คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Forbidden ❤ ♡ - 003
You don't see, cause what you don't see, is when we don't speak
And if I had the world in my hands I'd give it all to ya
I wanna know if you feeling, the way that I'm feelin'
I wanna know if you feeling, the way that I, the way that I
-------------------------------------------------------------------------------------------
ผมเดินเข้ามาในโรงเรียนพร้อมกับแบคฮยอน เราเดินลัดผ่านสนามฟุตบอลตรงไปยังห้องสมุดเพื่อไปเปิดสวิตช์ไฟหน้าตึกเรียน ตอนนี้ก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว.....ความจริงผมควรนอนอยู่บ้านสิไม่น่าพาตัวเองมาลำบากเลย มันเพราะใครละเนีย.......
แต่พอมาคิดคิดดูแล้ว.........มันก็เป็นเพราะผมเองนั้นล่ะ
ผมลากคนข้างกายมาหยุดอยู่หน้าตึกเรียนที่ตอนนี้ทั้งมืดและวังเวง จากเสียงสัตว์ที่เคยส่งเสียงร้องเรียกหาคู่ หรือร่ำร้องในยามดึกดื่น แต่ในเวลานี้ ....... กลับกลายเป็นความเงียบสงัดมาแทนที่ และเหลือไว้เพียงสายลมบางเบาพัดผ่านให้พอมีเสียงใบไม้สัมผัสกันอยู่บ้าง ทั้งตึกเรียนมีเพียงชั้นเดียวที่เปิดไฟอยู่ นั่นก็คือชั้นล่างที่ผมเดินไปสับสวิตช์ขึ้นที่ห้องสมุด แต่ชั้นอื่นยังคงถูกปกคลุมด้วยความมืด และความเงียบสงบ
ยังดี ที่เพื่อนรักทั้ง 2 คนของผมมันให้ไฟฉายเอาไว้ ไม่งั้นคงได้เดินฝ่าความมืดไปแน่
ผมกับแบคฮยอนตกลงกันว่าจะไปทางซีกซ้ายของโรงเรียน เพราะประตูทางเข้าหน้าโรงเรียนถูกแม่กุญแจเหล็กหนาล็อคเอาไว้อยู่ จะให้ไปเอาค้อนมาทุบก็ไม่ใช้เรื่อง ถ้าขืนทำแบบนั้นจริงๆวันรุ่งขึ้นทุกคนในโรงเรียนคงนึกว่ามีโจรมางัดโรงเรียนขโมยของแน่ๆ แต่ของที่ขโมยมันก็แค่เศษกระดาษแผ่นเดียวเนียนะ
....... คุ้มกันซะที่ไหนล่ะ.........
ผมเดินฝ่าความมืดด้วยไฟฉายเก่าๆที่เพื่อนตัวดีหยิบยื่นให้ แสงไฟที่ริบหรี่บวกกับคนถือที่ไม่สามารถคอนโทรลตัวเองได้ด้วยซ้ำ ส่องไฟไปซ้ายที ขวาที จะส่องให้ตรงๆไม่ได้หรือไง แต่ก็ไม่แปลกใจหรอกนะ
ว่าทำไมส่องไม่ตรง ………………..
