ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] [Mpreg] Royal Gentlemen #สุภาพบุรุษมบ (MarkBam)

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 15 ❁ โอ้ใจรัก 100% ❁

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 63


    ตอนที่ 15

    แม่น้ำแห่งนี้มีความยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากแม่น้ำ Nile





    เมืองโรเซล คือเมืองที่มีเหมืองแร่มากที่สุดในแคว้นหิมาลายัน รวมทั้งยังมากความอันตรายอีกด้วย เนื่องจากเหมืองส่วนใหญ่ติดชายแดนจากแคว้นอื่นทำให้เหล่าผู้ทรงอิทธิพลแบ่งออกเป็นหลายข้าง ภัยอันตรายนั้นรอบทิศทาง หากแต่กลับบางคนคิดว่าสถานที่นี้คือแหล่งสมบัติทางความรู้อย่างดี

    คุณชายคนกลางผู้ครอบครองใบหน้าหมวย หนุ่มร่างบางที่คนภายนอกมองแล้วดูเฟียสมากทีเดียว ความมั่นใจของร่างเล็กเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทุกคนยอมรับ นักศึกษาฝึกสอนคนเก่งต้องทำหน้าที่ถึงสองอย่างเนื่องจากเรียนควบโทและปริญญาตรีด้วย พอการฝึกสอนจบลงก็ถูกส่งตัวมาทำวิจัยปริญญาโททันที

    ด้วยเพราะเป็นลูกศิษย์คนโปรดจึงได้ข้อมูลจากศาสตราจารย์มาว่า หากต้องการวิจัยเกี่ยวกับแร่หายากต้องมาที่เมืองโรเซล หากแต่จะเสี่ยงให้ลูกศิษย์มาเพียงลำพังก็ไม่ได้ ทั้งเป็นถึงบุตรของท่านชายภาษกร การอารักขาอย่างเต็มรูปแบบจึงต้องพร้อม คุณชายแจนไม่ได้มาเพียงลำพัง มีเพื่อนป.โทมาด้วยกันอีกสองคนนั่นคือลิซกับบีม และกลุ่มนายทหารที่ตามมาอีกห้าคน

    หนึ่งในนั้นคือพี่แจ็คสัน...

    ร่างล้ำสันของนายทหารยืนสำรวจพื้นที่อย่างรอบครอบ ด้วยเพราะสถานที่เป็นป่ารกทึบ แต่เดินไปไม่กี่ก้าวก็คือเหมือง ซึ่งผู้ครอบครองคือครอบครัวสหายสนิทของพี่ชายผู้นั้น จึงได้รับอนุญาตให้สำรวจได้

    เต็นท์ห้าหลังถูกกลางในพื้นที่ใกล้กัน เหล่านักศึกษานอนกันคนละเต็นท์ ส่วนพี่ ๆ ทหารห้าคนแบ่งกันนอนสองเต็นท์ ยามค่ำคืนกลางป่าทำให้ได้ยินเสียงเหล่าสรรพสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยอย่างชัดเจน หากแต่กลับคล้ายเสียงกล่อมชั้นดีของคนที่เหนื่อยจากการเดินทาง

    วันนี้เป็นวันแรกของการมายังเมืองโรเซล แม้จะถูกคนดูแลเหมืองต้อนรับเป็นอย่างดี แต่ระยะเวลาและเส้นทางมายังเหมืองนั้นลำบากอยู่พอสมควร เป็นธรรมดาที่คนไม่เคยลำบากจะล้าบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่กับคุณชายคนกลางแห่งวังภูวกุล

    ตั้งแต่เด็ก คุณชายมักตามท่านพ่อมาสำรวจนอกสถานที่ โดยเฉพาะกลางเต็นท์ในพงไพร เพราะฉะนั้นจึงคุ้นเคยกับสถานที่เป็นอย่างดี คุณชายร่างบางรู้ว่าต้องเตรียมการอย่างไร เมื่อเทียบกับนักศึกษาป.โทอีกสองคนแล้ว ฝ่ายนี้ดูพร้อมที่สุด ความเหนื่อยล้าจึงไม่มีในตัวของคุณชายแจนเลยแม้แต่ติดเดียว

