ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลองเล่นจ้า

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 60


                  ในระหว่างที่เครื่องบินจอดอยู่ที่สนามบินเพื่อรับผู้โดยสารขึ้น กัปตันทั้งสองกำลังเตรียมเครื่องบินให้พร้อมก่อนที่ถึงเวลาออกเดินทาง กัปตันแจฮยอนเปิดการตั้งค่า กรอกข้อมูล ตรวจสอบ ทดสอบ ระบบต่าง ๆ ของเครื่องบินทั้งหมด ตลอดจนระบบวิทยุที่อยู่ตรงกลางระหว่างนักบินสองคน 

     

                    กัปตันจอห์นนี่ทำหน้าที่ประสานงานกับเจ้าหน้าที่เรื่องข้อมูลเชื้อเพลง ข้อมูลด้านน้ำหนักของเครื่องบิน และตรวจสอบว่าตรงกับที่เขาวางแผนและคำนวนมารึเปล่า

     

                    "ไอ้แจ ทำตรงนั้นเสร็จรึยังวะ" จอห์นนี่ถามทั้งๆที่ตัวเองกำลังง่วนอยู่กับการตรวจสอบข้อมูลอยู่

     

                    "ใกล้ละ มีอะไร" 

     

                    "ฝากกรอกอันนี้ที" จอห์นนี่เคาะปากกาลงกับหน้าจอมอนิเตอร์ที่อยู่ใกล้ตัวเบาๆ เป็นการบอกว่าเขาต้องกรอกลงบนกระดาษแผ่นนี้

     

                    เมื่อสิ้นประโยค แจฮยอนก็กรอกข้อมูลด้านเส้นทางการบินลงไปในระบบ FMS ตามคำสั่งของจอห์นนี่ ในขณะที่กำลังสาละวนกับการกรอกข้อมูล แจฮยอนก็ต้องไปทำการติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ เพื่อขอรับคำอนุมัติที่จะใช้แผนการบินในการทำการบิน 

     

                    นี่แหละครับการทำงานเป็นนักบิน*

     

                    "You have the control" กัปตันแจฮยอนพูดขึ้นหลังจากเตรียมเครื่องบินเสร็จสิ้นแล้ว ก่อนจะนำเครื่องบินtake off ตอนนี้จองแจฮยอนแทบเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากคนที่ดูเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นแมวตัวน้อยในเกทเมื่อสักครู่นี้ก็กลายมาเป็นจองแจฮยอนที่นิ่งขรึมจริงจังและเอาการเอางาน


                เวลางานก็ต้องจริงจังใช่ไหมล่ะ?

     

                 "I have the control" จอห์นนี่พูดตอบเพื่อให้รู้ว่าขณะนี้ใครเป็นผู้ควบคุมเครื่องบิน


                หลังจากนั้นกัปตันทั้งสองก็ทำการบรรยายสรุปสำหรับการวิ่งขึ้นว่าจะใช้ทางวิ่งไหนในการทำการวิ่งขึ้น และจากจุดจอดไปถึงทางวิ่งนั้นต้องผ่านทางขับสายไหนบ้างเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาของการนำเครื่องบินลำนี้ขึ้นทะยานสู้ท้องฟ้าแล้ว



                   'Good Evening Ladies and Gentleman, This is your CaptainJung Jaehyun Speaking On behalf of NCT Airlines, I'd like to welcome you on board with this aircraft type Airbus A320, bound for ....'

