ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ++แย่แล้ว!! กระเป๋าฉันล่ะ++
        ถึงแล้ว!! บ้านใช้ได้ไม่ใช่เล่น แม่ฉันนี่ตาแหลมจริง ๆ เลย แต่ว่าฉันอยู่กับพี่สาวฉันแค่สองคนนะ ทำไมถึงซื้อบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ ดูแล้วมันวังเวงยังไงก็ไม่รู้ ว้าว! แม่จ้างพี่เลี้ยงเอาไว้ด้วยหรอเนี่ย ดีจัง!! คิดว่าจะได้ทำงานบ้านเองซะแล้ว
        “มาถึงกันแล้วหรอคะ” พี่เลี้ยงคนนั้นพูดขึ้น
        “จ้ะ..แล้วนี่เธอชื่ออะไรหรอ”
        “อ๋อ! พี่ชื่อแต้วจ้ะ คุณแม่ของพวกคุณจ้างให้พี่มาคอยดูแลรับผิดชอบเรื่องภายในบ้าน และก็เรื่องพวกคุณ”
        “อย่างนั้นหรอ..ดีจังเลยเนาะเพียว”
        “อืม..นี่ยัยผักบุ้ง แกอยู่บ้านคนเดียวไม่ใช่หรอ กว่าแม่แกจะกลับมาจากอังกฤษก็ตั้งเดือนหน้า แกมาอยู่กับฉันไหม ว่าไงพี่เพลง”
        “ก็ดีเหมือนกันนะ ยัยเพียวจะได้มีเพื่อน”
        “จะดีหรอ..” ยัยผักบุ้งถามเหมือนจะเกรงใจ แต่ใจจริงก็อยากมาอยู่ด้วยใช่ไหมล่ะ
        “ดีสิ..ฉันรู้ว่าแกอยู่คนเดียวเหงา มาอยู่กับฉันเถอะนะ เดี๋ยวฉันโทรขอแม่แกให้ แม่แกต้องดีใจแน่ถ้ารู้ว่าแกมาอยู่กับฉัน”
        “ก็ได้..งั้นฉันขอตัวไปเก็บเสื้อผ้าก่อนนะ”
        “ได้จ้ะ..รีบ ๆ มานะ ฉันดีใจจริง ๆ ที่จะได้อยู่กับแก”
        “อืม..ฉันก็ดีใจ เอาไว้เจอกันนะ”
        ยัยผักบุ้งเดินออกไปแล้ว เฮ้อ! ฉันว่าฉันขึ้นไปเก็บกระเป๋าก่อนดีกว่า ยังไงซะพรุ่งนี้ก็ต้องไปโรงเรียนแล้ว ฉันยังไม่พร้อมเลย ฉันอยากจะพักผ่อนให้เต็มที่ก่อน ฉันเดินขึ้นไปบนห้อง ว้าว! ทั้งห้องเป็นสีส้มหมดเลย น่ารักจัง! ต้องเป็นฝีมือแม่แน่ ๆ เลย ฉันรักแม่ที่สุดเลย รู้ใจฉันไปหมดจริง ๆ ฉันเปิดตู้เสื้อผ้าออกและก็เห็นชุดนักเรียนของฉันแขวนอยู่ในตู้ แม่ฉันจัดเตรียมไว้ให้ทุกอย่างเลยหรอเนี่ย ว่าไปชุดโรงเรียนนี้ก็สวยดีเหมือนกันนะ คล้ายชุดที่ญี่ปุ่นเลย ฉันเปิดกระเป๋าออกและฉันก็ต้องตกใจเพราะของในกระเป๋านั่นมัน...