    ร่างบางเดินออกมาจากเต็นท์หลังจากทายากันยุงเรียบร้อย ในใจหวังอยากเห็นดวงดาวบนท้องนพา วันนี้ฟ้าเปิดแถวเป็นคืนเดือนดับจึงทำให้แสงจากดวงดาวสวยเป็นพิเศษ หากดวงตาเรียวสวยกลับพบชายร่างหนาคนหนึ่งนั่งอยู่บนโขดหินซึ่งเป็นที่โล่งที่เดียวซึ่งสามารถมองเห็นดาวได้ชัดเจนเนื่องจากไม่ได้อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่เฉกเช่นที่อื่น

    พี่ชายคนนั้นยังคงนิ่งเหมือนหุ่นขี้ผึ้ง คุณชายแจนลอบมองแผ่นหลังกว้างของคนที่สูงกว่าหลายเซนอย่างพินิจ เขาสงสัยเหลือเกินว่าพี่ชายผู้นี้มีสีหน้าอื่นหรือไม่ ทำไมต้องเก๊กหน้าขรึมถึงเพียงนั้น ทั้งที่บริเวณนี้หาได้มีใคร

    “ดาววันนี้สวยนะครับ”

    เสียงหวานเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ร.อ เจตนิพัทธ์ เปรยตามองคุณชายตัวเล็กที่ถือวิสาสะนั่งลงข้างกายตนด้วยสายตาเรียบนิ่ง หากแต่ภายในใจกลับสั่นไหวอย่างแปลกประหลาด แต่เดิมทีไม่เคยรู้สึกเช่นนี้กับผู้ใด แจ็คสันก็เป็นเพียงทหาทื่อ ๆ คนหนึ่งเท่านั้น นอกจากหน้าที่การงานแล้วก็ไม่เคยสนใจสิ่งใดเป็นพิเศษ หากแต่คุณชายคนกลางแห่งวังภูวกุลกลับทำให้เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างกวนใจตลอดเวลา

    “ครับ”

    ตอบรับเพียงสั้น ๆ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ไม่พอใจ แถมยังได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ มาอีก ลูกชายเจ้าสัวนึกแปลกใจเหลือเกินว่าทำไมคุณชายผู้นี้ถึงได้อารมณ์ดีได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ได้ร่วมเดินทางกันมา คนผู้นี้เที่ยวแจกรอยยิ้มและสร้างรอยยิ้มให้กับคนอื่นเสียจนทำให้การสำรวจครั้งนี้กลายเป็นเรื่องสนุก คนผู้เดียวใยมีพลังบวกที่มากล้นถึงเพียงนี้ เพราะแบบนี้ไงมนุษย์หินอย่างเขาถึงได้รู้สึกแปลกประหลาดในใจ

    “พี่แจ็คสันรู้ไหมครับว่าป่ามันมีเวทย์มนต์”

    “เวทย์มนต์?”

    แจ็คสันพยายามไม่ใส่ใจกับสรรพนามที่คนตัวเล็กกว่าเรียก เพราะคนอื่นนอกจากเขาหากเป็นพี่อีกฝ่ายก็เรียกแทนว่าพี่ทั้งหมด ถึงแม้ว่ามันจะแกว่งหัวใจของเขาก็ตาม ชายหนุ่ม ร.อ เอกจ้องไปยังคุณชายแจนอย่างสงสัย เพราะจู่ ๆ คุณชายผู้นั้นก็เปรยบางสิ่งที่เขาไม่เข้าใจอีกแล้ว เวทย์มนต์อย่างนั้นหรือ นี่มันยุควิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสามารถพิสูจน์สิ่งต่าง ๆ ภายในโลกได้ ทำไมคุณชายแจนถึงได้กล่าวถึงเวทย์มนต์

    “พี่ลองหลับตาแล้วมองรอบกายสิ”

    “...”

    “ให้ประสาทสัมผัสอื่นทำงาน แล้วพี่จะรับรู้ได้ถึงมันเอง”

    “...” แจ็คสันลังเลที่จะทำตาม แต่เมื่อหันไปมองเสี้ยวหน้าสวยของอีกคนที่หลับตาพริ้มลงพลางยิ้มราวกับมีความสุข มันก็ทำให้คนมองอดไม่ได้ที่จะคลี่ริมฝีปากตามอย่างห้ามไม่ได้ คุณชายแจนช่างสวยงามราวกับภาพวาด แจ็คสันต้องเสน่ห์ของคน ๆ นี้เสียแล้ว

