คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 16 ❁ ปัญหาที่หนึ่ง 100% ❁
ยุ่งยากกว่าที่คิดไว้เยอะแฮะ
เชื่อเถอะว่าคนกลางอย่างคิมกำลังลำบากใจสุด
ๆ
ไม่คิดเลยว่าการที่เจ้าเพื่อนสนิทของเขาเกิดมาน่ารักมันจะกลายเป็นดาบสามสี่คมขนาดนี้
ทั้งที่อากาศก็เย็นสบายดีแต่ไม่รู้ทำไม๊ภายในซุ้มเวชศาสตร์ฉุกเฉินมันถึงร้อนรุ่มแปลก
ๆ
ร้อนมาจากดวงตาคมของท่านชายมาร์คอย่างไรล่ะ
“อาการแบบนี้ต้องแยกอาการ
คนไข้รายไหนรุนแรงต้องรีบแยกออกไป เพราะภายในห้องฉุกเฉินมีจำนวนบุคลากรจำกัด”
“...”
“แบบคนไข้คนนี้ไม่รุนแรง
การกรองคนไข้เป็นเรื่องสำคัญ นักศึกษาช่วยอาจารย์หยิบผ้าพันแผลหน่อยครับ”
นักศึกษายืนรวมกันตั้งหกคน
แต่สายตาจงใจมองไปยังเจ้าตัวเล็กนั่นคืออะไร
คิมอยากจะเบ้ปากใส่สักทีแต่อีกฝ่ายเป็นอาจารย์อย่างไรเลยทำไม่ได้
ส่วนเจ้าเพื่อนตัวยุ่งของตนหรือ ยิ่งได้เหมือนปฏิบัติจริงยิ่งกระตือรือร้นที่จะช่วยทันที
คนไข้รายแรกเป็นผู้หญิงวัยกลางคน
เกิดอุบัติเหตุตกบันไดทำให้หัวหัวเข่าและข้อศอกถลอก คุณชายคุณคอยอธิบายขั้นตอนต่าง
ๆ ให้แก่นักศึกษาประจำซุ้มเป็นอย่างดี คุณแบมจำพี่ชายคนนี้ได้เพราะเคยเจอในงานเลี้ยงเมื่อตอนนั้น
ยอมรับเลยว่าเจออีกฝ่ายตอนแรกคุณแบมถึงกลับเหวอไปเลย
แต่ต่อจากนั้นก็รู้สึกเบาใจเพราะคุณหมอคุณใจดี
ตัวแสบของคิมจะรู้ไหมว่าอย่าได้ทำตัวสนิทสนมกับคุณหมอคนนั้นนักเลย
“อะแฮ่ม! ผมอยากช่วยด้วย ให้ผมช่วยด้วยนะครับ” คิมเอ่ยขัดบรรยากาศแปลก
ๆ นั่นขึ้น เพราะไม่อยากให้เกิดภัยพิบัติคลื่นลูกใหญ่ ทำไมกันนะทำไม
คิมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมท่านชายผู้นั้นถึงไม่ไปพักผ่อน ยืนทำหน้ายักษ์มองอยู่ไกล ๆ
แบบนั้นรู้ไหมคนตาดีแบบคิมเสียวสันหลัง
คิมเดินเข้ามาแทรกกลางระหว่างสองคน
คุณชายแบมแบมทำหน้างงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
“ไม่เสียวสันหลังบ้างเหรอคุณแบม”
อดไม่ได้ที่จะกระซิบเตือนเจ้าคนไม่รู้เรื่องสักหน่อย
“ก็ไม่นะ
ทำไมอ่ะ”
“จริงดิ...”
