ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ShotFic: [Super Junior]~ yaoi~

    ลำดับตอนที่ #5 : เรื่อง ฉันรักนายผู้ชายเอาแต่ใจ [ ฮันเกิงVSฮีซอล ] 3

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 51


     
    อ่านให้สนุกนะ เม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วย
    อย่าลืม!!ไปอ่าน Fic: See. กับ Fic: Friend นะคะ
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    ม.ปลายห้อง 3c
     
          บรรยากาศที่แสนจะวุ่นวายในห้องเรียนทำให้คนอย่างผมถึงกับเดือด อะไรกัน!!ที่มันห้องนะไม่ใช่ตลาดสดแต่ผมก็ต้องข่มใจเอาไว้ เพราะตอนนี้ผมกำลังตื้นตันกับคำนินทาของคนทั้งโรงเรียน ที่พูดถึงเรื่องผมกับฮันเกิง..ใช่!!มันมีทั้งคำชมทั้งคำด่าและคำคาดโทษ ผมมีความสุขชะมัดที่มีแต่คนพูดถึงเรื่องนี้ ถ้าจะถามผมว่าผมกลัวพวกแฟนคลับฮันเกิงจะมาตบมั๊ย? บอกได้คำเดียว...ไม่กลัว..และก็ท้าด้วยถ้ากล้ามาแหยมกับ คิม ฮีซอล คนนี้หล่ะก็ไม่ตายดีหรอก โฮ๊ะๆๆๆ ผมเป็นเจ้าหญิงหรือแม่มดเนี่ย?
     
    “ฮีซอลเพื่อนเลิฟ เรื่องเมื่อเช้ามันหมายความว่าไง บอกมาซะดีๆ” มาแล้วๆเสียงแหลมๆแบบนี้จะมีใครที่ไหนนอกจาก ลี ซองมิน เพื่อนกระต่ายน้อยของผม
     
    “เรื่องอะไร?” ผมทำเป็นไม่รู้เรื่องทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่าซองมินมาถามเรื่องอะไร
     
    “ก็เรื่องฮันเกิง ห้อง3aไง ทำไมเมื่อเช้ามาด้วยกันหล่ะ แถมยังนั่งซ้อนท้ายจักรยานมาอีก..นายรู้มั๊ยนายโดนหมายหัวจากพวกแฟนคลับฮันเกิงแล้วนะตอนนี้..ชั้นหล่ะสงสารคนพวกนั้นจริงๆ” ซองมินเอ่ยบอกอย่างตกใจและเป็นห่วง กลัวพวกแฟนคลับจะมีอันตราย ฟังไม่ผิดหรอก!! ซองมินมันกลัวพวกแฟนคลับจะมีอันตรายจริงๆ เพราะผมมีคอนเซ็ปอยู่ว่า ...ใครทำให้ผมเจ็บเท่าไหร่ ผมจะทำให้มันเจ็บคืนเป็นร้อยเท่า...555+นางเอกผู้แสนดี
     
    “อืม!! งั้นหรอ” ผมตอบรับอย่างอารมณ์ดี
     
    “แล้วเรื่องที่ถามหล่ะ บอกมาซะดีๆ”นายนี่มันความจำดีจริงๆไอ้เรื่องอย่างนี้ เรื่องของคนอื่นเนี่ย!!
     
    “ฮันเกิงเค้าหลงเสน่ห์ชั้นหล่ะมั้ง..ดูสิชั้นสวยมั๊ย?!!” ผมสะบัดผมที่ยาวประบ่าให้ไปด้านหลัง คนในห้องต่างหันมามองเป็นตาเดียวกัน
     
    “สวย!!” เป็นไงผู้ชายในห้องต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน ทั้งๆที่ผมคุยกับซองมินแค่สองคน คนแบบนี้เค้าเรียกว่าอะไรนะ. อ้อ!!นึกออกแล้ว....เสือก..นั่นเอง....เอาอีกแล้วปากกรรไกรเข้าสิงอยู่เรื่อยเลย และในที่สุดเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึงซะที เวลาอะไรอย่างงั้นอ่ะหรอ? คอยดูเองแล้วกัน.......
     
