คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 14 ❁ หน้าที่ของสามี 100% ❁
ท่านชายไม่รู้ว่าน้องเป็นอะไร
ถึงได้ตวัดตามองเขาเสียอย่างนั้น
แต่พอเห็นน้ำตาที่เอ่อคลอของน้องแล้วยิ่งรู้สึกผิด
หรือว่าคุณแบมจะโกรธพี่ที่ทำรัก(?) เอาแต่ใจเกินไป
“พี่ขอโทษ เจ็บมากไหมคะ”
ถามมาได้ว่าเจ็บมากไหม
สภาพคุณแบมพร้อมแอดมิดขนาดนี้ยังต้องถามอีกหรือ
แต่ถึงอย่างนั้นพอได้กลิ่นอาหารหอมกรุ่นที่ลอยมาก็ทำให้คนเห็นแก่กินถึงกลับท้องร้อง
แต่เพราะขยับไม่ได้จึงได้แต่ช้อนตามองตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้แทน
ไม่อยากพูดกับอีกคน
แต่พอเห็นสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยของร่างสูง ใจดวงน้อยก็อ่อนยวบแล้ว มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด
คนที่เคยเอาแต่ใจแบบคุณแบมทำไมถึงได้โกรธคนตรงหน้าได้ไม่นานทั้งที่พี่ชายมาร์คเป็นคนไม่ดี
เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
แก้มใสก็เปลี่ยนสี มือเล็กดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงเพราะไม่อยากให้ท่านชายเห็นความเขินอายของตน
“...”
“น้องแบมขา เดี๋ยวหายใจไม่ออกนะคะ”
นี่ก็ด้วย ตั้งแต่เมื่อคืนท่ายชายผู้นี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนวิธีการเรียกเขาอีกเลย
แต่คงห้ามอะไรอีกคนไม่ได้ คุณแบมไม่เคยชนะท่านชายได้หรอก
แต่ถึงอย่างนั้นคนตัวเล็กภายใต้ผ้านวมขนาดใหญ่ขยับยุกยิกเล็กน้อยด้วยเพราะร่างกายไม่เอื้อดอำนวยจึงทำได้เพียงเท่านี้
เดิมทีก็ตั้งใจว่าจะไม่เอ่ยปากพูดกับอีกคนสักเท่าไหร่นัก แต่ความหิวมันสำคัญที่สุดเสมอ
“คุณแบมอยากให้แม่เล็กมาดูแล”
หมายความว่าไม่ต้องการท่านชายนั่นเอง
แต่มีหรือที่คนพี่จะยอม ท่านชายฟังเสียงอู้อี้ของน้องแล้วยิ้มเหมือนคนบ้า
ทั้งที่น้องงอแงใส่ขนาดนี้ยังไม่โกรธเลย
“แม่เล็กไม่ว่างค่ะ
คนอื่นก็ไม่ว่าง”
แล้วทำไมพี่ชายมาร์คต้องว่างด้วย!
คุณแบมได้แต่เข่นเขี้ยวภายในผ้านวม
ดูก็รู้ว่าอีกคนจงใจโกหก แม่เล็กหรือจะปฏิเสธเขาถ้าหากต้องการ เพราะพี่ชายมาร์คขี้ตู่เองเสียมากกว่า
“...”
“โจ้กหมูใส่ไข่สองฟองด้วยนะคะ
ไม่รีบทานไข่สุกหมดนะ”
รู้ด้วยว่าคุณแบมชอบทานไข่แบบเยิ้ม
ๆ แอบสังเกตมาตั้งแต่เมื่อไหร่
เพียงการใส่ใจเล็ก
ๆ แต่กลับสร้างมวลความอบอุ่นมหาศาลขึ้นมาได้ คุณแบมยอมเปิดผ้านวมออก ดวงตากลมเสมองไปยังร่างสูงที่นั่งอยู่บนพื้นข้างเตียงอย่างไม่ถือตัว
หม่อมเจ้าชายตรงหน้าส่งยิ้มละมุนมาให้ ก่อนจะโน้มตัวลงมาขโมยหอมแก้มคุณแบมไปหนึ่งที
ทำเอาอยากจะมุดกลับไปในผ้าห่มเลย
“คุณแบมหิวแล้ว...”
