ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6 ❁ พี่เขาชอบคนสวย 100% ❁
“เอ่อ... คุณชายต้องการรับอะไรดีครับ” เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างประหม่า จูเนียร์รู้สึกประหลาดเมื่อถูกสายตาคมของคุณชายในชุดเช่นเดียวกับท่านชายมาร์คซึ่งกำลังเคลียร์กำลังน้องชายเขาอยู่ที่ห้องครัว ใบหน้าเรียบนิ่งเต็มไปด้วยความเย็นชาของอีกฝ่ายเป็นตัวกดดันร่างบางให้หวั่นใจยิ่งกว่าเดิม ฝ่ามือบางชุ่มเหงื่อไปหมด หรือเพราะมันนานเกินไปที่ทั้งสองคนจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง... ครั้งล่าสุดก็เกือบเดือนมาแล้ว
เขาคือคุณชายเจบี...
ก่อนหน้านี้ ประมาณเดือนก่อน คุณชายเจบีมักมาซื้อขนมที่ร้านตนเสมอ ทุกครั้งจูเนียร์ก็เป็นฝ่ายรับออเดอร์ เพราะคุณชายตรงหน้ามักตีหน้ามึนกับพนักงานในร้านคนอื่น ไม่ว่าใครถามอะไรก็มักจะไม่ตอบ เอาแต่ยืนจ้องมองขนมที่ตู้โชว์ ไม่ก็ทำเป็นมองเมนู และสิ่งเดียวที่จะทำให้ร่างสูงปริปากพูดก็คือจูเนียร์เท่านั้น ราวกับว่าอีกคนคีย์รหัสไว้เพื่อรอจูเนียร์มาป้อนข้อมูลเข้าให้คนเดียว
“เอานี่ นี่ แล้วก็นี่... อย่างละชิ้น” เสียงทุ้มเรียบๆ ดังขึ้นพร้อมกับนิ้วยาวที่ชี้ไปยัง บราวนี่ เลมอนชีทพาย และบลูเบอรี่คัพเค้ก ซึ่งก็เป็นเมนูไม่ต่างจากเดิมสักเท่าไหร่ ซึ่งถ้าให้จูเนียร์เดาเพิ่ม เหมือนกับว่าร่างสูงจะยังพูดไม่จบ
“เอสเปสโซ่เย็นไม่ใส่น้ำตาล”
ร่างบางยิ้มตอบรับอย่างธรรมชาติ คงเพราะโล่งใจไปเปราะหนึ่ง เพราะอย่างน้อยเขาก็รับเมนูของอีกฝ่ายแล้ว หน้าที่ของตนก็คงหมดแค่นี้ สุดท้ายร่างบางของเจ้าของร้านก็กลับมาทำหน้าที่อื่นแทนนั่นคือเช็กเมนูในตู้โชว์ว่ามีอะไรขาดเหลือบ้าง
กลิ่นหอมอบอวลของขนมชวนให้ละมุม หากแต่สำหรับชายชาตินักรบอย่างเจบีกลับคิดในทางตรงกันข้าม เขาไม่ชอบของหวาน ไม่ชอบอะไรที่มันมีกลิ่นหวานจนชวนเลี่ยน ชีวิตอยู่กับการลาดตระเวน บุกป่าฝ่าดง เขาใช้ชีวิตในแบบผู้ชายอย่างเต็มที่ ถึงแม้จะเกิดมาในตระกูลอันสูงศักดิ์ แต่กลับใช้ชีวิตเยี่ยงคนติดปฐพี หากแต่ความคิดคนเรามักเปลี่ยนเมื่อมีปัจจัยแทรกเสมอ
เพราะบังเอิญถูกหม่อมแม่ให้ซื้อขนมของร้านดังเข้า ทำให้คุณชายเจบีได้มาพบกับเจ้าของร้านตัวเล็กใบหน้าสวย จูเนียร์เตะตาชายหนุ่มมากจนต้องหาข้ออ้างมาที่นี่อีก แม้จะไม่เคยพูดคุยกับอีกฝ่ายแต่ขอแค่ให้เห็น ผู้ชายตัวเล็กคนนั้นช่างมองแล้วสบายตา คนนี้ทำให้เขาลบภาพความคิดเกี่ยวกับทุกสิ่งที่ละมุนบนโลกนี้เลยก็ว่าได้
นี่คงเป็นเวลาถึงหนึ่งเดือนที่เขาไม่ได้มาเจออีกฝ่าย เพราะถูกมอบหมายงานให้ไปลาดตระเวรพวกผู้สงสัยการก่อนการร้ายที่ชายแดน แต่ถึงอย่างนั้นก็มีหนึ่งสิ่งที่คุณชายเจบีนำไปด้วยเพื่อไม่ให้คิดถึงอีกคน... ซึ่งมันอยู่ในกระเป่าสตางค์ของเขาตลอดเวลา...
