ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิยาย magi yaoi คู่แรร์

    ลำดับตอนที่ #1 : fic magi ???xฮาเคะริว "รักนี้ ยกหัวใจให้เธอคนเดียว" บทที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 56


    อาลีบาบา บรรยาย

    "ฮือ ท่านอาลีบาบา ข้าไม่ได้ร้องไห้ไป เมาเหล้าไปอยู่หรอกนะ"ร่างบางที่หน้าแดงก่ำพร้อมกับน้ำสีไสที่ไหลลงมาจากตาพูดอย่างนั้น ทั้งๆที่ มันตรงกันข้าม

    "อา ไม่ล่ะ นายกำลังทำตรงข้ามกันเลยล่ะ" ทั้งๆที่ เห็นว่าร่างบางกำลังเหมือนจะกลุ้มใจ เลยจะมาคุยกันอย่างเป็นทางการซะหน่อย แต่พอเหล้า เข้าปากก็ดันเมาทันทีเลยซะงั้น ใครมันจะไปคิดล่ะว่าจะมีคนที่คออ่อนซะขนาดนื้

    "นี่ ฮาคุริว จะว่าไปแล้วช่วงนี้นี่ นายเครียดอะไรอยู่รึเปล่า" ถึงจะเมามากก็เถอะ แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาส ถ้าเราถามออกไป จะต้องตอบตรงๆโดยไม่ปิดบังเราแน่ๆ

    "หือ เค้าก็ไม่ได้ เครียดอะไรนี่นานายอ." ฉึก! เหมือนมีอะไร มาแทงทะลุหัวใจตอนเรี่ยกนายอ.ชะมัด แต่ถึงขั้นเปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเองแล้ว มีหวังคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ รีบพากลับพระราชวังซินเดรีย ดีกว่าแหะ ยิ่งไม่ค่อยคุ้นกับที่นี่ด้วย แต่สถานเริงรมณ์ ของซินเดรียเนี่ยมีหลายที่ชมัด อา สี่ทุ่มแล้วแหะ

    "นี่ ฮาคุริวชั้นว่าพวกเรากลับกันเหอะ นายเมามากแล้วนะ"ถ้ายังไม่กลับตอนนี้ มีหวังฮาคุริวได้ เดินกลับไม่ไหวแน่

    "เค้า ยังไม่เมาซะหน่อย อึดอัดชะมัด "ร่างบางพูดก่อนจะ ค่อยๆถอดมงกุฎ และผมที่รวบไว้ ออกให้ผมที่ยาวถึงท้ายทอยแผ่สยายออก

    "สะ สวยชะมัด"

    "เมื่อกี้นาย พูดอะไรรึเปล่านะ"ตาปรือๆ ที่มองมากับหน้าที่แดงจัดสวยชะมัดเลยแหะ  ถึงตอนนี้จะหลับไปแล้วก็เถอะ

    "ปะ เปล่า" คงต้องอยู่อีกซักพักนั่นแหละ อย่างน้อยก็ให้ฮาคุริวสร่างเมาก่อน

      จะว่าไปแล้ว น่าแปลกแฮะทั้งที่โต๊ะ อื่นๆ มีสาวนั่งดื่ม แต่โต๊ะนี้ดันไม่มีใครมาบริการเลยแหะ แถมยังมีสาวแต่งตัว มองมาทางนี้แล้วถอนหายใจ มีอะไรรึเปล่านะ ถึงฮาคุริวจะร้องไห้ไปเมาไปก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้เสียงดัง ถึงขนาดที่จะไม่มีใครมาบริการโต๊ะนี้เลยนี่นา ลองเรียกดูหน่อยดีกว่า

    "เฮ้ มาโต๊ะนี้หน่อยสิ"สาวบริการ พวกนั้นสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะเดินมาทางโต๊ะ ของพวกชั้น ก่อนหันไปมองฮาคุริว ที่ม่องไปแล้ว

    "มากับแฟนแล้ว แบบนี้แฟนไม่ว่าเหรอค่ะ"สาวคนหนึ่งที่เดินมาพูดกับชั้นแบบนั้นเท่านั้นแหละ ชั้นรีบขัดเลย

