คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : [Si x Han] พี่น้อง หรือ ??? End
Title : พี่น้อง หรือ ???
Paring : Siwon x Hankyung
Author : แพนด้า 103
Part : End
>>>5ปีที่แล้ว<<<
“ฮึก...ฮือ”เสียงใสๆของเด็กชายวัย10ขวบที่ร้องออกมาตรงซอกตึกที่ไม่มีใครเดินผ่าน เด็กชายร้องออกมาเมื่อหมดหมทางที่จะทำให้ตัวเองมีชีวิตรอด เขาไม่มีญาติพี่น้อง ถึงมีก็ไม่มีใครรับเขาไปเลี้ยงหรอก เพราะว่าคนพวกนั้นเอาเงินทองของเขาไปหมดแล้วน่ะสิ!!!
“เป็นอะไรครับ”น้ำเสียงนุ่มๆถูกส่งออกมาอย่างสงสาร เด็กชายเงยหน้ามองทันทีก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาอีกละลอกหนึ่ง
“ฮึก.....ผม...ผมไม่เหลือ...ฮึก..ฮึก..อะไรแล้ว”เด็กชายก้มหน้าตอบ ชายหนุ่มที่ใบหน้าละอ่อนทำหน้างงก่อนที่จะถามออกมาอีกรอบ
“ไม่เหลือ? ไม่เหลืออะไรหรอครับ”พอเจอคำถามนี้เด็กชายถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก พร้อมกับเล่าความในใจด้วยน้ำเสียงที่สะอื้น
“งั้นก็มาอยู่กับพี่สิ”เสียงนุ่มๆเอ่ยชวน เด็กชายมองหน้าย่างชั่งใจก่อนที่จะถามอะไรบางอย่างออกมา
“แล้ว....แล้วพ่อ ฮึก แม่พี่...ล่ะฮะ”เด็กชายถามชายหนุ่มอย่างกังวล ตอนนี้เขาหยุดร้องได้บ้างแล้วเมื่อได้ฟังคำปลอบจากชายหนุ่มตรงหน้า
“ไม่มี^^”เสียงนุ่มๆตอบด้วยรอยยิ้ม ภายนอกอาจจะดูเหมือนว่าตนเองไม่ได้คิดอะไร แต่ในใจกลับคิดอยากจะร้องไห้ด้วยซ้ำ
“ไปอยู่กับพี่นะ ไปเป็นน้องชายของพี่นะครับ”เด็กชายพยักหน้าอย่างดีใจ ก่อนที่จะขอบคุณชายหนุ่มจนหัวแถบติดพื้น.... >>>ปัจจุบัน<<< “พี่ฮะ... ตื่นเถอะนะ เดี๋ยวจะไปเรียนสาย”เสียงของน้องชายสุดรักสุดหวงของผมดังก้องข้างในหูของผมทันทีที่ได้ยิน ตอนนี้น้องชายขอผมตัวเล็กกว่าผมเยอะเลยล่ะครับ ฮิๆ ตัวก็นุ่มนิ่ม^^ “จ้าๆๆ พี่ตื่นแล้ว”ผมตะโกนออกไปเหมือนทุกวัน สิ่งแรกที่ทำคือไปส่องกระจกเพื่อเช็คความหล่อของตัวเอง จากนั้นก็ไปชำระล้างร่างกายและแต่งเสริมเติมความหล่อ ให้มันดูดียิ่งขึ้น เท่านี้ภารกิจในช่วงเช้าที่ทำทุกวันก็เสร็จสิ้นไป “ออกมาแล้วเหรอฮะ ผมนึกว่าจะออกมาพรุ่งนี้ซะอีก”เสียงหวานๆของน้องชายผมแซวทันทีที่ผมย่างเท้าออกมาจากห้องนอน “พี่ก็กะอยู่ แต่กลัวจะมีเด็กบางคนนั่งรออยู่น่ะซิ”ผมตรงเข้าไปหา ฮันคยอง หรือ ฮัน น้องชายที่ผมพามาอยู่ด้วยเนื่องจากว่าผมสงสารจับใจ เมื่อเห็นร้องไห้อยู่คนเดียว “ชิ!!! ว่าแต่พี่เลิกเรียนกี่โมงหรอฮะ”หลังจากที่ทำเสียงงอนๆ ฮันก็ถามผมออกมาทันที ราวกับว่าเพิ่งนึกคำถามได้ “วันนี้เหรอ ก็คงประมาณบ่ายโมงล่ะมั้ง ทำไมหรอ”ผมตอบออกไปอย่างไม่แน่ใจ ก่อนที่จะถามเจ้าตัวน้อยที่เขี่ยข้าวไปมา “ก็..วันนี้คังอิน มันชวนผมไปจีบรุ่นพี่ที่มหาลัยที่พี่เรียนน่ะฮะ”แหม...เด็กสมัยนี้ทำไมชอบกินคนแก่วะ ระวังเถอะ จะโดนคนแก่ทิ้ง “ใครล่ะ”ผมถาม เผื่อจะช่วยให้คังอินมันสมหวังบ้าง “ชื่อ... ฮยอน... อะไรฮยอนๆเนี่ยแหละฮะ”เอ่อ....แล้วฉันจะรู้ไหมเนี่ยใคร ฮยอน มันมีหลายประเภทนะ “หรอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเวลาเรียนของพี่ล่ะ”ผมถามถึงจุดประสงค์ ฮันเองก็ส่ายหน่าดิ๊กเมื่อได้ยินคำถามของผม แต่ผมไม่แน่ใจว่า ที่ส่ายหน้าเนี่ย ไม่บอก หรือ ไม่รู้กันแน่ “ไม่บอกหรือไม่รู้”ผมถามเจ้าตัวยุ่งเพื่อให้ได้คำตอบที่แน่ชัด ฮันตักข้าวคำโตเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ่ยๆ จนทำให้ผมหัวเราะออกมา “ง่า.. มันน่าเกลียดเหรอ”ฮันรีบถามผมทันที ใบหน้าหวานดูกังวลมากเมื่อเห็นผมหัวเราะ “ไม่หรอก มันน่ารักต่างหาก แล้วว่าไงล่ะ ตอบคำถามพี่ได้ยังครับ”ผมถามฮันอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่ได้เอ่ยคำถามออกมา ผมเห็นนะว่าฮันมีสีหน้าที่ลำบากใจอยู่พอตัว “เอ่อ... คังอินไม่ให้บอกฮะ”กะแล้ว เจ้าหมีนั่นจะลากฮันคยองสุดรักสุดหวงของผมไปทำเรื่องเลวๆป่าววะเนี่ย “ไม่ให้บอกก็ไม่เป็นไร งั้นพี่ไปเรียนก่อนนะ”ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้นไปทันที ผมมักจะทำอย่างนี้เมื่อผมไม่พอใจ และมันก็ใช้ได้ดีด้วย อยากรู้เหรอครับ งั้นก็รอต่อไปซิ ตอนนี้ผมกำลังใส่รองเท้าอยู่ที่หน้าประตูบ้าน เดี๋ยวผมก็ต้องไปเรียนแล้ว เมื่อผมได้ผูกเชือกรองเท้าเสร็จ ประตูที่ปิดอยู่เตรียมที่จะเปิดออกแต่... “พี่ชีวอน~”เจ้าตัวยุ่งนามว่าฮันคยองเดินเข้ามาสวมกอดผมทางด้านหลังพร้อมกับเรียกผมด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ เข้าใจหรือยังล่ะครับที่ผมบอกว่าใช้ได้ดีน่ะ “อะไร”ผมแกล้งถามด้วยน้ำเสียงเย็นๆ แกล้งทำเป็นโกรธเต็มที่ ดูสิว่าคราวนี้เจ้าตัวยุ่งของผมจะง้อยังไง “ง่า.... อย่าพูดแบบนั้นสิฮะ เดี๋ยวผมไปโรงเรียนด้วยนะ^^”ฮันพูดกับผมอย่างอ้อนๆ ดูไปดูมาล่ะโคตรจะน่ากด แต่....รอดมาได้ไงว่ะเนี่ยตั้งหลายปี “ก็เอาซิ”ผมพูดตกลงแต่น้ำเสียงเย็นเฉียบอย่างที่เคยทำ จากนั้นก็แอบลอบมองสีหน้าของเจ้าตัวยุ่งของผม ฮันคยองทำหน้าเศร้าๆเพียงแวบเดียว จากนั้นก็เดินไปใส่รองเท้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว “เป็นอะไร”ผมถามทั้งๆที่รู้ว่าฮันเป็นอะไร ใบหน้าเรียวมองหน้าผมเล็กน้อยและส่ายหน้าไปมา “ป่าวฮะ ไปกันเถอะ เดี๋ยวผมเข้าเรียนสาย”ฮันนี่(ดูมันเปลี่ยนสรรพนาม)เดินนำผมออกไป ไม่ลืมที่จะจับมือผมให้เดินตาม อ่า.... ฮันนี่ของผม มือนิ่มจัง^^ “พี่ฮะ”ระหว่างทางไปโรงเรียนเราสองคนไม่มีใครเอ่ยคุยเลยล่ะครับ จนเกือบๆถึงโรงเรียนของฮันนี่ของผมนี่แหละฮันนี่ก็เลยส่งเสียงเรียกผมไว้เล็กน้อย “หืม?” “คืออย่างโกรธฮันนะ มันบอกไม่ได้จริงๆ วันนี้ฮันไม่ไปมหาลัยกับคังอินก็ได้ แต่พี่ต้องมารับฮันนะ”เจ้าตัวเล็กของผมกอดผมไว้เเน้นเเน่น แล้วพูดอู้อี้เบาๆพอที่จะได้ยิน ผมยิ้มออกมาอย่างเปิดเผยให้ฮันนี่เห็น ก่อนที่แก้มของผมจะยุบไปข้างหนึ่งเมื่อมีอะไรบางอย่างมากดมัน ฮี่ๆ^^ อยากรู้เหรอ จมูกฮันนี่ของผมไง น่ารักจังเลยน้องชายของผมเนี่ย “ก็ได้ๆ เดี๋ยวพี่มารับก็ได้ แยกกันตรงนี้นะ ไปเรียนได้แล้วเด็กน้อย”ผมหอมแก้มฮันนี่เบาๆ แล้วเดินแยกไปอีกทาง เฮ้อ.. วันนี้คงมีกำลังใจเรียนเต็มที่แน่เลย ก็เด็กน้อยขอผมดันหอมแก้มซะผมยิ้มไม่หุบเลยนี่นา “ไอ้เปรต ยิ้มแต่เช้าเลยนะมึง”เสียงที่กวนส้น.....ดังมาแต่ไกล เมื่อผมเดินเข้ามาใกล้รัศมีของไอ้เพื่อนตัวแสบของผมเองครับ “เออ ว่าคนอื่นเปรตน่ะ มึงดูตัวเองบ้างมั้ยน่ะ”ผมตอกกลับพอเป็นพิธีแล้วหย่อนตัวนั่งที่เกาอี้ “ดูดิ ดูทุกวัน ดูจนรู้ว่า...... เฮ้ยไอ้วอน น้องฮยอกแจมาเว้ยเฮ้ย”ผมเงยหน้ามองเมื่อได้ยินไอ้คยูฮยอนพูด ร่างเล็กๆที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากผมนัก แต่ก็พอจะรู้ได้ว่ามาหาใคร “น้องเค้าชอบมึงแน่เลย มาหามึงทุกวัน แถมยังทำขนมมาให้อีก โคตรอิจฉาเลยว่ะ”เหอะๆ อิจฉาไปเหอะ ยังไงผมก็ไม่สนหรอก ถึงจะยกขบวนขันหมากมาหน้าบ้านผมก็ไม่สนหรอนะ ผมมีน้องชายที่แสนจะน่ารักและกดในเวลาเดียวกันอยู่แล้วนี่ “เอ่อ... พี่ชีวอนฮะ”เสียงหวานๆเอ่ยเรียกอย่างอ่อนหวาน จะว่าไปฮยอกแจก็น่ารักดีนะฮะ แต่ผมไม่ชอบแบบนี้ฮะ ผมชอบน่ารักแบบแพนด้าน้อยอย่างฮันนี่ดีกว่า “วันนี้ไปกินไอติมกับผมได้ไหมฮะ”ฮยอกแจก้มหน้าต่ำ ก่อนที่จะถามออกมา โดยที่มีเสียงของคยูคอยยุยงส่งเสริมบอกให้ผมไปอย่างเดียวเลย “เอ่อ.... แต่วันนี้พี่ต้องไปรับน้องชายน่ะ”ผมเอาเรื่องของฮันนี่มาอ้าง เผื่อพอที่จะเลี่ยงได้ แต่มันจะดีกว่านี้ ถ้าไม่มีเสียงของไอ้หมาบ้าคยูฮยอนพูดขึ้นมา “แต่เด็กมัธยมปลายเลิกเรียนเกือบๆสี่โมงเย็นนะ”เฮ้อ.... ไปก็ได้วะ แม่งพูดซะ ถ้าปฏิเสธไปฮยอกแจก็เสียใจแน่ ผมก็เลยพยักหน้าเบาๆเพื่อตอบตกลง “งั้นบ่ายโมงเจอกันหน้ามหาลัยนะฮะ พี่คยูก็มาด้วยนะฮะ”ฮยอกแจเองก็เอ่ยชวนคยู ซึ่งมันก็ส่ายหน้าดิ๊กๆก่อนที่จะบอกเหตุผล “พี่กะว่าจะไปม่อสาวน่ะ ไปกะไอ้วอนมันเถอะ”มันเหมือนว่าจะทิ้งผมนะ ไอ้บ้านี่ ผมได้แต่ส่งสายตาค้อนๆไปให้มัน เมื่อฮยอกแจเดินออกไปด้วยรอยยิ้ม >>ทางด้านฮันคยอง<< “วันนี้หน้าบูดเป็นตูดแพนด้าเลยนะมึง”เสียงของคัอินเอ่ยแซวเมื่อร่างบางเดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยสีหน้าที่บูดบึ้ง “เชี่ยคัง วันนี้กูไปหามันไม่ได้ว่ะ กูให้พี่วอนเค้ามารับกูกลับบ้านอ่ะ”ฮันคยองพูดขึ้นมา คังอินเองก็รับฟัง ก่อนที่จะเอ่ยทางออกให้ร่างบาง “โดดไง แล้วก็ไปดักรอมันก็จบ แล้วเย็นๆก็แกล้งทำเป็นเดินออกจากโรงเรียนไง”รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นมา ก่อนที่จะเออออเห็นด้วยกับเพื่อนร่างหนา มือบางหยิบกระเป๋านักเรียนและวิ่งออกไปพร้อมกับคังอิน ก่อนที่คุณครูประจำชั้นจะเข้ามาโฮมรูม “แล้วเราจะไปไหนกันก่อนวะ”เมื่อสามารถออกมาจากโรงเรียนได้ฮันคยองก็เอ่ยถามคังอินทันที ก่อนที่จะถูกสารวัตรนักเรียนจับได้ “ไปบ้านกูก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวเที่ยงๆค่อยออกมาใหม่”เพื่อนร่างหนาเอ่ยขึ้นมา ก่อนที่จะเดินนำไปที่บ้านของตนเองอย่างคุ้นเคย “แล้วที่มึงบอกจะจีบใครที่มหาลัยอ่ะ ว่าไงวะ”ร่างบางเอ่ยถามคังอินขณะที่กำลังจะกลับบ้าน ร่างหนายิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะตอบ “ก็จีบอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเค้าจะไม่ชอบเด็กม.ปลายว่ะ” “พยายามนะเพื่อน กูว่าไม่นานเค้าก็ต้องตกเป็นของมึง” “รอนานไหมฮะ”เสียงของฮยอกแจกระทบที่ใบหูของผม ผมหันไปมองตามสัญชาติญาณ พบฮยอกแจที่ยืนด้วยความเหนื่อยหอบ ผมว่าถ้าฮันนี่ทำก็คงจะน่ารักกว่านี้นะ “ไม่หรอก ไปกันเถอะ” ผมจับมือของฮยอกแจเบาๆและเดินออกไปด้วยกัน แต่มือของฮยอกแจไม่นุ่มเท่ามือของฮันนี่เลยอ่ะ “ฮยอก เดี๋ยวฉันเดินไปส่งที่บ้านนะ”ผมพูดออกมาเรียบๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงพูดออกไป แต่รู้ว่าคนข้างๆผมดูดีใจมากๆ จะว่าไปก็น่ารักนะ แต่ก็น้อยกว่าฮันนี่อยู่ดีอ่ะ “ฮะ^^” >>อีกด้านหนึ่ง<< “เชี่ยคัง มึงเห็นปะ ฮยอก ฮึ่ย!!!”ร่างบางโวยวายกับเพื่อนร่างหนาอย่างไม่พอใจ แววตาดูแข็งกร้าว หัวสมองมีแต่เรื่องราวที่ไม่อยากจำ “เออ รอให้พี่มึงไปส่งก่อนที่ แล้วก็ไปถล่มบ้านมันเลย”คังอินพูดหน่ายๆ พลามองเหตุที่เกิดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ ร่างบางมองภาพของชีวอนและฮยอกแจด้วยแววตาที่อิจฉา มือบางกำแน่นด้วยความโกรธ ใบหน้าหวานแดงกล่ำ เต็มที่ “เฮ้ย!! ไอ้ฮันพี่มึง ดูพี่มึงดิ!!”จู่ๆคังอินก็ส่งเสียงดัง และชี้ให้ร่างบางดู ฮันคยองมองตามที่ร่างหนาชี้ ขาบางๆก้าวไปยังที่เกิดเหตุทันที แต่ช้ากว่าฮยอกแจที่โบกแทกซี่แล้วขึ้นรถไปพร้อมกับร่างสูงที่สลบไสลไม่รู้เรื่องรู้ราว “เชี่ยคัง!! รถ!! ขับรถตามไป”ร่างบางตะโกนโหวกเหวกเสียงดัง จนผู้แถวนั้นหันมามอง คังอินเองก้รู้หน้าที่ ร่างหนารีบวิ่งไปที่รถที่จอดอยู่ไม่ไกล พร้อมกับขับมาเทียบท่า ฮันคยองขึ้นรถโดยทันที พร้อมกับคังอินที่ขับออกไปด้วยความเร็วสูง ตามทางถนนใหญ่ สายตาของร่างบางกวาดมองหารถแทกซี่คันที่ไม่พึงประสงค์ และเหมือนกับว่าฟ้าเข้าข้าง สายตาอันเฉียบแหลมก็พบรถคันดังกล่าวที่กำลังจะเลี้ยวเข้าไปในที่ๆคนส่วนใหญ่ไม่เข้าไปกัน “มาทำห่าอะไรที่นี่วะ”ฮันคยองบ่นเบาๆ ขณะที่คังอินก็เลี้ยวเข้าไปในซอยที่ว่า ไม่ไกลต่อจากนั้น ร่างบางก็พบกับตึกใหญ่ที่คุ้นเคย ภายในมีทุกอย่างครบ เป็นที่ๆเด็กม.ปลายส่วนใหญ่จะมากัน “มันจะพาพี่มึงมาเล่นเกมหรอวะ”คังอินถามขำๆ “เชี่ย กูไม่มีอารมณ์เล่นนะเว้ย มึงรอกูอยู่นี่นะ มีอะไรเดี๋ยวกูจะโทรบอกมึงเอง”คังอินพยักหน้าหน่อยๆก่อนที่ร่างบางจะวิ่งตามฮยอกแจเข้าไป สายตาที่จ้องมองร่างสูงที่ถูกชายกลุ่มหนึ่งแบกไว้ ในใจก็อยากจะเข้าไปช่วยแต่ติดอยู่ที่ว่ากำลังคนมันต่างกันจึงได้แต่ตามไปเงียบๆ เมื่อเดินตามมาได้อยู่ระยะหนึ่ง ฮันคยองก็ต้องตาโตเมื่อพบในสิ่งที่ไม่คาดฝัน ในใจร่างบางเองก็จะไม่รู้ว่าจะเรียกสถานที่ๆพบว่าอะไรดี จะเรียกว่า ‘ซ่อง’ หรือ ‘ม่านรูด’ ดี เมื่อเห็นว่าร่างสูงถูกพาเข้าไปในห้องๆหนึ่ง ไม่รอช้า ร่างบางรีบวิ่งไปที่ห้องนั่นอย่างระมัดระวังรอจนชายกลุ่มใหญ่ที่เข้าไปนั้นออกมาจนหมด แต่ร่างบางเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม หลังจากที่ชายกลุ่มนั้นออกไปได้ไม่นาน ฮยอกแจก็เดินออกมา พลางอมยิ้มอย่างอารมณ์ดีจนร่างบางเองอยากจะเข้าไปถาม แต่ลึกๆกลับอยากจะเข้าไปดูด้วยตาของตัวเอง ขาบางๆก้าวเข้าไปที่ห้องอย่างรวดเร็ว มือบางหมุนลูดบิดช้าๆ “ใคร!!!”เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านใน ร่างบางเองก็คุ้นเคยกับเสียงนี้อยู่ไม่น้อย แต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก ร่างบางไม่ยอมเสียเวลามานั่งนึก มือข้างหนึ่งออกแรงผลักประตูก่อนที่จะก้าวเข้ามาในห้อง ไม่ลืมที่จะปิดประตูไว้เช่นเดิมเพื่อที่จะไม่ให้ใครได้สงสัย “ใคร!!!”เสียงเดิมดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ร่างนั้นได้เดินออกมาจากด้านใน “อ๋อ.... นึกว่าใคร ที่แท้ก็น้านี่เอง จำได้ไหมล่ะว่าผมคือใคร”น้ำเสียงที่ดูถูก ถูกเปล่งออกมาจากปากของฮันคยอง พร้อมสายตาที่เกลียดชังอย่างปิดไม่มิด หญิงสาวที่เดินออกมาก็ชะงักเล็กน้อย ก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมา “ว่าไงจ๊ะ หลานรักของน้า ยังมีชีวิตอยู่อีกหรอ”หญิงสาวเองก็ทักทายด้วยน้ำเสียงที่รักใคร่แต่แววตานั้นไม่ได้รักใคร่ซักนิด “ยังอยู่สิครับ ถ้าไม่อยู่ผมจะมายืนอยู่ตรงนี้เหรอ” “ปากเก่งขึ้นนะ ว่าแต่มาที่นี่ทำไม”หญิงสาวเอ่ยถามร่างบางอย่างสงสัย “มาตามผัวกลับบ้านน่ะครับ พอดีมีอีแก่ชอบแย่งผัวชาวบ้านมันกักตัวไว้น่ะ เมียที่ดีอย่างผมก็ต้องออกมาตามหน่อยล่ะ”ฮันคยองตอบพลางยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยืนอึ้ง มือบางผลักร่างของหญิงสาวออกไปให้ห่างจากตัวเอง จากนั้นก็เดินเข้ามาใกล้ๆกับเตียงที่มีร่างสูงหลับอยู่ “เหอะๆ อย่างแกเนี่ยนะเขาจะเอามาทำเมีย มีดีอะไรเยอะ”เมื่อหญิงสาวตั้งสติได้ คำที่ดูถูกก็ถูกปล่อยมาให้อีกครั้ง “อย่างน้อยผมก็ลีลาดีนะครับ อีกอย่างผมไม่หนังเหี่ยวเหมือนใครบางคน” “ฮึ่ย!! แก!!!”หญิงสาวกำลังจะง้างมือตบ แต่กลับตบใบหน้าเรียวไม่ได้ดั่งใจหวัง เมื่อมีมือของใครบางคนมาจับไว้ “พี่ฮงกี!!!!”หญิงสาวสะบัดมือออกจากชายหนุ่มที่มาขวางทางไว้ “ว่าไงหลานรัก รู้ไหมอาตามหาหลานตั้งนาน ที่แท้อยู่กับพ่อหนุ่มคนนี้เองหรอเนี่ย” “ตามหาผมทำไม!!! ก็พวกคุณตั้งใจเขี่ยผมทิ้งไปแล้วนี่ ถ้าไม่ได้พี่ชีวอนช่วยไว้ผมคงตายหรือไม่ก็นอนตามถนนนั้นแหละ!!!!!”คำพูดของร่างบางทำให้ฮงกีถึงกับงง “ใคร ใครเขี่ยหนูทิ้ง อาไม่ได้ทำอะไรเลย พออารู้ข่าวว่าพ่อกับแม่ของหนูตาย อาก็รีบกลับมาหาหนู แต่พวกแม่บ้านกับคนอื่นๆบอกว่าหนูหนีกจากบ้านไป”ฮงกีอธิบายเรื่องราวที่ตนเองนั้นรับรู้มาให้ร่างบางได้รับฟัง “โกหก!!!!!!!! พวกคุณนั้นแหละที่ไล่ผมออกจากบ้าน!! แล้วของเงินทองของผมไป เอาบ้านของผมไป!!!”ร่างบางพูดในสิ่งที่ตนเองเจอมา ใช่!! พวกญาติๆของเขาเป็นคนไล่ออกมาจากบ้าน ทำให้เขาต้องเร่ร่อนมาเรื่อยๆจนเจอกับชีวอน “อาไม่ได้ทำนะ ฮันคยอง ไปอยู่กับอาเถอะนะ”ฮงกีปล่อยมืจากหญิงสาวก่อนที่จะก้าวเข้ามาใกล้ๆร่างบางมากขึ้น “ไม่!!! ผมไม่ไปอยู่กับใครทั้งนั้น ออกไป!!!”ฮันคยองออกแรงผลักฮงกีที่เข้ามาใกล้ๆด้วยแรงที่มีทั้งหมด ทำให้ร่างของคุณอาของร่างบางไปกระแทกกับกำแพงอีกด้าน คังอิน... ชื่อแรกที่แวบเข้ามาในหัวสมองตอนนี้ ร่างบางลงมือกดโทรศัพท์เครื่องจิ๋วของตนเองอย่างชำนาญก่อนที่จะโทรหาเพื่อรัก “คัง มึงมาหากูเดี๋ยวนี้ มึงคงรู้นะว่าอยู่ไหน” “ฮันคยอง”ฮงกีเอ่ยเรียกอย่างสงสาร หลานชายคนเดียวที่เขารักมากที่สุด แต่เขากลับโดนเกลียดอย่างไม่ใยดี “อย่ามาสะเออะเรียกชื่อผม!! ชื่อนี้ผมให้คนที่ผมรักเรียกได้เท่านั้น!!!”ร่างบางตวาดใส่ฮงกีทันที ดวงตาเริ่มมีน้ำใสๆเอ่อล้นขึ้นมาเล็กน้อย “เหอะ ถ้ามันไม่อยากกลับก็ไปต้องกลับสิ จะไปสนทำไม”หญิงสาวเอ่ยขึ้นมาเบาๆ ทำให้ฮงกีหันขวับมามองด้วยความโกรธ “ซันนี่ ถ้าเธอไม่รักหลาน เธอก็อย่ามาพูดจาแบบนี้กับฉัน กลับบ้านไป!!!”ฮงกีตะคอกใส่หญิงสาวด้วยความโกรธ จนซันนี่ต้องเดินออกไป “ไม่ใช่เขาที่ต้องกลับ คุณเองก็ต้องกลับด้วย”ร่างบางเอ่ยขึ้นมาเย็นๆมือบางชี้ตรงไปที่ประตูเป็นเชิงไล่ แต่ฮงกีกลับไปขยับไปไหน “อื้ม....”เสียงของร่างสูงที่สลบไสลดังขึ้นพร้อมกับดวงตาที่กระพริบถี่ๆและเบิ้งกว้างเมื่อเห็นสถานที่แปลกตา “พี่ ฮึก....พี่กลับบ้านกันเถอะนะ ฮือๆๆ”ฮันคยองเข้าไปกอดร่างสูงอย่างรวดเร็ว และร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง ไม่ใช่ว่าแกล้งร้อง แต่ร้องออกมาเพาะเรื่องที่เกิดขึ้นต่างหาก “ฮันคยอง..”