    “คนไหนชื่อฮีซอล ออกมานี่เดะ” นั่นไงลูกสมุนยัยเจสห้อง 3d มาเรียกผมแล้ว ใครในโรงเรียนมัธยมควังอันจะไม่รู้ชื่อเสียงของ ยัยเจสสิก้า ห้อง 3d ก็บ้าแล้ว เพราะยัยเนี่ยมันนักเลงชัดๆ แถมยังบ้าฮันเกิงอีกตั้งหาก ผมเคยได้ข่าวมาว่า....มีเด็กผู้หญิงปี2คนหนึ่งเดินเข้าไปจับมือฮันเกิงแล้วเอ่ยบอกรัก พอดียัยเจสเห็นเข้า ยัยเด็กนั่นอีก1ชั่วโมงถูกหามส่งโรงพยาบาลเฉยเลย และมีข่าวลือว่า ยัยเจสกับพวกไปรุมตบเอาหน่ะ คนในโรงเรียนได้แต่รักฮันเกิงอยู่ห่างๆแต่จะให้เดินเข้าไปถูกเนื้อต้องตัวฮันเกิง ไม่เสี่ยงชีวิตด้วยหรอก~ แต่คนอย่างผมมันกล้าเมื่อเช้าเลยนั่งซ้อนท้ายจักรยานและกอดเอวฮันเกิงมาซะแน่นเลย 55+ สะใจคนสวย
     
    “อยู่นี่!!มีอะไร รึเปล่า?” ผมเดินออกไปประจันหน้ากับพวกนั้น
     
    “ออกมาเจอกันหลังโรงเรียนดิ” กล้าท้าคนอย่าง คิม ฮีซอล งั้นหรอ ได้เลย!! จัดไป...
     
    “ได้ !!ไม่มีปัญหาเมื่อไหร่หล่ะ” 
     
    “ตอนนี้” ดูสายตาที่ยัยหน้าปลาดุกนี่มองผมสิ จะกินผมรึไง!!มิทราบ เดี๋ยวแม่ก็ตบตาหลุดเลย ใจเย็นไว้ๆ ฟู่!! อย่าให้ใครเค้ารู้ว่านายเป็นคนอย่างไง เดี๋ยวภาพพจน์ของเจ้าหญิงประจำควังอันจะเสียหมด..
     
    “อืม” ผมเดินตามพวกมันออกไปอย่างว่าง่าย แต่โดนมือหนึ่งรั้งเอาไว้ผมจึงหันมามอง
     
    “อย่าให้ถึงกับตายนะฮีซอล” ซองมินมองผมอย่างหวาดๆ
     
    “ไม่ตายหรอกน่า แต่มาโรงเรียนไม่ได้ 3 เดือนก็เท่านั้นเอง” ผมยิ้มหวานให้เผื่อว่าเพื่อนคนนี้สบายขึ้น แต่มันไหงหน้าหงอยว่าเดิมหล่ะ ไม่เอาและไม่สนใจไปดีกว่า!!
     
    “ไปแล้วนะ”   ว่าแล้วผมก็เดินตามหลังยัยพวกหน้าปลาดุกไป
     
     
     
     
     
    หลังโรงเรียน
            ที่จริงหลังโรงเรียนเนี่ยไม่ค่อยจะมีคนมาซักเท่าไหร่หรอก เพราะมันรกมากถ้าจะมีคนก็คงจะเป็นไอ้พวกโดดเรียนหรือไม่ก็พวกที่มาแอบสูบบุหรี่กัน พูดง่ายๆแหล่งรวม..พวกเหลือเดนของโรงเรียน ผมมองไปรอบๆก็เจอกลุ่มผู้หญิงเกือบ40คนแต่ไม่ยักกระเห็นยัยเจสสิก้า พวกมันคงดูถูกผมน่าดู น่าโมโหจริง!!
     
    “มีอะไรก็รีบๆพูดมา ไม่ค่อยมีเวลา” ผมพูดเสียงเรียบออกไป เพื่อยั่วโมโหยัยพวกนี้
     
    “โฮะ!ปากดีจังนะ อยากหน้าเละรึไง” ยัยหัวฟูคนหนึ่งหยิบคัดเตอร์ขึ้นมาและรูดมันขึ้น
     
    “จุ๊ๆๆเป็นสาวเป็นแซ่หัดพกคัดเตอร์ ไม่น่ารักเลย” ผมยกนิ้วขึ้นมาจุ๊ปากและส่ายหน้าอย่างระอา
     
    “หน๋อย!! ปากดีอย่างนี้ขอซักทีเถอะนะ...เพี๊ยะ!!” เสียงใบหน้าของใครบางคนถูกตบ..อยากรู้ใช่มั๊ยว่าหน้าใคร?โฮ๊ะๆๆ ก็หน้าผมไง โอ๊ย!! เจ็บชะมัด ทำไมผมถึงยอมให้พวกนี้ตบน่ะหรอก็บอกแล้วไง...ใครทำให้ผมเจ็บเท่าไหร่ ผมจะทำให้มันเจ็บคืนเป็นร้อยเท่า...
     