ก็ดูเจ้าตัวสิ กลัวจนตัวสั่นงันงก จะเอาอะไรมาควบคุมตัวเองได้ มือข้างหนึ่งก็ถือไฟฉายไป
มืออีกข้างหนึ่งก็กอดแขนผมแน่น ผมไม่รู้นะว่าความรู้สึกนี้มาจากไหน
หรือ มีอะไรมาดลใจผม
แต่ผมยังไม่อยากออกไปจากตึกนี้เลย อยากอยู่แบบนี้อีกสักพัก พักใหญ่ๆเลยล่ะ
“ชานยอล นายเปิดไฟทั้งหมดเลยได้ไหมอ่ะ” แบคฮยอนพูดพลางทำเสียงอ้อนๆแถมยังเขย่าแขนผมอีก เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ โตแล้วนะยังจะทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ ทั้งๆที่อายุก็จะ 18 แล้ว
มึงเนียนะ........จริงๆเลย
“ ทำไม มึงกลัวไง๊ ”
“ มากมากครับ ” ฮ่าๆ ถ้าใครได้เห็นหน้าไอ้ตัวเล็กตอนนี้ก็คงต้องขำเหมือนผมทั้งนั้นละ
ทำหน้ายังกะเด็กร้องไห้หาแม่ แล้วยังก้มหน้างุดๆอีก เห็นแล้วมันก็อยากจะปลอบอะนะ
แต่ต้องเข้มไว้ก่อน เดียวเค้ารู้หมด แล้ว....รู้อะไรล่ะ ผมก็ไม่ได้มีความในใจอะไรสักหน่อยไม่มี
เลยนะ ไม่มีจริ๊งจริง
“ เออ เดียวกูเปิดให้ ” ผมพูดพลางหันไปมองหน้าร่างเล็ก แหม พอบอกจะเปิดไฟให้เนียยิ้มแป้นเลยนะ สงสัยจะกลัวความมืดละสิท่า ผมควรจะเปิดไฟให้มันดีมั้ยเนีย ธรรมดาทำหน้าเฉยๆก็เขินจะตายห่าละ ยิ่งมันยิ้มแบบนี้อีก..........ผมก็ละลายเลยซิครับ
รู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน รู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างหยุดการเคลื่อนไหว
จะมีก็แต่.......การเคลื่อนไหวริมฝีปากของคนตรงหน้า ที่ยกขึ้นให้อย่างเป็นมิตร แถมยังยิ้มให้
จนตาแทบจะปิดอีก
และอีกสิ่งหนึ่งที่เคลื่อนไหวก็คือ........ หัวใจของผม
ผมว่า......ตั้งแต่ผมเจอมันชีวิตผมเปลี่ยนไปนะ แต่ในทางที่ดีขึ้น หรือ แย่ลง ก็ไม่รู้สิ
“ ชานยอล เป็นไรรึเปล่า ” คนตรงหน้าพูดพลางยื่นหน้ามาใกล้ผม มันใกล้มาก..... ใกล้จนผมรับรู้ถึงจังหวะการหายใจของเค้า แต่เค้าล่ะ....... รับรู้จังหวะหัวใจของผมตอนนี้บ้างหรือเปล่า ?
“ เปล่า กูไม่ได้เป็นไร ”
“ แน่ใจนะ ไม่สบายหรือเปล่า เมื่อกี้นายเหม่อยังกะจิตหลุดไปเลยแหน่ะ ” แล้วมันเพราะใครละ หืม ?
“ ก็บอกว่าไม่ได้เป็นไรไง เซ้าซี้กูจังมึงนี่ เดียวกูกลับเลย ”
“ เอ้ยยย อย่าไปเลยน้า อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน น้าชานยอลสุดหล่อ ” เฮือก เหมือนถูกทำร้ายด้วย
ความน่ารัก จะมาจับมือกูไว้ทำไมห้ะ กูไม่ไปไหนหรอกหน่า แล้วยังจะมาเรียก
‘ ชานยอลสุดหล่อ ’ อีก กูเขินเว้ย ถ้าหน้าตามึงไม่น่ารักกูจะไม่ว่าเลย
“ ปล่อยๆ ”
“ ทำไมอะ ”