คุณชายน้อยแห่งวังภูวกุลเอ่ยเสียงอ้อมแอ้ม แต่แก้มกลมยังคงสีแดงไว้อยู่ ท่านชายเองก็ไม่รีรอ
ยกถาดอาหารมาวางใกล้ ๆ เพื่อป้อนน้องได้อย่างถนัด
โชคดีจริงเชียวที่คุณแบมเป็นคนส่วนน้อย ปกติคนป่วยจะไม่อยากอาหารทานได้น้อย
แต่ดูภรรยาเขาสิ ตื่นขึ้นมาก็หิวเสียแล้ว
ต้องขอบคุณคุณอาหารที่ทำให้คุณแบมคลายความโกรธที่มีต่อเขาบ้าง
คุณแบมเองก็ขยับลุกขึ้นนั่งพิงพนักเตียงได้เองก่อนที่ท่านชายจะลุกขึ้นมาช่วยพยุงเสียอีก
นั่นเป็นเพราะความหิวเข้าครอบงำ ดีที่รอบสุดท้ายถูกท่านชายป้อนยาแก้อักเสบไว้ล่วงหน้าถึงได้เจ็บน้อยกว่าที่เป็น
ถึงแม้จะเจ็บมากอยู่ก็ตามแต่ถ้าไม่ได้ยาจากท่านชายคงจะเป็นหนักกว่านี้
ร่างน้อยจ้องมองคนพี่ตาแป๋ว รอรับอาหารจากการป้อนของอีกคน
ท่านชายเมื่อถูกความน่ารักพุ่งเข้าชน มีหรือจะปฏิเสธไหว รีบตักโจ้กป้อนแทบไม่ทัน
“ทานเยอะ ๆ
เลยนะคะ ถ้าไม่พอพี่จะไปตักมาให้อีก”
“...”
คุณชายตัวเล็กที่เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นเพราะได้ทานของอร่อยก็พยักหน้างึกให้คนพี่พลางส่งยิ้มให้
ราวกับว่าลืมเรื่องที่ตั้งใจไปเสียหมด ไหนว่าจะโกรธคนพี่ พอเจอได้ทานก็นึกอะไรไม่ออกเสียแล้วคนตัวเล็ก
และก็เป็นอย่างที่ท่านชายคิดไว้จริง
ๆ โจ้กถ้วยเดียวไม่สามารถห้ามความอยากอาหารของคนป่วยได้
ช่างเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับท่านชาย แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
เพราะน้องจะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น คุณชายคนเล็กของวังภูวกุลไม่เพียงบอกว่าต้องการเพิ่มอีก
แต่ยังไม่วายวานขอของหวานจากแม่เล็กเป็นของแถม ซึ่งคนตามใจภรรยาอย่างท่านชายหรือจะขัด
มื้อเช้าที่ทานเกือบบ่ายของคุณแบมจบลงด้วยโจ้กถ้วยที่สองแถมเครปสตอเบอรี่
คนป่วยอิ่มท้องจนไม่งอแงมื่อท่านชายมอบยาต่าง ๆ ให้ทาน เดิมทีคุณแบมก็ไม่ค่อยชอบทานยาหรอก
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะดื้อยาอะไร ยิ่งอารมณ์ดีก็ยิ่งว่านอนสอนง่าย คงเพราะถูกท่านย่าสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก
ท่านชายยังไม่ยอมให้น้องนอนเพราะอยากให้นั่งย่อยก่อน
ซึ่งเป็นเรื่องเดียวที่อยากจะงอแงเพราะง่วง หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนเป็นธรรมดา แต่เพราะเรียนหมออยู่ถึงได้รู้ว่ากรดไหลย้อนไม่ใช่เรื่องตลก
“หายโกรธพี่แล้วใช่ไหมคะ”
ท่านชายเอ่ยถาม
ขณะนั่งลงที่พื้นข้างเตียงฝั่งคุณแบมอีกครั้ง คนตัวเล็กลอบมองร่างสูงที่นั่งเกยคางไว้ที่มือของตนเอง
ทำตัวน่ารักไม่ดูหน้าตาตัวเองสักเท่าไหร่
“ถึงอย่างไรคราวหลังคุณแบมจะไม่ยอมพี่ชายมาร์คอีกแล้ว”
“ไม่ได้สิคะ
ลงโทษแบบนี้พี่ก็แย่สิ”
คนหื่น
พี่ชายมาร์คที่สุขุมคนนั้นหายไปแล้ว
คุณแบมแก้มขึ้นสีไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ของวัน
เพราะผู้ชายคนนี้ ภาพร้อนแรงที่กระทำกันไหลย้อนกลับเข้ามาราวกับหนังกำลังฉาย กว่าจะได้นอนก็เช้าวันใหม่เลยด้วยซ้ำ
พวกทหารนี่อึดแบบนี้กันทุกคนเลยใช่ไหม เพราะแบบนี้ไงคุณแบมจะไม่ยอมพี่ชายมาร์คอีกแล้ว
“แย่ไปเลย คนนิสัยไม่ดี”
“อย่ารังแกกันเลย
พี่ยอมทุกอย่าง แต่ถ้าไม่ได้ทำรักกับน้องแบม...”