ก่อนจะกลับมา แจ็คสันได้ส่งข่าวเรื่องการหมั้นหมายระหว่างวังภูวกุลกับท่านชายมาร์ค ตอนนั้นเขาค่อนข้างมั่นใจว่าเจ้าของร้านขนมหวานของตนแน่ที่จะต้องรับหน้าที่ ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ชายผู้รักหน้าที่การงานยิ่งกว่าสิ่งใดอย่างคุณชายเจบีถึงขั้นส่งเรื่องขอย้ายกลับมาทำงานที่นี่แทน แต่สุดท้ายทุกอย่างก็พลิกล็อค เมื่อคนที่ท่านชายเลือกกลับเป็นคุณชายคนเล็กของวัง แทนที่จะเป็นคุณชายคนโตแทน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเขาก็ไม่อยากจะมีปัญหาหัวใจกับเพื่อนสนิทอย่างท่านชายเช่นกัน
เพราะกว่าจะเจอแล้วถูกใจขนาดนี้... มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เจบีนั่งจิบน้ำชาที่ทางร้านมาเสิร์ฟให้อย่างใจเย็น ดวงตาคมยังคงจดจ้องไปที่ร่างบางของเจ้าของร้านที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดการเมนูขนมต่างอย่างตั้งใจ ซึ่งทุกอิริยาบถทุกท่วงท่า ทุกการกระทำ... มันทำให้เจบีคิดเลยว่าเห็นทีว่าหลังจากนี้เขาคงจะต้องมีตัวตนในชีวิตคุณชายคนโตแห่งภูวกุลเสียบ้างแล้วสิ
เป็นอีกครั้งที่คุณชายตัวเล็กแต่หนักแก้มนั้นต้องมาที่วังเทวะฯ เพราะเป็นธรรมเนียมของที่นี่ ก่อนเข้าพิธีแต่งงาน เจ้าสาวจะต้องมาอยู่ที่บ้านของฝ่ายชายก่อนเพื่อปรับตัว ซึ่งคุณแบมก็ถูกคนที่วังละเมิดสิทธิ์เข้ามาจัดของของเจ้าตัวเพื่อเตรียมการไปอยู่อีกวัง
แน่นอนว่าเจ้าตัวเล็กต้องโวยวาย ด้วยความที่ติดพี่ชายทั้งสองยิ่งกว่าอะไร ไหนจะหม่อมยายอีก ฉากเรียกน้ำตาก็ต้องมา พากันทำให้ทั้งวังเป็นเดือดเป็นร้อนกันหมด เพราะคุณแบมไม่ใช่คนขี้งอแง เพราะฉะนั้นน้ำตาของคนตัวเล็กนั้นเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อคนทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่ชายคนโตที่เฝ้าประคบประงมน้องชายยิ่งกว่าอะไร กว่าจะโอ๋กันสำเร็จก็ต้องหมดสรรพยาการพายไปถึงสามถาด...