“ ปล่อยเหอะกูขอ ”
“ ถ้าปล่อยเดียว ชานยอลหนีกลับบ้านแล้วเราจะทำไงอะ ”
“………”
“ เงียบแบบนี้จะทิ้งจริงๆใช่มั้ยอ่า ชานยอลอ่า ”
“ กู….. ”
“ ห้ะ ?? ”
“ กู...... ”
“…….” มึงจะทำหน้าบ๊องแบ๊วไร้เดียงสาไปไหนครับ
“ กูเขิน ” >//////< เกิดมาไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อนเลย หน้าร้อนผ่าว ใจเต้นเร็วผิดปกติ
เหมือนการสูบฉีดเลือดในร่างกายมันดีขึ้น ไม่ต้องเดาผมก็รู้.........ตอนนี้หน้าผมแดงแน่ๆ
แต่ไม่ใช่ผมคนเดียวนะที่เขิน ร่างเล็กตรงหน้าก็ใช่ย่อย บิดตัวม้วนไปม้วนมา พวงแก้มเปลี่ยนสี
จากชมพูระเรื่อเป็นแดงสดใสแถมยังลามไปถึงใบหูอีก ถ้ามึงน่ารักมากกว่านี้อีกกูจะไม่ทนกับมึง
แล้วจริงๆนะ บยอนแบคฮยอน
“ แล้วเขินทำไมอ่ะ ” เออ เอาเข้าไปมึงจะแกล้งกูใช่มั้ย
“ แล้วคิดว่าไงล่ะ ”
“ ไม่รู้สิ ถ้ารู้แล้วจะถามหรอ ” พูดไปยิ้มไปแบบนี้ มึงหมายความว่ายังไงวะ
“ กูว่าง เลยแกล้งเขินเล่นๆ ” ร่างเล็กหน้าถอดสีแถมยังตีแขนผมรัวๆ แบคจ้ะคนนะ ไม่ใช่กลอง
“ ชานยอล อ่า ” ขนาดงอนยังน่ารักเลย คนอะไรวะ
“ ไปชั้น 2 เหอะเดียวไม่ทันนะ ” ผมพูดพลางพลิกนาฬิกาข้อมือดู นี่ก็ปาไปจะตี 1 แล้วนะเนีย
ยังไปไม่ถึงไหนเลย กลัวคนแถวนี้จะทำภารกิจไม่สำเร็จแล้วโดนเพื่อนผมมันแกล้งนะสิ
นี้ผมห่วงมันอีกแล้วหรอ ? เฮ้อ ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆไม่เข้าใจความรู้สึกตอนนี้ที่เป็นอยู่เลยจริงๆ
ตอนนี้ผมกับแบคฮยอนเดินมาถึง บันไดทางขึ้นไปยังชั้น 2 แล้ว
ชั้นนี้ก็ยังคงเป็นเหมือนชั้น 1 ไม่ว่าจะความเงียบ และ ความมืด แต่มันจะต่างจากชั้น 1 ก็ตรงที่ความรู้สึกของผม ผมรู้สึกว่าตอนนี้....... ในโรงเรียนไม่ได้มีแค่ผมกับแบคฮยอน ผมมั่นใจว่าตอนนี้มันอยู่แถวๆนี้ด้วย อยู่ใกล้ๆผมเนียละ
เพราะ........กลิ่นของมันที่ลอยมาเตะจมูกของผม กลิ่นเหม็นสาบของสุนัข แต่ผมคิดว่ามันไม่ใช่สุนัขธรรมดานะสิ อาจจะเป็น หมาจรจัด หรือ หมาป่า !! แต่ผมคิดว่าไม่มีทางที่จะเป็นหมาจรจัดไปได้
จริงๆแล้ว ผมค่อนข้างมั่นใจเลยล่ะ ว่ามันไม่ใช่หมาจรจัด แต่ถ้ามันเป็นหมาป่า มันจะเปิดประตูได้อย่างไร ???
มันจะเปิดประตูแล้วส่งตัวเองเข้ามาในอาคารได้อย่างไรกัน
มันจะทำได้อย่างไรถ้ามันไม่มีมือเหมือนมนุษย์ และ..........
คงไม่มีใครบ้าเปิดประตูให้สัตว์ร้ายแบบนั้นเข้ามาด้วย หรือจะพูดให้ถูกก็คือ ตอนนี้ไม่มีใครอีกแล้ว นอกจากผมกับแบคฮยอน และผมก็มั่นใจว่าทั้งผมและ แบคฮยอน ไม่ได้เปิดประตูให้ใครหรือตัวอะไร เข้ามาด้วย
หรือ ? ? ?