    ตาคมหลับลงบ้างหลังจากเผลอมองคนข้างกายครู่ใจ ภายใต้ความมืดมิด เรือเอกเจตนิพันธ์ได้ยินเสียงนกและเหล่าแมลงอย่างชัดเจน นอกจากนั้นยังมีเสียงของการพลัดปลิวของใบไม้ที่คลุ้งเคล้ากันอย่างต้องมนต์ ภายใต้เสียงเงียบของป่าใหญ่ ธรรมชาติกลับสร้างเสียงดนตรีขลับกล่อมประหลาดจากเหล่าสรรพสัตว์เหล่านั้น นี่หรือเวทย์มนต์ที่คุณชายแจนกำลังบอก

    “เราน่ะ... ชอบป่าที่สุด หากให้เลือกอยู่ที่ใดภายในโลก เราคงเลือกป่า” เสียงหวานจากคนข้างกายดังขึ้นมา ทำให้แจ็คสันลืมตาขึ้นพลางลอบมองเจ้าของใบหน้าหมวยที่ยังคไม่ยืมลืมเปลือกตาสีหวานคู่นั้นขึ้น หากแต่ยังคงรอยยิ้มสวยเอาไว้อยู่

    ยิ้มอย่างไรให้คนมองมีความสุขตาม

    “ป่าไม่ใช่ที่ ๆ เหมาะสมสำหรับคุณหรอกครับคุณชาย” ชายหนุ่มเอ่ยออกมา ไม่ใช่เพราะต้องการขัดแต่เขาพูดความจริง คุณชายสูงศักดิ์เช่นอีกคนหรือจะเหมาะกันสถานที่แห่งนี้ได้

    “เราไม่เหมือนราชนิกุลคนอื่นหรอกนะครับ”

    “...”

    “เราน่ะ... ก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น”

     

    ยามหน้าต่างของดวงหทัยเปิดขึ้นมาสบเข้ากับนัยน์ตาสีนิลคู่แกร่ง...

    ยามนั้น... ผีเสื้อภายในป่าใหญ่ก็บินล้อมรอบกายทั้งสอง....

     



     

    จากพงพนากลับเข้าสู่เมืองศรีวิลัย ค่ำคืนงานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อ หากแต่คุณชายตัวนั้นอยากจะกลับเสียแล้ว ถึงแม้จะมีอาหารหน้าตาน่ากินมากมาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้คุณชายตัวเล็กรู้สึกอยากอาหาร มันนับตั้งแต่ได้เห็นสายตาของหญิงสาวที่ยังคงจับต้องมายังสามีของตน

    “อยากกลับไหมคะคนดี” เสียงทุ้มของคนข้างกายเอ่ยถามอย่างรู้ทัน คุณแบมช้อนตามองท่านชายก่อนจะเม้มปากแน่นจนคนพี่เอื้อมมือมาลูบที่ริมฝีปากเล็กเพื่อให้น้องคลายออกกลัวว่าจะเจ็บ

    “มันดูเสียมารยาท คุณแบมไม่อยากให้คนมองพี่ชายมาร์คไม่ดี”

    “เด็กดี... พี่ไม่สนคนอื่นเลย ใครจะมองอย่างไรก็เรื่องของเขา คนที่พี่สนใจมีเพียงภรรยาของพี่เท่านั้น” ท่านชายกล่าวอย่างสัตย์จริง

    คุณแบมรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ได้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ พี่ชายมาร์คเป็นสามีที่ดีจนคุณแบมนึกอิจฉาตัวเอง แบบนี้คุณแบมถึงได้หวงคนข้างกาย พี่ชายมาร์คดีขนาดนี้คุณแบมไม่อยากแชร์ร่วมกับใครหรอก

    “คุณแบมอยู่ได้กระหม่อม” เป็นรอยยิ้มแรกจากคนตัวแรกสำหรับงานแห่งนี้ ท่านชายเองก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาทันที เพราะในที่สุดน้องก็ยิ้มให้ตนสักที แถมไม่ใช่รอยยิ้มที่เกิดจากการฝืนใจทำด้วย