    “ทำได้แค่นี้งั้นหรอ” ผมเช็ดเลือดตรงมุมปาก แล้วก็ฉีกยิ้มมุมปากแบบเย้ยหยัน
     
    “งั้นเอาอีกทีเป็นไง........เพี๊ยะ!!”  ทายซิคราวนี้เป็นเสียงหน้าของใครเอ่ย? ปิ๊งป่อง! ถูกต้องแล้วคร้าบบบ เสียงของใบหน้ายัยหัวฟูไง ดูสิหน้าหันเลยแล้วอะไรกระเด็นออกมานะ ถ้าจำไม่ผิดคงเป็น..ฟัน..หละมั้ง มือหนักแฮะเรา!!
     
    “กรี๊ด!! ฟันชั้น ยืนเซ่ออยู่ทำไมหล่ะ รุมมันสิ!!” ยัยหัวฟูมองพวกข้างหลังที่มองหน้ากันอย่างเหริกหรัก ก่อนจะกรูกันเข้ามาหาฮีซอล
     
    ปั๊ก!! เพ๊อะ !! กรี๊ด!! เพี๊ยะ !! เพล้ง!!  ตุ๊บตั๊บ!! (เสียงอะไรกันเนี่ย?)(-O-)?
     
          ในที่สุดยัยพวกนั้นก็ลงมานอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น ผมทำแรงไปรึเปล่านะ..แล้วอะไรในมือผมหน่ะ ...เหล็กแท่ง.. ผมหยิบมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย..ช่างมันเหอะผมไม่สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว   ว่าแล้วผมก็โยนแท่งเหล็กลงในป่าข้างๆและก็ปัดฝุ่นที่มือ ลัล ลัลลัลล้า~ ผมเดินจากไปด้วยรอยยิ้มและเสียงเพลง มีความสุขจัง!!
     
     
     
     
     
    ม.ปลายห้อง 3a
     
    “ฮันเกิงนายบังอาจมากนะที่มากับเจ้าหญิงของชั้น” เพื่อนรักของฮันเกิงนามว่าคังอิน กำลังบ่นกระปอดกระแปดอย่างกับคนแก่ เมื่อฮันเกิงเอาเจ้าหญิงในดวงใจซ้อนท้ายจักรยานมาโรงเรียน
     
    “เค้าเป็นของนายตั้งแต่เมื่อไหร่?” ละสายตาจากตำราอาหารมามองหน้าคังอิน จะมีใครรู้บ้างนะว่าหนุ่มป็อปคนนี้เป็นคนชอบทำอาหาร
     
    “เอ่อคือ..........” อ้ำอึ้งๆไม่รู้จะตอบอย่างไง
     
    “ตอบไม่ได้ใช่มั๊ย?” หันกลับมาอ่านหนังสือเหมือนเดิม
     
    “เรื่องของชั้นเถอะน่า...แล้วเรื่องเจ้าหญิงน่ะว่าไง” เมื่อตอบไม่ได้ก็เปลี่ยนเรื่องทันที
     
    “เค้าคงหลงเสน่ห์ชั้นหล่ะมั้ง” ฮันเกิงหันมายิ้มหวานให้เพื่อนรักที่ยิ้มเจือนๆให้...โรคหลงตัวเองนี่ไม่เข้าใครออกใครจริงๆเลยให้ตายสิ คังอินบ่นในใจ (หลงตัวเองเหมือนฮีซอลเลยนะป๋าเนี่ย!)
     
    “มีข่าวใหญ่ มีข่าวใหญ่” เพื่อนร่างท้วมนามว่า ชินดง วิ่งกระหืดกระหอบเหงื่อท่วมตัวมาที่ห้องเรียกความสนใจของเพื่อนได้มิใช่น้อย
     
    “มีข่าวอะไรไอ้อ้วน” คังอินพูดขึ้น
     
    “ไอ้อ้วนงั้นหรอ ที่บ้านมีกระจกก็หัดส่องซะบ้างนะไอ้อืด” ชินดงแย้งขึ้น ไอ้บ้านี่ปากอยากกินตรีนรึไงดูมันพูด มันเองก็กำลังจะอ้วนพอๆกันยังจะมาปากดีอีก..ไอ้อืดเอ้ย!!
     