มันจะเป็น มนุษย์หมาป่า หรือ ไลเคน หรืออะไรสักอย่าง แต่ผมรู้สึกเป็นห่วงคนข้างๆตัวเองอย่างบอกไม่ถูกแล้วสิ กลัวว่าถ้าผมปกป้องเค้าไม่ได้......ผมจะอดเห็นรอยยิ้มน่ารักๆแบบนั้นอีก
ผมไม่รู้ว่าคนตัวเล็ก......จะสัมผัสเหมือนที่ผมสัมผัสได้หรือไม่ แต่ผมมั่นใจว่ามันไม่ได้มาดีแน่ๆ
สิ่งที่กำลังจะมา มันไม่ได้ประสงค์ดีทั้งกับผม และ....... กับแบคฮยอน
ผมอยากจะให้เค้ารอผมตรงบันไดจัง
ผมอยากเดินไปเปิดไฟให้หมดเสียก่อน เผื่อถ้ามีอะไร....
ไม่ซิ ต้องมีแน่ๆ มันอยู่ชั้น 2 เนียละผมมั่นใจ ในขณะที่ผมเดินไปเปิดไฟ
ก็เท่ากับว่า........ผมก็จะเข้าใกล้มันมากขึ้น นั่นมีโอกาสเป็นไปได้สูงมากว่า....มันจะทำร้ายผม แต่ก็ดีกว่าให้มันทำร้ายคนของผม ในขณะที่ผมกำลังต่อสู้กับมัน..... ผมก็จะได้ถ่วงเวลาให้ แบคฮยอนหนีไป หนีไปให้ไกล ไกลจนผมคิดว่าปีศาจตัวนี้จะตามมาไม่ทัน
แต่ถ้าคิดในทางกลับกันละ
ในขณะที่ผมเดินขึ้นไปชั้น 2 ในขณะที่ผมคิดว่า..... ตอนนี้คนที่อยู่ใกล้ปีศาจตนนั้นคือผม
แต่ถ้าผมคิดผิด
จริงๆมันอาจจะรอให้ผมออกห่างจากเหยื่อแล้วค่อยกระโจนจากที่มืด ตะครุบแบคฮยอนแล้วลากเข้าสู่.....ห้วงนิทรา นิทราตลอดชีวิต !!!
ผมควรต้องเลือก ใช่สิผมต้องเลือก เพราะผมจะไม่บอกเรื่องนี้ให้เค้ารู้เด็ดขาด ไม่มีวัน !
หนทางเดียวที่น่าจะปลอดภัยมากที่สุด ผมคิดว่าน่าจะไปด้วยกัน ใช่ !! คงต้องไปด้วยกัน
แต่ผมจะให้เค้าอยู่ข้างหลังผม เพราะถ้าเกิดสัตว์นรกนั้นโผล่มาด้านหน้ามันก็จะเผชิญหน้ากับ
ผม
และผมก็จะต้องจับมือเค้า เพราะถ้าเกิดไอ้สัตว์นรกนั้นมันจะมาลากเค้าไปจากผม
ผมมั่นใจว่ามือผมที่จับเค้านะ มันแน่นพอที่จะรั้งเค้าไว้ให้อยู่กับผม
ผมจะไม่ยอมให้มันมาพรากเค้าไปจากผม ผมไม่ยอม
“ มึงเอาไฟฉายไปไว้มือขวาดิ ” ผมกระซิบบอกคนข้างกายด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“ ทะ ..ทะ.... ” ผมรีบเอามืดปิดปากคนตัวเล็กที่ถามออกมาซะเสียงดังลั่น ที่กูกระซิบมึงเนียไม่เข้าใจหรอว่ากูต้องการให้มึงพูดเบาๆ
“ พูดเบาๆ ”
“ อ่าๆ เปลี่ยนแล้ว ทำไมต้องเบาๆด้วยอะ ”
“ เออ ช่างเถอะ เอามือมา ”
“ ห้ะ ?? ” ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรอีกแล้ว ไม่รอแล้ว....ไม่รอให้เค้าเข้าใจอะไรผมแล้ว
คนอะไรเข้าใจอะไรยากจริงๆ บอกอะไรไปก็ ‘ ห้ะ ห้ะ ห้ะ ’ ผมยิ่งเป็นพวกไม่ชอบพูดอะไร
ซ้ำๆซากๆ อยู่ด้วย
หมับ
