ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ShotFic: [Super Junior]~ yaoi~

    ลำดับตอนที่ #3 : เรื่อง ฉันรักนายผู้ชายเอาแต่ใจ [ ฮันเกิงVSฮีซอล ] 1

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 51


     
     เม้นท์ให้ด้วยนะคะ..........
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------    

    อากาศกลางเดือนเมษานี่มันร้อนจริงๆ พวกคุณว่ามั๊ย? ผมว่าอากาศแบบนี้มันสามารถทำให้ผมเป็นบ้าได้เลยหล่ะ อากาศแบบนี้ก็ต้องกินแตงโมสิ ก็แตงโมเป็นผลไม้ที่ประสิทธิภาพในการดับร้อนไงโฮ๊ะๆๆๆๆ ตอนนี้ผมกำลังนอนแอ้งแม้งอยู่ในคอนโดสุดหรูของผมกับสุดที่รักนามว่า.....ฮันเกิง
     
    ดาร์หริง ร้อนจังเลยมาพัดให้หน่อยสิ     ตอนนี้ผมกำลังอ้อนสุดที่รักของผมที่กำลังอ่านตำราทำอาหารให้เดินมาพัดลมเย็นๆให้หน่อย
     
    พัดเองสิ ชั้นไม่ว่างนายไม่เห็นรึไง ฮันเกิงขยับแว่นตาเล็กน้อยและอ่านหนังสือต่อ
     
    อะไรกัน สุดที่รักของนายกำลังร้อนนะ ลงมาซะดีๆ แฟนนายกำลังจะเป็นบ้าตายเพราะความร้อนนายยังมีหน้ามาอ่านหนังสือบ้าๆนั่นอยู่หรอให้ตายสิ
     
    ก็ได้ๆ นายนี่เอาแต่ใจจัง ว่าแล้วฮันเกิงก็ลงมานั่งกับพื้นแล้วโบกพัดไปมา
     
    เย็นจัง...ฮันเกิง~” ให้ตายสิพอตัวเย็นขึ้นมาผมก็อยากให้ท้องน้อยๆของผมเย็นไปด้วย
     
    อะไร  น้ำเสียงไร้เยื่อใยเหลือเกิน
     
    อยากกินแตงโมจัง
     
    แล้วทำไม
     
    ไปเอาให้หน่อยสิ นะ นะ ผมเขย่าขาฮันเกิงไปมา แล้วก็ส่งสายตาวิ๊งๆๆเป็นการขอร้อง
     
    ฮีซอล ชั้นเป็นแฟนนายนะไม่ใช่คนรับใช้ อ๊าก!! ไอ้ตี๋น้อยเดี๋ยวนี้คัยสั่งใครสอนให้แกเฉียงชั้นห๊ะ อย่างนี้ต้องโดนท่าไม้ตาย
     
    ซิก ซิก ฮันเกิงไม่รักเค้าแล้ว น้ำตาเม็ดน้อยๆไหลจากดวงตากลมโตของผม 55+ ตี๋น้อยชั้นรู้นายเป็นพวกแพ้น้ำตา
     
    อย่าร้องไห้สิ ก็ได้ๆ สุดท้ายร่างสูงก็เดินหายลับเข้าไปในห้องครัว
     
    มีแฟนดี ก็ดีอย่างนี้แหละ 
     
    มาแล้วครับ แตงโมเย็นๆ เย้!!ๆ แตงโมสีแดงสดเย็นมาแล้ว ผมลุกขึ้นนั่งทันที
     
    อ้ำ.....อะ อร่อย เมื่อรสชาติของแดงโมซึมเข้าปาก มันก็แทบจะละลายบนลิ้นเลย โอ๊ย อร่อยชะมัด
     
    กินเยอะๆหล่ะ ฮันเกิงยิ้มให้ผม ผมชอบรอยยิ้มนี้จังมันดูจริงใจดี และอบอุ่นทุกครั้งที่จ้องมอง
     
    อืม นายก็กินด้วยสิ พอความเย็นมันซึมซาบเข้าเม็ดเลือดผม เลเวลความเอาแต่ใจก็จบฮวบจนเกือบติดศูนย์
     