    เชื่อใจพี่เถอะนะคะคนดี พี่ไม่มีทางทรยศใจน้องแบมเป็นอันขาด

    เรืออากาศเอกมกรธวัชเองก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจกับสายตาของหญิงสาวผู้นั้นรวมไปถึงเพื่อนของหล่อน รอยยิ้มหวานของอีกฝ่ายมันเคลือบด้วยยาพิษ เขาไม่ได้ตกหลุมเสน่ห์ของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย กลับกัน การกระทำและความคิดในทางที่ไม่ดีของอีกฝ่ายมันกลับเด่นชัด ท่านชายไม่ใช่คนโง่ เขามองคนออกว่ารายนั้นต้องการสิ่งใด

    ด้วยความที่ถูกปลูกฝังมาอย่างดีเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ของสามี พระองค์เจ้าเมทินผู้เป็นบิดาสั่งสอนมาตลอดว่าจงให้เกียรติคนรักเสมอ เด็จพ่อไม่เคยมีเมียอื่นนอกจากเด็จแม่ พระองค์มีความคิดต่างจากชายส่วนใหญ่ ความรักคือหนึ่งเดียวไม่สามารถแบ่งแยกใครได้ มากรักแลยิ่งมากเรื่องคล้ายไฟสุมครอบครัว โชคดีหน่อยก็คงราบรื่นเช่นครอบครัวภูวกุล หากโชคร้ายคนที่เป็นทุกข์คือคนที่ฝากชีวิตกับตนคนนั้น

    ชายผู้หนึ่งควรรับผิดชอบต่อความรู้สึกคนที่ฝากใจให้เราดูแล ไม่ใช่คิดถึงแต่ความสนุกส่วนตัว

    ซึ่งเขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้นแม้แต่น้อยเมื่อได้เจอคุณชายตัวเล็กผู้นี้

    “แต่พี่อยากกลับแล้วนี่คะ... พี่อยากกลับไปกอดน้องแบมจะแย่ อยู่ในงานแบบนี้ไม่สนุกเลยสักนิด”

    ท่านชายเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อน พลางจับมือเล็กมาแนบแก้ม ทำเอาคนตัวเล็กแทบอยากจะชักมือกลับเพราะใจเต้นไม่เป็นส่ำ ทำอะไรแบบนี้อีกแล้วนะคน ๆ นี้

    “ทำอะไรกันครับพี่ชายมาร์ค คนอื่นมองหมดแล้ว” คุณชายแบมแบมเอ่ยพลางซ่อนสายตาจากภายนอก ขนาดไม่มองยังรู้ว่าถูกสายตาอื่นจับจ้องอยู่แน่ ๆ เล่นทำอุกอาจขนาดนี้

    “บอกแล้วไงคะว่าพี่ไม่สนคนอื่น น้องแบมเองก็สนแต่พี่สิคะ”

    “ตะ แต่ว่านี่มันงานเลี้ยงนะครับ”

    “แล้วยังไงคะ พี่รักน้องแบมทุกที่บนโลกนั่นแหละค่ะ”

    “งื้อ พี่ชายมาร์คคค”

    “ขา...”

    เนี่ย เป็นแบบนี้อีกแล้ว ชอบทำคุณแบมร้อนไปทั้งหน้าตลอดเลย!!

    ท่านชายพอใจเป็นอย่างมากที่แสดงออกมาแบบนั้น คุณแบมอาจจะไม่ทันสังเกตุแต่สำหรับเขามันเป็นเรื่องง่ายนักที่จะมอง หญิงสาวคนนั้นหน้าเสียไปพอสมควร นอกจากนั้นยังระคนความสับสนเอาไว้มากเมื่อเห็นท่านชายกับคุณแบมณ เวลานี้

    ยังอยากจะทำอะไรอยู่ไหมทั้งที่เห็นกับตาแล้วว่าเขาทั้งรักทั้งหลงภรรยาแค่ไหน

    หากยังอยากหลอกตัวเองว่าสามารถเข้ามาแทรกกลางได้ คนที่มีความคิดน่ารังเกียจเช่นนั้นคงไม่อาจช้องเกี่ยวได้อีก... เชื่อเถอะถ้าหากว่ารายนั้นยังดันทุรังต่อไป เห็นทีท่านชายคงไม่อาจไว้หน้าผู้ใดได้ทั้งนั้น