หลังจากที่เคลียร์กับคุณแบมเรียบร้อย โดยให้เงื่อนไขว่าสามารถกลับมาที่วังได้ทุกเสาร์อาทิตย์ ซึ่งถึงแม้จะผิดธรรมเนียมไปบ้าง แต่สำหรับคุณแบมแล้วก็คงไม่เป็นอะไร เพราะไม่อย่างนั้นตัวเล็กของเราคงไม่ยอมไปอยู่การท่านชายมาร์คแน่ๆ
การเข้ามาอยู่ในที่ๆ ไม่คุ้นเคย ทำให้คุณหมอตัวเล็กประหม่า แม้ว่าท่านหญิงม่านฟ้าจะเอ็นดูคุณแบมมากจนอีกชวนให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้างก็ตาม... แต่การที่มีท่านชายนิสัยเสียที่ชอบทำให้คุณแบมเขินตลอดเวลาอยู่ด้วยนี่สิ
“คุณแบมงอนอะไรพี่หรือเปล่าคะ ทำไมไม่คุยกับพี่เลยล่ะ” น้ำเสียงคนถามไม่ได้ดูน่าสงสารเลยแม้แต่น้อย แต่กลับหน้าระรื่นราวกับถูกใจที่แกล้งคุณแบมได้ นิสัยเสียจริงๆ เลย!
“งื้อ! คุณแบมเปล่า... คุณแบมแค่หิว ._.” คนน้องตอบกลับพร้อมก้มหน้านิ่ง ในขณะที่คนที่ซึ่งเดินมาข้างๆ นั้นกลับรู้ว่าแท้จริงแล้วคนตัวเล็กไม่ได้หิวเลย จะหิวได้ยังไงในเมื่อก่อนหน้านี้เขาพาอีกคนไปทานไก่ทอดร้านดังมาแล้วเกือบกิโล... แถมกินคนเดียวด้วย
“ตอนอยู่ในรถยังบ่นว่าอิ่มอยู่เลย ทำไมตอนนี้หิวอีกแล้วล่ะคะ” ท่านชายเอ่ยถามพร้อมอมยิ้ม
สงสัยเขาจะติดน้องแจจนเกินไป จนทำให้น้องกำลังตื่นหรือเปล่านะ... แต่เขินแล้วน่ารักขนาดนี้ ใครจะอดใจไม่แกล้งไหว
“กะ... ก็คุณแบม...” เพราะพี่ชายมาร์คเอาแต่ตัวติดคุณแบมยังไงเล่า!
งื้อ!!!
“แกล้งอะไรน้องคะท่านชาย... มานี่สิลูก มาหาแม่”
ราวกับเสียงนางฟ้ามาประทาน ท่านหญิงม่านฟ้าอ้าแขนรับว่าที่ลูกสะใภ้ตัวเล็ก เป็นฮีโร่ปกป้องคุณแบมจากท่านชายขี้แกล้ง และทันทีทันใด คุณแบมไม่ลังเลที่จะก้าวไปอยู่ในอ้อมแขนของที่พึ่งใหม่ ใบหน้ากลมใสซุกในอ้อมอกของท่านหญิงม่านฟ้าอย่างหาที่พึ่ง พาลทำให้คนตัวสูงรู้สึกอิจฉาท่านแม่ของตัวเองที่ได้รับอ้อมกอดนั้น ในขณะที่ตัวเองแม้แต่จับมือยังไม่ได้ นกกว่าท่านชายก็คงจะเป็นพญาครุฑ
“วันนี้เราจะพาคุณแบมไปที่งานวันเกิดท่านหญิงโสม คุณแบมต้องไปเตรียมตัวด้วยนะคะ”
ในขณะที่ทั้งสามกำลังนั่นทานอาหารว่าง ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นของโปรดของคุณชายตัวเล็ก โอริโอ้ชีทพายที่กำลังจะถูกส่งเข้าปากอวบอิ่มถึงกับชะงักค้าง ก่อนที่ช้อนเล็กจะถูกวางแล้วหันไปสนใจผู้ใหญ่ของวัง คุณแบมรู้สึกตกประหม่าขึ้นมาทันที เพราะด้วยเป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม น้อยมากที่คุณชายคนเล็กของวังภูวกุลจะออกงาน แม้ตนจะเป็นที่รู้จักมากแค่ไหน แต่ทุกคนจะรู้กันดีว่า คุณชายแบมแบมนั้นเป็นคนค่อนข้างรักชีวิตเรียบง่าย ซึ่งงานวันเกิดของท่านหญิงโสมนั้นห่างไกลคำนั้นเหลือเกิน
