ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] [Mpreg] Royal Gentlemen #สุภาพบุรุษมบ (MarkBam)

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 ❁ วังเทวะโรจนหิรัญ 100% ❁

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 63




    CR.SHL


    ตอนที่ 4





    ประตูฝั่งคนขับ รถหรู BMW I8 ถูกเปิดออกก่อนที่ทหารอากาศหนุ่มจะวิ่งหลังตรงไปเปิดประตูอีกฝั่งอย่างสุภาพบุรุษ ร่างเล็กที่นั่งกอดอกแก้มยุ้ยอยู่มองคนเป็นพี่อย่างงงๆ เพราะตัวเองก็กำลังจะเปิดประตูรถฝั่งตัวเองเช่นกันถึงแม้ก่อนหน้าจะแอบกังวลอยู่ เพราะรถทรงนี้ประตูถูกงัดขึ้นฟ้าไม่ได้เปิดออกเหมือนรถปกติ ความนำสมัยที่คุณแบมไม่ค่อยได้พบเนื่องจากที่วังภูวกุลใช้เพียงรถธรรมดาๆ เท่านั้น

     

    น้องน้อยเดินต่อกแต่กตามคนเป็นพี่ไปเหมือนเด็กเดินตามผู้ใหญ่ สองแขนโอบอุ้มหนังสือเล่มใหญ่เอาไว้ ขนาดของหนังสือกับร่างกายบอบบางของคุณชายน้อยแห่งวังภูวกุลนั้นช่างไม่สมกันเอาเสียเลย อดไม่ได้ที่คนตัวใหญ่กว่าจะยื่นความช่วยเหลือไปให้

     

    “ให้เราถือให้ไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง พร้อมทั้งก้าวเดินช้าลงเพื่อที่จะได้เดินไปข้างๆ น้อง ร่างเล็กเงยหน้าของท่านชายพร้อมก้มมองหนังสือเล่มโตในอ้อมแขนก่อนจะส่ายหน้าไปมาจนผมนุ่มสะบัดพลิ้ว สายตามุ่งมั่นของคุณแบมทำเอาท่านชายอดอมยิ้มไม่ได้ นี่คงจะกลัวเสียหน้าหรือเปล่าถ้าหากให้เขาช่วย ดื้อจริงๆ

     

    จริงอย่างที่ร่างสูงคิด คุณแบมกำลังโชว์ให้เห็นว่าตนนั้นแข็งแรงอย่างกับม้า หนังสือแค่นี้จะทำอะไรคุณแบมได้ แม้มันจะหนักเกือบสองกิโลก็ตามที... คะ แค่สองกิโลเอง

     

    ร่างเล็กกำชับอ้อมแขนให้เข้าที่ เมื่อหนังสือเล่มหนากำลังจะล่วงตามแรงโน้มถ่วงของโลก คนเป็นพี่ก็อดยิ้มขำกับความพยายามของคุณชายแบมแบมไม่ได้ แต่ในเมื่อร่างบางไม่อยากให้เขายุ่งเขาก็จะไม่ยุ่งเพราะไม่อยากขัดใจเจ้าของแก้มยุ้ยสักเท่าไหร่ แววตามอกตามใจมาแต่ไกลเลยสิน่า...

     

    คุณแบมเดินหอบหนังสือไว้ด้วยกำลังกายที่มีพร้อมทั้งมองไปรอบๆ ตัว วังเทวะโรจนหิรัญกว้างใหญ่และหรูหรากว่าวังของตน แน่นอนว่าวังเทวะโรจนหิรัญนั้นมั่งคั่งมากแค่ไหน เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นคงไม่ต่ำกว่าหลักเจ็ด ข้ารับใช้ก็แต่งตัวดีแถมมีชุดประจำตำแหน่ง ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าที่นี่เป็นเชื้อพระวงศ์ แต่ไม่คิดเลยว่าจะยิ่งใหญ่และสวยขนาดนี้

     

    แต่ถ้าให้เลือก ยังไงคุณแบมก็เลือกวังภูวกุลอยู่ดีนั่นแหละ เพราะที่ไหนจะมาสุขใจเท่าที่บ้านเราล่ะ

     