    “หน๋อย!! เดี๋ยวปัดจับย่างไฟกินเลย” คังอินพูดอย่างหัวเสีย ในห้องเป็นที่รู้กันดีว่าถ้าสองคนนี้อยู่ใกล้กันเมื่อไหร่ การโต้วาทีก็จะเกิดขึ้นทันที โดยมีหัวข้อว่า..ไอ้อืดและไอ้อ้วน
     
    “จะทะเลาะกันทำไมเนี่ย!! มีข่าวอะไรหรอชินดง” ฮันเกิงพูดขัดคนทั้งสอง
     
    “ชั้นได้ข่าวมาว่า เจ้าหญิงถูกพวกแฟนคลับนายพาไปที่หลังโรงเรียน ป่านนี้จะเป็นอย่างไงบ้างยังไม่รู้เลย” เมื่อชินดงพูดจบ ฮันเกิงก็วิ่งลิ่วไปที่หลังโรงเรียนทันที และตามติดมาด้วยคังอินและชินดง
     
     
     
     
     
    หลังโรงเรียน
     
    “นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย” คังอินที่วิ่งตามมาพูดขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นเหล่าบรรดาหญิงสาวนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น    แต่ฮันเกิงกลับดูนิ่งสงบหรือที่เค้าเรียกว่า อึ้งกิมกี่ ก็ว่าได้
     
    “เค้ามีสงครามกันรึไง!! รึเมนท์ยัยพวกนี้ไหลกันวะ?” ชินดงพูดติดตลกแต่เพื่อนทั้งสองไม่ตลกเลย ฮันเกิงค่อยๆเดินแหวกไปตามทางเพื่อมองหาร่างบางที่อาจจะสลบอยู่ตรงไหนก็เป็นไปได้..... เค้าเป็นห่วงเหลือเกิน ทำไมเค้าถึงมีความรู้สึกอย่างนี้นะไม่เคยเป็นมาก่อน
     
    “อยู่ไหนวะเนี่ย!” ฮันเกิงบ่นอย่างหัวเสีย เมื่อหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ แต่กลับเจอกระเป๋าสตางค์ที่มีรูปร่างบางตกอยู่ฮันเกิงจึงหยิบมันขึ้นมาทันที 
     
    “ของฮีซอลนี่หว่า!! ประเป๋าอยู่นี่แล้วคนอยู่ไหนหล่ะเนี่ย” ฮันเกิงกระวนกระวายเข้าไปใหญ่อาจจะโดนฆ่าหมกป่าไปแล้วก็เป็นไปได้ เค้าจึงเดินลงไปแหวกป่าข้างทางดู
     
    “ฮีซอล นายอยู่ไหนหน่ะ?” ฮันเกิงตะโกนออกมา เพื่อนทั้งสองก็ช่วยเค้าหาร่างบางด้วยเช่นกัน
     
    “ชั้นอยู่นี่!!” เสียงเจื้อยแจ๊วของใครบางคนดังขึ้น ถ้าจำไม่ผิดมันเสียง..ฮีซอล..นี่นา ฮันเกิงจึงรีบแหวกพงหญ้าเร็วขึ้นเพื่อที่จะหาร่างบางที่ส่งเสียงขานรับ
     
    “นายอยู่ตรงไหนนะ” ฮันเกิงตะโกนมาอีกครั้ง
     
    “อยู่ตรงนี้ไง...อยู่ข้างหลังนาย หาอะไรกันอยู่หรอ?ช่วยหามั๊ย!!” ฮีซอลทำหน้าตาสงสัยและชะโงกหัวมาดูว่าฮันเกิงกำลังหาอะไรอยู่
     
    “นะ นายมาอยู่นี่ได้ไง” ฮันเกิงพูดเสียงตะกุกตะกัก
     
    “ชั้นทำกระเป๋าสตางค์หายหน่ะ พวกนายเห็นรึเปล่า?” ฮีซอลบอกความปราศนาที่เค้าเดินย้อนกลับมาที่หลังโรงเรียน
     
