ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] [Mpreg] Royal Gentlemen #สุภาพบุรุษมบ (MarkBam)

    ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 14 ❁ หน้าที่ของสามี 100% ❁

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 63


    ตอนที่ 14

    เนติเซน: เมื่อรูป 2 ปีที่แล้วของ ไอรีน กลายเป็นไวรัลในวันวาเลนไทน์

    ท่านชายไม่รู้ว่าน้องเป็นอะไร ถึงได้ตวัดตามองเขาเสียอย่างนั้น  แต่พอเห็นน้ำตาที่เอ่อคลอของน้องแล้วยิ่งรู้สึกผิด หรือว่าคุณแบมจะโกรธพี่ที่ทำรัก(?) เอาแต่ใจเกินไป

    “พี่ขอโทษ เจ็บมากไหมคะ”

    ถามมาได้ว่าเจ็บมากไหม สภาพคุณแบมพร้อมแอดมิดขนาดนี้ยังต้องถามอีกหรือ แต่ถึงอย่างนั้นพอได้กลิ่นอาหารหอมกรุ่นที่ลอยมาก็ทำให้คนเห็นแก่กินถึงกลับท้องร้อง แต่เพราะขยับไม่ได้จึงได้แต่ช้อนตามองตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้แทน

    ไม่อยากพูดกับอีกคน แต่พอเห็นสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยของร่างสูง ใจดวงน้อยก็อ่อนยวบแล้ว มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด คนที่เคยเอาแต่ใจแบบคุณแบมทำไมถึงได้โกรธคนตรงหน้าได้ไม่นานทั้งที่พี่ชายมาร์คเป็นคนไม่ดี

    เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แก้มใสก็เปลี่ยนสี มือเล็กดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงเพราะไม่อยากให้ท่านชายเห็นความเขินอายของตน

    “...”

    “น้องแบมขา เดี๋ยวหายใจไม่ออกนะคะ”

    นี่ก็ด้วย ตั้งแต่เมื่อคืนท่ายชายผู้นี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนวิธีการเรียกเขาอีกเลย แต่คงห้ามอะไรอีกคนไม่ได้ คุณแบมไม่เคยชนะท่านชายได้หรอก

    แต่ถึงอย่างนั้นคนตัวเล็กภายใต้ผ้านวมขนาดใหญ่ขยับยุกยิกเล็กน้อยด้วยเพราะร่างกายไม่เอื้อดอำนวยจึงทำได้เพียงเท่านี้ เดิมทีก็ตั้งใจว่าจะไม่เอ่ยปากพูดกับอีกคนสักเท่าไหร่นัก แต่ความหิวมันสำคัญที่สุดเสมอ

    “คุณแบมอยากให้แม่เล็กมาดูแล”

    หมายความว่าไม่ต้องการท่านชายนั่นเอง แต่มีหรือที่คนพี่จะยอม ท่านชายฟังเสียงอู้อี้ของน้องแล้วยิ้มเหมือนคนบ้า ทั้งที่น้องงอแงใส่ขนาดนี้ยังไม่โกรธเลย

    “แม่เล็กไม่ว่างค่ะ คนอื่นก็ไม่ว่าง”

    แล้วทำไมพี่ชายมาร์คต้องว่างด้วย!

    คุณแบมได้แต่เข่นเขี้ยวภายในผ้านวม ดูก็รู้ว่าอีกคนจงใจโกหก แม่เล็กหรือจะปฏิเสธเขาถ้าหากต้องการ เพราะพี่ชายมาร์คขี้ตู่เองเสียมากกว่า

    “...”

    “โจ้กหมูใส่ไข่สองฟองด้วยนะคะ ไม่รีบทานไข่สุกหมดนะ”

    รู้ด้วยว่าคุณแบมชอบทานไข่แบบเยิ้ม ๆ แอบสังเกตมาตั้งแต่เมื่อไหร่

    เพียงการใส่ใจเล็ก ๆ แต่กลับสร้างมวลความอบอุ่นมหาศาลขึ้นมาได้ คุณแบมยอมเปิดผ้านวมออก ดวงตากลมเสมองไปยังร่างสูงที่นั่งอยู่บนพื้นข้างเตียงอย่างไม่ถือตัว หม่อมเจ้าชายตรงหน้าส่งยิ้มละมุนมาให้ ก่อนจะโน้มตัวลงมาขโมยหอมแก้มคุณแบมไปหนึ่งที ทำเอาอยากจะมุดกลับไปในผ้าห่มเลย