    “อ้าว มากันแล้วเหรอท่านชาย” เสียงหวานของหม่อมเจ้าหญิงม่านฟ้า มารดาของท่านชายยืนคุมเหล่าคนรับใช้ให้จัดวางสำรับอาหารให้เข้าที่เข้าทาง รูปร่างบอบบางของท่านหญิงม่านฟ้าบวกกับใบหน้าหวานหยดย้อยของพระองค์เป็นที่จับตามองของว่าที่ลูกสะใภ้ตัวเล็ก แก้มกลมใสเปลี่ยนเป็นสีของลูกพรีชเมื่อได้สบพระพักตร์ เกิดความประหม่าขึ้นในหัวอกของร่างบาง เพราะนี่คงเป็นครั้งแรกที่ได้มาเผชิญหน้ากับครอบครัวฝั่งนี้ตามลำพัง อดไม่ได้ที่จะกลัวว่าตัวเองนั้นอาจเผลอทำอะไรผิดพลาดจนทำให้พวกท่านไม่พอใจพระทัย

     

    ร่างเล็กโน้มตัวนั่งลงกับพื้นในท่าเทพธิดา ก่อนจะวางมือขวาทับมือซ้ายแนบไว้ที่หน้าท้องแล้วก้มหัวลงจนสุดเพื่อทำความเคารพพระองค์ท่านตามธรรมเนียมที่ได้เล่าเรียนศึกษามาทั้งชีวิต ว่าที่แม่สามีมองร่างน้อยพร้อมยิ้มอย่างเอ็นดู ไม่เท่านั้นยังเดินเข้ามาพยุงตัวลูกชายคนเล็กของวังภูวกุลขึ้นอีก นั่นทำให้ข้าหลวงบริวารที่มองดูอยู่นึกเอ็นดูคุณแบมตามท่านหญิง และไม่ต้องพูดถึงร่างสูงโปร่งที่ยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งอยู่อีกฟาก

     

    “ตอนนี้พระองค์ท่านยังทรงงานอยู่ที่อิตาลี พระองค์ฝากมาบอกว่ายินดีต้อนรับคุณแบมเข้าสู่วังเทวะโรจนหิรัญนะคะ” ท่านหญิงยังคงต้อนรับว่าที่ลูกสะใภ้แก้มอูมอย่างดี ร่างเล็กทิ้งตัวนั่งลงข้างผู้ใหญ่ใจดีด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม คุณแบมไม่ใช่คนที่เข้ากับใครได้ยาก ต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะนิสัยที่ร่าเริงและใบหน้าแสนซนตลอดเวลาของคุณชายตัวเล็ก ไม่ว่าใครก็มักจะเอ็นดูเสมอ

     

    หลังจากนั้นหม่อมเจ้าชายนายเรืออากาศก็กลายเป็นส่วนเกินเพราะถูกมองข้ามไปโดยปริยาย เมื่อว่าที่ลูกสะใภ้ตัวเล็กถูกเด็จแม่แย่งตัวไปรอบวัง และเหมือนคนตัวเล็กก็ดูจะตื่นตาตื่นใจกับการสำรวจรอบๆ คล้ายเด็กขี้สงสัยได้เผชิญสถานที่ใหม่ ซึ่งท่านชายมาร์คก็เพียงเดินตามอย่างห่างๆ คอยสอดส่องดูสักพัก ก่อนจะปลีกตัวขึ้นไปยังห้องนอนเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า รอทานอาหารค่ำกับว่าที่ภริยาตัวเล็ก ซึ่งอีกไม่นานก็จะกลายมาเป็นสมาชิกใหม่ของวังเทวะโรจนหิรัญ ตอนนี้ตนจะปล่อยให้อยู่เด็จแม่ไปก่อนแล้วกัน

     

    ส่วนทางด้านว่าที่คุณหมอตัวเล็ก หลังจากที่ท่านชายเดินออกมาก็เหมือนจะซนหนักกว่าเดิม ไม่รู้ทำไมพอท่านชายอยู่ด้วย คุณแบมถึงได้รู้สึกอึดอัดแปลกๆ ยิ่งได้เห็นสายตาของอีกฝ่ายซึ่งมองมานั่นอีก มันพาลทำให้มือไม้ของคุณแบมเกะกะไปเสียหมด ตอนนี้ได้อยู่กับท่านหญิง คุณแบมรู้สึกถึงความพระทัยดีของพระองค์ ไม่ต่างอะไรจากหม่อมแม่ของคุณแบมเลย...

