ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] [Mpreg] Royal Gentlemen #สุภาพบุรุษมบ (MarkBam)

    ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 16 ❁ ปัญหาที่หนึ่ง 100% ❁

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 63


    ตอนที่ 16

    JYP คอนเฟิร์ม นิชคุณ '2PM' เตรียมลุยงานรายการวาไรตี้ช่วงครึ่งปี ...
    หม่อมราชวงศ์นิชคุณ 



    ยุ่งยากกว่าที่คิดไว้เยอะแฮะ

    เชื่อเถอะว่าคนกลางอย่างคิมกำลังลำบากใจสุด ๆ ไม่คิดเลยว่าการที่เจ้าเพื่อนสนิทของเขาเกิดมาน่ารักมันจะกลายเป็นดาบสามสี่คมขนาดนี้ ทั้งที่อากาศก็เย็นสบายดีแต่ไม่รู้ทำไม๊ภายในซุ้มเวชศาสตร์ฉุกเฉินมันถึงร้อนรุ่มแปลก ๆ

    ร้อนมาจากดวงตาคมของท่านชายมาร์คอย่างไรล่ะ

    “อาการแบบนี้ต้องแยกอาการ คนไข้รายไหนรุนแรงต้องรีบแยกออกไป เพราะภายในห้องฉุกเฉินมีจำนวนบุคลากรจำกัด”

    “...”

    “แบบคนไข้คนนี้ไม่รุนแรง การกรองคนไข้เป็นเรื่องสำคัญ นักศึกษาช่วยอาจารย์หยิบผ้าพันแผลหน่อยครับ”

    นักศึกษายืนรวมกันตั้งหกคน แต่สายตาจงใจมองไปยังเจ้าตัวเล็กนั่นคืออะไร คิมอยากจะเบ้ปากใส่สักทีแต่อีกฝ่ายเป็นอาจารย์อย่างไรเลยทำไม่ได้ ส่วนเจ้าเพื่อนตัวยุ่งของตนหรือ ยิ่งได้เหมือนปฏิบัติจริงยิ่งกระตือรือร้นที่จะช่วยทันที

    คนไข้รายแรกเป็นผู้หญิงวัยกลางคน เกิดอุบัติเหตุตกบันไดทำให้หัวหัวเข่าและข้อศอกถลอก คุณชายคุณคอยอธิบายขั้นตอนต่าง ๆ ให้แก่นักศึกษาประจำซุ้มเป็นอย่างดี คุณแบมจำพี่ชายคนนี้ได้เพราะเคยเจอในงานเลี้ยงเมื่อตอนนั้น ยอมรับเลยว่าเจออีกฝ่ายตอนแรกคุณแบมถึงกลับเหวอไปเลย แต่ต่อจากนั้นก็รู้สึกเบาใจเพราะคุณหมอคุณใจดี

    ตัวแสบของคิมจะรู้ไหมว่าอย่าได้ทำตัวสนิทสนมกับคุณหมอคนนั้นนักเลย

    “อะแฮ่ม! ผมอยากช่วยด้วย ให้ผมช่วยด้วยนะครับ” คิมเอ่ยขัดบรรยากาศแปลก ๆ นั่นขึ้น เพราะไม่อยากให้เกิดภัยพิบัติคลื่นลูกใหญ่ ทำไมกันนะทำไม คิมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมท่านชายผู้นั้นถึงไม่ไปพักผ่อน ยืนทำหน้ายักษ์มองอยู่ไกล ๆ แบบนั้นรู้ไหมคนตาดีแบบคิมเสียวสันหลัง

    คิมเดินเข้ามาแทรกกลางระหว่างสองคน คุณชายแบมแบมทำหน้างงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

    “ไม่เสียวสันหลังบ้างเหรอคุณแบม” อดไม่ได้ที่จะกระซิบเตือนเจ้าคนไม่รู้เรื่องสักหน่อย

    “ก็ไม่นะ ทำไมอ่ะ”

    “จริงดิ...”