“อย่ากังวลเลยนะคะคุณแบม” แต่แล้ว เสียงหนึ่งที่เปรียบดังน้ำหล่อเลี้ยงต้นไม้ต้นน้อยที่กำลังถูกแดดแผดเผาก็เปล่งออกมา ท่านชายมาร์คมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างเอ็นดู หม่อมเจ้าชายชาติทหารดูออกจากสีหน้าวิตกของคนตัวเล็ก เท่านี้ก็ทำให้เขารู้แล้วว่าว่าที่ภริยาคงไม่ชอบเข้างานสังคมเป็นแน่
ใบหน้าน่ารักเงยหน้ามองคนเป็นพี่พร้อมทั้งเม้มปากแน่น ก่อนจะก้มมองที่มือน้อยของตัวเองซึ่งกำลังถูกโอบกุมด้วยฝ่ามือที่ใหญ่กว่าถึงสองเท่า ใจดวงน้อยเต้นแรงดังพายุโถม ใบหน้าใสขึ้นริ้วเลือดฝาดเหมือนสตอเบอรี่สด มองแล้วน่ากอดน่าฟัดจริงๆ
เสียงดนตรีสากลดังคลอเบาๆ พอให้รื่นรมย์ ที่โดดเด่นคงเป็นเสียงของแซกโซโฟนที่กำลังถูกเป่าโดยนักดนตรีมืออาชีพในชุดทักสิโด้สุดเนี๊ยบ เป็นที่น่าแปลกใจสำหรับใครหลายคนว่างานของหญิงหญิงโสมจะถูกจัดนอกเหนือโรงแรมหรู หากแต่ถูกจัดที่ในวังของท่านหญิง ซึ่งถูกเนรมิตราวชายหาด เนื่องในโอกาสชันษาครบ 60 ปี ด้วยที่ทรงรักบรรยากาศริมทะเลมาก แต่ด้วยอายุสังขานมากเกินกว่าจะไปจัดที่ชายทะเลจริงๆ จึงเลือกที่จะเนรมิตวังของตนให้กลายเป็นชายหาดขนาดย่อม
แขกมากหน้าหลายตาต่างพากันร่วมแสดงความยินดีกับท่านหญิงผู้อาวุโส รวมไปถึงท่านหญิงม่านฟ้าที่รู้จักมักใคร่เป็นอย่างดี หากแต่ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ทุกคนพากันจับตามองคนของตระกูลเทวะโรจนหิรัญมากเป็นพิเศษ หาใช่เพราะชายหนุ่มร่างสูงสง่าที่สวมสูทสีดำสนิท เจ้าของดวงตาสีนิลนั่นไม่ แต่กลับเป็นคนตัวเล็กในชุดสูททักสิโด้สีขาวน่ารักที่กำลังถูกกุมมือเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของอยู่ตลอดนั่นต่างหาก
คุณแบมพยายามสงบสติอารมณ์ไม่ให้ตกประหม่ามาก แม้ภายนอกจะส่งยิ้มแจกจ่ายคนที่ยิ้มให้ตน แต่ฝ่ามือเล็กที่ถูกท่านชายมาร์คกุมอยู่กลับชุ่มไปด้วยเหงื่อ แน่นอนว่าคุณแบมไม่ชินกับสายตาของหลายๆ คู่ที่มองมา แต่คงต้องทำใจเพราะข่าวระหว่างตนกับท่านชายมาร์คนั้น คนรู้คงทั้งแคว้นแล้ว
“คนมองคุณแบมของพี่เยอะจัง... พี่ควรหวงไหมนะ” เสียงทุ้มแสนอ่อนโยนของท่านชายเปล่งออกมา รวมทั้งฝ่ามือแกร่งที่บีบมือเล็กแน่นขึ้นนั่นอีก ยิ่งทำให้คุณแบมประหม่าเข้าไปใหญ่ จนอดไม่ได้ที่จะมองค้อนคนพี่ไปหนึ่งที โทษฐานที่นอกจากไม่ช่วยให้รู้สึกหายประหม่าแล้วยังจะมาทำให้แย่กว่าเดิม
“หวงอะไรกันเล่า . _ .”