“งื้อออ
อย่าพูดนะ”
พี่ชายมาร์คหน้าไม่อาย
ทำไมถึงได้พูดเรื่องแบบนี้ออกมาหน้าตาเฉย คุณชายแบมแบมหันหน้าหนีคนพี่เพื่อหลบซ่อนไอร้อนบนใบหน้า
ทำรักอะไรกัน พูดออกมาได้ไงเนี่ย
“คุณแบมสัญญากับพี่ก่อนสิคะ...
อย่าใจร้ายกับพี่เลย”
งื้อ... อย่ามาตื้อคุณแบบนะ!
อาทิตย์อัสดงลับฟ้าหายไปทดแทนด้วยฟ้าสีทมิฬ
แสงสีจากงานเลี้ยงณ คฤหาสน์หลังใหญ่ตระกูลนายพลระดับสูง
มีจัดงานเลี้ยงสำคัญต้อนรับลูกสาวคนเก่งที่พึ่งบินลัดฟ้ากลับมาหลังจากเรียนจบ
ชายหนุ่มสองคนเดินเคียงคู่กันมา
สวมชุดสูทสีกรมคล้ายกัน หนึ่งคนร่างเล็กนุ่มนิ่มเป็นเจ้าของใบหน้าสวย ผิวขาวนวลขับสีสูท
ข้างกายคือร่างสูงใหญ่เจ้าของใบหน้าคมคาย ท่านชายยศเรือทหารเอกผู้มีใบหน้าเรียบนิ่งยามมองรอบกาย
หากแต่กับคนข้าง ๆ กลับได้ครอบครองรอยยิ้มแสนอบอุ่น
ด้วยเพราะท่านหญิงม่านฟ้าล้มป่วยจากการดื้อรั้นของพระองค์เดินไปตากน้ำค้างตอนย่ำรุ่งจึงเกิดเป็นไข้
ทำให้คนที่ต้องมางานเลี้ยงของคุณหญิงสิณีก็คือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและลูกสะใภ้คนโปรด
โชคดีที่คุณแบมหายจากอาการป่วยทัน
เพราะมันก็ผ่านมาเกือบสามวันแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นท่านชายก็พยายามหลอกกินเล็กกินน้อยน้องเสมอ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้มากไปกว่าขโมยจูบกับลูบคลำเล็กน้อย...
คุณแบมบอกแล้วว่างด
คนเกรงใจเมียอย่างท่านชายหรือจะทำสิ่งใดได้
“คุณแบมอยากทานอะไรไหมคะ”
ท่านชายเอ่ยถามภรรยาตัวเล็ก ที่รอบมองสิ่งรอบข้างอย่างประหม่า คุณแบมเป็นแบบนี้
แต่เพราะมีอาหารน่าอร่อยเต็มไปหมด คนตัวเล็กจึงเบาใจลงได้
ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมงานเลี้ยงนี้ถึงได้มีแต่อาหารจำพวกคอกเทล
เพราะแบบนั้นก็แสดงว่าท่านชายคงเป็นฝ่ายไปหยิบมาให้แน่เพียงน้องรีเควสมา
แต่คุณแบมไม่อยากอยู่คนเดียวนี่นา
“คุณแบมไปเลือกด้วยนะครับ”
น้องช้อนตามองคนพี่ราวกับจะอ้อน
“ฮึ... ได้ค่ะ
ถ้าอย่างนั้นเราไปสวัสดีเจ้าภาพก่อนนะคะ”
ร่างสูงเดินกุมมือน้อยไปด้วยกัน