    หม่อมหลวงคิมเกาหัวจนปัญญา และเหลือบมองไอขมุกขมัวที่เต็นท์รับรอง อื้อหือ ชัดเจนขนาดนั้นยังมองไม่เห็นอีกนะคุณแบม ระเบิดจะลงเมืองวารีหรือเปล่าเนี่ย

    “นักศึกษา เช็คประวัติคนไข้แล้วรายงานหมอด้วยครับ”

    แฟ้มเอกสารถูกยื่นมาให้ร่างเล็กของคุณแบม ซึ่งอีกคนก็หยิบขึ้นมาอย่างไม่ลังเล อะไรที่สามารถเป็นความรู้ได้คุณแบมล้วนแล้วแต่ยินดี ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงคุณแบมเท่านั้นที่ได้แฟ้มประวัติคนไข้ นักศึกษาอีกห้าคนก็ได้ เพียงแต่ไม่ได้จากมือคุณหมอคุณเช่นคุณแบมเท่านั้น

    ออกหน้าขนาดนี้ คิมไม่สนละ ให้ท่านชายจัดการสักทีจะได้รู้ซึ้ง

    ผ่านไปจนจบวัน เนื่องจากเริ่มเปิดค่ายก็ตอนเที่ยง วันแรกจึงทำกิจกรรมเพียงครึ่งวัน คุณแบมกับหม่อมหลวงคิมพากันเดินคู่ไปรับประทานอาหารที่ถูกจัดไว้ เพราะคืนนี้อาจมีเหตุฉุกเฉินมีคนไข้มากลางดึก ต้องรีบทานอาหารให้เพียงพอ แถมชาวเมืองยังจัดอาหารเตรียมไว้ให้ด้วย

    วันนี้คุณแบมจะได้กินกุ้ง คนที่หลงรักอาการทุกชนนิดอย่างคุณแบมหรือจะไม่ยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง

    “ยังจะยิ้มหน้าระรื่นอีกนะคุณชาย” หม่อมคิมอดไม่ได้ที่จะแขวะเพื่อนอย่างหมั่นไส้

    “เหนื่อยมาทั้งวัน คุณแบมจะกินให้หมดครัว!

    เชื่ออย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ต้องทำหน้าขึงขังมุ่งมั่นขนาดนั้นหรอก

    “แต่ก่อนจะกินน่ะ เคลียร์กับสามีตัวเองให้เสร็จก่อนเถอะ”

    “เคลียร์ทำไมอ่ะ ไม่เห็นมีอะไรให้เคลียร์เลย” ใบหน้าหวานของคุณแบมหงิกลงทันทีเมื่อพูดถึงบุคคลที่สาม

    เพราะทุ่มเทกับการศึกษาดูงานเสียจนลืมสนิทว่าก่อนหน้านี้มีเรื่องกวนใจตนอยู่ ภรรยาตัวน้อยของท่านชายเสตามองรอบตัวทันทีเมื่อนึกได้ แต่จุดทานอาหารกลับไม่มีร่างสูงใหญ่ที่คุ้นตา สงสัยอยู่เรือนรับรองละมั้ง

    “มองหาใครอ่ะ”

    เสียงของเพื่อนทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งตัวโยน หม่อมหลวงคิมหรี่ตาคล้ายจับผิดจนทำเอาเจ้าตัวลุกลี้ลุกลนไม่เนียนเอาเสียเลย

    “ไม่ได้มองซะหน่อย ไปกันสักทีคุณแบมหิว!!

    โมโหทีไรอ้างหิวตลอด

    เอ... หรือคุณชายคนนี้หิวได้ตลอดเวลาอยู่แล้วกันแน่??