“ไม่ให้หวงก็น่ารักน้อยๆ ลงหน่อยสิคะ” ท่านชายอดไม่ได้ที่จะบีบแก้มนุ้มที่เปลี่ยนสีเป็นสีเชอรี่สุกไปเรียบร้อยอย่างหมั่นเขี้ยว ทำเอาคนที่กำลังมองอยู่พากันอิจฉาตาร้อน ส่วนหนึ่งคือคนที่หมายปองท่านชายนายเรืออากาศอยู่แล้ว กับโมเม้นต์เจ้าชายที่แสนอบอุ่น ซึ่งมีไว้สำหรับใครบางคนเพียงคนเดียว
ก็ใครซะอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่คุณแบม...
----- ต่อตรงนี้ค่ะ -----
“อ้าวนั่นไงมาพอดี... มาสิคะท่านชาย พาน้องมาไหว้ท่านหญิง” ท่านหญิงม่านฟ้าเอ่ย เมื่อเห็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกำลังเดินมากับว่าที่ลูกสะใภ้ตัวเล็ก ช่างเป็นภาพที่เหมาะสมจริงๆ ท่านหญิงโสมคิด พอจะรู้จักบรรดาลูกชายของวังภูวกุลอยู่บ้าง แต่กับคุณชายคนเล็กของท่านชายภาษกรแล้วไม่เคยได้เห็นหน้าจริงๆ สักที พอได้เห็นก็เข้าใจแล้วว่าทำไมท่านหญิงม่านฟ้าถึงเอาแต่พูดถึงว่าที่ลูกสะใภ้ ก็น่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้
“ได้ยินชื่อมาตั้งนาน ได้เห็นหน้าสักที ช่างสมกันนัก ท่านชายก็รูปงามองค์อาจ คุณชายก็น่ารักน่าชัง” ท่านหญิงโสมเอ่ยขึ้น คำชมจากผู้ใหญ่ทำให้ใบหน้าเนียนเปลี่ยนสี ก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มจะคลี่ยิ้มออกมาให้ทุกคน คุณแบมไม่ค่อยได้ออกงานแต่ก็รู้มารยาทดี เพราะอย่างนั้นการเข้าสังคมจึงไม่น่าห่วงสักเท่าไหร่ ยิ่งทุกคนดูใจดีแบบนี้แล้วด้วย
“ขอบพระทัยกระหม่อม...” ท่านชายมาร์คเป็นคนเอ่ยอย่างนอบน้อม กิริยาสมเชื้อเจ้าช่างน่ามองในสายตาคนรอบข้าง หลายคนหลงรักท่านชายนายเรืออากาศอย่างง่ายดายเพียงแค่ได้มองรูปลักษณ์ ยิ่งได้เห็นถึงความสง่าผ่าเผยของหม่อมเจ้า ยิ่งทวีความรักความเสน่หา จนอดอิจฉาคุณชายตัวเล็ก ผู้ครองตำแหน่งว่าที่ภริยาของพระองค์ไม่ได้
“มานี่สิโชอา มาไหว้หม่อมเจ้าหญิงม่านฟ้าสิลูก” แต่แล้ว หญิงชรากลับเอ่ยทักหลานสาวของตน หญิงสาวรูปร่างเพรียวบาง ใบหน้าสวยสง่าสมเชื้อราชวงศ์ ดวงตาเรียวถูกกรีดอายไลน์เนอร์เฉี่ยวสวย ริมฝีปากบางถูกเติมแต่งด้วยลิปติกยี่ห้อดังสีแดงเลือดนก เธอสวมใส่ชุดผ้าชีฟองบางๆ ยามลมมาทำให้ผ้าแนบลำตัวชวนให้มองรูปร่างที่น่าหลงใหล ผมบ๊อบสั้นสีบลอนด์ทองสว่างนั่นช่างขับสีผิว
หากมองในมุมมองผู้ชาย หม่อมเจ้าหญิงโชอานั้นช่างเป็นคนที่มีเสน่ห์และน่ามอง ซึ่งท่านชายมาร์คเองก็เป็นผู้ชาย เป็นธรรมดาที่จะมีสัญชาตญาณเสือร้าย ยิ่งได้รับรอยยิ้มเย้ายวนยิ่งต้องเผลอหลงใหล ผู้ล่าก็คือผู้ล่าอยู่วันยังค่ำ แต่ผู้ล่าที่ฉลาดนั้นจะต้องแสดงออกมาอย่างแยบยล แต่ดูเหมือนท่านชายมาร์คจะไม่ใช้ผู้ล่าที่ฉลาดสักเท่าไหร่...