หม่อมหลวงคิมเกาหัวจนปัญญา
และเหลือบมองไอขมุกขมัวที่เต็นท์รับรอง อื้อหือ
ชัดเจนขนาดนั้นยังมองไม่เห็นอีกนะคุณแบม ระเบิดจะลงเมืองวารีหรือเปล่าเนี่ย
“นักศึกษา
เช็คประวัติคนไข้แล้วรายงานหมอด้วยครับ”
แฟ้มเอกสารถูกยื่นมาให้ร่างเล็กของคุณแบม
ซึ่งอีกคนก็หยิบขึ้นมาอย่างไม่ลังเล อะไรที่สามารถเป็นความรู้ได้คุณแบมล้วนแล้วแต่ยินดี
ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงคุณแบมเท่านั้นที่ได้แฟ้มประวัติคนไข้ นักศึกษาอีกห้าคนก็ได้
เพียงแต่ไม่ได้จากมือคุณหมอคุณเช่นคุณแบมเท่านั้น
ออกหน้าขนาดนี้
คิมไม่สนละ ให้ท่านชายจัดการสักทีจะได้รู้ซึ้ง
ผ่านไปจนจบวัน
เนื่องจากเริ่มเปิดค่ายก็ตอนเที่ยง วันแรกจึงทำกิจกรรมเพียงครึ่งวัน
คุณแบมกับหม่อมหลวงคิมพากันเดินคู่ไปรับประทานอาหารที่ถูกจัดไว้
เพราะคืนนี้อาจมีเหตุฉุกเฉินมีคนไข้มากลางดึก ต้องรีบทานอาหารให้เพียงพอ
แถมชาวเมืองยังจัดอาหารเตรียมไว้ให้ด้วย
วันนี้คุณแบมจะได้กินกุ้ง
คนที่หลงรักอาการทุกชนนิดอย่างคุณแบมหรือจะไม่ยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง
“ยังจะยิ้มหน้าระรื่นอีกนะคุณชาย”
หม่อมคิมอดไม่ได้ที่จะแขวะเพื่อนอย่างหมั่นไส้
“เหนื่อยมาทั้งวัน
คุณแบมจะกินให้หมดครัว!”
เชื่ออย่างไม่มีเงื่อนไข
ไม่ต้องทำหน้าขึงขังมุ่งมั่นขนาดนั้นหรอก
“แต่ก่อนจะกินน่ะ
เคลียร์กับสามีตัวเองให้เสร็จก่อนเถอะ”
“เคลียร์ทำไมอ่ะ
ไม่เห็นมีอะไรให้เคลียร์เลย” ใบหน้าหวานของคุณแบมหงิกลงทันทีเมื่อพูดถึงบุคคลที่สาม
เพราะทุ่มเทกับการศึกษาดูงานเสียจนลืมสนิทว่าก่อนหน้านี้มีเรื่องกวนใจตนอยู่
ภรรยาตัวน้อยของท่านชายเสตามองรอบตัวทันทีเมื่อนึกได้ แต่จุดทานอาหารกลับไม่มีร่างสูงใหญ่ที่คุ้นตา
สงสัยอยู่เรือนรับรองละมั้ง
“มองหาใครอ่ะ”
เสียงของเพื่อนทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งตัวโยน
หม่อมหลวงคิมหรี่ตาคล้ายจับผิดจนทำเอาเจ้าตัวลุกลี้ลุกลนไม่เนียนเอาเสียเลย
“ไม่ได้มองซะหน่อย
ไปกันสักทีคุณแบมหิว!!”
โมโหทีไรอ้างหิวตลอด
เอ...
หรือคุณชายคนนี้หิวได้ตลอดเวลาอยู่แล้วกันแน่??
“อาจารย์คุณนี้จิตใจดีมีเมตตาจริง
ๆ เนอะคิม”
จ้า...