     

    “อาจารย์คุณนี้จิตใจดีมีเมตตาจริง ๆ เนอะคิม”

    จ้า... เอาที่คุณแบมสบายใจเถอะ

    คุณชายคนเล็กแห่งวังภูวกุลกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความสุข ก็จะอะไรซะอีก แค่คุณชายหมอคนนั้นเอากุ้งเผาที่แกะเปลือกออกจนหมดมาให้ก็ยิ้มหน้าระรื่นปากนี่แทบจะฉีกถึงรูหู ชมอีกฝ่ายให้เพื่อนสนิทฟังไม่ขาด ส่วนคนที่นำกุ้งมาเสิร์ฟให้ก็นั่งอยู่ตรงข้ามนี้เอง ไม่รู้จะลำเอียงไปไหน

    “กินกุ้งมาก ๆ เดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก” อดไม่ได้ที่จะเอ็ดจริง ๆ ท่านชายมาร์คเลี้ยงเมียอย่างไรให้ดูน่าสงสารเหมือนคนอดข้าวมาแรมปีเช่นนี้

    จะว่าไปแล้วก็ไม่เห็นท่านชายมาร์คเลยตั้งแต่ตอนเย็น นี่ก็ตะวันตกดินแล้วไม่เห็นท่านชายผู้นั้นแม้แต่เงา ไม่ใช่งอนเมียหนีกลับเมืองหลวงไปแล้วหรือ หม่อมหลวงคิมได้แต่คิดในใจ ก่อนจะเบนสายตามามองเจ้าจอมเขมือบที่ยังคงหยิบหัวกุ้งมาทานต่อ นี่ดีนะยังสงวนท่าทีกินอย่างสุภาพชนสมกับเป็นราชนิกุลหน่อย

    “อยากทานอะไรเพิ่มไหมตัวเล็ก”

    “ไม่แล้วครับ ขอบคุณอาจารย์คุณมาก ๆ เลยนะครับที่แกะกุ้งให้”

    “ไม่เป็นไร ชอบ ก็ทานเยอะ ๆ”

    “แค่ก ๆ ขอน้ำ ๆ”

    หม่อมหลวงตัวโตไอคอกแคก จงใจขัดคนทั้งคู่ หนึ่งคือเขารู้สึกหมั่นไส้คุณชายหมอผู้เสียเหลือเกิน รู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจว่าคุณแบมน่ะไม่ได้โสดแล้ว ยังมาเตาะเด็กน้อยที่ไม่รู้ทันคนอีก ขืนหม่อมคิมปล่อยไปเรื่อย ๆ คุณแบมคงถูกครหาหนักแน่ เพราะสามีตัวเองก็มาด้วย ยังจะมาถูกคุณหมอคนนี้เทคแคร์จนเกินหน้าเกินตา ลำพังแค่เจ้ากุ้งกองโตนั่นก็เกินทนแล้ว

    คุณชายหมอที่รู้ใจเจตนาของเด็กตัวสูงที่นั่งข้างคนน่ารักก็ได้เพียงถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ เจ้าเด็กคนนี้จงใจขัดตนมาทั้งวันทำไมจะไม่รู้ อย่างเช่นตอนนี้ แทนที่คุณแบมจะสนใจเขาคนตัวเล็กก็ต้องรีบหยิบน้ำยื่นให้เพื่อนด้วยสีหน้าวิตก พลางลูบแผ่นหลังของเจ้าเด็กโข่งนั้นอีก

    “เป็นยังไงบ้างคิม หายใจเข้าลึก ๆ นะ”

    คนตัวเล็กเป็นห่วงเพื่อนจนเพื่อนที่แสร้งสร้างเรื่องขึ้นมายิ้มกระหยิ่มในใจ เพราะอย่างน้อยก็สามารถขัดบรรยากาศหวานชื่นนั่นได้ล่ะนะ ท่านชายมาร์คก็รีบโผล่มาสักที เมียจะโดนคาบไปกินอยู่แล้วเนี่ย

    “ขอบใจนะคุณแบม คิมดีขึ้นแล้ว”

    “ระวังหน่อยสิ ว่าแต่คุณแบม ตัวคิมเองนั่นแหละทำไมสำลักขึ้นมาได้”

    “แหะ ๆ” หม่อมหลวงคิมยิ้มแหย เมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ คุณแบมก็หันมาสนใจอาหารตรงหน้าตน ที่นอกจากกุ้งกองโตแล้วยังมีอาหารทะเลอื่น ๆ อีก คุณแบมตั้งใจว่าทานหมดนี่จะต่อด้วยขนมหวานพื้นเมืองที่ชาวบ้านนำมาให้เหล่านักศึกษาแพทย์จึงจะกลับไปยังห้องพักเสียที

