกว่าโดนฆ่าหมกป่าไปแล้ว” ฮันเกิงหลบสายตาที่จ้องมองคู่นั้น ผมถึงกับยิ้มออกมาไอ้หน้าหล่อนี่มันใช้อะไรคิดนะ คนอย่างคิม ฮีซอล นี่นะจะถูกฆ่าหมกป่า ไปมีทางหรอก!!คนอย่างผมเคยแต่ฆ่าคนอื่นหมกป่า..ฮิ ฮิ
“เป็นห่วงหรอ?” นั่นๆไอ้หมอนี่หน้าแดงด้วย น่ารักชะมัด(^U^) คิม ฮีซอลหล่ะเป็นปลื้ม
“ปะ เปล่าซะหน่อย” ยังจะมาปากแข็งอีกเดี๋ยวก็จูบซะให้ปากอ่อนยวบเลย น่านๆหื่นอีกแล้วเรา
“ไม่เป็นไรฉันรู้ว่านายเป็นห่วง ส่งมือมาสิ” ผมก็ไม่ใช่คนโง่นะที่จะไม่รู้ว่าฮันเกิงน่ะเป็นห่วงผม ผมจึงส่งมือไปให้เค้าจับเพื่อที่เค้าจะได้ขึ้นมาจากพงหญ้านั่นซะที เพราะผมไม่อยากที่จะอุ้มเค้าส่งโรงพยาบาลเพราะโดนงูกัดตาย ผมยิ่งตัวเล็กๆอยู่ด้วยอุ้มไปไม่ไหวหรอก
“มองอะไรหล่ะ” ผมมองไอ้อืดกับไอ้อ้วนที่หน้าตาไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ ที่จ้องหน้าผมเหมือนจะกลืนกินมันลงไปเลย...
“ส่งมือมาให้จับหน่อยสิ ผมสองคนขึ้นไปไม่ได้” คังอินยิ้มหยาดเยิ้มให้
“ถ้าขึ้นไม่ได้ก็ไม่ต้องขึ้น” ส่งสายตาเย็นไปให้ ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้ฮันเกิง ที่แอบลอบหัวเราะเยอะเพื่อนที่เป็นแฟนคลับตัวยงของผม
“ไปกันยัง!!หิวข้าวแล้วนะ” ผมเอามือลูบท้องไปมาแล้วทำหน้าน่ารัก
“อืม” ฮันเกิงเดินจูงมือผมไปโดยที่ไม่ได้สนใจเพื่อนทั้งสองที่หวังดีมาช่วยหาผมเป็นเพื่อน
“หยั่งนี้ทุกที!! พอมีความสุขแล้วลืมเพื่อนเลย” ชินดงบ่นอุบอิบเมื่อกำลังตะเกียดตะกายขึ้นมาจากพงหญ้าข้างทาง
“ใช่!!ไอ้อ้วน” คราวนี้ชินดงไม่โต้กลับแต่ใช้อุ้งตรีนถีบไอ้อืดลงไปข้างล่างอย่างไม่ใยดี
“ไอ้อ้วน!! มึงนะมึง....” คังอินรีบลุกขึ้นทันที และกระชากขาชินดงลงมา ร่างท้วมกลิ้งลงมาตามทางที่ราดลงเหมือนโบลลิ่งที่ไหลย้อนลงไป และคังอินเป็นพิลที่ตั้งอยู่ โครม!! ร่างของชินดงกลิ้งไปชนคังอินอย่างจัง จนคังอินล้มลงไปนอนกับพื้นและถูกทับด้วยร่างอันอ้วมท้วมของชินดงฮี เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด!!
.
.(ยังไม่จบนะคะ เหลืออีก1ตอน)
.
.เม้นท์ยาวๆๆๆ+โหวตให้ด้วยนะคะ
.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น