จับเลยละกัน คนข้างกายผมแสดงสีหน้าตกใจชัดเจน ชัดเจนสุดๆเลยละ ทั้งมือเค้าที่มีเหงื่อไหลออกมาอย่างพลั่งพลู แถมเหงื่อเม็ดเล็กๆยังผุดขึ้นตามใบหน้า ขาวๆนั้นอีก แก้มที่เมื่อไม่นานมานี้แสดงสีแดงสดใส บัดนี้มันก็แสดงสีนั้นอีกครั้ง แบคฮยอนพยายามหลบหน้าไม่มองหน้าผม เค้าเลือกที่จะมองพื้นแทน ตอนแรกที่ผมจับมือเค้าเนียก็ไม่ได้หวังจะล่วงเกินหรืออะไรเค้าหรอก แต่พอมาเห็นกริยาน่ารักๆที่เค้าแสดงออกมา ....... ผมเองก็ชักจะรู้สึกไม่แน่ใจแล้วสิ
ผมเลือกที่จะเปลี่ยนแผน จากตอนแรกผมคิดว่าผมจะเปิดไฟ.....แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมจะเดินฝ่าความมืดไปกับกระบอกไฟฉายเก่าๆอันนี้เนียละ ผมแย่งไฟฉายจากมือของ แบคฮยอนมาถือไว้ด้วยมือข้างที่ยังว่างอยู่ ผมถือให้ห่างจากตัวผมมากที่สุดด้วยการยื่นไปให้สุดแขนยื่นไปทางกำแพงฝั่งขวามือ
ถ้ามันจะโจมตี ผมมั่นใจว่ามันจะต้องวิ่งเข้าหาแสงจากกระบอกไฟฉายอันนี้แน่ๆ
และถ้ามันทำอย่างนั้นจริงๆ มันก็จะโดนแค่แขนของผม แต่จะไม่โดนคนข้างกายของผม
จะไม่โดนแบคฮยอน......ของผม
‘ ในโรงเรียนเรา ที่ชั้น 2 จะมีใบคำสั่งวางอยู่บนโต๊ะแรก ทางซ้ายมือที่ติดกับหน้าต่าง ’
ห้องไหนของมันวะ ............. เดียวนะ ติดกับหน้าต่าง และ มีโต๊ะ
น่าจะใช่นะ ผมคิดว่าใช่ละ มันต้องเป็นห้องเรียนของเด็กเอกพละ !!
เพราะช่วงนี้ผมเห็นไอ้ยงกุกมันเดินมาบ่อยๆ ต้องใช่แน่ๆละ
เราเดินผ่านห้องทุกห้องในชั้น 2 จนมาหยุดอยู่หน้าห้อง A5 ห้องเรียนของเด็กเอกพละ ผมลากแบคฮยอนเข้ามาในห้องนั้น นั่นไงละคิดไว้แล้วเชียว บนโต๊ะแรกทางฝั่งซ้ายมือติดกับหน้าต่างมีเศษกระดาษแผ่นหนึ่งวางไว้อยู่ ผมชี้ให้คนข้างกายดู เค้าพยักหน้ารับรู้และเดินไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาถือไว้
ทำไมวันนี้แม่บ้านที่โรงเรียนเค้าไม่มาปิดหน้าต่างนะ แสงของพระจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาในห้องเรียน ทำให้สามารถมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ถึงแม้ไม่เปิดไฟก็มองเห็น แต่วันนี้ผมว่าพระจันทร์มันดูแปลกๆนะ พระจันทร์ดวงกลมโต ตามปกติมันควรจะเป็นสีขาวนวลผ่อง อยู่ท่ามกลางฟากฟ้าสีมืด และถูกประดับประดาด้วยดวงดาวแวววาวนับร้อยดวง