    หากท้องไส้กลับไม่เป็นใจ จู่ ๆ สิ่งที่คิมเตือนมันเริ่มจะสำแดงผลเสียแล้ว

    “อะ โอ้ย”

    มือน้อยกุมที่ท้องเมื่ออาการเจ็บแปร๊บแล่นเข้ามา ทำให้ผู้ชายตัวโตสองคนถลาเข้าไปดูทันที หน้าสวยบิดเกร็งเพราะความเจ็บ หม่อมหลวงคิมเป็นคนถึงตัวคนตัวเล็กก่อน

    “คุณแบมเป็นอะไร ปวดท้องเหรอ” ว่าที่คุณหมอตัวสูงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

    “อะ อื้อ คะ คิม คุณแบมปวดท้องมากเลย” คนตัวเล็กกล่าวอย่างน่าสงสาร

    “มานี่ เดี๋ยวผมจะพาไปที่ซุ้ม” อาจารย์หนุ่มเอ่ยขึ้น สีหน้ากังวลไม่ต่างอะไรจากตัวเพื่อนสนิทของคนตัวเล็ก ด้วยเพราะรู้สึกผิดเพราะต้นเหตุอาจเกิดมาจากตน กุ้งที่คุณแบมทานไปอาจมีบางตัวที่ไม่สะอาด คนตัวเล็กถึงได้เกิดอาการแบบนี้ขึ้น

    “ไม่เป็นไรครับอาจารย์ เดี๋ยวผมพาคุณแบมไปเอง” หม่อมหลวงคิมเอ่ยปฏิเสธอย่างชัดเจน และไม่รีรอเวลา เหล่านักศึกษาที่นั่งอยู่ไม่ไกลเริ่มมามุงดูว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว ขืนมุงกันมากกว่านี้คุณแบมคงเป็นลมไปแน่ ๆ เพราะแบบนั้นคิมจึงอุ้มร่างเล็กของเพื่อนสนิทขึ้นมา

    คุณชายคุณขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะขัดใจที่เด็กคนนั้นขัดตน แต่เพราะความปลอดภัยของคนตัวเล็กเขาจึงยอมถอยให้ และเดินตามร่างสูงของหม่อมหลวงคิมไปยังเต็นท์ที่ตนดูแล จากอาการของคุณแบมแล้วคงจะเกิดจากการทานกุ้งเกินขนาดและความไม่สะอาดของกุ้งจึงทำให้กระเพาะปรับตัวไม่ทัน

    ร่างเล็กถูกพามานอนเตียงคนไข้แบบชั่วคราวที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้นมา โดยมีหม่อมหลวงเพื่อนสนิทมองดูไม่ห่าง คุณชายคุณสั่งให้นักศึกษาแพทย์ถอยออกไปเพื่อที่จะดูอาการ แม้จะไม่ค่อยเต็มใจนักแต่คิมทำอะไรไม่ได้จึงยอมปล่อย

    พรึบ!!

    ฝ่ามือของคุณชายคุณถูกกระชากออกอย่างแรงด้วยน้ำมือของใครคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้คุณชายหมอกำลังจะเลิกชายเสื้อของคนตัวเล็กขึ้นหวังเช็คเบื้องต้น หากไม่ถูกมือของเจ้าของใบหน้าคมคายนั่นกระชากออกเสียก่อน

    คล้ายมีเงาทะมึนเกิดขึ้นที่ซุ้มแห่งนี้เสียแล้ว ใครมันเบิกตัวพระเอกให้ออกมาเวลานี้เนี่ย

    อย่าให้คิมรู้เชียวนะ -*-









    “อย่าล้ำเส้นพี่ชายคุณ คุณแบมไม่ใช่เขา และเราก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับคนของเรา”