     

    เวลาล่วงเลยผ่านไปเกือบชั่วโมง การสำรวจบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น ท่านหญิงปลีกตัวไปดูอาหารเย็นส่วนคุณชายตัวเล็กก็เลือกที่จะดูอยู่ห่างๆ เพราะตัวเองนั้นไม่สันทัดเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ ด้วยนิสัยแล้ว คุณแบมไม่ใช่คนรักการทำงานบ้าน ตัวเล็กของบ้านภูวกุลชอบที่จะทำงานข้างนอกมากกว่า เธอไม่ชอบงานบ้านงานเรือนเลย ชอบแอบหนีเวลาหม่อมยายจะสอนการเรือนเสมอ คุณแบมรู้ว่าตัวเองคงไม่มีโอกาสแต่งภรรยาเข้าวังเพราะสภาพรูปร่างที่อ้อนแอ้นไม่สมชายชาตรีเฉกเช่นท่านชายแห่งวังโรจนหิรัญ คงหนีไม่พ้นถูกตบแต่งเข้าเรือนอื่น แต่วิชาการเรือนก็ไม่ได้เป็นที่โปรดปรานของตนเลย

    “แม่วานคุณแบมไปตามท่านชายให้หน่อยได้ไหมคะ จะได้มาเสวยอาหารพร้อมกัน” ท่านหญิงเอ่ยขึ้นพร้อมมองไปที่ว่าที่สะใภ้ของวังอย่างเอ็นดู ยิ่งเห็นใบหน้าน่ารักเลิกลักตกใจยิ่งรู้สึกหมั่นเขี้ยวอยากจะหยิกแก้มกลมๆ ของเจ้าตัวเล็กเข้าสักที

     

    “อะ เอ่อ... ได้ครับกระหม่อม... ละ แล้วคุณแบมต้องไปตามท่านชายที่ไหนครับ” คุณแบมเอ่ยถามอย่างจนใจ ร่างเล็กยังคงตื่นเต้นกับคำไว้วานของพระองค์ท่าน แม้ว่าจะกลัวและหวั่นใจแปลกๆ แต่ก็คงไม่กล้าเลี่ยง

     

    “ตอนนี้ท่านชายคงจะอยู่ในห้องทรงงาน เดี๋ยวแม่ให้คนพาคุณแบมไปนะคะ”

     

    จบคำท่านหญิง ขาเล็กก็ก้าวตามข้าหลวงสาวคนหนึ่งไปอย่างประหม่า ใจดวงน้อยเต้นตึกตักอย่างพิกล คุณชายตัวเล็กเดินดุ๊กดิ๊กเหมือนตุ๊กตาน่ากอดยังคงฉงนใจกับอาการของตัวเองที่ไม่อาจหาเหตุผลมาตอบได้ ว่าที่ชายหมอตัวน้อยไม่อาจตอบคำถามที่ว่า เหตุใดเวลาเข้าใกล้ท่านชายมาร์ค อาการใจสั่นหวั่นไหวมันถึงได้เกิดขึ้น

     

    ก๊อก ก๊อก!

     

    เสียงเคาะประตูบานใหญ่ดังขึ้นโดยข้าหลวงที่นำทางมาก่อนที่เจ้าหล่อนจะก้มหน้าขออนุญาตเดินหลบฉากไปโดนไม่ทันที่ร่างเล็กของคุณชายแบมแบมจะได้เตรียมใจ เพราะอย่างนั้นว่าที่คุณชายหมอก็ได้แต่ยืนทำหน้าตื่นเหมือนกระต่ายตกใจเพราะไม่กี่วินาทีจากนั้นก็ได้เสียงตอบรับจากคนด้านในมา

     

    “มีอะไรครับ”

     

    “อะ เอ่อ...” เหมือนน้ำท่วมทั้งปาก ไม่รู้จะขานตอบเสียงทุ้มที่ไม่ว่าจะได้ยินกี่ครั้งก็ทำให้คุณแบมป่วย... ใช่แล้ว คุณแบมป่วย ไม่งั้นหัวใจคุณแบมไม่เต้นแปลกๆ แบบนี้หรอก ริมฝีปากอวบอิ่มสีเชอรี่เม้าแน่นเมื่อได้รับความกดดัน ก่อนจะทำใจกล้าตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นเพราะความประหม่า

    “ท่านหญิงให้มาเชิญท่านชายไปเสวยอาหารครับ”

     

    เพียงได้ยินเสียงตอบกลับมาเป็นเสียงใสของใครคนหนึ่งที่ตนกำลังคิดถึงอยู่ ท่านชายนายเรืออากาศก็ลุกพรวดยืนตรงเต็มความสูง คราแรกคิดว่าเป็นข้าหลวงในวังจึงได้เปล่งเสียงไปแบบห้วนๆ ซึ่งความจริงแล้วมันจะไม่ห้วนสักเท่าไหร่หากคนที่ยืนอยู่ข้างนอกนั่นไม่ใช่คุณชายตัวเล็กที่ตนต้องเสน่หานักหนา สำหรับว่าที่ภริยาของเขา ทุกสิ่งต้องนุ่มนวลกว่าปกติสิถึงจะถูก...