    รอยยิ้มของคุณแบมคือสิ่งสำคัญ ใครมาพรากจากเขาไปผู้นั้นคือศัตรู

    หากอยากเป็นศัตรูกับตระกูลเทวะโรจนหิรัญแล้วนั้น... ท่านชายประทานให้อย่างสาสม







    เมืองริมทะเลสาบ ที่สวยที่สุดในโลก…!!! “ฮัลล์ทัทท์” (Hallstatt)  ประเทศออสเตรีย






    “ทำหน้าแบบนี้ อย่าบอกนะว่าพึ่งรู้น่ะ”

    เสียงของเพื่อนสนิทเรียกสติของคนตัวเล็กกลับคืนมา ปากบางเล็กที่อ้าค้างราวกับตกตะลึงหุบฉับก่อนจะเบะคว่ำลงอย่างแง้งอน เหตุผลคงหนีไม่พ้นภาพเจ้าคณะนักบินนั่น

    และแล้ววันนี้ก็มาถึง การเข้าค่ายของนักศึกษาแพทย์ปีหนึ่งเป็นเวลา 7 วันเต็มที่เมืองวารี เมืองแดนใต้ของแคว้น คุณชายตัวเล็กหอบหิ้วกระเป๋าใบใหญ่มาหนึ่งใบ อะไรหลาย ๆ อย่างทำให้คุณแบมเริ่มเจ้าใจแล้วว่าทำไมพี่ชายมาร์คไม่กลับมานอนที่วังเมื่อคืน ที่แท้ก็ไปเตรียมการใหญ่ที่ไม่ยอมบอกคุณแบมนี่เอง

    ดวงตากลมมองไปยังกลมมองไปยังท่านชายร่างสูงที่สวมชุดนักบินสีเขียว Seaweed ยืนตระหง่านท่ามกลางสายตาของหนุ่มสาวน้อยใหญ่ชวนเพ้อฝัน ใบหน้าเรียบนิ่งสุขุมช่างเป็นเสน่ห์หาจับได้ยากเสียจริง ซึ่งเพราะแบบนั้นมันทำให้คุณแบมหงุดหงิดขึ้นไปอีก

    “อ้าว ๆ หงุดหงิดอะไรครับคุณชาย” หม่อมหลวงคิมจับศีรษะทุยของเพื่อนสนิทโยกไปมา พร้อมกับยิ้มขำ  

    “คุณแบมหิว!!

    หงุดหงิดมากเลยดูออก เจ้าแมวน้อยนั่นกำลังพองขนขู่ แก้มสีชมพูดอ่อนเพราะอากาศเริ่มเย็นนั่นกำลังเริ่มแดงเพราะโมโห หิวอะไรล่ะ มือข้างหนึ่งถือขนมปัง อีกข้างถือขวดน้ำส้มอยู่แบบนั้น นี่เพื่อนหรือลูก คิมล่ะสงสัย

    “มัวแต่กินเดี๋ยวก็ขึ้นไม่เครื่องไม่ทันหรอก”

    “มีตั้งเครื่องบินตั้งสองลำไม่ใช่หรือไง”

    ถึงแม้จะจริงอย่างที่คุณแบมว่า มีเครื่องบินจากทางกองทัพอากาศมาถึงสองลำ ทั้งที่นักศึกษาแพทย์ปีหนึ่งถูกแบ่งเป็นสองเซค เซคละเพียง 15 คนเท่านั้น หากแต่กลับส่องเครื่องบินขนาดกลางมาถึงสองลำ คงจะเอาไว้ขนเครื่องมือแพทย์โดยเฉพาะ การเข้าค่ายครั้งนี้นับว่าเป็นการรับน้องครั้งสำคัญ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเรียนหมออีกหกปีที่จะมาถึง

    “ก็จริง บางทีอาจจะได้นั่งเครื่องบินส่วนตัวเลยก็ได้ มีนักบินประจำการขนาดนี้”

    “อย่าล้อคุณแบมนะคิม เอานี่ กินไปเลย!

    คุณชายตัวเล็กส่งขนมปังที่ทานเหลือในมือยัดปากของเพื่อนสนิทตัวโตเพื่อปิดปากของอีกฝ่ายซะ คุณแบมกำลังเคืองพี่ชายมาร์ค ไม่ต้องมาล้อคุณแบมให้เขิน เพราะอยากโฟกัสอยู่ที่อารมณ์ ๆ เดียว

    “อื้อ อะไอเอี่ย /(อื้อ อะไรเนี่ย)

    “เชอะ!