    สุรเสียงทุ้มเย็นยะเยือกดังขลับเสียงลมหายใจของบุคคลทั้งสี่ หนึ่งผู้คือคนป่วยที่ยังนอนโอดอวนอยู่ที่เตียง ส่วนอีกหนึ่งคือบุคคลที่อยากจะหนีออกไปจากซุ้มมากที่สุด หม่อมหลวงคิมนั้นไม่อาจจะคาดเดาเหตุการณ์ตรงหน้าได้เลย เพียงได้แต่คิดในใจว่าทั้งวันทำไมไม่โผล่มา พอจะโผล่มาก็ดับเป็นสถานการณ์แบบนี้เสียได้

    ส่วนประโยคความนัยน์ที่คล้ายจะรู้เพียงกันอยู่สองคนนั้นล่ะคืออะไรกันแน่

    “กระหม่อมเป็นหมอ เพียงต้องการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์เท่านั้น อย่างทรงกังวล” คุณชายคุณเอ่ยอย่างใจเย็น หากแต่ก่อนหน้านัยน์ตาคู่นั้นกลับสั่นไหวกับสิ่งที่ท่านชายเอ่ย

    “ไม่จำเป็น ท่านหญิง โปรดช่วยดู ภรรยาของเราด้วย”

    ท่านชายกล่าวทั้งที่ดวงเนตรยังจับจ้องไปที่คุณชายหมอตรงหน้าอย่างไม่วางตา หากสามารถมองเห็นสายตาผ่านดวงตาของทั้งสองคนคงไม่ต่างอะไรจากในการ์ตูน ท่านหญิงคนงามที่หลบซ้อนอยู่เบื้องหลังเดินแทรกไปหาคนตัวเล็กหลังจากที่ท่านชายกล่าวเสร็จเช่นกัน

    เพราะอย่างนั้นคุณชายคุณจึงยอยถอยออกมาเงียบ ๆ แต่ก็ยังคงเฝ้ามองอาการของคุณแบมอยู่อย่างเป็นห่วง นั่นเพราะคนมีชนักติดหลังเนื่องจากเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด

    “ออกไปรอข้างนอกเลยนะทั้งสามคน เราอยากได้ความสงบที่นี่” ท่านหญิงกล่าววาจาสิทธิ์ของท่านหญิงนั้นเปรียบดังคำขาด ชายหนุ่มร่างสูงทั้งสามคนจำต้องออกไปจากซุ้มอย่างเลี่ยงไม่ได้ หม่อมหลวงคิมเองนั้นอยากจะกลับไปยังห้องพักแต่ก็ไม่อาจทิ้งให้คนอายุเยอะกว่าทั้งสองคนอยู่กันตามลำพัง ด้วยกลัวจะเกิดเหตุวิวาทขึ้น

    คุณชายคุณเป็นคนที่เหมือนมีเรื่องจะพูด คุณชายหมอมองไปยังท่านชายมาร์คด้วยสายตาที่สับสน ส่วนท่านชายเองก็ยังคงสีหน้าเรียบนิ่ง หากแฝงไปด้วยความไม่พอใจไว้ด้วยเช่นกัน ในใจของสิงห์อากาศหนุ่มนั้นราวกับไฟสุมอก ตั้งแต่ตอนเที่ยงหากไม่ถูกท่านหญิงโชอาห้ามไว้คงได้อาละวาดไปแล้ว แล้วนี่อีก เพียงหายไปทำธุระกับกองทหารที่ร่วมค่ายด้วยเท่านั้น กลับมายังทราบว่าคุณแบมถูกหามมายังซุ้มฉุกเฉิน ไม่รู้ว่าควรโกรธคนของตัวเองหรือคนที่มายุ่งกับน้องกันแน่

    “เราไม่คิดเลยนะว่าหม่อมราชวงศ์นิชคุณนิยมชมชอบการตีท้ายครัวคนอื่น” วาจาเรียบนิ่งหากแต่บาดใจคนฟังยิ่งนัก คุณชายคุณขมวดคิ้วลงฉับเมื่อได้ยิน

    “ท่านชาย มันไม่ได้เป็นอย่างที่ทรงคิดเลยนะกระหม่อม”

    “งั้นก็อย่ายุ่งกับคุณแบมอีก คุณแบมเป็นภรรยาของเราพี่ชายคุณย่อมรู้”

    “...”