ร่างเล็กมองคนข้างกายสลับกับมองร่างของหญิงสาวตรงหน้า จู่ๆ ใบหน้าหวานก็ยู่ลงอย่างไม่ต้องสงสัย ดวงตาท่านชายช่างแพรวพราวเหมือนกับเวลาที่คิมใช้มองสาวๆ ไม่มีผิด... คุณแบมรู้คุณแบมเรียนมา
เฮอะ...
เฮอะ เฮอะ
เฮอะ เฮอะ เฮอะ!
หมั่นไส้!!
คุณแบมหมั่นไส้!!!!
ร่างเล็กอมลมจนแก้มป่องอยู่ที่โซนขนมหวาน ในมือถือจานที่มีคุกกี้ช็อกโกแลตกับคัพเค้กอยู่ มุมปากมีคราบของครีมจากเค้กเล็กน้อยเพราะตอนตักกินนั้นในหัวของคุณชายตัวเล็กคิดแต่เรื่องของผู้ชายนิสัยไม่ดีชื่อมาร์ค ว่าที่สามีตัวดีที่ทิ้งคุณแบมออกไปคุยกับผู้หญิง
เกือบสิบนาทีแล้วท่านชายมาร์คถูกหม่อมเจ้าหญิงโชอาลากไปที่มุมสระว่ายน้ำเพื่อแนะนำให้กับผองเพื่อนของหล่อนรู้จัก ทิ้งให้คุณแบมต้องเปล่าเปลี่ยวหัวใจอยู่กับถาดขนมหวานที่ล่อตาล่อใจ นาทีแรกนั้นร่างเล็กไม่ได้สนใจเลยว่าคนพี่จะถูกพาตัวไปเพราะขนมนั้นมาก่อน แต่พอทานจนหนังท้องตึงแล้วก็ฉุกคิดได้ จนในที่สุดก็เหลือแต่อารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจนั่งจิ้มคัพเค้กเล่นจนหน้าเละ ราวกับคัพเค้กก้อนน้อยเป็นใบหน้าของท่านชายบางคนอย่างนั้น
ใช่สิ...
หงึ! คุณแบมไม่สวยแบบเธอคนนั้นนี่น่า...
“เนอะคุณคัพเค้กเนอะ” กลายเป็นว่าคนตัวเล็กคุยกับคัพเค้กแทน ราวกับว่ามันมีชีวิตอย่างนั้น ดวงตากลมโตหลบจากภาพอันแสนน่าโมโหตรงสระว่ายน้ำ ก่อนจะหันมามองเหล่าบรรดาขนมหวานของโปรดตรงหน้า หากตอนนี้ไม่อิ่มจนจุกแบบนี้แล้วคุณแบมจะทานต่อให้หมดเลย แต่ว่าตอนนี้อิ่มแล้ว... และคุณแบมก็เหงามากด้วย ._.
เฮ้อ คุณแบมไม่สวยนี่ฮะ...