        “เสื้อผ้าผู้ชาย กรี๊ดดดด เป็นไปได้ยังไงกัน นี่มันกระเป๋าใครกันล่ะเนี่ย ทำไมถึงมีแต่เสื้อผ้าผู้ชาย ของใช้ผู้ชาย อะไรเนี่ย ฉันจะบ้าตาย”
        ยัยเพียวเอ๊ย..ยัยเพียว แกนี่มันไม่ดูตาม้าตาเรือเอาซะเลย หยิบกระเป๋ามาก็ไม่ดูก่อน แต่กระเป๋านี่มันเหมือนของฉันจริง ๆ นะ เพียงแต่ว่าไม่มีพวกกุญแจรูปส้มก็เท่านั้นเอง แกนะแกหยิบกระเป๋าใครมาล่ะเนี่ย แล้วฉันจะเอาคืนได้จากที่ไหน อ๊ะ!! มีโทรศัพท์มือถืออยู่ในกระเป๋าด้วย แต่ไม่ได้เปิดเครื่องเอาไว้ ฉันจัดการเปิดเครื่องมันซะเผื่อว่าเจ้าของกระเป๋าจะโทรกลับมาแล้วเราจะได้แลกเปลี่ยนกระเป๋าคืนกัน
        “มีอะไรน่ะเพียว เสียงแกดังไปถึงห้องพี่เลย”
        พี่สาวฉันเปิดประตูออกมาอย่างหน้าตาตื่น ถ้ามีโจรเข้ามาปล้นบ้านแล้วทำร้ายฉัน ฉันว่าฉันต้องตายแล้วแน่ ๆ เลย กว่าจะมาได้ ทำไมไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะจ๊ะ..แม่พี่สาวคนเก่ง
        “ก็กระเป๋าใบนี้ล่ะสิไม่รู้ว่าของใคร”
        “ทำไมเวลาตอนแกไปหยิบไม่ดูให้ดีซะก่อน แล้วนี่อะไรเนี่ยเสื้อผ้าผู้ชายทั้งนั้นเลย”พี่สาวฉันเปิดกระเป๋าออกมาแล้วก็กระจายของในนั้นออกจนเกือบหมด
        “ก็ใช่น่ะสิเสื้อผ้าผู้ชาย พี่เห็นว่าเป็นเสื้อผ้าผู้หญิงรึยังไง”
        โป๊ก!! โอ๊ย..เจ็บชะมัดเลย พี่ฉันเขกหัวฉันอย่างแรงเลย
        “ยังจะมาทำเป็นพูดดีอีก ซุ่มซ่ามแล้วยังเซ่อซ่าอีก ทำอีท่าไหนละเนี่ย แล้วของ ๆ แกจะได้คืนไหม”
        “คงได้คืนล่ะมั้ง ในกระเป๋าใบนี้มีโทรศัพท์มือถืออยู่ เค้าคิดว่าอีกไม่นานเขาคงโทรมา”
        “ก็ให้มันจริงอย่างที่แกพูดเถอะ”
        “เอ๊า! มันก็แน่อยู่แล้ว ใครเขาจะไม่อยากได้กระเป๋าคืนล่ะ พี่นี่ก็พูดแปลก ๆ”
        “ยัยเพียว” พี่ฉันตะโกนเสียงดัง สงสัยชักจะรำคาญน้องสาวคนนี้ล่ะสิ
        “ล้อเล่นน่า..พี่ไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวเรื่องนี้เค้าจัดการเอง”
        พี่สาวฉันเดินออกไปจากห้องฉัน แถมยังปิดประตูเสียงดังอีก ไม่มีมารยาทจริง ๆ เลย ฉันนั่งรอโทรศัพท์นั้นเกือบ 2 ชั่วโมง และแล้วเสียงโทรศัพท์เครื่องนั้นก็ดังขึ้น
        ติ๊ด..ตะ..ดะ..ดิ๊ด..ดิด..ติด..ติ๊ด
        “ฮัลโหล..”
        “เธอเป็นใคร!! เอากระเป๋าฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะ”
        หืม..เจอหน้ากันก่อนเถ๊อะ ฉันจะเล่นให้หนักเลยตะโกนออกมาได้แสบหูชะมัด
        “แล้วนายล่ะเป็นใคร”
        “ฉันจะเป็นใครเธอไม่ต้องมารู้หรอก แต่เธอเอากระเป๋ามาคืนฉันเดี๋ยวนี้”
        “นี่..แล้วถ้านายไม่บอกแล้วฉันจะรู้ได้ไงว่านายเป็นใคร พูดออกมาได้คิดเปล่าเนี่ย”
        ผู้ชายคนนั้นเงียบไปพักนึง สงสัยจะไปนั่งคิดว่าตัวเองโง่จริง ๆ ล่ะมั้ง พูดออกมาได้ว่าไม่ต้องอยากจะมารู้จัก แต่ดันอยากจะได้กระเป๋าคืน ประสาทหรือเปล่า
        “ว่าไง..นายเป็นใคร”
        “ฉัน..ฉัน..คือ..”