    “คุณแบมหิวแล้ว...” คุณชายน้อยแห่งวังภูวกุลเอ่ยเสียงอ้อมแอ้ม แต่แก้มกลมยังคงสีแดงไว้อยู่ ท่านชายเองก็ไม่รีรอ ยกถาดอาหารมาวางใกล้ ๆ เพื่อป้อนน้องได้อย่างถนัด โชคดีจริงเชียวที่คุณแบมเป็นคนส่วนน้อย ปกติคนป่วยจะไม่อยากอาหารทานได้น้อย แต่ดูภรรยาเขาสิ ตื่นขึ้นมาก็หิวเสียแล้ว

    ต้องขอบคุณคุณอาหารที่ทำให้คุณแบมคลายความโกรธที่มีต่อเขาบ้าง

    คุณแบมเองก็ขยับลุกขึ้นนั่งพิงพนักเตียงได้เองก่อนที่ท่านชายจะลุกขึ้นมาช่วยพยุงเสียอีก นั่นเป็นเพราะความหิวเข้าครอบงำ ดีที่รอบสุดท้ายถูกท่านชายป้อนยาแก้อักเสบไว้ล่วงหน้าถึงได้เจ็บน้อยกว่าที่เป็น ถึงแม้จะเจ็บมากอยู่ก็ตามแต่ถ้าไม่ได้ยาจากท่านชายคงจะเป็นหนักกว่านี้ ร่างน้อยจ้องมองคนพี่ตาแป๋ว รอรับอาหารจากการป้อนของอีกคน ท่านชายเมื่อถูกความน่ารักพุ่งเข้าชน มีหรือจะปฏิเสธไหว รีบตักโจ้กป้อนแทบไม่ทัน

    “ทานเยอะ ๆ เลยนะคะ ถ้าไม่พอพี่จะไปตักมาให้อีก”

    “...”

    คุณชายตัวเล็กที่เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นเพราะได้ทานของอร่อยก็พยักหน้างึกให้คนพี่พลางส่งยิ้มให้ ราวกับว่าลืมเรื่องที่ตั้งใจไปเสียหมด ไหนว่าจะโกรธคนพี่ พอเจอได้ทานก็นึกอะไรไม่ออกเสียแล้วคนตัวเล็ก

    และก็เป็นอย่างที่ท่านชายคิดไว้จริง ๆ โจ้กถ้วยเดียวไม่สามารถห้ามความอยากอาหารของคนป่วยได้ ช่างเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับท่านชาย แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะน้องจะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น คุณชายคนเล็กของวังภูวกุลไม่เพียงบอกว่าต้องการเพิ่มอีก แต่ยังไม่วายวานขอของหวานจากแม่เล็กเป็นของแถม ซึ่งคนตามใจภรรยาอย่างท่านชายหรือจะขัด

    มื้อเช้าที่ทานเกือบบ่ายของคุณแบมจบลงด้วยโจ้กถ้วยที่สองแถมเครปสตอเบอรี่ คนป่วยอิ่มท้องจนไม่งอแงมื่อท่านชายมอบยาต่าง ๆ ให้ทาน เดิมทีคุณแบมก็ไม่ค่อยชอบทานยาหรอก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะดื้อยาอะไร ยิ่งอารมณ์ดีก็ยิ่งว่านอนสอนง่าย คงเพราะถูกท่านย่าสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก

    ท่านชายยังไม่ยอมให้น้องนอนเพราะอยากให้นั่งย่อยก่อน ซึ่งเป็นเรื่องเดียวที่อยากจะงอแงเพราะง่วง หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนเป็นธรรมดา แต่เพราะเรียนหมออยู่ถึงได้รู้ว่ากรดไหลย้อนไม่ใช่เรื่องตลก

    “หายโกรธพี่แล้วใช่ไหมคะ”

    ท่านชายเอ่ยถาม ขณะนั่งลงที่พื้นข้างเตียงฝั่งคุณแบมอีกครั้ง คนตัวเล็กลอบมองร่างสูงที่นั่งเกยคางไว้ที่มือของตนเอง ทำตัวน่ารักไม่ดูหน้าตาตัวเองสักเท่าไหร่

    “ถึงอย่างไรคราวหลังคุณแบมจะไม่ยอมพี่ชายมาร์คอีกแล้ว”

    “ไม่ได้สิคะ ลงโทษแบบนี้พี่ก็แย่สิ”