    “อันนี้ใช่มั๊ย?” ฮันเกิงชูกระเป๋าสตางค์สีแดงใบสวยตรงหน้าฮีซอล
     
    “อืม !!ขอบใจนะ แล้วมาทำอะไรกันยังไม่ได้ตอบเลย” ฮีซอลหยิบกระเป๋าคืนและมองหน้าฮันเกิง มองซะแทบจะทะลุลงไปเห็นตับไตไส้พุงเลย
     
    “มา มาหานายนั่นแหละ..นึกว่าโดนฆ่าหมกป่าไปแล้ว” ฮันเกิงหลบสายตาที่จ้องมองคู่นั้น ผมถึงกับยิ้มออกมาไอ้หน้าหล่อนี่มันใช้อะไรคิดนะ คนอย่างคิม ฮีซอล นี่นะจะถูกฆ่าหมกป่า ไปมีทางหรอก!!คนอย่างผมเคยแต่ฆ่าคนอื่นหมกป่า..ฮิ ฮิ
     
    “เป็นห่วงหรอ?” นั่นๆไอ้หมอนี่หน้าแดงด้วย น่ารักชะมัด(^U^) คิม ฮีซอลหล่ะเป็นปลื้ม
     
    “ปะ เปล่าซะหน่อย” ยังจะมาปากแข็งอีกเดี๋ยวก็จูบซะให้ปากอ่อนยวบเลย น่านๆหื่นอีกแล้วเรา
     
    “ไม่เป็นไรฉันรู้ว่านายเป็นห่วง ส่งมือมาสิ” ผมก็ไม่ใช่คนโง่นะที่จะไม่รู้ว่าฮันเกิงน่ะเป็นห่วงผม ผมจึงส่งมือไปให้เค้าจับเพื่อที่เค้าจะได้ขึ้นมาจากพงหญ้านั่นซะที เพราะผมไม่อยากที่จะอุ้มเค้าส่งโรงพยาบาลเพราะโดนงูกัดตาย ผมยิ่งตัวเล็กๆอยู่ด้วยอุ้มไปไม่ไหวหรอก
     
    “มองอะไรหล่ะ” ผมมองไอ้อืดกับไอ้อ้วนที่หน้าตาไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ ที่จ้องหน้าผมเหมือนจะกลืนกินมันลงไปเลย...
     
    “ส่งมือมาให้จับหน่อยสิ ผมสองคนขึ้นไปไม่ได้” คังอินยิ้มหยาดเยิ้มให้
     
    “ถ้าขึ้นไม่ได้ก็ไม่ต้องขึ้น” ส่งสายตาเย็นไปให้ ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้ฮันเกิง ที่แอบลอบหัวเราะเยอะเพื่อนที่เป็นแฟนคลับตัวยงของผม
     
    “ไปกันยัง!!หิวข้าวแล้วนะ” ผมเอามือลูบท้องไปมาแล้วทำหน้าน่ารัก
     
    “อืม” ฮันเกิงเดินจูงมือผมไปโดยที่ไม่ได้สนใจเพื่อนทั้งสองที่หวังดีมาช่วยหาผมเป็นเพื่อน
     
    “หยั่งนี้ทุกที!! พอมีความสุขแล้วลืมเพื่อนเลย” ชินดงบ่นอุบอิบเมื่อกำลังตะเกียดตะกายขึ้นมาจากพงหญ้าข้างทาง
     
    “ใช่!!ไอ้อ้วน” คราวนี้ชินดงไม่โต้กลับแต่ใช้อุ้งตรีนถีบไอ้อืดลงไปข้างล่างอย่างไม่ใยดี
     
    “ไอ้อ้วน!! มึงนะมึง....” คังอินรีบลุกขึ้นทันที และกระชากขาชินดงลงมา ร่างท้วมกลิ้งลงมาตามทางที่ราดลงเหมือนโบลลิ่งที่ไหลย้อนลงไป และคังอินเป็นพิลที่ตั้งอยู่ โครม!! ร่างของชินดงกลิ้งไปชนคังอินอย่างจัง จนคังอินล้มลงไปนอนกับพื้นและถูกทับด้วยร่างอันอ้วมท้วมของชินดงฮี เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด!!
    .
    .(ยังไม่จบนะคะ เหลืออีก1ตอน)
    .
    .เม้นท์ยาวๆๆๆ+โหวตให้ด้วยนะคะ
    .
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×