คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บ้านใหม่?
“อะไรว่ามาสิ”
“ฉันเห็นนายถือใบสมัครงานนั้นมานานละ แล้วพอดีว่าบ้านพักที่ฉันอยู่แม่บ้านลาไปเยี่ยมญาติที่เขมร 2 อาทิตย์ ฉันเลยจะให้นายมาช่วยดูแลทำความสะอาดบ้านทำอาหารให้ ” เหวอ อะไรของเค้าเนี่ย เรื่องอะไรฉันจะตอบตกลงละ ถ้าขืนไปอยู่กับเค้านะมีหวังฉันคงจะโดนทำอนาจารเช้ากลางวันเย็นก่อนนอนเป็นแน่แท้
“ไม่ตกลง ทำไมฉันต้องทำด้วยละ”
“ถ้าฉันเดาไม่ผิดฉันว่าตอนนี้นายเองกำลังตกงาน หรือไม่ก็ขัดสนเรื่องเงินทองอยู่เป็นแน่แท้เลยละถ้าให้ฉันเดาอะนะ ” โห ฉันละนับถือในลางสังหรณ์ของหมอนี้จริงๆเลย -*-
“นี้นาย ถึงฉันจะจนแต่ก็มีศักดิ์ศรีนะฉันไม่ยอมลดตัวเองลงไปหรอก เชอะ” แหม่ อีตาบ้านี้คงนึกว่าฉันเห็นแกเงินละสิ ฝันไปเถอะย่ะ
“2 พัน บาทนายจะว่าไง ค่าจ้างทั้งหมดภายใน 2 อาทิตย์”
“โอ้โห น้อยไปปะ” โหทำงานตั้งนานให้แค่เนี้ยจะใช้เองยังไม่พอเลยแล้วจะส่งให้ครอบครัวยังไงล่ะว้อย
“5 พัน”
“ไม่”
“1 หมื่น” เอ้ะชักหน้าสนใจแล้วสิ
“….”
“อะ 5 หมื่นเยอะมากเลยนะถ้า...”
“ตกลง ที่ฉันช่วยเพราะไม่ได้เห็นแก่เงินหรอกนะแต่พอดีสงสารพวกนายจะไม่มีคนทำความสะอาดบ้านให้นะเนีย” อิอิ จริงๆฉันจะรับงานตั้งแต่ 1 หมื่นแล้วแต่อยากเพิ่มให้เองช่วยได้ 55555
“โอเคหลังจากที่เราออกจากโรงแรมนี้ นายก็ไปพักอยู่กับเราที่นู่นเลยนะช่วยทำความสะอาดบ้านอะไรทำนองนี้ละ” ชานยอลพูดขึ้นมา
“ได้ๆ ตกลง”
“ส่วนตอนนี้นายก็พักผ่อนไปก่อนละกัน สักประมาณตี 1 ฉันจะโทรเรียกเพื่อนฉันให้มารับนายไปส่งที่บ้านพักของพวกเราในระหว่างที่เรายังไม่กลับ นายก็ทำความสะอาดบ้านแล้วก็เรียนรู้การดูแลบ้านจากผู้จัดการใหญ่ของเราไปก่อนละกัน ”ชานยอลพูด
“อ่า ตกลง” หลังจากนั้นฉันเองก็ไปนอนหลับพักผ่อนหลังจากที่ง่วงและอ่อนเพลียจากการเดินทางมา และยังต้องเสียแรงต่อสู้กับอีตาโรคจิตหื่นกามนั้นอีก คนอะไรแรงเยอะเป็นบ้า T^T
กริ๊งกร๊องงงงงงง
เอ๊ะเสียงกริ่งนี้หน่าใครมากดกริ่งเล่นดึกดื่นป่านนี้เนียคนกำลังนอนหลับฝันดี ฝันถึงสวามีอันเป็นที่รักยิ่ง เพ่โดม นั้นเอง อิอิ ฉันยังไม่ทันจะลืมตาดูเลยก็รู้สึกได้ว่าเหมือนมีมือใครสักคนมาสะกิดที่ต้นแขนด้านขวาของฉันให้ตื่น
“ตื่นเร็วๆ ไอ้เอ๋อ” อื้อหื้อ เรียกอย่างนี้ไม่ต้องเดาเลยว่าใคร ฉันรีบดันตัวเองลุกขึ้นและกำลังจะชี้หน้าด่าเค้า เค้าก็รีบเอามืออุดปากฉันและพยายามพูดให้เสียงเบามากถึงมากที่สุด ทำยังกะกลัวใครจะได้ยินยังงั้นละดึกป่านนี้หลับกันทั้งโรงแรมแล้วละมั้งเนียพ่อคุณ