    คนหื่น พี่ชายมาร์คที่สุขุมคนนั้นหายไปแล้ว

    คุณแบมแก้มขึ้นสีไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ของวัน เพราะผู้ชายคนนี้ ภาพร้อนแรงที่กระทำกันไหลย้อนกลับเข้ามาราวกับหนังกำลังฉาย กว่าจะได้นอนก็เช้าวันใหม่เลยด้วยซ้ำ พวกทหารนี่อึดแบบนี้กันทุกคนเลยใช่ไหม เพราะแบบนี้ไงคุณแบมจะไม่ยอมพี่ชายมาร์คอีกแล้ว

    “แย่ไปเลย คนนิสัยไม่ดี”

    “อย่ารังแกกันเลย พี่ยอมทุกอย่าง แต่ถ้าไม่ได้ทำรักกับน้องแบม...”

    “งื้อออ อย่าพูดนะ”

    พี่ชายมาร์คหน้าไม่อาย ทำไมถึงได้พูดเรื่องแบบนี้ออกมาหน้าตาเฉย คุณชายแบมแบมหันหน้าหนีคนพี่เพื่อหลบซ่อนไอร้อนบนใบหน้า ทำรักอะไรกัน พูดออกมาได้ไงเนี่ย

    “คุณแบมสัญญากับพี่ก่อนสิคะ... อย่าใจร้ายกับพี่เลย”

    งื้อ... อย่ามาตื้อคุณแบบนะ!

     




    อาทิตย์อัสดงลับฟ้าหายไปทดแทนด้วยฟ้าสีทมิฬ แสงสีจากงานเลี้ยงณ คฤหาสน์หลังใหญ่ตระกูลนายพลระดับสูง มีจัดงานเลี้ยงสำคัญต้อนรับลูกสาวคนเก่งที่พึ่งบินลัดฟ้ากลับมาหลังจากเรียนจบ

    ชายหนุ่มสองคนเดินเคียงคู่กันมา สวมชุดสูทสีกรมคล้ายกัน หนึ่งคนร่างเล็กนุ่มนิ่มเป็นเจ้าของใบหน้าสวย ผิวขาวนวลขับสีสูท ข้างกายคือร่างสูงใหญ่เจ้าของใบหน้าคมคาย ท่านชายยศเรือทหารเอกผู้มีใบหน้าเรียบนิ่งยามมองรอบกาย หากแต่กับคนข้าง ๆ กลับได้ครอบครองรอยยิ้มแสนอบอุ่น

    ด้วยเพราะท่านหญิงม่านฟ้าล้มป่วยจากการดื้อรั้นของพระองค์เดินไปตากน้ำค้างตอนย่ำรุ่งจึงเกิดเป็นไข้ ทำให้คนที่ต้องมางานเลี้ยงของคุณหญิงสิณีก็คือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและลูกสะใภ้คนโปรด

    โชคดีที่คุณแบมหายจากอาการป่วยทัน เพราะมันก็ผ่านมาเกือบสามวันแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นท่านชายก็พยายามหลอกกินเล็กกินน้อยน้องเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้มากไปกว่าขโมยจูบกับลูบคลำเล็กน้อย...

    คุณแบมบอกแล้วว่างด คนเกรงใจเมียอย่างท่านชายหรือจะทำสิ่งใดได้

    “คุณแบมอยากทานอะไรไหมคะ” ท่านชายเอ่ยถามภรรยาตัวเล็ก ที่รอบมองสิ่งรอบข้างอย่างประหม่า คุณแบมเป็นแบบนี้ แต่เพราะมีอาหารน่าอร่อยเต็มไปหมด คนตัวเล็กจึงเบาใจลงได้

    ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมงานเลี้ยงนี้ถึงได้มีแต่อาหารจำพวกคอกเทล เพราะแบบนั้นก็แสดงว่าท่านชายคงเป็นฝ่ายไปหยิบมาให้แน่เพียงน้องรีเควสมา แต่คุณแบมไม่อยากอยู่คนเดียวนี่นา

    “คุณแบมไปเลือกด้วยนะครับ” น้องช้อนตามองคนพี่ราวกับจะอ้อน

    “ฮึ... ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเราไปสวัสดีเจ้าภาพก่อนนะคะ”

    ร่างสูงเดินกุมมือน้อยไปด้วยกัน มองดูแล้วช่างเหมาะสมกันยิ่งกว่าอะไร ด้วยเพราะงานแต่งงานระหว่างบุตรของสองตระกูลดังเป็นที่รู้จักกันดีในแคว้นแต่ก็มีเพียงไม่กี่งานที่ทั้งคู่ออกงานด้วยกันเพียงลำพัง