     

                ขณะที่เครื่องบินเดินทางมาได้ในระยะหนึ่ง เสียงประกาศนุ่มๆสำเนียงอเมริกาของกัปตันแจฮยอนก็ดังขึ้นมาแจ้งผู้โดยสารถึงข้อมูลในเที่ยวบินที่เขารับผิดชอบอยู่ เมื่อกล่าวเสร็จมือก็ขยับมือไปเปิดโหมดออโต้เพลนแล้วลุกขึ้นมาบิดตัวเล็กน้อยให้ร่างกายตื่นตัว เหมือนร่างกายของเขาจะเริ่มจะมีอาการอ่อนล้าเพราะการทำงานที่หักโหมบวกกับการพักผ่อนน้อยของตน แลนดิ้งเมื่อไหร่ สงสัยแจฮยอนคงต้องหาเวลาไปนวดซักนิดนึงแล้วล่ะ




     

              

                "ว้าว เสียงกัปตันแจฮยอนเนี่ย น่าฟังสุดๆเลยเนอะ" เสียงดี๊ด๊าของวินวินเด็กฝึกงานคนใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาได้ไม่นานพูดขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงประกาศของกัปตันแจฮยอน

     

                "ระวังคำพูดคำจาหน่อยวินวิน กัปตันเขามีแฟนแล้ว"เสียงดุๆของจอยดังขึ้นมาเอ็ด จนเจ้าของประโยคข้างบนได้แต่หงอย


                เตนล์ที่นั่งอยู่ใกล้ๆจอยได้ฟังทุกประโยคที่พวกเขาคุยกันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมาเบาๆ นี่ถ้าเป็นเขา เขาคงไม่มานั่งหงอยแบบวินวินหรอก มีแฟนแล้วไง อย่างน้อยคนอย่างเตนล์ก็น่าจะได้ชิมสักนิดสิ ของที่น่าอร่อยแบบนั้นน่ะ ไม่ปล่อยให้หลุดมือไปหรอก ยิ่งรู้ว่ามีคนรักแล้วยิ่งน่าสนใจเป็นสองเท่า

     

                มันก็น่าสนุกดีไม่ใช่หรอ ตื่นเต้นดีออก:)

     

                จะว่าไปแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมไฟลท์กับกัปตันแจฮยอน ก็เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาก่อนแล้วล่ะนะ แต่ไม่เคยได้เจอหน้ากันซักที ครั้งนี้ครั้งแรกเลยที่เขาได้เจอหนุ่มฮอตของสายการบินที่ชื่อจองแจฮยอน 

     

                อ้อ.. ผมทำงานอยู่ในชั้นเฟิร์สคลาสนะครับ เผื่อใครไม่รู้

     

                'มีคนอยู่ที่เลาจ์ไหมครับ?'

     

                'ผมกับกัปตันแจฮยอนอยากได้อะไรรองท้องซักหน่อย please~'  สำเนียงแปล่งๆที่ฟังแล้วดูน่ารักดังขึ้นมาจากโทรศัพท์ที่ต่อมาจากห้องควบคุม

     

                วินวินลุกขึ้นด้วยท่าทางตื่นเต้นและวิ่งไปยกหูโทรศัพท์ตอบคำถามกัปตันเป็นคนแรก ทำเหมือนมีใครจะแย่งแบบนั้นแหละ

     

                สงสัยสีหน้าของผมจะชัดเจนเกินไป ยูตะเพื่อนชาวญี่ปุ่นของผมถึงได้จี้เอวและเตือนสติของผมไม่ให้หงุดหงิด แก้ไม่หายจริงๆเลยนะ การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าของตัวเองเนี่ย เอาจริงๆที่แสดงออกไปแบบนั้นไม่ใช่ว่าผมหวงกัปตันหรอกนะ แต่แค่ผมยังไม่ได้ชิม ใครหน้าไหนก็ยังลิ้มลองรสชาติไม่ได้

     

                "ใจเย็นน่าเตนล์ เด็กมันมาใหม่ อยากทำทุกอย่างแหละ"

     

                วินวินอมยิ้มตลอดเวลาพูดคุยกับกัปตันจอห์นนี่ คงโดนหยอดเข้าไปล่ะสิ หยอดได้กี่เม็ดล่ะถึงวางสายด้วยหน้าตาชื่นบานแบบนั้น

     