เอาที่คุณแบมสบายใจเถอะ
คุณชายคนเล็กแห่งวังภูวกุลกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความสุข
ก็จะอะไรซะอีก แค่คุณชายหมอคนนั้นเอากุ้งเผาที่แกะเปลือกออกจนหมดมาให้ก็ยิ้มหน้าระรื่นปากนี่แทบจะฉีกถึงรูหู
ชมอีกฝ่ายให้เพื่อนสนิทฟังไม่ขาด ส่วนคนที่นำกุ้งมาเสิร์ฟให้ก็นั่งอยู่ตรงข้ามนี้เอง
ไม่รู้จะลำเอียงไปไหน
“กินกุ้งมาก ๆ
เดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก” อดไม่ได้ที่จะเอ็ดจริง ๆ ท่านชายมาร์คเลี้ยงเมียอย่างไรให้ดูน่าสงสารเหมือนคนอดข้าวมาแรมปีเช่นนี้
จะว่าไปแล้วก็ไม่เห็นท่านชายมาร์คเลยตั้งแต่ตอนเย็น
นี่ก็ตะวันตกดินแล้วไม่เห็นท่านชายผู้นั้นแม้แต่เงา ไม่ใช่งอนเมียหนีกลับเมืองหลวงไปแล้วหรือ
หม่อมหลวงคิมได้แต่คิดในใจ ก่อนจะเบนสายตามามองเจ้าจอมเขมือบที่ยังคงหยิบหัวกุ้งมาทานต่อ
นี่ดีนะยังสงวนท่าทีกินอย่างสุภาพชนสมกับเป็นราชนิกุลหน่อย
“อยากทานอะไรเพิ่มไหมตัวเล็ก”
“ไม่แล้วครับ ขอบคุณอาจารย์คุณมาก ๆ เลยนะครับที่แกะกุ้งให้”
“ไม่เป็นไร ‘ชอบ’ ก็ทานเยอะ ๆ”
“แค่ก ๆ ขอน้ำ ๆ”
หม่อมหลวงตัวโตไอคอกแคก
จงใจขัดคนทั้งคู่ หนึ่งคือเขารู้สึกหมั่นไส้คุณชายหมอผู้เสียเหลือเกิน
รู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจว่าคุณแบมน่ะไม่ได้โสดแล้ว ยังมาเตาะเด็กน้อยที่ไม่รู้ทันคนอีก
ขืนหม่อมคิมปล่อยไปเรื่อย ๆ คุณแบมคงถูกครหาหนักแน่ เพราะสามีตัวเองก็มาด้วย
ยังจะมาถูกคุณหมอคนนี้เทคแคร์จนเกินหน้าเกินตา ลำพังแค่เจ้ากุ้งกองโตนั่นก็เกินทนแล้ว
คุณชายหมอที่รู้ใจเจตนาของเด็กตัวสูงที่นั่งข้างคนน่ารักก็ได้เพียงถอนหายใจอย่างเซ็ง
ๆ เจ้าเด็กคนนี้จงใจขัดตนมาทั้งวันทำไมจะไม่รู้ อย่างเช่นตอนนี้ แทนที่คุณแบมจะสนใจเขาคนตัวเล็กก็ต้องรีบหยิบน้ำยื่นให้เพื่อนด้วยสีหน้าวิตก
พลางลูบแผ่นหลังของเจ้าเด็กโข่งนั้นอีก
“เป็นยังไงบ้างคิม
หายใจเข้าลึก ๆ นะ”
คนตัวเล็กเป็นห่วงเพื่อนจนเพื่อนที่แสร้งสร้างเรื่องขึ้นมายิ้มกระหยิ่มในใจ
เพราะอย่างน้อยก็สามารถขัดบรรยากาศหวานชื่นนั่นได้ล่ะนะ ท่านชายมาร์คก็รีบโผล่มาสักที
เมียจะโดนคาบไปกินอยู่แล้วเนี่ย
“ขอบใจนะคุณแบม
คิมดีขึ้นแล้ว”