        “อะไรกันเล่าตะกุกตะกักอยู่ได้ ทำไมนายเป็นพ่อค้าขายยาบ้าหรือไงถึงบอกฉันไม่ได้ ฮะ!!” ฉันตะโกนเสียงดังกลับไปบ้าง หนอยแน่ะ!! คิดว่าเสียงดังเป็นคนเดียวรึไง
        “มันก็เรื่องของฉัน เอาอย่างนี้ตกลงเธอตอนนี้เธออยู่ที่ไหนบอกฉันมา ฉันจะรีบไปเอากระเป๋าคืน”
        “ทำไมนายต้องมารู้จักที่อยู่ฉันด้วยล่ะ”
        “เอ๊า! เธอนี่ก็ถามแปลก ๆ ถ้าฉันไม่รู้จักที่อยู่เธอแล้วฉันจะได้กระเป๋าคืนหรอ พูดออกมาได้คิดเปล่าเนี่ย”
        หืม..นายย้อนฉันหรอ น่าหมั่นไส้ชะมัดฉันได้ยินเสียงนายนั่นหัวเราะเยาะฉันเบา ๆ ด้วย อย่าให้เจอหน้านะจะตั๊น!! หน้าสักทีนึง ข้อหากวนประสาทฉัน   
        “เออ ๆ ฉันอยู่หมู่บ้าน แกรนด์ปาร์ควิล 2 บ้านเลขที่ xxx/xx ตรงเข้ามาเรื่อย ๆ ฉันจะยืนรอนายหน้าบ้าน โอเค๊!!”
        “อืม..รอฉันตรงนั้นแหละ อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะไปถึง”
        ทีนี้แหละนายเจอดีแน่ นายบ้า ฉันจะขอชกนายสักหนึ่งที ข้อหากวนโมโหฉัน และก็อีกหนึ่งทีที่ทำให้ฉันอารมณ์เสีย
        “มาถึงกันแล้วหรอคะ” พี่เลี้ยงคนนั้นพูดขึ้น
        “จ้ะ..แล้วนี่เธอชื่ออะไรหรอ”
        “อ๋อ! พี่ชื่อแต้วจ้ะ คุณแม่ของพวกคุณจ้างให้พี่มาคอยดูแลรับผิดชอบเรื่องภายในบ้าน และก็เรื่องพวกคุณ”
        “อย่างนั้นหรอ..ดีจังเลยเนาะเพียว”
        “อืม..นี่ยัยผักบุ้ง แกอยู่บ้านคนเดียวไม่ใช่หรอ กว่าแม่แกจะกลับมาจากอังกฤษก็ตั้งเดือนหน้า แกมาอยู่กับฉันไหม ว่าไงพี่เพลง”
        “ก็ดีเหมือนกันนะ ยัยเพียวจะได้มีเพื่อน”
        “จะดีหรอ..” ยัยผักบุ้งถามเหมือนจะเกรงใจ แต่ใจจริงก็อยากมาอยู่ด้วยใช่ไหมล่ะ
        “ดีสิ..ฉันรู้ว่าแกอยู่คนเดียวเหงา มาอยู่กับฉันเถอะนะ เดี๋ยวฉันโทรขอแม่แกให้ แม่แกต้องดีใจแน่ถ้ารู้ว่าแกมาอยู่กับฉัน”
        “ก็ได้..งั้นฉันขอตัวไปเก็บเสื้อผ้าก่อนนะ”
        “ได้จ้ะ..รีบ ๆ มานะ ฉันดีใจจริง ๆ ที่จะได้อยู่กับแก”
        “อืม..ฉันก็ดีใจ เอาไว้เจอกันนะ”
        ยัยผักบุ้งเดินออกไปแล้ว เฮ้อ! ฉันว่าฉันขึ้นไปเก็บกระเป๋าก่อนดีกว่า ยังไงซะพรุ่งนี้ก็ต้องไปโรงเรียนแล้ว ฉันยังไม่พร้อมเลย ฉันอยากจะพักผ่อนให้เต็มที่ก่อน ฉันเดินขึ้นไปบนห้อง ว้าว! ทั้งห้องเป็นสีส้มหมดเลย น่ารักจัง! ต้องเป็นฝีมือแม่แน่ ๆ เลย ฉันรักแม่ที่สุดเลย รู้ใจฉันไปหมดจริง ๆ ฉันเปิดตู้เสื้อผ้าออกและก็เห็นชุดนักเรียนของฉันแขวนอยู่ในตู้ แม่ฉันจัดเตรียมไว้ให้ทุกอย่างเลยหรอเนี่ย ว่าไปชุดโรงเรียนนี้ก็สวยดีเหมือนกันนะ คล้ายชุดที่ญี่ปุ่นเลย ฉันเปิดกระเป๋าออกและฉันก็ต้องตกใจเพราะของในกระเป๋านั่นมัน...