    “ให้เรายินดีกับสิ่งที่พี่ชายคุณทำนั้นเราทำไม่ได้หรอกนะ อย่าเอาคุณแบมไปเป็นตัวแทนของใคร”

    ท่านชายจ้องมองอีกฝ่ายด้วยตาวาวโรจน์ เป็นคุณชายคุณที่หลบสายตาคู่นั้น เขายอมรับว่าคุณแบมทำให้เขาระลึกถึง คนผู้นั้นหากแต่ก็ไม่ได้ขาดสติพอที่จะทำเรื่องอัปยศ เพียงแค่เอ็นดูอีกฝ่ายคล้ายน้องชาย ซึ่งการกระทำของตนคงจะล้ำเส้นมากไปอย่างที่ท่านชายว่า

    เมื่อคิดได้แบบนั้นคุณชายจึงแสดงสีหน้าถอดใจออกมาอย่างคนปลงตก เขาไม่ได้ผิดหวังที่ไม่ได้สานต่อความสัมพันธ์ในเชิงนั้นกับคุณแบมอย่างที่คนอื่นเข้าใจ ถึงแม้คุณแบมจะคล้ายกับเขาผู้นั้นแต่ก็ไม่มีทางแทนกันได้ แต่ตนคงโลภมากอยากอยู่ใกล้คนตัวเล็กเพื่อคลายความคิดถึงของตัวเองไม่ได้ คราวนี้คงต้องหักห้ามใจเสียแล้ว 

    “กระหม่อมเข้าใจแล้ว ประทานอภัยต่อความโง่เขลาของกระหม่อมด้วย”

    “...”

    “แต่ถึงอย่างไรครั้งนี้ก็เป็นความผิดของกระหม่อมเอง อย่าทรงโกรธเคืองคุณแบมเลยนะท่านชาย”

    “เรื่องนั้นเราตัดสินใจเอง หวังว่าพี่ชายคุณคงรักษาคำพูด”

    ท่านชายเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเลี่ยงเดินเข้าไปในซุ้มที่มีคนตัวเล็กอยู่โดยไม่สนสิ่งที่ท่านหญิงสั่งเอาไว้ เดิมทีที่ยอมออกมานั้นหาใช่เกรงกลัวคำสั่งของเพื่อนสาว แต่เพราะอยากออกมาพูดกับคุณชายผู้นั้นให้เข้าใจ ส่วนหม่อมหลวงคิมเป็นเพียงผู้เดียวที่ไม่รู้เบื้องลึกหนาบางของคนทั้งคู่ก็ได้แต่มองตาปริบ ๆ เพราะไม่อาจเดาเอาเองได้ ซึ่งสีหน้าเจ็บปวดของคุณชายคุณนี่สิ จะสงสารหรือสมเพชดีก็ไม่รู้

    ท่านชายมาร์คเดินเข้ามายังซุ้มผู้ป่วยที่ยามนี้ไร้คน มีเพียงร่างของภรรยาตนเท่านั้นที่อยู่ด้านในโดยมีคุณหมอโชอาเฝ้าดูอาการ ใบหน้าซีดเซียวของคุณแบมช่างน่าสงสาร ปรางที่เคยอมชมพูระเรื่อของน้องยามนี้ขาดสีไปหมด ท่านหญิงเปรยตามองสามีของคนตัวเล็กเพียงเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจให้กับความดื้อด้านของเพื่อนตัวเอง แต่เอาเถอะ ก็ยังดีกว่ามายืนทำหน้ายักษ์รบกวนสมาธิเธอก็แล้วกัน

    “น่าจะกรดในกระเพาะมากเกินไป รวมถึงกุ้งไม่สุกดีเลยทำให้ปวดท้อง เมื่อกี้พึ่งอาเจียนออกไปเยอะพอสมควร เราให้ยาแล้ว คงต้องให้พัก”