    เรืออากาศเอกยศหม่อมเจ้าเดินจูงมือภรรยาคนสวยตรงไปยังครอบครัวเจ้าภาพซึ่งยืนรับแขกอยู่ ร่างระหงส์ของลูกสาวนายพลดูสวยสง่าหยุดสายตา เธอสวมชุดราตรีฟูฟ่องสีครีมยืนเรียบร้อยอยู่ข้างกายมารดาและบิดา หญิงสาวแอบชำเรืองมองชายร่างสูงเจ้าของฉายาสิงห์อากาศหนุ่มที่เพื่อนในกลุ่มเพ้อหา บัดนี้ได้เจอด้วยตาตัวเองถึงเข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายหล่อเหลาถึงเพียงไหน ใจของเธอเต้นแรงมากเสียแล้ว

    “เป็นพระกรุณาเหลือเกินที่ท่านชายเด็จมาด้วยตนเอง” ท่านนายพลเอ่ยทักทายท่านชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเป็นกันเอง ท่านรู้สึกนับถือในความสามารถของท่านชายผู้นี้ ทั้งที่อายุยังน้อยแต่กลับได้มีความสามารถเทียบยศกับตนที่แก่คราวพ่อ เดิมทีก็วาดฝันไว้อยากได้มาเป็นเขยคู่เรือน แต่พอได้เห็นคนที่อีกฝ่ายจูงมือมาด้วยก็นึกเสียดายที่ท่านชายนั้นไม่โสดอีกต่อไปแล้ว

    แต่สำหรับในแคว้น ชายหนึ่งผู้สามารถมีภรรยาได้มากกว่าหนึ่ง ท่านนายพลลอบมองบุตรีของตนที่ดูท่าจะถูกใจท่านชายมาร์คไม่น้อย หากท่านชายทรงมีใจให้กับลูกเขาคงดี

    “พระองค์เจ้าและท่านหญิงไม่ได้มาด้วยหรือเพคะ” คุณหญิงเอ่ยถามเมื่อเห็นเพียงทั้งสองคน

    “เด็จพ่อยังคงติดภาระงานอยู่แคว้นเหนือ ส่วนเด็จแม่เองก็ล้มป่วยจึงมาด้วยไม่ได้” ท่านชายตอบอย่างสุขุม

    “ตายจริง พระองค์ทรงเป็นอย่างไรบ้างเพคะ”

    “แค่ป่วยไข้เท่านั้น ทรงฝากคำยินดีมาให้ด้วย ยินดีด้วยนะครับ”

    ท่านชายเอ่ยเพียงสั้น ๆ พลางมองไปยังหญิงสาวเพียงผู้เดียวตามมารยาท เพราะงานนี้จัดขึ้นเพื่อเธอ หญิงสาวเมื่อถูกกล่าวด้วยก็เกิดท่าทีเหนียมอาย แก้มของเธอผู้นั้นแดงปลั่งเสียจนบิดาและมารดายิ้มตาม หากแต่ท่านชายนั้นไม่ได้สนใจเลยสักนิด เพราะจู่ ๆ มือเล็กที่ตนกุมอยู่ก็บีบแน่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น

    คุณแบมเห็นสายตาที่ผู้หญิงคนนั้นมองพี่ชายมาร์คตลอด คล้ายคนกำลังเสน่หา คนตัวเล็กรู้สึกไม่ดีกับสายตาของอีกฝ่ายเลยสักนิดจึงเผลอกำมือของท่านชายแน่นคล้ายเด็กกำลังหวง...

     นี่สามีของคุณแบมนะ.... มองแบบนี้ไม่ได้เสียหน่อย






    นี่คงเป็นคุณชายกันต์พิมุกภรรยาท่านชาย” แม้จะจะรู้อยู่แล้วแต่ก็แสร้งถามออกไป ท่านนายพลลอบมองใบหน้าเล็กที่ค่อมหัวให้เขาอย่างนอบน้อม ใบหน้าของภรรยาท่านชายจัดว่าสวยและน่ารักมาก แต่ลูกสาวเขาก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่า ชายวัยกลางคนมองว่ามันอาจจะมีสิทธิ์ลุ้น ตัวเขาเองก็มีภรรยาถึงห้าคน คุณหญิงที่เป็นภรรยาเอกซึ่งพาออกงานก็เป็นเมียที่แต่งมาถึงอันดับที่ 2 เพราะฉะนั้นจะแต่งก่อนแต่งช้าก็ไม่ได้เป็นตัววัด มันขึ้นอยู่กับตัวท่านชายเองต่างหากว่าพอใจใครที่สุด