        “เสื้อผ้าผู้ชาย กรี๊ดดดด เป็นไปได้ยังไงกัน นี่มันกระเป๋าใครกันล่ะเนี่ย ทำไมถึงมีแต่เสื้อผ้าผู้ชาย ของใช้ผู้ชาย อะไรเนี่ย ฉันจะบ้าตาย”
        ยัยเพียวเอ๊ย..ยัยเพียว แกนี่มันไม่ดูตาม้าตาเรือเอาซะเลย หยิบกระเป๋ามาก็ไม่ดูก่อน แต่กระเป๋านี่มันเหมือนของฉันจริง ๆ นะ เพียงแต่ว่าไม่มีพวกกุญแจรูปส้มก็เท่านั้นเอง แกนะแกหยิบกระเป๋าใครมาล่ะเนี่ย แล้วฉันจะเอาคืนได้จากที่ไหน อ๊ะ!! มีโทรศัพท์มือถืออยู่ในกระเป๋าด้วย แต่ไม่ได้เปิดเครื่องเอาไว้ ฉันจัดการเปิดเครื่องมันซะเผื่อว่าเจ้าของกระเป๋าจะโทรกลับมาแล้วเราจะได้แลกเปลี่ยนกระเป๋าคืนกัน
        “มีอะไรน่ะเพียว เสียงแกดังไปถึงห้องพี่เลย”
        พี่สาวฉันเปิดประตูออกมาอย่างหน้าตาตื่น ถ้ามีโจรเข้ามาปล้นบ้านแล้วทำร้ายฉัน ฉันว่าฉันต้องตายแล้วแน่ ๆ เลย กว่าจะมาได้ ทำไมไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะจ๊ะ..แม่พี่สาวคนเก่ง
        “ก็กระเป๋าใบนี้ล่ะสิไม่รู้ว่าของใคร”
        “ทำไมเวลาตอนแกไปหยิบไม่ดูให้ดีซะก่อน แล้วนี่อะไรเนี่ยเสื้อผ้าผู้ชายทั้งนั้นเลย”พี่สาวฉันเปิดกระเป๋าออกมาแล้วก็กระจายของในนั้นออกจนเกือบหมด
        “ก็ใช่น่ะสิเสื้อผ้าผู้ชาย พี่เห็นว่าเป็นเสื้อผ้าผู้หญิงรึยังไง”
        โป๊ก!! โอ๊ย..เจ็บชะมัดเลย พี่ฉันเขกหัวฉันอย่างแรงเลย
        “ยังจะมาทำเป็นพูดดีอีก ซุ่มซ่ามแล้วยังเซ่อซ่าอีก ทำอีท่าไหนละเนี่ย แล้วของ ๆ แกจะได้คืนไหม”
        “คงได้คืนล่ะมั้ง ในกระเป๋าใบนี้มีโทรศัพท์มือถืออยู่ เค้าคิดว่าอีกไม่นานเขาคงโทรมา”
        “ก็ให้มันจริงอย่างที่แกพูดเถอะ”
        “เอ๊า! มันก็แน่อยู่แล้ว ใครเขาจะไม่อยากได้กระเป๋าคืนล่ะ พี่นี่ก็พูดแปลก ๆ”
        “ยัยเพียว” พี่ฉันตะโกนเสียงดัง สงสัยชักจะรำคาญน้องสาวคนนี้ล่ะสิ
        “ล้อเล่นน่า..พี่ไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวเรื่องนี้เค้าจัดการเอง”
        พี่สาวฉันเดินออกไปจากห้องฉัน แถมยังปิดประตูเสียงดังอีก ไม่มีมารยาทจริง ๆ เลย ฉันนั่งรอโทรศัพท์นั้นเกือบ 2 ชั่วโมง และแล้วเสียงโทรศัพท์เครื่องนั้นก็ดังขึ้น
        ติ๊ด..ตะ..ดะ..ดิ๊ด..ดิด..ติด..ติ๊ด
        “ฮัลโหล..”
