บทความ : วันที่ผู้ถูกลืมปลดปล่อยความเกลียดชัง - บทความ : วันที่ผู้ถูกลืมปลดปล่อยความเกลียดชัง นิยาย บทความ : วันที่ผู้ถูกลืมปลดปล่อยความเกลียดชัง : Dek-D.com - Writer

    บทความ : วันที่ผู้ถูกลืมปลดปล่อยความเกลียดชัง

    บทความแด่ผู้ที่ถูกลืมทุกท่าน

    ผู้เข้าชมรวม

    717

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    717

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 เม.ย. 50 / 16:15 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      แด่ " พี่น้องที่ถูกสังคมลืมเลือนทุกทิศ "
      แด่ " มิตรสหายที่ถูกเหยียดหยามทั่วหล้า "
      แด่ " ใครหลายคนที่ถูกเหยียบย่ำทั้งพสุธา "
      แด่ " ใครก็ตามที่ถูกเฉยชาราวกับไม่มีตัวตน "

      ความจริงผมอยากจะเขียนบทความตัวนี้ตั้งแต่วันที่ " โช ซง ฮุย " ก่อคดีฆ่า 32 ศพ ( + ตัวเองอีก 1 เป็น 33 ) เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ด้วยเพราะต้องการให้มีการลงข้อมูลแรงจูงใจที่ชัดเจนเสียก่อน จนเมื่อ BBC ได้นำเทปที่บันทึกถ้อยแถลงของมือปืนชาวเกาหลีใต้ผู้นี้มาเปิดเผย ตามมาด้วยคำประณามมากมายของผู้คนจากทั่วโลก นั่นทำให้ผมต้องหาเวลาคิดและเขียนบทความนี้ขึ้นมา

      " คุณเคยถูกดูถูกเหยียดหยามไหม? "
      " คุณเคยถูกลืมเลือนจากสังคมไหม? "

      สำหรับมนุษย์ทุกคน นอกจากความต้องการในปัจจัย 4 แล้ว สิ่งที่มนุษย์ต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกนี้ก็คือ มนุษย์นั้นมี " ความคิด " และมี " ความรู้สึก " ( ใครจะเรียกว่าจิตใจ อารมณ์ ฯลฯ ก็ตามสบาย ) ซึ่งนั่นทำให้มนุษย์มีความซับซ้อนกว่าปกติ

      เรารู้กันดีว่า มนุษย์เป็น Social Animal ( เว็บบอร์ดทั่วไปพิมพ์คำไทยบางคำไม่ได้เพราะบอกว่าหยาบคาย จึงต้องทับศัพท์นะครับ ) ที่นิยมอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มก้อน แต่ก็เพราะมนุษย์มีความคิดมากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ นั่นทำให้สังคมของมนุษย์ซับซ้อนมากมาย

      และที่สำคัญ มนุษย์ทุกคน " ต้องการการยอมรับของสังคม และไม่ต้องการถูกเหยียดหยามในสังคม " นั่นคือความต้องการทางใจในขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ดังนั้นมนุษย์จึงใช้กำลังก็ดี สติปัญญาก็ดีสร้างโน่นทำนี่ไม่ว่าจะเลวหรือดี ลึกๆ แล้วก็เพื่อการยอมรับ ( ชื่อเสียง ความเคารพ เกรงใจ เกรงกลัว ) กันทั้งสิ้น

      แต่ในสังคม ยังมีคนอีกไม่น้อยที่ถูกลืมเลือน ถูกมองราวกับไม่มีตัวตน ซ้ำร้ายยังถูกกดขี่ ดูถูกเหยียดหยามอยู่ไม่น้อยบนโลกนี้

      อย่างที่เรารู้กัน นายโช มือปืนเกาหลีผู้นี้ได้บันทึกถ้อยแถลงการณ์ถึงสาเหตุที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญเอาไว้ว่าตัวเองนั้นถูกเหยียดหยามจากคนรอบข้าง ทำนองว่าเขาไม่มีอะไรเลยประมาณนั้น ดังตัวอย่างที่มีนักข่าวแปลออกม

      " มีวิธีนับร้อยนับพันที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแต่พวกคุณไม่คิดจะทำมัน คุณบีบให้ผมต้องทำเช่นนี้เอง พวกคุณมีทั้งเงิน รถ หน้าตา ผู้หญิง แล้วยังจะเอาอะไรกับผมอีก... "

      นี่เป็นส่วนหนึ่งของถ้อยแถลงจากมือสังหารที่ถูกโลกประณาม มันทำให้ผมเข้าใจดีเลยว่าชายผู้นี้เจออะไรมาบ้าง และเมื่อบวกกับประวัติที่ตามมาด้วยว่านายโชเป็นคนที่มีนิสัยเก็บกดและก้าวร้าว ประกอบกับฐานะยากจนและเป็นผู้อพยพ ซึ่งในอเมริกานั้นมีการแบ่งชนชั้นสูงมาก คนขาว คนดำ และคนเอเชียมักจะไม่ถูกกัน โดยพวกคนขาวมักจะวางก้ามกดขี่คนดำและคนเอเชียอยู่เสมอ