ฮงกีเอ่ยเรียกหลานชายของตัวเองอีกครั้ง ความสงสารหลานชายก็พุ่งขึ้นไปอีก อยากจะคุยให้รู้เรื่อง แต่ร่างบางกลับไม่รับฟังอะไรเลย “ออกไป! ฮือๆ”ร่างบางเอ่ยออกมา จนชีวอนเองก็ตกใจ เพราะไม่เคยพบฮันคยองในอารมณ์แบบนี้ “ฮัน เป็นอะไรไครับ ค่อยๆพูดกันสิ”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมา พร้อมกับมือหนาที่ลูบหัวทุยๆเป็นเชิงปลอบ ฮงกีได้แต่มองภาพเหล่านั้นอยู่ สายตาจับจ้องมองชีวอนอย่างพิจรณา “ว่าแต่คุณเป็นใครครับ”ชีวอนเอ่ยถามฮงกีเรียบๆ เมื่อเห็นว่ายืนอยู่ไม่ไกลนัก “เป็น...” “ออกไป!!!!”ไม่ทันที่ฮงกีจะตอบ ฮันคยองก็ไล่ขึ้นมาซะก่อน จนชีวอนต้องห้ามปรามไว้ “ไม่เอาน่า เขาเป็นใครเหรอฮัน”เสียงทุ้มขอชีวอน เอ่ยถามฮันคยองแทน “ผมเป็นอาของฮันคยองครับ”ฮงกีชิ่งตอบขึ้นมา ผิดกับฮันคยองที่เถียงออกมา “ไม่ใช่!! ผมไม่มีญาติ!!! ออกไป!!! ฮือๆๆ”ร่างบางปฏิเสธออกมาจนฮงกีแทบน้ำตาร่วง เพราะคนอื่นๆแท้ๆที่ทำให้ฮันคยองต้องเป็นแบบนี้ “ฮัน!!”คังอินเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับส่งเสียงเรียกร่างบาง ก่อนที่ร่างกายของตัวเองจะมาถึง “ฮึก.... พากูออกไป....ฮือๆ”คังอินมีท่าทางแปลกใจ แต่ก็พาเพื่อนรักออกไปตามคำขอ จนในห้องนี้เหลือแต่ชีวอนและฮงกี “นายคงรักฮันมากเลยซินะ”ฮงกีพูดทำลายความเงียบ ชีวอนมองชายวัยกลางคนเพียงชั่วครู่และตอบออกมา “ครับ”ชีวอนตอบก่อนที่จะมองหน้าฮงกีด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความจริงใจ “โอเค งั้นว่างๆนายก็มคุยกับฉันหน่อยแล้วกัน ฉันจะคุยเรื่องฮันคยอง”ฮงกีบอกถึงจุดประสงค์จากนั้นก็ก้าวขาเดินออกไป “ฮัน”ผมเอ่ยเรียกน้องชายของผมเบาๆ หลังจากถึงบ้านมาสักพักใหญ่ๆ ตอนนี้ฮันนี่ก็ยังสะอื้นเล็กน้อย อ่า.... สงสารจัง “.....”ใบหน้าเรียวที่เต็มไปด้วยน้ำตาเงยมาสบตาผม อดไม่ได้นะที่ผมอยากจะปาดน้ำตาให้หายไป “วันนี้พี่ไปอยู่ที่นั่นได้ไง”ผมถามฮันนี่อย่างสงสัย เจ้าตัวทำท่าทางลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะเล่าเรื่องราวออกมาทั้งหมด จนผมแอบเหวอ ฮยอกแจเนี่ยนะจะทำอย่างนั้น “แล้วฮันรู้ได้ไงว่าพี่ไปกินไอติมกับฮยอก แล้วกระเป๋าหายไปไหน”ผมถามอย่างจับผิด โดดเรียนแน่ๆ หึ ต้องโดนทำโทษซะให้เข็ด “เอ่อ..”ฮ่าๆๆ ชัวเลย ท่าทางอึกอักอย่างเนี้ย “พี่จะไม่โกรธฮันเรื่องที่โดดเรียนหรอกนะ ถ้าฮันเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมาเจอพี่”ผมพูดออกไป เหมือนกับว่าต่อรอง ประโยคแรกทำท่าจะยิ้มกว้างเลยนะ พอได้ยินประโยคที่สองถึงกับงียบ “ว่าไงล่ะ”ผมถามย้ำเมื่อเจ้าตัวทำท่าทางไม่อยากเล่า แต่ผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฮันดูเกลียดผู้ชายคนนั้นมาก “คือ.... “ฮึก..... พ่อ!! แม่!! ตื่นขึ้นมาก่อนซิฮะ ฮือๆๆ”เสียงของร่างบางวัย10ขวบร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วงเมื่ออยู่ต่อหน้าหลุดฝังศพของบุพการีทั้งสองที่ถูกฆ่าตาย ด้วยฝีมือของใครบางคน “คุณหนูค่ะ”แม่บ้านวัยชราก็เอ่ยออกมาอย่างสงสาร เมื่อเห็นคุณหนูของบ้านร้องไห้ออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน “ป้า พอเถอะเดี๋ยวก็หยุดร้องเองแหละ”ซันนี่หรือน้าสาวแสนสวยของฮันคยองได้เดินมาพูดกับแม่บ้านอย่างหนายๆ สายตาจ้องมองร่างบางด้วยความเกลียดชัง “แต่....” “ไม่มีแต่ ป้าไปรอที่รถได้แล้ว”ซันนี่เอ่ยปากไล่ แม่บ้านทำท่าอีกอัก แต่ก็ยอมเดินไปแต่โดยดี หญิงสาวจึงเดินเข้ามาใกล้ๆร่างบางแล้วเอ่ยขึ้นมาเบาๆ “ฮัน ไม่ต้องร้องนะลูกนะ น้าจะเลี้ยงหนูแทนพ่อกับแม่หนูเอง”ร่างบางเงยหน้ามามองหญิงสาว ก่อนที่จะโผตัวเข้ไปกอด “น้า....ฮึก.... อย่า โกหก... ผมนะ”หญิงสาวยิ้มเยาะเมื่อได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากของร่างบาง “น้าไม่โกหกหรอก แต่ฮันต้องเซ็นนี่ให้น้านะ”หญิงสาวยื่นกระดาษสีขาวที่เต็มไปด้วยตัวอักษรให้ร่างบาง พร้อมกับส่งปากกาไปให้ มือเล็กๆรีบคว้าปากกาไปอย่างรวดเร็วและเซ็นให้โดยทันที “หึๆ”หญิงสาวหัวเราะในลำคอเบาๆเมื่อเห็นภาพของเด็กน้อยวัย10ขวบเซ็นเอกสารโอนบ้านและทรัพย์สินทั้งหมดมาให้ตนโดยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ 2วันผ่านไป.... “ออกไป!! แกออกไปเลยนะ!!!!”