“อย่าเพิ่งว่าอะไรฉันทั้งนั้นละ รีบไปเร็วเพื่อนฉันมารับนายแล้ว ” เค้าพูดพลางยัดกระเป๋าใส่มือฉันแล้วรีบดันฉันให้มาอยู่ที่หน้าประตู
แอ๊ดดดด
“เห้ย ฮุน นายช่วยพาตานี้ไปที่บ้านของเราหน่อยนะ อย่าให้ใครเห็นนะ”
“ครับพี่ ผมจะช่วยดูแลให้ ว่าแต่..............แฟนพี่หรอครับ”หนุ่มน้อยละอ่อนหน้าหวานถามขึ้น
“จะอะไรก็ช่างเดียวค่อยเล่าให้ฟังอีกทีละกัน เดียวใครมาเห็นเค้ามีหวังได้ซวยกันหมดนี้แน่”
“ครับ ” เค้าพูดพร้อมกับคว้าข้อมือของฉันและรีบวิ่งพาไปที่รถทันที สงสัยคงกลัวจะมีใครเห็นละมั้งนั้น
เมื่อถึงที่รถ สปอร์ตสีดำ เค้าก็เปิดประตูรถให้ฉันนั่งและเค้าก็รีบวิ่งมานั่งประจำที่คนขับและ ขับรถออกไปจากโรงแรมนี้โดยเร็ว
“นี้นาย เป็นใครเนีย เด็กใหม่พี่ไคหรอ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย” เค้าพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงสงสัย โถ่เด็กหนอเด็กฉันคงไม่เอาพี่นายที่เป็นผู้ชาย โคตรโรคจิตทำสวามีหรอกจ้ะ -*-
“เปล่าสะหน่อย ฉันจะมาทำงานที่บ้านขอพวกนายนั้นละ”
“แล้วทำไมพี่เค้าต้องให้ผมมารับด้วยละ ถ้าไม่สำคัญจริงๆ หรือคนๆนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรทำไมพี่เค้าถึงดูห่วงขนาดนั้นละ”
“เค้าแสดงให้เห็นตอนไหนว่าห่วงห้ะ” เค้าแสดงตอนไหนว่าห่วงฉันเนีย ฉันเห็นว่ามีแต่ผลักฉันออกไป จนหน้าฉันเกือบจะแหก เพราะกระแทกประตูเนียละ -*-
“ก็หน้าพี่เค้าดูจริงจังมาก จริงๆแค่คนใช้ไม่น่าจะต้องดูแลอะไรดีขนาดนี้เลย”
“เค้ากลัวคนเห็นกลัวจะเสื่อมเสียภาพพจน์ก็เท่านั้นละ นายนี้จะคิดอะไรให้มากทำไมห้ะ!”
“เสื่อมเสียภาพพจน์ยังไง?”ฉันจังตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้หมอนี่ฟัง แต่ฉันข้ามตอนที่อีตาบ้าไคลวนลามฉันไป เพราะไม่งั้นมีหวังโดนล้อแน่ เห้อชีวิตรันทดซะยิ่งกว่าหนังช่อง 7
“อ้อแบบนี่ นี้เอง”
แอร๊ดดดดดดดดดดดดดด
อยู่ดีๆอีตาบ้านี้ก็เบรกรถอย่างกะทันหันจนหน้าฉันแทบจะพุ่งทะลุกระจกอารมณ์หนัง 3D สามมิติ โชคดีที่รัดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ไม่งั้นมีหวังได้ไปลัลล้าในนรกแน่ -*-
“นี่นาย จะเบรกทำไมไม่บอกก่อน หน้าฉันเกือบแหกเลยนะเนีย”ฉันพูดพลางลูบไล้ใบหน้านวลเนียนนุ่มนิ่มน่ารักของฉัน (บางทีก็หลงตัวเองไปนะจ้ะศรีโด้)
“อ้อ จะบอกตั้งนานแล้วก็ลืมฉันชื่อ เซฮุน หรือจะเรียกเต็มๆว่าโอ เซฮุนก็ได้นะ ไม่ได้ชื่อ นาย”
“นั้นละจะชื่ออะไรก็ช่าง นายจะเบรกรถทำไมเนีย”
“นายชื่อไรอะ” โอโห้พ่อคุณนี้มันใช่เวลามาแนะนำตัวกันมั้ยเนียยยยยยยย โอ้ยเพลียเบรกรถซะล้อแทบหลุดเพื่อถามชื่อ เจริญ
“….”