     

    นึกตำหนิตัวเองอยู่สักพัก ก็นึกเรื่องบางสิ่งออก เกิดรอยยักที่มุมปากบางเฉียบภายใต้ใบหน้าหล่อเหลา ถ้าหากคนที่ยืนอยู่ข้างนอกนั่นได้เห็นจะกลัวแค่ไหนกันเมื่อรับรู้ว่ามีคนกำลังวางแผนแกล้งตัวเองอยู่

     

    “ที่วังสั่งไว้ว่ายังไง... จะเรียนสิ่งใดให้เข้ามาด้านใน ไม่ใช่ตะโกนโหวกเหวกตอบเช่นนั้น” คนพี่ปั้นเสียงเข้มดุไป ทำเอาคนน้องที่ยืมอยู่ด้านนอกแง่งอนใบหน้าจิ้มลิ้มงุ้มงอลงเมื่อถูกดุ แต่เพราะอีกคนเป็นถึงท่านชายมาร์ค สุดท้ายกระต่ายจอมซ่าอย่างคุณแบมจึงทำได้เพียงเม้มปากซ่อนอารมณ์เอาไว้เท่านั้น

    “รออะไร... เข้ามาสิ”

     

    ชิ... ขี้เก๊กชะมัด จำไม่ได้หรือไงว่าเป็นคุณแบมน่ะ!

     

    สุดท้ายก็ได้แต่ค่อนขอดในใจ เพราะยังไงซะก็ต้องเปิดประตูบานใหญ่เข้าไปอยู่ดี ใบหน้าน่ารักยังคงซ่อนความไม่พอใจเอาไว้ไม่ได้ เพราะทันทีที่เปิดประตูเข้ามา สิ่งที่แรกที่ท่านชายทรงทอดเนตรเห็นก็คือใบหน้าหงิกงอของคนน่ารัก ทำไมกันนะ... ทำไมต้องงอนได้น่ารักขนาดนี้ด้วย แล้วแบบนี้ใครจะอดใจไม่แกล้งไหวล่ะคุณแบม

     

    “คะ คุณแบมไม่รู้ว่าคนที่นี่ปฏิบัติตัวยังไง คุณแบมขอโทษครับ” แม้จะบอกว่าขอโทษ แต่ใบหน้าจิ้มลิ้มกลับบูดบึ้งจนคนเป็นพี่มองแล้วยิ้มตามเพราะขำกับท่าทีแง่งอนของคนน้อง ท่านชายมาร์คยังคงปั้นหน้านิ่งอยู่เพื่อแกล้งคุณชายตัวเล็กต่อ ร่างสูงเอนตัวพิงเก้าอี้ราคาแพงก่อนจะยกแขนขึ้นมากอดไว้ที่อกอย่างสง่า พร้อมมองไปที่ร่างเล็กด้วยแววตาเรียบนิ่ง

     

    “...”

     

    เมื่อถูกมองและอีกฝ่ายยังนิ่งอีก นั่นทำให้คุณแบมหลุบตามองเท้าเล็กของตัวเอง สองมือเล็กบีบกันอย่างประหม่า จากที่เคยพยศก็เริ่มหงอยเหมือนแมวตัวน้อย ท่านชายคงโกรธคุณแบมไปแล้ว ซึ่งคุณแบมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกลัวสายตาเย็นชาของอีกฝ่ายขนาดนี้ด้วย

     

    “คะ คือ... ท่านหญิงให้มาเชิญท่านชาย...”

     

    “เรายังไม่ได้ว่าอะไรเลย ทำไมต้องเกร็งขนาดนั้นล่ะคุณแบม” เมื่อได้ยินเสียงขำของอีกฝ่าย ใบหน้าขาวเล็กก็เงยขึ้นมองตรงหน้าพร้อมคิ้วเล็กที่ขมวดชนกัน ท่านชายแกล้งคุณแบมอย่างนั้นเหรอ!

     

    ฮึ้ย!! คนนิสัยไม่ดี!

     

    “ท่านชายแกล้งคุณแบมเหรอกระหม่อม!” ร่างบางเอ่ยถามพร้อมมองคนพี่อย่างแง่งอน ปากบางยู่เข้าหากันช่างยั่วยวนคนมองเสียเหลือเกิน ทั้งสีเชอรี่อวบอิ่ม บอกตามตรงว่าเขาอยากจะจับคนตัวเล็กฟัดจริงๆ

     

    “หึหึ... เราเปล่าแกล้งเสียหน่อย”

     

    “ท่านชายแกล้งคุณแบม”

     

    ^ ᴗ ^ 

     

    ยัง... ยังจะมีหน้ามายิ้มระรื่นอีก ( ˵•`´•)