    “ยินดีด้วยเช่นกันนะครับ” คุณแบมเอ่ยอย่างสุภาพ ถึงแม้ภายในใจจะรู้สึกไม่ค่อยดีนักกับสายตาของครอบครัวนี้ แต่คุณแบมก็แยกแยะได้ หม่อมยายสั่งสอนคุณสมบัติที่ดีของคุณชายให้แก่เขาเสมอ แม้จะไม่ชอบออกงานสังคมแต่คุณแบมก็วางตัวเป็น

    “ได้ยินว่าคุณชายเรียนหมออยู่หรือคะ” คุณหญิงเอ่ยถาม

    “ใช่ครับ พึ่งเรียนอยู่ปีหนึ่ง”

    “แหม เก่งจังเลยนะคะ แต่พึ่งปีหนึ่งเอง...”

    ถึงแม้จะพูดไม่จบ แต่สายตาของคุณหญิงสิณีก็ทำให้รู้แล้วว่าคิดอะไรอยู่ คงจะหมายถึงเรื่องที่เขาแต่งงานทั้งที่อายุยังน้อย คุณแบมเม้มปากแน่นไม่รู้จะตอบกลับไปอย่างไร ต่างจากท่านชายที่เริ่มเปลี่ยนพระพักตร์ รอยยิ้มการค้าของพระองค์หายไปเหลือไว้แต่ความเย็นชา ตาเรียวคมดำทมิฬไร้เงา อยากจะหยั่งรู้ความคิดข้างใน

    ท่านนายพลเป็นคนเดียวที่เข้าใจสถานการณ์เมื่อเห็นใบหน้าของชายตรงหน้าที่เปลี่ยนไปเพราะคำพูดของภรรยาเอกตนก็รีบแก้สถานการณ์ทันทีก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายไม่เป็นไปตามที่ตนต้องการ

    “ทั้งสองได้ลองทานอะไรหรือยังเล่า วันนี้มีของทานมากมายหนัก หวังว่าจะถูกปาก”

    คุณหญิงเสตามองสามีอย่างไม่ค่อยพอใจที่เคยขัดกัน เธอแค่อยากปูทางให้ลูกสาวตัวเอง เพราะบุตรีของเธอเองก็เรียนจบมาสูง แถมอายุก็ถึงวัยแก่การออกเรือนแล้ว ยังไงซะคุณชายคนนั้นหรือจะเทียบได้ หมอก็เรียนออกจะยาก จะจบหรือเปล่าก็ไม่รู้ หากท่านชายพลไม่เอ่ยตัดบทออกมาก่อน ป่านนี้เธอคงได้โฆษณาลูกไปแล้ว

    “หิวแล้วใช่ไหมคะ” ท่านชายก้มถามภรรยาตัวน้อย สีหน้าและน้ำเสียงต่างจากเดิมมากโข ดูก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายมองคนตัวเล็กด้วยสายตาแบบไหน คุณชายตัวเล็กเมื่อถูกถามก็หยักหน้าตอบอย่างยอมรับ ถึงแม้ความจริงแล้วเขาต้องการจะออกจากไปที่นี่ให้เร็วที่สุดก็ตาม

    “ให้ไอรีนพาไปไหมคะ”

    คุณหญิงดันหลังลูกสาวให้เข้าใกล้ หวังจะทำให้ท่านชายเชยชมลูกตนให้ชัดขึ้น ร่างสูงปรายตามองผู้หญิงตรงหน้าเพียงเล็กน้อย ไม่ได้สนใจท่าทีเหนียมอายของอีกฝ่าย เพราะคนเดียวที่เขาสนใจก็คือภรรยาตัวเล็กเท่านั้น

    ไอรีน หรือไอรดา หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสะสวยช้อนตามองร่างสูงของท่านชาย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหาได้สนใจตนและเอาแต่มองคุณชายคนนั้นก็ได้แต่ยิ้มเจื่อน ทั้งที่ตั้งใจจะยิ้มหวานให้กับอีกฝ่าย

    เธอยอมรับว่าเธอพอใจในอีกคนมาก หัวใจของเธอไม่เคยเต้นแรงกับใครเท่าคน ๆ นี้มาก่อน หญิงสาวมั่นใจว่าอีกไม่ช้า จะต้องเป็นเจ้าของแววตาอบอุ่นนั่นบ้าง