“เอ่อ ขอทางหน่อยได้ไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างสุภาพ จึงทำให้คุณแบมเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าอย่างตกใจ คงเป็นเพราะอีกคนโพล่งขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว
“อะ เอ่อ... ขอโทษครับ” คุณแบมยอมหลีกทางให้คนตัวสูง ใบหน้าหล่อยิ้มเล็กน้อยให้คนตัวเล็ก พลันสายตามองเห็นคราบครีมที่มุมปากอวบอิ่มยิ่งอดยิ้มไม่ได้ คนอะไรเหมือนเด็กจริงๆ
แต่ก็น่ารัก...
ชายตัวสูงเดินผ่านร่างเล็กไปเพื่อหยิบจนจานใส่คัพเค้กขึ้นมาไว้ที่มือ แต่แทนที่จะเดินกลับไปนั้นอีกคนกลับเลือกที่จะยืนอยู่ข้างๆ คนตัวเล็กเสียอย่างนั้น ทำให้คุณแบมเงยมองคนแปลกหน้าที่ยืนตักคัพเค้กทานอย่างสงสัย ว่าทำไมถึงมายืนทานเค้กข้างๆ ตนแบบนี้
“มีครีมติดอยู่ตรงนี้ รู้ไหมครับ” ร่างสูงหันไปมองร่างเล็ก พร้อมทั้งใช้นิ้วชี้ที่มุมปากของตัวเองเพื่อสาธิตให้เห็น นั่นทำให้คุณชายแบมแบมเบิกตากว้างอย่างวิตก ก่อนที่จะลนลานใช้มือเช็ดที่มุมปากของตัวเองในทันที นี่ถ้าหม่อมยายมาเห็นคนตัวเล็กทำกิริยาแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นละก็ คงต้องโดนลงหวานสักที
หากแต่กับชายหนึ่งตรงหน้ากลับรู้สึกเอ็นดูคุณแบม เขาไม่ได้ถือสาอะไร แม้จะทราบดีว่าคนที่มางานนี้ต้องเป็นคนในเชื้อพระวงศ์ทั้งนั้น แต่กับเจ้าของแก้มกลมๆ นี่แล้ว ถือว่าผ่อนผันกันได้ นึกขอบคุณตัวเองจริงๆ ที่ถูกน้องสาวใช้ให้มาหยิบคัพเค้กให้น่ะ ไม่อย่างนั้นคงจะไม่ได้พบสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าน่ารักแน่
“คะ คุณแบมขอโทษนะครับที่ทำกิริยาไม่เหมาะ น่าอายจริงๆ” ร่างเล็กเอ่ยพร้อมก้มหน้านิ่งเหมือนเด็กที่กำลังถูกดุ แถมยังลอบมองคนตรงหน้าอีก คงเพราะเคยชินจากที่บ้าน ยามที่นึกได้ว่าตัวเองทำผิดคุณแบก็มักจะขอโทษก่อนเสมอ
“ไม่เป็นไรครับ จะเป็นอะไรไหมถ้าผมอยากรู้จักชื่อคุณ” ร่างสูงเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา มือหนาวางจานคัพเค้กลงก่อนจะยื่นออกไปด้านหน้าเมื่อแสดงความเป็นมิตร ซึ่งร่างเล็กก็มองตามอย่างสงสัย “หม่อมราชวงศ์นิชคุณ เรียกผมว่าคุณชายคุณก็ได้... แล้ว...”
“อ่า... เรียกคุณแบมว่าคุณแบมก็ได้ครับ”
ร่างเล็กเอ่ยอย่างเคอะเขิน ก่อนจะยื่นมือไปจับเพื่อทักทายตามวัฒนธรรมตะวันตก คุณชายนิชคุณยิ้มให้ร่างเล็กอย่างอบอุ่น ในใจชายหนุ่มนั้นเต้นรัวราวกับเด็กเกรด 9 พบรัก มือเล็กนุ่มนิ่มนี่ทำให้เขาไม่อยากปล่อยมือไป ด้วยความที่พึ่งกลับมาจากปารีส ทำให้ไม่รู้ว่าอีกคนคือใคร ถ้ารู้ว่าที่แคว้นมีคนน่ารักขนาดนี้อยู่ เขาคงไม่ลังเลที่จะกลับมาช่วยงานที่ตระกูลช้าแบบนี้แน่
“ทำอะไรอยู่คะคุณแบม...”