“ระวังหน่อยสิ
ว่าแต่คุณแบม ตัวคิมเองนั่นแหละทำไมสำลักขึ้นมาได้”
“แหะ ๆ”
หม่อมหลวงคิมยิ้มแหย เมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ คุณแบมก็หันมาสนใจอาหารตรงหน้าตน
ที่นอกจากกุ้งกองโตแล้วยังมีอาหารทะเลอื่น ๆ อีก คุณแบมตั้งใจว่าทานหมดนี่จะต่อด้วยขนมหวานพื้นเมืองที่ชาวบ้านนำมาให้เหล่านักศึกษาแพทย์จึงจะกลับไปยังห้องพักเสียที
หากท้องไส้กลับไม่เป็นใจ
จู่ ๆ สิ่งที่คิมเตือนมันเริ่มจะสำแดงผลเสียแล้ว
“อะ โอ้ย”
มือน้อยกุมที่ท้องเมื่ออาการเจ็บแปร๊บแล่นเข้ามา
ทำให้ผู้ชายตัวโตสองคนถลาเข้าไปดูทันที หน้าสวยบิดเกร็งเพราะความเจ็บ หม่อมหลวงคิมเป็นคนถึงตัวคนตัวเล็กก่อน
“คุณแบมเป็นอะไร
ปวดท้องเหรอ” ว่าที่คุณหมอตัวสูงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“อะ อื้อ คะ คิม
คุณแบมปวดท้องมากเลย” คนตัวเล็กกล่าวอย่างน่าสงสาร
“มานี่ เดี๋ยวผมจะพาไปที่ซุ้ม”
อาจารย์หนุ่มเอ่ยขึ้น สีหน้ากังวลไม่ต่างอะไรจากตัวเพื่อนสนิทของคนตัวเล็ก ด้วยเพราะรู้สึกผิดเพราะต้นเหตุอาจเกิดมาจากตน
กุ้งที่คุณแบมทานไปอาจมีบางตัวที่ไม่สะอาด คนตัวเล็กถึงได้เกิดอาการแบบนี้ขึ้น
“ไม่เป็นไรครับอาจารย์
เดี๋ยวผมพาคุณแบมไปเอง” หม่อมหลวงคิมเอ่ยปฏิเสธอย่างชัดเจน และไม่รีรอเวลา เหล่านักศึกษาที่นั่งอยู่ไม่ไกลเริ่มมามุงดูว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว
ขืนมุงกันมากกว่านี้คุณแบมคงเป็นลมไปแน่ ๆ เพราะแบบนั้นคิมจึงอุ้มร่างเล็กของเพื่อนสนิทขึ้นมา
คุณชายคุณขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะขัดใจที่เด็กคนนั้นขัดตน
แต่เพราะความปลอดภัยของคนตัวเล็กเขาจึงยอมถอยให้ และเดินตามร่างสูงของหม่อมหลวงคิมไปยังเต็นท์ที่ตนดูแล
จากอาการของคุณแบมแล้วคงจะเกิดจากการทานกุ้งเกินขนาดและความไม่สะอาดของกุ้งจึงทำให้กระเพาะปรับตัวไม่ทัน
ร่างเล็กถูกพามานอนเตียงคนไข้แบบชั่วคราวที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้นมา
โดยมีหม่อมหลวงเพื่อนสนิทมองดูไม่ห่าง คุณชายคุณสั่งให้นักศึกษาแพทย์ถอยออกไปเพื่อที่จะดูอาการ
แม้จะไม่ค่อยเต็มใจนักแต่คิมทำอะไรไม่ได้จึงยอมปล่อย
พรึบ!!