      ผมนั้นเข้าใจความรู้สึกเช่นนั้นดีเพราะชีวิตผมกับนายโช หลายอย่างก็ไม่ต่างกันมากนัก ตัวผมเป็นผู้ชายที่ไม่หล่อ ไม่รวย ดนตรีไม่เป็น กีฬาไม่เก่ง และเหนือสิ่งอื่นใด " ไม่อาจชกต่อยวิวาทได้ " ( แฟนประจำของผมที่ตามอ่านบทความและการตอบกระทู้ของผมบ่อยๆ น่าจะรู้ดีว่าผมชอบบ่นว่าตั้งแต่เกิดมา มีเรื่องกับใคร ถ้าใช้กำลังผมจะแพ้ตลอด ) นั่นทำให้ผมโดนดูถูก โดนแกล้งมาแต่ไหนแต่ไร แต่สิ่งที่ผมโชคดีกว่านายโช เพราะผมอยู่ในประเทศไทย ประเทศที่การดูถูกเหยียดหยามไม่รุนแรงเท่าเมืองนอกอย่างญี่ปุ่นหรือสหรัฐฯ ( แต่นายโชอาจจะดีกว่านิด เพราะครั้งหนึ่งก็เคยมีแฟน แต่ผมไม่เคยมี จีบไปก็ไม่ติด ไอ่เราไม่มีดีสักอย่างนี่หว่า T_T ) นอกจากนี้ที่ว่าโชคดีกว่าอีกเรื่อง เป็นเพราะผมได้เล่นเน็ต แล้วยังได้ตอบกระทู้ เขียนบทความมากมายแล้วมีคนอ่าน นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมยัง " พอมีตัวตน " อยู่บ้าง แม้จะเป็นแค่โลกเสมือนจริงก็ยังดี

      แต่สำหรับมือปืนเกาหลีผู้นี้เล่า ใครจะเข้าใจความรู้สึกของเขาได้ ผู้คนทั้งโลกต่างพากันประณาม เช่นเดียวกับเหตุการณ์เมื่อปี 1999 ที่ 2 นร.อเมริกันเข้าไปไล่ยิงคนในโรงเรียน หากแต่ที่ต่างกันเล็กน้อยคือเมื่อดูรายละเอียดแล้ว 2 มือปืนอเมริกันไม่ได้กราดยิงมั่วแบบนายโช แต่จะเลือกยิงเฉพาะคนที่เคยดูถูก เคยแกล้งพวกเขาเท่านั้น แต่คนอื่นๆ เขาจะละเว้นและไล่ออกจากตัวอาคารไปหมด อย่างไรก็ตามทั้ง 2 เหตุการณ์ก็ยังถูกคนมากมายประณามแบบไม่เคยคิดจะเข้าใจพวกเขา และก็แบบเดียวกัน แต่เป็นชายคนเดียวที่ทำให้เกิดความวุ่นวายทั้งโลกนั่นคือ " อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ " ผู้ที่ครั้งหนึ่งยากจน และถูกดูถูกจากชาวยิวที่ขูดรีดคนจนในเยอรมัน พอมีอำนาจจึงสั่งฆ่าชาวยิวไปมากมาย


      ที่ไม่เข้าใจ เพราะคนที่พูดนั้น " มีตัวตน มีการยอมรับ มีแฟน มีเงิน มีความเท่ ฯลฯ บลาๆ " และบางพวกก็ยังนิยมเห็นพวกนี้เป็นตัวตลกไว้ระบายอารมณ์ตามใจชอบ บางคนอาจจะบอกว่า " ก็พวกมันเอ๋อ อ่อนแอเองนี่นา " ซึ่งผมฟังแล้วก็ออกอาการแค้นแล้วออกจะเห็นด้วยกับเหล่าผู้แก้แค้นทั้ง 2 กรณีอยู่ไม่น้อยลึกๆ ในใจ ( หากนายโชไม่กราดยิงมั่ว สำหรับผมก็ถือว่าไม่ผิดอะไรมาก )

      บนโลกนี้ ผมเชื่อว่ายังมีคนที่ถูกดูถูกอยู่มากมาย ถูกกลั่นแกล้ง ถูกลืมเลือนก็ไม่น้อย อย่างที่ผมได้ยกตัวอย่างมาแล้ว แต่จะมีสักกี่คนที่โชคดีแบบที่ผมเป็น ขณะที่อีกมากมายในสังคมเมืองและทุนนิยม การแข่งขันที่สูง คนพวกนี้ที่ไม่เด่นอะไรถูกกลั่นแกล้งและเขาไม่อาจจะสู้ซึ่งๆ หน้าได้ ( อย่างที่ผมเป็น )

      มันก็เลยลงเอยแบบที่เป็นข่าว และใครที่คิดว่าเมืองไทยไม่มีวันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็อย่าได้ชะล่าใจ สำหรับผม วิธีการของทั้ง 2 กรณีอาจจะไม่ถูกต้องและผมไม่สนับสนุน ( เพราะผมคิดว่าการเอาชนะพวกที่ดูถูกในความหมายของผมคือทำตัวให้มีชื่อเสียงกว่าเขาแล้วค่อยมากดหัว จิกหัวด่าคืนทีหลังจะร้ายกว่า )

      สึนามิทางธรรมชาติยังเคยเกิดขึ้นมาแล้วโดยที่เราไม่คาดคิด แล้วเหตุใด " มหาคลื่นพิโรธในใจคน" จะเกิดบ้างไม่ได้

      ระวังกันให้ดีนะครับ เหล่าผู้ชอบดูถูกและลืมเลือนทั้งหลาย

      TonyMao_NK51 ( สิ่งที่ฉันเป็น )

      Mail To : tonymao_nk51@hotmail.com

      --------------------

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×