มองดูแล้วช่างเหมาะสมกันยิ่งกว่าอะไร ด้วยเพราะงานแต่งงานระหว่างบุตรของสองตระกูลดังเป็นที่รู้จักกันดีในแคว้นแต่ก็มีเพียงไม่กี่งานที่ทั้งคู่ออกงานด้วยกันเพียงลำพัง
เรืออากาศเอกยศหม่อมเจ้าเดินจูงมือภรรยาคนสวยตรงไปยังครอบครัวเจ้าภาพซึ่งยืนรับแขกอยู่
ร่างระหงส์ของลูกสาวนายพลดูสวยสง่าหยุดสายตา เธอสวมชุดราตรีฟูฟ่องสีครีมยืนเรียบร้อยอยู่ข้างกายมารดาและบิดา
หญิงสาวแอบชำเรืองมองชายร่างสูงเจ้าของฉายาสิงห์อากาศหนุ่มที่เพื่อนในกลุ่มเพ้อหา
บัดนี้ได้เจอด้วยตาตัวเองถึงเข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายหล่อเหลาถึงเพียงไหน ใจของเธอเต้นแรงมากเสียแล้ว
“เป็นพระกรุณาเหลือเกินที่ท่านชายเด็จมาด้วยตนเอง”
ท่านนายพลเอ่ยทักทายท่านชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเป็นกันเอง ท่านรู้สึกนับถือในความสามารถของท่านชายผู้นี้
ทั้งที่อายุยังน้อยแต่กลับได้มีความสามารถเทียบยศกับตนที่แก่คราวพ่อ
เดิมทีก็วาดฝันไว้อยากได้มาเป็นเขยคู่เรือน
แต่พอได้เห็นคนที่อีกฝ่ายจูงมือมาด้วยก็นึกเสียดายที่ท่านชายนั้นไม่โสดอีกต่อไปแล้ว
แต่สำหรับในแคว้น ชายหนึ่งผู้สามารถมีภรรยาได้มากกว่าหนึ่ง ท่านนายพลลอบมองบุตรีของตนที่ดูท่าจะถูกใจท่านชายมาร์คไม่น้อย หากท่านชายทรงมีใจให้กับลูกเขาคงดี
“พระองค์เจ้าและท่านหญิงไม่ได้มาด้วยหรือเพคะ”
คุณหญิงเอ่ยถามเมื่อเห็นเพียงทั้งสองคน
“เด็จพ่อยังคงติดภาระงานอยู่แคว้นเหนือ
ส่วนเด็จแม่เองก็ล้มป่วยจึงมาด้วยไม่ได้” ท่านชายตอบอย่างสุขุม
“ตายจริง พระองค์ทรงเป็นอย่างไรบ้างเพคะ”
“แค่ป่วยไข้เท่านั้น
ทรงฝากคำยินดีมาให้ด้วย ยินดีด้วยนะครับ”
ท่านชายเอ่ยเพียงสั้น
ๆ พลางมองไปยังหญิงสาวเพียงผู้เดียวตามมารยาท เพราะงานนี้จัดขึ้นเพื่อเธอ หญิงสาวเมื่อถูกกล่าวด้วยก็เกิดท่าทีเหนียมอาย
แก้มของเธอผู้นั้นแดงปลั่งเสียจนบิดาและมารดายิ้มตาม หากแต่ท่านชายนั้นไม่ได้สนใจเลยสักนิด
เพราะจู่ ๆ มือเล็กที่ตนกุมอยู่ก็บีบแน่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น
คุณแบมเห็นสายตาที่ผู้หญิงคนนั้นมองพี่ชายมาร์คตลอด คล้ายคนกำลังเสน่หา คนตัวเล็กรู้สึกไม่ดีกับสายตาของอีกฝ่ายเลยสักนิดจึงเผลอกำมือของท่านชายแน่นคล้ายเด็กกำลังหวง...