                โอ๊ะๆๆ ผมไม่ได้อิจฉานะครับ กัปตันจอห์นนี่น่ะ ผมได้ชิมมานานแล้วล่ะครับ กินบ่อยจนเบื่อแล้วด้วย

     

                วินวินเดินมาหามินอา สาวเอวเล็กที่คอยดูแลครัวบนเครื่องบินด้วยหน้าตาชื่นบานพร้อมบอกกับเธอว่ากัปตันหนุ่มทั้งสองคนต้องการอะไร เพียงไม่นาน มัฟฟินสีสวยก็ออกมาพร้อมกับกาแฟกลิ่นหอมที่วางอยู่บนถาดด้วยกันสองชุด

     

                "เตนล์ยกเข้าไปให้กัปตันที" เสียงดุๆของจอยขัดวินวินที่คิดจะเดินไปหยิบถาดขนมให้หยุดชะงัก เมื่อเจ้าของชื่อได้ยินดังนั้นจึงทำได้เพียงถอยกลับมานั่งประจำที่ของตน

     

                "วุ้ว น่าเสียดายนะน้องวินวิน อดไปเลย ไม่เป็นไรเนอะ ไว้คราวหน้า.. ถ้าได้มีโอกาศมาทำงานที่ชั้นนี้อีกอะนะ" ผมก้าวเดินเข้าไปใกล้เจ้าเด็กใหม่พร้อมกับตบไหล่น้องเบาๆด้วยคำพูดหวานๆแต่เคลือบแฝงไปด้วยยาพิษ

     

                เมื่อเดินไปถึงห้องบังคับการของกัปตัน ผมก็ประครองถาดขนมด้วยมือข้างที่ถนัด ส่วนอีกมือก็เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์เพื่อที่จะโทรขออนุญาติกัปตันเข้าไปในห้อง แต่เพียงครู่เดียวจะยกหูโทรศัพท์และกดหมายเลขติดต่อไปยังกัปตัน เสียงเปิดประตูจากห้องนั้นก็ดังขึ้นมาก่อนพร้อมกับกัปตันแจฮยอนที่เดินออกมา ทำให้ผมผละออกจากโทรศัพท์และกลับมาถือถาดขนมด้วยสองมือดังเดิม

     

                "ขออนุญาตินะครับ" ผมผงกหัวเล็กหน่อยก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้อง กัปตันแจฮยอนเอียงตัวเล็กน้อยเพื่อให้ผมได้เข้าไปอย่างสะดวก แต่ประตูมันไม่ได้กว้างมากมาย ทำให้เมื่อผมเดินผ่านเขาจึงได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆลอยออกมาจากตัวของกัปตัน

     

                "อ้าว น้องเตนล์ มาเสิร์ฟเองเลยหรอวันนี้ ปกติจะเลี่ยงมาเวลาผมร่วมไฟลท์กับคุณหนิ" จอห์นนี่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสบายๆเมื่อเห็นเตนล์เดินเข้ามาพร้อมถาดขนม เขาไม่ได้จะพูดกระแนะกระแหนเตนล์ และเตนล์ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยกับคำพูดพวกนั้นด้วย พวกเขาทั้งสองเป็นเพียงแค่คู่นอนเก่า ที่ไม่มีเรื่องบาดหมางกัน พูดแซวเล่นกันก็แค่นั้น

     

                แต่แค่นั้นสำหรับจองแจฮยอนที่ได้ฟังแน่หรอ?