    ไม่หล่ะ เห็นนายกินชั้นก็อิ่มแล้วหล่ะ น่านนนน นั่นไงมุขเสี่ยวของแฟนผม
     
    อืม ผมยิ้มตอบรับน้อยๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าไอ้มุขเสี่ยวของตี๋น้อยมันทำให้ผมหน้าแดงและหัวใจเต้นแรงซะทุกครั้งไป
     
     
     
     
     
     
     
     
    กริ๊ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
    ตื่นได้แล้วลูกกกกก ฮีซอล เสียงมารร้ายประจำบ้านปลุกผมจากการหลับนิทราอีกแล้ว ตลอด 18 ปีที่เกิดมาผมได้ยินเสียงนี้ทุกเช้าเลย
     
    อีก 10 นาทีนะฮะแม่ ผมยื่นมือไปกดปุ่มบนหัวมังกรนาฬิกาปลุกของผม และเอ่ยเสียงเอื่อยๆออกมาให้แม่ที่ยืนอยู่หน้าประตูห้อง
     
    ไม่มี10นาทีลุกเดี๋ยวนี้ คิม-ฮี-ซอล หงุดหงิดโว๊ย!! กำลังฝันดีๆเลย
     
    ฮะแม่ ลุกแล้ว ผมค่อยๆลากสังขารอันไร้เรื่อยแรงเข้าห้องน้ำไป
     
    อย่าคิดหลับในห้องน้ำหล่ะ ถ้าหลับชั้นพังประตูไปตีแกแน่ ให้ตายสิแม่ผมนี่เดาแม่นจริงๆเลย อย่างนี้น่าจะเปิดสำนักดูดวงให้ซะแล้ว
     
    ฮะแม่
     
     
    20 นาทีต่อมา~
     
    จะกินข้าวเช้ามั๊ย เมื่อผมลงมาข้างล่างนี่ก็คือคำแรกที่แม่เอ่ยทักทายผม
     
    เหมือนเดิมฮะแม่ งงล่ะสิอะไรเหมือนเดิม
     
    ขนมปัง 1 แผ่น นม 1 กล่องใช่มั๊ย แม่หันมายิ้มหวานให้อีกแล้ว จะว่าไปแม่ผมก็ได้ตำแหน่ง Miss Korea มา ถึงว่าผมถึงหน้าตายังกะเทพธิดา ไม่มีเค้าความเป็นผู้ชายเลย แต่ก็ดีก็เพราะผมมันเป็นเคะนี่นา
     
    พ่อไปไหนอ่ะ ยังไม่เห็นหน้าเลยตั้งแต่ลงมา ทุกครั้งที่ผมลงมา ผมก็ต้องเห็นพ่อนั่งงานหนังสือพิมพ์ที่โต๊ะกินข้าวแต่วันนี้แปลกแสนแปลกสามีแม่หายไปไหน
     
    พ่อต้องบินไปดูงานที่ปารีสน่ะ
     
    คับ ผมหยิบขนมปังเข้าปากและต่อด้วยนมอย่างรวดเร็ว ถ้าผมไปแข่งกินเร็วคงจะชนะไปแล้วโฮ๊ะๆๆๆ
     
    กินช้าๆก็ได้ เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก แม่มีลูกคนเดียวนะ ใช่แล้วผมเป็นลูกคนเดียว ผมก็เลยถูกเลี้ยงมาอย่างเอาแต่ใจ แต่การเอาแต่ใจของผมมันก็อยู่ในขอบเขตของแม่ อย่างนี้จะเรียกว่าเอาแต่ใจรึเปล่านะ
     
    ครับ....ไปแล้วนะฮะ ผมมองไปบนนาฬิกาอะไรกันเข็มสั้นชี้เลข 7 แล้วไอ้เข็มยาวชี้เลข 10 อ๊าก!! 7.50 แล้วหรอเนี่ยต้องไปอย่างด่วน
     
    ไปดีมาดีนะลูก แม่ยืนไปโบกมือลาให้ผมหน้าบ้าน
     
    ครับ ตาผมมุ่งตรงไปยังทางข้างหน้า ขาผมนี่เหมือนม้าเลยมันวิ่งไปด้วยความเร็วสูง แต่ โครม!! ตัวผมลอยลิ่วไปข้างหน้า ไอ้บ้าที่ไหนขี่รถจักรยานมาชนผมนะ โอ๊ย!! หน้าหล่อๆของผมวัดไปกับพื้นถนนเลย เสียโฉมรึเปล่านะ
     
