คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : [Si x Han x ????] กลัว P.1
Title : กลัว
Paring : Siwon x Hankyung x ?????
Author : แพนด้า 103
Part: 1
>>>โรงเรียนมัธยมปลายชายล้วน<<<
เสียงพูดคุยของเด็กนักเรียนห้องDดังกระหึ่มไปทั่วอาคารเรียน แม้กระทั้งฝ่ายปกครองมาห้ามปรามแต่กลับโดนกวนประสาทกลับ จนคุณครูทุกคนเหนื่อยใจกับเด็กห้องนี้
จนกระทั้งคุณครูสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา จากห้องที่เสียงดังกลับเงียบราวป่าช้า นักเรียนทุกคนนั่งประจำที่เรียบร้อยห้องที่รกกลับสะอาดทันตา จนคุณครูคนสวยอดที่จะชมไม่ได้ แต่เค้าจะรู้ไหมนะ ว่าเด็กห้องนี้น่ะ หน้าไหว้หลังหลอกชัดๆ
“เอาล่ะ... วันนี้ห้องเรามีเด็กใหม่นะจ๊ะ อย่าไปแกล้งเพื่อนเค้าล่ะ เข้ามาได้แล้วจ๊ะ”ประโยคแรกพูดกับลูกศิษย์สุดที่รักของตนเองก่อนที่จะหันมาพูดกับบุคคลที่รออยู่ภายนอก
เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นเบาๆ ทำให้เสียงฮือฮาที่มีอยู่สงบลงบ้าง ทุกสายตาจับจ้องที่ใบหน้าเรียวที่ก้มตลอดเวลา บ้างก็ส่งเสียงซุบซิบกันสงสัย
“เอาล่ะจ๊ะ นี่ฮันคยองนะ เพิ่งย้ายมาจากจีน แต่ก็พอพูดภาษาเกาหลีได้ อย่าไปแกล้งเพื่อนเค้านะ”คุณครูสาวพูดแนะนำ พลางดักคอบรรดานักเรียนตัวแสบที่คิดแกล้ง รอยยิ้มแห่งความเป็นมิตรถูกเผยขึ้นพร้อมกับใบหน้าของฮันคยองที่เงยขึ้นมา
“น่ารักว่ะ”เสียงที่ไม่ดังมากหลุดอกมาจากปากหนาๆของบุคคลท้ายห้อง แต่ก็ไม่ได้เรียกให้คนอื่นๆนั้นสนใจ เพราะต่างก็กำลังมองใบหน้าเรียวตาไม่กระพริบ
“แหมๆ จ้องใหญ่เชียวนะ เอาล่ะ ฮันคยองจ๊ะ ไปนั่งที่หว่างตรงหลังห้องนะ ที่ว่างระหว่างชีวอนและฮีชอลน่ะจ๊ะ”เสียงแซวขำๆจากครูสาวดังขึ้นเมื่อเห็นนักเรียนทั้งหลายแหล่มองเด็กนักเรียนคนใหม่ตาไม่กระพริบ ก่อนที่จะบอกให้ร่างบางไปนั่งที่ๆว่างอยู่ขณะนี้
สายตาของฮันคยองมองตามที่คุณครูคนสวยชี้ก่อนที่ใบหน้าจะซีดลงทันที ภาพเหตุการณ์ที่เขาเห็นเมื่อวานได้ย้อนกลับเข้ามาในหัวสมอง
“เร็วสิจ๊ะฮันคยอง”ขาบางๆก้าวไปที่หลังห้องอย่างเชื่องช้าที่สุด เขาจำได้สองคนนั้นที่เค้าเจอเมื่อวาน คนที่ขู่ผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าด้วยปืน ทำไมพระเจ้าต้องแกล้งให้เขามาเจอสองคนนี้ด้วย
“นั่งสิ”เสียงทุ้มๆดังขึ้นเมื่อฮันคยองเดินมาถึง ก่อนที่สายตาจะมองไปที่โต๊ะของตน ที่หายไปเหลือเพียงโต๊ะสองตัวที่ติดกันและเก้าอี้ว่างอยู่ตรงกลาง