ฝ่ามือของคุณชายคุณถูกกระชากออกอย่างแรงด้วยน้ำมือของใครคนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้คุณชายหมอกำลังจะเลิกชายเสื้อของคนตัวเล็กขึ้นหวังเช็คเบื้องต้น หากไม่ถูกมือของเจ้าของใบหน้าคมคายนั่นกระชากออกเสียก่อน
คล้ายมีเงาทะมึนเกิดขึ้นที่ซุ้มแห่งนี้เสียแล้ว
ใครมันเบิกตัวพระเอกให้ออกมาเวลานี้เนี่ย
อย่าให้คิมรู้เชียวนะ
-*-
“อย่าล้ำเส้นพี่ชายคุณ
คุณแบมไม่ใช่ ’เขา’ และเราก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับคนของเรา”
สุรเสียงทุ้มเย็นยะเยือกดังขลับเสียงลมหายใจของบุคคลทั้งสี่
หนึ่งผู้คือคนป่วยที่ยังนอนโอดอวนอยู่ที่เตียง
ส่วนอีกหนึ่งคือบุคคลที่อยากจะหนีออกไปจากซุ้มมากที่สุด
หม่อมหลวงคิมนั้นไม่อาจจะคาดเดาเหตุการณ์ตรงหน้าได้เลย เพียงได้แต่คิดในใจว่าทั้งวันทำไมไม่โผล่มา
พอจะโผล่มาก็ดับเป็นสถานการณ์แบบนี้เสียได้
ส่วนประโยคความนัยน์ที่คล้ายจะรู้เพียงกันอยู่สองคนนั้นล่ะคืออะไรกันแน่
“กระหม่อมเป็นหมอ
เพียงต้องการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์เท่านั้น อย่างทรงกังวล”
คุณชายคุณเอ่ยอย่างใจเย็น หากแต่ก่อนหน้านัยน์ตาคู่นั้นกลับสั่นไหวกับสิ่งที่ท่านชายเอ่ย
“ไม่จำเป็น
ท่านหญิง โปรดช่วยดู ‘ภรรยา’
ของเราด้วย”
ท่านชายกล่าวทั้งที่ดวงเนตรยังจับจ้องไปที่คุณชายหมอตรงหน้าอย่างไม่วางตา
หากสามารถมองเห็นสายตาผ่านดวงตาของทั้งสองคนคงไม่ต่างอะไรจากในการ์ตูน ท่านหญิงคนงามที่หลบซ้อนอยู่เบื้องหลังเดินแทรกไปหาคนตัวเล็กหลังจากที่ท่านชายกล่าวเสร็จเช่นกัน
เพราะอย่างนั้นคุณชายคุณจึงยอยถอยออกมาเงียบ
ๆ แต่ก็ยังคงเฝ้ามองอาการของคุณแบมอยู่อย่างเป็นห่วง นั่นเพราะคนมีชนักติดหลังเนื่องจากเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
“ออกไปรอข้างนอกเลยนะทั้งสามคน
เราอยากได้ความสงบที่นี่” ท่านหญิงกล่าววาจาสิทธิ์ของท่านหญิงนั้นเปรียบดังคำขาด
ชายหนุ่มร่างสูงทั้งสามคนจำต้องออกไปจากซุ้มอย่างเลี่ยงไม่ได้
หม่อมหลวงคิมเองนั้นอยากจะกลับไปยังห้องพักแต่ก็ไม่อาจทิ้งให้คนอายุเยอะกว่าทั้งสองคนอยู่กันตามลำพัง
ด้วยกลัวจะเกิดเหตุวิวาทขึ้น
คุณชายคุณเป็นคนที่เหมือนมีเรื่องจะพูด
คุณชายหมอมองไปยังท่านชายมาร์คด้วยสายตาที่สับสน
ส่วนท่านชายเองก็ยังคงสีหน้าเรียบนิ่ง หากแฝงไปด้วยความไม่พอใจไว้ด้วยเช่นกัน
ในใจของสิงห์อากาศหนุ่มนั้นราวกับไฟสุมอก
ตั้งแต่ตอนเที่ยงหากไม่ถูกท่านหญิงโชอาห้ามไว้คงได้อาละวาดไปแล้ว แล้วนี่อีก
เพียงหายไปทำธุระกับกองทหารที่ร่วมค่ายด้วยเท่านั้น กลับมายังทราบว่าคุณแบมถูกหามมายังซุ้มฉุกเฉิน ไม่รู้ว่าควรโกรธคนของตัวเองหรือคนที่มายุ่งกับน้องกันแน่
“เราไม่คิดเลยนะว่าหม่อมราชวงศ์นิชคุณนิยมชมชอบการตีท้ายครัวคนอื่น”
วาจาเรียบนิ่งหากแต่บาดใจคนฟังยิ่งนัก คุณชายคุณขมวดคิ้วลงฉับเมื่อได้ยิน
“ท่านชาย
มันไม่ได้เป็นอย่างที่ทรงคิดเลยนะกระหม่อม”
“งั้นก็อย่ายุ่งกับคุณแบมอีก
คุณแบมเป็นภรรยาของเราพี่ชายคุณย่อมรู้”
“...”