    “ไม่เป็นไร เราไม่รบกวน” ท่านชายเอ่ยเสียงเรียบ ร่างสูงประเมินสายตาของครอบครัวนี้แล้วว่าคิดอย่างไร เขาไม่มีความจำเป็นเลยที่จะทำให้เรื่องมันยุ่งยาก ยิ่งกับเรื่องที่ทำให้ภรรยาของตนรู้สึกไม่ดียิ่งไม่คิดจะก้าวเข้าไป เห็นทีคงไม่สามารถสนองความต้องการให้กับคนเหล่านี้ได้

    เมื่อถูกปฏิเสธ หญิงสาวผู้เดียวก็ยิ่งหน้าเสีย เหลียวมองบิดามารดาตน ซึ่งท่านนายพลก็ยังคงนิ่งอยู่ไม่แสดงท่าทีใด ๆ ต่างจากคุณหญิงที่ชักสีหน้าไม่พอใจออกมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากหว่านล้อมด้วยวิธีอื่น

    “ในงานมีแต่คนอายุ เยอะๆ ให้น้องไปด้วยเถอะค่ะ อยู่กับคนรุ่นเดียวกันอาจสบายใจกว่า ดูท่าคุณชายก็คงอึดอัดกับบรรยากาศไม่น้อย”

    ที่อึดอัดนั่นเป็นเพราะสถานการณ์ตอนนี้ต่างหาก

    คุณแบมได้แต่คิดในใจ คุณหญิงผู้นี้เป็นบุคคลที่รับมือยาก คุณแบมไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนเลยไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ต่างจากท่านชายที่เข้าใจเจตนาของคนพวกนั้นดี

    “ขอบคุณน้ำใจของคุณหญิงมาก แต่เราไม่ขอรบกวนดีกว่า เผื่อมีแขกคนอื่นมาทักทายจะได้ไม่เสียเวลาเดินไปเดินมา”

    “แต่ว่า...”

    “เอาน่าคุณหญิง ท่านชายบอกว่าไม่ก็คงไม่แล้วล่ะ ยังไงก็ของพระทัยมากนะกระหม่อมที่มารวมแสดงความยินดีด้วย”

    ท่านนายพลเอ่ยขัดภรรยาตนเพื่อไม่สร้างบรรยากาศไม่ดีเพิ่มขึ้น เพราะดูจากการคำพูดของท่านชายก็รู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ท่านชายผู้นี้คงเชื้อไม่ทิ้งแถว เพราะแต่เดิมทีพระองค์เจ้าท่านก็มีเพียงภรรยาเดียว คงปลูกฝังมาเป็นอย่างดี แถมเงานัยน์ตาคมนั่นก็ไม่สะท้อนให้เห็นถึงผู้ใดนอกเสียจากคนข้างกาย ถ้าขืนตื้อไปมาก ๆ กลัวว่าจะกลายเป็นบาดหมางกันเสียก่อน

    น้ำมันต้องค่อยๆ เซาะหินไปเรื่อย ๆ สิถึงจะถูก

    เมื่อเห็นว่าเป็นดังนั้น ท่านชายจึงพาคุณแบมเดินจากมา น้องมีสีหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฝ่ามือเล็กที่กุมกันอยู่ก็คลายความแน่นลง คนตัวเล็กรู้สึกดีที่พี่ชายมาร์คปฏิเสธความหวังดีของคุณหญิงสิณี เพราะคุณแบมไม่ไว้ใจสายตาของผู้หญิงนั้น

    มันแปลกเหรอที่เราจะหวงคนของเรา

    “เป็นอะไรคะคนดี หน้าบึ้งเชียว”

    ท่านชายเอ่ยถามคุณชายตัวเล็ก ใบหน้าของพระองค์ยิ้มละมุนเพราะรู้อยู่แล้วว่าอีกคนเป็นอะไร ทั้งที่พาออกมาจากตรงนั้นแล้ว แต่คนตัวเล็กก็ยังเอาแต่คิ้วขมวดชนกันอยู่แบบนั้น

    “พี่ชายมาร์คชอบคุณไอรีนไหม?”

    “...”

    “...”