แต่ตอนนี้พระจันทร์กลับกลายเป็นสีน้ำเงินประกายฟ้า ใช่ครับ คุณฟังไม่ผิด มันเป็นสีฟ้าและผมไม่ได้ตาฝาดด้วย เพราะแบคฮยอนเองก็เห็น เค้ายังหันมามองหน้าผมด้วยแววตาสงสัย เค้าเองคงไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เค้าเห็นมันถูกหรือเปล่า เค้ากำลังต้องการคำยื่นยันจากผม ว่าสิ่งที่เค้าเห็น....... มันเกิดขึ้นจริง หรือ เค้าคิดไปเอง ผมเดินไปจูงมือแบคฮยอนให้ออกห่างจากหน้าต่างพลางหมุนตัวหันหน้าออกจากห้องนั้น
เราเดินลงบันไดจากชั้น 2 ลงมาเรื่อยๆ ตลอดทางแบคฮยอนเงียบไม่พูดไม่จา ผมสังเกตุได้ว่าตัวเค้าสั่น.........สั่นมาก เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดออกมาเต็มฝ่ามือ ไม่ซิไม่ใช่แค่มือ บริเวณใบหน้าเค้าก็ปรากฏเม็ดเหงื่อจำนวนมาก ที่ไหลมาจากหน้าผากไหลลงมาตามแรงโน้มถ่วงมาที่ขมับและตามมาด้วยพวงแก้ม ผมไม่เคยเห็นเค้าเป็นแบบนี้เลย ผมบีบมือเค้าให้แน่นขึ้นให้เค้ารู้สึกมั่นใจว่าผมจะไม่ปล่อยมือ ให้เค้ามั่นใจว่าผมจะไม่ทิ้งเค้าไปไหน
!!!!!!!!!!!
ฝีเท้าทั้งผมและเค้าแทบจะหยุดลงพร้อมกัน มันหยุดชะงัก เพราะสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า
และแล้วผมก็เจอมัน
ปีศาจกลิ่นสาบนั่น
ตอนนี้........ มันอยู่ข้างหน้าผมแล้ว
สัตว์ 4 ขาร่างสูง ส่วนสูงของมันน่าจะประมาณ 2 เมตร ตัวของมันที่ถูกปกคลุมทั้งขนสีขาวและสีดำ จริงๆแล้วเหมือนถูกปกคลุมด้วยสีดำ ยกเว้นขาทั้ง 4 ข้าง ใบหน้า และหู 2 ข้างที่ยาวและยกตั้งขึ้น แต่จุดเด่นของมันไม่ได้อยู่ที่ขนาดตัว หรือ สีขนมันหรอก
มันอยู่ที่......ลูกตา.......ของมัน
ลูกตาสีน้ำเงินประกายฟ้า ใช่ครับ สีเดียวกับพระจันทร์นั่นละผมรู้ละทำไมวันนี้พระจันทร์ดูแปลกตากว่าแต่ก่อนที่เคยพบเห็น ต้องเป็นเพราะมันแน่ๆ ตอนนี้มันหยุดมองผมกับคนข้างกายด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่ได้ต้องการจะทำร้าย และ ไม่ได้ต้องการจะช่วยเหลือแต่อย่างใด มันก้มหน้ามองพื้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นสูง เชิดคอตั้งขึ้นพลางมองดวงจันทร์กลมโต ที่เด่นตระหง่านอยู่กลางฟากฟ้า พร้อมส่งเสียงเห่าหอน เสียงมันดังมาก ดังไม่แพ้กับขนาดตัวของมันเลย
บู่ววววววววววววววววววววร์
หลังจากที่มันส่งเสียงเห่าหอนจนพอใจมันแล้ว มันก็วิ่งหนีหายไป หายเข้าไปในทางที่ผมกับ แบคฮยอนเข้ามา