สายตาที่อ้อนวอนถูกส่งไปที่ครูสาวคนสวยที่ยิ้มบางๆมาให้เพราะไม่สามารถช่วยอะไรได้ ร่างบางได้แต่จำใจนั่งลงไปด้วยหัวใจที่เต้นรัวด้วยความกลัว
จากนั้นการสอนในช่วงเช้าก็เริ่มขึ้นอย่างราบรื่น แต่มันไม่ใช่กับฮันคยอง!!! เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็คนสองคนที่นั่งข้างๆเขาไงที่ทำให้เขากลัวมากขึ้นกว่าเดิม ก็ไอ้มือปลาหมึกของทั้งสองคนนี้น่ะสิ พอการสอนเริ่มขึ้นได้ไม่นาน คนทางซ้ายก็โอบเอวของเขา ก่อนที่จะล้วงมือเข้าไปในเสื้อ ตามด้วยมือของคนทางขวาที่พยายามล้วงเข้าไปในกางเกง มือบางที่พยายามปัดป้องก็ถูกรวบไว้เพียงมือเดียว ปากที่กำลังจะเอ่ยก็ถูกปิดด้วยมือหนาของอีกคนเสียก่อน จนน้ำใสๆเริ่มเอ่อล้นที่ดวงตา
“ชีวอน ฮีชอล ถ้าจะทำอะไรฮันคยองล่ะก็เชิญที่อื่นนะ ตอนนี้ครูกำลังสอนเพื่อนอยู่”เสียงของคุณครูสุดสวยดังขึ้นอย่างรำคาญ เพราะเธอเห็นว่าลูกศิษย์ทั้งสงกำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็ว่าปรามหรือทำโทษไม่ได้
“ตกลงครับ”ทั้งสองเอ่ยบางพูดพร้อมกัน ก่อนที่จะลากร่างบางออกมาท่ามกลางความสงสารของเพื่อนร่วมชั้น แต่ก็ไม่มีใครสามารถห้ามปรามได้ เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจนเด็กห้องDชินแล้วล่ะ
>>ดาดฟ้า<<
ปึก!
เสียงของร่างกายกระทบกับพื้นด้วยความแรง ด้วยแรงผลัก แต่มันไม่ใช่ร่างกายของฮันคยอง แต่เป็นร่างกายของฮีชอลนั่นเอง
ดวงตาของชายที่มีลักษณะคล้ายหญิงสาวนั้นมองร่างบางอย่างชอบใจ ก่อนที่จะเดินไปหาช้าๆ
“นายเนี่ย หน้าคุ้นๆนะ”เสียงทุ้มของชีวอนเอ่ยขึ้นมาเบาๆ มือหนาลูบไล้ใบหน้าหวายที่เปื้อนไปด้วยน้ำตามากมาย ก่อนที่จะปล่อยข้อมือบางให้เป็นอิสระ
“อย่าคิดหนีนะหนุ่มน้อย”เสียงแหลมดังขึ้นมา เมื่อฮันคยองกำลังจะก้าวเท้าหนี ฮันคยองลอบมองทั้งสองคนด้วยความกลัว ก่อนที่จะถอยหลังหนีช้าๆ
“พะ...พวกนาย อย่าเข้ามานะ”ฮันคยองเอ่ยด้วยความกลัว แต่สิ่งที่เขาพูดกับไม่เป็นผลอะไร เพราะร่างสูงทั้งสองยังคงก้าวเข้ามาอยู่ดี
“อ๋อ... ฉันจำได้แล้ว..... ว่าเคยเจอที่ไหน”เสียงของชีวอนดังขึ้นมา ทำให้ฮันคยองสะดุ้งจนเห็นได้ชัด ร่างสูงหันไปกระซิบกับฮีชอล ก่อนที่จะกระตุกยิ้มขึ้นมา ขายาวๆของทั้งสองค่อยก้าวเข้ามาใกล้ฮันคยองเรื่อยๆ ผิดกับร่างบางที่ไม่มีที่ให้ถอย เพราะตนเองถอยจนชิดติดกำแพงไปแล้ว
“นายรู้ความลับของเราสองคนซินะ”หน้าที่ซีดอยู่แล้วยิ่งซีดลงมากกว่าเดิม น้ำตาที่เหือดแห้งกลับเอ่อล้นขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่ต้องกลัวนะ ฉันไม่ทำอะไรนายหรอกถ้านายยอมรับข้อตงลงของพวกฉัน”