    "ไม่ใช่ครับ หมอนี่เพื่อนผมต่างหาก อีกอย่างเขาเป็นผู้ชายด้วยครับ"สาวบริการคนนั้นทำท่าตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะอธิบายเรื่องเข้าใจผิดกันในหมู่เพื่อนของเธอ

    "ฮะ แฮ่ม งั้นชั้นขอเบอร์ 1 ของร้านเลยล่ะกัน"ยังไงฮาคุริวก็หลับไปแล้ว ขออยู่กับสาวสวย อันดับหนึ่งเลยล่ะกัน

    รอเพียงไม่นาน ความรู้สึกของเบาะข้างตัวที่ยุบลงด้วยน้ำหนัก ที่แสดงให้เห็นถึงผู้ที่นั่งเคียงข้างแล้ว ใจที่กำลังจะผลิบานก็เหมือนกับถูกจี้ด้วยของร้อน ความดีใจชั่ววูบนั้นราวกับฝันไปด้วยร่างกายอันบึกบึน ดวงตาที่มีสีขาวและดำ เสมอกันจนราวกับเป็นตัวประกอบที่โผล่มาบ่อยซะเหลือเกิน ผมสีดำสนิทที่อยู่ปรกหน้า หน้าที่ราวกับเอาไปโบกปูนทับมาซะอย่างงั้น ในตอนนี้ความรู้สึกที่กะจะอยู่จนกว่าฮาคุริว จะสร่างเมานั้นราวกับเป็นคำโกหก ใช่ ใบหน้าของคนที่นั่งข้างๆผมนี้ คือคนที่ ราวกับ อลิซาเบท ทำไมเบอร์ 1 ของทุกๆเมืองจะต้องเป็นแบนี้กันหมดเลยรึไง โชคดีที่ไม่ได้พาโมลเซียน่ากับอาลาดินมาด้วยไม่งั้นคงได้วุ่นวายกว่านี้แน่ๆ คิดได้แค่นั้นแหละ ชั้นก็รีบฉุดกระชากฮาคุริวที่ยังหลับไปจ่ายค่าบริการ แล้วรีบเดินออกมาทันที ทำไมทั้งที่ในร้านก็มีสาวๆอยู่แท้ๆแต่เบอร์ 1กลับเป็นแบบนั้น ไปได้

    "แล้นายจะลาก เค้ามาทำไมเนี่ย"เสียงเอื่อยๆค่อยๆพูดขึ้น เสื้อที่ไม่ได้จัดให้เรียบร้อย รวมกับเรื่องที่เจ้าตัวดิ้นไปดิ้นมาทำให้เสื้อที่ปกติก็จะเปิดถึงไหล่อยู่แล้ว มันยิ่งเปิดมากกว่าเดิมจนจะถึงไหล่อยู่แล้ว

    "เอ่อ เราต้องกลับกันแล้วน่ะ นายจัดเสื้อให้ดีๆก่อนดีกว่านะ"ฮาคุริวค่อยๆก้มลงมองชุดตัวเอง

    "ก็มันอึดอัดนี่นา "  อึดอัด อย่าบอกนะว่านี่จงใจ ทั้งที่มาเดินต่างเมืองในตอนกลางคืนแท้ๆ

    "อะ เอ้า จะทำอะไรก็ช่างรีบตามชั้นมาละกัน"ชั้นพูดอย่างนั้นก่อนออกเดินทางกลับวังของซินแบด

    "แก้ก แก้ก "เสียงของหอกที่ทิ่มพื้นตามระยะทาง มันทำให้รู้สึกอึดอัดชะมัด

    "เอามานี่ ชั้นถือให้ มันทำให้รู้สึกรำคาญน่ะ"แล้วฮาคุริวก็ยื่นหอกมาให้ อย่างว่าง่าย สงสัยเริ่มสร่างเมาแล้วล่ะมั้ง

         พอเดินไปได้ซักพักก็เริ่มรู้สึกว่ามันก็เงียบ จนทำให้รู้สึกวังเวงแปลกๆเลยแหะ ระยะทางจากที่นี่ถึงวังก็ไกลอยู่พอสมควรแล้วยังค่อนข้างเปลี่ยวด้วย สมแล้วที่เป็นที่ที่คุณซินแบดแนะนำมา เพื่อหลบหนีจากคุณจาฟาลที่ตัวเองทิ้งงานมาเที่ยวเล่น