“ กลัวมั้ย ” ผมตัดสินใจถามเค้าออกไป ทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว หมาป่าตัวเบ่อเริ่มมาอยู่ตรงหน้าเป็นใคร ใครจะไม่กลัวละ แต่ที่ผมถามออกไปแบบนั้น เพราะผมต้องการทำลายความเงียบที่มันเกิดขึ้น.....ตั้งแต่หมาป่าวิ่งหายไปจนผมเดินมาส่งเค้าที่บ้าน เราก็ไม่ได้คุยกันเลย บ้านที่ว่า ก็บ้านผมนั่นหละ คือผมคิดว่าถ้าปล่อยเค้าไว้คนเดียวคงจะไม่ปลอดภัยอีกอย่าง......ผมขี้เกียจถามทางไปบ้านเค้า ผมเลยพาเค้ามาบ้านผมแทน เหตุผลอาจดูไร้สาระสักหน่อยแต่ถ้าสำหรับคนที่เพิ่งเจอเหตุการณ์ตกใจมากๆไป คงจะดีถ้าได้เดินเงียบๆ ใช้เวลาคิดวิเคราะห์กับสิ่งที่ได้พบเจอมา ดีกว่าต้องมาบอกทางนู่นนี่นั่น แต่มันก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนั่นละ
“ เป็นนาย....นายจะกลัวมั้ย ” เค้าเงยหน้ามามองผมด้วยสายตาคาดคั้นเอาคำตอบ
“ ไม่รู้สิ เฉยๆละมั้ง ”
“ ห้ะ ไม่กลัวเลยหรอ นี่นายบ้าหรือเปล่าเนีย ” เออ.....นั่นสิ ผมก็ลืมไปว่าคนข้างกาย เค้าไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร
“ เอ่ออ..... คือกูดูหนังแนวนี้บ่อยอะ เลยเฉยๆ ” จะเชื่อกูมั้ยละเนีย
“ อ้อ..... ฉันก็ดูบ่อยนะ แต่ก็กลัว มันไม่ใช่หมาป่าธรรมดาอะ ” เอ้านี่รู้เรื่องด้วยหรอเนีย
“ หมายความว่าไง ? ”
“ มันเป็นหมาป่ายักษ์ กินจุ ตัวใหญ่ .....อ้วน ” อื้อหื้อ ไอ้เราก็นึกว่ารู้เรื่อง มึงจะมองโลกสวยไปไหนวะ แบคฮยอน แต่จะว่าไป........ปล่อยให้คิดแบบนั้นไปก็ดี จะได้ไม่คิดมาก
“ อ้อ คงจะจริงแบบที่มึงว่า ” ตามน้ำไปละกันครับ
“ เอ้ะ เดียวนะ ! กระดาษอยู่ไหนอ่า ” คนตัวเล็กสะดุ้งตกใจ เมื่อนึกถึงแผ่นกระดาษแผ่นนั้น สงสัยว่าเค้าจะทำหายในนั้นแน่ๆเลย ไม่ใช่แค่เค้าหรอกที่ตกใจ ผมเองก็ตกใจเหมือนกัน แต่เอ๊ะ ในมือข้างนั้น มีอะไรขาวๆโผล่ออกมา มันโผล่ออกมาเพียงเสี้ยวเดียวแต่ผมก็รู้ว่ามันคืออะไร
“ ในมือมึง ”
“ ไหนอะไร ? ”
“ กระดาษอยู่ในมือมึง ” แบคฮยอนยกมือขึ้นและแบมันออก เผยให้เห็นกระดาษแผ่นนั้น ถูกกำ ขยำจนแทบเละ เค้าค่อยๆบรรจงคลี่มันออกอย่างเบามือ
ทำไมต้องหน้าตกใจขนาดนั้นด้วย............
“ ทำไม มันเขียนว่าอะไร ”
“ เอ่อ ....... ”
“ อะไร ล่ะมึง ? ” ผมแย่งเศษกระดาษมาจากมือเล็กนั้น อ้อ เข้าใจละ.....
‘ บ๊อกเซอร์ ปาร์คชานยอล ’
“ อยากได้ก็ขึ้นห้องกับกูสิ ”
“ ห้ะ ”
ล้าลา จบไปอีกหนึ่งตอน
เป็นไงค่า สัตว์ประหลาดที่คิดไว้ เป็นเหมือนกับที่เพื่อนๆคิดไว้รึป่าวเอ่ยยยยย
แต่เชื่อไรท์เหอะ หมาป่าตัวนี้ไม่ธรรมดา O.O
โอ้ยยยย ชานยอลจะชวนแบคฮยอนขึ้นห้องอะ
คิดว่าแบคไปป่ะ 5555555 มารอดูกันตอนหน้าน้า
ความคิดเห็น