    - - ต่อตรงนี้ - -




    ร่างเล็กสะบัดหน้าเตรียมเดินหนีอย่างฉุนเฉียว หากแต่ก้าวได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงักลงพร้อมก้มมองฝ่ามือหนาที่คว้าต้นแขนตัวเองเอาไว้อยู่ ดวงตากลมตาจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาเบื้องหน้า สีหน้าบูดบึ้งกับแก้มกลมที่เริ่มเปลี่ยนสีระเรื่อ ไม่แน่ใจว่าเพราะโกรธหรือเพราะอะไรกันแน่ แต่ถ้าเอาให้ชัวร์คงเป็นความรู้สึกของคนเป็นพี่ เพราะตอนนี้ชักอารมณ์ดีเสียออกนอกหน้า

     

    “ปล่อยคุณแบมเลยกระหม่อม ( ˵•`´•)

     

    ทำไมกันนะ ท่านชายนายเรือไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องงอแงได้น่ารักขนาดนี้ ดวงตาเรียวคมจ้องมองร่างนุ่มนิ่มเบื้องหน้าอย่างเอ็นดู เนื้อตัวของคุณชายตัวเล็กนุ่มนิ่มแม้กระทั่งแขนที่ตนคว้าไว้ แม้ว่าอยากจะสัมผัสให้มากกว่านี้แต่ก็ต้องห้ามใจเอาไว้เพราะกลัวแมวตื่น เขาไม่อยากให้คุณแบมจำภาพเขาในมุมเลวร้ายไปหรอกนะ แต่มันยากจริงๆ กับการข่มความต้องการตัวเองเอาไว้

     

    “ไหนบอกท่านแม่ให้มาตามไง ไปพร้อมกับสิคุณแบม” เสียงทุ้มเปล่งออกชวนให้ใจสั่น แต่เพราะคุณแบมกำลังโกรธหรอกนะมันถึงสั่นน่ะ...

     

    “กะ ก็ปล่อยคุณแบมสิ... มาจับแขนคุณแบมทำไมเล่า... ( ˵._.)” ร่างบางเอ่ยเสียงอู้อี้ เพราะกำลังก้มหน้าคางแทบชิดหน้าอก รู้สึกร้อนใบหน้าขึ้นมายังไงก็ไม่รู้ ยิ่งท่านชายไม่ยอมปล่อยมือทั้งยังกำแน่นกว่าเดิมยิ่งทำให้คุณแบมใจสั่นหวั่นไหวเหมือนเล่นคุณรถไฟเหาะเลย

     

    “ที่วังภูวกุลนี่น่าอิจฉาจังเลยนะ” จู่ๆ ท่านชายก็เอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมา ซึ่งทำให้ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมอง และต้องพบว่ามีสายตาคมจ้องมองมาด้วยเสน่หามากแค่ไหน... เพียงแค่คนตัวเล็กไม่เคยเข้าใจความหมายของสายตานั้นเลยเท่านั้น

     

    “วังเทวะฯ ใหญ่กว่าแถมน่าอยู่กว่าวังภูวกุลตั้งมากมาย ท่านชายจะอิจฉาคุณแบมทำไมกัน?”

     

    “จริงเหรอ แล้วคุณแบมอยากอยู่ที่นี่หรือเปล่า”

     

    “... จะทรง ขะ เขยิบมาใกล้คุณแบมทำไม!” เมื่อถูกร่างกายของอีกฝ่ายเบียดเข้าใกล้ ฝ่ามือเล็กข้างที่ว่างก็ดันแผงอกแกร่งของอีกฝ่ายให้ออกห่าง แต่นั่นกลับเป็นเข้าทางของคนเจ้าเล่ห์ สิงห์อากาศหนุ่มใช้จังหวะนี้คว้าฝ่ามือเล็กมากุมไว้ที่อกด้านซ้ายของตัวเอง ส่วนแขนอีกข้างก็ย้ายตำแหน่งมาโอบแผ่นหลังบางเพื่อดันคนตัวเล็กมาเบียดร่างกายตัวเองจนกลายเป็นระยะอันตราย

     

    ยิ่งได้มองใกล้ๆ ยิ่งน่ารัก... น่ารักจนอยากจะแกล้ง

     

    “ตอบเราก่อนสิ... ว่ายังไง อยากมาอยู่กับเราที่นี่ไหม... เราจะได้มั่นใจว่าวังเทวะน่าอยู่จริงๆ...”