“ข้อตกลงอะไร”เสียงหวานๆเอ่ยถามทันที แต่จะรู้ไหมนะ ว่ามันเข้าทางคนสองคนนี้มาก
“นายต้องทำตามคำสั่งพวกฉันทุกอย่าง”
“ถ้าขัดคำสั่งพวกฉันคงรู้นะ ว่าจะเกิดอะไร”สิ้นเสียงของฮีชอล ฮันคยองก็รีบพยักหน้าทันที ทำให้รอยยิ้มผุดขึ้นมา ผิดกับฮันคยองที่ดูโล่งอกมาขึ้นกว่าเดิมโดยไม่ได้สังเกตชีวอนและฮีชอลแม้แต่น้อย
“หึๆ”เสียงหัวเราะที่ดังขึ้น ทำให้ร่างบางได้สนใจ แต่ก็ช้ากว่าสองคนตรงหน้า ที่ชิงสูดความหอมจากแก้มเนียนของร่างบางโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว
“คงรู้นะถ้าโวยวายจะเกิดอะไรขึ้น”ชีวอนพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินลงไปอย่างชอบใจเช่นเดียวกับฮีชอล กว่าฮันคยองจะรู้สึกตัวร่างสูงทั้งสองคนก็ไปไหนต่อไหนแล้ว
>>>ช่วงเย็น<<<
เมื่อเลิกเรียน ร่างบางก็เก็บของอย่างที่เคยทำที่โรงเรียนเก่า แต่แปลกที่ว่า เพื่อนร่วมชั้นทั้งหมด ได้จ้องมาที่เขาเพียงผู้เดียว
“มองอะไรกันนักหนาวะ”ร่างบางบ่นุบอิบเป็นภาษาจีน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครรู้ว่าพูดอะไร
ระหว่างทางกลับบ้าน ฮันคยองมาทบทวนคิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เรื่องของชีวอนและฮีชอลนั่นเองที่เขาคิดไม่ตก เพราะตั้งแต่ลงมาจากดาดฟ้า ทั้งสองคนก็ไม่เข้าเรียนอีกเลย ทำให้เขาโล่งใจไปบ้าง เพราะร่างบางเองก็เป็นคนที่กลัวคนประเภทที่ชอบลวนลามอยู่เหมือนกัน
“อ๊ะ! ลืมล็อคประตูบ้านเหรอเนี่ย”ร่างบางเอ่ยอย่างตกใจ ก่อนที่จะรีบกุลีกุจอเข้ามาภายในบ้าน หนักกว่านั้น เมื่อเข้ามาแล้วพบว่าโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่ห้องนั่งเล่นบัดนี้ได้เปิดค้างไว้เช่นเดียวกับแอร์ ร่างบางรีบลนลานไปปิด พลางด่าตัวเองในใจซ้ำไปซ้ำมา คิดไว้ว่าเดือนนี้ทั้งเดือนไม่ต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากันเลย
ขาบางๆค่อยๆก้าวเข้าไปในห้องนอนอย่างเศร้าจิต แต่เปิดเข้ามาทำเอาอ้าปากค้าง นี่เค้าขี้ลืมจริงๆป่าวเนี่ย แอร์ คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ กลับไม่ได้ปิดสักอย่าง ยิ่งทำให้ร่างบางเศร้าเข้าไปใหญ่
ปัง!!
ฮันคยองหันไปตามเสียง พบว่าประตูที่เปิดค้างไว้กลับปิดด้วยฝีมือของชีวอน ใบหน้าที่หล่อเหลายิ้มออกมาอย่างพอใจ ผิดกับร่างบางที่หน้าซีดด้วยความกลัว
ปึก!