    “ขอบใจ”

    “นี่ท่านชาย... เราพูดในฐานะเพื่อนนะ เด็กคนนี้ไม่ได้ผิดอะไรเลย แค่คนไม่รู้เรื่องและมองโลกในแง่ดีเท่านั้น อย่าใจร้ายกับเจ้าแก้มบวมนักล่ะ”

    ท่านหญิงกล่าวจบก็เดินออกจากซุ้มไป ปล่อยให้ท่านชายได้ดูแลภรรยาตัวน้อยลำพัง ท่านชายทิ้งกายนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง ส่งมือไปลูบแก้มซีดขาดสีของน้องอย่างห่วงหาอาทร ท่านชายไม่ได้โกรธอะไรอีกคนหรอก เพียงแต่น้อยใจเท่านั้น น้อยใจที่น้องละเลยความรู้สึกของเขาเข้าใกล้ชายอื่น หากแต่คิดตามท่านหญิงโชอาก็คลายอารมณ์ลงบ้าง คุณแบมเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง วังภูวกุลเลี้ยงดูมาด้วยความรักทำให้มองโลกในแง่ดี และสิ่งที่น้องทำก็เป็นเพียงคนไฝ่เรียนคนหนึ่งเท่านั้น หากจะโทษคงต้องโทษความใจแคบของเขา น้องไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลยเขารู้

    ส่วนเรื่องที่พาตัวเองมาป่วยนี่ รอให้หายป่วยก่อนคงต้องทำโทษให้งดของหวานไปเลยหนึ่งอาทิตย์

     

    คุณแบมหลับไปเกือบสี่ชั่วโมงโดยมีสามีนั่งเฝ้าไม่ห่างหาย เปลือกตาสีอ่อนค่อย ๆ เปิดขึ้น ความมืดมิดรอบกายทำให้กายน้อยสั่นไหวด้วยความกลัว หากแต่สัมผัสอบอุ่นที่ฝ่ามือกลับเรียกกำลังใจขึ้นมาได้

    ท่านชายมาร์คนั่งหลับตาอยู่ข้างกาย ใบหน้าหล่อเหลาเคล้าเสน่ห์บัดนี้กลับเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ความรู้สึกผิดกำลังถาโถมเข้ามายังคนตัวเล็ก ทั้งที่พี่ชายมาร์คนั้นทรงงานอย่างหนัก แต่ต้องมานั่งเฝ้าตนที่รนหาเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน

    “ตื่นแล้วเหรอคะ”

    “...”

    เสียงนั่นดังมาจากคนที่คุณแบมคิดว่าหลับอยู่ ท่านชายลืมตาขึ้นมาจ้องไปยังภรรยาตัวน้อยที่บัดนี้ตื่นขึ้นมามองเขาตาใส ระคนเศร้าสร้อย ใจแกร่งอ่อนเหลวคล้ายดังธารธารา แต่ต้องสะกดกลั้นความรู้สึกเอาไว้เพราะต้องการให้บทเรียนกับคนตัวเล็กบ้าง

    “คุณแบมรู้ไหมว่าทำอะไรผิด” ท่านชายเลือกถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่ต่างจากใบหน้า ทำเอาคนตัวเล็กน้ำตาคลอ ทั้งที่แต่ก่อนก็ถูกเรียกว่าคุณแบมมาตลอด หากแต่พอถูกอีกฝ่ายเรียกมันกลับบาดใจคนฟังยิ่งกว่าอะไร

    คุณแบมถูกโกรธจริง ๆ เสียแล้ว

    “คุณแบมขอโทษที่ตะกละ ทำให้พี่ชายมาร์คเป็นห่วง” น้องตอบด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง

    “ไม่ใช่แค่เรื่องนั้นค่ะ นึกให้ดีดี”

    “...”