    ไอ้บ้าเอ้ย มีตาไว้เป็นผัวยายรึไงวะ นั่นไงหน้าสวยๆของผมไม่ค่อยเหมาะกับปากกรรไกรนี่เลยให้ตายสิ แต่ผมก็ชอบมันเพราะเวลามันกัด มันจิกใคร คนนั้นมักจะเจ็บแสบกับคำพูดผมเสมอ
     
    ขะ ขอโทษ ไอ้คนที่ขี่จักรยานมา หน้ามันก็ลงไปวัดพื้นเหมือนกับผมนั่นแหละ ไหนขอดูหน้าชัดๆดิ
     
    ฮะ ฮันเกิง อ๊าก!!ให้ตายสินั่นฮันเกิงที่อยู่ห้อง 3a ใช่มั๊ย กรรมมีแต่บุญบังจริงๆ กรรมก็คือผมเจ็บตัว ส่วนบุญก็คือ คนที่ทำให้ผมเจ็บตัวก็คือ ลี ฮันเกิง ที่หมายปองของคนเกือบทั้งโรงเรียน ผมนี่โชคดีหรือโชคร้ายเนี่ยT^T
     
    เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ ฮันเกิงค่อยๆลุกขึ้นจากพื้นและเดินตรงมายังผมและยื่นมือให้
     
    มะ ไม่เป็นไร ผมยื่นมือให้เค้าจับ ตัวผมตอนนี้เหมือนกับคนไร้สติ หน้าของผมมันแดงก่ำ หัวของผมมันก็ตื๊บๆๆ ย้ำตื๊บๆๆๆ คนมีความรักหัวมันตื๊บด้วยหรอ?
     
    ................... ฮันเกิงเป็นอะไรน่ะ หน้าซีดเชียว ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไหลออกมาจากหัวนะ ผมเลยลองเอามือไปจับดู
     
    หัวแฉะ!!จังไปทำอะไรมาเนี่ย ผมลูบบนหัวไปมา ก่อนที่จะเอาลงมาดู....สะ สีแดง...ละ เลือด..
     
    หัวแตก ผมร้องลั่นอย่างไม่เกรงใจใคร ก่อนที่ร่างนี้จะดับวูบลง ผมลืมบอกไปผมกลัวเลือดเป็นที่สุด เพราะเลือดเป็นอย่างเดียวที่ผมด่าแล้วมันไม่รู้สึกอะไร
     
     
     
     
     
     
    โรงพยาบาลโซล
     
    กลิ่นอะไรเนี่ย ~” กลิ่นของแอลกอฮอร์นมันลอยมากระแทกจมูกผม ผมเกลียดกลิ่นนี้จัง~ ผมค่อยลืมตาขึ้นมาช้าๆเมื่อได้ยินเสียงหวานๆของใครบางคน เสียงเหมือนคนที่คุยกับผมในฝันเมื่อคืนเลย
     
    รู้สึกตัวแล้วหรอ หล่อจัง ยิ่งดูใกล้ๆยิ่งหล่อ คนอะไรหล่อไม่เกรงใจใครเลย อ๊าก!! หล่อเหลือหลายอย่ามาทำหน้าตาดีใส่ดิคนๆนี้ชักหวั่นไหวแล้วนะ
     
    อะ อืม ผมหลบสายตาที่จ้องมองคู่นั้น นี่เป็นครั้งแรกนะที่ผมกับเค้าได้อยู่ใกล้กันขนาดนี้แถมผมยังได้จ้องตาสีนิลคู่นี้อีก อย่างกับฝันแน่ะ หรือว่าผมกำลังฝันอยู่นะผมกำลังฝันอยู่ใช่มั๊ย ผมยื่นมือนุ่มของผมไปจับบนใบหน้าหล่อนั้น 55+นี่คือความฝันของผม ผมจะทำอะไรก็ได้จริงมั๊ย
     
    เปล่านี่ไม่ใช่ความฝัน เพล้ง!! ความคิดของผมกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ มือของผมค่อยๆชักกลับมาอย่างช้าๆอย่างผิดหวังปนอายๆแต่ก็ต้องใจชื้นขึ้นมาบ้างเมื่อฮันเกิงจับมือผมไปกุมเอาไว้
     