    ร่างเล็กสะบัดหน้าหนีเพื่อนอย่างแง่งอน หม่อมหลวงคิมโดนพาลซะแล้ว แต่แทนที่จะโกรธกลับอยากหัวเราะท้องแข็งกับท่าทีของอีกฝ่ายเสียจริง พี่ชายมาร์คก็นะ ทำไมไม่บอกเมียตัวเองดี ๆ ว่าจะมาเป็นนักบินให้ เพื่อนตัวดีของเขางอนตุ๊บป่องแล้วนั่นเห็นไหม

    “แค่ก โกรธสามีก็อย่ามาลงที่เพื่อนสิ”

    “คิมมมม”

    “ฮ่าๆ โอเค ๆ ไม่แกล้งแล้วครับ ป่ะ เอาของไปรวมกับคนอื่นเถอะ แล้วหอบอะไรมาเยอะแยะเนี่ย”

    ถึงปากจะบ่น แต่มือกลับเอื้อมมาดึงกระเป๋าสะพายของเพื่อนตัวเล็กไปถือไว้ คุณแบมยืนทำหน้ามึนอยู่พักหนึ่งก่อนจะวิ่งตามร่างสูงของเพื่อนสนิทไปเตรียมจะแย่งกระเป๋าคืนเพราะเกรงใจ แต่คิมก็ไม่ปล่อยให้มันเป็นไปโดยง่าย สุดท้ายคนที่เกิดมาเตี้ยกว่าก็ต้องพึ่งเพื่อนสนิทอยู่ดี

    “นักศึกษาปีหนึ่งเตรียมขึ้นเครื่องได้เลยนะคะ พี่เลี้ยงเช็คชื่อน้องให้เรียบร้อยพร้อมแจกป้ายห้อยคอด้วย”

    เสียงของศาสตราจารย์แพทย์หญิงโชอาดังขึ้น ทำให้ทุกคนเริ่มทยอยไปต่อแถว รวมถึงคนตัวเล็กของท่านชายมาร์คด้วย ท่านชายจ้องมองไปยังภรรยาตัวเล็กที่เชิดหน้าใส่เขาตั้งแต่พบเจอก็ยกยิ้มมุมปากระคนเอ็นดู สงสัยเขาคงถูกน้องงอนเข้าให้แล้วที่ไม่ยอมบอกความจริง แต่ด้วยต้องทำหน้าที่ก่อนถึงไม่สามารถเข้าไปง้องอนน้องตอนนี้ได้

    ว่าที่คุณหมอตัวน้อยยืนอยู่ด้านหน้าของเพื่อนสนิท มือน้อยรับป้ายคล้องคอที่มีชื่อของตนเองมาคล้องไว้ก่อนจะต่อแถวเพื่อขึ้นเครื่องบินแต่ต้องผ่านนักบินด้วยเนื่องจากเป็นธรรมเนียมที่นักศึกษาต้องทำความเคารพทหารที่เสียสละมาทำหน้าที่ให้ คนตัวเล็กไม่หน้าหงิกลงเมื่อกำลังจะเดินทางร่างสูงใหญ่ของสามี

    “ทานยังไงคะ ปากเลอะหมดเลย” เพราะคุณแบมกับคิมเป็นคนสุดท้ายเลยทำให้ท่านชายสามารถสกัดภรรยาตัวน้อยได้ก่อนขึ้นเครื่องบิน แต่นั่นใช่ว่าจะรอดพ้นสายตาของผู้อื่นได้ มือใหญ่รวบแขนเล็กเอาไว้เพื่อดึงข้างตัว ก่อนจะเช็ดเศษขนมปังข้างแก้วใสของคนตัวเล็กออก

    ก็รู้อยู่หรอกว่าเหมาะสมกัน แต่ช่วยอย่างหวานให้อิจฉาตาร้อนจะได้ไหม

    “งื้อ คุณแบมจะขึ้นเครื่อง”

    น้องเบี่ยงตัวหนี แก้มกลมพองจนอยากจะหยิกสักทีแต่ก็กลัวว่าเมียจะเจ็บ ท่านชายได้แต่ยิ้มที่มุมปากจนเพื่อนที่มาร่วมบินด้วยมองแล้วนึกหมั่นไส้ขึ้นมา ท่านชายผู้นี้เคยยิ้มเสียทีไหน นอกจากตีหน้านิ่งแล้วน่ะ พออยู่ต่อหน้าศณีภรรยาก็กลายเป็นคนละคน