“ตกลงว่านายชื่ออะไร” คราวนี้เค้าพูดพร้อมยื่นหน้ามาใกล้ขึ้น โอ้ยผู้ชายพวกนี้เป็นอะไรกันหมดเอะอะก็เข้ามาใกล้ เข้ามาใกล้ เขินเป็นนะเฟ้ย
“ฉันชื่อ ดีโอ แต่คนแถวบ้านมักจะเรียกว่า โด้” ยกเว้นยายฉันที่ออกเสียงไม่ชัดเลยกลายเป็น โอ้ -*- เศร้าชีวิต
“ดีโอ นายหันหน้ามาให้ฉันดูหน่อยสิ” ห้ะ อะไรของเค้ากันเนีย ชักจะน่ากลัวไปกันใหญ่แล้ววววว
“ทำไมอะ”
“บอกให้หันก็หันมาเถอะหน่า” เค้าพูดพลางเอามือมาจับที่คางของฉันให้หันไปทางเค้า และเค้าเองก็ยื่นหน้ามาใกล้ๆฉันเองเช่นกัน โอ้ยละลายนะผู้ชายตาตี่ๆ รอยยิ้มหวานๆผิวขาวเนียน หน้าใสๆผมที่ปรกหน้านิดๆ ช่างรับกับกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆของเค้าสิ้นดี โอ้ยอยากจะละลายให้รู้แล้วรู้รอดมันไปซะตรงนี้เลย
“นี้นายจะทำอะไรเนีย” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา เพราะเริ่มสัมผัสถึงใบหน้าที่ร้อนผ่าว และถ้าเดาไม่ผิดหน้าฉันจะต้องแดงแน่ๆ เขิน อร๊างงงงงง
“อย่าเพิ่งพูดอะไรซิ แค่มองหน้าฉันอย่าหลบตาก็พอ” เค้าพูดพลางเอามือมาแตะที่ริมฝีปากของฉันอย่างแผ่วเบา แล้วเค้าก็ค่อยๆกวาดสายตาไปทั่วใบหน้าฉันอย่างกับจะสแกนหาบรรพบุรุษ ยังไงยังงั้นละ
นายจะทำอะไรกันแน่ โอ เซฮุน!
“อ้อ ฉันรู้ละ จริงๆแล้วนายอะ..” จะบอกว่าฉันสวยละสิ อิอิ ฉันเขินน้า
“ตาโคตรเหลือกเลย” ห้ะ !! ขอตายแปปนะ
“ห้ะ อะไรนะ”
“ก็พี่ไค กับพี่ชานยอลบอกว่านายเป็นโรคติ๊งต๊อง เอ๋อ เด๋อ สมองนิ่ม อะไรทำนองนี้ละ” รู้สึกว่าที่นายพูดมามันโรคเดียวกันนั้นละ
“อ้อ แล้วนายก็เชื่อหรอ” เซฮุนอึ้งไปนิดนึงแต่เค้าก็สตาร์ทรถและขับรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังบ้านพักต่อ
“ไม่รู้สิ ตาเหลือก ไม่ได้แปลว่าต้องเอ๋อ จริงมะ แล้วอีกอย่างนิสัยนายก็ดูปกติไม่เอ๋ออะไร”
“ถูกต้อง ฉันปกติดี ฉันเหมือนคนปกตินะ”
“แต่ฉันก็เชื่อพี่ไค นะ” กรรม ที่พูดมาทั้งหมดนี้นายไม่เข้าใจเลยหรือไงห้ะ -*- เห้อเกิดมีกรรมตาเหลือก แต่ เสือกน่ารัก
“แล้วแต่นายเถอะ เบื่อจะเถียงกับพวกนายละ” หลังจากฉันพูดจบเค้าเองก็หัวเราะอย่างมีความสุขและขับรถต่อไป
แล้วต่อไป.....หลังจากที่ศรีโด้น้อยของเราไปอยู่ที่นู่นจะเป็นอย่างไร น้าาาาาาาาาาาาาาาาาา ???
มาช่วยลุ้นกัน^^
ความคิดเห็น