    นอกจากท่านชายจะประหลาดใจกับคำถามของน้อง ตัวน้องเองก็ตกใจกับสิ่งที่ตัวเองพูดไป เพราะมัวแต่เหม่อจนเผลอพูดความในใจออกมาเสียอย่างนั้น คนตัวเล็กซ่อนสีหน้าแดงปลั่งของตัวเอง เพราะท่านชายเอาแต่มองด้วยสายตาระยิบระยับราวกับถูกใจกับคำถามนั้น เพราะมันแสดงให้เห็นแล้วว่าคุณแบมหวงเขาแค่ไหน

    “กังวลอะไรคะคนเก่ง พี่จะชอบใครได้อีกในเมื่อเมียพี่น่ารักขนาดนี้”

    งื้อ... เอาอีกแล้วนะ

    “พี่ชายมาร์คอย่าแกล้งคุณแบม...” น้องตอบเสียอ้อมแอ้ม ท่านชายพูดแบบนี้ทั้งที่เราอยู่ในสถานที่ ๆ มากคนอย่างนี้ได้อย่างไร

    “พี่ไม่ได้แกล้งค่ะ พี่พูดความจริงทุกอย่าง น้องแบมไม่เชื่อพี่เหรอคะ”

    “...”

    “น้องแบม...”

    “ชะ เชื่อแล้วกระหม่อม”

    คุณชายตัวเล็กรีบตอบทั้งยังหลับตาปี๋ เมื่อร่างสูงข้างกันโน้มหน้าเข้ามาใกล้เสียจนอยู่ในระยะอันตราย ท่านชายลอบยิ้มให้กับท่าทางน่ารักนั่น อยากจะหอมแก้มแดง ๆ ของคนข้างกายนัก หากแต่สถานที่ไม่เอื้ออำนวย เขาไม่อยากให้น้องตกเป็นขี้ปากของใคร เพราะฉะนั้นจะห้ามใจตัวเองไว้ก่อน

    “ดีค่ะคนดี”

    เพียงแค่เอื้อมมือไปลูบหัวทุยอย่างแผ่วเบา น้องย่นคอลงเล็กน้อยเมื่อถูกสัมผัส ใจดวงน้อยเต้นโครมคามไปหมด แต่กลับชอบให้ฝ่ามือหนาของท่านชายลูบหัวตน ว่าที่คุณชายหมอลืมตากลมขึ้นมาพบรอยยิ้มละมุนของท่านชายที่มอบให้ตนก็เสตามองไปทางอื่นอย่างเฉไฉเพราะไม่กล้าสบเนตรคู่นั้นต่อ

    หากทว่ากลับพบเข้ากับร่างบางของหญิงสาวผู้เดิม ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลจากตนหนัก คุณไอรีนอยู่พูดคุยอยู่กับผู้หญิงอีกสองคนซึ่งทั้งหมดนั้นมองมายังจุดที่คุณแบมและท่านชายอยู่ คนตัวเล็กรับรู้ถึงความเสน่หาจากอีกฝ่ายที่มีต่อคนข้างกาย มันอดกังวลใจไม่ได้ตามประสาเด็กขี้หวง ทั้งที่ท่านชายเองก็ยืนยันแล้วก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะนะ ทำไมต้องมองมาแบบนั้นด้วยก็ไม่รู้

    หมับ

    จู่ ๆ ร่างกายก็เป็นไปเอง แขนเล็กยกคล้องแขนของสามีในทันที ก่อนจะช้อนตามองคนพี่ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่กลับใจเต้นแรงกับการกระทำของภรรยา คนตัวเล็กปากเบะคว่ำนัยน์ตางอแงหากแต่คนมองกลับรู้สึกเอ็นดู ท่านชายหันกลับไปตามสายตาของคุณแบมจึงพบต้นเหตุที่ทำให้คนน่ารักเปลี่ยนไปเช่นนี้ ด้วยเหตุนั้นจึงได้สบเข้ากับใบหน้าของหญิงสาวผู้เป็นต้นเหตุ ซึ่งกำลังส่งยิ้มหวานทอดสะพานมาให้ตน

    แต่ด้วยหน้าที่ของสามีที่ดี... เขาไม่มีทางทรยศความไว้ใจของภรรยา

    กว่าเขาจะได้ใจน้องมาไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่มีทางที่เขาจะทำลายมัน

    ท่านชายเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบนิ่งมองตอบกลับไป พระองค์จงใจให้อีกฝ่ายรู้ว่ามิได้ต้องการสานสัมพันธ์ด้วยไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ทรงเมินหญิงสาวอย่างชัดเจนทั้งยังก้มลงจูบซับที่กระหม่อมบางของน้องอย่างเปิดเผยโดยไม่สนเลยว่าผู้ใดจะมองมาอย่างไร ท่านชายมาร์คปฏิเสธอย่างชัดเจนแล้ว หากหญิงผู้นั้นยังไม่เลิกราก็สุดแล้วแต่เธอแล้วกัน