    นายทหารเหล่านักบินต่างพากันลอบมองภรรยาคนสวยของท่านชายด้วยสายตาที่ล้วนแล้วแต่ริษยาความโชคดี ใยมีเมียน่ารักปานนี้ ถึงว่าล่ะ พักนี้ฟิตวิ่งรอยกองทัพไม่เว้นวัน

    มีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกายสินะ

    “ฮึฮึ... โอเคค่ะ”

    ท่านชายยอมปล่อยมือจากแขนเล็ก เมื่อเห็นว่าน้องนั้นกำลังโมโห เจ้าแมวน้อยของเขากำลังพองขนฟูชวนมองแล้วใจสั่นไหว ท่านชายไม่อยากให้เจ้าพวกทหารเพื่อนของตนมองภรรยาเขาไปมากกว่านี้แล้ว จะว่าหวงก็ไม่แปลก

    “เชอะ”

    ยังจะมาเชอะใส่กันอีก เฮ้อ... น่ารักเกินไปแล้ว

     

    สวรรค์แดนใต้คือสายวารีที่กว้างใหญ่ไพศาล แม้เมืองวารีจะเป็นเมืองชนบทห่างไกลความเจริญ หากแต่เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความสวยงามชวนมาพักผ่อนให้คลายเหนื่อย ปีนี้ทางมหาวิทยาลัยเลือกสถานที่เอาใจว่าที่คุณหมอเสียจริง นานแล้วที่คุณแบมไม่ได้มาเยือนทะเล ครั้งสุดท้ายก็กว่าห้าปีแล้ว

    แต่ต้องยอมรับเลยว่าวิถีชีวิตของชาวเมืองวารีนั้นน่าหลงใหล บ้านแต่ละหลังถูกสร้างบนเนินเขาริมทะเล ซ้อนต่อไปสามชั้นสามขั้น บางหลังมองแล้วแทบจะกลืนกินไปกับธรรมชาติ ชาวบ้านอาศัยร่วมกับธรรมชาติโดยไม่เบียดเบียนท้องทะเล ทำการประมงด้วยวิถีตัวเองไร้เทคโนโลยี ทำให้ท้องทะเลที่นี่ยังคงสวยงามอย่างที่ควรเป็น

    ด้วยเพราะพึ่งเดินทางมาถึง คณะอาจารย์จึงให้เหล่านักศึกษาแพทย์นับ 30 คนนำของไปวางที่บ้านพักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีอนามัยของหมู่บ้าน เมืองเล็ก ๆ อย่างเมืองวารีไม่ได้มีโรงพยาบาลใหญ่โตคล้ายในเมืองหลวง มีพเยงสถานีอนามัยเล็ก ๆ อยู่กลางหมู่บ้านเท่านั้น ส่วนแพทย์ก็มีเพียงแพทย์อาสาใจบุญเพียงสองคน แถมใกล้เลยวัยกลางคน คุณแบมรู้สึกเห็นด้วยอย่างมากหากทางมหาวิทยาลัยจะจัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้นที่เมืองแห่งนี้ในปีต่อ ๆ ไป สถานที่ขาดแครนบุคลากรทางการแพทย์เช่นนี้ควรได้รับการอนุเคราะห์

    “เราดูแลซุ้มที่ 5 นี่ เป็นซุ้มอะไรนะคุณแบม” หม่อมหลวงคิม รูมเมทชั่วคราวของคุณแบมเอ่ยถามหลังจากเดินเข้ามายังห้องของทั้งคู่

    นักศึกษาแพทย์ต้องจับคู่เพื่อแบ่งที่นอน สถานที่พักแรมของเหล่านักศึกษาแพทย์เป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ทรงสูงเรียงกันเกือบ 30 เต็นท์ซึ่งชาวบ้านได้เข้ามาช่วยจัดเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนที่มาช่วยเหลือตัวเอง นอกจากมาทำการตรวจสุขภาพและรักษาพวกเขาแล้ว ทางมหาวิทยาก็ยังร่วมลงทุนเตรียมจัดสร้างโรงพยาบาลขนาดกลางให้เมืองอีก

     ส่วนเรื่องซุ้ม กิจกรรมของค่ายนักศึกษาแพทย์แบ่งออกเป็น 5 เพื่อแบ่งนักศึกษาไปดูแลอาการต่างกันไป