“หนุ่มน้อย เดินระวังๆหน่อยสิ”ฮีชอลกระซิบเบาๆ ทำให้ร่างบางเด้งตัวออกทันที
“รู้จักบ้านฉันได้ไง”ฮันคยองเอ่ยถามทั้งสองคน แต่กลับไม่มีใครเอ่ยปากตอบ มีแต่ร่างกายของคนทั้งสองที่ใกล้ชิดร่างบางมากขึ้น
“เรื่องแค่นี้มันขี้ๆ”ชีวอนเอ่ยตอบหลังจากที่ต้อนร่างบางให้ติดกำแพงได้
“บ้านนายก็น่าอยู่นะ ฉันอยู่สักสองสามอาทิตย์ท่าจะดี”จู่ๆฮีชอลก็โพล่งขึ้นมา ซึ่งชีวอนก็เออออเห็นด้วยโดยที่ไม่ได้มองหน้าเจ้าของบ้านเลยแม้แต่น้อย
“ฉันไม่ให้อยู่”ฮันคยองพูดขึ้นมา โดยที่ลืมนึกอะไรไปบางอย่าง ชีวอนหยิบมีดในกระเป๋าออกมาเล่นทำใหฮันคยองนึกอะไรออกมาได้
“ว่าไงล่ะฮันนี่”ชีวอนเข้ามาประชิดตัวทันที มือหนาข้างที่ไม่ได้ถืออะไรได้โอบเอวบางไว้ให้หลุดไปไหน แต่จะเรียกว่าโอบเอวไม่ได้หรอก เพราะมือน่ะมันไปจับซาลาเปา(?)ลูกล่างอย่างมันส์มือ
“อะ..เอ่อ...”ฮันคยองอึกอักไม่ตอบด้วยน้ำเสียง แต่พยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบแทน ชีวอนและฮีชอลยกยิ้มอย่างพอใจ
ฮันคยองพยายามผลักชีวอนให้ออกห่างแต่กลับไม่เป็นผล หนำซ้ำ ฮีชอลก็เข้ามากอดทางด้านหลัง ถ้ากอดแบบคนทั่วไปน่ะยังพอว่า แต่นี่เล่นล้วงเข้าไปในกางเกงนี่น่ะสิ!!!!
“ออกไปนะ”ฮันคยองเริ่มดิ้นไปมา จนสองหนุ่มยอมปล่อยแต่โดยดี
“ฉันอย่างเห็นผิวของนายจังเลย”ชีวอนพูดขึ้นมาลอยๆ พลางปลดกระดุมเสื้อนักเรียนของฮันคยอง ฮีชอลเองก็รู้หน้าที่ มือหนาล็อคมือของฮันคยองไว้เพื่อไม่ให้เป็นที่รบกวน
“ปล่อยนะ”ฮันคยองดิ้นไปมาด้วยความกลัว ดวงตาเริ่มมีน้ำใสๆเอ่อล้นออกมา
“ผิวของนายขาวดีเหมือนกัน”ชีวนพูดอย่างพอใจ มือหนาซุกไซร้ซอกคบางเล่นๆดั่งที่เคยทำกับคนอื่นๆที่ผ่านมา
แหมะ!
น้ำใสๆหยดลงที่แก้มของชีวอนทำให้ร่างสูงทั้งสองชะงัก ร่างกายที่ดิ้นไปมาตอนนี้กลับสั่นตามแรงสะอื้น ใบหน้าหวานที่สดใสกลับเต็มไปด้วยน้ำตา ฮีชอลเชยคางขึ้นมาช้าๆ ก่อนที่จะปาดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน แต่มือบางกลับปัดออกอย่างไม่ใยดี
“ขอโทษ”ทั้งสองคนเอ่ยออกมาพร้อมกัน ใบหนาที่เคยมีรอยยิ้มกลับมีความสำนึกผิดมาแทนที่ แต่ฮันคยองกลับไม่ฟังคำพูดคำกล่าวของทั้งสองคนแม้แต่น้อย ขาบางๆรีบเดินออกไป โดยที่ไม่สนใจร่างสูงที่ยืนอยู่
“งานเข้าล่ะไอ้วอน”ฮีชอลบ่นเบาๆพอให้ชีวอนได้ยิน แค่จะแกล้งแค่นั้นไม่คิดว่าจะร้องไห้ขนาดนี้ สงสัยแกล้งแรงไปแฮะ
****************************
Comment....
ความคิดเห็น