     

    ท่านชายมาร์คยื่นหน้าลงไปใกล้คนตัวเล็กที่พยายามเบี่ยงหน้าหนี แก้มกลมใสแดงระเรื่อลามไปจนถึงใบหู แต่เพราะสัดส่วนที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด นั่นทำให้คนว่าที่คุณหมอตัวเล็กทำได้เพียงหลบเลี่ยงไม่ให้ใบหน้าของตนชนกับใบหน้าของร่างสูงเท่านั้น

     

    “ทะ ท่านชายปล่อยคุณแบมนะ”

     

    “ไม่ปล่อย ตอบเรามาก่อนสิ”

     

    “งื้อ!” เมื่อถูกขัดใจ คุณชายตัวเล็กก็ส่งเสียงขู่แง่วๆ ให้คนเป็นพี่อมยิ้ม ร่างกายนุ่มนิ่มสะบัดดุ๊กดิ๊กไปมาหวังว่าจะให้หลุดเพราะแน่ใจแล้วว่าตัวเองขืนตัวสุดกำลังแล้ว แต่เพราะอีกคนเป็นถึงนายทหาร แรงเท่ามดแค่นี้จะไปสู้ยังไงไหว แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งทำให้แรงเสียดสีมันปลุกปั่นอารมณ์ดิบของร่างสูงไปเสียได้

     

    มีร่างนุ่มนิ่มๆ มาส่ายไปส่ายมาแบบนี้ใครจะอดใจไหว

     

    “อืมม... อย่าดิ้นสิคุณแบม” ท่ายชายพยายามข่มเสียงให้เป็นปกติ แม้ว่าตอนนี้กำลังถูกความผิดปกติเข้าจู่โจม

     

    “ท่านชายปล่อยคุณแบมสิ ปล่อยยยย”

     

    แต่ดูเหมือนอีกคนจะยังไม่เข้าใจ

     

    “คุณแบม...”

     

    “...!!

     

    คราวนี้ ร่างกายเล็กถึงกับชาดิกไม่กล้าขยับตัวเมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งซึ่งกำลังดุนดันหน้าท้องของตนอยู่ ใบหน้าหวานร้อนวูบเริ่มลามไปทั้งตัวอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเสียงกระเส่าของท่านชายก่อนหน้ายิ่งเป็นตัวการันตีได้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้มันกำลังเป็นยังไง

     

    เสียงหอบหายใจสลับกันไปมาหากแต่ต่างความรู้สึก กลิ่นกายธรรมชาติหอมละมุนของร่างเล็กเปรียบเสมือนไฟฉนวนเสน่หา มันเป็นเรื่องยากสำหรับท่านชายที่จะปล่อยมือออกจากเหยื่อตัวน้อยไปได้ แต่เมื่อเห็นร่างกายสั่นระริกของคนน่ารักกับอาการวิตกอย่างเห็นได้ชัด เขาก็ต้องยอมคลายร่างนุ่มนิ่มออกไปอย่างอดเสียดายไม่ได้ แต่เพราะไม่อยากให้อีกคนตื่นตกใจไปมากกว่านี้ สำหรับคุณแบม ท่านชายอยากถนอมอีกคนไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

     

    “คราวหลังอย่าดื้อกับเรา... เฮ้อ... รอสักเดี๋ยว ไว้ค่อยลงไปพร้อมกัน”

     

     

    สุดท้าย ลูกแมวตัวน้อยก็ต้องยอมรอลงมาพร้อมท่านชาย กว่าสิบนาทีที่ต้องยืนรอท่านชายนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่ที่เก้าอี้ทรงงานเพื่อสงบสติอารมณ์ คนตัวเล็กต้องยืนเกร็งกัดเล็บด้วยความหวาดระแวงปนกับอาการบางสิ่งที่แทรกแซงด้วยตลอดเวลา หัวใจดวงน้อยเต้นแรงยิ่งกว่าสิ่งใด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพียงแค่อยู่ใกล้ท่านชายมาร์คจะทำให้คุณแบมเกิดความรู้สึกได้มากมายขนาดนี้...

     

    ยิ่งคิดแล้วยิ่งอยากจะแทรกแผ่นดินหนีให้มันรู้แล้วรู้รอด...

     

    “ลงมาแล้วเหรอท่านชาย ทำไมนานจัง นี่แม่จะให้คนไปตามแล้วนะคะ” ท่านหญิงเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นลูกชายกับว่าที่ลูกสะใภ้เดินมาพร้อมกัน ยิ่งได้เห็นใบหน้าน่ารักซึ่งกำลังก้มงุดแบบนั้นยิ่งอดมองด้วยสายตาแพรวพราวไม่ได้ สงสัยลูกชายของเธอจะแกล้งอะไรน้องแน่ๆ ถึงได้หน้าแดงแบบนั้น สงสัยท่าทางงานแต่งคงต้องเลื่อนขึ้นมาให้เร็วเสียแล้วกระมัง

     