    "นี่ ฮาคุริวมันไม่เงียบไปหน่อยเหรอ..."เมื่อคิดว่ามันเงียบเกินไป ก็เลยคิดว่าน่าจะคุยกันบ้างก็ดี แต่จังหวะที่กำลังจะหันไปคุยกัน กลับพบเพียงแต่ความว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ ณ ที่ตรงนั้น นอกจากชั้น ฮาคุริวไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น

    "ฮะ เฮ้ ฮาคุริว!!!"ไม่มีเสียงตอบรับ

    "ไม่ตลกนะ ฮาคุริว ชั้นไม่มีเวลามาเล่นด้วยหรอกนะ ฮาคุริว ออกมาสิ"ไม่มีฮาคุริวไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น หาไปได้ซักพักก็ได้รู้ว่า ไม่มีฮาคุริวอยู่ตรงนั้น โถ่เว้ย ทั้งๆที่ชั้นเป็นคนพาฮาคุริวมา พอเขาร่วมจะสร่างเมาก็ดันไม่ได้สนใจจนเจ้าตัวหายไป ชั้นนี่มัน

    แย่ทีสุด!!!!

    ทางด้าน ฮาคุริว

    อา มึนหัวชะมัด นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ได้กินอะไรขมๆอย่างสาเกเนี่ย รู้สึกแย่ชะมัด แต่รู้สึกว่าล่าสุดข้าอยู่กับท่านอาลีบาบา ข้าค่อยๆขยับเปลือกตาขึ้น เพราะความรู้สึกหนักอึ้งที่หนังตาทำให้การลืมตาในตอนนี้เป็นอะไรที่ยากมาก สิ่งที่ข้าเห็น คือ เพดานไม่ใช่ เหมือนจะอยู่บนคาราวาน อะไรซักอย่างแขนทั้งสองข้างของข้านั้นถูกผูกด้วยอะไรซักอย่าง น่าจะเป็นเชือกที่ผูกไว้ให้แน่นจนรู้สึกปวดแขนที่ ไขว้อยู่ที่หลัง ขาก็ถูกผูกไว้ในลักษณะเช่นดียวกับแขน ก่อนที่ข้าจะได้หันไปยังเบื้องหน้า ก็พบเข้ากับ ใบหน้าน่าขยะแขยงของผู้ชายที่ตัวใหญ่จนทำให้รู้สึกกลัว ดูยังไงก็ไม่ใช่คนดีแน่นอน

    "อือ อื้อ"เสียงที่กำลังจะเปล่งคำพูดออกไป กลับถูกขัดด้วยพลาสติกชนิดเหนียว ที่ถูกปิดเอาไว้อย่างแน่นหนา รู้สึกว่าครั้งล่าสุดที่รู้สึกตัว จะอยู่กับท่านอาลีบาบา นั่งดื่มด้วยกัน แล้วก็....ฝากหอกไว้กับท่านอาลีบาบา จากที่รู้สึกมึนหัวแต่ก็ยังเดินตามท่านอาลีบาบา แล้วอยู่ๆก็หมดสติไป แล้วพอตื่นขึ้นมาก็พบว่าอยู่บนคาราวาน อะไรซักอย่าง หระ หรือว่านี่คือการลักพาตัว พอเรียบเรียงเรื่องราวได้ ก็รู้สึกว่าไอ้เจ้าตัวโตข้างหน้าจะรู้ตัวแล้วแหะ ว่าข้ารู้สึกตัวแล้ว มันจึงค่อยๆเดินไปทางเต็นท์ข้างหน้าของคาราวาน บ้าจริงทั้งที่เป็นเวลาที่จำเป็นแต่ตัวข้าในตอนนี้ดันไม่มีหอก ทั้งๆที่ปกติจะพกติดตัวแท้ๆ พอเริ่มขยับตัวไปเรื่อยๆถึงได้รู้สึกถึงเสื้อที่เปลี่ยนไป มันรุ่มร่ามแปลกๆแหะ พอก้มลงไปดูเครื่องแต่งกายก็ได้รับรู้ว่า เสื้อผ้าที่ใส่อยู่ในตอนนี้ ไม่ใช่ชุดที่ข้าใส่อยู่เป็นประจำ แต่กลับเป็นชุดกระโปรง ยาวถึงแค่คุมเข่า