    คุณชายตัวเล็กชะงักและพยายามนึกคิดสิ่งผิดพลาดที่ตัวเองทำผิดไป นอกจากเรื่องที่ทำให้อีกฝ่ายเป็นห่วงแล้ว ตนก็นึกย้อนกลับไปทั้งวันทันที คุณแบมก็ออกกิจกรรมในซุ้มปกติก่อนจะนั่งทานอาหารกับคิมและอาจารย์คุณ... อาจารย์คุณเหรอ...

    ราวกับโดนของหนักทุบหัวเมื่อนึกย้อนสิ่งที่ตนกระทำลงไป คุณแบมช้อนตามองคนพี่ราวกับออดอ้อน วันนี้คุณแบมเผลอทำตัวไม่น่ารักโดยที่ไม่รู้ตัวอีกแล้ว ทำไมถึงกลายเป็นเด็กไม่ดีแบบนี้ เขาละเลยความรู้สึกของสามีอย่างไม่น่าให้อภัย ให้ความโกรธเพียงเล็กน้อยกัดกินและหลงลืมใส่ใจอีกคน

    คุณแบมเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว

    “คุณแบมไม่ชอบให้พี่ยุ่งกับคนอื่น พี่ก็ไม่ชอบเหมือนกัน เข้าใจพี่ไหมคะ” ท่านชายกล่าวถาม

    “คุณแบมขอโทษ... คุณแบมคิดน้อยเกินไป”

    “ใช่ค่ะ ถึงแม้คุณแบมจะไม่ได้คิดอะไรกับคุณชายคุณ แต่พี่ก็ไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น”

    “...”

    “กลับกัน ถ้าพี่ทำบ้างคุณแบมจะรู้สึกอย่างไร”

    “...”

    หยดน้ำไหลออกจากตากลมสุดแล้วจะกลั้น คุณแบมปวดหนึบในหัวใจเพียงแค่นึกภาพท่านชายกระทำเช่นตน คุณแบมยิ้มและทำท่าทางสนิทสนมกับชายอื่นต่อหน้าพี่ชายมาร์ค ถึงแม้เขาจะไม่ได้คิดสิ่งใดนอกเสียจากเห็นว่าอาจารย์คุณเป็นคนดีเหมือนกับพี่ชายผู้หนึ่ง แต่กับสามีตนคงไม่คิดแบบนั้น หากคุณแบมใส่ใจความรู้สึกพี่ชายมาร์คมากกว่านี้คงไม่ทำให้พระองค์เจ็บปวดใจ

    มือที่กอบกุมมือน้อยคลายออกยิ่งทำให้น้ำตาของคนตัวเล็กไหลรินจนได้ยินเสียงสะอื้น หากแต่ไม่นานฝ่าพระหัตถ์นั้นก็สัมผัสลงที่ข้างแก้มใสของภรรยา เช็ดคราบหยาดน้ำตาในดวงเนตรอย่างแผ่วเบา

    “ตอนนั้นพี่ก็รู้สึกไม่ต่างกัน แต่คนดีของพี่จะไม่มีวันรู้สึกอย่างนั้นแน่นอน”

    “ฮึก...”

    “อย่าร้องเลยนะคนดี”








    ----100%---

    สามีดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ไรท์อยากได้ท่านชายเองจัง 5555

    น้องแค่ใสซื่อค่ะ ถูกเลี้ยงดูมาแบบไหนก็เป็นแบบนั้น 
    ค่อย ๆ เรียนรู้เติบโตกันไป บทเรียนนี้คงทำให้น้องจำไปอีกนานนน

    เม้นกันแบบใจเย็นๆ เนอะ บอกแล้วว่าไม่มาม่าาาา


    ........



    ขอโทษนะคิม ไรท์ผิดเองที่เบิกตัวท่านชายมาตอนนี้ ลงทัณฑ์ไรท์เถอะไรท์ยอม -..-

    คุณนักอ่านต้องใจเย็นๆ นะคะ นิยายพึ่งกลางเรื่องเอง 
    มองให้มันเป็นสีสันเท่านั้นเนอะ บอกแล้วว่าไม่ดราม่านิยายหลังข่าวจ้า

    เม้นไม่ค่อยมีเลยง่ะ ไรท์ใจเสียแล้วน้า





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×