    เพราะถึงอย่างไร เธอก็ไม่มีทางได้อย่างที่เธอหวังแน่นอน

     


     

    “น่าอิจฉาคุณชายแบมแบมจังเลยนะ”

    หญิงสาวเจ้าของงานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบกับเพื่อนสนิท ทั้งที่ปากบอกเยี่ยงนั้นแต่สายตากลับมองมาที่คนตัวเล็กอย่างเกินคาดเดา เธอยอมรับว่าภาพนั้นมันบาดตาบาดใจและทำให้เธออิจฉาจริง ๆ เธออยากได้ผู้ชายคนนี้ อยากให้เขามองเธอเหมือนที่มองคุณชายคนนั้นบ้าง

    เธอไม่สวยหรืออย่างไร ผู้ชายในงานที่มาก็ล้วนแล้วแต่อยากได้เธอทั้งนั้น ใยท่านชายมาร์คถึงได้ไม่สนใจเธอ

    “ฉันได้ยินมาว่าการแต่งงานเกิดขึ้นเพราะผู้ใหญ่ทั้งนั้น” เสียงของเพื่อนสนิทเอ่ยขึ้นมา เธอสนใจกับข้อมูลจากเพื่อน ในกลุ่มของเธอย่อมรู้ดีว่าตอนนี้เธอคิดอย่างไร ไอรีนสนใจท่านชายมาร์คอย่างเห็นได้ชัดขนาดนี้

    “เด็กคนนั้นยังอ่อนหัด สักพักสามีก็คงเบื่อ ฉันว่าอีกไม่นานหรอกท่านชายก็คงจะหลงเสน่ห์เธอเหมือนกับคนอื่น” เพื่อนอีกคนเสริมทัพ

    “พวกเธอคิดว่าฉันควรทำยังไงต่อไป” ไอรีนเอ่ยถามสองสาวเพื่อนสนิท ทั้งสองคนรู้จักกับไอรีนมาตั้งแต่สมัยเรียน เป็นลูกหลานทหารชั้นประทวนลูกน้องของบิดาตนทั้งนั้น เธอคบไว้เพราะอีกฝ่ายวางตัวดีแถมเป็นแหล่งข่าวให้ตนอีกต่างหาก ดูอย่างข้อมูลเรื่องการแต่งงานของท่านชายสิ เพราะถ้าเธอไม่รับรู้ คงคิดว่าทั้งสองคนนั้นรักกันจริง ดูสิ การกระทำราวกับรักกันมานานแสนนานอย่างนั้น

    “น้ำหยดลงหินทุกวันหินก็กร่อน ยังไงคุณลุงก็ทำงานอยู่ในหน่วยเดียวกับท่านชาย จะหนีไปไหนไกลได้”

    จริงอย่างที่ว่า ถ้าใช้คุณพ่อเป็นพ่อสื่อ อย่างไรเธอก็มีข้ออ้างเข้าใกล้

    “น่าสนใจ...”

    หญิงสาวลำพองกับความคิดตน เปรยตามองสองสามีภรรยาที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากตนนักด้วยรอยยิ้มมุมปาก ฮึ... ถึงวันนี้เธอจะไม่สามารถทอดสะพานชายผู้นั้นได้ แต่อีกไม่นานหรอก เธอจะเป็นเจ้าของคนผู้นั้นเช่นกัน และเธอต้องเป็นใหญ่กว่าเด็กนั่นแน่นอน...

    เพราะผู้ชายสันดานก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ











    -------- 100% --------

    รูปฮาๆเอาไว้คอมเม้นท์ - Pantip

    แต่งเองยังหมั่นไส้เองเลยค่ะ เม้นแบบใจเย็นๆ นะคะตัวเอง 
    ขอบคุณที่ติดตามกันน้า นิยายติดชาร์ทแบบนี้พึ่งเห็น ปลื้มใจมากเลยค่ะ

    ปล. ยังไม่เช็คคำผิดเลยนะ ใครเห็นเม้นไว้ก็ได้ค่ะ ขอบคุณจ้า.

    อย่าลืมไปคุยกันในแท็ก สุภาพบุรุษมบ ด้วยน้า
    .....

    มีคนอยากแชร์สามีกับน้องซะแล้วค่ะ 
    คนพี่จะรู้ตัวไหมหนอว่ากำลังมีเด็กหวงอยู่ 

    อัพดึกหน่อยนะคะ ยังไม่ได้เช็คคำผิดน้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×