    “ไม่มีอะไรหรอกกระหม่อม แค่เล่นสนุกอะไรกันนิดหน่อย” ท่านชายตอบอย่างอารมณ์ดี แต่ก็ถูกค้อนมาหนึ่งฉับจากคนที่ตนกำลังเลื่อนเก้าอี้ให้นั่ง คุณชายตัวเล็กยู่หน้าลงเล็กน้อยแต่ก็ยอมนั่งลงที่เก้าอี้ที่คนเป็นพี่เลื่อนให้ จากนั้นท่านชายมาร์คจึงเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามแทน

     

    บรรยากาศรับประทานอาหารของทั้งสามคนเป็นไปอย่างราบรื่น คุณชายตัวน้อยที่อารมณ์เสียใจตอนแรก แต่พอเจออาหารที่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นของโปรดของตนก็ลืมเรื่องก่อนหน้าไปเสียหมด และใช้เวลาอยู่กับทานอาหารอย่างมีความสุข เรียกสายตาเอ็นดูให้กับคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะว่าที่สามีในอนาคต ที่แทบจะไม่ตักอะไรเข้าปากเลย เพียงแค่ได้มองใบหน้าอิ่มเอมของคนตรงข้าม ก็ทำให้กระเพาะของท่านชายอิ่มสำราญเสียแล้ว

     

    ใช้เวลาไม่นานกับการรับประทานอาหาร เป็นท่านหญิงกับคุณแบมที่พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ส่วนอีกคนก็เพียงแต่นั่งมองอย่างเงียบๆ เท่านั้น ท่านชายมาร์คทรงพอพระทัยที่เห็นมารดาของตนเอ็นดูคุณชายตัวเล็กมากไม่แพ้กัน ซึ่งนี่เป็นข้อดีของคุณแบม เพราะอีกฝ่ายมักมีเสน่ห์บางอย่างในการดึงดูดใครต่อใครให้รักและเอ็นดู ทั้งความใสซื่อ บริสุทธิ์ และความน่ารักที่มีมากน่าหลงใหล

     

    จนอยากจะเก็บไว้แต่เพียงผู้เดียว...

     

     

     

     

     

    เกือบอาทิตย์แล้วหลังจากที่คุณแบมไปรับประทานอาหารที่วังเทวะโรจนหิรัญ เป็นภาพปกติเสียแล้วกับการที่ต้องเห็นชายในชุดเครื่องแบบนั่งรถคันหรูมาจอดรอรับส่งว่าที่คุณชายหมอตัวเล็กที่ตึกคณะแพทยศาสตร์ เป็นที่กล่าวถึงกันหนาหูจนเริ่มซาลงเพราะกาลเวลา แต่ก็ยังไม่หมดไป กับข่าวลือที่ว่าจะมีการเกี่ยวสัมพันธ์กันของสองราชวงศ์สูงศักดิ์ในอีกไม่กี่วันที่จะมาถึงนี้

     

    ข่าวว่างานแต่งจะถูกจัดขึ้นในอีกไม่ถึงสองอาทิตย์ ซึ่งความจริงก็เป็นไปอย่างที่ทุกคนเล่าลือกัน อีกไม่ถึงสองอาทิตย์หม่อมเจ้าชายมกรธวัชก็จะได้ครอบครองว่าที่คุณชายหมอแห่งวังภูวกุล ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งคู่เองก็ก้าวหน้าไปอีกขั้น จากสรรพนามที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลาและความสนิทที่คุณชายตัวเล็กเริ่มจะเปิดใจมองข้อดีของท่านชายมากขึ้นเช่นกัน

     

    “ไม่เป็นไรค่ะ... พี่รอได้” เสียงทุ้มเป็นเอกลักษณ์กล่าวผ่านสายโทรศัพท์เครื่องหรูไปอย่างอ่อนโยน ทำให้คนที่แอบมองพระพักตร์อยู่อดหน้าแดงไปตามๆ กัน เช่นเดียวกับคนที่กำลังเป็นสายคู่สนทนาของร่างสูง ซึ่งไม่เคยชินกับคำพูดคะขาของอีกฝ่ายเลย

     

    “คะ คุณแบมไม่รู้ว่าจะทำนานขนาดไหน พี่ชายมาร์คกลับไปก่อนเถอะครับ เดี๋ยวคุณแบมให้คิมไปส่ง”

     

    “หมอนั่นเป็นใคร...” เสียงเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งและแข็งกระด้างเสียจนคนฟังแอบสะดุ้ง จู่ๆ ท่านชายมาร์คก็เปลี่ยนไปเพียงแค่คุณแบมเอ่ยถึงเพื่อนสนิทที่งานกลุ่มด้วยกัน ซึ่งมันก็เป็นความจริง คิ้วหนากำลังขมวดชนกันเป็นปมเมื่อเสียงใสที่เขาหลงใหลเสมอเวลาได้ยินกำลังเอ่ยถึงชายอื่น ความคุกรุ่นในใจแผดเผาเขาอย่างฉับพลัน