“ให้เรายินดีกับสิ่งที่พี่ชายคุณทำนั้นเราทำไม่ได้หรอกนะ
อย่าเอาคุณแบมไปเป็นตัวแทนของใคร”
ท่านชายจ้องมองอีกฝ่ายด้วยตาวาวโรจน์
เป็นคุณชายคุณที่หลบสายตาคู่นั้น เขายอมรับว่าคุณแบมทำให้เขาระลึกถึง ‘คนผู้นั้น’ หากแต่ก็ไม่ได้ขาดสติพอที่จะทำเรื่องอัปยศ
เพียงแค่เอ็นดูอีกฝ่ายคล้ายน้องชาย
ซึ่งการกระทำของตนคงจะล้ำเส้นมากไปอย่างที่ท่านชายว่า
เมื่อคิดได้แบบนั้นคุณชายจึงแสดงสีหน้าถอดใจออกมาอย่างคนปลงตก เขาไม่ได้ผิดหวังที่ไม่ได้สานต่อความสัมพันธ์ในเชิงนั้นกับคุณแบมอย่างที่คนอื่นเข้าใจ ถึงแม้คุณแบมจะคล้ายกับเขาผู้นั้นแต่ก็ไม่มีทางแทนกันได้ แต่ตนคงโลภมากอยากอยู่ใกล้คนตัวเล็กเพื่อคลายความคิดถึงของตัวเองไม่ได้ คราวนี้คงต้องหักห้ามใจเสียแล้ว
“กระหม่อมเข้าใจแล้ว
ประทานอภัยต่อความโง่เขลาของกระหม่อมด้วย”
“...”
“แต่ถึงอย่างไรครั้งนี้ก็เป็นความผิดของกระหม่อมเอง
อย่าทรงโกรธเคืองคุณแบมเลยนะท่านชาย”
“เรื่องนั้นเราตัดสินใจเอง
หวังว่าพี่ชายคุณคงรักษาคำพูด”
ท่านชายเอ่ยเพียงเท่านั้น
ก่อนจะเลี่ยงเดินเข้าไปในซุ้มที่มีคนตัวเล็กอยู่โดยไม่สนสิ่งที่ท่านหญิงสั่งเอาไว้
เดิมทีที่ยอมออกมานั้นหาใช่เกรงกลัวคำสั่งของเพื่อนสาว แต่เพราะอยากออกมาพูดกับคุณชายผู้นั้นให้เข้าใจ
ส่วนหม่อมหลวงคิมเป็นเพียงผู้เดียวที่ไม่รู้เบื้องลึกหนาบางของคนทั้งคู่ก็ได้แต่มองตาปริบ
ๆ เพราะไม่อาจเดาเอาเองได้ ซึ่งสีหน้าเจ็บปวดของคุณชายคุณนี่สิ
จะสงสารหรือสมเพชดีก็ไม่รู้
ท่านชายมาร์คเดินเข้ามายังซุ้มผู้ป่วยที่ยามนี้ไร้คน
มีเพียงร่างของภรรยาตนเท่านั้นที่อยู่ด้านในโดยมีคุณหมอโชอาเฝ้าดูอาการ
ใบหน้าซีดเซียวของคุณแบมช่างน่าสงสาร
ปรางที่เคยอมชมพูระเรื่อของน้องยามนี้ขาดสีไปหมด
ท่านหญิงเปรยตามองสามีของคนตัวเล็กเพียงเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจให้กับความดื้อด้านของเพื่อนตัวเอง
แต่เอาเถอะ ก็ยังดีกว่ามายืนทำหน้ายักษ์รบกวนสมาธิเธอก็แล้วกัน
“น่าจะกรดในกระเพาะมากเกินไป
รวมถึงกุ้งไม่สุกดีเลยทำให้ปวดท้อง เมื่อกี้พึ่งอาเจียนออกไปเยอะพอสมควร
เราให้ยาแล้ว คงต้องให้พัก”
“ขอบใจ”
“นี่ท่านชาย...