    ไม่ต้องกลัวนะถึงนี่จะเป็นความจริงก็ตาม หัวแตกมันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรเลย เพล้ง!! ความคิดของผมแตกสลายอีกครั้ง ไอ้สิ่งที่ผมกำลังคิดกับที่ไอ้หน้าหล่อกำลังคิดมันคนละเรื่องกันจริงๆ
     
    เป็นอะไรรึเปล่า สีหน้าไม่ดีเลย ตามหมอให้มั๊ย ดูสิขนาดหน้าตื่น ยังหล่อเลยเราสองคนต้องเป็นเนื้อคู่กันแน่ๆเลย ฮิ ฮิ คิดไปโน่น
     
    ไม่เป็นอะไรหรอก ขอบใจนะที่พามาโรงพยาบาล ผมลุกขึ้นนั่งและส่งยิ้มหวานให้ฮันเกิง เพื่อว่าร่างสูงนี้จะสบายใจเรื่องที่ทำผมหัวแตกไปบ้าง
     
    ชั้นต้องขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้นายต้องเจ็บตัว ฮันเกิงก้มหัวให้ผมน้อย
     
    ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกน่า เรื่องหัวแตกน่ะจิ๊บๆๆ ผมหัวเราะออกมา แต่ฮันเกิงก็ยังทำหน้ากังวลอยู่อีก ผมจะทำอย่างไงดีล่ะเนี่ย ไม่ชอบเลยเวลาฮันเกิงทำหน้าแบบนั้น มันรู้สึกไม่สบายใจอย่างไงก็ไม่รู้
     
    แต่ยังไงมันก็เป็นความผิดของชั้น เป็นเพราะชั้นขี่จักรยานเร็วไปแท้ๆเลยไปชนนายเข้า นายจะให้ชั้นทำอย่างไรชั้นก็ยอมบอกมาได้เลย 
     
    ทำอะไรก็ยอมงั้นหรอ ผมพูดทวนคำถามอีกครั้งเผื่อว่าสิ่งที่ผมได้ยินเมื่อกี้ ผมอาจหูฝาดไปเองก็ได้
     
    อืม
     
    งั้นก็ อืม..................... ผมจะให้เค้าทำอะไรดีนะ ให้เค้าจูบผมดีมั๊ย บ้าสิเค้าจะได้หาว่าผมโรคจิต เอ...รึว่าให้เค้าเป็นแฟนผม ไม่ได้ๆเป็นแฟนโดยการบังคับ คบกันได้ไม่นานหรอกเดี๋ยวก็เลิกลากันไป อ้า..มีความคิดดีๆแล้ว
     
    ต่อไปนี้นายต้องไปรับไปส่งชั้นที่บ้านทุกวัน Ok. มีอะไรคัดด้านมั๊ย เหมือนผู้พิพากษาจำเลยนักโทษเลยแฮะ
     
    ตกลง   ท่าทางฮันเกิงคงจะสบายใจขึ้นมาบ้างแล้วสิก็ดูเค้ายิ้มดิ หล่อเหลือหลาย “^U^”
     
    อยากกลับบ้านแล้ว กลับได้ยังอ่ะ ผมพูดเสียงอ้อนๆเพื่อว่าเค้าจะเห็นความน่ารักในตัวผมบ้าง แต่ที่จริงไม่ต้องทำแบบนี้ผมก็น่ารักอยู่แล้วจริงมั๊ย
     
    อืม กลับบ้านกัน ฮันเกิงยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อให้ผมจับ มือของเค้านุ่มจัง กลิ่นตัวก็หอม ผมอยากเป็นเจ้าของหัวใจเค้าจังแต่ทำไงได้หล่ะคนหล่อๆอย่างเค้ามีทางเลือกเยอะใครจะมาชอบผู้ชายปอนๆแบบผมหล่ะ
    ..
    (ยังไม่จบนะ เรื่องยังอีกยาว)
    .
    ..อั่นแน่!!! เม้นท์ให้รึยัง ไปเม้นท์ให้เดี๋ยวนี้เลยนะ 
    .
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×