     

    คงเป็นอีกสิ่งที่คุณแบมต้องเตรียมรับมือ... ท่านชายมาร์คเป็นคนขี้หวงเสียยิ่งกระไร

     

    “พะ เพื่อนคุณแบมเอง... แค่นี้ทำไมต้องดุด้วยเล่า! ประโยคหลังได้แต่พึมพำเบาๆ แต่อีกฝ่ายกลับหูดีได้ยิน หากเป็นเวลาอื่นท่านชายมาร์คคงจะขำกับความน่ารักน่าชังนี้ไปแล้ว แต่มันไม่ใช่กับเวลานี้ เวลาที่ความหึงหวงมันนำหน้าสิ่งใด

     

    “ตอนนี้คุณแบมอยู่ที่ไหนคะ เดี๋ยวพี่จะไปหา”

     

    “เห... พะ พี่ชายมาร์คจะมาหาคุณแบมทำไม” คุณชายตัวเล็กทำเสียงแปลกใจทันทีเมื่อได้ยินคนพี่พูดแบบนั้น

     

    “พี่จะอยู่รอไงคะ รีบบอกมา และก็ห้ามดื้อด้วยนะคุณแบม”

     

    ดื้อ อีกนัยที่ท่านชายจงใจสื่อคือห้ามคุณแบมปฏิเสธความต้องการของตน ซึ่งคุณชายตัวเล็กรู้ดี เพราะแบบนั้นถึงได้ทำเสียงฮึขัดใจแต่ก็ยอมทำตามที่ร่างสูงบอกอยู่ดี ท่านชายมาร์คน่ะเป็นคนเผด็จการจะตาย ชอบมาว่าคุณแบมดื้อ แต่ท่านชายนั่นแหละที่เอาแต่ใจ คุณแบมล่ะโมโหจริงๆ ( ˵•`´•)

     

    “จะไปไหนล่ะคุณแบม งานยังไม่เสร็จเลยนะ” เพื่อนสนิทซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเอ่ยทักคุณชายตัวเล็ก เมื่อจู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืนเตรียมไปที่ไหนสักที่ ทั้งที่ปากก็ยังขมุบขมิบบ่นอะไรสักอย่าง มันชวนให้บีบจริงๆ ปากสีเชอรี่นั่นน่ะ

     

    และจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก คิม หรือ หม่อมหลวงคิมหันต์ กิตติธนากุล เพื่อนสนิทคนเดียวของคุณชายตัวเล็กซึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออด แต่ถึงแม้ไม่ต้องบอกตนก็พอจะรู้ว่าก่อนหน้านี้เพื่อนตัวเล็กคุยสายกับใคร หากจำไม่ผิดคงกำลังจะถูกดุอยู่... คิมเป็นคนฉลาด เขาอ่านเรื่องราวตรงหน้าออกอย่างฉะฉาน และพอจะรู้ว่าสถานการณ์มันเป็นยังไง

     

    “คือ... พี่ชาย... เอ่อ... ท่านชายจะมารอคุณแบมที่นี่ จะเป็นอะไรหรือเปล่า”

     

    นั่นไง... อ่านผิดเสียที่ไหน... ดูเหมือนกำลังหึงได้ที่เลยสินะท่านชายมาร์ค

     

    “อื้ม... ไม่เป็นไร” ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม เพราะรู้สึกขำกับท่าทีเด็กๆ ของอีกคนเสียเหลือเกิน... ท่านชายมาร์คเนี่ยนะ เป็นถึงสิงห์อากาศน่าเกรงขาม แต่กลับมาตกม้าตายหลุดฟอร์มเป็นเด็กเพียงเพราะเพื่อนตัวเล็กของเขา... เห็นทีเรื่องนี้คงต้องถึงหูหมอนั่นเสียหน่อย

     

    คงหมดความน่าเกรงขามแล้วกระมังสิงห์ตนนี้...








    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ mark tuanผลการค้นหารูปภาพสำหรับ bambam got7
    Image result for kim yugyeom



    ท่านใจต้องใจเย็นๆ นะ 
    ตอนนี้เขินแทนคุณแบมมากเลยง่ะ 555
    ช่วงนี้ช่วงสอบ อาจจะมาช้าหน่อย
    แต่จะพยายามมานะคะ LOVE

    1/10/59

    #สุภาพบุรุษมบ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×