    ซุ้มแรกสำหรับซุ้มเด็ก อายุแรกเกิดถึง 12 ขวบ มีอาจารย์แพทย์กุมารฯ เป็นแม่ซุ้ม

    ซุ้มที่สอง อายุรกรรม

    ซุ้มที่สาม ศัลยศาสตร์

    ซุ้มที่สี่ สูตินารีเวช

    และซุ้มที่ห้า เวชศาสตร์ฉุกเฉิน

    เวชศาสตร์ฉุกเฉินเป็นซุ้มที่น่าจะยุ่งที่สุดเพราะคือจำลองห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล คนเจ็บป่วยคละแพทย์คละอายุต่างจากซุ้มอื่นที่เป็นเฉพาะทาง แต่ถึงอย่างนั้นคุณแบมก็ไม่เกี่ยงที่จะช่วยเหลือและทำงานภายในซุ้มนี้เพราะจะได้เรียนรู้มากมาย เพราะถึงอย่างไรซะปีหนึ่งก็ยังไม่ได้เข้ามาจัดการอะไรมากเนื่องจากพึ่งเข้าเรียน เพียงช่วยเล็กน้อยเท่านั้น เช่นเดียวกับซุ้มอื่นก็ทำแบบนี้

    การได้ศึกษาจากคนที่ปฏิบัติจริงด้วยตาตัวเอง ถึงแม้คุณแบมจะเสียดายเพราะอยากเข้าซุ้มศัลยศาสตร์มากกว่าก็ตาม คุณแบมฝันอยากเป็นหมอที่ผ่าตัดเก่งที่สุดในแคว้นหิมาลายัน

    “เวชศาสตร์ฉุกเฉินอ่ะ”

    “อ่อ... อาจารย์หมอคุณเป็นแม่ซุ้ม เอะ... หรือต้องเรียกพ่อซุ้ม?”

    “พูดอะไรของคิมก็ไม่รู้ รีบเก็บของสิมัวชักช้าเดี๋ยวก็ไปไม่ทันหรอก”

    “คร้าบบบ”

    สองเพื่อนซี้เก็บของเสร็จจึงเดินออกมาจากที่พักเพื่อตรงไปยังซุ้มที่ตนดูแล จะว่าไปอาจารย์หมอคุณเป็นอาจารย์คนใหม่ที่คุณแบมยังไม่เคยเจอเลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าจะใจดีไหม

    คนตัวเล็กได้แต่แอบกังวลใจเพราะกลัวว่าอาจารย์คุณคนนั้นจะดุ หากแต่เพื่อนสนิทของคุณชายกลับคิดต่าง ดูเหมือนบางทีนี่เมืองวารีอาจเกิดสงครามขึ้นก็ได้ใครจะรู้

    ถ้าหากท่านชายผู้นั้นรู้เรื่องเข้าน่ะนะ :)







    PresentYou MarkTuan??‘? #GOT7_Miracle | ศิลปิน, สไตล์ผู้ชายแจ็คสัน | สามีในอนาคต


    ---100%---



    หลังจากนี้จะไม่ได้อัพทุกวันเช่นเคยแล้วนะคะ 
    กำลังปั่นเรื่องนี้ให้จบแล้วจะทำอีบุ๊ค ต้องทำหลายอย่างเลยล่ะ 
    แต่ไรท์อัพจนจบเรื่องค่ะไม่ต้องห่วง จะมีตอนพิเศษที่ไม่ได้อัพเพราะจะลงในอีบุ๊คเท่านั้น
    ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ 
    20/05/63


    *--*
    ตอนที่แล้วเดือดกันหลายคนเลย ความจริงผู้หญิงแบบไอรีน ปัจจุบันมีมากเลยนะคะ แบบแค่ถูกใจก็อยากได้ของคนอื่น เบื้องหลังคนเหล่านี้ล้วนมีปมในใจทั้งนั้น ตัวละครแต่ละตัวมีเหตุและผลของการกระทำของตัวเอง ค่อยๆ คลี่คลายและเรียนรู้ไปพร้อมกันนะตัว 
    18/05/63

    เรื่องนี้ไม่ดราม่ามากจ้า แค่เพิ่มสีสันให้นิยาย 
    ไม่ต้องซีเรียจน้า นิยายไรท์ Feel Good 




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×