เสียงแหลมๆของซันนี่เอ่ยออกมาดังทั่วบ้าน พร้อมกับผลักร่างบางออกมาด้วยความแรง “น้าไล่ผมทำไม”ร่างบางถามถึงสาเหตุ แต่ผู้เป็นน้ากลับไม่ตอบเพียงแต่เอ่ยปากไล่ไป “แกไม่ต้องรู้หรอก ออกไปจากบ้านฉัน ไป!!!!”ร่างของเด็กชายตัวเล็กๆถูกผลักลงบนพื้นด้วยความแรง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาทีละน้อย หญิงสาวผู้เป็นน้า สั่งให้คนงานปิดประตูใหญ่ก่อนที่จะเดินเข้าบ้านไปอย่างอารมณ์ดีผิดกับเด็กชายตัวน้อยที่เดินออกไปจากบ้านหลังใหญ่ด้วยจิตใจที่เศร้าหมอง “พี่อย่าไล่ผมไปอยู่กับคนพวกนั้นนะ”ฮันนี่พูดกับผมพร้อมกับส่งสายตาที่วิงวอนขอร้องมาให้ ใครบอกล่ะว่าจะให้ไปอยู่กับพวกนั้นน่ะ “พี่ไม่ไล่หรอกน่า”ใช่ ไม่ไล่แน่ๆ และไม่มีทางให้ไปด้วย ผมจะค้านทุกวิถีทางที่จะให้ฮันนี่อยู่กับผม ฮันนี่ต้องเป็นของผมคนเดียว อุวะฮ่าๆๆๆ (ชั่วร้ายไป-*-) “จริงๆนะ”เจ้าตัวยุ่งของผมถามอย่างดีใจ กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแล้วซินะ “อื้ม ไปนอนได้แล้วไป ถึงจะเป็นวันหยุดแต่ก็ไปนอนได้แล้ว”ผมเอ่ยไล่ฮันนี่ไปนอน เวลาตอนนี้ก็5ทุ่มกว่าแล้ว โชคดี๊ดีที่มีเรียนเช้าTT มันดีตรงไหนวะเนี่ย คนยิ่งไม่อยากตื่นเช้าอยู่ด้วย “คร้าบบบบ”เจ้าตัวยุ่งของผมรีบวิ่งขึ้นไปนอนทันที ตอนนี้ก็ถึงคราวของผมบ้างสิที่ต้องไปนอน >>วันต่อมา<< Hamgemg : Talk สวัสดีนะครับทุกคน ผมฮันนี่เองนะ ตอนนี้ได้มีโอกาสพูดบ้างแล้วล่ะ^^ ตอนนี้พี่ชีวอนของผมไปเรียนอยู่ฮะ ผมจึงจะออกไปคิดบัญชีสักหน่อย ก็คงรู้นะฮะว่าใคร “หวัดดี”ผมเอ่ยทักเรียบๆเมื่อเห็นเป้าหมาย ฮยอกแจไงครับ กำลังนั่งอี๋อ๋อกับฮีชอลเพื่อนในชั้นเรียนเดียวกับผมเองล่ะ “อ้าวฮัน หวัดดี”ฮีชอลทักทายผมตามปกติ ผมก็ยิ้มไปให้เขาบางๆ แล้วส่งสายตาที่จิกกัดไปให้ฮยอกแจที่นั่งเงียบ “ขอคุยด้วยหน่อย”ผมเอ่ยกับฮยอกแจ ซึ่งเจ้าตัวก็หันไปมองหน้าฮีชอลเพียงแวบจากนั่นก็ค่อยๆลุกขึ้นมา จากนั้นผมก็เดินนำออกไป “มีอะไร”น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความรำคาญถูกส่งมาให้ผมรับฟัง หึ ยังไม่รู้ตัวสินะว่าจะเกิดอะไรขึ้น “ก็แค่จะมาคิดบัญชีนิดหน่อยน่ะ เมื่อวานได้กี่วอนล่ะหืม?”ผมถามอย่างเย็นๆ ฮยอกแจหน้าเหวอเพียงแวบเดียวก่อนที่จะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “ก็เยอะอยู่นะ พี่ของนายเนี่ยดันหล่อใช่เล่น”ผมกำหมัดแน่นด้วยความโกรธก่อนที่จะคิดอะไรบางอย่างได้ “เหอะๆ แล้วไม่คิดจะขายผัวตัวเองบ้างเหรอ”ฮยอกแจทำท่าทางลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะตอบผมออกมาอย่างพอใจ “ก็อยากอยู่อ่านะ แต่ติดที่ว่ามันจะได้เงินน้อยน่ะสิ”ผมได้ยินอย่างนั้นสติก็ขาดพึ่ง แขนของผมกำลังจะง้างขึ้นแต่มีใครบางคนมาขวางไว้ “หยุดนะ!!”พวกเราสองคนหันไปมองตามเสียงก่อนที่ฮยอกแจจะยิ้มเหมือนผู้ชัยชนะ เหอะๆ แต่แกไม่เคยไม่ยินเหรอ หัวเราะที่หลังดังกว่า “ซิน ฮันจะตบพี่อ่ะ”ผมแทบอย่างจะตบจริงๆแล้วสิ แม่งโคตรจะ......เลย เพี๊ยะ!!! ฮยอกแจอึ้ง!! ฮีชอลน้ำตาไหล!! ส่วนผมแสยะยิ้ม ฮีชอลตบหน้าฮยอกแจ!! สะใจเหมือนกันแฮะ “ผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน” อยากรู้ไหมว่าผมทำอะไรไว้ ตอนที่ผมคุยกับฮยอกแจผมแอบกดเบอร์โทรหาฮีชอลตอนนั้นนั่นแหละ เจ้าตัวก็คงได้ยินเรื่องที่ผมพูดกับฮยอกแจก็เลยฉุน หึๆ ปิดบัญชีไปและ เชิญส่งไมล์ให้ที่รักผมเลยดีกว่า^^ Siwon : Talk “ไอ้วอน มีคนมารอว่ะ”เสียงไอ้คยูดังขึ้นเมื่อหมดคาบเรียนสุดท้าย อ่า.... จะได้กลับบ้านแล้วโว้ย!! ว่าแต่ใครมารอ แล้วมารอผม หรือ คยู??? “ใครวะ”ผมถามสั้นๆ พลางก้าวเท้าออกมาจากมหาลัย สายตาของผมดันเหลือบไปเห็นผู้ชายคนนั่นมานั่งรอผม!! “ไม่รู้ แต่รู้ว่าคนนั้น”ไอ้คยูชี้ไปทางผู้ชายคนนั้น คนที่เขาบอกว่าเป็นอาของฮันคยอง ตอนแรกผมกะว่าจะเดินหนี แต่คงทำไมได้ แต่เขากลับมองเห็นผมซะแล้ว “สวัสดีครับ”ผมโค้งตัวพร้อมกับกล่าวทักทายพอเป็นมารยาท