นี่สามีของคุณแบมนะ.... มองแบบนี้ไม่ได้เสียหน่อย
“นี่คงเป็นคุณชายกันต์พิมุกภรรยาท่านชาย”
แม้จะจะรู้อยู่แล้วแต่ก็แสร้งถามออกไป ท่านนายพลลอบมองใบหน้าเล็กที่ค่อมหัวให้เขาอย่างนอบน้อม
ใบหน้าของภรรยาท่านชายจัดว่าสวยและน่ารักมาก แต่ลูกสาวเขาก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่า ชายวัยกลางคนมองว่ามันอาจจะมีสิทธิ์ลุ้น
ตัวเขาเองก็มีภรรยาถึงห้าคน คุณหญิงที่เป็นภรรยาเอกซึ่งพาออกงานก็เป็นเมียที่แต่งมาถึงอันดับที่
2 เพราะฉะนั้นจะแต่งก่อนแต่งช้าก็ไม่ได้เป็นตัววัด มันขึ้นอยู่กับตัวท่านชายเองต่างหากว่าพอใจใครที่สุด
“ยินดีด้วยเช่นกันนะครับ”
คุณแบมเอ่ยอย่างสุภาพ ถึงแม้ภายในใจจะรู้สึกไม่ค่อยดีนักกับสายตาของครอบครัวนี้ แต่คุณแบมก็แยกแยะได้
หม่อมยายสั่งสอนคุณสมบัติที่ดีของคุณชายให้แก่เขาเสมอ แม้จะไม่ชอบออกงานสังคมแต่คุณแบมก็วางตัวเป็น
“ได้ยินว่าคุณชายเรียนหมออยู่หรือคะ”
คุณหญิงเอ่ยถาม
“ใช่ครับ
พึ่งเรียนอยู่ปีหนึ่ง”
“แหม เก่งจังเลยนะคะ
แต่พึ่งปีหนึ่งเอง...”
ถึงแม้จะพูดไม่จบ
แต่สายตาของคุณหญิงสิณีก็ทำให้รู้แล้วว่าคิดอะไรอยู่ คงจะหมายถึงเรื่องที่เขาแต่งงานทั้งที่อายุยังน้อย
คุณแบมเม้มปากแน่นไม่รู้จะตอบกลับไปอย่างไร
ต่างจากท่านชายที่เริ่มเปลี่ยนพระพักตร์ รอยยิ้มการค้าของพระองค์หายไปเหลือไว้แต่ความเย็นชา
ตาเรียวคมดำทมิฬไร้เงา อยากจะหยั่งรู้ความคิดข้างใน
ท่านนายพลเป็นคนเดียวที่เข้าใจสถานการณ์เมื่อเห็นใบหน้าของชายตรงหน้าที่เปลี่ยนไปเพราะคำพูดของภรรยาเอกตนก็รีบแก้สถานการณ์ทันทีก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายไม่เป็นไปตามที่ตนต้องการ
“ทั้งสองได้ลองทานอะไรหรือยังเล่า
วันนี้มีของทานมากมายหนัก หวังว่าจะถูกปาก”
คุณหญิงเสตามองสามีอย่างไม่ค่อยพอใจที่เคยขัดกัน
เธอแค่อยากปูทางให้ลูกสาวตัวเอง เพราะบุตรีของเธอเองก็เรียนจบมาสูง แถมอายุก็ถึงวัยแก่การออกเรือนแล้ว
ยังไงซะคุณชายคนนั้นหรือจะเทียบได้ หมอก็เรียนออกจะยาก จะจบหรือเปล่าก็ไม่รู้ หากท่านชายพลไม่เอ่ยตัดบทออกมาก่อน
ป่านนี้เธอคงได้โฆษณาลูกไปแล้ว
“หิวแล้วใช่ไหมคะ”
ท่านชายก้มถามภรรยาตัวน้อย สีหน้าและน้ำเสียงต่างจากเดิมมากโข ดูก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายมองคนตัวเล็กด้วยสายตาแบบไหน
คุณชายตัวเล็กเมื่อถูกถามก็หยักหน้าตอบอย่างยอมรับ ถึงแม้ความจริงแล้วเขาต้องการจะออกจากไปที่นี่ให้เร็วที่สุดก็ตาม
“ให้ไอรีนพาไปไหมคะ”
คุณหญิงดันหลังลูกสาวให้เข้าใกล้
หวังจะทำให้ท่านชายเชยชมลูกตนให้ชัดขึ้น ร่างสูงปรายตามองผู้หญิงตรงหน้าเพียงเล็กน้อย
ไม่ได้สนใจท่าทีเหนียมอายของอีกฝ่าย เพราะคนเดียวที่เขาสนใจก็คือภรรยาตัวเล็กเท่านั้น
ไอรีน หรือไอรดา
หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสะสวยช้อนตามองร่างสูงของท่านชาย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหาได้สนใจตนและเอาแต่มองคุณชายคนนั้นก็ได้แต่ยิ้มเจื่อน
ทั้งที่ตั้งใจจะยิ้มหวานให้กับอีกฝ่าย
เธอยอมรับว่าเธอพอใจในอีกคนมาก
หัวใจของเธอไม่เคยเต้นแรงกับใครเท่าคน ๆ นี้มาก่อน หญิงสาวมั่นใจว่าอีกไม่ช้า
จะต้องเป็นเจ้าของแววตาอบอุ่นนั่นบ้าง
“ไม่เป็นไร
เราไม่รบกวน” ท่านชายเอ่ยเสียงเรียบ ร่างสูงประเมินสายตาของครอบครัวนี้แล้วว่าคิดอย่างไร
เขาไม่มีความจำเป็นเลยที่จะทำให้เรื่องมันยุ่งยาก ยิ่งกับเรื่องที่ทำให้ภรรยาของตนรู้สึกไม่ดียิ่งไม่คิดจะก้าวเข้าไป
เห็นทีคงไม่สามารถสนองความต้องการให้กับคนเหล่านี้ได้
เมื่อถูกปฏิเสธ หญิงสาวผู้เดียวก็ยิ่งหน้าเสีย
เหลียวมองบิดามารดาตน ซึ่งท่านนายพลก็ยังคงนิ่งอยู่ไม่แสดงท่าทีใด ๆ
ต่างจากคุณหญิงที่ชักสีหน้าไม่พอใจออกมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากหว่านล้อมด้วยวิธีอื่น
“ในงานมีแต่คนอายุ
เยอะๆ ให้น้องไปด้วยเถอะค่ะ อยู่กับคนรุ่นเดียวกันอาจสบายใจกว่า ดูท่าคุณชายก็คงอึดอัดกับบรรยากาศไม่น้อย”
ที่อึดอัดนั่นเป็นเพราะสถานการณ์ตอนนี้ต่างหาก
คุณแบมได้แต่คิดในใจ
คุณหญิงผู้นี้เป็นบุคคลที่รับมือยาก คุณแบมไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนเลยไม่รู้จะต้องทำอย่างไร
ต่างจากท่านชายที่เข้าใจเจตนาของคนพวกนั้นดี
“ขอบคุณน้ำใจของคุณหญิงมาก
แต่เราไม่ขอรบกวนดีกว่า เผื่อมีแขกคนอื่นมาทักทายจะได้ไม่เสียเวลาเดินไปเดินมา”
“แต่ว่า...”
“เอาน่าคุณหญิง ท่านชายบอกว่าไม่ก็คงไม่แล้วล่ะ
ยังไงก็ของพระทัยมากนะกระหม่อมที่มารวมแสดงความยินดีด้วย”
ท่านนายพลเอ่ยขัดภรรยาตนเพื่อไม่สร้างบรรยากาศไม่ดีเพิ่มขึ้น
เพราะดูจากการคำพูดของท่านชายก็รู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ท่านชายผู้นี้คงเชื้อไม่ทิ้งแถว
เพราะแต่เดิมทีพระองค์เจ้าท่านก็มีเพียงภรรยาเดียว คงปลูกฝังมาเป็นอย่างดี แถมเงานัยน์ตาคมนั่นก็ไม่สะท้อนให้เห็นถึงผู้ใดนอกเสียจากคนข้างกาย
ถ้าขืนตื้อไปมาก ๆ กลัวว่าจะกลายเป็นบาดหมางกันเสียก่อน
น้ำมันต้องค่อยๆ
เซาะหินไปเรื่อย ๆ สิถึงจะถูก
เมื่อเห็นว่าเป็นดังนั้น
ท่านชายจึงพาคุณแบมเดินจากมา น้องมีสีหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฝ่ามือเล็กที่กุมกันอยู่ก็คลายความแน่นลง
คนตัวเล็กรู้สึกดีที่พี่ชายมาร์คปฏิเสธความหวังดีของคุณหญิงสิณี เพราะคุณแบมไม่ไว้ใจสายตาของผู้หญิงนั้น
มันแปลกเหรอที่เราจะหวงคนของเรา
“เป็นอะไรคะคนดี
หน้าบึ้งเชียว”
ท่านชายเอ่ยถามคุณชายตัวเล็ก
ใบหน้าของพระองค์ยิ้มละมุนเพราะรู้อยู่แล้วว่าอีกคนเป็นอะไร ทั้งที่พาออกมาจากตรงนั้นแล้ว
แต่คนตัวเล็กก็ยังเอาแต่คิ้วขมวดชนกันอยู่แบบนั้น
“พี่ชายมาร์คชอบคุณไอรีนไหม?”
“...”
“...”
นอกจากท่านชายจะประหลาดใจกับคำถามของน้อง
ตัวน้องเองก็ตกใจกับสิ่งที่ตัวเองพูดไป เพราะมัวแต่เหม่อจนเผลอพูดความในใจออกมาเสียอย่างนั้น
คนตัวเล็กซ่อนสีหน้าแดงปลั่งของตัวเอง เพราะท่านชายเอาแต่มองด้วยสายตาระยิบระยับราวกับถูกใจกับคำถามนั้น
เพราะมันแสดงให้เห็นแล้วว่าคุณแบมหวงเขาแค่ไหน
“กังวลอะไรคะคนเก่ง
พี่จะชอบใครได้อีกในเมื่อเมียพี่น่ารักขนาดนี้”
งื้อ...
เอาอีกแล้วนะ
“พี่ชายมาร์คอย่าแกล้งคุณแบม...”
น้องตอบเสียอ้อมแอ้ม ท่านชายพูดแบบนี้ทั้งที่เราอยู่ในสถานที่ ๆ มากคนอย่างนี้ได้อย่างไร
“พี่ไม่ได้แกล้งค่ะ
พี่พูดความจริงทุกอย่าง น้องแบมไม่เชื่อพี่เหรอคะ”
“...”
“น้องแบม...”
“ชะ เชื่อแล้วกระหม่อม”
คุณชายตัวเล็กรีบตอบทั้งยังหลับตาปี๋
เมื่อร่างสูงข้างกันโน้มหน้าเข้ามาใกล้เสียจนอยู่ในระยะอันตราย
ท่านชายลอบยิ้มให้กับท่าทางน่ารักนั่น อยากจะหอมแก้มแดง ๆ ของคนข้างกายนัก
หากแต่สถานที่ไม่เอื้ออำนวย เขาไม่อยากให้น้องตกเป็นขี้ปากของใคร
เพราะฉะนั้นจะห้ามใจตัวเองไว้ก่อน
“ดีค่ะคนดี”
เพียงแค่เอื้อมมือไปลูบหัวทุยอย่างแผ่วเบา
น้องย่นคอลงเล็กน้อยเมื่อถูกสัมผัส ใจดวงน้อยเต้นโครมคามไปหมด แต่กลับชอบให้ฝ่ามือหนาของท่านชายลูบหัวตน
ว่าที่คุณชายหมอลืมตากลมขึ้นมาพบรอยยิ้มละมุนของท่านชายที่มอบให้ตนก็เสตามองไปทางอื่นอย่างเฉไฉเพราะไม่กล้าสบเนตรคู่นั้นต่อ
หากทว่ากลับพบเข้ากับร่างบางของหญิงสาวผู้เดิม
ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลจากตนหนัก คุณไอรีนอยู่พูดคุยอยู่กับผู้หญิงอีกสองคนซึ่งทั้งหมดนั้นมองมายังจุดที่คุณแบมและท่านชายอยู่
คนตัวเล็กรับรู้ถึงความเสน่หาจากอีกฝ่ายที่มีต่อคนข้างกาย มันอดกังวลใจไม่ได้ตามประสาเด็กขี้หวง
ทั้งที่ท่านชายเองก็ยืนยันแล้วก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะนะ
ทำไมต้องมองมาแบบนั้นด้วยก็ไม่รู้
หมับ
จู่ ๆ
ร่างกายก็เป็นไปเอง แขนเล็กยกคล้องแขนของสามีในทันที ก่อนจะช้อนตามองคนพี่ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว
แต่กลับใจเต้นแรงกับการกระทำของภรรยา คนตัวเล็กปากเบะคว่ำนัยน์ตางอแงหากแต่คนมองกลับรู้สึกเอ็นดู
ท่านชายหันกลับไปตามสายตาของคุณแบมจึงพบต้นเหตุที่ทำให้คนน่ารักเปลี่ยนไปเช่นนี้ ด้วยเหตุนั้นจึงได้สบเข้ากับใบหน้าของหญิงสาวผู้เป็นต้นเหตุ
ซึ่งกำลังส่งยิ้มหวานทอดสะพานมาให้ตน
แต่ด้วยหน้าที่ของสามีที่ดี...