เสียงเรียบนิ่งที่เย็นเยือกราวกับน้ำแข็งในขั้วโลกดังขึ้น ทำเอาร่างเล็กชะงัก จู่ๆ มือที่จับอยู่กับร่างสูงของคนรู้จักเมื่อครู่ก็ถูกปล่อยออกอย่างเร็วราวกับสัญชาตญาณ คุณแบมกลับหลังหันไปมองท่านชายมาร์คที่ยืนทำหน้ายักษ์มองมาที่ตนอย่างวิตก แม้จะรู้สึกน้อยใจอีกคนอยู่แต่สีหน้าของท่านชายช่างน่ากลัวเกินกว่าที่คุณแบมจะมางี่เง่า
“...”
แต่แล้วจากที่จะเอ่ยตอบไป กลับกลายเป็นเงียบสนิทเมื่อเห็นใครบางคนที่ตามท่านชายมาด้วย ท่านหญิงโชอามองมาที่คุณชายตัวเล็กก่อนจะยิ้มให้ หากแต่จะได้รอยยิ้มน่ารักกลับไปถ้าตากลมโตจะไม่เห็นว่าเธอกำลังใช้มือเกาะแขนท่านชายมาร์คเอาไว้ จู่ๆ ความรู้สึกที่พยายามขังเอาไว้ก็ถูกพังออกมา
เมื่อเห็นว่าคุณแบมไม่ตอบ ท่านชายมาร์คก็ยิ่งอารมณ์เสียเข้าไปใหญ่ ลำพังเข้ามาเห็นว่าคุณแบมกำลังจับมืออยู่กับผู้ชายคนอื่นก็ว่าแย่แล้ว ยังมาถูกเมินต่อหน้าทุกคนอีก จะไม่ให้โมโหได้ยังไงกัน
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะกระหม่อม” คนที่ยืนอยู่ตั้งแต่ต้นเอ่ยทักขึ้น เมื่อเห็นคนที่รู้จักมักพบเป็นอย่างดี ท่านชายมาร์คจึงละสายตาจากร่างเล็กที่กำลังดื้ออยู่เสียไม่ได้ ก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปมหนักกว่าเดิมเมื่อพบว่าคนที่จับมือของคุณแบมเมื่อครู่เป็นใคร
“เราก็ไม่คิดว่าจะได้เจอพี่ชายคุณ กลับมาเร็วเหมือนกันนี่” ร่างสูงตอบกลับ น้ำเสียงเย็นชาและไม่เป็นมิตรทำให้คนรอบข้างอย่างคุณแบมสังเกตได้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้จักกัน แต่น่าจะเป็นในแบบที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
“แต่คงไม่ใช่เวลามาทักทายกัน พวกเราต้องกลับแล้ว โอกาสหน้าค่อยว่ากันใหม่แล้วกันนะ ไปค่ะคุณแบม”
พูดจบ มือหนาก็คว้าเอาแขนเล็กไป พร้อมทั้งกระตุกให้เดินตามอย่างงวางอำนาจ ทำให้คุณแบมต้องหันมาก้มหัวขอโทษคุณชายคุณ ก่อนจะเดินตามร่างสูงของท่านชายออกมาจากตรงนั้น แม้ขนาดท่านหญิงโชอายังถูกทิ้งไว้เช่นกัน ดูเหมือนว่าตอนนี้ท่านชายจะไม่สนใจใครเลยนอกจากน้องตัวเล็กของเขา
เด็กน้อยที่เดินตามมาอย่างเงียบเหมือนทะเลที่สงบนิ่ง...
แต่สงสัยว่าท่านชายจะยังไม่เคยเห็นคลื่นใต้น้ำเสียแล้ว...
ความคิดเห็น