     

                "กัปตันจอห์นพูดเกินไปเถอะครับ แค่ลูกเรือที่รู้ว่าจะได้ร่วมไฟลท์กับกัปตันก็พากันแย่งตำแหน่งนี้หมดแล้ว" ว่าจบก็วางถาดขนมลงพร้อมกับนวดบริเวณช่วงไหล่ของจอห์นนี่ให้ผ่อนคลายลง

     

                แจฮยอนที่เดินตามหลังเตนล์มาจากการปิดประตูไปนั้นก็เข้ามาหยิบขนมและกาแฟในส่วนของตนออกจากถาด ยืนพิงเก้าอี้นิ่งๆพร้อมจิบกาแฟ มองลูกแมวตัวนึงกำลังพูดคุยกับเพื่อนสนิทของตนอย่างออกรสออกชาติ หวนให้นึกถึงวันที่จอห์นนี่มาเล่าให้เขาและมาร์คลีฟัง

     

     

                'เมื่อคืนแม่งสุดๆไปเลยว่ะ'

     

                'เด็ดขนาดนั้นเลยหรอจอห์น'

     

                'ขนาดนั้นเลยไอ้มาร์ค ถ้ามึงได้ลอง...'

     

     

                ผมในวันนั้นก็ได้แต่นั่งฟังจอห์นนี่เงียบๆ แต่ไม่ได้คิดไว้ว่าคนที่ไอ่จอห์นว่าเด็ดนักเด็ดหนา จะเป็นคนตัวเล็กคนนี้ไปได้

     

                "ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะเรา"จอห์นนี่พูดทั้งๆที่หลับตาอยู่ หน้าตาเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสที่เตนล์มอบให้ และขณะเดียวกันที่นวดให้จอห์นนี่นั้น หางตาของเตนล์ก็คอยเหลือมองแจฮยอนอยู่ตลอด สมองก็คอยคิดอย่างไรว่าจะทำอย่างไรให้อีกฝ่ายตกหลุมพรางของตน

     

                "ก่อนเจอผม เคลียเด็กที่ต่อคิวรอกัปตันให้หมดก่อนเถอะครับ" เสียงทะเล้นๆดังขึ้นพร้อมเสียงตุบและเสียงหัวเราะดังขึ้นหลังจากจบประโยค 

     

                ต้นเหตุของเสียงตุบน่ะมาจากการที่เตนล์ทุบไหล่ของกัปตันจอห์นนี่ และต้นเหตุของเสียงหัวเราะอีกเสียงหนึ่งก็มาจากกัปตันแจฮยอนที่ยืนหัวเราะให้กับการกระทำที่น่ารักของเตนล์ยังไงล่ะ

     

                "โอย.."

     

                เมื่อได้ยินเสียงโอดครวนของคนตรงหน้า เตนล์ก็หัวเราะออกมาและกลับหลังหันเพื่อเตรียมตัวออกจากห้องบังคับการนี้ไป

     

              "นวดให้ไอ่แจมันด้วยสิ" เจ้าของเสียงโอดครวนเมื่อกี้นี้ดังขึ้น ทำให้ฝีเท้าของเตนล์หยุดชะงัก

     

               "เฮ้ย ไม่เป็นไรๆ แค่กๆ.. " แจฮยอนแทบจะสำลักกาแฟที่เพิ่งกินเข้าไป จะว่าไปก็สำลักนิดหน่อยล่ะนะ

     

               "ฝากดูไอ่แจด้วยนะเตนล์ กูขอพักสายตาแปปนึง" เสียงของจอห์นนี่พูดขึ้นมา ประโยคแรกน่ะบอกเตนล์ ส่วนประโยหลังน่ะบอกเพื่อนสนิทของตน

     

                "นั่งสิครับ" เตนล์เปลี่ยนทิศทางที่ตอนแรกทำท่าจะเดินออกไปจากห้องบังคับการ ก็กลายมาเป็นการเดินกลับเข้าไปในห้องนั้นอีกครั้ง 

     

                แจฮยอนนั่งหันหลังลงตามที่เตนล์บอกอย่างเชื่อฟัง จนกระทั้งมือนิ่มเลื่อนลงมาจับบ่าของเขาทำให้แจฮยอนสะดุ้งนิดๆกับมือของเตนล์ที่ไหลไปตามบ่าของตน มือของเตนล์ค่อยๆบีบไหล่แกร่งอย่างนุ่มนวล จากไหล่กว้างก็ย้ายไปยังส่วนของลำคอ จากนั้นมือที่อยู่ไม่สุกของเตนล์ก็เลื้อยลงไปยังแผงอกพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก 