    ยิ่งท่า
    นั่งที่ถูกจับให้นั่งอยู่ตอนนี้มันเป็นท่าที่แขนถูกไขว้ไว้ข้างหลังแล้วขาพับไปด้านหน้า คล้ายท่ากอดเข่า  ทำให้รู้สึกอายชะมัด เสื้อที่เป็นชุดลูกไม้ แบ่งเป็นชั้นๆ สีน้ำเงิน สลับดำ ดูยังไงมันก็ชุดผู้หญิงชัดๆ
     แล้วผมจะมัดให้หน่อยไม่ได้หรือไง ถึงต้องปล่อยยาวรุ่มร่ามแบบนี้

    "ไหน ขอข้าดูหน่อยสิตัวประกันของซินเดรียที่จะนำไปให้ท่านโคเอน"ในระหว่างที่ข้ากำลังกังวลเรื่องชุด ก็มีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น มันเป็นเสียงที่ไม่ได้คุ้นเคย แต่ที่แน่ใจ คือ เคยได้ยินเสียงนี้ พอร่างกายขยับไป ตาของอีกฝ่ายสบตากัน

    "โอ้ สวยดีนิแต่รู้สึกคุ้นๆ แฮะ"ทหารองค์ลักษณ์ของท่านพี่โคเอน เฮ้ยๆ แค่ไม่ได้รวบผมกับใส่มงกุฎนี่ ถึงกับจำกันไม่ได้เลยเรอะ จำกันที่แผลเป็นก็ได้

    "ถึง จักรวรรดิเจิดจรัสแล้วครับ ท่าน ***(ไม่รู้ว่ามันชื่ออะไร) " จักรวรรดิเจิดจรัส นี่ถึงขั้นที่จำเป็นต้องเดินทางมาไกลขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย มันต้องใช้ภาชนะโลหะในการเคลื่อนย้ายแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางเดินทางเดินทางจากซินเดรีย ถึงจักรวรรดิเจิดจรัส โดยไม่ถึงอาทิตย์แน่นอน แล้วที่ข้าโดนลักพาตัวมา แล้วให้ใส่ชุดแบบนี้ แค่ให้ข้ากลับมาที่บ้านเกิดตัวเอง แล้วข้าต้องเดินทางไปซินเดรียอีกรอบเนี่ยนะ อะไรมันจะซวยขนาดนี้ 

         แล้วในที่สุด เชือกที่พันธนาการที่แขนและขา ก็ถูกปลดออก แต่กลับยังไม่ยอมปลดที่ปิดปากด้วย ข้าไม่ถึงขนาดโดนปล่อยปั้ป  จะกรี้ดจนขนาดต้องปิดปากกันแบบนี้ซะหน่อย

    "เจ้าน่ะ เดินตรงไปตามที่ข้าบอกซะ"เสียงของผู้ชายร่างสูงกำยำ กระซิบลงที่ข้างหูหลังจากลงจากคาราวาน เข้าทางประตูหลังเมืองของจักรวรรดิเจิดจรัส ที่มีไว้สำหรับขนส่งทาส ทำให้ทาสที่เวลานี้เป็นเวลางานจึงไม่มีใครเข้าออกประตูนี้กันชุกชุมนัก         แสงแดดในตอนนี่ทำให้สามารถกะเวลาได น่าจะประมาณ เที่ยงวันกว่าๆ เจ้าพวกสูงใหญ่กำยำนั่น

         เดินผ่านผู้คนจำนวนไม่มาก ไม่มีใครสังเกตถึงความผิดปกติไปยังราชวังของ ตระกูล เร็น เข้าไปยังส่วนลึกที่สุด จนถึงจุดที่เป็นศูนย์กลางของราชวัง ห้องพักของท่านโคเอน ก่อนได้ยินเสียงของท่านพี่ ฮาคุเอย์  ท่านโคเอน ...
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×