        “เธอเป็นใคร!! เอากระเป๋าฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะ”
        หืม..เจอหน้ากันก่อนเถ๊อะ ฉันจะเล่นให้หนักเลยตะโกนออกมาได้แสบหูชะมัด
        “แล้วนายล่ะเป็นใคร”
        “ฉันจะเป็นใครเธอไม่ต้องมารู้หรอก แต่เธอเอากระเป๋ามาคืนฉันเดี๋ยวนี้”
        “นี่..แล้วถ้านายไม่บอกแล้วฉันจะรู้ได้ไงว่านายเป็นใคร พูดออกมาได้คิดเปล่าเนี่ย”
        ผู้ชายคนนั้นเงียบไปพักนึง สงสัยจะไปนั่งคิดว่าตัวเองโง่จริง ๆ ล่ะมั้ง พูดออกมาได้ว่าไม่ต้องอยากจะมารู้จัก แต่ดันอยากจะได้กระเป๋าคืน ประสาทหรือเปล่า
        “ว่าไง..นายเป็นใคร”
        “ฉัน..ฉัน..คือ..”
        “อะไรกันเล่าตะกุกตะกักอยู่ได้ ทำไมนายเป็นพ่อค้าขายยาบ้าหรือไงถึงบอกฉันไม่ได้ ฮะ!!” ฉันตะโกนเสียงดังกลับไปบ้าง หนอยแน่ะ!! คิดว่าเสียงดังเป็นคนเดียวรึไง
        “มันก็เรื่องของฉัน เอาอย่างนี้ตกลงเธอตอนนี้เธออยู่ที่ไหนบอกฉันมา ฉันจะรีบไปเอากระเป๋าคืน”
        “ทำไมนายต้องมารู้จักที่อยู่ฉันด้วยล่ะ”
        “เอ๊า! เธอนี่ก็ถามแปลก ๆ ถ้าฉันไม่รู้จักที่อยู่เธอแล้วฉันจะได้กระเป๋าคืนหรอ พูดออกมาได้คิดเปล่าเนี่ย”
        หืม..นายย้อนฉันหรอ น่าหมั่นไส้ชะมัดฉันได้ยินเสียงนายนั่นหัวเราะเยาะฉันเบา ๆ ด้วย อย่าให้เจอหน้านะจะตั๊น!! หน้าสักทีนึง ข้อหากวนประสาทฉัน   
        “เออ ๆ ฉันอยู่หมู่บ้าน แกรนด์ปาร์ควิล 2 บ้านเลขที่ xxx/xx ตรงเข้ามาเรื่อย ๆ ฉันจะยืนรอนายหน้าบ้าน โอเค๊!!”
        “อืม..รอฉันตรงนั้นแหละ อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะไปถึง”
        ทีนี้แหละนายเจอดีแน่ นายบ้า ฉันจะขอชกนายสักหนึ่งที ข้อหากวนโมโหฉัน และก็อีกหนึ่งทีที่ทำให้ฉันอารมณ์เสีย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น