เขาไม่มีทางทรยศความไว้ใจของภรรยา
กว่าเขาจะได้ใจน้องมาไม่ใช่เรื่องง่าย
ไม่มีทางที่เขาจะทำลายมัน
ท่านชายเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบนิ่งมองตอบกลับไป
พระองค์จงใจให้อีกฝ่ายรู้ว่ามิได้ต้องการสานสัมพันธ์ด้วยไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ทรงเมินหญิงสาวอย่างชัดเจนทั้งยังก้มลงจูบซับที่กระหม่อมบางของน้องอย่างเปิดเผยโดยไม่สนเลยว่าผู้ใดจะมองมาอย่างไร
ท่านชายมาร์คปฏิเสธอย่างชัดเจนแล้ว หากหญิงผู้นั้นยังไม่เลิกราก็สุดแล้วแต่เธอแล้วกัน
เพราะถึงอย่างไร
เธอก็ไม่มีทางได้อย่างที่เธอหวังแน่นอน
“น่าอิจฉาคุณชายแบมแบมจังเลยนะ”
หญิงสาวเจ้าของงานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบกับเพื่อนสนิท
ทั้งที่ปากบอกเยี่ยงนั้นแต่สายตากลับมองมาที่คนตัวเล็กอย่างเกินคาดเดา
เธอยอมรับว่าภาพนั้นมันบาดตาบาดใจและทำให้เธออิจฉาจริง ๆ เธออยากได้ผู้ชายคนนี้
อยากให้เขามองเธอเหมือนที่มองคุณชายคนนั้นบ้าง
เธอไม่สวยหรืออย่างไร
ผู้ชายในงานที่มาก็ล้วนแล้วแต่อยากได้เธอทั้งนั้น ใยท่านชายมาร์คถึงได้ไม่สนใจเธอ
“ฉันได้ยินมาว่าการแต่งงานเกิดขึ้นเพราะผู้ใหญ่ทั้งนั้น”
เสียงของเพื่อนสนิทเอ่ยขึ้นมา เธอสนใจกับข้อมูลจากเพื่อน ในกลุ่มของเธอย่อมรู้ดีว่าตอนนี้เธอคิดอย่างไร
ไอรีนสนใจท่านชายมาร์คอย่างเห็นได้ชัดขนาดนี้
“เด็กคนนั้นยังอ่อนหัด
สักพักสามีก็คงเบื่อ ฉันว่าอีกไม่นานหรอกท่านชายก็คงจะหลงเสน่ห์เธอเหมือนกับคนอื่น”
เพื่อนอีกคนเสริมทัพ
“พวกเธอคิดว่าฉันควรทำยังไงต่อไป”
ไอรีนเอ่ยถามสองสาวเพื่อนสนิท ทั้งสองคนรู้จักกับไอรีนมาตั้งแต่สมัยเรียน เป็นลูกหลานทหารชั้นประทวนลูกน้องของบิดาตนทั้งนั้น
เธอคบไว้เพราะอีกฝ่ายวางตัวดีแถมเป็นแหล่งข่าวให้ตนอีกต่างหาก ดูอย่างข้อมูลเรื่องการแต่งงานของท่านชายสิ
เพราะถ้าเธอไม่รับรู้ คงคิดว่าทั้งสองคนนั้นรักกันจริง ดูสิ การกระทำราวกับรักกันมานานแสนนานอย่างนั้น
“น้ำหยดลงหินทุกวันหินก็กร่อน
ยังไงคุณลุงก็ทำงานอยู่ในหน่วยเดียวกับท่านชาย จะหนีไปไหนไกลได้”
จริงอย่างที่ว่า
ถ้าใช้คุณพ่อเป็นพ่อสื่อ อย่างไรเธอก็มีข้ออ้างเข้าใกล้
“น่าสนใจ...”
หญิงสาวลำพองกับความคิดตน
เปรยตามองสองสามีภรรยาที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากตนนักด้วยรอยยิ้มมุมปาก ฮึ... ถึงวันนี้เธอจะไม่สามารถทอดสะพานชายผู้นั้นได้
แต่อีกไม่นานหรอก เธอจะเป็นเจ้าของคนผู้นั้นเช่นกัน และเธอต้องเป็นใหญ่กว่าเด็กนั่นแน่นอน...
เพราะผู้ชายสันดานก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ
ความคิดเห็น