เราพูดในฐานะเพื่อนนะ เด็กคนนี้ไม่ได้ผิดอะไรเลย แค่คนไม่รู้เรื่องและมองโลกในแง่ดีเท่านั้น
อย่าใจร้ายกับเจ้าแก้มบวมนักล่ะ”
ท่านหญิงกล่าวจบก็เดินออกจากซุ้มไป ปล่อยให้ท่านชายได้ดูแลภรรยาตัวน้อยลำพัง ท่านชายทิ้งกายนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง ส่งมือไปลูบแก้มซีดขาดสีของน้องอย่างห่วงหาอาทร ท่านชายไม่ได้โกรธอะไรอีกคนหรอก เพียงแต่น้อยใจเท่านั้น น้อยใจที่น้องละเลยความรู้สึกของเขาเข้าใกล้ชายอื่น หากแต่คิดตามท่านหญิงโชอาก็คลายอารมณ์ลงบ้าง คุณแบมเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง วังภูวกุลเลี้ยงดูมาด้วยความรักทำให้มองโลกในแง่ดี และสิ่งที่น้องทำก็เป็นเพียงคนไฝ่เรียนคนหนึ่งเท่านั้น หากจะโทษคงต้องโทษความใจแคบของเขา น้องไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลยเขารู้
ส่วนเรื่องที่พาตัวเองมาป่วยนี่
รอให้หายป่วยก่อนคงต้องทำโทษให้งดของหวานไปเลยหนึ่งอาทิตย์
คุณแบมหลับไปเกือบสี่ชั่วโมงโดยมีสามีนั่งเฝ้าไม่ห่างหาย
เปลือกตาสีอ่อนค่อย ๆ เปิดขึ้น ความมืดมิดรอบกายทำให้กายน้อยสั่นไหวด้วยความกลัว
หากแต่สัมผัสอบอุ่นที่ฝ่ามือกลับเรียกกำลังใจขึ้นมาได้
ท่านชายมาร์คนั่งหลับตาอยู่ข้างกาย
ใบหน้าหล่อเหลาเคล้าเสน่ห์บัดนี้กลับเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ความรู้สึกผิดกำลังถาโถมเข้ามายังคนตัวเล็ก
ทั้งที่พี่ชายมาร์คนั้นทรงงานอย่างหนัก แต่ต้องมานั่งเฝ้าตนที่รนหาเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน
“ตื่นแล้วเหรอคะ”
“...”