     

                แต่เตนล์คิดผิด แจฮยอนไม่ได้หลงใหลกับการกระทำของเตนล์เลยซักนิก เห็นแบบนี้เขาก็ผ่านอะไรมาเยอะ รู้ทันหรอกน่าว่าคนตัวเล็กที่อยู่ข้างหลังกำลังจะทำอะไร

     

                "จะทำอะไรน่ะ" แจฮยอนแกล้งพูดขึ้นมาเสียงดังทำให้เตนล์สะดุ้งและผละมือออกจากร่างกายของอีกฝ่าย แต่ก็เป็นแจฮยอนที่หยุดกุมมือนั่นไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหน

     

                "เปล่าหนิครับ" เตนล์ตั้งสติ ปัดอาการสะดุ้งเมื่อกี้ออกไปจากหัว แล้วก้มลงไปพร้อมกระซิบข้างหูแจฮยอน แต่ก็ไม่ทันตั้งตัว จู่ๆแจฮยอนก็หันหน้าเข้าหาตัวเขาพอดี ใบหน้าของทั้งสองจึงห่างกันเพียงไม่กี่คืบ ทำให้เตนล์ได้ยินเสียงลมหายใจของแจฮยอนอย่างชัดเจนและมันก็ทำให้เตนล์ได้มีโอกาศสำรวจใบหน้าของจองแจฮยอนอย่างใกล้ชิด คิ้วหนาที่เรียงตัวกันเป็นระเบียบ จมูกโด่งเป็นสัน ใบหน้าที่มีผิวขาวใสไร้ร่องรอยของกระหรือสิว ลักยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ประดับอยู่แก้มใส และริมฝีปากอมชมพูที่เหลือไปทางแดง เตนล์จ้องมองมันซักพัก จนคนตัวใหญ่กว่ากระตุกยิ้มที่มุมปาก 


                ใครจะตกหลุมใครกันแน่

     

                ริมฝีปากของจองแจฮยอนนั้นทำให้เตนล์หลงใหลและอยากจะครอบครองมัน เตนล์ช้อนตาขึ้นไปสบตากับแจฮยอนด้วยสายตาซุกซนก่อนจะกลับมามองที่ริมฝีปากของเขาอีกครั้ง เตนล์กัดริมฝีปากล่างของตนเล็กน้อยพลางมองปากของแจฮยอนไม่วางตา 

     

                และไวกว่าความคิด มือหนาของแจฮยอนก็สอดเข้าไปล็อคคออีกฝ่ายให้เข้ามาประชิดตัวมากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะประกบปากลงไปกับริมฝีปากของคนตัวเล็กข้างหน้า สอดลิ้นเข้าไปรับรสชาติอ่อนหวานข้างในโพรงปากที่สามารถทำให้แจฮยอนมัวเมาได้ไม่ยาก ดูดกลืนรสชาติภายในปากอย่างสุขสม...

     


                รอยยิ้มของคนที่นั่งข้างๆผุดขึ้นมาพร้อมดวงตาที่หลับพริ้ม จอห์นนี่รู้เรื่องและการกระทำทุกอย่างที่เตนล์กับแจฮยอนกำลังทำอยู่ ณ ตอนนี้ จอห์นนี่ไม่ได้หลับ เขาเพียงแค่พักสายตา ถึงแม้ตามองไม่เห็น แต่ใช่ว่าหูจะไม่ได้ยิน เด็กป.6ฟังยังรู้เลยว่าคนข้างๆสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่ นับประสาอะไรกับคนที่ชั่วโมงบินสูงแบบเขาจะไม่รู้ล่ะ

     



                ครั้งนี้หยวนให้ จะไม่บอกโดยองให้ละกันนะ กัปตันแจ:)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×