ผมรู้ว่าเขาจะมาคุยกับผมเรื่องอะไร “ไปคุยกันหน่อยสิ”เขาพูดกับผม ก่อนที่จะเดินนำไป ผมล่ะอยากจะบอกว่าโคตรอึดอัดเลยล่ะครับผมเดินตามเขาไป เหอะ อยากจะบอกว่าเดินไปไม่ไกลเลยล่ะครับ เพราะว่าเขาจะคุยกับผตรงม้าหินที่มหาลัย ผมหย่อนตัวนั่งตามก่อนที่เขาจะตั้งคำถามใส่ผมไม่หยุด “นายเจอฮันที่ไหน” “เจอที่ซอยเปลี่ยวๆซอยหนึ่งครับ”ผมตอบไป เขาคงไม่ว่าว่าผมกวนใช่ไหมครับ ก็ผมจำชื่อซอยไม่ได้นิ “ทำไมถึงให้ฮันคยองมาอยู่ด้วยล่ะ” “สงสารครับ”แล้วก็รักด้วย “แล้วฮันคยองอยู่กับนายเป็นไงบ้าง” “ร่าเริง เป็นเด็กดี”อันนี้ตอบตามความคิดผมเลยนะเนี่ย “นายคงรู้ใช่ไหมว่าฉันถามเนี่ย มีจุดประสงค์บางอย่าง” “คุณอยากพาฮันกลับไปอยู่ด้วย”แต่ผมไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือหรอก ขอกดก่อนไม่ได้หรือไง “ฉลาดนี่ นายช่วยพูดเกลี่ยกล่อมฮันคยองทีสิ”ผมส่ายหน้าไปมาเป็นคำตอบ จนอาของฮันคยองขมวดคิ้วอย่างสงสัย “ผมไม่อยากพูดเรื่องนั้นกับฮัน และอีกอย่างผมอยากให้ฮันตัดสินใจเอง”หาเหตุผลได้ดีเท่านี้ล่ะวะหวังว่าเขาคงเข้าใจนะ “แล้วนายมีปัญญาเลี้ยงฮันหรือไง”ช่างดูถูกกันได้ คนรวยนิสัยอย่างนี้กันทุกคนหรือไง “มีไม่มีแต่ผมก็เลี้ยงมาได้5ปีแล้วนี่ครับ”ฮ่าๆๆ สะใจ พูดไปได้ไงวะเนี่ย “แต่ถ้าคุณอยากจะคุยกับหลานคุณผมก็อนุญาติ”แหม... พูดเหมือนเหนือกว่าเลยเว้ยฉัน “จริงเหรอ”เขาดูท่าทางดีใจจนเห็นได้ชัด ผมก็เลยพยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบ “แต่ผมไม่รู้นะว่าฮันเค้าจะต้อนรับคุณหรือป่าว”ใช่ ผมไม่รู้นะว่าเค้าต้อนรับคุณหรือป่าว เพี้ยงๆๆ ขอให้ฮันนี่ไล่ตะเพิดเลย สาธุ!!!! “พี่ฮะ กลบมาแล้วเหรอ”เสียงใสๆของฮันคยองออกมาต้อนรับผมดั่งเช่นทุกวัน ผมเดินเข้าไปกอดเจ้าตัวยุ่งด้วยความคิดถึงโดยที่มีแขกมารออยู่ข้างนอกบ้าน “ทำไมกลับเย็นจัง เดี๋ยวฮันเอาน้ำมาให้กินนะ”ก่อนที่เจ้าตัวยุ่งจะไปผมก็เอ่ยปากบอกถึงแขกที่มา ซึ่งเจ้าตัวยุ่งก็พยักหน้าเชิงว่าเข้าใจ “เชิญเข้ามาได้เลยครับ”ผมเอ่ยเชิญคุณฮงกีด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนที่จะพาที่นั่งที่ห้องนั่งเล่น ดีนะที่วันนี้ฮันนี่ทำความสะอาด ไม่งั้นขายหน้าแย่ “นายอยู่กับฮันคยองสองคนเหรอ”คุณฮงกีถามเบาๆ พลางมองไปรอบๆบ้านที่มีแต่รูปผมและฮันนี่เต็มไปหมด “ครับ” “ฮันคยองคงมีความสุขมากสินะ เขาเคยร้องไห้บ้างไหม”อืม.....ร้องไห้งั้นเหรอ ก็คงมีแต่... “ก็เคยครับ เพราะว่าโดนทำโทษ”ใช่ บางครั้งฮันนี่ก็ดื้อจนต้องโดนผมทำโทษ โดนตีน่ะครับ แต่ก็ไม่เจ็บมากหรอก “พี่ฮะ น้ำมาแล้ว”เสียงขงฮันนี่ของผมดังก่อนที่ตัวจะมาถึงซะอีก ผมจึงบอกให้คุณฮงกีนั่งก้มหน้าไว้ก่อนที่ฮันนี่จะมาถึง “เอ... เพื่อนพี่เหรอ”ฮันนี่กระซิบถามผมเบาๆ ขณะที่ส่งแก้วน้ำมาให้ “ไม่ใช่หรอก นั่งก่อนสิ”ผมคว้าเอวบางๆให้นั่งด้วยกับที่โซฟาตัวใหญ่ แต่เพราะว่าผมออกแรงเบาไปหรือว่าตัวฮันนี่ใหญ่นะ ทำให้ฮันนี่มาแหมะบนตักผมทันที ฮ่าๆๆ(หัวเราะแบบหื่นๆ)ตูดฮันนี่นิ่มว่ะ “แล้วใครอ่ะ”คราวนี้ฮันนี่ถามเสียงดังเปิดเผย จนฮงกีได้เงยหน้าขึ้นมาเผชิญหน้ากับฮันนี่ของผม(ย้ำได้เมื่อมีโอกาส) “อาเอง”ฮันนี่ใบหน้าแดงระเรื่อตัวสั่นเทิ้ม ให้ตายเถอะพระเจ้า ฮันนี่กำลังโกรธและเสียใจในเวลาเดียวกัน “อย่าเสียมารยาทนะ”ผมกระซิบออกไปเบาๆพอที่ฮันนี่จะได้ยิน ถ้าให้เดา ฮันนี่คงทำสีหน้าไม่พอใจอยู่แน่ๆ “อาซื้อเค้กช็อคโกแล็ตมาฝากฮันคยองหลานอาด้วยนะ”ฮงกียิ้นและยื่นกล่องที่บรรจุเค้กมาให้ฮันนี่ของผม ตอนแรกฮันนี่ทำท่าจะปัดทิ้ง แต่ก็โดนผมกระซิบเบาๆจึงยอมทำตาม “ขอบคุณ”เอาวะ ก็ยังดีกว่าไม่พูดอะไร จากนั้นผมก็ปล่อยให้อาหลานได้คุยกัน แต่ดูท่าทางฮันนี่อยากจะฆ่าผมมากเลยนะ สายตาที่ส่งมาให้นี่มันแบบว่า.... ขนลุกซู่เลย สักพักใหญ่ๆคุณฮงกีก็ขอตัวกลับ เรียกรอยยิ้มเล็กๆจากฮันนี่ของผมได้มาโข ดีใจซะออกนอกหน้าเลยนะฮันนี่ เจ้าตัวยุ่งทำหน้าบึ้งๆให้กับผม โดนงอนแน่ๆเลย “ฮันอ่ะ งอนพี่เหรอ”ผมคว้าตัวของฮันนี่มากอดเบาๆแล้วพูดอ้อนๆ หวังว่าฮันคงไม่งอนผมหรอกนะ “ไม่ได้งอน แต่น้อยใจต่างหาก พี่อ่ะ ให้ให้ผมคุยกับเขาทำไม”ใบหน้าหวานๆตอนนี้กลับดูน่ารักไปอีกแบบ แก้มป่องๆ ปากยื่นๆ ฮ่าๆนานๆทีจะทำหน้าแบบนี้นะเนี่ย “เขาเป็นอาของฮันนะ”ผมพูดขึ้นมา ฮันนี่มีท่าทางไม่พอใจจนเห็นได้ชัด “ผมไม่มีอาแบบนั้น”พูดจบฮันนี่ก็เดินลิ่วไปข้างบน เฮ้อ... ท่าทางจะอีกนานแฮะที่หลานจะเข้าใจอา จากนั้นทุกๆวันคุณฮงกีก็เป็นแขกประจำบ้านของผมและฮันนี่ เขาจะมาทุกครั้งเมื่อมีโอกาส และข่าวดีนิดๆ ฮันนี่ได้ปรับความเข้าใจกับคุณฮงกีแล้ว แต่ฮันนี่ก็ไม่ยอกที่จะย้ายเข้าไปอยู่ด้วย คุณฮงกีก็อนุญาตให้อยู่ ทำให้เจ้าตัวกอดคนเป็นอาไม่ปล่อย และวันนี้สองคนอาหลานก็ได้ไปซื้อของด้วยกัน ปล่อยให้ผมได้อยู่บ้านคนเดียว ความจริงไม่ได้ปล่อยหรอกครับ แต่ผมไม่อยู่บ้านเท่านั้น เพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน ปิ๊งป๊อง!! ผมชะเง้อมองไปนอกบ้าน พบผู้หญิงคนหนึ่งยืนรอด้วยท่ายืนอันยั่วยวน หน้าตาก็สวยนะ แต่แก่แล้วเท่านั่นแหละ “มาหาใครครับ”ผมเอ่ยถามอย่างสุภาพหญิงคนนั้นมองผมเพียงหางตา ก่อนที่จะเอ่ยมาสั้นๆ “มาหานายนั่นแหละ ขอเข้าไปหน่อยสิ”ผมเปิดประตูให้เขาช้าๆ เธอมีท่าทีไม่ค่อยชอบใจเท่าไร “มีเรื่องอะไรเหรอครับ”เมื่อผมเชิญให้เขานั่ง คำถามที่ผมสงสัยก็ออกจากปากผมทันที เจ้าหล่อนถอนหายใจออกมาดังๆอย่างไม่พอใจ “ฉันจะคุยเรื่องฮันคยอง”อ้าว ยัยป้านี่เป็นใครอีกล่ะทำไมญาติฮันนี่โผล่มาอีกล่ะ ขี้เกียจมานั่งตอบคำถามนะเว้ย “ว่ามาสิครับ” “ฉันอยากให้นายและฮันคยองเลิกยุ่งกับฮงกี”โห พูดมาว่าจะง่าย ทำไมให้ผมทำอะไรแบบนี้ล่ะวะ “ถ้าอยากให้ผมทำ ผมก็ไม่ทำครับ”ยัยป้าทำท่าทางไม่พอใจ ผมแอบลอบยิ้มอย่างสะใจ แต่ยัยป้านี่หน้าคุ้นๆแฮะ “ผมนึกออกแล้ว คุณน่ะชอบมองผมนิ”ผมเผลอพูดออกไปเสียงดัง ยัยป้าแก่ได้ยิ้มออกมาเหมือนกับว่าพอใจในสิ่งที่ผมพูด “เธอรู้?”ผมพยักหน้าเบาๆเป็คำตอบให้คุณเธอ ยัยป้านั่นยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้นจนผมกลัว อย่าบอกนะว่าป้าชอบกินหญ้าอ่อนเหมือนผมน่ะ “ครับ แต่ผมไม่ได้ชอบป้านะ”ผมพูดออกไปตรงๆ แค่มองสายตาป้าแกก็รู้แล้วว่าคิดยังไงกับผม “อย่าบอกนะว่าแกชอบฮันคยองน่ะ!!!”อะ....อะไรของป้าแกวะเนี่ย จู่ๆก็มาวีนใสผมเฉยเลย แววตาดูอิจฉาเมื่อได้เอ่ยชื่อของฮันนี่ “ก็ครับ ผิดเหรอ”คิดไงวะเนี่ยไปกวน....ป้าเค้า แล้วป้าแกจะทำลายข้าวของบ้านผมไหมเนี่ย “เด็กนั่นมันมีดีอะไรกว่าฉัน!!!”มีอะไรดีกว่างั้นเหรอ..... อืม... “ก็น่ารัก เป็นเด็กดี ไม่ขี้วีน ที่สำคัญหนังไม่เหี่ยวมั้งครับ^^”ฮ่าๆๆ ยัยป้ากระทืบเท้าใหญ่เลยเมื่อได้ยินคำตอบจากปากผม แกล้งคนแก่ก็สนุกดีว่ะ “กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!”จากนั้นเจ๊แกก็เดินไป งงแฮะ และมันจะไม่งงมากกว่านี้เมื่อเห็นฮันนี่ยิ้มแก้มปริอยู่หน้าประตูโดยมีคุณฮงกียืนอยู่ข้างหลัง “กลับมาแล้วเหรอ”ผมถามฮันนี่ไปเบาๆ เมื่อพอที่จะตั้งสติได้ คุณฮงกียิ้มให้ผม ก่อนที่จะส่งของให้ผม ไม่วายกระซิบกระซาบอะไรไม่รู้กับฮันนี่จากนนั้นก็เดินออกไป “พี่ ฮันรักพี่นะ”เจ้าตัวน้อยพูดขึ้นมา แขนบางๆกอดผมแน่นมากเหมือนกับว่ากลัวผมจะไปไหน “ทำไมมาบอกรักพี่ล่ะ”ผมถามเบาๆ บรรยากาศเริ่มเป็นสีชมพูแล้วเว้ย “ฮันดีใจนะที่พี่บอกยัยน้าซันนี่ว่าหนังเหี่ยว ฮันได้ยินพอดีเลยนะ” “แอบฟังคนอื่นได้ไงเนี่ย”ผมแสร้งทำเป็นดุ แต่ไม่ได้จริงจังมาก “อาฮงบอกให้ฟังฮะ พี่รู้ไหมว่าอาฮงเค้า...............”ฮันนี่กระซิบข้างหูผมเบาๆ แต่ฮันนี่พูดยาวมาก พอได้ยินล่ะผมแทบจะหัวใจวาย แต่ผมไม่ยอมให้วายตอนนี้หรอกนะ ผมคว้าตัวฮันนี่มาประกบริมฝีปากอย่างรักใคร่ อยากทำมานานแล้ว “พี่รักฮันนะ ตอนนี้พี่จะทำอย่างที่อาฮงให้ทำ” “บ้า>/////<”ฮันนี่ทุบอกผมเบาๆ แต่เดินนำขึ้นไปก่อน อุวะฮ่าๆ คุณฮงกีครับ คิดถูกแล้วล่ะที่ให้ผมดูแลฮันคยอง อุวะฮ่าๆๆๆ อยากรู้ไหม..... ว่าฮันนี่ของผมกระซิบว่าอะไร “อาฮงบอกว่าเขาอนุญาติให้พี่ ตามต้ามตาม ฮันแล้วนะ อีกอย่างหนึ่ง อาฮงให้ฮันบอกพี่ว่า ฮันรักพี่นะ” ฮงกี : บอกตอนไหนฟระ -*- END
************************
ฮิ้ว~
จบไปแล้วเรื่องนี้
จบแบบมึนๆด้วยเเฮะ
และอยากจะบอกว่า...
ช่วยเม้นหน่อยเจ้าค่าาา
COMMENT....
ความคิดเห็น