เสียงนั่นดังมาจากคนที่คุณแบมคิดว่าหลับอยู่
ท่านชายลืมตาขึ้นมาจ้องไปยังภรรยาตัวน้อยที่บัดนี้ตื่นขึ้นมามองเขาตาใส ระคนเศร้าสร้อย
ใจแกร่งอ่อนเหลวคล้ายดังธารธารา แต่ต้องสะกดกลั้นความรู้สึกเอาไว้เพราะต้องการให้บทเรียนกับคนตัวเล็กบ้าง
“คุณแบมรู้ไหมว่าทำอะไรผิด”
ท่านชายเลือกถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่ต่างจากใบหน้า ทำเอาคนตัวเล็กน้ำตาคลอ
ทั้งที่แต่ก่อนก็ถูกเรียกว่าคุณแบมมาตลอด หากแต่พอถูกอีกฝ่ายเรียกมันกลับบาดใจคนฟังยิ่งกว่าอะไร
คุณแบมถูกโกรธจริง
ๆ เสียแล้ว
“คุณแบมขอโทษที่ตะกละ
ทำให้พี่ชายมาร์คเป็นห่วง” น้องตอบด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง
“ไม่ใช่แค่เรื่องนั้นค่ะ
นึกให้ดีดี”
“...”
คุณชายตัวเล็กชะงักและพยายามนึกคิดสิ่งผิดพลาดที่ตัวเองทำผิดไป
นอกจากเรื่องที่ทำให้อีกฝ่ายเป็นห่วงแล้ว ตนก็นึกย้อนกลับไปทั้งวันทันที คุณแบมก็ออกกิจกรรมในซุ้มปกติก่อนจะนั่งทานอาหารกับคิมและอาจารย์คุณ...
อาจารย์คุณเหรอ...
ราวกับโดนของหนักทุบหัวเมื่อนึกย้อนสิ่งที่ตนกระทำลงไป
คุณแบมช้อนตามองคนพี่ราวกับออดอ้อน วันนี้คุณแบมเผลอทำตัวไม่น่ารักโดยที่ไม่รู้ตัวอีกแล้ว
ทำไมถึงกลายเป็นเด็กไม่ดีแบบนี้ เขาละเลยความรู้สึกของสามีอย่างไม่น่าให้อภัย
ให้ความโกรธเพียงเล็กน้อยกัดกินและหลงลืมใส่ใจอีกคน
คุณแบมเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว
“คุณแบมไม่ชอบให้พี่ยุ่งกับคนอื่น
พี่ก็ไม่ชอบเหมือนกัน เข้าใจพี่ไหมคะ” ท่านชายกล่าวถาม
“คุณแบมขอโทษ...
คุณแบมคิดน้อยเกินไป”
“ใช่ค่ะ
ถึงแม้คุณแบมจะไม่ได้คิดอะไรกับคุณชายคุณ แต่พี่ก็ไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น”
“...”
“กลับกัน
ถ้าพี่ทำบ้างคุณแบมจะรู้สึกอย่างไร”
“...”
หยดน้ำไหลออกจากตากลมสุดแล้วจะกลั้น
คุณแบมปวดหนึบในหัวใจเพียงแค่นึกภาพท่านชายกระทำเช่นตน คุณแบมยิ้มและทำท่าทางสนิทสนมกับชายอื่นต่อหน้าพี่ชายมาร์ค
ถึงแม้เขาจะไม่ได้คิดสิ่งใดนอกเสียจากเห็นว่าอาจารย์คุณเป็นคนดีเหมือนกับพี่ชายผู้หนึ่ง
แต่กับสามีตนคงไม่คิดแบบนั้น หากคุณแบมใส่ใจความรู้สึกพี่ชายมาร์คมากกว่านี้คงไม่ทำให้พระองค์เจ็บปวดใจ
มือที่กอบกุมมือน้อยคลายออกยิ่งทำให้น้ำตาของคนตัวเล็กไหลรินจนได้ยินเสียงสะอื้น
หากแต่ไม่นานฝ่าพระหัตถ์นั้นก็สัมผัสลงที่ข้างแก้มใสของภรรยา เช็ดคราบหยาดน้ำตาในดวงเนตรอย่างแผ่วเบา
“ตอนนั้นพี่ก็รู้สึกไม่ต่างกัน
แต่คนดีของพี่จะไม่มีวันรู้สึกอย่างนั้นแน่นอน”
“ฮึก...”
“อย่าร้องเลยนะคนดี”
ความคิดเห็น